3 จังหวัดชายแดนใต้จะไม่เป็นของไทยอีกต่อไปแล้ว

ขณะนี้ในอำเภอยะหา..จังหวัดยะลา..ได้มีธงของประเทศมาเลเซียมาปักลุกล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทยแล้ว...เป็นไปตามแผนการก่อการร้ายที่ประเทศมาเลเซียวางแผนไว้ว่าจะยึด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยน่ะครับ..
ผมจะขอบอกว่าในอนาคตนี้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะไม่เป็นของไทยอีกต่อไปแล้ว..
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้..อันประกอบไปด้วย..จังหวัดยะลา...จังหวัดปัตตานี...จังหวัดนราธิวาส

 

.
รู้มาจากไหน ใครบอก?


ปักธงไว้ที่ไหน ใครเห็น?


หรือ ตัวคุณเป็นผู้ไปปัธงนั้นมาเอง?

 

ได้รับ sms จากข่าว inn โจรใต้ป่วนวางระเบิดพร้อมปักธงชาติมาเลเซีย 30 จุดใน จ.ยะลา จ.ปัตตานี ข่าวว่าอย่างนี้ครับ จริงเท็จไม่รู้

 

เอาข่าวก่อนแล้วกันนะครับ Comment เดี๋ยวอีกทีหนึ่ง

ป่วน!3จว.ใต้คนร้าย ลอบวางบึ้มทั่วนราฯ-ยะลา จนท.เจ็บ1

คน ร้ายป่วนนราธิวาสลอบวางระเบิดกว่า30จุด บางจุดเผาธงขึ้นธงชาติมาเลเซีย จนท.เจ็บ1 ขณะปัตตานีเร่งเคลียพื้นที่หลังคนร้ายวางวัตถุต้องสงสัยหลายสิบจุด เชื่อสร้างสถานการณ์เนื่องในวันสถาปนากลุ่มเบอร์ซาตู ด้าน จ.ยะลา ลอบวางวัตถุคล้ายระเบิดหลายจุด ครูนักเรียนไม่กล้าไปโรงเรียน
เกิดเหตุ คนร้าย ลักลอบก่อเหตุในพื้นที่ จ.นราธิวาส กว่า 30 จุด ในพื้นที่ 8 อำเภอ โดยคนร้ายได้นำระเบิดไปวางกระจายในหลายจุด ตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยจุดแรก คนร้าย ได้นำระเบิดไปวางในพื้นที่ อ.ตากใบ จำนวน 7 จุด เป็นระเบิดของจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยิงทำลาย ที่ อ.ยี่งอ คนร้าย วางระเบิด 2 จุด อ.จะแนะ คนร้ายได้วางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร 1 จุด และกู้ได้อีก 2 จุด ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 46 ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และกู้ระเบิดได้อีก ส่วน อ.เมือง คนร้ายได้วางระเบิดไว้ 3 จุด และเผาธงชาติ 2 จุด พร้อมขึ้นธงชาติประเทศมาเลเซีย ส่วน อ.บาเจาะ คนร้าย ลอบวางระเบิดแล้ว 2 จุด และเกิดเหตุระเบิดไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ อ.สุไหงปาดี คนร้ายลอบวางระเบิด จำนวน 8 จุด เจ้าหน้าที่ สามารถยิงทำลายได้ อ.ศรีสาคร คนร้าย ได้วางระเบิด 8 จุด เจ้าหน้าที่ ได้ยิงทำลาย อ.ระแงะ คนร้ายวางระเบิด 3 จุด และยังได้ขึ้นธงชาติมาเลเซียในหลายหมู่บ้าน

ล่า สุด เจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรึงกำลังและกระจายกำลังเข้าตรวจสอบยังพื้นที่เกิดเหตุ ทั้ง 13 อำเภอแล้ว ทำให้บรรยากาศในพื้นที่ จ.นราธิวาส กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง จนถึงขณะนี้ในพื้นที่ยังเป็นไปอย่างโกลาหล โดยเจ้าหน้าที่ เร่งคุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอแล้ว



