เรื่องพระเจ้าตาก จากหลวงพ่อจรัล

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย korea_me, 4 พฤศจิกายน 2011.

  1. korea_me

    korea_me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +154
    เรื่องพระเจ้าตาก จากหลวงพ่อจรัล

    <table class="sites-layout-name-one-column sites-layout-hbox" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="sites-layout-tile sites-tile-name-content-1">
    [​IMG]
    เรื่องพระเจ้าตาก จากหลวงพ่อจรัญ
    [SIZE=-1]ข้อ เท็จจริงตามประวัติศาสตร์ที่ว่า พระเจ้าตากนั้นเป็นผู้กู้เอกราชให้กับไทยนั้นพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักรบ ที่เก่งกาจกล้าหา­ญ และเสียสละอย่างมากอย่างที่ชนธรรมดามิได้ล่วงรู้อีกมากมาย แต่เรื่องที่จะเล่าเกี่ยวกับพระเจ้าตากนั้นไม่ได้มีในประวัติศาสตร์ที่เรา เคยเรียนกัน

    พระเจ้าตากมิใช่เป็นลูกของคนจีนสามั­ญชนตามประวัติ ศาสตร์ แต่เป็นโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศกับสนมลับชาวจีนชื่อ ไหฮอง แต่เนื่องจากสมัยอยุธยานั้นมีการแก่งแย่งชิงดีกันมาก มีการฆ่ากันเพื่อชิงราชสมบัติ พระมารดาของพระเจ้าตากเกรงจะเป็นอันตราย จึงได้ปิดเป็นความลับ และบอกว่าบิดาของพระเจ้าตากชื่อ ไหฮอง (ชื่อของนางเอง) และมารดาชื่อนางนกเอี้ยง (ชื่อที่แต่งขึ้นไม่มีตัวตนจริง)


    ประวัติ ศาสตร์นั้นได้ถูกบันทึกไปตามเหตุการณ์ที่ถูกทำให้เป็นว่าเป็นไปโดยที่หามี ใครรู้ข้อเท็จจริงไม่ (โดยส่วนตัวของข้าพเจ้าในสมัยที่เรียนประวัติศาสตร์นั้นก็มีความรู้สึกไม่ ค่อยเชื่อว่าคนที่จะขึ้นมาเป็นระดับพระมหากษัตริย์นั้นจะเกิดมาจากคนสามั­ ญชนเพียงเท่านั้น เพราะผู้ที่จะเป็นพระมหากษัตริย์นั้นย่อมต้องมีบุ­บารมีสูงย่อมน่าจะสืบสาย เลือดมาจากเชื้อพระวงศ์)

    พระเจ้าตากไม่ได้สติวิปลาสและถูกสำเร็จ โทษด้วยท่อนจันทน์ดังที่ได้บันทึกในประวัติศาสตร์ ความจริงเป็นพระประสงค์ของพระองค์เองที่จะสละความเป็นกษัตริย์เพื่อหันไปออก ผนวชเป็นพระภิกษุจึงได้ขอร้องให้พระสหายร่วมสาบานปราบดาภิเษกแทน (พระสหายนี้คือรัชกาลที่หนึ่งนั่นเอง)

    ความจริงพระสหายนั้นมีความ ซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้าตากเป็นมั่น มิได้มีความคิดที่จะก่อกบฏหรือหวังขึ้นตั้งตัวเป็นกษัตริย์ และก็ไม่ยอมทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าตากแต่ด้วยเหตุผลของพระเจ้าตากว่า พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ยากจนเข็ญ­ใจ เงินในท้องพระคลังไม่มีเลย ไม่มีแม้แต่เบ­จราชกกุธภัณฑ์ (เครื่องหมายแสดงความเป็นพระราชา มี ๕ ได้แก่ พระขรรค์ ธารพระกร อุณหิส ฉลองพระบาท และวาลวิชนี) เนื่องจากผลของสงคราม ข้าวยากหมากแพง พระองค์ต้องช่วยเหลือราษฎรของพระองค์ จนต้องเป็นหนี้กับจีนถึงหกหมื่นตำลึง ถ้าหากพระองค์จะค่อยๆ ผ่อนใช้ก็พอได้แต่เมื่อรู้ว่าจีนคิดมิซื่อหวังยึดเอาไทยเป็นของตน ดังนั้นจึงมิอาจยอมได้ทรงคิดว่าการผลัดแผ่นดินเป็นการล้างหนี้ที่ดีที่สุด

