กรรมของดารานักแสดง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Prophecy, 15 สิงหาคม 2012.

  1. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    ลองเข้าไปอ่านเรื่องนี้ โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ ศิษย์หลวงพ่อชานะครับ รู้ว่าอะไรไม่ดี มันบาป อย่าทำจะดีที่สุดครับ

    http://palungjit.org/threads/ทำความดี-แล้วจะ-ลบล้างความผิด-ที่เคยทำได้หรือไม่.354488/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2012
  2. phai_unghaiyi

    phai_unghaiyi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +75
    ----------------------------------------------------------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2012
  3. surin_k

    surin_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +520
    ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยครับในฐานะที่ผมเองก็เป็นศิลปินถึงแม้จะเป็นแค่นักแสดงลิเกธรรมดาๆคนหนึ่ง ผมว่าทุกอาชีพก้อมีทั้งคนดีและคนชั่วมั่วๆกันไป รู้จักแยกเยอะว่าอันไหนหน้าเวทีอันไหนชีวิตจริง ส่วนมากคนที่เป็นลิเกถ้าวันพระเค้าจะถือศิลกันน่ะครับศีล 5 บ้าง
    ศีล 8 บ้างตามแต่สะดวก
     
  4. okung3036

    okung3036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +183
    วางอุเบกขาครับ
    วางยังไง
    หลวงพ่อฤาษีท่านให้คาถาวางอุเบกขาไว้ว่า
    "ช่างมัน ช่างมัน"
     
  5. aetipp

    aetipp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +1,505
     
  6. jiwcrop

    jiwcrop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +792
    บาปก็บาปครับ บุญก็บุญ

    เขาบอกว่า อาชีพนี้ (ดารานักแสดง) ถ้าไม่ทำบุญใหญ่ ไว้ เสี่ยง ลงข้างล่างครับ

    ไม่ได้บอกนี่ครับว่า เป็นดารานักร้องแล้วลงข้างล่างชัวร์ แต่มันเสี่ยงมาก เพราะ อะไรที่ทำเป็นมวลชน มันได้ผลมาก (ทั้งดีและไม่ดี) ถ้าใครมีอาชีพนี้หรือมีญาติคนรู้จักทำอาชีพนี้อยู่ ก็ไม่ได้ให้เขาเลิกเสียที่เดียว (เพราะอาชีพนี้ เลี้ยงครอบครัวได้มาก) แต่ให้ไปแนะนำให้เขา ทำบุญใหญ่ ๆ บ่อยๆ ไปปฏิบัติธรรมบ้างก็ น่าจะมีบุญใหญ่มาช่วยได้ไม่น้อยนะครับ
     
  7. ิิbetarird

    ิิbetarird เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +161
    หลวงพี่เล็กมีถามตอบอยู่ครับผมอ่านครั้งหนึ่ง
    เขามีอสุขติเป็นที่หมายมั่นแน่นอนหากไม่ทำความดีเลย
    หากเขายึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อบายก็มีน้อย
    หากแต่ลุ่มหลงไปเลยก็ตามพระวัจนะครับ

    ผมไม่ได้นิยมดารา เพราะสวยแล้วไง หล่อแล้วไง น่ารักแล้วไง
    ผมเป็นกลางครับว่ากันตามเหตุปัจจัย

    ก่อนเขา(ดารา)จะสิ้นมีจิตคิดระลึกถึงคุณงามความดีก็ขึ้นสวรรค์ครับ
    บุญหมดก็โน่น นรก
     
  8. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    โอ้โห คนอ่านมาจากไหน เยอะแยะงง
     
  9. รากบัว บัว

    รากบัว บัว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +45
    บาปหรือไม่บาปนรกหรือไม่นรก ไม่มีใครเชื่อหรอก เพราะมันเห็นผลช้า เป็นปี 10ปี หรือชาติหน้า คนลืมกันครับ (ถ้าเห็นผลแบบไวไว ก็ดีซิครับ จะได้เป็นยุค ชาววิไลย์ คนจะแข่งกันทำดี)
     
