กฏหมายไม่ใช่สิ่งสูงสุดในการปกครอง และอาจกลายเป็นฉนวนทำลายประเทศ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 27 กรกฎาคม 2012.

  1. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ลูกเอ๋ย ยังมีความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง
    อย่างหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นในโลกนี้ ใน
    ช่วงหลังมานี้ คือ ความเชื่อที่ว่าการ
    ปกครองที่ดี ต้องมีกฏหมายเป็นสิ่งที่
    สูงสุด ลูกเอ๋ย ฟังให้ดีนะ ความเชื่อนี้
    เป็น "มิจฉาทิฐิ" และเป็นความเชื่อที่
    ผิดอย่างยิ่ง ที่เหล่านักกฏหมายสร้าง
    ขึ้นเพื่อยกตัวเองให้เหนือคนเหล่าอื่น
    แล้วกดข่มคนเหล่าอื่นให้ต่ำลงไปเพื่อ
    ให้ตนเองได้ความชอบธรรมในการขึ้น
    มามีอำนาจในการปกครอง มันเป็นแนว
    คิดที่ผิดพลาดหลายจุดมาก ผมจะเล่า
    ให้ฟังต่อไป ว่ามันผิดพลาดอย่างไร?
     
  2. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    "มหาตมะ คานธีร์" ผู้หันหลังให้กฏหมายแล้วหันมาใช้จารีตในชาติตน


    ก่อนอื่น ผมจะขอยกตัวอย่าง "บุคคลสำคัญของโลก" ท่านหนึ่ง ได้แก่
    มหาตมะ คานธีร์ ซึ่งเป็นคนอินเดีย ได้ไปเรียนกฏหมายจากต่างประเทศ
    ทว่า เมื่อเขาพยายามใช้ความรู้ที่ตนเรียนมาจากเมืองนอก เพื่อต่อสู้ให้
    ประเทศอินเดียได้รับเอกราช ก็ไม่มีทางสำเร็จ เพราะอะไรหรือ? เพราะ
    กฏหมายที่ว่าทั้งหลายในโลกนี้ ก็มีที่มาจากประเทศที่ยึดครองอินเดียนี้
    นั่นเอง เอาละ หลังจากนั้น ท่านก็เปลี่ยนไปใช้ "จารีตของคนอินเดีย" ที่
    จะต่อสู้กับอำนาจการครอบงำของประเทศมหาอำนาจ ในที่สุด ท่านก็ได้
    รับชัยชนะพร้อมด้วยสันติภาพ นับเป็นการปลดแอกที่งดงามและสงบที่สุด
    เท่าที่พอจะหาได้ในโลกนี้ทีเดียว นี่คือ "ตัวอย่าง" ให้เห็นว่าบางครั้งสิ่งที่
    ลูกถูกครอบงำและสอนมาว่า "กฏหมายคือสิ่งสูงสุด" มันไม่จริงเสมอไป
     
  3. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    แม้แต่ "นักกฏหมาย" ก็ไม่มีใครสักคนที่จะยอมอยู่ใต้กฏหมายเลย?


