ผมคิดดัง ทรมาณมาก แปลกแต่จริงครับ ช่วยเข้ามาอ่านด้วยครับ

ถ้าตายเวลานี้โอกาสไปนรกมีสูงมากครับ เพราะความที่สติอ่อน และจิตมีโทสะ(เครียด อยากตาย) ความทรมานในนรกนั้นมีมากกว่าความเจ็บป่วยในอัตภาพมนุษย์มากมายมหาศาล เมื่อไปแล้วก็ออกยาก เพราะในนั้น จิตเกิดกุศลได้ยากจนเกือบเป็นไปไม่ได้เพราะมีแต่ทุกข์ ความกลัวจากการทรมานการไล่ฆ่านานัปการ..

ครั้นหมดวาระลง อาจได้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานต่อเพราะบาปเก่าตามส่งต่อ จากนรกสู่นรก จากเดรัจฉานสู่เดรัจฉาน ยากมากที่จะได้เกิดเป็นคน...


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า "การได้อัตภาพเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก" แต่การดำเนินชีวิต ให้ถูกทางเมื่อมาแล้วยังยากกว่า เพราะถ้าดำเนินชีวิตไม่ถูกทางแล้วชีวิตในอนาคตมีแต่จะตกต่ำลง ยากนักที่จะมีโอกาสกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ในเมื่อตายไป
การเกิดเป็นมนุษย์ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างนำเกิดฉันใด การดำเนินชีวิตให้ถูกต้องเมื่อเกิด มาแล้ว ก็ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างฉันนั้น
การเกิดเป็นมนุษย์ต้องอาศัย บุญ มีทานเป็นต้นนำเกิด</pre>
ท่านผู้ถามพึงทราบว่า แม้กรรมเก่าส่งมาให้มีโรคร้าย แต่ในสังสารวัฏที่หาเบื้องต้นไม่ได้ ท่านก็ได้ทำบุญต่างๆมาเช่นกัน หาไม่แล้วท่านจะไม่สามารถเข้ามาพบกัลยาณชนในที่นี้เลย ..

เรามีปัจจุบันให้ทำกรรมใหม่ สามารถเลือกทำกรรมดีๆได้หลายประการ..ขอยกกรรมดีที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนมาให้เป็นแนวทางดังนี้ครับ..
บุญกิริยาวัตถุ 10 -ที่ตั้งแห่งการทำบุญ, ทางทำความดี


1. ทานมัย -ทำบุญด้วยการให้ปันสิ่งของ
2. สีลมัย -ทำบุญด้วยการรักษาศีลหรือประพฤติดี
3. ภาวนามัย -ทำบุญด้วยการเจริญภาวนาคือฝึกอบรมจิตใจ
4. อปจายนมัย -ทำบุญด้วยการประพฤติอ่อนน้อม
5. เวยยาวัจจมัย -ทำบุญด้วยการช่วยขวนขวายรับใช้
6. ปัตติทานมัย -ทำบุญด้วยการเฉลี่ยส่วนแห่งความดีให้แก่ผู้อื่น(อุทิศกุศล)
7. ปัตตานุโมทนามัย -ทำบุญด้วยการยินดีในความดีของผู้อื่น (อนุโทนา)
8. ธัมมัสสวนมัย -ทำบุญด้วยการฟังธรรมศึกษาธรรม
9. ธัมมเทสนามัย -ทำบุญด้วยการสั่งสอนธรรมให้ความรู้
10. ทิฏฐุชุกัมม์ -ทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ตรง

อ่านรายละเอียดเพิ่มที่นี่ครับ
http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/pra-thep-visut-kawee/pra-thep-visut-kawee-02.htm

พึงทราบว่า สิ่งทั้งปวงย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ระยะหนึ่งแล้วย่อมหมดไป ดังนั้น แม้โรคที่ท่านเป็นอยู่ ก็จะหายไปในวันหนึ่งเช่นกัน หากท่านท้อแท้เสีย คิดแต่จะตาย นอกจากไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นแก่ตนแล้ว แม่ย่อมหัวใจสลายยิ่งนัก..


ผมค้นด้วยภาษาอังกฤษจึงพบว่ามีฝรั่งมากมายที่เป็นโรคนี้มากมายหลายราย....บางคนเป็นจบปริญญาโทมีหน้าที่การงานดี..
ดังนั้นพึงทราบว่า..โรคนี้มิใช่ท่านคนเดียวในโลกที่เป็น มีคนอื่นๆอีกมากมายเช่นกันที่เป็นคล้ายๆกับท่าน แต่เขาเหล่านั้นก็ไม่ได้คิดอยากตายอะไร แต่ก็ทรมาน(อับอายในสังคม)...คำแนะนำที่พบเจอคือให้ไปปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งจะมีวิธีรักษาได้ถูกต้อง...(ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี น่าจะมีแผนกจิตเวช ลองไปหาดูครับ..แนะนำที่นี่เพราะไม่แพงและพยาบาลและหมออัธยาศัยดี))

ขอเรียนถามท่านผู้ถามว่าในขณะที่พูดความคิดออกมานั้น ตัวเองรู้ว่าพูดออกไปหรือไม่ หรือไม่รู้แต่เดาเอาจาก การแสดงออกของคนรอบข้าง?

