ขอท่านผู้รู้ช่วย ตีความธรรมนี้ สระสี่แจง-แร้งสี่ตัว-ผู้หญิงมีผัว-ผู้ชายออกลูก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย นักรบธรรม, 13 พฤศจิกายน 2012.

  1. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    สระสี่แจง แร้งสี่ตัว ผู้หญิงมีผัว ผู้ชายออกลูก



    ได้มาแต่ยังคิดไม่ออก ไม่รู้ใครจะตีความได้สว่างบ้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2012
  2. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    สระสี่แจงแสดงหมายในกิเลส เป็นต้นเหตุเพศภัยในสังสาร
    ต้องดำว่ายไห้สังเวชทรมาน รักโลภโกรธหลงกันอวิชชา

    แร้งสี่ตัวมัวโศกโลกธรรม สูญเสียความสุขลาภยศหมดหรรษา
    สิ้นสรรเสริญเศร้าสลดหยดน้ำตา รุมจิกตีวิญญาพาเศร้าใจ

    เกิดเป็นหญิงสิ่งหวังคิดอิสระ ในคราวจะมีผัวมีไฉน
    ต้องมีกรอบครอบตัวทั่วท่องไป ลูกกวนตัวผัวกวนใจในชีวี

    จะหลีกลี้หนีจิตคิดหลุดพ้น คงเวียนวนวุ่นวายในสระสี่
    โลกธรรมซ้ำภาระจะคูณทวี ดุจชายที่ออกลูกถูกหรือมี

    ลองตอบดูเฉยๆ ครับ ผิดถูกไม่ทราบเหมือนกัน
     
  3. Rutja

    Rutja สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +5
    สระสี่แจง แร้งสี่ตัว ผู้หญิงมีผัว ผู้ชายออกลูก

    สระสี่แจง
    - ประกอบด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา และ อุเบกขา

    แร้งสี่ตัว (น่าจะ 3 ตัว )

    - นกแร้ง เลือกกินเฉพาะสัตว์ที่ตายแล้ว (ไม่ได้เบียดเบียนสัตว์อื่นๆ) เปรียบเทียบได้กับ พระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระอริยสงฆ์

    ผู้หญิงมีผัว ผู้ชายออกลูก
    - ผู้หญิงแต่งานหากมี "บุตรเป็นชาย" (นิยมเอาไป) ให้เอาไปบวชเป็น (ลูกศิษย์) สามเณร หรือ พระภิกษุ ของ พระอุปฌาช์


    - ผิดพลาดประการใด ขออภัย ครับ (ครั้งแรกที่โพสกระทู้)
    ที่มา :: BlogGang.com : : moonfleet : 120.
     
  4. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ขอตอบสั่วๆละกันนะครับ ยังไงคำตอบก็มีอยู่หนึ่งเดียว ตามทัศนะคติมุมมองเชิงเปรียบเทียบ ที่จะสรรหาคำมาพรรณาไว้เปรียบเปรยให้สอดคล้องกับนัยยะสำคัญ ของคนที่คิดปริศนานี้อยู่แล้ว ตีความมากไปคิดมากไปก็ปวดหัว (ไม่ไปถามคนที่ให้มาหรอครับ ง่ายกว่า)

    สระสี่แจง แปลว่าไรหนะ ภาษาไทยหรอ ??? หรือ สระสี่แจ่ง ??? สระสี่มุม อะไรแบบนี้

    แร้งสี่ตัว นกสีดำ,สัตว์ปีก,สัตว์ที่กินซากศพ 4 ตัว 55555+

    ผู้หญิงมีผัว ผู้หญิงมีครอบครัว ถ้าไม่มีก็โสดซิ ไม่ก็ขึ้นคาน ถ้าผู้หญิงมีเมียก็ฮาเลย

    ผู้ชายออกลูก ออกลูกยังไงหละ ถ้าแบบคลอดเป็นเด็กออกมามีด้วยหรอ? เห็นมีแต่ห้อยไว้ 2 ลูก ออกลูกได้แต่ตัวเล็กๆหลายๆล้านตัว ไม่ก็ผู้หญิงที่แปลงเพศเป็นผู้ชาย

    ลองตอบดูเฉยๆครับ ก็น่าจะถูกและคงทราบนะครับ ออกตรงตัวซะขนาดนี้(แต่ถ้าเอาไปเปรียบเทียบคำตอบกับคนที่คิดปริศนานี้ขึ้นมาก็อาจจะมีผิดพลาด) แต่ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยนะ ครับ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2012
  5. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    สุดยอด จริงๆ แต่ละท่านที่ให้คำตอบ กึ่งแนะนำ คงจุดประกายให้ท่านอื่นๆ ได้มากเลยทีเดียว
     
