อายไหม ถ้าให้พกถุงยาง?

<CENTER>

​

จะตอบอย่างไรเมื่อได้ยินคำถามนี้ เชื่อว่าประมาณ 70% ต้องบอกว่าอายแน่นอน และถ้าให้ไปซื้อถุงยางอนามัยตามร้านสะดวกซื้อ จะกล้าไหม? ก็เชื่ออีกนั่นแหละว่าหลายคนจะเกิดอาการ "อ้ำอึ้ง" กว่าจะหาคำตอบให้ตัวเองได้ แล้วก็ลองนั่งนับในใจ ซื้อ..ไม่ซื้อ... จนใน ที่สุดหนุ่มหลายๆ รายก็ปล่อยให้ความอายครอบงำ จนความกล้าที่จะเดินเข้าไปซื้อถุงยางอนามัย หมดไป

ส่วนหนึ่งที่ทำให้วัยรุ่นไม่กล้าไปซื้อถุงยางอนามัยเพราะ "สายตา" คนรอบข้างเวลาไปซื้อ และกลัวถูกมองว่าเป็นคนเซ็กซ์จัด หมกมุ่นทางเพศ จนกลายเป็นความเชื่อที่ผิดๆ ที่ไม่กล้าซื้อ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดทำโครงการดีๆ อย่าง "ยืดอก พกถุง" ขึ้น เพื่อสร้างค่านิยมใหม่ๆ ให้กับ วัยรุ่น กล้าซื้อถุงยางอนามัย กล้าพกติดตัว ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ต้องอายอีกต่อไป

แต่ว่า "ความอาย" จะสามารถลดหายไป ได้ไหม โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ยังมีความเชื่อผิดๆ จะคิดอย่างไร
​

​

เริ่มต้นที่ เอก วงศ์อนันต์ ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย บอกว่า วัยรุ่นทุกคนอยากรู้ อยากเห็นเรื่องเพศ และรู้ด้วยว่าถุงยางอนามัยช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศได้ แต่วัยรุ่นหลายคนก็ยังติดปัญหาไม่กล้าซื้อถุงยางอนามัย เพราะมันเป็นความฝังใจของสังคมไทยที่มองคนซื้อถุงยางในภาพไม่ค่อยดีเท่าไร ส่วนตัวยังอายที่จะเข้าไปซื้อถุงยางอนามัย ส่วนใหญ่จะฝากน้าชายไปซื้อ ยิ่งเจอคนขายที่เป็นผู้หญิงด้วยแล้ว ยิ่งไม่เข้าไปซื้ออย่างแน่นอน เพราะสายตาทุกคู่ที่มอง มองเหมือนว่าเป็นคนเซ็กซ์จัด

"อยากให้คนในสังคมมองวัยรุ่นที่ไปซื้อถุงยางอนามัยในทางที่ดีบ้าง อย่ามองวัยรุ่นที่มาซื้อถุงยางอนามัยเป็นพวกผิดปกติ เป็นพวกบ้ากาม ทั้งที่ ถุงยางอนามัยก็เป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่ซื้อขายได้ ในเมื่อเราลบภาพที่สังคมมองได้ยาก ผมว่าทางที่ดีหากผู้ผลิตดีไซน์กล่องถุงยางอนามัยให้ดูเหมือนกล่องขนมขบเคี้ยว ก็น่าจะทำให้วัยรุ่นกล้าซื้อถุงยางอนามัยกันมากขึ้น" เอกฝากทิ้งท้าย
​

​

ด้านหนุ่ม "อี้" อรรถพล บวรสกุล ซีเนียร์คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง วัย 21 ปี ให้ความเห็นว่า วัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่อายที่จะใช้ถุงยางอนามัยแต่ปัญหาสำคัญคือ อายที่จะเข้า ไปซื้อ เวลาไปซื้อถุงยางจะเลี่ยงไปซื้อตามร้านขายยาแทน จะไม่ซื้อตามร้านสะดวกซื้อแน่นอน เพราะ มีผู้คนเข้าออกพลุกพล่าน พนักงานขายส่วนใหญ่ ก็เป็นผู้หญิง จะรู้สึกอายมากกลัวคนขายมองว่า เป็นคนเซ็กซ์จัด ถ้าไม่ต้องการให้วัยรุ่นอาย ผู้ผลิตก็ควรดีไซน์กล่องถุงยางอนามัยให้ดูกิ๊บเก๋เหมือน ถุงขนมธรรมดาก็ได้