    สิ่งต่อไปที่คุณถูกพวกนักกฏหมายหลอกลวงอย่างยิ่ง คือ แม้แต่นัก
    กฏหมายเอง ก็ไม่มีใครเลยสักคนที่ยอมอยู่ใต้กฏหมาย พวกเขานั้น
    คิดว่ากฏหมายเป็นแค่ "ทาสรับใช้" หรือ "เครื่องมือหนึ่ง" ของพวก
    เขาที่จะเล่นงานคนที่รู้กฏหมายน้อยกว่าพวกเขา ก็เท่านั้น เอาง่ายๆ
    ไม่มีศาลที่ใดในโลกนี้หรอก ที่จะยึดความจริง, ความถูกต้อง หรือว่า
    ความยุติธรรม ทุกศษลในโลกล้วนยึด "ผลจากชัยชนะของการต่อสู้
    ของทนายสองฝ่าย จากหลักฐานอ้างอิงต่างๆ" แม้ว่าหลักฐานเหล่า
    นั้นจะ "ไม่ครบและทำให้ผิดกลับเป็นถูก หรือถูกกลับเป็นผิด" ก็ตาม
    เขาเรียกกันว่า "ผู้ใช้กฏหมายต้องมีศิลปะ" หรือ "ศิลปะในการใช้
    กฏหมาย" ไม่มีใครโง่และทื่อจนยอมจำนนต่อกฏหมายอย่างแท้จริง
    หรอก พวกเขามีแต่จะใช้กฏหมายในมือเอารัดเอาเปรียบคนที่รู้น้อย
    กว่าโดยไม่สนใจว่าอะไรคือความจริง, ความถูกต้อง, ความยุติธรรม
    ดังนั้น อย่าโง่ นะลูกนะ เอาง่ายๆ คนรวยทำผิด เขาไม่ต้องรับโทษ ก็
    ได้ ถ้าเขาฟาดเงินให้ทนายดีๆ ทำคดีให้เขาชนะ เขาก็ไม่ต้องรับโทษ
    นี่คือ "ความจริงที่เป็นจริงของโลก" นะลูกนะ กฏหมายจึงไม่ใช่สิ่งที่
    สูงสุด หรือศักดิสิทธิ์อย่างที่ลูกถูกหลอกให้หลงอยู่ "มาตั้งนานแล้ว"
     
  4. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    "เหนือกฏหมาย" ยังมี "สัจธรรม, กฏแห่งกรรม, ศีลธรรม, จริยธรรม"


    สิ่งต่อไปที่ลูกควรรู้อย่างยิ่งคือ "กฏหมาย" เป็นแค่ เหลนของบางสิ่งที่

    มีมาก่อน เพราะอะไร? เพราะมันเกิดทีหลัง และมันก็มาจากสิ่งเหล่านั้น
    มันจึงมีทั้ง "พ่อ" มี "ปู่" มี "ปู่ทวด" ที่เหนือกว่ามันอยู่อีกมากมายเช่น
    สัจธรรม (ปู่ทวด), ศีลธรรม (ปู่), จริยธรรม (พ่อ) ของกฏหมาย ด้วย
    กฏหมายเกิดได้ ก็ด้วยสิ่งเหล่านี้มีมาก่อน และกฏหมายทั้งหลาย ก็เอา
    มาจากแนวคิดของสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น นะลูกนะ และสิ่งเหล่านี้ "ยังไม่ตาย"
    ฟังไว้ให้ดีนะลูกนะ "ปู่ทวด, ปู่ และพ่อของกฏหมาย มันยังไม่ตาย" มัน
    ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้น มันจึงยังทำหน้าที่เป็น "บรรทัดฐานในการปกครอง
    ประเทศ" ได้อย่างเต็มกำลัง และ "เหนือกฏหมาย" อย่าลืมนะลูกนะว่า
    "บรรทัดฐานในการปกครองประเทศมีมากมาย" กฏหมายเป็นแค่เครื่อง
    มือหนึ่งให้ผู้ปกครอง นำมาใช้ในการแก้ปัญหาเท่านั้น แต่ถ้ามันกลายมา
    เป็น "ตัวปัญหา" เมื่อไร พ่อของมัน ก็ดี, ปู่ของมัน ก็ดี, ปู่ทวดของมัน ก็
    ดี ฯลฯ จะจัดการมันเอง ในฐานะที่มันก่อปัญหานัก และลูกไม่ต้องกลัวนะ
    ว่าประเทศหรือสังคมจะอยู่ไม่ได้ ตราบใดที่รากเหง้ายังอยู่ ปู่ทวด, ปู่และ
    พ่อของกฏหมาย มันยังมีชีวิตอยู่ เอาละ ลูกเอ๋ย ต้องพูดแรงแบบนี้ ก็เพื่อ
    ให้ลูกตื่นขึ้น นะลูกนะ ตื่นได้แล้ว อย่าให้ใครมาครอบงำลูกตลอดไปได้ละ
     
  5. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    "กฏหมาย" มี "ต้นทาง" มาจากสวรรค์ชั้นหกแต่จารีตมาจากพรหมโลก


