ว่าด้วย"ธรรมชาติ"ของพระสมเด็จ

กระทู้นี้ผมคิดว่าดีนะครับ..เปิดใจกว้างๆมาคุยกัน..ไม่ถือโทดโกรธเคือง...ไม่ว่าจาคอมเม้นท์ไหน..ย้ำ..เกิดไม่ทัน..ไม่ใช่..ความหมาย..และจุดประสวค์...ปัญหามันอยู่..ที่รู้ให้ทัน...หรือเปล่าเท่านั้นเอง....

 

ขอบคุณครับผมว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าของกระทู้เเละทุกท่านที่ชอบสมเด็จดีกว่าครับเพราะทุกท่านจะอภิบายได้ดีกว่าครับ ต่อไปในกระทู้นี้ถ้าพูดถึงเรื่องพระสมเด็จเดี่ยวต้องมีความคิดเห็นเเตกต่างกันหรือทะเลาะกันไม่เเน่ใจเหมือนกันเเต่ขออย่าให้เกิดหรือเกิดน้อยที่สุดครับ ขอบคุณครับ(i)

 

สวัสดีครับพี่ชัย ตั้งแคมป์รอแถวไหนครับพี่ ผมยังอยู่จุดสตาร์ทรอออกตัวอยู่ครับ กับแกล้มรับเพิ่มอะไรครับพี่...

 

ธรรมชาติ ความเก่า...หรือความเก่าธรรมชาติ ความเก่าเกิดจากกาลเวลาๆทำให้เกิดธรรมชาติ และอะไรคือความเก่าอะไรคือธรรมชาติและธรรมชาติเป็นแบบไหนดูอย่างไร...คำถามที่จะตามมาก็ประมาณนี้ ธรรมชาติคือการเปลี่ยนแปลงขององค์พระนั้นๆสิ่งที่จะทำให้เปลี่ยนแปลงได้ก็คงเป็นกาลเวลา หรือพูดกันง่ายๆธรรมชาติเกิดทีหลังการสร้างพระพิมพ์ทรงมาพร้อมกับการสร้างพระ...พระสมเด็จองค์เดียวมีทั้งความแกร่ง หนึก นุ่ม ซึ้ง นวลตา มีทั้งความฉ่ำอยู่ในตัว ประเภทแกร่งแต่หนึกนุ่มมองดูซึ้งนวลตาอะไรประมาณนี้...พระสมเด็จวัดระฆังถ้าเคยเห็นของจริงสักครั้งก็คงจะจำติดตาอย่างมิรู้ลืม ว่าเคยเห็นมาแล้วจะได้เป็นตัวช่วยในการดูพระสมเด็จ...เพราะการหาดูพระสมเด็จแท้ๆนั้นง่ายเสียเมื่อไหร่...นอกจากดูตามตำรา...หนับหนุนกระทู้ครับ...

 

ขอส่งความเก่า(จริงหรือแกล้งก็ไม่รู้) มาให้ดูกันครับ

 

ตรงนี้แหละครับที่ไม่อยากให้เกิดในกระทู้นี้...จขกท..มีเจตนาจาเอา..ความรู้ที่มีภาพและหลักฐานอ้างอิงมาบอก...ไม่เน้นที่ดูพระ...ถ้าหลายคนอยากเข้ามาศึกษา..เบสิค..ก็เข้ามาชมมาดูกันเอาไป..ได้เท่าไหน..ก็เท่านั้น..ใครที่รู้อยู่แล้ว..ก็ผ่านไป..อย่างที่บอกหละครับ..กระทู้ถามสมเด็จ...มีกลาดเกลื่อน..แต่เบสิคพื้นฐาน..ยัง.ไม่เห็นมีกัน...ที่ผมเข้าใจจขกท..ท่านก็คิดแบบนี้..ขนาดเวลาไม่ค่อยมียัง..เจียด..เวลาเอามาบอก..บาทเดียวก็ไม่คิดตังค์...พลาดไม่เข้าทางใคร..ก็เปลืองตัว...ถ้ามองที่เจตนา..กันเป็น..ไม่น่าจามา..ทะเลาะกันหรอกครับ..ข้อหาเดียวที่เห็น...ว่ามีการทะเลาะ..ก็คือ..คดีหมั่นไส้..เท่านั้นเองหละครับ

 

ขอบคุณแทนจขกท...ผมก็ดูเก่านะครับ...มีอาไรก็มาแบ่งปันกัน...ครับ..

