เล่าเรื่องผู้ที่ผ่านมาทักทาย

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย ปิยะคุณ, 11 กรกฎาคม 2012.

  1. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    ในช่วงวัยเด็กของเรา มีหลายอย่างผ่านมา และก็ผ่านไปโดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไร บางครั้ง ถามผู้ใหญ่ ก็จะได้รับคำตอบแบบบอกปัดไปบ้าง ส่วนนึงอาจเพราะไม่อยากให้เรากลัว พอโตมา หลายสิ่งที่ผู้ใหญ่ไม่ตอบก็ค่อยเฉลยออกมา ชัดขึ้น ๆ นั้นคือ พลังงานที่เรียกกันง่ายๆ ว่า ผี ..... เล่าเรื่องชัด ๆ ตามระบบความจำแล้วกันนะค่ะ ----
    เสียงเคาะประตู

    เรื่องเกิดขึ้นตอนสมัยเรียน เราอายุราว ๆ 18 ปี ช่วงนั้นมีเพื่อนที่เข้ามาเรียนเค้าอยู่หอพักบ้าง อยู่คอนโดบ้าง อยู่แฟลตบ้าง บางครั้งเราก็ไปหาเพื่อนบ้างก่อนเข้าเรียน บางทีก็ไปนอนเล่นห้องเพื่อนบ้าง ห้องนี้แหละค่ะห้องต้นเรื่อง --- มีเพื่อนคนนึงซื้อห้องของการเคหะไว้ แถบชานเมืองใกล้กับที่เรียนเรา ห้อง

    ใหม่ ยังไม่เคยมีคนเข้าพักเลย เวลาเราไปหาเพื่อนเราคนนี้ เราสังเกตุว่าห้อง

    เพื่อนเงียบ สงบมาก เย็นสบาย ใจมันชอบก็เลยไปบ่อย ๆ คุณเพื่อนก็ชอบ

    เล่าเรื่องยามค่ำคืนให้ฟัง ว่าน่ากลัวอย่างนั้น อย่างนี้ และแล้วเราก็เจอจนได้

    วันนึงช่วงเวลาราว ๆ 6 โมงเย็น ฟ้าเริ่มมืด ตึกทั้งตึกก็เงียบ ๆ ไม่ค่อยมีคน เรา

    กำลังจะกลับบ้าน เพื่อนเราเลยเตรียมตัวลงไปกินข้าวด้วย ก็มีเสียงเคาะประตู

    ดังขึ้น เคาะแรงมาก ๆ แบบ ตุ้ม ๆ ๆ ๆ เพื่อนเราหน้าเสีย เราไม่รู้เรื่องเลยเดิน

    ไปเปิด พอเปิดไป ..... ว่างเปล่า ..... ไม่มีอะไร เพื่อนเราบอกว่า มึง คืน

    นี้กูไปนอนบ้านมึงนะ ว่าแล้วก็รีบเก็บของออกจากห้อง พอขึ้นรถมา ก็เล่าให้ฟัง

    ว่า มาเคาะแบบนี้เกือบทุกคืน วันนี้มาเร็ว เราก็บอกว่า ไม่ใช่มั้ง คนมาแกล้ง

    รึเปล่า เพราะเห็นอยู่คนเดียว มันก็บอกว่าคงไม่ใช่ เพราะใครมันวิ่งเร็วขนาดนั้น

    เราก็บอกว่า อาจจะเป็นไปได้ หลังจากนั้น เพื่อนเราก็หาคนไปนอนที่ห้องด้วย

    บางทีก็ไปนอนบ้านเพื่อน จนเราลืมเรื่องนี้ไปแล้ว จนมาวันนึง ช่วงหัวค่ำ วัน

    นั้น นัดกันไปเที่ยว เพื่อนเราแต่งตัวเสร็จก็ลงไปรอข้างล่างพร้อมเพื่อนคนอื่น

    เราเสร็จทีหลัง กำลังจะลง เรากำลังจะบิดกลอนประตู เสียงเคาะก็ได้ขึ้นอย่าง

    แรง เราเลยเปิดประตู กะว่าจะได้จับคนขี้แกล้งนั้นให้ได้ พอเปิดไป ก็พบกับ

    ความว่างเปล่า ........ เรารีบล็อคประตู แล้ววิ่งลงมาข้างล่าง จะเล่าให้เพื่อน

    ฟัง แต่คิดไปคิดมา อย่าเลย เดี๋ยวเพื่อนกลัว เอาเป็นว่า ลืม ๆ ไปแล้วกัน

    จนมาเกิดอีกเรื่องนึงที่ห้องนี้ วันนั้นพ่อเพื่อนมาเยี่ยมเพื่อน และเป็นช่วงส่งงาน

    เราเลยค้างที่ห้องเพื่อนคนนี้ โดยปูที่นอน นอนอยู่ใกล้ชั้นวางของและตู้หนังสือ

    พอหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ก็เริ่มรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก ตอนนั้นรู้แล้วว่าโดน