    พระองค์ ทรงใช้กุศโลบายเพื่อรักษาเอกราชของชาติ โดยแสร้งทำตนว่าสติวิปลาสแล้วให้พระสหายขึ้นปราบดาภิเษก ถึงตอนนั้นจีนก็ไม่สามารถยึดเอาไทยไปได้เพราะผู้ที่ทำสั­­ญญากับจีนนั้นเป็น พระเจ้าตากเพียงผู้เดียวที่รับผิดชอบ

    ผู้ที่ถูกสังหารด้วยท่อน จันทน์ไม่ใช่พระเจ้าตากแต่เป็นสหายอีกคน(หลวงอาสาศึก) ที่หน้าตาท่าทางคล้ายกับพระเจ้าตากเป็นอันมาก ยอมเสียสละชีวิตตนแทนส่วนพระเจ้าตากนั้นพระสหายได้แอบพาหนีไปที่อื่นอย่าง ปลอดภัย นี่แสดงให้เห็นถึงความเสียสละของพระเจ้าตากกับความรักความสามัคคีและความ ซื่อสัตย์ที่พระสหายมีต่อพระเจ้าตากนั้นเป็นที่สูงสุด และนี้จึงเป็นผลบุ­ให้พระสหายซึ่งต่อมาได้สืบพระราชวงค์ใหม่ได้มีแต่ความเจ ริ­ญยั่งยืนสืบยาวนานตลอดรัชกาล

    พระเจ้าตากสิ้นพระชนม์(ละสังขาร)อย่างไร
    เมื่อ ครั้งที่พระเจ้าตากได้ไปตั้งค่ายในป่าได้พบกับพระรูปหนึ่งได้ให้กรรมฐานแก่ พระเจ้าตากจึงทรงมิอยากครองราชต่อไป ทรงดำเนินแผนการว่า ทางอยุธยาเกิดเรื่องจึงสั่งให้พระยาสวรรค์ยกกองทัพไปปราบ เสร็จแล้วให้กลับมายังกรุงธนบุรีและล้อมพระราชฐานไว้แล้วจับพระองค์บวชเสีย แต่ปรากฏว่าพระยาสวรรค์เกิดลืมตัวอยากเป็นใหญ่ ตั้งตนเป็นกษัตริย์ขึ้นมาจริงๆ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (รัชกาลที่หนึ่ง) จึงได้ยกทัพลงมาปราบ ส่วนพระเจ้าตากได้ไปเจริ­วิปัสนากรรมฐานในถ้ำแห่งหนึ่งที่เพชรบุรี ในวันที่พระองค์บรรลุธรรมสูงสุดคือวันที่ท่านละสังขาร ขณะที่กำลังดูดดื่มอยู่ในวิมุติสุข พระองค์ถูกชายสองคนใช้ไม้คมแฝกฟาดที่ศรีษะอย่างนับไม่ถ้วน ชายสองคนนั้นเป็นพวกกลุ่มคนที่ต้องการเอาความดีความชอบ เมื่อรู้ว่าผู้ที่ถูกสำเร็จโทษ ไม่ใช่พระเจ้าตากตัวจริงจึงสืบหาเพื่อตามสังหารแต่กรรมตามทันมีการกบฏซ้อนกบ ฎกันวุ่นวายพวกนั้นก็ฆ่ากันตายเอง ส่วนพระเจ้าตากได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์กลายเป็นวิสุทธิเทพในที่สุด

