จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Espanda

    Espanda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +720
    ต้องดูพื้นฐานคนคุยด้วยนะครับ ถ้าตอบแบบคนทั่ว ๆ ไปทางโลกก็ต้องบอกว่า

    เป็นคำเรียกสมมุติคนที่เรียนจบคอร์สธรรมชาติวิทยากันแล้ว

    เค้าก็อาจจะถามว่าธรรมชาติวิทยาเรียนอะไรกันเหรอ

    ก็เรียนเรื่องธรรมชาตินั่นแหละ หลักกว้าง ๆ ก็คือ ทุกสิ่งมีธรรมชาติของมันทั้งนั้น
    เกิดขึ้นมา เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ แล้วก็ดับสูญไปเป็นธรรมดา
    เรียนให้รู้จริง จะได้ไม่หลงคิดไปตามกระแสโลก
    อยากรู้แบบละเอียดต้องมาเรียนด้วยกันนะ
    ค่าเรียนฟรี แต่ครูดุมากนะจะบอกให้
     
  2. klangprai

    klangprai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    5,167
    ค่าพลัง:
    +6,057
    พื้นฐานก็เป็นคนธรรมดาก็ชอบไหว้พระทำบุญ แต่ขี้สงสัยน่ะค่ะ เอ๋ก็อธิบายไม่ได้ แย้งไม่ถนัดเพราะเราก็ไม่รู้แจ้งแบบคุณครูผู้สอน เพราะยังเรียนอยู่เหมือนกันค่ะ ชวนให้มาเรียนด้วยกันก็ไม่มา อุเบกขาไปก็แล้วกันค่ะ คุยกันไปหลายยกแล้ว อิอิ
     
  3. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สวัสดีค่ะ พี่เอ๋ กลางไพร ให้พี่เอ๋ เรียนสำเร็จก่อนนะค่ะ ถ้าพี่เอ๋รู้แจ้งด้วยตัวพี่เอ๋เองแล้ว เดี๋ยวแฟนพี่เอ๋ เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวคุณเอ๋ เดี๋ยวเค้าก็จะสนใจด้วยตัวเค้าเอง แต่เรื่องแบบนี้พูกยากค่ะ มันแล้วแต่วาระเค้าด้วย ใช่มั้ยค่ะ ครูวิทย์ อิๆๆ (โดนพาดพิงอีกแล้ว อิๆๆ มือปืนประจำบ้านจิตเกาะพระ 555)
     
  4. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    [​IMG]



    เราปฏิบัติเพื่อให้เห็นไตรลักษ์ ไม่ใช่ต้องการปฎิบัติให้มันนิ่ง
    อย่างจิตใจนี้เป็นของไม่เที่ยง ไม่ได้ปฎิบัติให้เที่ยง
    จิตใจเป็นทุกข์ ไม่ได้ปฎิบัติให้มันเป็นสุข
    จิตใจเป็นอนันตา ไม่ได้ฝึกบังคับให้มันได้
    แต่ฝึกให้เห็นธรรมดาของมันว่า
    มันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
    พอเห็นธรรมดาแล้วจะปล่อยวาง
    เพราะฉะนั้นไม่ได้ฝึกให้นิ่งๆ

    :z4:z4:z4:z4


    จิตใจของเรามีคุณภาพระดับไหน
    เราก็เห็นธรรมะระดับนั้น
    ถ้าวันไหนจิตใจเราขุ่นมัว
    โลกทั้งโลกจะขุ่นมัวไปหมด
    วันไหนจิตใจเราเบิกบานแจ่มใส
    โลกนี้เบิกบานแจ่มใสไปกับเราด้วย
    ถ้าวันใดใจของเราพ้นจากความปรุงแต่ง
    เราจะเห็นธรรมที่พ้นความปรุงแต่ง


