การสาปแช่งคน

สวัสดีคะ ฝากมาถามเรื่องการสาปแช่งคน
เล่าก่อนนะคะ
เป็นเรื่องรักสามเศร้า เมียหลวงสาปแช่งเมียน้อยกับสามีให้ตกนรกและรับกรรมที่หลอกเมียหลวงมาหลายปีเรื่องมีเมียน้อย แต่ตอนนี้เมียหลวงเลิกกับแฟนเค้าแล้ว สมใจเมียน้อยแล้ว ในตอนนี้เมียหลวงได้กรวดน้ำสาปแช่งตอนใส่บาตร ผลกรรมจะส่งและบาปมากไหมที่ได้สาปแช่งไป มีวิธีแก้ไหมคะ
เรื่องนี้เกิดกับญาติโดยตรง ญาติมาเล่าให้ฟัง ส่วนเราก็อยากจะช่วยให้ทางญาติคือเมียหลวงไม่ต้องทนทุกข์กับเรื่องครอบครัวเค้าคะ สงสารหลานๆด้วย

ใครรู้ตอบกันเยอะๆนะคะ

 

การตักบาตรเป็นการทำกุศล การที่ไปสาปแช่งโดยใส่บาตรเหมือนการที่เราเอาของเหม็นไปถวายพระ

การสาปแช่งนั้น ๆ ย่อมไม่มีผล ดีไม่ดีเราจะไปสร้างบาปซะเองไปให้พระฉันของเหม็น

ส่วนสามีและภรรยาน้อย เขาผิดศีลข้อกาเม ฯ มีนรกเป็นที่ไปอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปสาปแช่งครับ

อดีตชาติของเขาทั้งสามทำกรรมร่วมกันมา ทางที่ดี อภัยทานและอโหสิกรรม เปป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ


วิธีแก้ไข

คุณภรรยาหลวง ก็เขาวัดปฏิบัติธรรมจะเป็นการดี ...เจริญสติสร้างบารมี ระบายความร้อนจากโทสะ


.

 

ชาิติก่อนอาจเคยทำให้คนผิดหวังต่อความรักมาก็ได้ครับ
ชาตินี้ถึงมาโดนบ้าง ยังไงก็ลดทิฐิน่ะครับ ทำบุญทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิ
ทำใจให้สงบดีกว่าครับ

 

เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรค่ะ

ไม่อยากให้เป็นเหมือนนางยักษิณี กับนางกุลธิดาค่ะ
คู่นี้จองเวรกันหลายภพหลายชาติมากค่ะ เป็นเมียหลวงกับเมียน้อยเหมือนกัน

พระพุทธเจ้า ตรัสพระคาถานี้.....แก่นางยักษ์ชื่อกาลี จากบล็อก โอเคเนชั่น oknation.net

 

อนุโมทนา สาธุ ครับ

กรรมใดเกิดขึ้นแล้ว ย่อมเป็นไปตามนั้น
ทำให้เบาบางได้ แต่ให้ลบล้างเลยไม่ได้

 

การสาปแช่ง ก็เหมือนกับการส่งพลังจิตไปหาเมียน้อยนั่นแหละ แต่เป็นพลังจิตในด้านมืดของผู้สาปแช่ง ถามว่ามีผลมั้ย ก็มี เพียงแต่จะมีผลมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตัวผู้ส่ง หรือผู้สาปแช่งนั่นเอง

ถ้าผู้สาปแช่งมีต้นทุนสูงกว่าคนทั่วไปหนึ่ง เป็นผู้มีพลังจิตเหนือกว่าคนทั่วไปหนึ่ง เป็นผู้มีบุญคุณต่อผู้ที่ถูกสาปแช่งหนึ่ง พลังแห่งการสาปแช่งนั้นย่อมแรงกว่าปกติ

การไปสาปแช่งก็เป็นการก่อเวรก่อกรรมกันนั่นแหละ ผลกรรมย่อมส่งถึงตัวผู้สาปไม่วันใดก็วันหนึ่ง ตามหลักเมื่อทำสิ่งใดก็ต้องรับสิ่งนั้น ทางที่ดี ควรจะไปบอกเมียหลวงว่า เมื่อพ้นบ่วงกรรมนั้นมาแล้ว จะไปยุ่งอีกทำไม เปรียบเสมือนกับขี้ เมื่อเราพ้นจากกลิ่นเหม็นของขี้นั้น เราจะกลับไปสูดดมอีกทำไม ส่วนใครไม่สามารถหลุดได้ ก็เป็นเรื่องของเค้า เราทำตัวของเราให้ดีก็แล้วกัน........

