ใครเคยเห็นวิญญาณบ้างครับ

ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยเจอผี _กลัวมากครับ_ ผมอยากรู้ว่าผี
มีรูปร่างลักษณะหน้าตา อย่างไรครับ มาในรูปจิตวิญญาณ คล้ายๆเรา
หรือว่า มาลอกลิ้นปลิ้นตา เลือดอาบ

เพื่อเจอครั้งแรกจะได้ชินครับ กลัวเจอแล้วช็อกตาย

 

แล้วแต่ระดับพลังงานของเขาครับ
ส่วนมากพลังงานเขาน้อย เราอาจจะได้แค่กลิ่น หรือรู้สึกขนลุก อะไรแบบนั้น
หรือทำเสียงปึงปังโครมคราม ขยับของอะไรแบบนั้น ผมเคยเจอมาแล้ว
แต่บางกรณีก็เห็นภาพจางๆ ได้ ผมเคยเจอมา ตอนตี ๒ กลางลานวัดในชนบท เป็นผู้หญิงรูปร่างท้วมมีผ้าคลุมผม แต่งชุดขาวยืนหันหลังให้ผม ยืนนิ่งๆ ไม่กระดุกกระดิก ผมไม่ได้สนใจว่าคนหรือผี และก็ไม่กลัว จะรีบไปห้องน้ำ ขากลับทางเดิมแกก็ยืนอยู่ แต่กลับทิศไปอีกทาง หันหลังให้เราเหมือนเดิม ผมก็ไม่สนใจอีก แล้วก็กลับไปพัก ถึงที่พักก็แผ่เมตตา และส่วนกุศลให้เขา เพราะคิดว่าไม่น่าจะใช่คน

ไม่ต้องกลัวผีครับ ครูบาอาจารย์บอกว่ามีทุกที่ ถ้าเราเห็นหรือรับรู้เขา ก็อุทิศส่วนกุศลให้เขา ก็แค่นั้น

ตามที่ได้ยินมาจากประวัติครูบาอาจารย์ ถ้ามาหลอกลิ้นปลิ้นตาก็คือมาทดสอบพลังสมาธิครับ คนธรรมดาไม่น่าจะโดนยังงั้นหรอก

 

ผีหน้าตาเป็นไงขึ้นอยู่ว่า ในขณะสุดท้ายที่กำลังตายร่างกายอยู่ในสภาพไหนผีก็จะอยู่ในสภาพนั้นถ้าตอนตายเลือดอาบหน้าเลอะผีกะจะมีลักษณะแบบนั้น เฉพาะผีนะคับไม่ใช่ พวกอสูรกายเช่นเปรต

 

หลักๆมี 2 แบบครับ แบบที่มีกายเนื้อหรือที่เรียกว่าวิญญานภายใน
กับ แบบที่ไม่กายเนื้อหรือที่เรียกว่าวิญญานภายนอกครับ..

 

I...see...dead...people...

 

ไม่เคยเจอมันไม่ใช่หรือ?
ไม่รู้จะเจอมันหรือเปล่า ไม่ใช่หรือ?

แล้วจะมานั่งกลัวอะไร กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงหละ?

อันนี้แหละ กำลังโดนแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกอยู่จริงๆ ตอนนี้เลย
แต่ไม่ได้โดนผีหลอกนะ โดนความคิดตัวเอง มันหลอกใจให้กลัวอยู่...

 

ผมเห็นเหมือนคนปกติครับ

 

ผมเคยเห็นแบบแว๊บ ๆ นะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ชุดขาวบ้าง แต่ที่เร็ว ๆนี้ เห็นแต่งตัวคล้าย ๆนางรำไทยเดิม ที่บ้านลูกค้าครับ และก็ ผู้หญิงยืนอยู่ข้างทาง ใส่เสื้อสีขาว กางเกงจำไม่ได้เพราะเห็นแว๊บเดียวเอง ยังไม่จัง ๆ

 

ใครจะไปรู้...คุณอาจจะเจอ แล้วเดินสวนเค้าไปโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้นะครับ ท่าน จขกท. อิอิอิ

 