    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช

     
  5. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ อนุโมทนาบุญ และยินดีต้อนรับนะค่ะ เอ..ท่านนี้เป็นใครรือ...ท่านยังเป็นรถขายโอ่งอยู่ค่ะ คือไปเรื่อยๆ

    คุณวัฒน์ คุณวัฒน์อยู่หน๊ายยยยค๊า มาช่วยท่านผู้นี้ให้กลายเป็นรถด่วนด้วยจ้า เพราะอิฉันเต็มพิกัดแล้วจ้าาา 5555+:boo::cool::boo:
     
  6. pattranit uk

    pattranit uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +1,446
    ถ้าอยากจะละต้องเข้ามาลอง
    ถ้าได้แตะต้องแล้วลองไม่เลิก ความเพียรเป็นเลิศจิตยกทันที โมทนาสาธุ ค่ะ ครูใหญ่พี่ภู. . . แพทจบ91 ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  7. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    พี่เพ็ญเห็นคำถามคุณเอ๋ตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว แต่เห็นว่าคุณวัฒโจโจตอบไปแล้ว ชัดเจนแล้ว และครูหลายท่านก็เข้ามาช่วยกันตอบให้กระจ่างแล้ว คนที่นับถือศาสนาพุทธแต่ไม่รู้แม้กระทั่งว่าจิตยกอยู่เหนือขันธ์ห้า จิตยกอยู่เหนือกิเลสทั้งปวง จิตไม่เอากับการปรุงแต่งในขันธ์ห้า เป็นจิตประเภทใด คุณเอ๋ก็เลิกสนทนาได้เลยค่ะ ไม่มีประโยชน์สำหรับการเดินมรรคของเรา ขอให้คุณเอ๋กลับมาปฏิบัติให้ตรงทางนะคะ ช่วงแรกเห็นแรงดีอยู่นะคะ แต่ช่วงหลังแผ่วไปหน่อยนะ สตินะคะ นึกถึงพระให้บ่อย ไม่ใช่นาน ๆ นึกทีนะคะ นึกให้ถี่เลยค่ะ อย่าสนทนาธรรมกับคนที่ใจเข้าไม่ถึงแก่นของธรรมค่ะ รู้แล้ววาง ไม่ปรุงแต่งต่อ
     
  8. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    จิตยก หมายถึง ???
    คำตอบของคุณกลางไพรโดยเฉพาะเลย จ่ายค่าจิตมา ๕ บาทด้วยนะครับ ฮ่าๆ​


    ขอขอบใจทุกท่าน ที่ช่วยอธิบายและทำความเข้าใจกันและกัน
    ถือว่าเป็นคำถามที่ดีมาก
    ธรรมเป็นเรื่องละเอียด แต่จิตใจของคนเราก็ยิ่งละเอียดอ่อนเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้ว ผู้ที่ปฎิบัติได้หรือปฎิบัติถึง จงเข้าใจและเมตตาที่ผู้ถาม ผู้สงสัย หรือผู้ไม่รู้ด้วยเถิด
    ทั้งศีลและธรรมนั้นมีหลายระดับ แต่ใครจะอยู่ระดับใดนั้น ต้องดูที่ภายใน(จิต)ของผู้ปฎิบัติท่านนั้น อย่าดูแค่ภายนอก
    แต่ถ้าผู้ถามยังปฎิบัติไม่ได้ เช่น ศีลยังไม่ครบ ศีลครบแต่ยังเข้าไม่ถึงกระแสจิตหรือกระแสธรรมแห่งตน
    แต่ถ้าผู้ถามที่ปฎิบัติได้หรือปฎิบัติถึง(จิตพุทธะ)แล้ว พวกเขาเหล่านั้นจะเลิกถามไปโดยปริยาย หรือไปโดยอัตโนมัติ