 

เดวจะเอาไปบอกญาติ ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่ๆในนี้เป็นอย่างมาก

(ญาติของเราเมียหลวง) ตรอมใจ และเสียใจเป็นอย่างมาก น้ำหนักตัวลดไปหลายโล เสียใจที่โดนสามีหลอก แล้วก็เมียน้อยเป็นคนรู้จัก ไม่น่าทำกันได้ลงคอ ทั้งๆที่เค้าเองก็รู้ว่าผู้ชายมีเมียและลูกแล้ว

ญาติทางเราก็คอยให้กำลังใจ ให้สู้เพื่อลูก ให้อดทน เดวสามีคิดได้ก็กลับมาเอง ที่ไหนได้เพิ่งจะรู้ว่าแอบไปมีลูกด้วยกันอีก 2คน จนทำให้เกิดปัญหาเงินไม่พอใช้ จากเงินที่เคยส่งเสียลูกแทบจะไม่ให้ เวลามาหาเมียหลวงทางเมียน้อยก็จะโทรตามจิกให้กลับไปดูแลลูกทางนั้นถ้ารู้ว่าแอบมาก็จะส่งSMS มาหาเมียหลวง หรือโทรมาทะเลาะกันกับสามีเค้าทางโทรศัพท์ แล้วที่นี้เมียหลวงอึดอัดอยู่กันแล้วไม่มีความสุขเหมือนทรมานสามี ประกอบกับโดนสามีชวนหย่าทุกวัน ตอนแรกเราบอกอย่าหย่าให้อดทน ญาติเราเลยหย่าให้สามีเค้า โดยไม่บอกพ่อแม่ พอมารู้ก็ไปจดหย่าเรียบร้อยแล้ว เล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่า สงสารสามีบอก เมียหลวงว่าอยู่แล้วไม่มีความสุข สามีก็บอกเค้าว่า (เจอรักแท้ ) เมียน้อย ต้องไปรับผิดชอบ เลยปล่อยให้สามีไป โดยทนร้องไห้อยู่หลายวันว่าจะทำใจออกมาเจอกับโลก ความเป็นจริง โดยยอมรับความจริง และอยู่กับความจริง
ญาติเราใจแข็งมาก ไม่เคยโทรหาอดีตสามี สามีโทรมาก็ไม่เคยรับสายจากสามี ไม่เคยเอาปัญหาลูกที่เกิดจากสามีไปเป็นภาระสามี ไม่เคยไปเรียกร้อง บอกเราว่า เจ็บแล้วจำคือ คน เจ็บแล้วทนคือ ควาย ปัญหามันก็ผ่านมาไม่นาน เมียหลวงตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นบ้างแล้ว ส่วนมากจะชอบไปทำบุญ เดวเราจะไปบอกให้ญาติอโหสิกรรมให้พวกเค้าสองคน สาธุขอให้ญาติพ้นทุกข์ไวๆ

 

khomeraya บอกว่าตัวเองหลุดพ้นจากขี้แล้ว ทำไมยังกลับมาทำให้ใจเปื้อนขี้อีกหละครับ แถมยังก่อเวรกรรมใหม่ ละเมิดผู้อื่นทางวาจา ผิดศีลอีกหนะครับ?

ตัวเองยังตั้งใจผิดศีลอยู่เลย จะมาสอนผู้อื่นแบบนี้ ไม่เหมาะมั้งครับ?