    หนังสืออ้างอิง
    ความหลงในสงสาร,(สุทัสสาอ่อนค้อม),๒๕๔๙

    เรื่อง ราวนี้เป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของพระเดชพระคุณพระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ­ จิตธัมโท/หรือพระครูเจริ­ จิตธัมโม) ซึ่งได้เจริ­กรรมฐานจนได้อนิสงส์สามอย่างคือระลึกชาติได้เจ็ดชาติเห็นกฏแห่ง กรรมและเกิดปั­­ญญาแก้ปั­ญหาได้ ท่านได้พบกับพระเจ้าตากซึ่งเป็นพระวิสุทธิเทพแล้วเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน พระเจ้าตากได้เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังด้วยต้องการให้นำไปเผยแพร่ข้อเท็จ จริง เพราะท่านเห็นว่าคนไทยเราต่างมีความขัดแย้งกันมากมาย ที่สำคัญ­คือท่านไม่ต้องการให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมเสียเพราะจากความเข้าใจ ผิดและความมิชฉาทิฐิ ท่านที่ได้อ่านจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ปั­­ญญาและสัมมาทิฐิของแต่ละบุคคล แต่โดยส่วนตัวของข้าพเจ้ามิได้มีอำนาจอิทธิฤทธิ์ใดๆ ที่จะเห็นได้ว่าเรื่องที่เล่านั้นจริงหรือไม่เพียงแต่อ่านแล้วรู้สึกเกิดแรง บันดาลใจที่จะเล่าต่อต่อให้แก่กัน

    โดยหวังว่าอานิสงค์นี้จะช่วยก่อ ให้เกิดผลแก่ประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้ ประชาชนได้เกิดความสามัคคี อย่าได้มีความขัดแย้งแตกแยกกันจงเกิดปั­­ญญาและสัมมาทิฐิ รู้ข้อเท็จจริงด้วยปั­­ญญาของตนเอง มิใช่จากการฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้างแล้วมิได้ไตร่ ตรองจนทำให้เกิดความทะเลาะเบาะแว้ง

    เมื่อท่านได้อ่านแล้วมีจิตนึกถึง ความเจริ­ญของ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์" ก็ขอให้ช่วยกันอธิษฐานแล้วช่วยลงความเห็นยิ่งมากเท่าไหร่ ย่อมเป็นพลังให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากขึ้นเท่านั้น และด้วยบุญ­แห่งการอธิษฐานที่ไม่ใช่เพื่อตัวเองนี้แลจะกลับมาส่งถึงตัวท่าน เองมากมายหลายร้อยเท่า[/SIZE]


    ที่มา : BlogGang.com : : AccordingTo -
     
  2. Bhuddhaarmy

    Bhuddhaarmy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +20
    อนุโมทนาสาธุ ครับ ขอเสริมอีกอย่างนึง พระเจ้าตากสินท่านผนวชแล้วไปที่ถ้ำอยู่ที่นครศรีธรรมราชด้วย
     
  3. savanna2

    savanna2 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2011
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +65
    ขอบพระคุณที่เผยแพร่ ข้อมูลดีๆ
     
  4. rangboon

    rangboon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +25
    อนุโมทนาครับ สักวันหนึ่งประเทศไทยเราจะต้องเจริญรุ่งเรืองและมีแต่คนดีครับ
     
  5. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,198
    อ่านหาความรู้ไว้นะครับ เพื่อรักษาไว้ซึ่งระบบพระมหากษัติรย์คู่เมืองไทย
     
  6. Benevolent

    Benevolent สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +3
    ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นสมบัติที่พวกเราชาวไทยทุกคนต้องหวงแหนและเทิดทูน
     
  7. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    "ส่วนพระเจ้าตากได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์กลายเป็นวิสุทธิเทพในที่สุด"

    ประโยคนี้มาจากหลวงพ่อจรัญจริงหรือครับ

    เพราะรู้สึกจะไม่ตรงกับคำสอนเรื่องสภาวะนิพพานของหลวงพ่อจรัญนะครับ
    (รู้สึกท่านไม่สอนว่าบรรลุอรหันต์แล้วเป็นพระวิสุทธิเทพสถิตอยู่บนพระนิิพพานตลอดไป
    แต่สอนทำนองว่านิพพานจิตดับสูญ นิพพานไม่ใช่เมืองแก้ว)

    ถ้าผิดก็ขออภัย

    อีกอย่าง ครูบาอาจารย์อีกท่านกล่าวว่าพระเจ้าตากปรารถนาพุทธภูมิ
    และนิพพานข้างบนนะครับ
     
  8. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    หลวงพ่อจรัญเล่าได้ตรงกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำค่ะ
    ว่าเดิมสมเด็จพระเจ้าตากสินนั้นทรงปรารถนาพุทธภูมิไว้จริง