    แต่สำหรับผมนะ จะดูพื้นฐานคนที่ถามก่อน เพราะพูดคุยกันเพียงไม่กี่คำก็จะทราบได้ทันทีว่าผู้นั้นมีศีลครบ? มีศีลมีธรรม? พูดง่ายๆก็คือ คอยสังเกตุดูจากคำพูดคำจาคนที่กำลังสนทนากับเรา จะทำให้เราทราบทันทีเลยว่า จิตผู้ถามนั้นอยู่ระดับใด ถ้าไม่อย่างนั้นหมีภูพร่ำยาว แค่กระทู้นี้พูดเรื่องจิตเกาะพระ หรือพูดเรื่องสติกับจิตสองอย่างเท่านั้น ป่านนี้ก็ยังไม่เลิกพูดเลย เหตุที่พูดไม่จบก็เพราะว่า มีคนใหม่เข้ามาเรื่อยๆ แต่เคสนี้ดูไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้สงสัยมาถามโดยตรง แต่ถ้ายังหาคำตอบไม่ได้ก็พามาที่ในกระทู้นี้ หรือส่งPMก็ย่อมได้ เพราะผู้ที่ยังไม่เคยปฎิบัติหรือปฎิบัติมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ถึงไหน ก็คือผู้ที่สอบอารมณ์ที่มากระทบจิตตนเองไม่ผ่าน เช่น เมื่อมีคนมาตำหนิ หรือมาด่าว่าล่อแม่ของตน แต่เราก็ทนไม่ไหวก็จะโกรธหรือแสดงออกที่ไม่พอใจอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา เพราะผู้ที่ไม่เคยเจริญสติภาวนาหรือไม่เคยฝึกจิตมาก่อน ธรรมชาติแห่งจิตนั้นก็มักจะไหลลงต่ำหรือจิตไปตามกิเลสหรือตามกระแสโลก นั่นเอง

    แต่ถ้าจิตผู้ถามหรือผู้สงสัยเข้าถึงพุทธะ หรือจิตยก(จิตบุญ)แล้ว คือผู้ที่สอบผ่านอารมณ์จิตของตนกับสิ่งที่มากระทบจิตตนแล้วจิตใจย่อมไม่หวั่นไหว จิตย่อมไม่ไปวิ่งตามเหมือนที่เคยเป็นมาก่อน สำรวมที่จิตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนคำพูดและการกระทำนั้นจะค่อยๆละเอียดตามจิตเอง และผู้ปฎิบัติที่ทำสำเร็จหรือจิตยกแล้วก็ย่อมก็ตอบคำถามของตนเองให้ได้ก่อน ที่เหลือเราจึงไปตอบคำถามกับผู้อื่นๆได้

    การปฎิบัติธรรมที่แท้จริงนั้น จะต้องมุ่งเน้นไปที่การดูจิตของตนเองก่อน ด้วยการเจริญสติภาวนา เช่น การปฎิบัติจิตเกาะพระ สร้างสติโดยการให้เรานึกถึงภาพพระบ่อยๆ หรือไปหาวิธีทำให้จิตของตนเองนิ่งก่อน เมื่อจิตตนเองนิ่งแล้ว ต่อไปเราก็จะพบจิตเดิมแท้ของตนเอง(ธรรมชาติหรือกระแสแห่งจิต) พวกเราถึงจะพบพุทธะหรือธรรม(ธรรมชาติหรือกระแสแห่งธรรม)กันต่อไป ที่แท้ธรรมะนั้นมีอยู่จริง อยู่กับจิตอยู่กับตามธรรมชาตินี่แหล่ะ ที่ผู้ปฎิบัติทุกท่านกำลังค้นหากันอยู่ในเวลานี้เอง