 

ยกให้เค้าไปเถอะคุณ คิดเสียว่าให้สามีเป็นทานใครทำอย่างไรไว้ก้ได้อย่างนั้นและ

 

ดีแล้วละ อนุโมทนาด้วยนะครับ ถ้าเค้าทำได้ ก็ต้องถือว่าเค้ายกระดับสภาพจิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อยกระดับจิตขึ้นมาได้แล้ว จะหวนกลับไปพบกับความเสื่อมทำไม

ส่วนเรื่องเมียน้อยกับแฟนเก่าเค้า ก็ปล่อยให้เป็นไปตามวิถีทางของเค้าแล้วกัน คุณและญาติคุณก็สะสมแต่สิ่งดีๆเข้าหาตัวแล้วกัน

ชนะใครเป็นหมื่นเป็นแสน ก็ไม่แม้นเหมือนชนะใจตนเอง

 

=====

เราไม่ควรกล่าวว่าการตักบาตรไปแล้วสาบแช่งไปเหมือนการนำของเหม็นถวายพระ เพราะว่า
1การทำทานใส่บาตรพระ บุญย่อมเกิดแก่ผู้ให้ทาน ส่วนมิจฉาทิฏฐิก็เป็นบาบที่เกาะอยู่กับจิตเขา ไม่เกี่ยวด้วยของที่เราให้ทาน
2พระสงฆ์ผู้โปรดสัตว์ พึงอนุโมทนาในบุญที่เขากระทำและรับบิณฑบาตรแลมิได้สนใจในสิ่งอื่นประกอบ สำคัญแต่ว่า ปัจจัยนี้เป็นไปเพื่อการดำรงอยู่สมณอย่างพอเพียงตามได้ตามมีเท่านั้น

อนึ่งเรื่องการผูกพยาบาทนี้กระผมเข้าใจเรื่องนี้ดี ยากนักที่จะทำให้เขาเปลี่ยนใจได้ สิ่งที่จะทำให้เขาเปลี่ยนใจเลิกพยาบาทได้คือ
1การทำให้เขารู้จักคำว่า หิริและโอตัปปะ การผูกพยาบาทนี่เป็นบาบ
2การให้ความรู้ในธรรมว่า มนุษย์และสรรพสัตว์ย่อมมีกรรมเป็นเงาติดตามตัว เราไม่จำเป็นต้องสาบแช่งผูกพยาบาทเพราะยังไงเขาย่อมต้องได้รับกรรมที่เขาก่อไว้
3 ถ้าเขาผูกพยาบาท นั่นคือเขายังผูกเวรและกรรมร่วมกัน สุดท้ายจักต้องได้รับผลตามมาด้วย คือมีเวรกรรมต่อกันและกันไม่จบสิ้นทุกภพชาติ แล้วจะมีความสุขและหลุดพ้นได้อย่างไร

สุดท้ายญาตุผู้เป็นผู้ใหญ่ บุคคลที่เขานับถือควรกล่าวแนะนำให้เขาเลิกพยาบาท ด้วยเหตุว่าไม่ได้มีผลดีอะไรเลย และกลับจะเป็นสร้างเวรผูกกรรมกับตนเอง ช่วยบอกทางให้เขาตาสว่างและเกรงกลัวในบาบกรรมที่จะให้ผลตามมา พร้อมทั้งขอให้ให้อภัยทานแก่เขา ย่อมมีอานิสงค์มากแก่เขามีเป็นเช่นนี้เขาน่าจะรับฟังและกลับไปคิดทบทวนให้ดี และน่าจะคิดได้กลับใจเสียก่อนที่จะสายเกินแก้ไขครับ

 

คุณ khomeraya ยกระดับจิตตัวเองได้หรือยังครับ?
ยังอยากเปรียบให้คนอื่นเป็นหมาอยู่เลยไม่ใช่หรือ?

 

บางคำพูดก็ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการเขียนบทความทางธรรม เป็นประโยชน์ต่ออีกหลายคน อย่างน้อยเมื่อคืนก็เขียนได้ถึง 3 เรื่อง ไว้พรุ่งนี้ค่อยโพสต์ทีเดียว แยกไปลงหมวดกฎแห่งกรรม และหมวดพุทธศาสนาสำหรับผู้เริ่มต้น เอาไว้ให้ผู้อ่านชำระใจและให้เกิดปัญญาก่อนเข้าพรรษา

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม............