ป่วน ปัตตานี วันสถาปนาเบอร์ซาตู

เจ้า หน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองของ จ.ปัตตานี นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณที่พบวัตถุต้องสงสัย จำนวนหลายสิบจุด ในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยจุดแรก บริเวณ อ.โคกโพธิ์ อ.เมือง อ.ยะรัง นอกจากนี้ กลุ่มคนร้าย ยังได้มีการปักธงชาติของประเทศมาเลเซีย เต็มไปทั่วพื้นที่อีกด้วย เนื่องจากวันนี้เป็นวันสถาปนา กลุ่มเบอร์ซาตู และวันครบรอบ 55 ปี ชาติมาเลเซีย สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป



ป่วน!ยะลาหลายจุด-ครูผวาไม่กล้าไปสอน

บรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ จ.ยะลา ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภอ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งว่า มีวัตถุ
ต้องสงสัย กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครยะลาหลายจุด โดยจุดแรก คนร้ายได้นำวัตถุระเบิด
ต้องสงสัยไปวางไว้ที่บริเวณหน้าโรงเรียนธรรมวิทยา ย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา และที่ถนนสาย 15
บ้านมลายู บางกอก ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา หลังจากนั้น ได้รับแจ้งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบนถนนเส้นทางสาย 410 ยะลา - เบตง ช่วงตั้งแต่ อ.บันนังสตา อ.รามัน และ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ลักษณะที่คนร้ายวางวัตถุต้องสงสัย มีลักษณะคล้ายกันเกือบทุกจุด และบางจุดยังมีธงชาติมาเลเซียติดอยู่ตามต้นไม้ และมีข้อความภาษาไทยและภาษามลายู ซึ่งข้อความส่วนใหญ่เป็นลักษณะข่มขู่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านที่ใช้เส้นทางสัญจร ไม่สามารถเดินทางได้ โดยเฉพาะครูและนักเรียน ที่โรงเรียนอยู่เส้นทางดังกล่าว ไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้ในวันนี้ หากมีความคืบหน้า จะรายงานให้ทราบต่อไป



คนร้ายป่วนชายแดนสงขลาวางอยู่หลายจุด

สถานการณ์ เหตุความไม่สงบในพื้นที่อำเภอชายแดน จ.สงขลา มีรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ พบว่าได้มีการนำธงชาติคล้ายกับธงชาติของประเทศมาเลเซีย มาติดไว้ในพื้นที่หลายอำเภอของพื้นที่ชายแดนสงขลา โดยที่ตรวจสอบพบขณะนี้มีในพื้นที่ ต.ท่าม่วง อ.เทพา กับ ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย รวมทั้ง ยังมีการวางกล่องต้องสงสัยในพื้นที่ทั้งสองอำเภออีกหลายจุด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุ ระเบิด กำลังวางแผนเข้าตรวจสอบ เนื่องจากยังไม่สามารถประเมินได้ว่าเป็นระเบิดจริงหรือของปลอม รวมทั้ง ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือทุกจุดที่พบ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะเดียวกันกับที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรงกับวันที่ 31 ส.ค. ซึ่งเป็นวันประกาศเอกราช หรือ เป็นวันชาติของสหพันธรัฐมาเลเซีย



ป่วน!3จว.ใต้คนร้าย ลอบวางบึ้มทั่วนราฯ-ยะลา จนท.เจ็บ1 : INN News

 

ต่อไปจะเป็น Comment ส่วนตัวผมนะ

- เรื่องธงสัญลักษณ์คล้ายธงชาติมาเลเซียนี่ เขาทำมานานแล้วครับ ไม่ได้เพิ่งจะมาเริ่มมีตอนนี้ เป็นธงสัญลักษณ์ของโจรก่อการร้าย ที่จะตั้งเป็นรัฐฟาฏอนีดารุสลาม ไม่ใช่ธงของประเทศมาเลเซีย


- เท่าที่ดูในการเคลื่อนไหวจังหวัดปัตตานี เน้นไปที่อำเภอที่มีปัญหา จะพบว่าอยู่ที่ อ.เมือง อ.โคกโพธิ์ อ.ยะรัง