    จิตยก หรือที่เราเรียกกันว่า "จิตบุญ" ความหมายหรือนิยามในที่นี้จะหมายถึง ผู้ที่ปฎิบัติจิตเกาะพระได้สำเร็จ เป็นนามสมมุติหรือบัญญัติขึ้นมา เพื่อหลีกเลี่ยงปรามาสกับผู้ปฎิบัติธรรม เพราะจิตบุญเป็นอริยบุคคล(บวชจิตอย่างเดียว) มิใช่เป็นอริยสงฆ์(บวชทั้งกายและจิต) อีกเหตุผลหนึ่ง ก็คือ บุคคลทั่วไปไม่ยอมรับ หรือไม่รู้ว่าฆราวาสก็สามารถบรรลุธรรมได้ ถ้าปฎิบัติตามพระธรรมหรือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ แต่คนส่วนใหญ่นั้นดูกันแค่เปลือกภายนอก หรือดูแค่เครื่องนุ่งห่ม เท่านั้น

    จิตยกหรือจิตบุญ จึงไม่ใช่จิตปุถุชนอีกต่อไป เพราะเป็นผู้ที่มีศีล ๕ ครบบริบูรณ์ และจิตได้สอบผ่านมรรคมีองค์ ๘ (ศีล สมาธิ ปัญญา) จิตบุญได้พากันละสังโยชน์ หรือจิตละกิเลสให้มากที่สุด ส่วนจิตบุญผู้ใดจะสามารถละกิเลสได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับจิตของผู้ปฎิบัติของท่านนั้นเองว่า มีจิตละเอียดมากน้อยเพียงไร

    จิตของคนเรานั้น เรียนรู้เพียงได้ครั้งเดียวก็สามารถจดจำไปถึงภพหรือชาติทีเดียว ด้วยความอัศจรรย์แห่งจิตนั้น จึงไม่เหมือนกับสมองมนุษย์ เพราะสมองเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย เมื่อสมองเสื่อม(แก่) ความจำก็เสื่อมตาม เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ธรรมะนั้น เราจะต้องนำจิตไปเรียนรู้ มิใช่กายหรือจดจำมาจากสมองของมนุษย์ เพราะฉะนั้นผู้ปฎิบัติจึงไม่ควรจดจำหรือท่องจำมาจากตำรามากนักในขณะปฎิบัติ แต่ขอให้ปฎิบัติมากๆก่อน แล้วนำผลที่ได้(ปฎิเวธ)มาเทียบปริยัติหรือตำรากันทีหลัง อย่าไปเรียนธรรมะแบบท่องจำมาจากตำรา อีกไม่นานเมื่อท่านแก่ สมองก็เสื่อมตามสภาพร่างกาย
    เพราะแท้ที่จริงแล้ว พระธรรมของพระพุทธเจ้านั้น ท่านไม่มีตำราเรียนมาก่อน เรียนแค่สมถกรรมฐานกับพระอาจารย์คือพระฤาษีสองตนนั้นจนจบฌาน๘(สมาบัติ๘) แล้วพระองค์ท่านจึงไปตรัสรู้ที่ใต้ต้นโพธิ์ ด้วยธรรมอริยสัจ๔ และกฎพระไตรลักษณ์ โดยการนำจิตที่ได้จากสมถสมาธิ(ฌาน๘) ซึ่งเป็นบาทฐานแล้วจึงนำจิตไปทำวิปัสสนา จนพระองค์ท่านได้สอบผ่านวิปัสสนาญาณหรือปัญญาญาณ

    แต่เรื่องปฎิยัติ(ตำรา/ความรู้ต่างๆ) เรื่องปฎิบัติ และเรื่องปฎิเวธ(ผลสำเร็จที่มาจากปฎิบัติ) ธรรมทั้งสามอย่างนี้ จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่ได้ เหมือนโต๊ะที่มีสามขา คือขาดขาข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้ เพราะมันจะล้มลงทันที