    เอาละ ลองมามองในมุมต่างมิติกันบ้าง แล้วลูกจะตกใจถึงความจริงเรื่อง

    หนึ่ง คือ "กฏหมายที่ลูกคิดว่าสูงสุดนั้น" มาจากสวรรค์ชั้นที่หก มารเป็น
    ผู้ต้นคิด ต้นธาตุ ต้นธรรม ต้นกำเนิด กฏหมาย นะลูกนะ ทว่า ยังมีสิ่งที่ใช้
    มาก่อนกฏหมาย และเหนือกฏหมายมาตั้งนานแล้ว คือ "จริยธรรม" หรือ
    "จารีตประเพณี" เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ มาจาก "พระพรหม" เป็นผู้สร้างขึ้น
    ให้แก่โลกและมนุษย์ได้ใช้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข นะลูกนะ สิ่งนี้มาจาก
    "พรหมโลก" ที่สูงกว่าสวรรค์ชั้นที่หก ดังนั้น จารีตประเพณีจึงเป็นสิ่งที่มี
    ฐานะเหนือกฏหมาย โดย "ธรรม" โดยพิจารณาจากระดับของพลังงาน
    ต้นทางที่สร้างมันขึ้นมา นะลูกนะ และแน่นอนว่าเมื่อพญามารเป็นผู้สร้าง
    กฏหมายขึ้นมาเพื่อกดขี่ผู้คนให้ยอมก้มจำนนต่อตน เขาก็ต้องมารักษาที่
    เขาสร้างขึ้น และบังคับใช้ให้ได้ ยิ่งกว่านั้นคือการหลอกลวงว่า มันคือสิ่ง
    สูงสุด ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย นะลูกนะ มันเป็นแค่การครอบงำ ก็เท่านั้น
     
  6. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ความจริงอีกข้อคือ "กฏหมาย" ถูกใช้น้อยมากและทีหลังบรรทัดฐานอื่นๆ


    เอาละ
    ต่อไปนี้เป็นสัจธรรมความจริงอีกข้อที่ลูกควรรู้และตื่นได้แล้ว เพราะ

    ในความเป็นจริง กฏหมายถูกใช้น้อยมากเมื่อเทียบกับบรรทัดฐ่านอื่นๆ ขอ
    ยกตัวอย่างเช่น ใน 100 กรณีที่มีการทำผิดหรือขัดแย้งกัน มักจบลงด้วย
    การเจรจาถึงกว่า 50% จบลงด้วยการใช้จารีตประเพณีกว่า 25% และ
    จบลงด้วยการยอมความเพราะตำรวจช่วยแก้ไขความขัดแย้งนั้นอีก 20%
    ดังนั้น ในความผิดและความขัดแย้งทั้งหลายที่เกิดขึ้นบนโลกเข้าสู่ชั้นศาล
    จริงๆ ไม่น่าจะถึง 5% นะลูกนะ ดังนั้น กฏหมายจึงมีผลจริง ในทางปฏิบัติ
    น้อยมาก มากกว่า ศีลธรรม, จารีตประเพณี, การเจรจายอมความ ฯลฯ อีก
    ดังนั้น ถ้าลูกถูก "กักดักของกฏหมาย" ดึงดูดให้หลงวนอยู่กับมันอยู่ ละก็
    "ยกระดับตัวเอง" ขึ้นมาเสีย ก่อนที่ลูกจะตกต่ำลงไปสู่สวรรค์ชั้นมาร ทั้งที่
    ลูกสามารถไต่ระดับไปเหนือกว่านั้น ได้มากมายอย่างน้อยก็ พรหมโลก นะ

     
  7. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    "กฏหมาย" สำคัญในประเทศที่ "ไร้รากเหง้าของตนเอง" เช่น USA


