ตำรวจผวา! เฝ้าสาวฆ่าหั่นศพผัว กระเป๋าใส่ศพหมุนเอง

ตำรวจผวา! เฝ้าสาวฆ่าหั่นศพผัว กระเป๋าใส่ศพหมุนเอง
10 ต.ค. 55 09.04 น.



(10 ต.ค.) จากกรณี น.ส.พรสุรีย์ ดีแผ่ว อายุ 36 ปี ก่อเหตุฆ่าหั่นศพสามีที่ป่วยโรคอัมพฤกษ์ ก่อนจะใส่ชิ้นส่วนศพลงในกระเป๋าเดินทางและนำชิ้นส่วนศีรษะ แขน และขา ทิ้งคลองด้านหลังอพาร์ทเมนท์ ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วข้างต้นนั้น ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจยังรอผลตรวจสภาพจิตของ น.ส.พรสุรีย์ ขณะที่ตำรวจเฝ้าห้องขัง เจออาถรรพ์สุดเฮี้ยน กระเป๋าเดินทางที่ใส่ชิ้นส่วนศพเคลื่อนไหวเองได้

ด.ต.วิโรจน์ พวกอิ่ม สิบเวรห้องขัง สน.บางขุนนนท์ ได้เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่กำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ควบคุมห้องขังอยู่คนเดียวตามปกติ ได้เสียงกุกกักคล้ายวัตถุถูกลากอยู่ในห้องขัง เมื่อหันไปมองดู ปรากฎว่ากระเป๋าเดินทางมีล้อลากที่ผู้ต้องหาใช้ใส่ชิ้นส่วนศพของสามี จากเดิมที่วางนอนไว้กลับตั้งขึ้นอย่างน่าประหลาด ก่อนจะขยับหมุนเคว้งเป็นวงกลม 1 รอบ ทำให้ตกใจขนหัวลุก รีบย้ายออกมาตั้งหลักอยู่หน้าโรงพักจนเช้า

นอกจากนี้ ด.ต.วิโรจน์ ยังบอกอีกว่า ก่อนจะเจอเหตุอาถรรพ์ดังกล่าว น.ส.พรสุรีย์ เคยบอกว่า เห็นสามีที่ตายไปแล้วมาหาที่หน้าห้องขัง กำลังร้องไห้ สภาพไร้แขน 2 ข้าง ไม่มีขาขวา ศีรษะลอยไปมา บอกว่าไม่ได้โกรธแค้นอาฆาตที่ฆ่า แต่รู้สึกรักและเป็นห่วงที่ถูกจับ ไม่อยากให้ตำรวจดำเนินคดี เพราะในช่วงที่ป่วยก็ได้ดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำเป็นอย่างดี

ขณะที่ด้าน น.พ.ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับ น.ส.พรสุรีย์ เป็นผู้ป่วยในแล้ว จากการซักถามประวัติผู้ป่วย พบว่ามีการใช้สารเสพติดและมีการอาการหลงผิด หูแว่วได้ยินเสียงสั่งให้ฆ่าสามีและรู้สึกสำนึกผิด คิดว่าตัวเองเป็นคนชั่ว จึงได้ให้ยาฉีดและยารับประทาน พร้อมกับเฝ้าสังเกตอาการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนี้จะรวบรวมประวัติและพฤติกรรมของผู้ป่วย เพื่อทดสอบทางจิตวิทยา และสรุปว่า น.ส.พรสุรีย์ เป็นผู้ป่วยทางจิตหรือไม่

สำหรับเรื่องรูปคดีความ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงรอผลจากตรวจสอบสภาพจิตอีก 2 สัปดาห์ และหากผลตรวจออกมาว่า น.ส.พรสุรีย์ ไม่มีอาการทางจิตก็จะดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ต่อไป

ตำรวจผวา! เฝ้าสาวฆ่าหั่นศพผัว กระเป๋าใส่ศพหมุนเอง

 

รีบย้ายออกมาตั้งหลักอยู่หน้าโรงพักจนเช้า

ตั้งหลักนานเลยนะครับ :d

 

สงสารผู้ต้องหารายอื่นๆในห้องขัง ไม่รู้ว่าจะไปตั้งหลักที่ไหน:'(

 

อิอิ ตำรวจกลัวผี ^_^

 

ทีนี้ก็รู้ซ๊ะทีตายไปก็เป็นผีจริง ๆ

 

คนอื่นอาจฟังแล้วขำๆ แต่ผมเชื่อว่าจริง เพราะผมเคยเห็นแล้วกรณีแบบนี้กับตา

 