    เพราะฉะนั้นถ้าเราจะตอบคำถามกับใครเขา โดยเฉพาะธรรมะ เราเองก็ต้องมีปัญญาในทางธรรม หรือมีภูมิธรรม ภูมิปัญญามากกว่าผู้ที่ถาม ผู้ที่สงสัยด้วย หรือให้ตัวเราเองปฎิบัติจนจบกิจก่อนหรือทำให้เขาเห็นว่าเราทำให้ได้ก่อนแล้วจึงไปตอบหรือไปสอนเขาได้ โดยเฉพาะคนข้างเคียง จะสอนยาก เพราะไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่นั่นเอง
    เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่นั้นมีเหตุผลมากมายเยอะแยะ ตอบกันไม่หวอดไม่ไหว แต่จะให้เลิกถามหรือเลิกขี้สงสัย จนกว่าผู้นั้นลงมือปฎิบัติเอง ทำจิตให้นิ่งได้ก่อน เพราะจิตที่นิ่งนั้น จะทำให้เรารู้เกือบจะทุกสิ่งทุกอย่างได้เอง นี่ไงความ(ไม่)ลับของการปฎิบัติธรรม ทุกท่านก็สามารถเข้าถึงกันได้ ยกเว้นจิตผู้นั้นไม่ปกติ แต่ถ้าไม่มาปฎิบัติเอง ก็จะมีคำถามกับผู้อื่นอยู่ร่ำไป ถึงวันนี้ได้คำตอบที่พอใจ แต่วันพรุ่งนี้ก็จะผุดคำถามขึ้นมาใหม่และเป็นอย่างนี้ เพราะว่ามนุษย์นั้นถูกสอนให้ไปกับกิเลสจนเคยตัว ธรรมชาติของจิตนั้นมีนิสัยอยู่ไม่นิ่งหรือจิตเกิด-ดับอยู่ตลอดเวลา เราจึงชอบที่จะเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เพราะธรรมชาติเขาได้สร้างอายตนะทั้ง๖ มีทั้งอายตนะนอกและอายตนะในมาให้ครบเลย เช่น
    อายตนะภายใน หมายถึง สื่อเชื่อมต่อที่อยู่ในตัวคน ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
    อายตนะภายนอก หมายถึง สื่อเชื่อมต่อที่อยู่นอกตัวคน ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ รูปคู่กับตา หูคู่กับเสียง เป็นต้น

    นี่ขนาดพูดให้น้อยแล้วนะ ไม่กี่บรรทัดเอง ฮ่าๆ แต่ถ้าพูดน้อยไปก็เกรงว่าจะไม่เข้าใจ
    เอาอย่างนี้ หมีภูขอแนะนำส่งมาเรียนทั้งคู่เลยดีไหม หรือว่าให้จิตคุณยกก่อนแล้วดูสิว่า คุณจะไปช่วยคนอื่นยกได้ไหม๊ แต่ยอมรับว่าคู่ของคุณอัญญะมณี และครอบครัวหนุ่ม ท่านทำกันได้อย่างไร อยากให้ไปปรึกษาท่านเองนะ เพราะโปรดคนข้างกายก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะตามที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่


    สรุปแล้ว คุณครับเอาจิตตนเองให้รอดดีกว่าไหม๊ ตามที่ครูเพ็ญแนะน่ะ ท่านตอบตรงประเด็นที่สุด แต่อยากแนะนำกับผู้อื่นๆว่า เวลาจะคุยเรื่องธรรมะกับให้เราดูด้วยว่า คนที่อยู่ตรงหน้าเราเนี๊ย ท่านศีลครบ? เป็นผู้ปฎิบัติธรรมเหมือนกันไหม? จะได้จูนกันให้ถูกคลื่น หรืออย่าไปเสียเวลาคุย เพราะจิตมันต่างกัน อันนี้ขอยกตัวอย่างมาคร่าวๆนะ มิได้กล่าวให้ร้ายกับผู้ใด เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เหมือนคุยกันคนละภาษาหรืออยู่คนละมิติ หรือคนกับผีก็ยังสื่อกันไม่ได้(ยกเว้นผู้ที่มีจิตสัมผัส) เพราะด้วยความละเอียดของจิตของแต่ละคนนั้น ไม่เท่ากัน