ซึ่งสามอำเภอนี้ มีปัญหายาเสพติดระบาดมาก โดยเฉพาะใบกระท่อม


ส่วนอีกสองจังหวัดนั้น เป็นฐานการเคลื่อนไหวของของหนีภาษีและน้ำมันเถื่อนครับ

 

.
3 จังหวัดชายแดนใต้จะไม่เป็นของไทยอีกต่อไปแล้ว ประโยคนี้

อย่าเพิ่งเอามาใช้ และ ไม่ควรใช้ เพราะมันยังไม่มีอะไรที่จะบ่งบอกได้

ว่าเป็นอย่านั้น การป่วนก็คือการป่วน ใช่ว่าการป่วนคือการครอบครอง

 

ปัญหาสามจังหวัดนี่ ถ้าไปถามคนในแต่ละมุมมองจะได้หลายคำตอบ ปัจจัยที่มีผลต่อความรุนแรงคือ

- กลุ่มโจรก่อการร้าย ปัจจุบันแกนนำหลัก ๆ คือ BRN-CO ส่วนเบอร์ซาตู และ PULO นั้น อ่อนแอเกินกว่าจะทำอะไรได้แล้ว

เพราะฉะนั้นที่มีข่าวป่วน ฉลองวันสถาปนาเบอร์ซาตูน่ะ แสดงว่าเบี่ยงเบนประเด็นสุด ๆ

- กลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ก็คือบรรดาเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ทั้งหลาย และนักการเมืองท้องถิ่น พวกนี้จะเลี้ยงกลุ่มแรก(โจรก่อการร้าย)เอาไว้ป่วน

ซึ่งพวกนี้บางส่วนก็จะประกอบอาชีพผิดกฎหมายเช่น ค้าน้ำมันเถื่อน ของเถื่อน , ค้ายาเสพติด, ค้ามนุษย์ ฯลฯ


- พรรคการเมืองฝ่ายค้านในมาเลเซีย Pan-Malaysian Islamic Party เรียกย่อ ๆ ว่า พรรค PAS

พรรคนี้ มีฐานเสียงอยู่ในเขตรัฐตอนเหนือของมาเลเซียได้แก่ เคดาห์,เปรัค,กลันตัน,ปะลิส

นโยบายของพรรคนี้คือ เน้นไปที่การทำให้เกิดรัฐอิสลามบริสุทธิ์

และเน้นไปที่คนเชื้อสายมลายูเท่านั้น

มลายูในความหมายของเขาคือ

- ต้องพูดภาษามลายูได้

- ต้องนับถืออิสลามเท่านั้น

 

เพราะฉะนั้น เหตุที่เกิดในสามจังหวัดนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นกรณีความมั่นคงเท่านั้น แต่บางคดีเป็นกรณีขัดแย้งผลประโยชน์กันเอง แต่บังเอิญว่าผู้จ้างวาน ไปจ้างวานโจรก่อการร้ายมายิงเหยื่อ เมื่อตำรวจมาเก็บหลักฐาน ปลอกกระสุนก็ไปตรงกับคดีความมั่นคง

เพราะฉะนั้น มันก็เลยกลายเป็นคดีความมั่นคงไปนั่นเอง

รายละเอียด ผมจะเอามาลงให้อ่านต่อไปนี้ ซึ่งยาวมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ทนอ่านแล้วกัน

 

ผู้การปัตตานี...ใต้ป่วนเพราะส่วนตัวกับผลประโยชน์!

พล.ต.ต. พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) อรรถาธิบายถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ช่วงปลายเดือน ก.ค.ต่อเนื่องถึงต้นเดือน ส.ค.2555 ซึ่งเป็นช่วงเดือนรอมฎอน ในวงเสวนาเล็กๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์จัดขึ้นที่ ม.อ.ปัตตานี เมื่อสายๆ วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.พิเชษฐ์ เป็นนายตำรวจมุสลิม บ้านเกิดอยู่ที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี จึงนับเป็นคนพื้นที่แท้ๆ ภาษาถิ่นเรียก "ลูกที่" ทั้งยังนั่งเก้าอี้ผู้การปัตตานีมาตั้งแต่ ก.ย.2552 ฉะนั้นมุมมองของเขาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้จึงนับว่าน่าสนใจ ทั้งในภาพรวมสถานการณ์ชายแดนใต้ เบื้องหลังของแต่ละเหตุการณ์ และมูลเหตุโหมไฟความรุนแรงในทัศนะของเขา