ที่เคยเจอ มีทั้งแบบชัดเจนจนแยกไม่ออกว่าคนหรือผี กับเห็นแวบๆ

ที่เห็นชัดเจน
-เคยเห็นตอน บ่าย 3 โมง นั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้คนหนึ่งที่ไม่เคยทีคนมาเยี่ยม เหมือนคนปกติทุกอย่าง ใส่เสื้อผ้าเหมือนคนปกติด้วย แยกไม่ออกเลยคะ
-อีกที เห็นแต่ช่วงต้นแขน อยู่ข้างๆเรา เห็น สีเสื้อชัดเจน เช่นกัน

แต่ส่วนใหญ่ มักจะเห็นแวบๆ ตรงหางตา หรือ เห็นยืนอยู่ ตรงมุมที่ไม่ควรจะมีใคร อันนี้ ไม่ชัดเจนค่ะ และมักจะเห็นแวบเดียว

 

ผีไม่มีรูปร่างครับ เขาอยากให้เราเห็นแบบไหนก็ทำได้(ถ้ามีพลังมากพอ) บางทีมาขอส่วนบุญแต่เขาพลังอ่อน ก็ปรากฏตัวให้เห็นแบบไม่น่าดู มาสภาพตอนเพิ่งตายเลยก็มี เพราะไม่มีพลังพอที่จะออกมาดีๆสวยๆ บางทีเขาเก่งหน่อย หลอกคนหลายๆคนให้เห็นไม่เหมือนกันก็มี ที่น่ากลัวกว่าผีก็มีครับ อสุรกาย อย่างผีพราย ที่แหลมแท่น ขนยาวรุงรังแขนยาวเกือบถึงพื้นแต่ขาสั้นมาก เห็นแต่ตาแดงๆ ทางเหนือก็มี ผีม้าบอง ท่อนบนเป็นคนท่อนล่างเป็นม้า อยู่ในป่า ถ้าเจอเขาว่าให้รีบกลับบ้าน แล้ววางบันไดกลับหัว มันจะเข้าบ้านเราไม่ได้ ชาวบ้านระแวกนั้นอยู่ตามป่าเขา ปลูกกระต๊อบ บันไดพาดบ้าน ถ้าเป็นเราๆคงต้องยอมให้ผีม้าบองเหยียบขี้แตก ก็บันไดบ้านผมถอดไม่ได้อ่ะ ผมชอบฟังเรื่องเล่าจากคนแก่ๆ เวลาเขาเล่าเรื่องอสุรกายพวกนี้ สนุกมากๆ

 

เคยเจอนอนอยู่บ้าน บ้านเราติดโรงพยาบาล ห้องนอนเราหน้าต่างจะอยู่หลังบ้าน จะมีต้นมะยม มะม่วง ต้นมะพร้าว ..เราสะดุ้งตื่นประมาณตี 2-3 ไม่แน่ใจ เห็นคนเดินเข้าต้นมะยมหลังบ้านเป็นผู้ชาย ใส่ชุดขาว เหมือนชุดที่ใส่เดินจงกลม !!!
และเราชอบเห็นผู้หญิงใส่ผ้าถุงสีดำ เสื้อทรงกระบองสีน้ำเงิน.. แต่ก่อนเราเห็นบ่อยมากเห็นแทบทุกวันขนาดนั่งดูทีวี แกก็นั่งข้างเรา ไปรับไปส่งที่โรงเรียน คือจะมาดักรอตามต้นไม้ แต่เพื่อนเรามองไม่เห็นตั้งแต่สมัยป.5-6 ...แต่ตอนนี้เค้าไปแล้วไม่เห็นแล้ว วันที่เค้าจะไปเค้าจะยืนตรงศาลเรารู้สึกได้ว่าเค้ายิ้มและก็โบกมือ...เหมือนเค้าลา อิอิอิ บางคนหาว่าเราบ้า แต่เห็นจิงๆ ^__^!!