    แหม๊ผมอยากคุยตัวต่อตัวจังเลย เพราะว่าผมมีตำราพูดพูดหลายระดับ เหมือนโทนเสียง สูง กลาง ต่ำ ธรรมะก็เหมือนกัน มีตั้งแต่หยาบ กลาง ละเอียดครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 ตุลาคม 2012
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ (7 คน กำลังดูอยู่)( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
    ภูทยานฌาน2
    วันนี้ 10:51 AM
    โดย natthapatpun
    6,883 212,213

    เลขสวย จิตบุญก็สวย
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=J5YaBG4Dpqw]จุฬาตรีคูณ - อรวี สัจจานนท์ (Live 2550) - YouTube[/ame]​

    จัดเพลงนี้ให้กับท่านสว.ทุกท่าน
    เอาใจโดยเฉพาะ คุณพี่สุภาทร คุณพี่พอใจ คุณพี่จุ๋ม และทุกๆท่านด้วยนะจ๊ะๆ

    มดฟังยังเคลิ้มเลย นับประสาอะไรกับหมีภูหล่ะ จนครูเพ็ญแซว
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ขอบพระคุณท่านอาจารย์ภูเจ้าค่ะcatt1[​IMG]
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    การตัดสังโยชน์ 10 เป็นพระอรหันต์
    (พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)​

    อยากให้ผู้ที่กำลังปฎิบัติ หรือจิตบุญอ่านธรรมะของหลวงพ่<wbr>อกันให้ได้นะ (พี่ภูขอร้อง)
    เดี๋ยวผมจะแยกๆเป็นตอนไป แต่ถ้ายาวไปเดี๋ยวผู้อ่านจะเบื่<wbr>อซะก่อน
    เอ๊า ถ้าใครอยากไปพระนิพพาน จงอ่านกันให้จบ...
    จะได้เกิดความมั่นใจก่อนที่<wbr>จะหมดลมหายใจ...(สำหรับผู้ที่ยั<wbr>งไม่ได้อ่าน)