    หลวงพ่อเล่าเรื่องพระเจ้าตากลาพระโพธิญาญ

    เรื่อง...พระเจ้าตากสินลาพุทธภูมิทีนี้ วันพระเจ้าตากสิน วันที่ ๒๘ ธันวาคม
    เราก็ไหว้ ไหว้พระเจ้าตากสินที่เป็นกษัตริย์ด้วย ไหว้พระเจ้าตากสินที่เป็นพระด้วย

    อันนี้เป็นการยืนยันว่าพระเจ้าตากสินก่อนจะสวรรคตเป็นพระ แล้วก็ไม่ได้ถูกฆ่าตาย
    สวรรคตที่นครศรีธรรมราช ถ้ำของท่านยังอยู่ใครอยากจะไปดู ก็ไปดู กุฏิหลังนั้น
    เขาทำเลียนแบบไว้ แต่ความจริงกุฏิที่ท่านอยู่จริงๆ ดีกว่านั้น

    เขาทำมีความผาสุกกว่านั้น เวลาท่านออกมาจากถ้ำ ท่านก็มีที่พัก
    มีห้องพัก ห้องร้อน ห้องเย็นของท่านตามสบายๆ

    แต่ความจริงไม่ได้สั่งลูกชายเป็นคนสร้าง ท่านอยู่ด้วยความสงบ
    คนที่เป็นกษัตริย์มาแล้ว เป็นทุกอย่างมาแล้วมันก็หมดความโลภ
    ความโกรธ ความหลง แล้วก็คนแก่ด้วย ก็หมดความรักฉะนั้น

    การปฏิบัติธรรมของท่าน ก็เป็นด้วยความเคร่งครัด คือไม่ได้เคร่งเครียด
    คำว่า "เคร่งครัด" คือปฏิบัติตรงไปตรงมาใน "มัชฌิมาปฏิปทา"
    แต่ทว่า พระเจ้าตากสิน เป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็น "พระโพธิสัตว์"
     
  9. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    แล้วต่อมาภายหลัง ถามภาพนิมิต ระยะเวลาใกล้ๆประมาณ มกราคม ๒๕๓๓
    เอากันแค่ วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๓๓ วันนั้นพบ พระเจ้าตากสินอีกครั้งหนึ่ง

    คือว่า พ.อ.สถาพรนำดาบเล่มหนึ่ง มาจากเมืองตาก เขาบอกว่า ดาบของพระเจ้าตากสิน เพื่อมาให้เจ้ากรมการสัตว์ทหารบกที่นครปฐม ซึ่งเป็นนายทหารม้ารุ่นพี่ของ พ.อ.สถาพร

    เมื่อคืนวันที่ ๒๙ เขามาให้ไว้ คืนนั้นก็ปรากฏว่า ตั้งไว้ในที่มีเครื่องสักการะตั้งไว้บนเตียง
    ที่สมควร พอตอนดึกเวลาประมาณสักหกทุ่ม เวลาจะนอนลงก็ทำจิตเป็นสมาธิตามปกติ
    ของพระ ก็เห็นภาพพระเจ้าตากสิน สวยงามมาก มาที่ดาบ ถามว่า "มาทำไม?"

    ท่านบอกว่า "ก็เขาว่าดาบของผมนี่ครับ ผมก็ทำให้มันหน่อย"

    ถามว่า "ทำแล้วจะมีประโยชน์อะไรบ้าง?" ท่านก็บอกว่า "ประโยชน์มี"

    ท่านอธิบายให้ฟัง แต่ขอปิด ไม่ใช่ปิด แต่ไม่บอกให้ทราบ หลังจากนั้นก็คุยกัน
    ถามว่า "เวลานี้ลาจากพุทธภูมิหรือยัง?" ท่านบอกว่า "ยังไม่ได้ลา" ก็ถามว่า
    "ตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้าจริงๆ หรือ..?" ท่านบอกว่า "เวลานี้ปรากฏว่าพระโพธิสัตว์
    ที่มีบารมีเต็ม รอคิวกันยาวเหยียด ผมก็อยากจะลาจากพุทธภูมิเหมือนกัน
    แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ถ้าลาแล้วจะมีผลเป็นประการใด?"