  10. เพลิง

    เพลิง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +22
    ถ้าเป็นฉะนั้น

    ท่านทั้งหลายข้าพเจ้าขอเรียนด้วยความเคารพ
    บุคคลใดที่กล่าวว่า ดาราที่แสดงละครดีมีคุณภาพก็มี (ถูก)
    บุคคลใดที่กล่าวว่า ดาราที่แสดงนั้นไม่สมควรหมด (ผิด)
    ตามคุณธรรมส่วนใหญ่ที่บังเกิดขึ้น ให้มองกันในแง่แห่งความถูกต้อง
    ไม่เอาอัคติ ไม่เอาโทสะ ไม่เอาโมหะ(ความหลง) ให้ลบเมฆหมอกแห่งกิเลสให้หมด และมาตอบกันดีกว่า
    ด้านไม่สมควร
    *ปัจจุบันมีนักแสดง รวมถึงผู้กำกับ ผู้แต่ง ต้องการแต่งหนังให้เลทติ้งดีๆถึงทำหนังแบบที่- สะกดใจคนให้มีอารมณ์ร่วมด้วย ให้โกทธตัวร้าย รักพระเอกนางเอก-
    โดยไม่คำนึงถึง ว่าเยาวชนจะคิดเช่นไร พอโตขึ้นมาก็ลอกเรียนแบบ กล่าวกันว่าสิ่งนี้สมควร มีแฟนหลายคนสมควร เขาทำกันเยอะ มีตัวอย่างแล้ว ก็ในหนังไง
    จากหนึ่งเป็น จากสองเป็นสาม จากสามเป็นสี่ ต่อไปก็เป็นร้อยเป็นพัน แก้ไม่ได้
    ต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือพวกผู้ใหญ่ ! ถ้าแก้ที่ตัวเองไม่ได้ ก็อย่าไปโทษเด็ก เพราะความรักก็ดี ความหลงก็ดี เด็กเรียนจากผู้ใหญ่ทั้งนั้น เกิดมาก็เหมือน คอมที่ยังไม่ได้ใส่ซอฟแวร์ พอมีเจ้าของ เจ้าของก็ใส่ซอฟแวร์ระบบเพื่อทำการใช้งานต่อไป ฉันใดก็ฉันนั้น....
    ผู้ที่ตอบในเว็บนี้ มีหลายชนชั้น ชนชั้นที่ว่า ชนชั้นทางจิตใจ ไม่ใช่ทางวรรณะ
    อย่างที่ท่านเขาใจ เพราะฉะนั้น ย่อมมีพวกที่เห็นว่า ดาราผู้ที่สร้างความบันเทิงแก่กิเลส เป็นผู้ที่สมควร ผมขอบอกว่า ไม่ผิดหลอกครับ ไม่มีใครผิดทั้งนั้น มีแต่ความแตกต่าง กันทางใจเท่านั้นที่ทำให้บุคคลตอบไปคนละทาง นี่คือธรรมชาติ
    เฉกเช่น เด็กที่ไม่รู้จักความกลัว เมื่อถูกเสี้ยมสอนให้กลัวจึงกลัว.....
     
  11. DHAMMAPHOL

    DHAMMAPHOL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,744
    ค่าพลัง:
    +2,105
    "อาชีพเหล่านี้เรียกว่า มิจฉาอาชีวะ ครับ"
     
  12. ketsila

    ketsila Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +88
    กล่าวถูกต้องแล้ว พระพุทธเจ้าทรงล่วงรู้กาลข้างหน้าสังคมจะดำเนินไปเช่นนี้จึงทรง
    ห้ามถามถึง 3 ครั้ง
     
  13. มั่นในธรรม

    มั่นในธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +603
    สาธุค่า แต่อาชีพนักแสดงก็มีส่วนดีที่ทำให้คนผ่อนคลายและมีกิจกรรมในบ้านร่วมกันคิดในแง่ดีนะคะ ส่วนเรื่องบุญบาปก็ต้องแล้วแต่บุคคลไปตามแต่เจตนาดาราบางท่านขณะนี้ก็เข้าวัดเป็นประจำ บางท่านก็ถือศีล ส่วนเราผู้ดูก็ต้องใช้วิจารญาณในการชม สอนลูกหลานของเราด้วย แต่เนื่องจากยุคสมัยนี้เจริญทางวัตถุมากกว่าด้านจิตใจ และเกินกึ่งพุทธกาลแล้ว ความเสื่อมจึงเข้ามาตามกาล อนุโมทนาสาธุกับความรู้ที่ทุกท่านนำมาให้อ่านด้วยค่า
     