  6. YOMI_NK

    YOMI_NK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +91
    ด้วยเดชแห่งกาม คือ รัก โลภ โกรธ หลง อันเป็นบ่อกามเน่าเหม็นดั่งซากศพ ความมืดมิดทั้งสี่ คือเดชแห่งกามนั้น กำกำเนิดความวิปริต หญิงที่มิใช่หญิง ชายมิใช่ชาย ผู้หญิงเพศชาย ผู้ชายเพศหญิง...แล้วจะเป็นไงน้อ อนิจจา
     
  7. toypo

    toypo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2011
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +131
    สระสี่แจง แร้งสี่ตัว ผู้หญิงมีผัว ผู้ชายออกลูก

    .........................................................................................................
    ช่วยบอกทีเอามาจากใหน
    จากตำราโบราณ
    เป็นคำบอกเล่า
    หรือใครคิดขึ้นมา
     
  8. เพลงธรรม

    เพลงธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +280
    สระสี่แจ คือ สระสี่มุมเป็นภาษาอีสาน น่าจะมีความหมายว่าที่ตั้งแห่งความร่มเย็นทั้ง4 คือ พรหมวิหาร 4 แร้งสี่ตัว น่าจะหมายความถึงสิ่งที่เป็นเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิด คือ รัก โลภ โกรธ หลง เพราะ 4 อย่างนี้กำลังรุมเร้ากัดกินมนุษย์ทุกคนในโลก ส่วนผู้หญิงมีผัวน่าจะมีความหมายถึงความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เปลี่ยนไปคือ ผู้หญิงเป็นฝ่ายวิ่งหาผู้ชายก่อนไม่มีความรักนวลสงวนตัวเหมือนครั้งโบราณ ส่วนสุดท้าย ผู้ชายมีลูก ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่ว่าเมื่อ เมื่อสังคมเปลี่ยนไป ผู้หญิงเก่งและกล้ามากขึ้น ส่วนผู้ชายก็จะต้องเป็นฝ่ายดูแลลูกอยู่กับบ้าน อันนี้น่าจะเป็นคำสอนนะครับ
     
  9. papah00

    papah00 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +632
    ต่อไปคนจะเหมือนแร้งที่ดูภายนอกเหมือนกันๆ แต่ดูภายในกันไม่ออก
    แต่ยังคงมีที่รองรับ (สระสี่) กับบัวสี่เหล่า
    หญิงมีผัว ชายออกลูก น่าจะเป็น อรรถาธิบายของแร้งทั้งสี่

    ลองแสดงความเห็นดูหน่ะคะ
    ท่าน จขกท.ได้วลีนี้มาจากไหนค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2012
  10. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ผู้ชายออกลูก
    หมายถึง บรรดาปวงปราชญ์ สร้างลูกศิษย์ขึ้นมาให้เป็นพระอริยบุคคล
    เฉกเช่น บรรดาอริยปวงปราชญ์ ท่านจะคุ้น ๆกับคำๆนี้ สร้างคนให้เป็นพระ
     
  11. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    สระ4มุม แหวกว่ายไปม่ขึ้นฝั่ง
    แร้ง4ตัวเกิด แก่ เจ็บ ตายไม่หยุดวน
    ผู้หญิงก็อยากมีผัว
    ผู้ชายเป็นคนปล่อยน้ำเชื้อขอรับ
     
  12. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    เริ่มกระจ่าง ขึ้นมาอีกแล้วครับท่าน
     
  13. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178

    มาจากคำพระท่านเขียนไว้ (พระอริยะด้วยสิ อยู่ลพบุรี)ลูกศิษย์และคนศรัทธาเยอะ มีคนไปบวชขาว วันละ 200 - 1000 คนเลยครับ
    มีอีกประโยคแต่ยังไม่ลงให้ตีความครับ เอาประโยคนี้ก่อน
     
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับแค่มั่วๆเหมือนกันครับ สระ ๔ แจง เป็นมรรค ๔ หรือเปล่า แร้ง ๔ ตัว หมายถึงผลหรือเปล่า มรรค ๔ ผล ๔ เมื่อหญิง ตัดผู้ชายได้ ไม่ต้องการมีผัว ผู้ชายตัดหญิงได้ ไม่ต้องการมีเมีย เลยไม่มีลูก เมื่อดับได้แล้ว นิพพาน ๑ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ใช่ไม่ใช่ขออภัยด้วยครับ


