ถ้ากำลังนั่งสมาธิแล้วมีคนทำเสียงดังรบกวน ไม่ทราบว่าเขาจะบาปไหมครับ?

ตามหัวข้อเลยนะครับ คือ ถ้าผมนั่งสมาธิอยู่แล้วเผอิญมีคนมาทำเสียงดังโดยที่เขาไม่ตั้งใจ (เขาเห็นว่าผมนั่งสมาธิอยู่แต่ลืมนึกไปว่าไม่ควรเปิดทีวีเสียงดังน่ะครับ) เลยไม่ทราบว่าเขาจะบาปไหม แล้วถ้าบาปจะต้องมีวิบากกรรมอะไรบ้างหรือไม่

ขอบคุณล่วงหน้านะครับสำหรับคำตอบ

 

ไม่บาปครับต้องดูที่เจตนาเป็นสำคัญ แต่ถ้าเค้าเห็นเรานั่งแล้วตั้งใจมาเปิดกวนเลยนี่โดนเต็มๆครับ ขอยกตัวอย่างสิ่งที่หลวงพ่อฤาษีท่านสอนนะครับ เกี่ยวกับอาณาปานสติ ท่านสอนกระทั่งให้ไปจับลมหายใจอยู่ในที่ๆมีคนคุยกัน หรือแม้กระทั่งเปิดวิทยุไปด้วยนั่งสมาธิไปด้วย พอเริมคล่องคราวนี้ก็เปิด2เครื่องเอาคนละเรื่องเลยประมาณว่าให้มันดูวุ่นวายน่ะครับ แล้วเราก็ฝึกสมาธิไปถ้ายังได้ยินยังเข้าใจเสียงวิทยุอยู่แสดงว่ายังใช้ไม่ได้ ท่านเปรียบให้ฟังว่าเหมือนไม้ที่ปักไม่แน่นอยู่ในที่ไม่มีลมก็ไม่ล้ม แต่พออยู่ที่มีลมพัดก็ล้มลงไป แต่ถ้าเราปักไม้ลงไปแน่นแล้วต่อให้อยู่ในที่มีลมพัดแรงก็ไม่ล้มครับ

 

ปาบนะเจ้าค่ะ ถ้าหากเจตนาก็บาบมาก และถ้าไม่เจตนาก็บาบน้อยเจ้าค่ะ
เพราะการที่เราไปรบกวนทำให้ท่านนั่งสมาธิสวดมนต์ไม่ได้นี่ แทนที่เทวดาที่รักษาท่าน เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรื่อน วิญญาณเจ้ากรรมนายเวร ญาติบรรพบุรูษที่รออยู่ว่าจะได้อนุโมทนาบุญ ก็ตกกระป่องกันหมดเลย เคืองแน่ๆเลยระวังไว้ด้วยนะเจ้าค่ะ
[เอาแค่ประเด็นนี้นะครับยังไม่เอาประเด็นอื่นมาพิจารณาครับ]

 

อันนี้ต้องดูที่จิตเราก่อนว่า เราเกิดความรู้สึกขุ่นมัวขึ้นมารึเปล่า

เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเจตนา ตั้งใจ หรือไม่อย่างไรขณะนั้น

ถ้าขณะนั้นจิตกำลังเดินวิปัสสนา ก็ยกเอาธรรมปัจจุบันนั้นๆมาพิจารณา

ฝึกบ่อยๆจิตจะตั้งมั่นได้เร็ว ได้มั่นคงดี...

แต่หากฝึกสมถะ เสียงเป็นศัตรูอันดับแรกของฌานต้น จิตจะสงบได้ยากนอกจาก

จะเข้าอัปปนาไปแล้ว ทั้งนี้ จะปฎิบัติควรหาที่ๆสงบ ขอบารมีองค์กัมมัฎฐานมาอยู่

กับตัวขณะทำสมาธิ เราเองก็จะสำเร็จดังใจ และก็ไม่ทำให้คนอื่นเขาต้องมาพะวง

ระวังกับเราด้วย...เจริญในธรรมครับ

_________________
ดูจิต.........ด้วยสติ

 

ตามความเข้าใจของผมนะครับ
เจตนาของผู้กระทำ[ไม่จงใจ]
ผู้ถูกกระทำรู้สึกอย่างไร -รำคาญมากเป็นอุปสรรคสุดๆ
-รำคาญนิดหน่อย
-จิตนิ่งมั่นคงไม่ได้ใส่ใจ[ขณะนั่ง]

สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวตัดสินความหนัดเบาของวิบากที่จะเกิด
ที่เคยได้ยินมาวิบากรบกวนการทำสมาธิคือ เวลาถึงคราวตนเองจะนั่งสมาธิย่อมมีเหตุต่างๆมารบกวนทำให้นั่งสมาธิได้ยาก มีอุปสรรคมากเวลาจะนั่งสมาธิครับ

เรื่องเจตนาเป็นตัวชี้วัดสำคัญครับแต่ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ 'ทุกการกระทำ[กรรม] มีวิบากมารองรับหมดเลย'

การฆ่ามดแม้เพียงตัวเดียว แม้โดยไม่เห็นเลยว่าเหยียบมันไปตอนไหนยังมีวิบากเลยครับ แต่มันเล็กน้อยมาก