    ผีอำ พยายามทำทุกอย่างให้หลุดพ้น แต่ก็ไม่หลุด และมีอาการคล้าย ๆ ครึ่ง

    หลับครึ่งตื่นว่า คนที่มาอำนั้น เค้าให้เห็นภาพเค้าตอนเสียชีวิต เค้าเป็นผู้ชาย

    นอนอยู่บนรถเข็นที่ใช้ในโรงพยาบาลคลุมผ้าสีเขียวเข้ม ๆ รถกำลังเข็นเค้าไป

    ในห้อง ๆ นึง จากนั้นเราก็หลุดจากการอำ พอลุกได้โวยวายใหญ่เลย พ่อ

    เพื่อนก็บอกว่า ไม่มีอะไรหรอก เราฝันร้าย แต่คุณเพื่อนสิ หน้าซีดเลย พอ

    เช้ามา เพื่อนเราเล่าให้ฟังว่า มีกระโหลกอันนึง ได้มาจากรุ่นพี่ รุ่นพี่บอกว่า

    เป็นเรซิ่น มันเลยเอามาไว้ท่องกายวิภาค และเป็นแบบวาดรูป แต่พี่คนนั้น

    บอกว่าหล่อมาจากกระโหลกของอาจารย์ใหญ่ เราก็มาคิดว่า ท่านมาบอก

    อะไรเรา หรือจะบอกว่า นอนผิดทิศนะ ??
     
  2. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    อาจารย์ใหญ่มาเตือน

    วันนั้นเป็นวันที่เรียนวิชาการ ไอ้เราก็ติดอ่านนิยายบ้าบออะไรก็ไม่รู้ จนไม่เป็ฯอันเรียน

    พอก้มอ่านมาก ๆ อาจารย์ก็จะคอยเรียกชื่อกระตุ้น พอโดนบ่อย ๆ ก็ไม่ดีแล้ว เราเลย

    ย้ายที่มานั่งข้างประตู พออาจารย์เผลอก็แว๊บออกไปทันที จุดหมายคือห้องว่างข้าง ๆ ห้อง

    ที่เราเรียน เราเลือกไปนั่งหลังห้องนั้น ใกล้ ๆ ที่เรานั่งมีตู้เก็บโครงกระดูกอาจารย์ใหญ่

    อยู่ด้วย พอเรากำลังเพลินกับตัวหนังสือ หูเราก็พลันได้ยินเสียงกระแอมดังขึ้น เสียง

    ใหญ่ ๆ และใกล้มาก ๆ เราก็หันไปมองตามเสียง ..... ก็ไม่มีใครนะ เห็นแต่ตู้อาจารย์ใหญ่

    บรรยกาศในห้องที่โล่ง ๆ เริ่งวังเวงพิกล เราเลยย้ายมานั่งหน้าห้องแทน คราวนี้ไกลตู้

    ท่านออกไป อ่านไปได้ราว ๆ 1 หน้า เสียงกระแอมดังขึ้น คราวนี้ชัดเลยว่ามาจากตู้ท่าน

    เราเลยรีบลุกออกจากห้อง เพราะมีความรู้สึกว่า มีพลังงานบางอย่างมาประชิดตัว ปล.ไอ้

    ตอนแว๊บออกหนีเรียนนี้มันง่าย แต่ตอนหน้าตื่นวิ่งเข้าห้องเรียนไปใหม่สิ อิอิ ยากที่สุดเลย

    เห้ออออ
     
  3. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    เค้าเรียกันว่า " ป้าเล็ก "

    เรื่องนี้เกิดที่บ้านเพื่อนคนนึงเมื่อสิบกว่าปีก่อน เพื่อนคนนี้เพิ่งบวชและไปจำวัดแล้ว

    พวกเราก็กลับมาพักกันที่บ้านของพระ วันนั้นพ่อของพระก็ตั้งวงเลี้ยงอาหารและเครื่อง

    ดื่มให้เพื่อน ๆ ลูก เราเองก็นั่งอยู่ในวงโดยนั่งหันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน ลักษณะบ้านนี้

    คือมีหลาย ๆ บ้านอยู่ในบริเวณเดียวกัน ญาติ ๆ ก็เดินผ่านเข้าผ่านออกไป มากหน้าหลาย

    ตาเนื่องจากเพิ่งเสร็จจากงานบวช พอค่ำลงหน่อยผู้ใหญ่ที่มีอายุก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ

    นุ่งกระโจมอกก็มีบ้าง ตาเราก็พลันเห็ฯเงาของผู้หญิงผมสั้น ๆ ท้วม ๆ เตี้ย ๆ นุ่งคล้าย ๆ

    กระโจมอก คือ มีผ้ามัดอยู่เหนือหน้าอก เดินผ่านบานเกร็ดไปทางบ้านอีกหลัง ไอ้เราก็

    เป็นคนช่างจดช่างจำ เราก็จำได้ว่า ไม่มีญาติพระคนไหนมีรูปร่างแบบนี้หนิ เราเลยถาม

    พ่อของพระว่า เมื่อกี้ หนูเห็นใครก็ไม่ทราบเดินผ่านหน้าต่างไปทางบ้านข้าง ๆ อะค่ะ แล้ว

    ก็ถามว่าทำไมเค้าไม่มางานบวชเหรอค่ะ ( เราค่อนข้างสนิทกับบ้านนี้พอสมควร เลยกล้า

    ถาม ) พ่อเค้าก็ทำหน้า งง ๆ พร้อมถามถึงลักษณะของคนที่เดินผ่านไป เราก็อธิบายไป

    พ่อเค้าเลยบอกว่า เออ ลูกลองเดินไปดูซิว่าป้าเค้ายังอยู่รึเปล่า เราก็พาซื่อ เดินไปทางที่