    อ้อขอแถมอีกแบบหนึ่งครับ โลกธรรม ๘ ได้ลาภเสื่อมลาภ ได้ยศเสื่อมยศ มีสุข ก็มีทุกข์ มีนินทา ก็มีสรรเสริญ เมื่อตัด โลกธรรมทั้ง ๘ ได้ เมื่อตัดดีกับชั่วได้ มันก็ถึงนิพพานครับ คือเป็น ๑
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2012
  15. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    ขอลองตอบดูบ้าง เพราะพระที่เข้าถึงธรรมชั้นสูงย่อม แสดงธรรมแห่งการการหลุดพ้นประการเดียวเท่านั้น จะไม่สอนอย่างอื่นที่ไม่ใช่แนวทางแห่งการพ้นทุกข์
    สระสี่แจง คงหมายเอา การเห็นอริยสัจ 4 อันเป็นความจริงอันประเสริฐ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
    แร้งสี่ตัว คงหมายเอา ความเกิด แ่ก่ เจ็บ ตาย อันคอยรุมทึ้งกัดกิน ให้กายเสื่อมสลายไป ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นในกายสังขารนี้
    ผู้หญิงมีผัว คงหมายเอา การดับตัณหา อันเป็นรากเหง้า แห่งภพแห่งการเกิด อย่าสืบภพสืบภูมิแห่งการเกิดอีก
    ผู้ชายออกลูก คงหมายเอา ผู้ใดเห็น ตามปริศนาด้านบน ก็ไม่ต้องมาเกิดอีก เพราะผู้ชายไม่สามารถเกิดลูกได้
    ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
     
  16. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    "สระสี่แจง แฮ้งสี่ตัว แม่หญิงเอาผัว ผู้ชายออกลูก" เป็นสมญานาม ของเมืองศรีภูมิ หรืออำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ในปัจจุบัน

    สระสี่แจง คือ สระน้ำขนาดใหญ่อยู่ทั้งสี่มุมของเมือง
     
  17. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    แล้วอะไรต่อครับ ตั้งใจมาอ่านอยู่
     
  18. Bar

    Bar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +164
    เดาด้วยคน

    สระสี่แจ่ง=โลงศพ (คนเราต้องตาย)
    แร้งสี่ตัว= ธาตุทั้งสี่คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อันประกอบเป็นร่างกายอันเน่าเหม็นเหมือนอีแร้ง
    ผู้หญิงมีผัว = มันเป็นธรรมดา ที่ผู้หญิงต้องมีผัว เพราะผู้หญิงคงไม่มีเมีย
    ผู้ชายออกลูก= มันเป็นไปไม่ได้

    สรุปว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่ร่างกายอันเน่าเหม็นนี้มันจะไม่ตาย...มันจะต้องตายเป็นธรรมดา
     
  19. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    [​IMG]

    แจ่งศรีภูมิ จ.เชียงใหม่

    [​IMG]

    แจ่ง คือป้อมบริเวณมุมของกำแพงเมืองชั้นในของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกำแพงที่เริ่มสร้างขึ้นในสมัย พญามังราย โดยสร้างขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 900 วา ยาว 1000 วา พร้อมด้วยการขุดคูรอบเวียง ต่อมาได้มีการบูรณะซ่อมแซมในสมัยพระเมืองแก้ว สมัยพระเจ้ากาวิละ และในยุคปัจจุบัน

    แจ่งต่างๆ ของกำแพงเมืองเชียงใหม่นั้น คนโบราณเชื่อว่าเป็นที่สถิตของเทวดาอารักษ์ ที่คอยปกปักรักษาเมืองให้สงบสุข โดยสถิตที่ศาลประจำแจ่ง ต่าง ๆ

    ?

