หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

นอกจากเหรียญพระมหาอุปคุตที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีวัตุมงคลที่องค์หลวงปู่อีกบางรายการครับ ที่อาจยังมีคนรู้น้อย พอดีผมได้ข้อมูลของวัตถุมงคลบางรายการมา เดี๋ยวผมจะนำประวัติ และข้อมูลมาบอกเล่ากันครับ.. เช่น




ล็อกเก็ตชุดนี้สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.2553 โดยคณะศิษย์ทางภาคใต้(ไม่ทราบจังหวัด) เพื่อแบ่งปันกันใช้ในครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหาย พระที่สร้างนั้นมีทั้งขนาดใหญ่(มาตรฐาน) และขนาดเล็ก ด้านหลังบรรจุมวลสารต่างๆและมวลสารที่ขอจากทางวัดไป และได้นำล็อกเก็ตชุดนี้มาให้องค์หลวงปู่อธิษฐานจิตให้ และได้ถวายองค์หลวงปู่เอาไว้ส่วนหนึ่งจำนวนไม่มากนัก

ส่วนจำนวนการสร้าง และข้อมูลรายละเอียดทางผมไม่ทราบไปกว่านี้ แต่คาดว่าคงมีจำนวนไม่มาก จึงมีข้อมูลมาบอกเล่าเพียงเท่านี้ครับ หากท่านใดทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากนี้ รบกวนลงข้อมูลเพื่อแชร์กันได้ครับ



.

 

พระยอดธงชุดนี้ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2553 มีคณะศิษย์สายวัดท่าซุง ได้นำพระยอดธงชุดนี้ ของวัดโพธิ์สุทธาวาส ซึ่งตามประวัตินั้นว่ามีชนวนสมเด็จองค์ปฐมวัดท่าซุงผสมอยู่ด้วย จำนวนหนึ่งประมาณ 100 องค์ มาฝากให้องค์หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตให้ เพื่อนำไปแจกจ่ายกันบูชาเพื่อความเป็นศิริมงคล พระยอดธงชุดนี้ที่นำมาฝากอธิษฐานจิตนั้น ถึงแม้เป็นพระของวัดโพธิ์สุทธาวาส แต่ก็ได้ทำการตอกโค๊ตตัว นะ ไว้ที่ด้านหลังพระทุกองค์ เพื่อให้แตกต่างจากพระชุดที่ไม่ได้รับการอธิษฐานจิตจากองค์หลวงปู่ครับ



.

 

ล็อกเก็ตชุดนี้ คณะศิษย์ทางกรุงเทพฯ มีความศรัทธาในองค์หลวงปู่ จึงได้ขออนุญาติจัดสร้าง เมื่อปี พ.ศ.2553 เพื่อแจกไว้บูชาสำหรับคนในครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหาย และวงศ์วานว่านเครือ และอีกจำนวนหนึ่ง ได้แบ่งเอาไว้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ทางวัดขององค์หลวงปู่ในอนาคต และได้เก็บรักษาเอาไว้อย่างดี จำนวนพระที่สร้างมีดังนี้..

ล็อกเก็ตใหญ่ฉากสีเขียว 110 องค์
ล็อกเก็ตใหญ่ฉากสีขาว 110 องค์
ล็อกเก็ตเล็กฉากสีเขียว 110 องค์

ด้านหลังฝังของมงคล และมวลสารต่างๆครับ



.

 

ชัดเจนดีครับ ลูกศิษย์รุ่นหลังจะได้เข้ามาศึกษาในกระทู้นี้ได้ครับ

 

รบกวนคุณทุเรียนทอดช่วยดูองค์นี้ให้หน่อยครับว่าใช่ของหลวงปู่เสกหรือไม่ครับ ถ้าใช่ขอทราบปีที่สร้างด้วยครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

ชุดนี้ที่ผมไม่มีข้อมูลจริงๆครับ ก็อาจเป็นพระที่ลูกศิษย์นำมาถวายให้ท่านเสกและแจกต่อก็เป็นได้ครับ เพราะสมัยที่องค์หลวงปู่อยู่นั้น มีผู้ศรัทธานำพระมาถวายมากมาย บางท่านก็นำมาฝากเสกก็มีครับ

 

ขอบคุณมากครับ คุณทุเรียนทอด ได้มาพร้อมรูปนี่แหละครับ

 

สงสัยจะลืมกันแล้ว ไปหารูปมาลงให้ดูได้แล้วครับ..