    ตอนที่ ๑

    ญาติโยมทั้งหลาย วันนี้เพลียมากหน่อย ก็จะพูดกันแค่พอมีแรงนะ สำหรับวันนี้จะขอแนะนำเรื่อง พระอรหันต์ ข้ามไปเลย เพราะอะไรรู้ไหม เพราะผลการปฏิบัติไม่มี<wbr>ความจำเป็นต้องเรียงลำดับ คือ 1. เป็นพระโสดาบัน 2. เป็นพระสกิทาคามี 3. เป็นพระอนาคามี 4. เป็นพระอรหันต์ อันนี้ไม่จำเป็นตามนี้ จะเห็นว่าบางท่านพอฟังเทศน์<wbr>จบบรรลุพระโสดาบัน และฟังเทศน์อีกครั้งหนึ่ง หรือว่าปฏิบัติต่อเป็นอรหันต์<wbr>เลยก็มี อย่าง พระอานนท์ หรือบางท่านฟังเทศน์จบเป็นอรหั<wbr>นต์เลยก็มี แต่ว่าจะขอพูดตอนต้นสักนิดหน่อย ในตอนต้นสำหรับนักปฏิบัติใหม่ อย่าลืมว่าอันดับแรกจะต้องรู้<wbr>ลมหายใจเข้าออก เอาจิตเข้าไปรับทราบลมหายใจเข้<wbr>าลมหายใจออก เวลาหายใจเข้ารู้อยู่หายใจเข้า เวลาหายใจออกรู้อยู่หายใจออก หายใจเข้ายาวหรือสั้น หายใจออกยาวหรือสั้นก็รู้อยู่ และประการที่สอง ให้ภาวนา สำหรับคำภาวนานี้ไม่จำกั<wbr>ดในตอนต้น จะใช้คำภาวนาว่า พุทโธ ก็ได้ สัมมาอรหัง ก็ได้ อิติสุคโต ก็ได้ อิติปิโส ภควา ก็ได้ ยุบหนอพองหนอก็ได้ ตามอัธยาศัย อะไรก็ได้สุดแล้วแต่ที่เคยปฏิบั<wbr>ติมา ถ้าท่านเคยปฏิบัติมาจากที่อื่<wbr>นคล่องแบบไหนปฏิบัติตามนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะการภาวนาก็ดี การรู้ลมหายใจเข้าออกก็ดี เป็นเครื่องโยงจิตให้มีสมาธิ ทีนี้ก็จะพูดถึงอารมณ์ เวลาปฏิบัติกรรมฐานให้ถืออารมณ์<wbr>ความสุขใจเป็นเกณฑ์ อย่าคิดว่าเวลานี้เราต้องได้ฌาน 1 ฌาน 2 ฌาน 3 ฌาน 4 ฌาน 8 ฌาน ไม่มีความจำเป็น ถือความเป็นสุขของใจเป็นเกณฑ์ ถ้าจิตเข้าไปมุ่งฌานโน้นฌานนี้<wbr>จิตจะวุ่นวาย คำว่าจิตวุ่นวายก็หมายความว่าจิ<wbr>ตจะเกิดมีอารมณ์ฟุ้งซ่าน จิตจะไม่เป็นสมาธิ เวลานั้นมันจะเป็นฌานอะไรก็ช่าง ให้ถือว่าเวลานี้จิตเป็นสุขแล้<wbr>วกัน ถ้าภาวนาไม่พิจารณาไป หรือรู้ลมหายใจเข้าออกไป จิตเกิดมีความฟุ้งซ่านเกิดขึ้<wbr>นบังคับไม่อยู่ ก็ปล่อยอารมณ์เสียเลิกไปเลย พักไปชั่วคราวก็ได้ หรือว่าจะคิดตามจิตไป จิตจะคิดอะไรก็ปล่อยมันไปตามเรื<wbr>่อง สักครู่เดียวมันก็เลิกคิด กลับมาจับใหม่มันจะทรงตัว อย่างนี้ก็ได้ วันนี้ก็มาพูดถึง อารมณ์พระอรหันต์ เมื่อวานนี้พูดถึง อารมณ์พระโสดาบัน ถ้าทำได้ก็ครึ่งทางพระนิพพาน คำว่า พระโสดาบัน แปลว่า ผู้เข้าถึงกระแสพระนิพพาน คือเข้าเขตพระนิพพาน ถ้าตายจากความเป็นคนอย่างน้อยก็<wbr>เป็นเทวดาหรือพรหม ทีนี้อารมณ์ของเราถ้าได้<wbr>พระโสดาบันแล้ว ถ้าเราต้องการนิพพาน ความจริงพระนิพพานนี่เป็นของไม่<wbr>หนักสำหรับนักปฏิบัติที่มี<wbr>ความฉลาด และประการที่สองถ้าเชื่อพระพุ<wbr>ทธเจ้า ต้องดูตัวอย่างตามพระสูตร ถ้าเราไม่ดูตัวอย่างตามพระสู<wbr>ตรจะปฏิบัติยาก ทำไปๆ ก็คิดแต่เพียงว่าสมาธิจะทรงหรื<wbr>อไม่ทรง จะทรงสมาธินานหรือไม่นานละเอี<wbr>ยดหรือหยาบก็อยู่แค่นั้น ผลที่สุดแม้แต่พระโสดาบันก็ไม่<wbr>ได้ ถ้าเราดูตัวอย่างตามพระสูตรจะรู<wbr>้สึกว่าง่าย พระนิพพานตัดตัวไหนในสังโยชน์ 10 ประการ ...



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2012
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    จิตยก หมายถึง ???