    แจ่งกำแพงเมืองเชียงใหม่ มีด้วยกัน 4 แจ่ง คือ

    แจ่งศรีภูมิ ตั้งอยู่ตรงข้าม วัดชัยศรีภูมิ หรือ วัดพันตาเกิ๋น เป็นแจ่งที่เป็นศรีแห่งเมือง เมื่อพญามังรายทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ.1839 โดยโปรดฯ ให้ขุดคูก่อกำแพงเมืองทางด้านนี้ก่อน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างกำแพงเมือง แล้วจึงวนไปทางทิศใต้ เวียนไปทางทิศตะวันตก ทางทิศเหนือ จนมาบรรจบที่แจ่งศรีภูมิ

    แจ่งหัวลิน ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม เป็นมุมเมืองที่เป็นต้นร่องน้ำที่มาจากห้วยแก้ว บนดอยสุเทพ

    ซึ่งเป็นน้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงตัวเมืองเชียงใหม่ มาแต่โบราณ

    แจ่งขะต๊ำ ตั้งอยู่ใกล้กับวัดพวกช้าง? เป็นมุมเมืองที่อยู่ต่ำสุด ซึ่งเป็นบริเวณที่มีปลาชุกชุมมาก ผู้คนมักจะมาดักปลาโดยใช้? ? ขะต๊ำ ? ซึ่งเป็นเครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่ง อันเป็นที่มาของการเรียกชื่อแจ่ง

    แจ่งกู่เฮือง ตั้งอยู่ตรงกันข้ามโรงพยาบาลสวนปรุง เป็นแจ่งที่บรรจุอัฐิของหมื่นเรือง ซึ่งเป็นผู้คุมขัง ขุนเครือ โอรสของพญามังราย ที่ทำการชิงราชสมบัติจากพญาแสนภู ต่อมาเจ้าน้ำท่วมพระอนุชาของเจ้าแสนภูยกกองทัพมาปราบ และได้คุมขังไว้ในเรือนขังบ้านหมื่นเรืองจนถึงแก่พิราลัย

    [​IMG]
     
  20. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ตำนานพระแม่กุ

    ซึ่งเป็นประวัติกษัตริย์ราชวงศ์มังราย พระองค์สุดท้ายที่ครองราชย์อยู่ระหว่างรอยต่อการล่มสลายของราชวงศ์มังรายและการเข้ามามีอำนาจของพม่าจะเป็นเรื่องกุ ของพระแม่กุ แต่ตำนานเรื่องนี้พยายามอธิบายว่าสามเหตุที่อาณาจักรล้านนาล่มสลายเพราะการมีผู้นำที่ขาดศีลธรรม ไม่ตั้งอยู่ในจารีตดั้งเดิมที่เคยกระทำมาแต่อดีต ทั้งที่ความจริงแล้วการล่มสลายของล้านนานั้นมีหลายสาเหตุตั้งแต่การมีกษัตริย์ที่อ่อนแอ ทำให้ขุนนางมีอำนาจมาก ระบบเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองจนเกิดการ “ลัดเบี้ย” หรือ“ลดค่าเงิน” จากเงินเฟ้อ ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่เอื้อต่อการเข้ามายึดอำนาจของพม่า

    พระแม่กุ หรือพระเมกุฏิสุทธิวงศ์ ในตำนานระบุว่า เป็นราชโอรสของพระเมืองแก้ว (พ.ศ.2038-2068) และครองเมืองต่อจากพระเมืองแก้ว แต่ความจริงระหว่างรอยต่อนี้ พระเจ้าไชยเชษฐาราชจากอาณาจักรล้านช้างซึ่งถือเป็นเชื้อสายราชวงศ์มังรายอีกพระองค์หนึ่งได้เข้ามานั่งเมืองก่อนที่พระแม่กุจะเข้ามาครองราชย์

    ในตำนานระบุว่าเหล่าขุนนางได้อาราธนาให้พระแม่กุทรงลาสิกขาบทออกมาครองเมืองใน พ.ศ.2094 ด้วยถือว่าเป็นเชื้อสายของขุนคราม ราชบุตรของพญามังรายที่ไปครองเมืองนาย แต่หากพระแม่กุเป็นราชบุตรของพระเมืองแก้วจริงย่อมไม่ใช่การสืบเชื้อสายทางขุนเครือ เพราะพระเมืองแก้วเป็นเชื้อสายขุนคราม

    ราชบุตรของพญามังรายนั้นมี 3 พระองค์คือ ขุนเครื่อง ขุนครามและขุนเครือ ทุกตำนานระบุว่า ขุนเครือถูกส่งไปปกครองเมืองนาย ดังนั้นเงื่อนงำแรกของพระแม่กุก็คือตำนานไม่ระบุว่าเป็นราชบุตรของเจ้านายพระองค์ใด ด้วยหลักฐานใบลานเท่าที่มีในขณะนี้จึงระบุไม่ได้ว่าเป็นสืบเชื้อสายจากขุนเครือ หรือขุนคราม