 

บางขุนพรหม เจดีย์เล็ก ปางไสยาสน์ครับ

 

ไม่หรอกครัยคุณยา..ผมว่าท่านก็เป็นคนนึงที่พยามศึกษา..เรื่องสมเด็จ...แล้วมีเหตุผลในความคิด..เป็นแต่ว่า..ไปเจออาจารย์..หรือตำราแบบไหน...ไม่ได้ว่ารู้มาผิดนะครับ..ถ้าเรายืนสูงๆ..ก็จาบองเห็น..เป้า..เร็วกว่า..แต่ถ้ามอง.เลียดๆ...ป้าหมายในการค้นหามันก็แคบ...แล้วไม่รู้จบ...ผม.อยากรู้ผมก็ดิ่งไปที่..สมเด็จ..ท่านอยู่อะครับ..ตำรา..อยู่ที่บ้านเอาไว้อ่านทบทวนกับสิ่งที่เห็นมา..หลายเดือนผม..เจาะ..แหล่งที่มา..เคยดู..สาระคดี..กบในกะลา..หรือเปล่าครับ....ไม่ว่าอาไรที่นำเสนอเค้าจาเจาะแหล่งที่มาไปทีละสเต็ป...จนไปถึง..แหล่งที่มาจิงๆ...สมเด็จก็เหมือนกัน..เราเจาะไปเมื่อร้อยกว่าปีไม่ได้หรอกครับ..แต่แหล่งที่..มี...ชุกชุม..จิงๆ...ไปหาร้านเซียน..ท่าพระจันท์..พันธ์ทิพย์...สานมประกวด..ใช้วิธีอาไรก็ได้ที่ทำให้เรารู้อะครับ..ผมมัน..เป็นคนโผงผาง...ด้านได้อายอด..เดินไปตีซี้เลยครับ..ซื้อของเค้ามั่ง..ชวนคุยมั่ง..สำหรับผมเรื่องแบบนี้กว่าจาเห็นสมเด็จ...จิงๆ..ผมหมดตังค์..ไปกับค่าเลี้ยงดูปูเสื่อเยอะครับ..ทุกอย่างต้องมีการ.ลงทุน..นั่งเฉยๆ..ดูแต่ตำรา..มองแต่ภาพ..ไม่มีทางเข้าใจหรอกครับ..ต้องลงภาคสนามบ่อยๆ..ผมไม่ได้..ตำหนิคุณยานะครับ..กลับชอบในการทำการบ้าน...ของคุณยาเสมอนะครับ...ผมอยากบอกหลายๆท่านนะครับ..ถ้าท่านอยากรู้ว่าสมเด็จ..องค์เป็นๆ...เค้าเป็นยังงัย...ลงทุนหน่อยครับ..นั่งอ่านตำราไปจินตนาการไป...อย่าว่าแต่สมเด็จเลยครับ..แกงไก่..หม้อนึงยังทำไม่เป็นเลยครับ..ถ้าไม่ลงทุน..ซื้อมาทำเอง.......

 