เผาศพกับพ่อมาเยอะ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยนะครับ ต้องตั้งสติให้มากๆๆๆครับ

 

เรื่องผีใครว่าฮาขอให้คิดใหม่เพราะมันฮาไม่ออก

 

มันตั้งได้ไงวะ -..-

 

คุณตำรวจก็อุทิศ ทำบุญให้คนตายไป เพราะเขามาขอส่วนบุญนะ จะบอกให้

 

พระท่านเคยบอกว่า กรณีที่เสียชีวิตกระทันหันเขาก็จะยังใช้ชีวิตเป็นปรกติเหมือนวันผ่าน ๆ มา เพราะยังไมรู้ว่าตนเองเสียชีวิตแล้ว แต่ก็ไม่สามารถพูดคุยหรือสื่อสารกับคนรอบข้างได้ทั้ง ๆ ที่อยู่อย่างใกล้ชิด(หมายถึงคนจริง ๆ) เพราะอยู่คนละภพกัน เขาจึงจะแสดงออกกับวัตถุรอบข้างเพื่อให้รู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้น เช่นลากกระเป๋า แบบนี้เป็นต้น

 

เป็นใครก็ต้องเผ่นทั้งนั้นละค่ะ

 

เหดียวนี้คนเราฆ่ากันง้ายเนอะ ทุกวันนี้ต้องใช้ สติ ให้มากๆ

 

เค้าคงต้องตั้งหลัก ก่อนจะตั้งสติได้อะครับ...แหะๆๆๆ(deejai)(deejai)

 

ครับ อิอิ ยึดหลักดีๆๆนะ

 

ธรรมดาครับ สรรพสิ่งเป็นของมันอยู่อย่างนั้น
ความตาย ก็ทำหน้าที่ของมัน ความกลัวก็ทำหน้าที่ของมัน
ความบ้าก็ทำหน้าที่ของมัน ความจริงคือ จิตที่มันไม่รู้ วิ่งแส่เข้ารับอารมณ์ต่าง ๆ
น่าอัศจรรย์ ! ในธรรมของพระผู้มีพระภาค จิตที่ปลอดพ้นจากอารมณ์ทั้งปวง ย่อมนิพพาน...

 

.... มันมีประเด็นหนึ่งที่ สังคมควรโฟกัสไป และทางการสำคัญที่สุด ว่าหญิงคนหนึ่ง ที่ดูเรียบร้อย ช่วยสามีมาตลอด ช่วงที่ป่วย เขาเอายาเสพติดมาจากไหน มันเกิดขึ้นได้ จากเพื่อน จากสังคม ผมเข้าใจว่าเพื่อนบ้านคงไม่อยากใส่ใจ เรื่องแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่คนผิดปกติ อยู่แต่ในห้อง ไม่ไปไหน เดี๋ยวนี้มีมาก ๆ ... เขาทำอะไรกันในห้องพัก ...

ผมเคยสังเกตหญิงวัยรุ่นสมัยนี้ อยู่แต่ในห้อง ไม่เรียน ไม่ทำงานเป็นกิจลักษณะ มักอ้างว่าทำงานฟรีแร้นนอะไรนั่น ... มีโลกส่วนตัวกับเพื่อน ๆ ที่มาหา ... บางคนอาจดูไม่มีอาชีพชัดเจน นอกจากคนเลี้ยง .. นี่คือปัญหาสังคมที่สำคัญมาก ขณะนี้

สมัยก่อน เขาอาจซื้ออาหาร ซื้อเหล้าเข้ามาที่พัก แล้วเดินออกมาซื้ออีก แต่เดี๋ยวนี้ มันคงเดินมาไม่มีอะไรมากมาย (เข้ามาเสพยา) หลาย ๆ วัน แล้วออกมาครั้งหนึ่ง ... ผมสังเกตุมา ไม่น่าพลาด ... ต้องมาเข้าสมาบัติรวมกันแน่ ๆ 2-3 วันไม่ไปไหน ?? 55+

ผมว่า ..แจ้งตร. ให้จับได้จับ เขาจะได้รับบทเรียนเนิ่น ๆ กัน ... ก่อนที่ อีก 10 ปีข้างหน้าเราจะมีเยาวชนที่สมองเสื่อมอย่างแรง และมีอาการทางประสาทหลอนกันมากมาย ... สังคคมต้องร่วมกันรับผิดชอบ ... ไม่ใช่มาสนใจ แต่เรื่องผี ลูกข่าง ฮิฮิ

 

เป็นเราขอย้ายไปตั้งหลักโรงพักอื่นเลยล่ะฮาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