    ป้าคนนั้นเพิ่งผ่านไป พอเราออกไปดูป้าคนนั้น ก็พบกับกำแพง ....... มึนเลยเรา

    เราเดินมาบอกพ่อว่า หนูเห็นคนเดินไปทางนั้นจริง ๆ นะค่ะ เล่าไปขนลุกไป กลัวผีก็กลัว

    กลัวพ่อกับเพื่อน ๆ ไม่เชื่อก็กลัว พ่อเค้าบอกว่า ผู้หญิงคนนั้น ที่นี่เค้าเรียกกันว่า ป้าเล็ก

    แกนุ่งผ้าแถบสีเข้ม ๆ ใส่โจงกระเบน ผมสั้น ๆ ท้วม ๆ ตัวเตี้ย ๆ น่าจะอยู่ที่นี่มานานแสน

    นานแล้ว คนในบ้านเคยเจอ แต่ไม่บ่อย คนอื่นไม่เคยเจอ มีแต่เรานี่แหละที่เห็น .......

    -*- จากนั้น พอพระสึกออกมา พวกเราก็ไปมาหาสู่บ้านพระกันเสมอ ๆ เหตุเพราะ พ่อ

    แม่ของเค้าไม่ดุ ใจดีมาก พวกเราเลยไปค้างกันบ้าง ไปจัดปาร์ตี้กันบ้าง ส่วนเราพอ

    หลังจากเจอป้าเล็กแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอแบบนั้นอีก มีแต่แว๊บ ๆ จนมาหนที่จะเล่า

    แหละค่ะ เรียกว่า ชัดเจน เต็ม 4 หูเลย เรื่องคือ วันนั้นเราไปปาร์ตี้ที่บ้านเพื่อนคนนี้

    เพื่อนเราคนนึงเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน เลยขอไปอาบน้ำโดยให้เราไปเป็ฯเพื่อน เพราะ

    ห้องน้ำบ้านนี้ใหญ่มาก เรียกว่าใหญ่ก็ไม่ถูก เรียกว่าลึกดีกว่า เป็นห้องยาว ๆ กว้างพอ

    สมควร ระหว่างที่เพื่อนเรากำลังล้างหน้า ก็มีเสียงผู้ชายเรียกชื่อเราอยู่หน้าห้องน้ำ และ

    เรียกเป็นชื่อจริงเรา ชัดมาก เพื่อนเราเปิดประตูไปทันที กะจะด่าเพื่อนที่มาแกล้ง เพราะ

    ห้องน้ำนี้อยู่ชั้น 2 พอเปิดไป ไม่เจอใคร ไฟมืดสนิทเหมือนขาขึ้นมา เพื่อนปิดประตูทันที

    แล้วก็รีบอาบน้ำ ระหว่างอาบน้ำ เราก็ยืนกลัวอยู่ คิดอะไรสารพัด แต่มีความรู้สึกว่า มีคน

    ยืนหน้าประตู ( ประตูห้องน้ำเป็นบานเกร็ดระบายลมได้ตลอดบาน ) กลัวก็กลัว ไม่รู้จะทำ

    ไง พอเพื่อนแต่งตัวเสร็จ ก็ตัดสินใจ วิ่งออกมา ลงข้างล่างทันที หลังจากหนนั้น เราก็เจอ

    ป้าแกอีกหลายหน บางทีก็มาเป็นเสียง บางทีก็มาในฝัน ตอนนั้นสรุปไว้ว่า ป้าเค้าไม่

    ชอบเรา แต่ตอนนี้ ชักไม่แน่ใจว่าคืออะไร แต่ที่แน่ ๆ ป้าแกก็ยังคงอยู่
     
  4. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    มือที่เกาะข้างเตียง

    เรื่องนี้เกิดที่บ้านหลังที่เราอาศัยอยู่นี้ บ้านนี้ เราเจอผู้มาเยือนบ่อยมาก ๆ เรียกว่าปีแรก ๆ บ่อยเกินไป เรื่องนี้ขอลัดเอามาเล่าก่อน เพราะใกล้หมดเวลาส่วนตัวแล้ว อีกไม่กี่นาที เทวดาจะกลับจะจากโรงเรียนแล้ว เราต้องไปปูพรมแดงรอรับเทวดา ^ ^

    ประมาณ 5 - 6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเรายังไม่มีลูก การใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้เป็นไปแบบ

    แพ็คคู่เสมอ คือ ถ้าเราจะขึ้นข้างบน เราต้องเรียกหมาให้ขึ้นไปด้วย หรือถ้าแฟนเราอยู่

    เราจะรอขึ้นบ้านพร้อม ๆ กัน เพราะข้างบนบ้าน ( ตอนนั้น ) เป็นอะไรที่คลุมเครือมาก ๆ

    แบบไม่รู้ว่า สรุปบ้านนี้บ้านใครกันแน่

    วันที่เกิดเหตุ ตอนนั้นเป็นเวลาราว ๆ 6.30 นาที แฟนเราตื่นและลงไปออกกำลังกาย

    แล้ว เรายังคงนอนอยู่ แต่เปิดม่ามให้แสงเข้ามา และอยู่กับหมาที่เลี้ยงไว้ตัวนึง เป็นพันธุ์

    พิทบูล เรากำลังเคลิ้ม ๆ จะหลับต่อ ครึ่ง ๆ กึ่ง ๆ ตาก็เห็นนิ้วกำลังเกาะขอบเตียงข้าง ๆ