พระผงรูปเหมือน รุ่น4 ลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ครึ่งองค์อยู่ในใบโพธิ์ เพราะเอาบล็อคเหรียญรุ่น5 มากดพิมพ์ ส่วนด้านหลัง มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบเหมือนกับด้านหลังเหรียญใบโพธิ์รุ่น5 อีกแบบคือด้านหลังเป็นรูปใบไม้ สร้างโดยชุดผู้สร้างเหรียญรุ่น5 ประมาณปี พ.ศ.2549 พอปั๊มเหรียญรุ่น5สำเร็จเสร็จลง ก็นำเนื้อผงมวลสารต่างๆมานวดคลุกเคล้ากันและลองกดพิมพ์พระนี้ขึ้นมาได้จำนวนไม่มากนัก ไม่น่าเกิน 80 องค์ เป็นงานทำแบบง่ายๆไม่ปราณีต และฝากหลวงปู่เสกไว้นานประมาณ 2 ปี หลวงปู่ท่านแจกลูกศิษย์ใกล้ชิดเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้ รุ่นนี้ถึงไม่ได้ขอสร้างอย่างเป็นทางการ แต่หลวงปู่เมตตาเสกให้อย่างดีทีเดียวครับ ส่วนแม่พิมพ์ทั้งหมดก็ได้ทำลายไปแล้ว ไม่สามารถใช้งานได้จึงสบายใจได้ครับ รวมถึงพระรุ่นอื่นๆด้วยครับ



.

 

สวยงามมากครับ...

 

เห็นพระของคุณแฝงจันทร์ลงแล้วอยากมีส่วนร่วม ผมขอร่วมด้วยช่วยแจมครับบบบบบ

 

หวัดดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ

 

สวัสดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ
ดีใจและปลื้มใจมากครับที่หลวงปู่ท่านเมตตากระผม ได้สิ่งมงคลที่กระผมอยากได้บูชามานานแล้ว ด้วยความศรัทธาอย่างสูงจริงๆครับ

 

ขอเพิ่มเติมข้อมูลนิดหน่อยครับ พอดีทราบมา พระชุดนี้เทกันตอนสมัยที่ทำเหรียญพระมหาอุปคุตรุ่นแรกก็จริง คือพอปั๊มเหรียญเสร็จ ก็นำมาเทตะกั่วลองแม่พิมพ์ดู ทำได้ 18 องค์ และกดเป็นเนื้อผงได้อีก 1-2 องค์ (แต่ที่ผมไม่มีรูปครับ) แต่ว่านำไปฝากหลวงปู่เสกให้หลังจากถวายเหรียญพระมหาอุปคุตรุ่นแรกไม่นาน เพราะฉะนั้น พระชุดนี้จึงไม่ได้เข้าอธิษฐานพร้อมกับเหรียญพระมหาอุปคุตรุ่นแรกนะครับ.. ส่วนแม่พิมพ์ทั้งหมดได้ทำลายไปแล้ว ไม่สามารถใช้งานได้จึงสบายใจได้ครับ.. รวมถึงพระรุ่นอื่นๆด้วย ครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน

 