    เอาละ
    ทีนี้ ทำไมกฏหมายมันถึงกลายเป็นสิ่งที่สำคัญกันนักหนา มันมา

    จาก USA นะลูกนะ ประเทศนี้ "ทำลายรากเหง้าของผืนแผ่นดินตัวเอง"
    ด้วยการทำลายจารีตประเพณีดั้งเดิมของชาวอินเดียนแดง และพวกเขา
    ก็บุกยึดเข้าไปสร้างชาติร่วมกัน จากหลายเชื้อชาติ พวกเขาไม่อาจจะมี
    รากเหง้าหรือจารีตประเพณีร่วมกันได้ (เพราะมาจากหลายแหล่งจึงเกิด
    ความแตกต่างทางจารีต และไม่มีเวลาพอ ที่จะหลอมรวมเข้าด้วยกันได้)
    พวกเขาจึงต้องใช้ "กฏหมาย" อ้างอิงร่วมกัน เพื่อจะได้จบปัญหาความ
    ขัดแย้งลงได้ เพราะมันไม่มีรากเหง้าไงลูก เพราะมันไม่มีจารีจประเพณี
    ใดที่จะใช้แล้วเป็นที่ยอมรับร่วมกันของคนทุกเชื้อชาติได้ไงลูก ทว่า นั่น
    มันเป็นเพราะความจำเป็นของประเทศเขา มันเลยเกิด "กระแส" ที่ทำให้
    บางประเทศไปเอาอย่างบ้าง ไปเอากฏหมายเขามาใช้บ้าง เพราะคิดว่า
    มันดีนักหนา แท้แล้วเพราะมัน "อับจนหนทาง" แล้วต่างหากละลูก ด้วย
    มันไม่มีศีลธรรม, จารีตประเพณี ฯลฯ ให้ใช้ ไงละลูก มันถึงต้องทำเช่นนั้น
    เอาละ ประเทศไทยของลูกมีรากเหง้า "ไม่เคยขาด" นะลูกนะ อย่าไปหลง
    ตามตูดพวกเขานั้น ลูกใช้ ปู่ทวด, ปู่ และบิดาของกฏหมายได้ อย่าลืมละ!
     
  8. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    สุดท้ายแล้ว นะลูกนะ "กฏหมายมันมาจากใคร?" ใครเป็นบิดาสร้างมัน
    ขึ้นมา? ลูกเอ๋ย ก็คนไม่ใช่หรือที่สร้างมันขึ้นมา ถ้ามันกลายเป็นตัวปัญหา
    ก่อเรื่อง เป็นฉนวนสร้างความขัดแย้งนัก ก็อย่าให้มันได้เกิดเลย ทำแท้ง
    มันซะ มันจะมายิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ "ผู้สร้าง" มันขึ้นมาได้อย่างไร? เอา
    ละ นี่ไม่ใช่การสอนให้คนแหกคอกหรือผิดกฏหมายนะ อย่าเข้าใจผิดไป
    อย่างนั้น แต่ให้เข้าใจว่าทำไม ทนายความบางคนที่เรียนกฏหมายมากๆ
    เขาถึงทำผิดหรือว่าความให้คนทำผิด แล้วพลิกคดีให้ชนะได้ โดยไม่สน
    ว่าความจริง เป็นเช่นไร? ความยุติธรรมแท้จริง เป็นเช่นไร? เอาละ หวัง
    ว่าลูกคงเข้าใจ ไม่ใช่ให้ลูกไปทำผิดกฏหมาย หรือแหกคอก ทำลายมัน
    นะ แต่ให้ลูก "รู้จักใช้มันอย่างที่มันควรรับใช้ลูก" ไม่ใช่ให้ลูกซึ่งเป็นคน
    เป็นมนุษย์ สร้างมันได้แท้ๆ ต้องมายอมจำนน เป็นทาสของมันตลอดไป
    เอาละ ในแง่การเมืองการปกครองยังมีอะไรที่เหนือกว่านั้นอีกมากมาย
    แต่เอาแค่นี้ก่อน แค่ประเด็น "กฏหมาย" ซึ่งเป็นประเด็นขัดแย้งนี้ก่อน


    ขอพลังแห่งพระผู้สร้างจงนำทางให้ลูกพ้นความเป็นทาสของกฏหมาย
    สวัสดี ...