 

เมื่อก่อนสมัยเรียน นศท ช่วงเข้าค่ายพักแรม
ครูฝึกพาไปนั่งสมาธิตอนเที่ยงคืน บริเวณสมรภูมิสงคราม
ผมนั่งแถวหน้าสุด เพราะเป็นหัวหน้าหมู่... พอลืมตาจากสมาธิ
ก็เห็นทหารคลานอยู่ 3-4 นาย คลานเข้ามาหาเราเรื่อยๆ...
แต่คลานมาไม่ถึงสักที ห่างประมาณ 20 เมตรได้
นั่งดูอยู่ตั้งนาน แต่คลานมาไม่ถึงสักที

จากนั้นก็ลุกขึ้นจัดแถวกลับเต้นท์
ได้คุยกับเพื่อนที่นั่งแถวหน้าด้วยกัน บางคนก็เห็น บางคนก็ไม่เห็น

 

เคยเห็นแต่วิญญาณคุณตาค่ะ ปกติชอบเอาแนว วิทย์มาลบล้างสิ่งที่เห็น แต่อันนี้ทำไม่ได้
เห็นคุณตามายืนเท้าสะเอวอยู่ข้างมุ้งค่ะ เป็นเงาสีดำ ใส่ชุดที่คุณตาชอบใส่ ทำให้ต้องยอมรับว่าเห็นของจริง
ส่วนผีหลอก เห็นเยอะมาก แมวหลอกบ้าง จิตตัวเองหลอกบ้าง นานาจิตตังค่ะ

 

ที่เห็นเต็มๆตาไม่ได้หลับ มีสติดีทุกประการ เห็นเป็นผ้า เหมือนเสื้อผ้า ลอยบนอากาศ ตอนแรกนึกว่านก สังเกตอีกที นกอะไรเป็นเช่นนี้ พอดูให้ดีดี ไม่ใช่เลย เคยเจอทั้งสีขาวและสีดำ ลอยผ่านหน้าผ่านตา แต่เขาไม่ได้ทำร้ายอะไรเรานะคะ

 

แล้วแต่รูปแบบที่เขาจะมานะคะ..... ของเราก็ประสบการณ์หลายครั้ง แต่ตอนเด็กๆจะเห็นจะจะและใช้เวลานานกว่าตอนปัจจุบันนี้ ที่เคยเห็นมาก็มีหลายแบบ แม้แต่ผีของคนละประเทศกัน การส่งสัญญาณแสดงออกมาก็ไม่เหมือนกัน เราเคยเห็นตอนเด็ก ผีที่มีกายเป็นฟองๆ ปุยๆหลากสี เหมือนขนมสายไหมน้ำตาลที่ขายตามงานวัด งานปีใหม่อะไรพวกนี้.... เวลาเราเห็นและเอาเท้าไปเหยียบมันก็ทะลุผ่านตัวมัน...... ผีอีกชนิดที่เห็นก็มีกายรูปร่างเหมือนคน เดินมาและหายไปต่อหน้าต่อตา อีกชนิดมีกายแบบคนแต่โปร่งแสง เป็นเค้าร่างคนบางๆ เจอขณะกำลังง่วงแต่ยังไม่หลับ พอสะดุ้งตื่น ก็หายไป พอเริ่มง่วงก็มาอีก อีกชนิดมาเฉพาะกลิ่นที่เขาทำให้เรารู้ว่าเป็นเค้า หรือกลิ่นที่เขาชอบหรือใช้เวลายังมีชีวิตอยู่เป็นประจำ
ผีอีกชนิด ยกตัวอย่างผีฝรั่ง ถ้าตายโหง หรือมีความทุกข์หรือ เป็นพวก devil ปีศาจ หรือซาตาน ตามเรา..... มันจะมีสัญญาณเหมือนในไบเบิลเขียน รูปแบบการมาก็จะต่างจากผีในเมืองไทย.... อันนี้เราก็เคยเจอ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คือ เราก็คนพุทธ แต่ช่วงที่เรามาอยู่ต่างประเทศมีแต่เรื่องร้ายๆ ครอบครัวอุปถรรม์ฝรั่งที่เรามาอยู่ด้วยตายยกครอบครัวภายใน 1อาทิตย์ และตายกันประหลาดๆ.... แม่พระของศาสนาคริตส์คนนึงที่เรารู้จัก แกก็บอกเราว่าโดนทำ เราเองก็ต้องระวัง ปรากฏว่า หลังจากคนในบ้านนั้นตายหมด เราก็มีอาการประหลาด เท้าข้างหนึ่งมีน้ำหนองบวมขึ้นมา แม่พระที่ว่าก็เลยเอาเบกกิ่งโซดามาพอกเท้าเราให้หนองแตก พอหนองแตกปั้บ แกก็เอา เกลือศักดิ์สิทธ์ที่เข้าพิธีมาจากเยรูซาเลม บ้านเกิดพระเยซูที่ที่พวกคริตส์ และยิว เขาต้องไปไหว้กัน.....ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ตะขาบ หนอน แมลง จำพวกที่ชอบไต่ตามศพ ยั้วเยียะมาจากไหนก็ไม่รู้ มาอยู่ที่เท้าเรา ไล่แทบไม่หวัดไม่ไหว แม่พระคนนี้แกบอกว่าเนี้ยมันเป็น ว่าซาตานมันตามเราเหมือนๆกับที่เก็บคนในบ้านไปหมด ตอนนี้มันออกมาแล้ว มาในรูปสัตว์เดรัจฉานชั้นต่ำที่อาศัยอยู่กับศพ ต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงกำจัดพวกตัวหนอน ตะขาบพวกนั้น อันนี้เราเห็นจะจะกับตาตัวเอง และมันเป็นไปไม่ได้ว่าตัวพวกนี้มันอยู่ในธรรมชาติเพราะบ้านทีีเรานั่งอยู่มันเป็นชั้นสอง กลางห้องรับแขก และอากาศหนาว ปกติที่ยุโรปพวก หนอน ตะขาบเนี้ยมันแทบจะไม่มีก็ว่าได้เพราะมันหนาว อันนี้เราก็ไปเล่าให้พ่อฟังแต่พ่อไม่เชื่อ บอกว่าที่ยุโรปบ้านคนมันจะอุ่นข้างนอกหนาวดังนั้นตัวพวกนี้มันจะไปอาศัยในบ้านคนมากกว่าข้างนอกผิดกับเมองไทยที่ข้างนอกร้อนกว่าในบ้านจะเย็น ตัวพวกนั้นเลยอยู่นอกบ้าน แต่ว่าเราเชื่อตามแม่พระคนนั้นว่า เพราะเราเห็นกับตาว่าโผล่ของมันมาเองจากใต้เท้าเรา