"จริงๆ เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในปัตตานีมีน้อยกว่าอีก 2 จังหวัดมากเลย เพิ่งมีเหตุใหญ่ระยะหลังนี้เอง คือยิงทหาร 4 ศพ (วันเสาร์ที่ 28 ก.ค.) ส่วนคาร์บอมบ์ที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี (31 ก.ค.) ก็เคยเกิดมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2551 จับผู้ต้องหาได้ 2 คน

คดีที่ เกิดมากจริงๆ คือคดียิง โดยเฉพาะในเดือนรอมฎอน คนร้ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมายิงตอนกลางคืน เพราะทุกคนต้องตื่นมาทานข้าว อยู่จนดึก ตี 5 นอน แล้วออกไปปฏิบัติภารกิจตอนเย็นและค่ำ

แต่เหตุ ยิงก็มีเรื่องส่วนตัวเยอะ โดยใช้กองกำลังที่ก่อเหตุอยู่ทุกวันด้วยการจ้างยิง มีความขัดแย้งระหว่างกำนันผู้ใหญ่บ้านหรือนักการเมืองท้องถิ่นก็จ้างยิง เพราะในพื้นที่รู้จักกันหมด พอยิงปั๊บ ตำรวจตรวจปลอกกระสุน พบยิงมา 10 ครั้ง เป็นเรื่องความมั่นคง ฉะนั้นมันแยกไม่ออก

 

ยาเสพติดก็เหมือนกัน ขัดแย้งกันก็จ้างยิงอีก ตรวจปลอกกระสุนก็เคยก่อคดีความมั่นคงมาแล้ว มันแยกไม่ออก

ที่ อ.แม่ลาน กับ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ (ทั้งสองอำเภออยู่ใน จ.ปัตตานี) วันหนึ่งพี่น้องไทยพุทธถูกยิง 2 ศพช่วง 2 ทุ่มกว่าที่แม่ลาน เจอของกลางเป็นปลอกกระสุนลูกซองและอาก้า 4 ปลอก ต่อจากนั้นอีก 2 วันในเขตหมู่บ้าน ยิงร้านน้ำชาของพี่น้องมุสลิมที่ควนโนรี คนแก่เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 4 คนร้ายใช้อาก้ากราดยิง พอถัดอีกวันก็ปาระเบิดร้านน้ำชาไทยพุทธที่แม่ลาน ส่วนที่ อ.ปะนาเระก็เหมือนกัน (อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุยิงรายวันบ่อยครั้ง) เชื่อว่าเป็นเหตุส่วนตัว เพียงแต่ไม่รู้ว่าอะไร

ตอนนี้ทุกคดีคนอยากให้ตำรวจสรุปว่าเป็นคดี ความมั่นคง ไม่อยากให้บอกว่าเป็นเหตุส่วนตัว เพราะจะได้รับเงินเยียวยา 5 แสนบาท ถ้าตำรวจสรุปว่าส่วนตัวจะไม่ได้รับเงินเยียวยา การลงนามรับรอง 3 ฝ่าย (รองรับว่าเป็นเหตุการณ์ความมั่นคง ต้องลงนามร่วมกันทั้งฝ่ายตำรวจ ทหาร และปกครอง) ยากที่สุด บางคดีใช้เวลาเป็นปีๆ บางคดีทนไม่ไหวก็ต้องลงว่าเป็นความมั่นคง เพราะผู้เสียหายไม่ยอม ทั้งๆ ที่เรารู้ว่าไม่ใช่

นี่คือสาเหตุที่เราไม่สามารถแยกได้ว่าคดีนี้เป็น คดีความมั่นคง คดีนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ทุกอย่างเขาอยากให้เป็นเรื่องความมั่นคงหมดเลย ถ้าไม่ยอมเซ็นเขาก็ด่าผมทุกวัน หลักฐานมีเขาก็ไม่บอก ถ้าบอกเขาก็ไม่ได้เงิน