    ที่เรานอน ค่อนไปทางปลาย ๆ เท้า มือนั้นออกสีคล้ำ ๆ เล็บซีด ๆ ( พิมพ์ไป ยังนึกกลัว

    อยู่เลย ) เราเห็นปุ๊บ เราก็เอาเท้าเรา กึ่ง ๆ เขี่ย กึ่งถีบมือนั้น แต่มือนั้นปัดเท้าเราจนเรา

    รู้สึกเลยว่า เท้าเราโดนปัด จากนั้นเราก็เหมือนตื่นหรือออกจากพวัง ใจเต้นแรงมาก

    กลัวมาก หันไปหาหมาเรา เพราะหมาเราจะนอนข้าง ๆ ฝั่งที่เรานอน หันไปไม่เจอ เลย

    เรียกชื่อ ....... แหมมมม เจ้าหมาไปแอบอยู่ข้างเตียงอีกฝั่งนึง ต่ออีกนิดนะค่ะ เจ้า

    หมาตัวนี้เคยโดนใครบางคนแกล้งด้วย คือเจ้ารถถัง ( หมาพิทบูลตัวนี้ ) จะนอนอยู่ฝั่งเรา

    เสมอ บางทีก็ไปนอนบนผ้าเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำ วันนึง เราได้ยินเสียงใครบางคน เรา

    เลยตื่นขึ้นมาฟัง เราเห็นรถถังนอนแบบกระตุก ๆ ๆ แต่ที่จริงแล้ว รถถังกำลังจะลุก แต่ลุก

    ไม่ขึ้น เหมือนมีอะไรมากดไว้ พอเราเรียกชื่อรถถังดัง ๆ แป๊บเดียว รถถังก็ทะลึ่งพรวดลุก

    แบบกระโจนออกมาจากมุมนั้น วิ่งไปซุกที่ซอกเตียงข้างแฟนเรา ลักษณะกลัวสุด ๆ

    ....... นี่แปลว่า รถถังโดนเค้าแกล้งแน่ ๆ เลย
     
  5. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    เล่าต่อดีไม๊เนี่ย ??? เงียบเลย ^ ^" ขอเวลาตัดสินใจ หนึ่งอึดใจสงบ เดี๋ยวลงมาดูอีกที
     
  6. PNPNC

    PNPNC Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +38
    ก็เล่าได้ครับ สนุกดีนะ
     
  7. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    ขอบคุณนะค่ะคุณ PNPNC ที่จริงก็ถามไปงั้นแหละค่ะ :d ยังไงก็อยากเล่า แบบเก็บกด เจอบ่อยเกิน ครั้นจะเล่าให้ใครฟัง คนเค้าจะหาว่าเราเพี้ยน บางทีเรายังแอบระแวงแฟนเราเลยว่า เค้าจะหาว่าเราเพี้ยนหรือเปล่า ??? แต่ช่างเถอะ นานาจิตตัง วันนี้นึก ๆ ไปว่าจะเล่าเรื่องไหนดี เอาเรื่องนี้ดีกว่า

    เรื่องเกี่ยวกับรถ

    เมื่อปี 47 แฟนเราเปิดนิตยสารรถมือสองดู เห็นรถโฟร์วิลสีแดง ต้องตามากเลยเอากลับ

    มาถามเราว่าชอบไม๊ ไอ้เราก็โอเค เพราะคันที่ใช้อยู่มันไปไม่ได้ทุกที่ ถ้าได้รถลุย ๆ ก็น่า

    จะเที่ียวได้สะดวกขึ้น พอไปดูที่เต๊นท์ มันถูกใจมาก ๆ สภาพดี รถใช้งานมา 3 ปีแล้ว

    เจ้าของก็เอามาขาย ตอนซื้อไม่ได้สนใจอะไรมาก รู้แต่ชอบใจ พอได้รถคันนี้มาเราก็

    เดินทางบ่อยมาก ๆ เรียกเจ้ารถคันนี้ว่า " อำแดง หรือ นำเที่ยว " และเลขทะเบียนรถก็

    ทำให้แฟนเราถูกล็อตเตอรี่บ่อย ๆ ครอบครัวเราใช้รถคันนี้มา ตลอดเวลา 3 ปี ไม่เคยมี

    ปัญหาเลย แถมยังช่วยเซฟชีวิตให้พ้นอุบัติเหตุบ่อย ๆ ด้วยซ้ำ จนมาปลาย ๆ ปีที่ 3 เรา

    กำลังตั้งท้อง ก็มีเรื่องประหลาดเกี่ยวกับผู้ร่วมถนน บ่อยครั้งที่เราจะโดนยกไฟสูงใส่แบบ

    กระพริบ ๆ เหมือนเรียก หรือเตือน บางทีแฟนเราก็หลบให้เค้าไปก่อน พอรถขับมาขนาน

    รถเรา เค้าก็จะชี้ ๆ ท้ายรถ แล้วก็ผ่านไป เป็นแบบนี้บ่อยมาก ๆ บางทีเราเหมือนจะเห็น

    ว่ามีคนนั่งท้ายรถมา 2 คน แต่ก็ไม่แน่ใจ เราเองตอนนั้นท้องอยู่ ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