ไม่ทราบว่า ท่านมีสิ่งใดอื่นในร่างกายผิดปกติเช่นพิการหรือไม่อย่างไร?

หรือตนเองรู้สึกมีปมด้อยอะไรอื่นๆนอกจากอาการคิดดัง?..

ผมจะพยายามค้นหาข้อมูลโรคเพิ่มเติม..

 

น่าสงสารจัง

 

ขาดตัวเดียวคือ "สติ" ค่ะ

 

ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆครับ

 

ตอบ รู้นะครับ รู้ว่าตัวเองคิด แต่ก็ห้ามไม่ได้เพราะคนเราต้องคิดอยู่ตลอดเวลา ถ้าเกิดคิดอะไรแผลงๆล่ะได้เรื่องได้อายเลย
สิ่งผิดปกติไม่มีครับ เดินเหินไปมาได้สะดวก
ท่าน ddman พยายามค้นหาข้อมูลให้ผมๆซึ้งใจมากครับ ผมพอมีตังสู้ค่ายาได้ พ่อแม่เป็นข้าราชการครู ถึงไม่หายขาดขอให้ดังน้อยลงก็ดีครับ

 

ขอบคุณครับ คนในเว็ปนี้ใจดีมากครับ

 

อย่าคิดอะไรสั้น ๆ นะคะ แล้วคุณจะเสียดายถ้าคุณได้พบแสงแห่งธรรม เริ่มปฏิบัติบ้างหรือยังคะ

 

ปฏิบัติแล้วครับ ผมไปอยู่วัดมาสองเดือน
ยังรอความเห็นใจจากท่านอื่นอยู่นะครับ

 

โมทนา สาธุ ครับ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ขออย่าได้หยุดเพียร
เมื่อใดที่มีดวงตาเห็นธรรม
ย่อมที่จะล่วงพ้นแล้ว จากทุกข์นี้

 

ขอดูคลิปหน่อยสิครับ อยากรู้ว่าผมจะได้ยินไหม

 

ได้ยินแน่ครับ 100 เปอร์เซนต์ แต่ผมไม่มีอุปกรณ์ถ่ายครับ ถ้ารักษาไม่ได้จริงๆตอนนี้ก็เตรียมตัวไปอยู่โรงพยาบาลจิตเวชครับ

 

วิธีรักษาง่าย แต่ว่าจะทำได้มั๊ยเท่านั้นแหละ

ภาวนาพุทโธต่อเนื่องอย่าให้ขาด ไม่เกิน7วัน หายแน่

ภาวนาพุทโธรัวๆอย่าให้ขาด นึกเอาหรืออกเสียงเบาๆก็ได้ ปิดวาจาไปเลยไม่ต้องคุยกับใครเวลากินให้คิดในใจเอา

 

ขอบคุณครับ ท่าน<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->痛苦。ครับ

 

ขออนุญาตดันกระทู้นิดนึงนะครับ ด้วยความเคารพ

 

เอามาฝากเผื่อจะมีประโยชน์ครับ

http://palungjit.org/threads/วิจัยพบบทสวดโพชฌงค์แก้โรคซึมเศร้าได้.360102/

 

Tirakarn's Journal: บทสวด โพชฌงค์ (โพชฌังคปริตร) รักษาโรคภัยไข้เจ็บ

 

ไม่รู้จะแนะนำอย่างไรดี.....

*หมั่นทำบุญทำทาน รักษาศิล 5

สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิภาวนา ให้เป็นประจำ

หลังนั่งสมาธิอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรด้วยครับ.....

ยังไงก็ขอให้หายเป็นปกติไวไวครับ

สู้ สู้.... :VO

 

ขอบคุณครับ และขอให้ผลบุญจงตอบสนองกลับทุกท่านเป็นร้อยเท่าพันเท่าครับ

 

ขอนำบทความพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระญาณสังวรฯ มาลงไว้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ท่าน จขกท ดังนี้ครับ..