ยาเสพติด เรื่องส่วนตัวจ้างยิงทั้งนั้น ความขัดแย้งในปัตตานีสูงมาก กำนันผู้ใหญ่บ้าน การเมืองท้องถิ่นก็เลี้ยงพวกนี้ไว้ (หมายถึงเลี้ยงกลุ่มติดอาวุธ) ทุกคนรู้จักว่าใครเป็นโจรในพื้นที่ ส่วนเรื่องระเบิดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องความมั่นคงแน่นอน

 

อีกไม่นานหรอกครับจะเข้าสู่สภาวะปกติยังไงไทยไม่เสียดินแดนแน่ๆ

 

อย่าง เหตุการณ์ยิงทหาร 4 ศพที่มายอ การข่าวรู้ล่วงหน้า แต่ไม่รู้จุด เรารู้ว่าจะต้องเกิดเหตุตั้งแต่เขาปล้นรถบรรทุกไก่ด้วยการปลอมเป็นทหารแล้ว เรียกตรวจ จากนั้นก็ยิงตายคนส่งไก่ตายแล้วชิงรถไป (เหตุเกิดเมื่อ 25 มิ.ย.2555 ที่ ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี) และรถคันนี้ก็ใช้เป็นพาหนะในการยิงทหารที่มายอ

คดียิงทหารเราจับคนชี้เป้าได้แล้ว พี่ชายของคนนี้ก็ถูกจับเมื่อปี 2551 ทั้งหมดที่ปรากฏในคลิปวีดีโอที่บันทึกได้จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เรามีชื่อและภาพถ่ายในสารบบทุกคน รถกระบะคันแรก (จาก 3 คันที่ก่อเหตุ) กลุ่มคนที่มาในรถเป็นกลุ่มปล่องหอย (ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ) เคยก่อเหตุยิงกำนันเตราะบอน อ.สายบุรี (จ.ปัตตานี)

คดีนี้โชคดีที่เราจับภาพได้ ถ้าเป็นพยานบุคคลบอกได้เลยว่าเขาไม่ช่วย เขาบอกผมได้ว่าใครเป็นคนทำ แต่เวลาสอบสวนเขาไม่เอา เพราะสอบแล้วต้องขึ้นศาล เมื่อขึ้นศาลก็ต้องเผชิญหน้ากับคนร้าย กลับบ้านก็ตาย แม้เราจะมีมาตรการคุ้มครองพยานแต่ก็ยาก เพราะต้องย้ายออกจากพื้นที่ วิถีชีวิตต่างกัน ที่สำคัญเขากลับพื้นที่เมื่อไหร่ก็ตายทุกราย

ในทางการสืบสวนเรารู้หมด แต่ถ้าให้สอบปากคำเป็นพยานเขาไม่เอา ทำให้คดีถูกศาลยกฟ้อง ปัญหาอยู่ตรงนี้ เคยเสนอศาลไปว่าต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าบนศาล แต่ทางศาลบอกไม่ได้ มันเป็นระเบียบของศาลฎีกา จริงๆ แล้วถ้าพยานไม่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ต้องหา จะจับคนร้ายได้อีกเยอะ


สำหรับ เหตุระเบิดที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี ยอมรับว่าเป็นเป้าหมายที่คาดไม่ถึงจริงๆ วันนั้นเป็นวันที่ผู้ว่าฯเชิญพี่น้องประชาชนไปที่จวน รถเข้ามาเยอะมาก และเผอิญกล้องวงจรปิดที่โรงแรมเสียด้วย ถือเป็นความบังเอิญ และคนร้ายอาศัยจังหวะคนเยอะ

 

กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเรารู้ตัวแล้ว เคยก่อเหตุระเบิด 30 กว่าจุดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และวิสามัญฯได้ที่บาราเฮาะ (อ.เมืองปัตตานี) จับได้ 1 คน ตามไปค้นบ้านเจอวัตถุระเบิดต่างๆ ประกอบไว้แล้ว 6 ชุดด้วยกัน ใช้เครื่องวิทยุมือถือจุดชนวน