>>>ผมว่าควรจะเตื่อนเพื่อนนะครับเพราะไม่งั้นเขาจะไม่รู้ แล้วอาจติดนิสัยไป เกิดไปรบกวนคนอื่นแล้วคนนั้นเกิดติดใจขึ้นมา วิบากก็จะแรงนะครับ

 

ถ้าตั้งใจจิงในการนั่งสมาธิอะไรก็รบกวนไม่ได้ สำหรับคนที่ทำำเสียงดัง ก็ต้องดูที่เจตนา แต่ถ้าอยู่ด้วยกัน ถ้าเขาเปิดทีวีเสียงดังทั้งที่รู้ว่าเรานั่งสมาธิอยู่มันก็ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคับเพราะเขาอยากดูทีวีไม่ได้ตั้งใจรบกวนแต่รู้ว่าเรานั่งสมาธิอยู่แต่เขาก็อยากดูเป็นสิทธิของเขา ส่วนเราก็นั่งของเราไป ไม่เกี่ยวกัน ถึงเสียงดังก็ชั่งไม่สนใจเพราะจิตสติเราไม่ได้จดจอที่เสียงทีวี แต่อยู่กับลมหายใจ ตางหาก

 

ถ้าตรงที่เรานั่งสมาธิอยู่คือสถานที่นันทนาการ มีผู้คนพลุกพล่าน เราคิดว่าเรานั่งสมาธิถูกที่รึเปล่า เราควรพิจารณาตัวเราก่อนว่า สถานที่เหมาะสมกับการนั่งสมาธิหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นห้องพระหรือห้องที่เงียบๆไม่มีคนพลุกพล่าน แล้วรู้ทั้งรู้ว่ามีคนนั่งสมาธิอยู่ จู่ๅเขาเอาทีวีหรือเพลงเข้ามาเปิดแบบนั้นน่าจะมีเจตนาในการกระทำ


อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

เจตนา ถ้าเผลอหรือลืมก็ไม่เป็นไร ถ้ารู้ว่าคนอื่นทำสมาธิอยู่ก็อย่าไปกวนการทำสมาธิไม่ใช่ทำกันง่าย กว่าคนๆนึงจะมีสมาธิ กว่าเค้าจะเงียบสงบได้

 

เป็นธรรมดานะนั่งสมาธิใหม่ๆ..เสียงดังธรรมดาก็จะดังมาก ช่วงนี้จะเกิดความคิดหลายอย่างทั้งตำหนิติเตือนทั้งโมโหโทษปัจจัยภายนอกสารพัด คนอื่นพูดกันไกลๆขนาดอยู่คนละห้องยังได้ยินเลย ของตกนิดเดียวเสียงดังสนั่นหวั่นไหว..เดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ จงรู้เท่าทันอารมณ์ เสียงกระทบที่หู..อย่าให้มันเข้าไปถึงใจ

 

ถ้าเจตนาก็บาปหนักจะส่งผลให้เสียสติ,เป็นโรคจิตประสาทหรืออื่นๆ
ถ้าไม่เจตนาแต่ประมาทก็จะส่งผลให้บรรลุธรรมยากเพราะเวลาที่นั่งสมาธิได้ดีก็จะมีอะไรมารบกวนขัดขวางไม่ให้บรรลุธรรมได้

 

คุณทศพรศร...
เอาคำพระป่าสอนแล้วกัน(ไม่ต้องรู้ว่าองค์ไหน)
"มาทำบุญ แล้วมาคุยกัน ได้บุญไหม
บุญเกิดจาก3สิ่ง กาย วาจา ใจ พร้อม ได้บุญ ขาดไป ไม่ได้
โทรศัพท์มือถือ คนเขาทำบุญพร้อม กาย วาจา ใจ โทรศัพท์ไปกวนเขา ระวังหูจะหนวก ตาจะบอด จะพิการเอานา"
...นี่ ว่าด้วยการไปวัดแล้วไปคุยหนึ่ง
ไปวัดแล้วไม่ปิดมือถือหนึ่ง...
..ไม่ต้องกวนคนภาวนา แค่กวนคนที่เขาถึงพร้อมทั้งสามอย่าง...ก็บาปแล้ว....
...กรรมมันมาช้ามาเร็ว..แต่มันต้องมา..ก็พิจารณาเอาเอง...บาปน้อย บาปมากอย่างไร...
...อีกอย่าง ยิ่งถ้าไปกวนบุคคลผู้ที่เป็นอริยะ หรือ สงฆ์ผู้ได้อริยะตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปแล้ว...ได้ลงนรกยาว...

 

ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ

 

การขัดขวาง การทำความดี ล้วนเป็นบาป ทั้งสิ้น ครับ

 

มองในอีกแง่หนึ่งเป็นข้อสอบสำหรับเรา ว่าจะทำข้อสอบข้อนี้ผ่านไหม
ทำไม่ได้ก็สอบตก จิตเราไปรับเอาการกระทำของเขาเข้ามาเอง
วิญญาณนำมาปรุงแต่ง จนเกิดเวทนา จิตรู้ไม่เท่าทันกิเลส
จึงสร้างตัว ทุกข์ ให้เรานั่นเอง
หมั่นพิจารณาในขันธ์ห้าให้ถ่องแท้ อุปสรรคในการปฏิบัติจะเจือจางลงได้
อนุโมทนา