บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ใหน จะมา ช่วยเจ้า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ยศวดี, 6 กันยายน 2012.

  1. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    "บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า

    ลูกเอ๋ย ก่อนจะไปเที่ยวขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง
    คือ บารมีของตนลงทุนไปก่อน
    เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย
    มิฉะนั้น เจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนล้นพ้นตัว
    เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมดไม่มีอะไรเหลือติดตัว
    แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า
    หมั่นสร้างบารมีไว้แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง
    จงจำไว้นะเมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้
    ครั้นถึงเวลาทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่
    จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน
    เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า... "
    อันนี้ "บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า"

    กราบ อาราธนา บารมี หลวงพ่อโต ช่วยปกปัก รักษา และ อบรม ตักเตือนผู้ที่ ยังเห็น ผิด เป็น ชอบ เจ้าคะ

    เมื่อ บุญบารมียังไม่ถึง แต่ได้ ในสิ่งที่ตัวยังมีคุณสมบัติไม่ครบ รับมา เอามาใช้ ในทางที่ผิด เที่ยว ปรามาส คน เขาไป ทั่ว จน กรรม ต้อง ตกลง ทั้ง ผู้ ให้ และ ผู้ รับ มา โดยไม่้รู้ตัวตนเอง และ ยังไม่สำนึก ยัง คิดว่าแน่
    แต่ ยัง คิดหา วิบากกรรมให้ตัวเอง ของที่ได้ ไม่ได้สร้างมา เลย ตี กลับให้การ บำเพ็ญภาวนาล่าช้า ขึ้นไปอีก
    เพราะ ที่ได้ ก็ไม่ใช่ บุญของตัวเอง เหตุจากความอยากต่างหากเล่า
    วิบาก เลย บังเกิด(ได้มา แต่ ต้องใช้คืน เพราะ ไม่ใช่ ของตัวสร้างมา)

       คติธรรม  
    ปราชญ์แท้ ไม่คุยฟุ้งอวดตน 
    คนดี ไม่เที่ยวยกสอพลอ 
    คนเก่ง ย่อมทะนงอย่างเงียบ 
    คนชั่ว อวดรู้ดีทั่วภพ 
    คนโง่ อวดฉลาดมากมาย 
    สิ่งทั้งหลายท่านเห็นมีทุกที่เอย

    สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี

    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อโต และ ครูบาอาจารย์ เจ้าคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2012
  2. GoingMarry

    GoingMarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +124
    พวกที่ชอบบนบานศาลกล่าวทั้งหลาย อ้างว่าตัวเองเป็นพุทธ
    พุทธตรงใหนกัน
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เอ่อ ผมว่า ธรรมบทนี้ ไม่ได้มีไว้ให้ คนทั่วไป สามัญ ไปรับเอามา อมยิ้ม นะ

    จากบริบทของ ธรรม เนี่ยะ จะเป็นเรื่องของ การปรารภนิพพาน เนี่ยะ ไม่ใช่เลย

    สรุปดื้อๆ เลยนะว่า

    ธรรมบทนี้ พระท่านคงตรัสกับ กษัตริยาธิราชเจ้า องค์ใดองค์หนึ่ง ที่ยังทรงพระเยาว์
    และยังไม่ได้ เสวยราชสมบัติครบองค์บริบูรณ์

    ถ้าเข้าใจ ก็เอากลับไปวางไว้ในที่สมควร เนาะ
     
  4. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    มิน่าหละ ถึงได้ไปอยู่ ภาคใต้ !!

    มากรุงเทพ แวะ วัดอินทราวาส ก็มองให้รอบๆ ครอบๆ เน้อ เสียวแทน
     
  5. GoingMarry

    GoingMarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +124
    ไม่ต้องเสียวแทนครับ แถวนั้นปลอดภัย ครูไม่ดุ
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    [​IMG] ใครจะรู้ว่า ซาตานยิ้มเป็น
     
  7. Limtied

    Limtied เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    822
    ค่าพลัง:
    +3,662
    คติธรรม

    ปราชญ์แท้ ไม่คุยฟุ้งอวดตน

    คนดี ไม่เที่ยวยกสอพลอ

    คนเก่ง ย่อมทะนงอย่างเงียบ

    คนชั่ว อวดรู้ดีทั่วภพ

    คนโง่ อวดฉลาดมากมาย

    สิ่งทั้งหลายท่านเห็นมีทุกที่เอย

    สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี

    -------------------------------------------------

    กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม
    หลวงพ่อโต และ ครูบาอาจารย์ เจ้าครับ
     