พื้นที่ตรงนี้ต้องสร้างความเข้าใจให้มากๆ เพราะต้นเหตุเป็นเรื่องความรู้สึกของประชาชนซึ่งแก้ยาก ต้องใช้ความเข้าใจ และใช้กฎหมายให้เป็นประโยชน์จริงๆ ต้องจับตามกฎหมาย ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต้องฟ้อง ป.วิอาญา (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) ให้ได้ เพราะถ้าจับตาม พ.ร.ก. (พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) เขาไม่กลัว จับไป 10 วันก็ต้องปล่อย แต่ถ้า ป.วิอาญา เขาลำบาก ต้องประกันตัว ต้องถูกควบคุมตัว ฉะนั้นต้องใช้ ป.วิอาญา ต้องมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์รองรับสนับสนุน

สถานการณ์ในภาพรวมจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มีเหตุรุนแรงเป็นช่วงๆ ชาวบ้านส่วนใหญ่เข้าใจ เราต้องกดดันไอ้พวกนี้ (หมายถึงกลุ่มติดอาวุธ) เขาขยายขึ้นมาไม่รู้ว่าเป็นใคร คนมีชื่อเก่าๆ มันหายไปหมดแล้ว หายอย่างไรก็ไม่ทราบ นี่เกิดขึ้นใหม่ เราไม่ทราบว่าเป็นใคร

ส่วน เรื่องเผาโรงเรียน (เพิ่งเกิดเหตุเผาโรงเรียนบ้านกูวิง หมู่ 1 ต.สาคอใต้ อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 ส.ค. หลังเหตุคาร์บอมบ์โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี และเหตุยิงทหาร 4 ศพที่มายอ) มี ข้อสังเกตก็คือเผาแต่ตึกเก่าๆ เท่านั้น ตึกใหม่ๆ ไม่เคยเผา พอเผาแล้วก็สร้างใหม่ เหมือนกันหมดทุกท้องถิ่น คิดเอาเองก็แล้วกันว่าเรื่องอะไร"


เรื่องเด่น-ภาคใต้ - ผู้การปัตตานี...ใต้ป่วนเพราะส่วนตัวกับผลประโยชน์!

 

หน้าตาท่านผู้การปัตตานี


พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ ผกก.ปัตตานีคนปัจจุบัน

 

ส่วนตัวผมคิดว่า อีกนานครับ ไม่สงบง่าย ๆ หรอก
แต่จะหนักสลับเบา เป็นช่วง ๆ สลับกันไป

ตราบใดปัจจัย ๓ ข้อที่ผมบอกข้างบนยังไม่ได้รับการแก้ไข

และเชื่อมั่นว่า ลึก ๆ แล้วปัจจัยที่น่ากลัวที่สุด ก็คือตัวแปรเรื่องของ พรรค PAS ครับ

โดยเฉพาะอุดมการณ์ของพรรคนี้ เป็นสิ่งที่ตรงกับวิถีชีวิตของคนที่โน่น

 

ลองไปอ่านในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับของอาทิตย์ก่อน ( ๒๐-๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๕ ) ดูครับ

คอลัมน์ของ อ.สุรชาติ บำรุงสุข แล้วจะเข้าใจเองว่า ทำไมเขาถึงวางระเบิดโรงแรม CS ปัตตานี

ทั้งหมดนี้ มันเป็นการผสมหลาย ๆ อย่างมารวมกันครับ

 

แสดงว่าท่านไม่ได้ดูข่าว




ธงในข่าว http://www.dailynews.co.th/thailand/152655











ธงมาเลเซีย

 

ปัญหา 3 จังหวัดชายแดน อยู่ที่



ตางหาก !!!!


นอกนั้นเรื่อง จิ๊บๆ

 

อย่าเพิ่งตกใจไป ให้เจ้าหน้าที่เขาทำงานครับ ++

 

แผ่นดินของไทย ย่อมเป็นของไทยอยู่ดี