ปิดท้ายที่นักศึกษาหนุ่มอย่าง นายทศพล ชาติอุดมพันธ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม บอกว่า เวลาไปซื้อถุงยางจะรอให้คนน้อยๆ ก่อน ถ้าคนเยอะมากๆ ก็จะไปซื้อที่ร้านอื่น แต่ทางที่ดีจะไปร้านที่ไม่มีคนอื่นอยู่เลยดีกว่า เพราะ เวลาไปซื้อจะไม่กล้าบอกคนขายว่าจะซื้อถุงยางอนามัย ต้องทำใจนานมาก ยิ่งเป็นคนขายผู้หญิง จะไม่ซื้อเลยด้วยซ้ำ

​

​

"เวลาไปซื้อคนชอบมองเรื่องนี้ไม่ดี ชอบมองด้วยสายตาแปลกๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมองด้วย ทั้งๆ ที่รู้กันดีว่าถุงยางอนามัยสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศ ลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์ได้ ผมอยากให้คนในสังคมมองการที่ผู้ชายซื้อถุงยางเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องธรรมชาติที่วัยรุ่นจะมีเพศสัมพันธ์ หากพวกเขาคิดว่าพร้อมแล้ว ซึ่งการ รณรงค์จริงๆ แล้วควรจะรณรงค์ให้สังคมไทยมี มุมมองที่เปลี่ยนไป เช่นรณรงค์ให้สังคมเกิดความคิดที่ว่าผู้ชายคนนี้ดีเนอะที่รู้จักใช้ถุงยางเพื่อป้องกันโรค ป้องกันการตั้งครรภ์ มากกว่ามารณรงค์ให้วัยรุ่นเปลี่ยนจากความคิดไม่กล้ามาเป็นความคิดกล้าที่จะพกถุงยาง"

เมื่อทางแก้ในการรณรงค์พกถุงยางดูเหมือนจะยังไม่ได้ผล ทศพลจึงแนะนำว่า ถ้าการซื้อถุงยางอนามัยมันน่าอายนัก ก็เปลี่ยนรูปลักษณ์การดีไซน์กล่องถุงยางอนามัยให้คนซื้อไม่อาย เช่น ทำเป็นรูปแบบห่อลูกอมก็ได้ ซึ่งถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะดูไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนนั้นกำลังจะซื้อถุงยางอนามัย และอยากฝากทุกสายตาที่มองว่า อย่ามองว่าคนซื้อถุงยางผิดปกติอีกเลย ให้มองว่าเขาก็มาซื้อของปกติเหมือนคนอื่นๆ

แม้หลายคนจะยังมองว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่ น่าอาย หากแต่ว่า "ความปลอดภัย" ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม อย่าให้คำว่า "ความอาย" มาทำลายอนาคตและชีวิตเลยดีกว่า





ข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต​

</CENTER>

 

น่าจะเริ่มจากพ่อแม่ผู้ปกครองของวัยรุ่นแต่ละคนนะ ที่จะต้องทำหน้าที่แนะนำ อธิบายและคุยอย่างเปิดอกกับเด็ก ว่ามันจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องพกถุงยางอนามัย ถ้าจะให้ดีควรจะซื้อให้เค้าเลยก็จะดีนะ เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ซึ่งก็เป็นลูกหลานของเราเองเราจะปล่อยให้เค้าไปเจอกับอันตรายซึ่งสามารถป้องกันได้

 

ไม่เห็นต้องอายเลย...อิอิอิ คือปลอดภัยไว้ก่อนเลย กลัวแต่อดอ่ะ(b-uh)

 

ผมก็มะกัว มะอายย อายไม ถ้าติดโรคดิ มะเอาอะ อิอิ

กัวอดเหมือนกันคับ อิอิอิ

พูดเเระ ไปซื้อ เอามาเป่าโป่งเล่นดีก่า อิอิอ กร๊ากกกกกกกกกกกกกก

 

อืมมมม...ยุคแห่งรักเดียวใจเดียวจะหมดไปแล้วหรือ...
การมีอะไรกันระหว่างชายหญิงช่างง่ายดายมากเลยหรือ...
น่าเศร้าใจนัก...