    มากมาย จนมาฝัน ฝันว่าเรากำลังยืนอยู่ข้าง ๆ รถเรา รถเราพังและเสียหายหนักโดย

    เฉพาะประตูฝั่งที่เรานั่ง ประตูฉีกออกมาเหมือนกระดาษขาดเลย เราเห็ฯแบบนั้นเราก็จะ

    เดินไปตามหาแฟนเรา แต่ก็ไปไหนไม่ได้ ซักแป๊บก็มีกลุ่มผู้ชายใส่เสื้อขาวกางเกงสีดำ

    เดินมาเป็นกลุ่ม ชายในกลุ่มนั้นที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ยืนนิ่ง ๆ 1 ในนั้นมีรูปร่างปกติ สันทัด

    บอกกับเราว่า " ไปกันได้แล้ว " .... ตอนนั้นในฝัน เราตกใจมาก เราถามว่า จะไปไหน

    เรารอแฟนเราอยู่ แล้วจากนั้นเหมือนจะได้ยินว่า รถเกิดอุบัติเหตุ ... พอเราได้ยินแบบนั้น

    เราก็บอกชายคนนั้นว่า เราไม่ไปหรอก เรากำลังท้อง และเราก็มีภาระหน้าที่หลายเรื่อง

    เราไปไม่ได้ .. บลา ๆ ๆ ๆ พูดไปหลายอย่าง ชายสันทันคนนั้นก็ก้มลงดูกระดาษอะไรไม่รู้

    ในมือแล้วก็บอกคนที่ตามมาว่า ให้เค้ากลับไป แล้วก็เดินไปหาผู้หญิงคนนึง ตอนนั้นเราก็

    มองตาม รู้สึก งง ๆ ว่า ผู้หญิงคนนี้มาตอนไหนหว่า สภาพผู้หญิงคนนั้นคือ ใส่ชุดแซค

    ตามสมัยสีเข้ม ๆ ยืนอยู่ข้างรถฮอนด้า ซีวิคสีดำที่ยับเหมือนโดนขยำ จากนั้นเราก็ตื่น

    และเริ่มประมวลเหตุหลาย ๆ อย่างเช่น บางทีนั่งรถไป ก็เกือบจะเกิดอุบัติเหตุหลาย ๆ

    ครั้ง คนยกไฟใส่ก็บ่อย บางทีก็ชี้ ๆ ให้ดูข้างหลังกระบะก็บ่อย เราว่าต้องมีเหตุอะไรแน่

    ๆ แม่เราก็เลยให้ไหว้แม่ย่านางรถ ขอให้ปัญหาทุกอย่างมีทางออก ( แบบว่า ถ้าหมด

    เวลาของท่านก็ขอให้เราได้ทางออกที่ดี ) และแล้วทางออกก็มาในเวลาอันสั้น แฟนเรา

    เอารถเข้าไปเช็คที่ศูนย์ ระหว่างรอ เซล์ลก็เดินมาคุยด้วย จากนั้นแฟนเราก็โทรมาบอกว่า

    พี่จองรถใหม่แล้ว จะขายคันนี้ ทีแรกเราก็อึ้ง ๆ เพราะเรารักอำแดงมาก แต่พอคิดไปว่า

    นี่ละม้างคือทางออก สรุป รถคันใหม่ก็ได้ออกภายในเวลาไม่นาน แต่รถคันใหม่นี่ต่างกับ

    รถคันเก่าอย่างสิ้นเชิง เพราะรถคันใหม่นี่ นำเราไปทุกที่ ที่มีบุญ เราเรียกรถคันใหม่ว่า "

    นำบุญ " ^ ^ สุดท้ายของเรื่องนี้ เราเล่าเรื่องนี้ เพื่อเป็นการประกาศแจ้งให้เห็นถึงความ

    ดีของดวงจิตทุก ๆ ดวงที่เกี่ยวข้องกับการมาเตือน ขออนุโมทนาในกุศลของทุกดวงจิต

    ที่มาเตือนด้วยค่ะ
     
  8. พันมณี

    พันมณี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +49
    สนุกมากค่ะ ขอบคุณน่ะ ^^
     
  9. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    ^ ^ จริง ๆ แล้ว เรื่องที่เล่ามานี่ ตอนพบเจอมันก็ไม่สนุกหรอกค่ะ แต่พอผ่านไปแล้ว นำมาเล่าให้อ่านเพลิน ๆ ถ้าท่านใดจะกรุณาพิจารณาตาม ให้เห็นถึงทุกข์ของดวงจิตนั้น ๆ ก็อนุโมทนาด้วยนะค่ะ ปล. เรื่องแบบนี้ หากใครติดใจสงสัยสิ่งใด ขอไว้นะค่ะ ขอให้อ่านเพลินตาเฉย ๆ อย่าเอามาเป็นอารมณ์นะค่ะ สวัสดียามเที่ยงวันค่ะ ^ ^

    วันนี้นั่งดื่มกาแฟแล้วก็คิดไปว่า เวลาเราปฏิบัติธรรม พักนี้ เราไม่ได้ยินเสียงของผู้เสวยทุกข์เลย คือเมื่อก่อนช่วงที่เริ่มปฏิบัติธรรมใหม่ ๆ เราจะได้ยินเสียงของพวกเค้าร้องค่อนข้างบ่อย แต่มาระยะหลังไม่เคยได้ยินอีกเลย คิดเลยไปก็ทำให้นึกขึ้นได้ ถึงเรื่องที่เกิดตอนปี 50 ที่เมืองจันท์

    ผู้หญิงที่รีสอร์ท

    เมื่อปี 50 เราเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่จังหวัดจันทบุรี คืนแรกนอนบ้านเพื่อนที่อำเภอ