  8. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG]

    กราบ สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี วัดระฆังโฆษิตาราม กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม
     
  9. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    อัตตาหิอัตโนนาโถ

    หากเป็นผมก็จะกล่าวว่าโถ......ข่วยตัวเองไปก่อนนเพราะดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
    ทำอย่างไร ปฏิบัติต่อไหมครับ

    ขอท่านเจรืญในธรรมยิ่งแล้ว
     
  10. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    โมทนาสาธุ ทุกท่านคะ
    ต้องอันนี้เลยคะ

    "กัมมุนา วัตตติ โลโก"

    สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม

    อุทฺเทส กมฺมปจฺจโย เพราะมีเจตนาตั้งใจเป็นปัจจัย

    กัมมปัจจัย หมายถึงการกระทำของจิตใจที่เป็นเหตุให้เกิดผล หรือให้สำเร็จกิจในหน้าที่ของตนเรียกว่า "กรรม"

    ดังพุทธภาษิตกล่าวไว้ในอังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาตว่า...

    "เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ เจตยิตฺวา กมฺมํ กาเยน วาจาย มนสา"

    ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า เจตนาคือตัวกรรม สัตว์ทั้งหลายที่ทำกรรม ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจก็ดี ย่อมมีการปรุงแต่ง คือคิดนึกก่อนแล้วจึงทำ

    ดังจะเห็นได้ว่าการกระทำด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ จะเป็นกุศล หรืออกุศลก็ตาม ต้องอาศัยเจตนาเป็นใหญ่ เป็นหัวหน้าในการกระทำนั้นๆ ฉะนั้น เจตนาจึงเป็นตัวกรรม หรือเป็นหัวหน้าของสังขารขันธ์ทั้งหลาย

    กัมมปัจจัยที่กล่าวว่า เป็นปัจจัยให้เกิดผล ก็เพราะทำหน้าที่เพาะพืชพันธุ์ให้เกิดผลในอนาคต เรียกว่า พีชนิธานกิจ คือ ทำกิจสั่งสมพืชเชื้อเพื่อให้งอกต่อไปในอนาคต เป็นนานักขณิกกัมมปัจจัย

    พุทธศาสนา เป็นศาสนาที่ถือการกระทำเป็นใหญ่ เป็นกรรมนิยม ซึ่งผิดกับศาสนาอื่นที่ถือเทวนิยม เป็นต้น เพราะเข้าใจว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นด้วยการบันดาลของเทพเจ้า

    แต่ส่วนของพระพุทธศาสนาถือว่า สัตว์ทั้งหลายจะดีหรือชั่วย่อมขึ้นอยู่กับการกระทำของตนเอง ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับผู้อื่น หรือขึ้นอยู่กับวงศ์ตระกูล เพราะการทำดีทำชั่วต้องทำด้วยตนเอง ไม่ใช่มีผู้อื่นมาทำให้ได้ เหตุนี้สัตว์ทั้งหลายจึงมีกรรมเป็นของตน เรียกว่า...

    กมฺมสฺสโกมฺหิ เมื่อทำกรรมไว้อย่างไร ก็ต้องรับผลของกรรมนั้นตามที่ทำไว้

    กมฺมทายาโท คือเป็นทายาทของกรรมที่ทำแล้ว จึงจำแนกสัตว์ให้ไปเกิดในที่ต่างๆกัน

    กมฺมโยนิ คือมีกรรมเป็นกำเนิด และกรรมที่ทำแล้วยังจะติดตามไปทุกหนทุกแห่ง จะไม่สูญหายไปใหน

    กมฺมพนฺธู คือมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ แม้พ่อ-แม่ญาติพี่น้อง ก็ไม่ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์วงศ์ญาติที่แท้จริง คือชาตินี้เป็นญาติกัน แต่พอตายแล้วก็แยกย้ายกันไป แต่ส่วนกรรมที่ทำแล้วย่อมจะติดตามตนไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพาน.

    ถ้าทำกรรมดีก็เหมือนมีวงศ์ญาติที่ดี ญาติดีก็จะอุปถัมภ์ค้ำชูให้มีความสุข ความเจริญ แต่ถ้าทำกรรมชั่ว ก็เหมือนมีวงศ์ญาติที่ชั่ว ญาติชั่วก็จะติดตามล้างผลาญให้เป็นทุกข์เดือดร้อนเรื่อยไป กรรมจึงเป็นที่พึ่งอาศัยของสัตว์โลก

    กมฺมปฏิสรโณ เพราะเมื่อกรรมชั่วให้ผลอยู่ แม้ญาติพ่อ-แม่พี่น้องตลอดจนผู้มีอำนาจราชศักดิ์ ก็ไม่อาจช่วยให้พ้นจากทุกข์ได้ แต่ถ้ากรรมดีให้ผลอยู่ แม้ใครจะคิดร้ายทำลาย ชีวิตก็ไม่อาจถูกทำลายได้เลย.