    ========================================
    อนุโมทนาสาธุๆๆค่ะ จะได้อธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้เสียทีค่ะ:cool:
     
  14. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    ถ้าอยากรู้ ความจริง ใหัดูจิต
    เกาะให้ติด ตามให้ทัน อย่างนั้นหนา
    มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ สู่ อนัตตา...
    กิเลสมา ตัดฉับ ให้ดับพลัน

    อยากหลงทาง ก็ดูไป ในนิมิต
    ดูแล้วจิต หลงใหล ไม่สร้างสรรค์
    ถ้าอยากดู รู้แล้ว ให้วางพลัน
    วางไม่ทัน กิเลสเกี่ยว เหนี่ยวเอาไป

    ทางนิพพาน ไม่ไกลเกิน "เจริญมรรค"
    เพียงรู้จัก เดินสายกลาง อย่าเหลวใหล
    วางจิตนิ่ง ดิ่งลง สู่ภายใน
    ไม่ใกล้ ไม่ไกล อยู่ในจิต เพียงนิดเดียว

    จิตเกาะพระ ง่ายหรือไม่ อย่าไปคิด
    อย่าไปติด สงสัย ให้เฉลียว
    ถ้าจิตดื้อ เดี๋ยวเถอะ เจอะไม้เรียว
    โดนมาเลี้ยว กระโดดจ๊าก ว๊ากกกก เจ็บจัง!

    เกาะพระไป ไม่ต้องอยาก ดังครูสอน
    เขี่ยนิวรณ์ ดีดขันท์๕ อย่าเหลียวหลัง
    [SIZE=5]เพราะมันอยู่ อีกไม่นาน มันก็พัง...
    [SIZE=5] ดีใจจัง ครูสอนให้ ไปนิพพาน...(deejai)[/SIZE]
    [/SIZE]
    จุ๋ม จบ. เเปะจี่
     
  15. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    @ ขอโมทนากับจิตบุญดวงที่ ๙๔ และครูผู้สอนทุก ๆ ท่าน

    ของกลุ่มจิตบุญด้วย... สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 ตุลาคม 2012
  16. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    (k):cool: ขอบพระคุณที่ อ.ภู จัดเพลงถูกใจให้นะคะ..วันนี้..เข้ามารายงานตัวครบทั้ง 3 ค่ะ ... วันทยาหัตถ์..น้องจุ๋มแต่งกลอนเก่งจัง..
     
  17. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    ว้าว ว้าว ว้าว...สุดยอดดดด:cool:
    โมทนาสาธุ ค่ะ คุณจุ๋ม ..ลูกหลาน ท่านสุนทรภู่ แน่เลย...
    ว่าแต่ว่า ท่านพี่ บ้านอยู่ระยอง หรือเปล่าค่ะ?..
    .เพื่อจะเจอคนบ้านเดียวกัน..อะฮ่า..555
     
  18. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    โมทนาสาธุกับความมีเมตตาจิตและความหวังดีต่อผู้อื่นของคุณพี่กลางไพรด้วยครับ..
    เรามีคำกล่าวมาให้ 2ประโยคนะครับ

    "เมื่อมะม่วงยังไม่สุก ก็อย่าพึ่งไปเด็ด!.."

    "พระท่านพูดเสมอๆว่า ให้ผู้ปฎิบัติธรรมหมั่นดูจิตตนเอง ไม่ต้องไปดูจิตของผู้อื่น.."

    ขอให้คุณพี่กลางไพรเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุครับ
     
  19. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
    ..เข้ามาอ่านทุกวัน ก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้นทุกวัน อนุโมทนาสาธุกับท่านพี่ภูด้วย ครับ
     
  20. klangprai

    klangprai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    5,167
    ค่าพลัง:
    +6,057
    ขอบคุณค่ะ อ่านให้เขาฟังแล้วค่ะ เขาบอกว่ายินดีอยากเจอพูดคุยกับครูภูเหมือนกันค่ะ อิอิ อย่างครูภูว่าแหละค่ะ เอ๋ยังเาตัวเองไม่รอด คุยกับเขาไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ เอ๋แย้งไม่ออกค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...