    ท่าใหม่ เช้าวันต่อมาก็คิดว่า มาถึงทะเลก็ขอไปนอนทะเลซัก 2 คืนเถอะ ว่าแล้วก็อพยบ

    หมา 4 ตัวพร้อมกับเพื่อนและลูกของเธอรวม 5 คน ( เด็ก 2 ) ขับรถตามกันไป จุดหมาย

    คือรีสอร์ทที่เคยมาพักประจำ ที่นั้นอนุญาติให้สัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ พอถึงรีสอร์ท เราก็ลง

    ไปถามหาเจ้าของรีสอร์ท ซึ่งพอจะรู้จักกัน ได้ความว่าพี่เค้าไม่อยู่ แต่ก็อนุญาติให้พักได้

    แต่ห้องพักที่ติดทะเลนั้นเต็ม มีแต่ห้องที่อยู่โซนหลัง ไอ้เราก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็ตกลง

    เช็คอิน โดยตกลงว่าจะพัก 2 คืน ทางรีสอร์ทขอให้จ่ายค่าห้องไว้ 1 คืนก่อน แล้วจะมา

    เก็บอีกครั้งวันออก เราก็ตกลงตามนั้น กลางวันก็ไม่มีอะไร สบาย ๆ แต่ติดต้องห้องนี้

    มันอยู่ในโซนอับ ๆ อย่างไรไม่ทราบ ยุงเยอะมาก ๆ เดินลึก แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะ

    ไม่ได้จองห้องไว้ ช่วงกลางวัน พวกเราก็ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เล่นน้ำ พักผ่อน ทำ

    กับข้าว สนุกสนานกันไป พอตกค่ำ ยุงเริ่มมา พวกเราก็ปิดประตูห้อง แล้วก็พักผ่อนกัน

    ...... ราว ๆ ตี 1 - 2 เราฝันว่า มีผู้หญิงคนนึงใส่เสื้อยืดสีอ่อน ๆ กางเกงขาสั้นสีอ่อน ๆ

    ผมเปียกน้ำ มานั่งในท่ากึ่ง ๆ คลาน เห็นหน้าไม่ชัด เพราะเหมือนจะไม่เห็นลักษณะของ

    หน้าเลย คือเหมือนเรียบ ๆ ในฝันเราก็กลัวมาก ถามเค้าว่าจะเอาอะไร มีคำตอบออกมา

    แต่ไม่รู้ผ่านอะไรที่ไม่ใช่ปาก บอกว่าตายในน้ำ เราก็ได้ยินแบบนั้นก็กลัว ( ตอนนั้นยังไม่ได้

    ปฏิบัติธรรม เลยไม่รู้จะช่วยอะไรเค้าได้ ) เลยนึกถึงพ่อจตุคามที่แฟนเราแขวนคอ พอนึก

    ไป องค์พ่อก็มาอยู่ในมือ เราก็ยื่นใส่เธอผู้นั้น เธอผู้นั้นรับไปแล้วขยำกลับมา เราก็ตกใจ

    ลุกพรวดจากที่นอน พอลุกขึ้นมาได้ ก็ งง ไปใหญ่ว่า แฟนเราก็ลุกตาม พร้อมกับเพื่อน

    เราที่นอนอยู่ข้างเตียง เรายังไม่ได้เล่าอะไรให้ใครฟัง มีแต่เพื่อนเราพูดว่า " นี่มึง ....

    เดี๋ยวกูขอกลับไปนอนที่บ้านก่อนนะ นอนที่นี่ไม่ไหวอะ " ........ เราก็ถามว่าทำไม อะไร

    เพื่อนก็ไม่ตอบ ซักพักแฟนเราก็เดินไปมอง ๆ ที่หน้าบ้าน ( รีสอร์ทเป็นบ้านไม้แยกเป็น

    หลัง ๆ ) แล้วเค้าก็เปิดประตูออกไปเดินดู ซักพักก็เดินเข้ามา เพื่อนเราหน้าเสียแต่ก็ไม่

    เล่าอะไร จากนั้นพวกเราก็เงียบ ไม่มีใครพูดอะไรกันจนเช้า พอ 6 โมงฟ้าสางปุ๊บ เรา

    กับเพื่อนก็ลุกขึ้นมาเก็บของ เพื่อนเราพูดก่อนว่า มันจะกลับบ้านก่อนนะ ไว้เจอกันที่บ้าน

    มันแล้วกัน เราเลยตอบกลับไปว่า เราเองก็จะกลับเหมือนกัน คุยกันไปคุยกันมา เลยรู้

    เรื่องว่า เพื่อนเราฝันว่ามีผู้หญิงคนนึงใส่ชุดสีเข้ม ๆ ยืนอยู่หน้าบ้าน( รีสอร์ท ) เค้าบอกว่า

    เค้าตายในทะเล โดนของมีคมตรงช่วงคอ มาเรียกเพื่อนเราให้ออกไปหา เพื่อนเราสะดุ้ง

    ตื่น นอนคิดไปถึงสิ่งที่ฝัน ก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อมันดังขึ้น และช่วงนั้นก็เป็ฯช่วงที่เรา 3

    คนตื่นขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ส่วนแฟนเราเค้าบอกว่า เค้าเห็นเงาที่หน้าบ้านเลยออกไปดู