 

อายครับ

 

อายไปใยพื่น้อง ในเมื่อมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ฮ่าฮ่าฮ่า

 

ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาตินะ การมีอาไรกันมันเป็น ความต้องการของคนสองคน

ว่าไป ก็ จิงอะ อิอิอิอิอิ ง่ายดายเหลือเกินนนนนน ต้องทำใจ เเละ ยอมรับมันคับ

 

ผมว่า ทำไมไม่มีผู้หลิตรายไหนที่จะหันมามองตลาดถุงยาง แบบหยอดเหรียญเป็นตู้ เล็ก ๆ เหมือนตู้หยอดเหรียญกระดาษทิชชู ติดตามห้องน้ำห้างสรรพสินค้าบ้างนะ เคยเห็นแต่นานมาแล้ว และก็ไม่มีแล้ว อย่างงี้ น่าจะขายดีกว่าแน่ เพราะติดในห้องน้ำชาย ซื้อง่าย ไม่ต้องอายใครด้วย ( น่าจะทำแบบสามารถเลือก แบบต่าง ๆ ได้เหมือนกับ ตู้น้ำอัดลมด้วยนะ ) เจ๋งจริง ๆ รวยแน่ครับ

 

ถึงใจเดียวหรือหลายใจก็ควรใช้แหละครับ

 

ผมมีทั้งอายและไม่อายครับ
อายตอนซื้อ...ไม่อายตอนใช้...555

 

ทำไมต้องพกด้วย พาไปก็ได้ คำว่าพกคือเอาไว้ในที่หยิบง่ายเช่นพกปืน ถ้าอายก็พาไป เช่นใส่ในกระเป๋าเสื้อผ้า อิอิ เอาไปทีละหอบก็ไม่มีใครว่าอีกวิธี ไม่ต้องบอกเขาหรอกว่ามาซื้อถุงยาง เดินไปหยิบและส่งให้รับรองไม่มีร้านไหนหรอกถามว่าเอาไปทำไม เพราะไอ้นี้ไม่สามารถเอาไปใส่แทนเครื่องปรุงได้ อิอิ นอกจากจะเอาไปเป่าในงานวันคล้ายวันเกิดแต่ก็คงไม่มีใครทำ หรือก็ไม่แน่ ผมว่าจะลองดูอยู่เหมือนกัน อิอิ

 

ก็น่าตกใจอยู่เหมือนกันสำหรับเรื่องนี้ โดยเฉพาะบ้านเราเป็นเมืองพุทธ ที่น่าตกใจคือมีโฆษณาแบบนี้ให้เห็น มันก็เหมือนกับเป็นการส่งเสริมเด็กๆให้ออกนอกทาง เพราะเรื่องแบบนี้จริงๆแล้วเขาจะเรียนรู้เองตามวัยและความกล้า หรือความรับผิดชอบก็จะเกิดขึ้นตามวัยเหมือนกัน แบบนี้ก็เท่ากับว่า..เด็กบ้านเราใครจะทำอะไรกันก็ได้ขอให้พกถุงอย่างเดียวก็พอ จริงใหม น่าเศร้าใจ ผมอายประเทศอื่นๆจัง ดูอีกแง่หนึ่งก็เหมือนดูถูกคนไทยว่าโง่ ขนาดซื้อถุงยางยังอาย ทั้งที่เป็นของป้องกันตัวเอง ต้องเสียงบจัดโฆษณา ไม่รู้เท่าไหร่ ภาษีเราทั้งนั้น ใครพกถุงน่าจะเสียค่ารถครึ่งราคา

 

อายจ้า

ขอพกตังไปทำบุญได้ก่อ

 

เมื่อสิบกว่าปีก่อน ช่วยงานเพื่อนๆ ค่ะ อยู่องค์กร เพริล เอส บัค เขาจะรณรงค์เรื่องให้รู้จักเอดส์ค่ะ ก็ไปเดินแจกถุงยางตามไฟแดง ไปอธิบายที่สถานการศึกษาต่างๆ ยายมีวีดีโอไปเปิดให้ดู มีอวัยวะเพศปลอม และถุงยางไปสาธิตการสวมใส่ สาวๆ นักศึกษานั่งซักแถวหน้าเพียบ ส่วนหนุ่มๆ หลบไปแถวหลังสุด เงียบกริบ

ถุงยางมีมาก ยายก็เอามาให้หลานชายสามตัวมันเล่น แทนลูกโป่งค่ะ มันเดินไปทั่วหมู่บ้านล่ะ ชาวบ้านเขาเอ็ดว่า

ป้าพวกเองบ้ารึเปล่านี่ เอาถุงยางอนามัยมาใส่น้ำให้หลานเดินถือโทงๆ (โทงๆ เพราะหลานชายยายสามตัว มันชอบแก้ผ้า )

 

ส่วนมากจะสอนให้ใช้ถุง แต่ทำไมไม่สอนให้เห็นโทษของกาม ทำไมไม่สอนให้เด็กมีความละอายต่อบาป

 

~>_<~ เสียว.....
อยากได้แบบ1350ดอท......
หุๆๆๆ......จะนับให้ครบทุกเม็ดเลย.....อิอิ