 

ผมให้เป็นการบ้าน เป็นธรรมทาน วิทยาทาน กับตัวเอง และ khomeraya ดีกว่าครับ

บางคนฝึกธรรมะมาหลายปีแล้วยังจิตเสื่อมด่าคนอื่น บิดเบือนคำสอนล่วงเกินครูบาอาจารย์ตัวเอง ต้องให้การบ้านไปเรื่อยๆ ให้กะเทาะอัตตาออกมาจนหลุดครับ

ถ้าวันไหนอัตตาเขาถูกกะเทาะหลุดเมื่อไหร่ เขาจะขอบคุณผมเองครับ แต่ยังไม่หลุด เขาก็จะทำเป็นทองไม่รู้ร้อน post ไปเรื่อยๆ ผมก็จะคอยส่งการบ้านให้เขาระลึกเรื่อยๆ ว่าในใจเขายังชั่วกว่าปุถุชนธรรมดา ตามที่เขาพูดไว้ครับ

คิดว่าเขาคงได้บทเรียนไปบ้างแล้วครับ คงจะเข้าใจแล้วว่ากรรมมีจริง เดี๋ยวนี้สงบเสงี่ยมปากคำมากขึ้นเยอะเลย ไม่มีคำพูดคะนองปากแบบเมื่อก่อน ท่าทางจะโดนจัดไปพอสมควร แต่ก็ยังไม่สำนึกลงไปในจิต ผมก็จะคอยให้การบ้านเขาไปเรื่อยๆ หละครับ

ไม่ต้องห่วงเรื่องโทสะครับผม ผมคอยดูจิตตัวเองเรื่อยๆ และผมจะไม่กด post จนกว่าจะดูจนเห็นโทสะตัวเองดับลงไปก่อนครับ

 

จิตที่คิดสาปแช่งย่อมขุ่นมัวและเป็นทุกข์
จิตที่คิดอวยพร มักชุ่มเย็นและเป็นสุข

เห็นใจภรรยาหลวงมาก
ชวนเธอไหว้พระสวดมนต์นะคะ อ่านหนังสือธรรมะ อ่านกฏแห่งกรรม ช่วยด้านจิตใจได้ค่ะ

 

ชวนพี่เค้าไปทำบุญเข้าพรรษแล้วล่ะคะ ทริปทำบุญ เท่าที่ดูสภาพจิตใจเค้าดีขึ้น ทางญาติก็ไม่พูดเรื่องอดีตสามีเค้าแล้วล่ะ พี่เค้ากลับมาทำงานเที่ยวดูหนังได้ตามปกติแล้ว เพิ่งจะพากันไปดู รัก7ปีดี7หน เห็นแก่หัวเราะซะขนาด ^^
เวลาคงตัดสินอะไรได้เองแหละคะ แค่พี่เค้าโดนแฟนหลอกมา 4-5ปีโดยไม่รู้นี่ซิ น่าสงสารพี่เค้านะ พ่อแม่และญาติทางเราก็คลายกังวลไปได้เยอะที่พี่เค้าทำใจได้ ขนาดเรายังสู้ไม่ได้เลย สู้ๆเนอะ

 

บอกพี่เค้าให้ปล่อยไปเถิด น่าขยะแขยงทั้งคู่ ขอให้หมดเวรหมดกรรมแต่ชาตินี้ ทำงานแต่งตัว เด๋วก็ดูดีเองแหละ

 

เราไม่ควรสาปแช่งคนอื่นค่ะ เพราะเราจะได้รับเศษกรรมนั้นไปด้วย เพราะจิตอาฆาตไม่ปล่อยวาง ท่านสอนให้เมตตาค่ะ
ถ้าญาติคุณไม่ถือสาไม่โกรธ กฎแห่งกรรมก็จะทำงานเองค่ะ

 

ผมเชื่อว่าคำสาปแช่งมีผล แต่ยังไม่เจอตอนนี้ อาศัยเวลาหน่อย ไม่งั้นโบราณจะมีคำสาบาน คำสาปแช่งเหรอครับ พยานเท็จในศาลทุกวันนี้ฟ้าร้องได้เมื่อไหร่