    อีกนัยหนึ่ง ท่านเปรียบกรรมคือการทำกุศล อกุศล ส่วนผลคือวิบาก เปรียบเหมือนเงา เมื่อมีคนที่ใหนก็ต้องมีเงาที่นั่น คือมีกรรมก็ต้องมีวิบากรับผล

    โมทนาสาธุคะ
     
  11. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    สิ่งที่สามารถจะล้างกรรมได้ละขอรับ
    เอาที่มาจากหลักฐานอ้างอิงได้นะขอรับ
     
  12. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    โฮ้ ท่าน ขอรับ เราจะไม่กลับไปเรียน ป1 เด็ดขาด
     
  13. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    แล้วยังมีไข่รออยู่อีกมากมายรอพักเป็นตัวละครับ
    หรือหากท่านปรมัตถแล้วท่านจะเข้าป่ากลัวเจอแสตนเลส
    เลยหนีไปคนเดียว

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วครับ
     
  14. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    555+ มิบังอาจ หรอกท่านเอ๋ย
    หากบุญมีคงได้เจอ ได้เกื้อหนุน
    ไม่อยากฝืน ใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่
    คิดได้ใง 555+เข้าป่ากลัวเจอแสตนเลส อืม เท่ดี
     
  15. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ไม่อยากบอกเลย กาทู้นี้ ทำเราร้อนหลังทั้งวัน มากันให้ ลึ้ม
    ใข่เหล่านั้น เขาก็มีบุพกรรมของเขามา ถึงเวลาก็ถึงเวลา
    พระศาสดาท่านสอนไว้ดีแล้ว ว่าแต่จะไปหยิบมาทำให้แน่วแน่หรือเปล่า เท่านั้นเอง
    ครูบาอาจาร์ยและคำสอน ก็มีอยู่แล้ว ว่าแต่ของใคร เป็นของใคร
    ถึงเวลาเขาก็เจอกันเองแหละนะท่านนะ เอาตัวเองก่อนมั๊ย เพราะทุกคนก็มีกรรมเป็นของตน นะท่านนะ
     
  16. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    กลับไป อีหรอบเดิม แล้วหละ

    หากสามเดือนผ่านไปก็มายกคำว่า "กัมมุนา วักฏิโลโก" กุ๊กๆ เนี่ยะ

    จริงๆ จะ พูดซ้ำก็ไม่แปลก แต่ทว่า พูดเพื่ออะไร

    หากพูดเพื่อเป็น สัญญาณกลับไปกล่าวว่า กรรมใครกรรมมัน หัดดูของตัว
    เองก่อน อะไรพรรณนี้ ก็ชัดเลยว่า ยังโง่บาดโซบบบมาก

    ทำไมกล่าวอย่างนั้น

    เพราะ เขาพูดว่า "กัมมุนา วัฏฏิโลโก" กล่าวคือ เขากล่าวว่า หากยังทำกรรม
    ก็ไม่พ้นวัฏสงสาร ดังนั้น

    จุดประสงค์ของการกล่าว ไม่ได้กล่าวเพื่อให้ แยกย้ายกันไปภาวนา ดูของ
    ตัวเอง

    เพราะ การไปดูของตัวเอง นั่นก็ ทำกรรมอยู่นะ

    การไป นั่งจุมปุ๊กอยู่ หากไม่ได้ทำเพื่ออาศัยระลึก นั่น ทำ คุรุกรรม กรรมหนัก
    ฝ่ายดีอยู่นะ

    ดังนั้น

    "กัมมุนา วัฏฏิโลโก" เนี่ยะ พูดออกมาแล้ว จิตมีปฏิภาณไหวพริบระลึกได้
    หรือเปล่า............