     
  9. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    27 ก.ค. 2555


    "เสียงจากปู่ทวด"
    รับสื่อสารโดย


    瑠璃王
     
  10. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=vcvtxFzr50U"]Mahatma Gandhi : Ragupathi Ragava - YouTube[/ame]


    หมดเวลาละ บะบายครับ
     
  11. aphipoo

    aphipoo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2010
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +39
    ขออนุโมทนา สาธุ สำหรับสิ่งดีดี ที่มอบให้พวกเรานะครับ สาธุ ครับ
     
  12. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    คนชั่วๆ เป็นใหญ่ก็สร้างกฎหมายชั่วๆ แถมบังคับใช้ไม่ได้ ได้แต่คนจน และคนที่ต้องกำจัดออกไป...กฎหมาย
     
  13. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    เรียกร้องความถูกต้อง ตามกฎหมาย ไม่ใช่ความดีเสมอไป
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อย่าให้ใคร มากล่าวอ้าง ความรู้โง่ๆ แล้วทำลาย ความเป็น มนุษย์

    ทำลายความเป็น มนุษย์ ยังไม่พอ ไม่สาแก่ใจ ยังกล่าววาจาก หว่าน
    ล้อมให้ทำลาย เทวดาสมบัติ และ พรหมสมบัติ อีกด้วย

    ถ้าใครเชื่อบทความนี้ มีการเออวย เห็นด้วย ก็ลองพิจารณาดูว่า

    อะไรที่ไม่มีความเป็น มนุษย์ ไม่มีความเป็นเทวดา ไม่มีความเป็นพรหม หลงเหลืออยู่ในจิต

    ก็มีแต่ เดรัจฉาน เท่านั้น ที่จะพึงรองรับได้ ดังนั้น บทความนี้ จึงสร้างขึ้นมาเพื่อ
    ชักจูง โน้มน้าว ให้คนที่ยินดีในถ้อยความ กลายเป็น สัตว์เดรัจฉาน ในภายภาคหน้า

    *****************

    อนึ่ง กฏหมาย นั้น เป็นเพียง สัญญาลัษณ์ ของสิ่งที่เรียกว่า อำนาจอธิปไตยของกลุ่มชน

    และ พึงทราบก่อนว่า มนุษย์นั้นเป็นสัตว์สังคม เมื่อรวมตัวเป็นสังคมแล้ว ก็จะต้อง
    สร้างสิ่งทีเรียกว่า อำนาจอธิปไตย มาล้อมกรอบเขตแดน แบ่งเป็นกลุ่ม หมู่ เหล่า เผ่า
    พันธ์ ล่วงเลยไปถึงการ สถาปนาเป็น ชาติ สหอานาจักร์ จักรวรรดิ์

    คำว่า อำนาจอธิปไตย แปลง่ายๆ ก็คือ สิทธิในการปกครองตนเอง ( กลุ่มชน )

    และ สัญลักษณ์ที่สำคัญ ที่จะแปรออกมาได้ถึงการมีอยู่ของ อำนาจอธิปไตย
    คือ การบังคับกฏ กฏบ้าน กฏเมือง จารีต หรือ กฏหมาย ล่วงเลยไปถึง กฏบัตร(สห
    ประชาชาติ) จักรวรรดิวัตร( ขันติธรรม เป็นอาธิ )

    ดังนั้น

    กฏหมาย กฏบ้าน จะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ตราบใดที่ยังมี การตีความ บังคับใช้
    นั่นเพียงพอแล้วที่จะยืนยันได้ว่า กลุ่มชนนั้นเป็น "สัตว์สังคม"

    ความเป็น สัตว์สังคม จะเจริญเป็น อริยะชน แค่ไหน ขึ้นกับ ความมีศีล5

    พุทธศาสนา จึงหมายเอาที่ หากยังมีการตีความ บังคับใช้ สมาทาน ศีล5 ก็
    จะเรียก สังคมสัตว์ หรือภพ หรือ ชาติ นั้นๆว่า "มนุษย์"
     
  15. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ดัน...กะ...ทู้...............
     

แชร์หน้านี้

Loading...