    การที่พระแม่กุทรงผนวชเป็นพระภิกษุก็เป็นอีกเงื่อนงำหนึ่งที่ตำนานไม่ระบุว่าทรงออกผนวชเพราะอะไร เพราะทรงมีศรัทธาในพระศาสนาหรือ ทรงหลบราชภัยจากเชียงใหม่ ในตอนแรกแรกของตำนานพรรณนาสภาพบ้านเมืองว่ามีความสุขสงบอย่างมากเพราะพระมหากษัตริย์เป็นผู้ทรงศีลจนชาวเมืองเรียกขานขนานนามว่า “พระเป็นเจ้าแม่กุตนเป็นพระ”

    แสดงให้เห็นว่าพระองค์น่าจะปกครองโดยทศพิธราชธรรม ในตำนานระบุว่าพระองค์ลาสิกขาบทมาครองเมืองแต่ปรากฏว่าพระองค์ทรงนำข้าราชบริพารมาจากเมืองนายด้วยทำให้อดคิดไปไม่ได้ว่า พระองค์ขณะอยู่เมืองนายมีสถานภาพอย่างไร? ถ้าพระองค์เป็นกษัตริย์ที่อ่อนแอจนพม่าสามารถบุกยึดเชียงใหม่หลังจากล้อมเพียง 3 วัน ทำไมขณะขึ้นครองราชย์อาณาเขตเชียงใหม่-ล้านนาจึงกว้างขวางยิ่งนัก ด้านทิศเหนือจรดเชียงแสน ด้านทิศใต้จรดเมืองระแหง ทิศตะวันออกจรดแม่น้ำโขง ทิศตะวันออกจรดแม่น้ำคง (สาละวิน) จะเห็นได้ว่าอาณาจักรของเชียงใหม่ไม่ได้ด้อยกว่ายุคสมัยก่อนๆที่ล้านนายังเรืองอำนาจมากนัก

    และเงื่อนงำสุดท้ายคือในตำนานตอนท้ายระบุว่ามีใส้ศึกจากพม่ามาม้างรีตกีดรอย กรำทำขึดถึง 11ประการนั้นจริงหรือ เหตุการณ์ในตำนานที่หัวมงกุฎ ท้ายมังกรนี้ทำให้ สลุงเงิน ซึ่งได้วิพากษ์ตำนานพระแม่กุลงใน ล้านนาเวิลด์ดอตคอม ฟันธงว่าเป็นตำนานที่เขียนเพื่อต้านอำนาจไทยสยามโดยใช้ “ฉาก”และ“ตัวละคร” จากอดีต โดยให้ความเห็นว่าหากตัดชื่อแซ่ออกเหลือเพียงม้อนของเหตุการณ์แล้วน่าจะเป็นการกระทำของไทยสยามมากกว่าพม่า

    แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ตำนานพระแม่กุจะเลอะเลือนฟั่นเฝือไปบ้างแต่พระแม่กุนั้นเป็นกษัตริย์ที่มีตัวตนจริงๆ ประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน พระองคืเป้นกษัตริย์ที่ขุนนางอัญเชิญขึ้นครองเมืองในขณะที่ล้านนาว่างเว้นกษัตริย์ถึง 4 ปี คือระหว่าง พ.ศ.2091-2094 พระแม่กุครองเชียงใหม่ ในพ.ศ.2094-2107 มีผู้ขนานนามพระแม่กุหลายพระนาม เช่น พญาเมกุฏิ ,ท้าวแม่กุ,หรือเจ้าขนานแม่กุ เป็นกษัตริย์ราชวงศ์มังราย ลำดับที่ 17 เมื่อพระแม่กุมาปกครองเชียงใหม่โดยนำพาขุนนางใกล้ชิดมาด้วยทำให้ขาดฐานอำนาจจากขุนนางในเมืองเชียงใหม่น่าจะเกิดความขัดแย้งระหว่างขุนนางอำนาจให้มาจากเมืองนายและขุนนางเก่าในเมืองเชียงใหม่ ประกอบกับเศรษฐกิจล้านนาตกต่ำจนต้องลดค่าเงินลงถึงร้อยละสี่สิบกว่าจากอัตราแลกเปลี่ยนเดิม ซึ่งการลัดเบี้ยซึ่งเกิดขึ้นในสมัยพระแม่กุนั้นคงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะรักษาสภาพเศราฐกิจไว้เพราะการลดค่าเงินนั้นมีมาตั้งแต่ยุคสมัย พระเมืองแก้ว แต่งเบี้ย ร้อยละ 98 หื้อเป็น100 พญาเกศ แต่งเบี้ย ร้อยละ 80 หื้อเป็น100 ท้าวซาย แต่งเบี้ย ร้อยละ 70 หื้อเป็น100
    พระไชยเชษฐา แต่งเบี้ย ร้อยละ 60 หื้อเป็น100 พระแม่กุ แต่งเบี้ย ร้อยละ 58 หื้อเป็น100