    ก็เลยบอกว่า "ถ้าอย่างนั้น ก็ไปคุยกับพระกันดีกว่า ไปด้วยกันไหมล่ะ?"
    ท่านบอกว่า "ไปซิ! ที่มานี่ก็จะมาชวนไปด้วยกัน"ไปด้วยกัน ไปหาพระท่าน

    ไปถึงเมื่อกราบท่านแล้วก็ถามว่า... "เวลานี้ พระสิน เทวดาสินนี่
    เวลานี้เป็นพระโพธิสัตว์ ก็ชักเอือมๆ อยากจะทราบว่า จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่เท่าไหร
    หลังจากพระศรีอาริย์ไปแล้ว...?"
     
  10. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    พระท่านก็บอกว่า "จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓๐ หลังจากพระศรีอาริย์นิพพานแล้ว"
    ก็เล่นเอาเทวดาสินหน้าซีดเซียว...ต้องไปนั่งยิ้มที่ชั้นดุสิตอีกถึง ๓๐ พระพุทธเจ้า
    ๓๐ พุทธสมัย

    ก็เลยถามพระท่านบอกว่า(พระอะไรน่ะห้ามถามนะ! ถ้าจะถามว่า ถามพระอะไร
    ก็บอกว่าพระก็แล้วกัน) "ถ้าเทวดาสินจะลาพุทธภูมิ เมื่อไรจะไปนิพพาน"

    ท่านบอกว่า "เทวดาสินนี่ ถ้าหากลาจากพุทธภูมิเป็นสาวกภูมิ กำลังเต็มมานานแล้ว
    กำลังเหลือ ก็เหลือแค่ "เอหิภิกขุ" เท่านั้นก็พอแล้ว ถ้าตรัสว่า "เอหิภิกขุ" เทวดาสิน
    ก็เป็นพระสมบูรณ์แบบ"

    ท่านก็เลยเข้าไปกราบพระ พระท่านก็บอกว่า "เอหิภิกขุ เจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด"
    เพียงเท่านี้ เทวดาสินก็กลับสภาพจากเทวดาเป็นเทวดาต่อไป

    คำว่าเทวดาต่อไป ก็หมายถึงว่าเป็น "วิสุทธิเทพ"นี่เป็นเรื่องของนิมิตลืมตา
    ไม่ใช่นิมิตหลับตา ไม่ได้เข้าฌานสมาบัติ ถ้าถามว่า ถ้าไม่เข้าฌานสมาบัติรู้ได้อย่างไร

    ก็บอกว่า ท่านแสดงภาพให้รู้ มันก็รู้ด้วยกันทุกคนแหละ ไม่ว่าใคร ไม่มีความจำเป็น
    คนที่เห็นผีน่ะเข้าฌานหรือเปล่าล่ะ เดินไปแล้วก็ถูกผีหลอก ต้องเข้าฌานหรือเปล่า

    มันก็เปล่า สภาพนี่ก็เหมือนกัน ผีไม่ได้หลอก แต่ว่าผีมาชวนคุย
    ผีมาบอกตามความเป็นจริง ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าฌานสมาบัติ

    มันเรื่องง่ายๆ เรื่องไม่ยาก เรื่องนี้ก็จบกันไปแล้วจากนิตยสารธรรมปฏิบัติ
    ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๒๓๔ ตุลาคม ๒๕๔๓

    (ถ้าลองสังเกตดู...เรื่องเกี่ยวกับการพยากรณ์ว่าใครจะเป็นพระพุทธเจ้า
    องค์ที่เท่าไหร แม้แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเองท่านก็ยังต้องถามกับพระท่านโดยตรง)
    ที่มา เวปแดนพระนิพพานดอทคอม....
     
  11. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    มีอะไรที่เป็นข้อขัดข้องต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
    ด้วยความเคารพ
     
  12. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    นี่ก็เป็นบทความหนึ่งในตอนที่หลวงพ่อเล่าเรื่องเดียวกัน...