มาตามสัญญา อธิบายตามความเข้าใจ ของผม

ภาพ1-3 เป็นพระกรุวัดสามปลื้ม
ภาพที่1-2
วงสีแดงคือเนื้อในของพระตามที่เคยอธิบายไว้ก่อนหน้านี้ครับ จะมีลักษณะเป็นผงปูนขาว มวลสารแทบหาไม่เจอ
วงสีฟ้า คือเนื้อพระที่อยู่ใต้เปลือกพระ (ถ้าจะเรียงลำดับชั้นจะได้แบบนี้ครับ)
ชั้นบนสุดคือฝ้ากรุ
ชั้นต่อมาคือคราบกรุ
ชั้นต่อมาคือทองที่ติดอยู่บนรัก
ชั้นต่อมาคือรัก
ชั้นต่อมาคือเปลือกพระ (อันนี้อธิบายที่ภาพที่สาม)
ชั้นต่อมาคือเนื้อพระที่เกิดธรรมชาติความเก่าแล้ว
ชั้นในสุดแล้วคือเนื้อแท้ของพระซึ่งเป็นผงปูนสีขาวผสมมวลสารประปราย
ภาพที่ 3 ด้านหลังพระ
วงแดงอธิบายเหมือน ภาพที่1-2
วงสีฟ้าคือเนื้อพระที่เกิดธรรมชาติความเก่าแล้วเนื่องจากรักทองหลุดออกตั้งแต่อยู่ในกรุแล้วทำให้เกิดเป็นธรรมชาติความเก่าของสีปูนขาว (จะไม่ขาวจั๊วะแต่จะขาวนมข้นคืออมเหลืองนิดๆ)
วงสีส้ม เป็นสีเหลืองคล้ายๆว่าดูเผินๆเหมือนพระจะเป็นพระผงน้ำมัน ตามที่ท่าน
paper white เข้าใจ นั่นคือเปลือกพระที่โดนน้ำยางรักซึ่งเป็นน้ำมันใสๆเหมือนยางไม้สีอมเหลืองอำพัน เลยทำให้เปลือกพระมีสีคล้ายพระผงน้ำมันตามความเข้าใจของผมคิดว่าที่เกิดตรงนี้ขึ้นได้ตอนลงรักอาจจะเกิดฟองอากาศ ของยางรักทีไม่เต็ม หรือไม่ก็ เปลือกพระเป็นโพรงน้ำมันยางรักอาจจะซึมลงไปได้แต่ตัวรักข้นๆอาจลงไม่ได้ ก็เป็นไปได้ครับ
(ภาพที่ถ่ายมาไม่ได้ปรับสีและแสงเลยอาจทำให้ดูยากสักหน่อยแต่ก็พอดูได้ครับ)

โปรดใช้ดุลยพินิจในการอ่านหาข้อมูล
(ความเห็นส่วนบุคคล)

 

ต่อครับ ทีนี้มาดูพระพิมพ์สมเด็จฯ กันบ้าง

ภาพที่1-2
ก็คงจะไห้ดูความแตกต่าง ระหว่างเนื้อพระจริงๆ กับเนื้อพระจริงที่เกิดความเก่าจากธรรมชาติ ตามตามรูป
วงสีแดงก็คือเนื้อพระจริงๆที่เป็นปูนขาวหรือปูนเปลือกหอย หรืออะไรๆก็ว่ากันไป ซึ่งจะเห็นว่าแทบไม่เห็นมวลสารที่ผสมอยู่เลยในเนื้อพระ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อพระสมเด็จบางขุนพรหม หายากมากที่จะมีมวลสารเหมือนพระวัดระฆัง
แต่เราไม่ได้พูดกันเรื่องเนื้อพระ แต่เราคุยกันเรื่องการดูธรรมชาติความเก่า เนื้อพระที่เห็นเป็นสีขาวเนื่องจากเจ้าของพระไม่ได้เก็บพระให้ดีเท่าที่ควรเนื่องจากไม่ได้เล่นพระ จึงทำให้เปลือกพระกระเทาะออก จนเห็นเนื้อพระ
วงสีฟ้าก็คือเนื้อพระจริงที่ถูกกลืนกินโดยธรรมชาติ หักตั้งแต่อยู่ในกรุ หรือหักตอนออกมาจากรูแต่นานมาแล้ว อันนี้ไม่ทราบได้ แต่น่าจะหักนอกกรุมากกว่า
เนื้อพระจะดูเหมือนปูนเก่าๆ ออกสีขาวอมเหลืองและส่วนที่ถูกสัมผัสแทบจะลื่นโล้นหมดแล้ว ก็สามารถบ่งบอกถึงความเก่าของพระได้เช่นกัน อธิบายไม่ถูกครับตรงนี้
(ภาพที่ถ่ายมาไม่ได้ปรับสีและแสงเลยอาจทำให้ดูยากสักหน่อยแต่ก็พอดูได้ครับ)