อีกครั้งที่เจอคือในห้องนอน ที่ปลายเตียงเป็นเหมือนควันสีขาวลอยแบบเป็นเปลวเมฆขึ้นมาประมาณ1นาทีก็หายไป

 

วิญญาณ (Consciousness) คือ ความรู้แจ้งอารมณ์ การรับรู้ต่ออารมณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาทางทวารทั้ง 6 (อายตนะ 6) ในวิภังคปกรณ์ แสดงวิญญาณ 6 ไว้ดังนี้คือ

3.1 จักขุวิญญาณ คือการรับรู้ทางตา
3.2 โสตวิญญาณ คือการรับรู้ทางหู
3.3 ฆานวิญญาณ คือการรับรู้ทางจมูก
3.4 ชิวหาวิญญาณ คือการรับรู้ทางลิ้น
3.5 กายวิญญาณ คือการรับรู้ทางกาย (สัมผัส)
3.6 มโนวิญญาณ คือการรับรู้ทางใจ (ธัมมารมณ์)

วิญญาณทั้ง 6 นี้ บางที่เรียกว่า "วิถีวิญญาณ" เพราะมันทำหน้าที่โดยที่เราไม่รู้สึกตัว เช่น เวลานอนหลับ เป็นต้น

คำว่า "วิญญาณ" ในหลักปฏิจจสมุปบาทนี้ หมายถึง การรู้แจ้งอารมณ์หรือรับรู้อารมณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาทางสัมผัสทั้ง 5 และทางใจ เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งในสี่ของจิต ( องค์ประกอบ 4 ส่วน คือ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ) คำว่า "วิญญาณ" ในปฏิจจสมุปบาทกับเบญจขันธ์ มีความหมายตรงกัน ความหมายตามนัยนี้ วิญญาณจึงมิได้เป็น "ตัวแทน" หรือ "ตัวการกระทำ" ซึ่งไม่มีสิ่งใดแสดงให้เห็นเป็น "อัตตา" ที่ถาวรออกจากร่างกายล่องลอยไปเกิดใหม่ ดังที่ลัทธิหรือศาสนาอื่นสอน เพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องวิญญาณในปฏิจจสมุปบาทชัดเจนยิ่งขึ้น จึงควรพิจารณาจากพุทธพจน์ต่อไปนี้