    หนทางออกจากกรรมทำอย่างไร จะมีจิตอย่างไร ภาวนาอย่างไร ให้ ล่วงส่วน

    มีความดีก็ล่วงส่วน

    มีความไม่ดี(เสื่อม)ก็ล่วงส่วน

    มีคุรุกรรมฝ่ายดี มันให้ผลก่อนอันอื่นเลย แล้ว ล่วงส่วนได้ หรือยัง!! หรือจะ
    นอนตายไปกับ อวิชชาที่นอนเนื่อง อยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ คุรุกรรมฝ่ายดีลาก
    ถูลู่ถูกังไปดูระเบิดแล้วนิ่งไม่รู้ร้อน

    แต่ถ้า เออแหนะ แม้แต่ คุรุกรรมฝ่ายดี ก็ เป็นแค่ ฐีตวิญญาณ อันเราอาศัย
    ระลึกตามเห็นความไม่เที่ยงเนืองๆได้ มันก็อีกเรื่องหนึ่ง เกิด ล่วงส่วน ขึ้นมา

    พ้นกรรม มันก็จะมี ไม่ใช่ "กัมมุนา วัฏฏิโลโก" แล้ว แยกไปไปดูของใคร
    ของมัน

    อุบายนำออก หนะ มีหรือเปล่า ปฏิภาณไหวพริบเกิดไหม

    ถ้าไม่เกิด พระท่านว่า โง่ยังกับหมาตาย

    คือ

    หมามันตายบนทางเดินถนน พูดอีกแง่คือ ตายบนมรรค มรรคา คาที่
    กระแด่วๆ
     
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ทีนี้ ตะกี้จั่วเอาไว้ว่า โงบาดดดดโซบบบบ เหมือนเดิม

    เพราะว่า

    หาก แยกไปดูของใครของมัน เดี๋ยว มาแล้ว คุณดำ คุณขาว

    ไปเปิดช่องให้มัน เดี๋ยวมันก็มาอีก วนเวียนอยู่กับ เรื่องเดิม

    ภาวนาไม่ขึ้น

    การภาวนามีอยู่นะ จะรู้สึกว่ามีอยู่ สมบูรณ์ แต่ หากมันวนไปเรื่องเดิมละก้อ

    โดนมันหลอกแล้วหละ


    ********************


    ทาง เทคนิดก็คือ ขาดมรณะสติ มรณะสติไม่พอ ให้ จิตงอกลับมารู้ที่จิต รู้ไม่ถึงฐาน
     
  18. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    เอ่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    คร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
    พี่ท่านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
    ก็มันไม่อยากยุ่งใงพี่ท่าน.....................
    ใช่ครับพี่ ดีครับท่าน ทันครับนาย ได้ครับผม เหมาะสมครับท่านนนนนนน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2012
  19. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    โฮ้ อันนี้ยาวเลย.....
    อันนี้ที่กล่าวเพราะ เน้น ว่าอย่ากระทำเหตุให้เกิด เพราะ ต้องใด้ ชดใช้ แน่นอนครับท่าน ไม่มีอย่างอืน ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2012
  20. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    หนทางออกจากกรรมทำอย่างไร จะมีจิตอย่างไร ภาวนาอย่างไร ให้ ล่วงส่วน

    มีความดีก็ล่วงส่วน

    มีความไม่ดี(เสื่อม)ก็ล่วงส่วน

    มีคุรุกรรมฝ่ายดี มันให้ผลก่อนอันอื่นเลย แล้ว ล่วงส่วนได้ หรือยัง!! หรือจะ
    นอนตายไปกับ อวิชชาที่นอนเนื่อง อยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ คุรุกรรมฝ่ายดีลาก
    ถูลู่ถูกังไปดูระเบิดแล้วนิ่งไม่รู้ร้อน

    แต่ถ้า เออแหนะ แม้แต่ คุรุกรรมฝ่ายดี ก็ เป็นแค่ ฐีตวิญญาณ อันเราอาศัย
    ระลึกตามเห็นความไม่เที่ยงเนืองๆได้ มันก็อีกเรื่องหนึ่ง เกิด ล่วงส่วน ขึ้นมา

    พ้นกรรม มันก็จะมี ไม่ใช่ "กัมมุนา วัฏฏิโลโก" แล้ว แยกไปไปดูของใคร
    ของมัน

    อุบายนำออก หนะ มีหรือเปล่า ปฏิภาณไหวพริบเกิดไหม

    ถ้าไม่เกิด พระท่านว่า โง่ยังกับหมาตาย

    คือ

    หมามันตายบนทางเดินถนน พูดอีกแง่คือ ตายบนมรรค มรรคา คาที่
    กระแด่วๆ

    โฮ้.....พี่ท่าน มันลึกเกินไป ยังไม่ถึงอะ รอหน่อยได้มั๊ย ยังไม่ถึงเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...