โปรดใช้ดุลยพินิจในการอ่านหาข้อมูลครับ
(ความเห็นส่วนบุคคล)

 

วงสีฟ้าคือเนื้อพระที่เกิดธรรมชาติความเก่าแล้วเนื่องจากรักทองหลุดออกตั้งแต่อยู่ในกรุแล้วทำให้เกิดเป็นธรรมชาติความเก่าของสีปูนขาว (จะไม่ขาวจั๊วะแต่จะขาวนมข้นคืออมเหลืองนิดๆ)
ตรงนี้แหละครับ..วิธีดูความเก่า..ถ้าหักพระออกจาเห็นเนื้อข้างในขาวจั๊วแน่นอน...แต่ก็ไม่ใช่วิธีทำอะนะ..เพียงแต่ดูให้ออกว่าเนื้อบนพระ..มีความต่างกันอย่างไร..ถ้าใครเอาส่วนผสมอย่างอื่นมาทำใหเเก่า...โดยวิธีของคนทำพระเก๊..ตรงนี้ถ้าดูออก..ก็จาเข้าใจว่า..ดูให้เก่า..จิง...กับแกล้งเก่าเป็นยังงัย...ถึงบอกหาสมเด็จ..องค์จิงๆยากก็หาพระแบบที่น้าเอ๋เอามาชี้แนะหละครับ..โดยเฉพาะ..วัดสามปลื้ม..เนื้อที่กระเทาะ..วัดเงินคลองเตย..อีกองค์ใครไม่เคยเห็น..เนื้อบางขุนพรหม..2องค์นี้..แหละครับ...เนื้อแบบเดียวกัน...

 

ต่ออีกนิด เรื่อง"ความรู้สึก" หรือ "ดูจนชินตา"ตามรูปที่ลงให้ดู เป็นพระวัดไชโยครับ พิมพ์หกชั้นอกตลอด ที่เอามาให้ดูเพราะว่าที่ผมรู้ว่าพระองค์นี้แท้เพราะว่าธรรมชาติความเก่าที่เห็นในองค์พระลองดูนะครับว่า จริงหรือไม่ที่เขามักพูดกันว่า เนื้อพระ วัดไชโย กับวัดระฆัง แทบจะเป็นเนื้อชนิดเดียวกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเนื้อพระจะมีมวลสารให้เห็นบ้างประปรายไม่มากมายอย่างที่เขาดูกัน
พระจะดูเหมือนอกสีเหลืองๆ แต่เนื้อพระจริงๆ ก็ขาวอีกเช่นกัน แต่เป็นเพราะถูกใช้ถูกสัมผัสมาโดนทั้งเหงื่อทั้งไขมันในตัวเราทำให้เนื้อพระเปลี่ยนไป แต่เรื่องตังอิ๊วเนี่ยผมไม่ทราบจริงๆว่าผสมลงไปไหม ถ้ามีน้ำมันตังอิ๊วผสมอยู่ ตามที่ผมเข้าใจน่าจะเป็นสืใสเสียมากกว่าไม่น่าจะมีสีเหลืองอมส้ม แล้วทำให้พระมีสีเหลืองอย่างที่เราเข้าใจ เหมือนน้ำมันตังอิ๊วอย่างที่เราใช้เราเห็นกันในปัจจุบันนี้และทำให้พระเกิดสีเหลือง แล้วก็อนุมานกันว่าเป็นพระแก่ตังอิ๊ว (ข้อนี้ไม่ทราบจริงๆครับ)
ทีนี้มาดูครับว่ารู้ได้ไงว่าพิมพ์อะไร ดูยังไงพระสึกจนเหลือแต่แก่น ก็ไม่ยากครับเพราะพระยังคงมีเค้าโคลงลักษณะทางกายภาพให้เห็นอยู่ สังเกตุดูดีๆที่องค์พระนะครับจะเห็นริ้วรอยของพิมพ์พระอยู่ ไม่ว่าจะเป็นวงแขน ช่วงอก และแนวการวางเส้นหน้าตักกับฐานของพระ นี่แหละครับ"ความรู้สึก" หรือ"ดูจนชินตา"
หลับตานึกภาพออก ก็คือพิมพ์ หกชั้นอกตลอดครับ