สวัสดีครับพี่หมวดฤทธิ์ ประสบการณ์บางอย่างเราสามารถนำมาเผยแพร่กันได้นะครับ.. แต่หากเป็นตอนสมัยที่องค์หลวงปู่ยังอยู่ผมก็ไม่กล้าเล่าเหมือนกัน ขนาดผมนำไปเล่าให้คนอื่นฟังกัน ซึ่งอยู่คนละที่กับองค์หลวงปู่เลย ท่านยังทราบได้ แถมยังโดนแซวอีกครับว่า " อย่าไปพูดให้ใครเขาฟังนักนะ เรื่องที่ว่าเราเก่งน่ะ " และท่านยังเคยพูดอีกว่า " เอาไว้ถึงเวลาก่อน แล้วค่อยเผยแพร่ได้ " ซึ่งตอนนี้ผมก็คิดว่าคงถึงเวลาที่ท่านบอกแล้ว เพราะไม่ต้องแบกภาระสังขาร เนื่องจากตอนสมัยที่องค์หลวงปู่ยังอยู่นั้น สังขารท่านไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก(ปอด) ท่านคงชอบอยู่สันโดษ ไม่ชอบยุ่งกับใคร ท่านไม่อยากให้ใครมากวนเวลาท่านทำกิจของท่าน ซึ่งกิจที่ว่านั้นก็มีอยู่หลายอย่าง เช่น สวดมนต์ ภาวนา ท่านจะสวดมนต์เกือบทั้งวัน เพื่อสงเคราะห์โลก ท่านเคยบอกว่า " วันๆ เราไม่ได้อยู่ว่างๆนะ เราภาวนาตลอด " และ " ตลอดเวลาเราช่วยอยู่ตลอด แต่เราไม่จำเป็นต้องบอกใคร อยู่ที่นี่แหละช่วยได้มากกว่าตัวไปอีก.."
ขนาดท่านไม่ค่อยเปิดตัว ยังมีหลายคนมากที่เจอประสบการณ์เกี่ยวกับองค์หลวงปู่ ผมคิดว่าบางทีท่านก็คงไม่ได้ตั้งใจจะแสดงให้เห็นหรอก แต่บางที(ปาฏิหาริย์)ก็ออกมาเอง และท่านคงไม่ได้เผลอด้วย แต่อาจเป็นเพราะบารมีธรรมที่ได้อธิษฐานแผ่ออกไปอยู่เสมอ ผู้ที่มีวาสนา และบังเอิญไปจูนเข้ากันได้พอดี ก็อาจจะพบในสิ่งที่เป็นความลับนั้นเอง..

อย่างเช่น มีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่กล่าวถึงหลวงพ่อครูบาเจ้าเกษม เขมโก ว่ามีประสบการณ์ของผู้ป่วยรายหนึ่ง นอนป่วยอยู่ที่บ้านอย่างทุกขเวทนา ลุกไปไหนไม่ไหว และทางบ้านก็ห่างไกลจากโรงพยาบาล อีกทั้งการสัญจรไป-มาสมัยนั้น ก็ลำบากมาก ในระหว่างที่นอนป่วยอยู่นั้น ได้หันไปมองที่หิ้งพระ เห็นรูปของหลวงพ่อเกษม ติดอยู่ จึงตั้งจิตระลึกถึงหลวงพ่อเกษมท่าน ขอบารมีให้ท่านช่วยให้อาการป่วยดีขึ้น พอสักพักก็ค่อยๆเคลิ้มๆคล้ายจะหลับ ก็เห็น หลวงพ่อเกษม เขมโก มาหาที่บ้าน แล้วช่วยเป่าให้ จากนั้นท่านก็หายวับไป แต่พอผู้ป่วยรายนี้ตื่นขึ้นมา ก็ปรากฏว่า อาการที่ป่วยอยู่นั้น กลับหายเป็นปริดทิ้ง จึงมีความศรัทธามาก ถัดไปอีกวันหนึ่ง ก็เลยเดินทางไปกราบหลวงพ่อที่สุสานไตรลักษณ์ แล้วเล่าประสบการณ์ให้หลวงพ่อฟัง แล้วถามท่านว่า หลวงพ่อไปหาเขาที่บ้านหรือ แต่หลวงพ่อกลับบอกว่า เราไม่ได้ไปนะ ทั้งที่เขาก็บอกว่า เห็นหลวงพ่อไปหา ท่านก็ยืนยันว่า ท่านไม่ได้ไป แต่โยมหายจากอาการป่วยก็ดีแล้วนะ..
รวมความแล้วก็คือ ไม่ว่าหลวงพ่อจะไปหรือไม่ก็ตาม พระองค์ที่ไปหาจะเป็นเทวดาจำแลงหรือใครก็ตาม ทั้งหมดนั่นก็เป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อเกษม เขมโก นั่นเอง เพราะบารมีที่ท่านได้เมตตาแผ่ออกไปนั้นท่านอาจไม่ได้เจาะจงว่า จะต้องไปหาใคร แต่ท่านแผ่ไปทั่วโลกธาตุทั้งสาม ก็เหมือนพลังงาน(บารมี)ที่มีอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าใครจะดึงมาใช้ได้ อย่างไร ก็เท่านั้น อีกทั้งเทพ พรหม ที่ทั้งบริวารของท่าน ก็ต่างคอยช่วยเหลืองานของท่านมิได้ขาด ก็อาจจะจำแลงเป็นองค์ท่านไปช่วยก็เป็นได้ ถึงได้บอกว่า เป็นเพราะบารมีธรรมของท่านนี้เอง.. ส่วนองค์หลวงปู่พิศดู ก็อาจเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะเชื่อมั่นว่า บารมีของหลวงปู่ท่านนั้นยิ่งใหญ่มากๆครับ