  14. naiy.p

    naiy.p Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +35
    เคยอ่านประวัติหลวงปู่คำคนิง เหมือนกัน ไปท่องนรกเจอนางงามถูกลงโทษ ไม่ใช่ดารา นักแสดงครับ
    หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี บุกเมืองพญานาค และท่องนรก 4

    ส่วนตัวคงไม่กล้าแสดงความคิดเห็นที่ผิดพระไตรปิฎกหรอกครับ แม้ยุคสมัยสังคมจะเปลี่ยนไป เวรกรรมที่ทำไว้คงไม่เปลี่ยนตามหรอกครับ คำสอนของพระพุทธเจ้าคงไม่เปลี่ยนตามยุคสมัย ที่เอามาอ้างอนุโลมกันได้ ยกเว้นจะเข้าข้างตัวเอง
     
  15. มะบอม

    มะบอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +5,352
    ขอเสนอข้อพิจารณาอย่างหนึ่งในพระสูตรดังกล่าว ว่าจุดสำคัญของข้อนี้ที่ผมมองเห็นอย่างหนึ่ง คือคำว่า "ผู้มีความเห็นผิด" และ "การมีเจตนายั่วยุกิเลส" (ขออภัยที่ไม่ทราบศัพย์ในคำบาลี)

    ในพระสูตรนี้ชี้ว่า เหล่านักเต้นรำทั้งหลายมีความเห็นว่า ยิ่งเต้นรำให้คนดูมีความคึกคักร่าเริง สนุกสนานมากเท่าไหร่ยิ่งดี พวกตนนั้นจะได้ไปเกิดเป็นเทวดาที่มีความบันเทิงเริงรื่นเมื่อตายไปแล้ว ซึ่งตรงนี้คือความเห็นผิดที่ในพระสูตรดังกล่าวต้องการจะชี้ให้เห็นจุดหนึ่ง

    เหมือนเห็นกงจักเป็นดอกบัวตรงที่นักเต้นดังกล่าวไม่ได้พิจารณาว่า หากยิ่งเริงระบำให้สนุกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ผู้ชมเกิดความกำหนัด ลุ่มหลงอยู่ในเส่นห์ ในกามอารมณ์ หรืออื่นๆที่เชื่อมโยงกันไปได้อีกมากตามที่พระสูตรนี้ได้อธิบายไว้แล้วดีนั้นฯลฯ

    แต่ในพระสูตรนี้ยังมีประโยชน์อีกมากที่ผมเองไม่สามารถพิจารณาไปถึงได้ แต่รวมความว่า ต้องดูที่เจตนาของผู้กระทำเป็นหลักใหญ่

    ทางนักเต้นนักบรรเทิงตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบันนั้นถูกเสี้ยมสอนมาให้มีเจตนาสร้างความบรรเทิงให้ผู้ชมยิ่งมากยิ่งได้ประโยชน์ในทางโลกมากซึ่งตรงนั้นเป็นธรรมดาของอาชีพนี้ มีโทษตามสมควรอยู่แล้ว แต่เป็นคนละโทษกันกับความเห็นผิด ซึ่ง

    ในข้อความเห็นผิดนี้จะมีโทษหนึ่ง คือเห็นของเลวเป็นดี มีผลจะเกิดความเห็นถูกได้ยากและเกิดปัญญาได้ยากกว่า สรุปคือความเห็นผิดนี้เป็นเหตุหนึ่ง ส่วนการแสดงยั่วยุกิเลสมีโทษในการยั่วยุให้ผู้อื่นเกิด
    ราคะ ความกำหนัด โทสะ โมหะ ความประมาท ไม่ว่าโดยหน้าที่ โดยเจตนา โดยไม่เจตนา ก็ย่อมมีผลไม่เสมอกัน(เป็นอีกเหตุหนึ่ง) แต่หากทำกรรมครบทั้งการเห็นผิด และการมีเจตนายั่วยุให้เกิดกิเลส ทั้งสองอย่างนี้โดยสมบูรณ์แล้ว "เมื่อแตกกายตายไป ย่อมบังเกิดในนรกชื่อปหาสะ" ตามที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว สาธุ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2012
  16. มะบอม

    มะบอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +5,352
    ต้องขออภัยในข้อความเดิมที่มีผิดๆบ้าง พึ่งแก้ไขข้อความและคำศัพท์ใหม่เสร็จครับ
     
  17. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ดารา นักแสดง หาเลี้ยงชีพด้วยวิธีใด?

    ก็ด้วยวิธีแสดงสิ่งที่ไม่จริง ให้สมจริง ด้วยการล่อหลอกให้คนเห็น และ ยึด เอาสิ่งที่ไม่จริง ปรุงแต่งสิ่งที่เห็น เก็บเอาไว้เป็นอุปาทานในใจ ให้เกิดอารมณ์ต่างๆ ร่วมตามการแสดง

    เช่นนี้แล้ว เป็นการทำให้คนหลงขาดสติลงไป เป็นการทำให้คนยึดในอุปาทานต่างๆ ที่ไม่จริง
     
  18. petchphulove

    petchphulove Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +26
    เห็นด้วยว่าอาชีพดารานักแสดง นักร้องมันสุ่มเสี่ยงมากๆ ในเรื่องทำให้คนมัวเมา หลงใหล

    แต่อยากออกความเห็นในอีกแง่มุมหนึ่ง

    เราในฐานะคนยังมีกิเลสคนหนึ่ง ก็ชอบดูหนังฟังเพลงไปตามประสา หลายครั้งเพลงและเสียงดนตรีปลอบประโลมจิตใจเรา หนังดีๆหลายเรื่องก็ทำให้เราเข้าใจ เห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์มากขึ้น หนังบางเรื่องมันกล่อมเกลาให้เราอ่อนโยนได้ ดาราที่ความประพฤติดีก็เป็นแรงบันดาลใจดีๆให้วัยรุ่นได้เหมือนกัน คือถ้างานเหล่านี้มันออกมาในทางสร้างสรรรค์มันก็จะดี แต่ส่วนใหญ่ที่เราเห็นมักออกไปทางมัวเมาและเป็นตัวอย่างที่ไม่น่าชมมากกว่า มักออกไปในแนวยั่วยุทางเพศ นำเสนอความรุนแรง เนื้อหาไม่สร้างสรรค์ไม่ประเทืองปัญญา เพราะโลกมันมุ่งจะไปทางนั้นเสียหมด
     
  19. kitkun

    kitkun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +579
    ที่คนเข้ามาอ่านเยอะ เป็นเพราะสมัยนี้คนรุ่นใหม่ลุ่มหลงกับอาชีพนักร้อง นักแสดงฯลฯกันมาก ในความลุ่มหลงนั้นอาจจะคิดว่า หนึ่งมีหน้ามีตาในสังคม(กระแสสังคมยกย่องและให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้) สองสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้เป็นกอบเป็นกำเพียงแค่ไม่นาน สามเป็นอาชีพที่สบายไม่ลำบาก(ไม่ต้องตากแดดตากลม หน้าดำตัวดำเป็นเหนี่ยง มีแต่แต่งตัวสวยๆงามๆ) และอื่นๆที่เป็นที่มาของกิเลส(ความอยากมี อยากได้ อยากเป็น )
    ดาราที่เข้าวัดปฎิบัติฯหรือทำอย่างอื่นที่เป็นกุศลนั้น สุดท้ายคือ..บุญก็ส่วนบุญ..บาปก็ส่วนบาป อยู่ที่สติจะนำพาให้ได้คิด อนุโมทนากับทุกกระทู้ที่เป็นกุศลค่ะ
     
  20. สุเมโธนามะ

    สุเมโธนามะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +56
    ขอบคุณมากครับผม จะได้ระมัดระวังตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...