(ความเห็นส่วนบุคคล)

 

อย่างที่ผมบอกอะนะ..กระทู้ดีๆ..ไม่มีทะเลาะ..หรอกครับ..ถ้าคุณอยากเข้ามาศึกษากันจิงๆ..จากประสบการณ์...ตรง...ผมว่านาเอ๋...อธิบาย..ได้ดีเลยทีเดียวครับ...

 

สุดท้ายแล้วครับ อันนี้เอาขำๆครับวิชาการมาเยอะแล้วปวดหัว
รูปสุดท้ายที่ผมเอามาลง ลองดูในวงกลมสีแดงนะครับว่าเหมือนรูปอะไรรูปใครดูกันเอาเอง นี่ถ้าไปอยู่กับพวกเชื่อเรื่องลี้ลับ หรือปาฏิหารย์มองเป็นรูปต่างๆนาๆ พระวัดไชโยองค์นี้คงได้ลง นสพ.หน้าหนึ่งแน่ๆ เหมือนที่หน้าบันประตูวังนารายณ์ จ.ลพบุรี เมื่อ2-3 ปีที่ผ่านมา ดูเอาขำๆครับอย่าซีเรียส

5555555

 

พี่ครับขอนอกเรื่องสักนิดนะครับ คืออยากจะเอาพระไปถ่ายรูปที่ร้านครับ ไม่รู้ว่าร้านจะคิดค่าถ่ายแพงหรือเปล่าครับ แล้วเราจะไว้ใจได้หรือเปล่าว่าจะไม่ เปลี่ยนพระเราครับ

 

เออหวะน้า..ผมดูแล้ว..เหมือน.จาน่ากลัว..แต่พอดูไปดีๆ...เหมือนท่านจายิ้มหวะน้า55555

 

โอ้ว.....ในที่สุดลุงเอ๋ก็ยอมเปิดเผยพลังภายในออกมาแล้ว น่าติดตามเป็นอันมากครับ ว่าแต่พี่ชัยไปตีซี้กับเซียนคนไหนพอจะเปิดเผยชื่อบ้างได้ไหมครับ แล้วพี่จะเลี้ยงอีกเมื่อไร ผมจะได้ไปเป็นกวางบ้าง ( พี่เป็นคนโบราณ น่าจะรู้จัก คำเปรียบเทียบ กวาง นะครับ) ได้ส่องสมเด็จฟรี แถมกินฟรีอีก ต่างหาก หนุกหนาน เมาไปส่องพระไป 5555

 

น้าองค์นี้..ผิว..ตังอิ๊วที่เคลือบๆเป็นแผ่นๆ..กับเนื้อพระ..เป็นพระบางขุนพรหม..ใช่มะน้าเอ๋.....

 

5555ท่านบลู..ไอกวาง..ให้ตายซิท่าน...ไม่รู้จิงๆนะท่าน..เพราะผมไม่อาจจายอมรับความเป็นโบราณได้อะะนะ...อายุเยอะแต่ไม่เลอะเทอะแน่นอน5555..ผมไม่ยอมตก..train..หรอกครับ...ทุกวันนี้ก็เลือกคบสาวๆวัยรุ่นเยอะๆอะนะมันพอช่วยได้บ้าง.555....ถ้าวันไหนท่านว่างมีสมเด็จหรือพระหลักๆ...ที่คิดว่าอยากรู้ว่าเก๊แท้...จิงๆ..นัดผมมานะครับ..อ้อ..พระที่ดูว่าแท้มีคนพร้อมซื้อครับ..แต่เก๊...อนุญาติให้แห่ตลอดชิวิตนะครับท่าน..555555ช่วงนี้ผมพอมีเวลาอะนะ...ช่วงต่อไปอาจจาเริ่มขยับ..ปีก..แล้วหละ5555...