.

 

สวัสดีครับคุณ X มาดึกเลยนะครับ...... บารมีครูบาอาจารย์ท่านแผ่ไปไม่มีประมาณจริงๆครับ...... ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะเริ่มลงมือครับตามที่คุยกับคุณX ไว้ของน่าจะมาถึงพรุ่งนี้ฤกษ์ดีวันครูด้วย.......สาธุ......ขอให้สำเร็จตามที่ตั้งใจด้วยเถิด.......

 

กราบหลวงปู่พิศดูสวัสดีคุณทุเรียนทอด(เรียกxดีกว่านะครับพิมพ์สั้นหน่อย)และสมาชิกทุกท่าน
ขับรถมาถึงที่ทำงานแต่เช้าวันนี้เพราะต้องแถวทุกวันพฤหัส เช้านี้อากาศดี ตั้งใจว่าเสาร์นี้ต้องจัดห้องพระใหม่เตรียมนั่งสมาธิเพราะไม่ได้ปฏิบัติมานานหลายปีแล้ว มัวแต่ติดกิเลสอยู่งานสังคมมันเยอะจริงๆในชีวิตที่รับราชการ หลายๆท่านคงเข้าใจดี วันนี้ผมคิดว่าผมขึ้นมาสูงพอแล้วสำหรับชีวิตราชการต่อไปนี้ก็ขอพอเพียงใน ลาภ ยศ สรรเสริญ ที่ไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน นับวันรอเกษียณก็พอแล้ว คงมีเวลาไปทำบุญทำทานตามวัดไกลๆได้บ้างถ้าโอกาสอำนวย กำลังชวนคุณน้าไปลำพูนอยู่ไม่รู้จะได้ไปเมื่อไหร่ ถ้าได้ไปจะเอาภาพและบุญมาฝากทุกท่านนะครับ ขอให้ สุข สมหวัง ในสิ่งที่หวังทุกท่านนะครับ

 

มาลำพูน แวะแพร่บ้างนะครับ

 

กราบหลวงปูพิศดู กราบครูบากฤษดา
หลังจากยุ่งๆเรื่องรถเครื่องพัง-ภรรยาดาวน์ให้ใหม่ จะขายคันเก่าแต่เราไม่อยากขาย
จนตอนนี้จาก1คันกลายเป็น2คัน คันเก่าก็ซ่อมดีแล้ว(กล่อมภรรยาจนยอมไม่ขายแล้ว)คันใหม่ก็ได้อิอิ... ทุกอย่างราบรื่นแล้วครับ

พระปัจเจกพุทธเจ้า ครูบากฤษดา
วันนี้แจกฟรี 2 องค์ องค์ละ1ท่าน ขอเฉพาะท่านที่ยังไม่มีและอยากได้ไปบูชาครับ ลงชื่อแล้วPMที่อยู่มาหรือจะลงที่อยู่หน้าเวปนี้เลยก็ได้แล้วแต่สะดวก วันนี้บ่ายๆส่งให้ครับ

 

สาธุ โมทนาด้วยครับ ผมเคยรับมาจากครูบาแล้ว 1 องค์ ให้ท่านอื่นที่ศรัทธาและยังไม่มีโอกาสได้รับพระปัจเจกไปบูชาสมความปราถนาด้วยครับ

มีรายละเอียดของหทัยแก้วเจ็ดผลึกบ้างไหมครับ คุณnuamnim