ความเกิดน่ากลัวนัก น่ากลัวกว่าความตายแน่นอน
แต่ส่วนมากพากันกลัวความตาย โดยไม่ได้นึกถึงความเกิดเลย
พากันไปเกิดลำบากยากเย็นก็เพราะเหตุนี้
เมื่อไม่นึกถึงความเกิดก็ย่อมไม่เตรียมสร้างภพภูมิใหม่ให้งดงามสำหรับความเกิดใหม่
ผู้ใจกล้าบางคนทำลายชีวิตได้ทั้งที่เป็นการกระทำที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

คนฆ่าตัวตายนั้นท่านว่าไว้ว่าจะต้องไปฆ่าตัวตายอีก ๕๐๐ ชาติ
นั่นก็คือจะต้องไปมีสภาพที่ทุกข์ทรมานจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปถึง ๕๐๐ ชาติ
ถ้าชาตินี้จะเป็นการฆ่าตัวตายครั้งแรก

ถ้าเป็นการฆ่าตัวตายชาติที่ ๔๙๙ แล้วก็คงเหลือต้องลำบากยากเข็ญอีกเพียงชาติหน้าชาติเดียว
อย่างไรก็ตามอย่าคิดว่าการฆ่าตัวตายชาตินี้เป็นชาติที่ ๔๙๙ จะดีกว่า

คิดว่าเป็นชาติแรกของการฆ่าตัวตายเถิด
ขืนฆ่าตัวตายชาตินี้เพื่อหนีอะไรก็ตามที่รู้สึกว่ารับไม่ได้ตายเสียดีกว่า จะสบายกว่า
ขืนคิดผิด ก็จะเสี่ยงกับการต้องไปรับผลของบาปกรรม
ต้องทุกข์ร้อนแสนสาหัสจนทนไม่ได้ ต้องฆ่าตัวตายอีกต่อไปและต่อไป จนครบ ๕๐๐ ชาติ

น่ากลัวที่สุด จะฆ่าตัวตายชาตินี้เพื่อหนีความทุกข์
ดูก็น่าทำเพราะดูเหมือนความตายจะพาให้หนีทุกข์ได้
แต่อย่าลืมความเกิดที่จะตามความตายมาทันที ดังที่กล่าวแล้ว
จะเกิดพบผลแห่งกรรมของการฆ่าตัวตาย ต้องทุกข์ทรมานจนต้องคิดฆ่าตัวตายอีกจนได้

ตรงนี้ที่ว่าควรกลัวความเกิดมากกว่าความตาย ตายไม่ยาก วินาทีเดียวก็ตายได้
แต่ไม่ได้ตายอยู่นาน วินาทีเดียวก็ไปเกิดใหม่แล้วความตายจะมีประโยชน์อะไร
มีแต่จะนำทุกข์โทษตามมาเท่านั้นแม้ไม่เตรียมการเกิดหลังการตายใจภพภูมินี้ให้ดี


ไม่ทราบว่า ในเวลาที่เขียน คำตอบหรือคำถามนี้ ท่าน จขกท "พูด"ไปพร้อมกับ"คิด"หรือไม่?..

จากที่ค้นและอ่านในบล็อกของคน(ฝรั่ง)ที่เป็นโรคนี้ บางคน ไม่รู้ตัวว่าตัวเอง"พูด"ทันทีที่คิด บางคนบางคน"พูด"ในขณะเขียน email จนจบการเขียนเลย ..

เท่าที่อ่านมา อาการของโรค เกิดจากสภาพความขัดแย้งในใจ ทำให้ระบบประสาทที่จัดการแยกแยะการทำหน้าที่ส่วนคิด และสั่งการพูดบกพร่อง ไม่เป็นไปตามครรลองที่ถูกต้องเหมาะสม เขาแนะนำให้เข้าพบ แพทย์ด้านจิตเวทเพื่อฟื้นฟูจัดระบบความคิด...หากท่านจขกท รีบไปพบแพทย์โดยเร็วโอกาสหายย่อมมีได้เร็วนะครับ อย่าลืมทำบุญให้ทานรักษาศีล อย่างต่อเนื่องด้วยนะครับ..

ขอให้บุญรักษาปัดเป่าให้โรคหายขาดตลอดไปและโดยเร็วครับ

 

แวะกลับมาให้กำลังใจค่ะ
คิดอีกที ก็เป็นอุบายให้เราคิดแต่สิ่งที่ดีๆนะคะ
วิธีขัดขวางการคิดไม่ว่าดีหรือไม่ดี คือภาวนาถี่ๆเข้า
หากยังแก้ไม่ได้ พระอาจารย์บอกว่า กลั้นหายใจ
สมองจะหยุดคิดเองค่ะ
แม้ไม่นานอย่างน้อยก็หยุดความคิดได้ชั่วขณะ
(ติงเคยลองดูแล้วค่ะ เวลาที่จิตเราคิดอกุศล ติงภาวนาอย่างไรก็ช่วยไม่ได้
ติงลองกลั้นลมหายใจดู หยุดทันทีเลยค่ะ)