    “...เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ อาตมาป่วยหนัก ไปนอนพักรักษาตัว
    ที่กรมแพทย์ทหารเรือ (ปัจจุบันโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า)
    ไปนอนอยู่ที่ตึก ๑ เป็นห้องพิเศษ เวลาประมาณ ๔ ทุ่มเศษๆ
    ไฟฟ้าในห้องยังไม่ดับและประตูก็ใส่กลอนแล้ว ถึงเวลานอน

    นอนคนเดียวยังไม่หลับ ปรากฏว่ามีคนๆ หนึ่งมายืนอยู่ข้างเตียง
    เป็นชายลักษณะเป็นคนล่ำๆ ท่าทางแข็งแรง ทะมัดทะแมง
    ปราดเปรียวมาก เป็นคนผิวขาว หน้าค่อนข้างจะสี่เหลี่ยมนิดๆ
    แต่มีเนื้อเต็ม นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาวเหนือเข่านิดหนึ่ง ใส่เสื้อแขนสั้นสีขาวเหนือศอกหน่อย


    ก่อน ที่อาตมาจะเห็นท่านผู้นี้ ก็เพราะขณะที่ไปนอนป่วยอยู่ที่นั่น
    ก็มีความรู้สึกว่า บรรดาผีทั้งหลายอาจจะแกล้งได้ง่าย เนื่องจากกำลังใจ
    ของคนป่วยความเข้มแข็งน้อย ก็นึกว่าในที่นี้เป็นเขตพระราชฐานของ
    สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงขอพึ่งบารมีท่านให้คุ้มครอง

    พอท่านมายืนก็มองเห็น ไม่ต้องหลับตา ไม่ต้องเข้าฌาน
    ในเมื่อผีจะแสดงตัวให้ปรากฏ แต่ความกลัวไม่มีเพราะเรื่องนี้ชินมา
    ตั้งแต่บวชพรรษาที่ ๑ ก็เลยถามท่านว่า “ท่านเป็นใคร”

    ท่านผู้นั้นก็ถามว่า “เมื่อกี้ท่านนึกถึงใคร”
    ก็ตอบท่านว่า “นึกถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”


    ท่านก็บอกว่า “ผมนี่แหละ พระเจ้าตากสินมหาราช”
    ก็เลยมองไปมองมา ดูลักษณะการแต่งตัวของท่าน

    ท่านถามว่า “มองอะไร”
    ก็บอกว่า “มองดูลักษณะพระเจ้าตากสินมหาราช”

    ท่านถามว่า “เชื่อหรือยังว่าเป็นพระเจ้าตากสินมหาราช”
    ตอบว่า “ยังไม่เชื่อ ที่มองนี่เพราะยังไม่เชื่อ”

    ท่านถามว่า “ไม่เชื่อตรงไหน”
    ก็บอกว่า “ไม่เชื่อตรงกางเกงกับเสื้อ เพราะพระมหากษัตริย์ไม่น่าจะนุ่งแบบนี้”

    ท่านถามว่า “กษัตริย์ต้องทรงเครื่องกษัตริย์นอนเชียวหรือ
    นี่มัน ๔ ทุ่มกว่าแล้วนะ”

    ก็บอกว่า “จะรู้ได้อย่างไรในเมื่อเป็นกษัตริย์ เวลาเป็นผีมาแสดงตน
    ให้ปรากฏก็ต้องใช้เครื่องทรงแบบกษัตริย์”

    ท่านบอกว่า “ใช้เครื่องทรงกษัตริย์ก็ได้”
    พอพูดจบเครื่องทรงก็เป็นกษัตริย์ ท่านถามว่า “เชื่อหรือยัง”
    ตอบว่า “ตอนนี้เชื่อแล้ว”


    ต่อ มาก็คุยกันตั้งแต่ ๔ ทุ่มเศษๆ ถึงตี ๕ ครึ่ง คุยกันเรื่องในอดีต
    ความเป็นมาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งแต่เป็นเด็กชายสิน
    ไว้หางเปีย จนกระทั่งถึงขั้นวางแผนให้รัชกาลที่ ๑ เป็นพระมหากษัตริย์
    เป็นการยืนยันว่าพระองค์ไม่ได้ถูกรัชกาลที่ ๑ ประหารชีวิต

    เมื่อรัชกาลที่ ๑ ขึ้นเถลิงราชสมบัติแล้ว ก็นำสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
    ท่านบวชเป็นพระแล้ว นั่งคานหามไปส่ง ออกทางปากท่อตอนกลางคืน
    ไปส่งที่ถ้ำในจังหวัดนครศรีธรรมราช