"ดูก่อนผู้มีอายุ จักขุวิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยตาและรูป เพราะการประชุมกันของธรรม 3 อย่าง (คือ ตา + รูป + วิญญาณ) จึงเกิดผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา บุคคลเสวยเวทนาอันใด ก็จำจากเวทนาอันนั้น บุคคลจำเวทนาอันใด ก็ตรึงถึงเวทนาอันนั้น บุคคลตรึกถึงเวทนาอันใด ก็จินตนาการสร้างมโนภาพจากเวทนาอันนั้น บุคคลจินตนาการสร้างมโนภาพจากเวทนาอันใด ความคิดเกี่ยวกับมโนภาพอันนั้นก็จะครอบงำบุคคลนั้น ในเรื่องของรูปทั้งหลาย ที่จะพึงรู้ด้วยตา เป็นอดีตก็ดี เป็นอนาคตก็ดี เป็นปัจจุบันก็ดี.........."

ข้อความตามพุทธพจน์ชี้ให้เห็นว่า วิญญาณเป็นเพียงองค์ประกอบอันหนึ่งในองค์ประกอบทั้ง 4 อย่าง การเกิดของวิญญาณนั้นก็เกิดได้จากประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ คือ มโน นั่นคือ ตา + รูป ก็เกิดจักขุวิญญาณ เป็นต้น เมื่อตาเป็นรูปก็เกิดผัสสะ (กระทบ เชื่อมโยงกัน) จึงเกิดเวทนาขึ้น นี่เป็นการแสดงกระบวนการของจิตจากองค์ประกอบต่าง ๆ ซึ่งดำเนินไปแบบเชื่อมโยงติดต่อเรื่อยไปโดยอาศัยเหตุปัจจัยตามหลักปฏิจจสมุปบาทนั่นเอง

http://www.dharma-gateway.com/dhamma/dhamma-32-01.htm

 

แต่ก่อนทั้งเคยเห็นและได้ยินเสียง บางครั้งเขาก็เป็นรูปร่างคนแต่เรามองทะลุเขาได้และเท้าเขาไม่ติดพื้น ที่เคยเห็นอีกแบบคือเป็นดวงไฟแสงคล้ายหลอดไฟกลม แสงไม่กระจายไปยังวัตถุสิ่งของที่อยู่ใกล้ๆไม่เหมือนเวลาเราส่องไฟ เคยเห็นรูปร่างกลมและรูปร่างคล้ายคนลอยอยู่ประมาณหลังคาบ้านชั้นสองกับสูงจากพื้นประมาณเลยปลายไผ่

 

วิญญาณ คือ 1 ในขันธ์ห้าครับ..
รูปขันธ์..เวทนาขันธ์..สัญญาขันธ์..สังขารขันธ์..วิญญาณขันธ์
วิญญาณเป็นแค่ธาตุรู้เท่านั้น...

 

มีเรื่องที่เกิดกับพี่ชายตอนผมอยู่่ด้วยนะครับ คือประมาณตี 2-3 น้าผมขับมอเตอร์ไซมาที่บ้านผม ผมกับพี่ชายเดินไปเปิดประตูให้น้า น้าบอกว่าอยู่บ้านคนเดียว ได้ยินเสียงคนเขย่าต้นไม้หน้าบ้านออกมาก็ไม่เห็นอะไร ช่วงที่น้ากำลังเล่าผมนั่งตรงประตูพี่ชายยืนพิงประตู คืออยู่บนหัวผม พี่ชายทรุดลงทันทีบอกว่ามีลมมากระแทกที่หน้าอก ในใจผมว่าต้องเป็นอะไรที่มากับน้าผมแน่ๆ ผมรีบเอาพระใส่ให้พี่ผมและพักแปบนึงก็ดีขึ้นครับ