    จะเห็นได้ว่าสมัยของพระองค์นั้นเศรษฐกิจล้านนาตกต่ำอย่างไม่อาจฟื้นฟูให้ดีดังเดิมได้ แต่ด้านการปกครองของพระองค์นั้นถึงแม้จะมาจากเมืองเล็กที่ห่างไกลแต่ก็คงจะมีอำนาจพอสมควรเพราะ อ.สรัสวดี อ๋องสกุล ระบุใบหนังสือ ประวัติศาสตร์ล้านนาว่า เหตุที่ราชวงศ์ตองอูคุกคามของพม่าบุกมายึดเชียงใหม่เพราะ พระแม่กุช่วยเหลือหัวเมืองเงี้ยวให้มีกำลังกล้าแข็ง พม่าต้องการทำลายแหล่งที่ช่วยศัตรูจึงยกทัพมาทำลาย แต่ในมหาราชวงษ์ พงษาวดารพม่า ฉบับนายต่อ แปล ระบุว่าพม่าต้องการตีกรุงศรีอยุธยาจึงต้องทำลายเชียงใหม่ก่อน

    หลังจากพม่ายึดเชียงใหม่ได้แล้วในตำนานพระแม่กุระบุว่าพม่าทำการปลงพระชนม์พระแม่กุด้วยการตัดคอ ซึ่งตามความเป็นจริงในตำนานอื่นรวมทั้งเอกสารของพม่าระบุว่า ให้พระแม่กุปกครองเมืองเชียงใหม่ดังเดิม และกษัตริย์บุเรงนองของพม่ายังบังคับให้ขุนนางพม่าที่ปกปักรักษาเมืองอ่อนน้อมถ่อมตนต่อพระแม่กุด้วย แสดงว่าในสายตาของพม่าพระแม่กุคงจะมีความสำคัญไม่น้อย การที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะพระองค์ทรงเป็นเชื้อสายของราชวงศ์มังรายจึงได้รับความเคารพยำเกรงตามสมควรแก่สถานภาพของเจ้า แต่ต่อมาน่าจะด้วยขัติยะมานะกษัตริย์ พระแม่กุแข็งข้อต่อพม่าจึงถูกนำตัวไปกักไว้ที่กรุงหงศาวดีและพระองคืน่าจะสวรรคตในกรุงหงสาวดี จากนั้นพม่าจึงตั้งพระนางวิสุทธเทวี ซึ่งเดิมชื่อ พระตนคำ ราชธิดาพญาเกศ เป็นกษัตริย์ต่อจากพระแม่กุ
    เรื่องราวในตำนานพระแม่กุฉบับมาลา คำจันทร์ปริวรรต จบลงที่พระแม่กุถูกปลงพระชนม์ที่เชียงใหม่แต่ในเอกสารของพม่า พระแม่กุแม้จะเป็นพระมหากษัตริย์ที่ต่อต้านอำนาจของกษัตริย์พม่าผู้ยิ่งใหญ่คือกษัตริย์บุเรงนอง แต่ชาวพม่าก็ให้ความเคารพเพราะ พระองค์เป็นหนึ่งในผีนัต 37 ตนและนิยมเรียกกันว่า เซงเมนัต ก็คือนัตพระเจ้าเชียงใหม่นั้นเอง ซึ่งเป็นความเชื่อที่ว่า ผีนัต คือผีกึ่งผีกึ่งเทวดา ของผู้มีบารมีที่ยังวนเวียนปกปักรักษาคุ้มครองผู้นับถืออยู่ เป็นความเชื่อก่อนที่พระพุทธศาสนาจะเผยแผ่เข้าไปในพม่า และหนึ่งในผีนัตนั้นคือ พระแม่กุ นั่นเอง หากวีรกรรมของพระแม่กุไม่โดดเด่นย่อมจะยากที่จะเป็นหนึ่งในผีนัต เพราะตามความเชื่อหัวหน้าผีนัตหรือนัตจาเม็งก็คือ พระเจ้าอนุรุจมหาราช
     

แชร์หน้านี้

Loading...