    ลูก ชายของพระองค์ท่านมี ๒ คน คนพี่ให้เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช
    จะได้บำรุงพ่อ คนน้องก็ให้ทุนเป็นพ่อค้าสำเภา เป็นการหาทรัพย์สินเข้าเมือง
    เป็นการยืนยันว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนจะสวรรคตเป็นพระสงฆ์ ไม่ได้ถูกฆ่าตาย พระองค์สวรรคตที่นครศรีธรรมราช

    ถ้ำที่พระองค์ท่านพักก็ยังอยู่ กุฏิหลังนั้นเขาทำเลียนแบบไว้
    แต่ความจริงกุฏิที่อยู่จริงๆ ดีกว่านั้น เขาทำให้มีความผาสุกกว่านั้น
    ออกจากถํ้าท่านก็มีที่พัก มีห้องพักแบบสบายๆ ความจริงท่านไม่ได้สั่ง
    แต่ลูกชายเป็นคนสร้างให้


    ท่านอยู่ ด้วยความสงบ คนที่เป็นกษัตริย์มาแล้ว เป็นทุกอย่างมาแล้ว
    มันก็หมดความโลภ ความโกรธ ความหลง และก็เป็นคนแก่ด้วย
    ก็หมดความรัก

    ฉะนั้น การปฏิบัติธรรมของท่านก็เป็นไปด้วยความเคร่งครัด
    แต่ไม่ได้เคร่งเครียด คำว่า “เคร่งครัด” คือ “ปฏิบัติตรงไปตรงมาในมัชฌิมาปฏิปทา”


    ก่อนท่านจะลากลับ อาตมาถามว่า “ขอหวยสัก ๒ ตัวได้ไหม”
    ท่านบอก ว่า “สมัยผมมีแต่หวยจับยี่กี หวยแบบเลขท้าย ๓ ตัว ๒ ตัว
    แบบนี้ไม่มี เรื่องหวยนี่ผมไม่รู้หรอก แต่เวลานี้ผมมีสตางค์ติดกระเป๋ามา
    เพียงแค่ ๒๕ สตางค์ ผมขอถวายหมด”

    พูดแล้วท่านก็หยิบเหรียญโยนไปใต้เตียงเห็นเลข ๒๕ ใสแจ๋ว
    พอตอนเช้าบรรดาพยาบาลและนายทหารประจำตึกมาถามว่า
    “เมื่อคืนมีอะไรบ้างครับ”

    ก็ เลยเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาเยี่ยม
    ขอหวยท่าน ท่านบอกว่าไม่มี มีแต่เงินเหรียญ ๒๕ สตางค์
    แล้วท่านก็โยนไปใต้เตียง ปรากฏว่าภายในวันนั้นข่าวกระจายไปทั่วกรมอู่
    ทุกคนเล่นเลขท้าย ๒ ตัว ถูกกันมาก
    ...
     
  13. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
  14. Seishin

    Seishin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +2
    พระสงฆ์อวดอุตริมนุษยธรรมถือว่าขาดจากความเป็นภิกษุแบบนี้ยังเชื่อหรือไง มีปัญญากันมั่งไหม พระองค์โดนกบฏยึดอำนาจเป็นความจริง คนรุ่นหลังมันจะแต่งยังไงก็ได้ สารพัดจะแต่ง ที่ว่าพระองค์พระสติวิปลาสคิดว่าจริงหรือ ไปดูใคร"แต่ง"ประวัติศาสตร์ ไอ้พวกอลัชชีมาพูดมาบอกอย่างโน้นอย่างนี้ก็ถือเป็นจริงเป็นจัง
     
  15. wikonr

    wikonr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +386
    ท่านก็อย่าพึ่งเชื่อตำรา เคยเรียนไหมกาลามาสูตร อย่าพึ่งกล่าวหา ปรามาสใคร มันจะเป็นบาป ผมไม่ได้สอน แต่หวังดี บางครั้งประวัติศาสตร์ก็ไม่เป็นความจริง ไม่มีใครรู้ นอกจากได้อภิญญา แล้วกลับไปดู เราท่านยังไม่ได้ แต่พระที่ท่านว่า บางท่าน ได้ อย่าพึ่งกล่าวหาใครเลย ฟังไว้เป็นนิทาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...