    เพราะมาเดินไปเดินมานานแล้ว สรุปว่า เวลา 10 โมงเช้า เราออกจากรีสอร์ทนั้น โดยไม่

    รอแจ้งกับทางรีสอร์ทว่าเราเช็คเอ้าท์ พอเดินทางกลับมาที่ท่าใหม่ สามีเพื่อนเราเค้าเป็น

    คนพื้นที่ เค้าก็บอกว่า ช่วงหลังมีข่าวว่ามีนักศึกษาตายที่นั้น แต่ไม่รู้ว่าตรงจุดไหน เพราะ

    ไม่ได้ใส่ใจมาก เห็นเป็นเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ส่วนเรา ก็กลับกรุงเทพวันนั้นเลย

    อยู่ไม่ได้แล้วจ้าจันทบุรี มันจำติดตา ติดใจเลย และในเวลาต่อมา เราก็ได้ไปวัดหัวลำโพง

    ไปซื้อโลงศพอุทิศให้ผู้หญิงคนนั้น ( ขอย้ำว่า ตอนนั้นยังไม่ได้ปฏิบัติธรรม และยังไม่รู้ว่า

    จะทำบุญอย่างไรให้เธอผู้นั้น เลยคิดไปตามเรื่องตามราว ใจคิดแค่อยากให้เธอผู้นั้นได้

    บุญ ) สุดท้าย หากท่านใดได้อ่านและมีจิตเป็นกุศล ขอได้โปรดช่วยนึกถึงเธอทั้งสอง

    ด้วย เธอทั้งสองนี้ ( หรืออาจเป็นคนเดียวกัน ) เมื่อปี 50 พวกเราพบกันที่หาดจ้าวหลาว

    ค่ะ ขอกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบส่งผลให้เธอได้พบแสงธรรมของ

    พระพุทธองค์นำทางให้เธอพ้นทุกข์ทรมานด้วยเถิด ขออนุโมทนาสาธุล่วงหน้าสำหรับ

    สหายธรรมที่นึกถึงเธอค่ะ
     
  10. thammakarn

    thammakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +376
    อ่านแล้วขนลุกเลย น่ากลัวจริงๆ
    แต่อ่านแล้วก็ได้ข้อคิดดีๆเหมือนกันน่ะ จะไปไหนมาไหนก็ต้องมีสติ
    แต๊งกิ้วสำหรับเรื่องชวนขนลุก:cool:
     
  11. thammakarn

    thammakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +376
    เมื่อกี้ลืมบอกไปว่า ส่วนใหญ่ที่เค้ามานี่ก็เพราะต้องการขอส่วนบุญน่ะ
    อยู่ที่บ้านก็เจอได้ เคยเจอในสมาธิบ้าง แต่ไม่ค่อยบ่อยหรอก
    พอออกจากสมาธิก็อุทิศบุญกุศลจากการเจริญกรรมฐานแก่เค้าก็เป็นอันใช้ได้
     
  12. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    เจอเรื่องสยอง เหมือนกันนะครับ ผมว่า อะไรที่เราเจอบ่อยๆ มันมักจะชิน เหมือนผมที่เจอผีบ่อยๆ เจอจนซ้ำซาก จากกลัวกลายเป็นชิน กลายเป็นเฉยๆ สุดท้ายก็เลยคุยกับผีไปเลยครับ พอได้รู้ได้ศึกษา จึงได้เข้าใจว่า ผีมีหลายประเภท จริงๆที่จะหลอกเรานั้น ส่วนมากจะทุกข์ จิตเขาเศร้าหมองในตอนที่สิ้นชีพ จึงแสดงร่างกายออกมาในลักษณะนั้น และต้องเป็นแบบนั้นตลอด และที่เขามาหาเรา เขามาเพื่อสื่อสารกับเรา แต่เราไปมองว่า จริงๆแล้ว เขามาหลอกเรา (อันนี้แล้วแต่กรณีนะครับ บางกรณีอาจจะมาหลอกเพื่อให้กลัวก็ได้ บางทีอาจจะหวงที่ หวงทรัพย์ หรือมีจิตอาฆาตทำให้กลายเป็นผีที่มีแรงโทสะอย่างรุนแรง ประเภทนี้น่ากลัวครับ เนื่องจากพวกนี้จะจ้องทำร้ายอย่างเดียว)

    แต่พอปฏิบัติธรรมเรื่องผี เรื่องเทวดานั้น ถือเป็นเรื่องปกติไปเลยครับ ก็เป็นเรื่องที่แปลกพอสมควรอยู่เพราะว่า พอเราสัมผัสได้แบบนี้ ก็กลายเป็นว่า เรารู้แล้วว่าชีวิตหลังความตายมีจริง สิ่งที่เราจะนำไปได้ก็แค่บุญและปาบเท่านั้น หากดวงจิตตอนตายนั้นเป็นกุศล เราก็ไปดีแน่นอนครับ แต่หากจิตเศร้าหมองล่ะ ไปไหน..?คิดเอาครับ

    นี่ล่ะครับ จึงเป็นเหตุให้ครูบาอาจารย์ท่านหลายท่านพร่ำสอนให้เราฝึกจิต ทำกรรมฐานเพื่อให้จิตมีความแข็งแรง มีพลัง มีปัญญา เพื่อสั่งสมบุญบารมี จนถึงที่สุดแห่งธรรมแล้วก็คือการหลุดพ้น

    โมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ สาธุๆ
     
  13. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ อ่านจบผมน้ำตาไหลเลย ดวงวิญญาณที่ตายนั้นเขามาสื่อสารกับคุณเพื่อให้คุณสงเคราะห์เขา ผมอ่านจบ ผมเห็นภาพ ผู้หญิง ผมยาว ใสชุดสีฟ้าอ่อนๆ ผมเปียก อายุประมาณ 24ถึง25 ปี รูปร่าง บาง ผิวขาว เธอโดนข่มขืนแล้วเอาศพมาทิ้งทะเล ตอนตายจิตเธอเต็มไปด้วยแรงอาฆาต จึงไม่ได้ไปผุดไปเกิดเสียที รอให้ผู้ที่มีจิตที่สื่อถึงกันได้มาอุทิศส่วนกุศลไปให้เธอ ผมว่าเวลาทำบุญก็ให้นึกถึงเธอด้วยนะครับ แล้วก็ขอให้เธอมาโมทนาบุญกับคุณนะครับ เธอจะได้พ้นทุกข์ หากผมเจริญกรรมฐาน ผมก็จะอุทิศไปให้เธอด้วย เห็นแล้วเวทนายิ่งนัก

    โมทนาในธรรมทานครับ
     
  14. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    ---------------------------------
    คุณโมขทรัพย์ค่ะ อยากจะบอกว่า อาการขนหัวลุกนั้น คือ ไรผมอ่อน ๆ ที่อยู่

    บนศรีษะ เกิดการตื่นตัว ( อาจจะหดเกร็งหรืออย่างไร ) แต่นั้นแหละค่ะ คือสิ่ง

    ที่รับรู้ได้เมื่ออ่านข้อความของคุณ อนุโมทนาในกุศลแห่งจิตของคุณด้วยนะค่ะ

    และขอยืนยันว่า ผู้หญิงคนนั้นมีรูปร่างดี ผิวออกไปทางสว่าง ๆ ผมยาว ใบหน้า

    เรียว ๆ ( แต่ไม่ทราบว่าหน้าเธอเป็นอย่างไร ) เธอนั้นแหละค่ะ แม้เวลาผ่าน

    ไป 5 ปีแล้ว เรายังไม่เคยลืมเรื่องของเธอเลย มันวนเวียน ติดตา ติดใจเสมอ

    และเหตุนึงที่เล่าเรื่องเธอ ก็เผื่อไว้ว่า จะมีท่านใดมีจิตกุศลช่วยเหลือเธอบ้าง

    ตื้นตันใจมากค่ะ ขอบคุณนะค่ะ ที่ทำให้เราไม่รู้สึกว่า " เราบ้าไปคนเดียว

    เที่ยวเห็นผีเห็นสาง " ขอบคุณค่ะ ^ ^
     
  15. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    ----------------------------------
    ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ อนุโมทนาด้วยนะค่ะ ^ ^ ขอเรียนตามตรงว่า

    ช่วงที่เจอดวงจิตตามที่เล่ามานั้น เรายังไม่ได้เริ่มปฏิบัติธรรมเลยค่ะ -*- ศีล

    5 ข้อ ยังรักษาไว้ไม่ครบเลยค่ะ ที่เล่ามา ไม่ได้รู้สึกว่าดีนะค่ะ คือ รู้ตัวเสมอ

    ทุกครั้งที่กำลังจะยกแก้ว หน้าแม่จะลอยมาเสมอ แต่ ..... ความเลวก็ชนะ ศีล

    ข้อ 5 ขาดลง ทุกครั้งเป็นเวลาหลายปี ทุกวันนี้ ยังนึกถึงทุกดวงจิตที่ผ่านมา

    ไม่ว่าจะมาทักทายก็ดี จะบังเอิญได้เจอกันก็ดี ทุกดวงจิตนั้น เป็นเสมือนบท

    เรียนภาคสนาม ที่ทำให้เรารู้ว่า โลกหลังตาเนื้อเรามีจริง มาวันนี้ ทุกครั้งที่

    ปฏิบัติ เราจะอุทิศให้ทุกดวงจิต ขอกุศลของเราแผ่ไปไม่มีประมาณ ฯ เจริญ

    ในธรรมนะค่ะ - - - ที่จริง วันนี้ ว่าจะไม่เล่าต่อแล้ว เพราะเรื่องที่เหลือ มัน

    เริ่มมาเกี่ยวกับบ้านหลังนี้แล้ว เหอ เหอ บ้าน !! ใครว่าคุณเลือก หากแต่

    บ้านเลือกคุณต่างหาก
    ฮ่า ฮา ( ( กรุณาอ่านให้เป็นเรื่องหัวเราะใหญ่

    ๆ นะค่ะ คริ คริ ) )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2012
  16. ปิยะคุณ

    ปิยะคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +391
    วันนี้ขอเล่าเรื่องที่ดันไปเกี่ยวข้องกับเจ้ากรรมนายเวรผู้อื่น

    จิตดวงนั้นมาเตือนไม่ให้ยุ่งเรื่องของเค้า

    เรื่องนี้ เป็ฯเรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อปีที่แล้ว ขอย้อนความสัมพันธ์นิด ๆ นะค่ะ คือ หญิงกับ

    ชายคู่นี้ เพิ่งแต่งงานกันได้ราว ๆ 1 ปี แต่คบหากันมาเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว ผู้ชายคนที่

    เป็ฯสามีเนี่ย เค้าเคยคบกับเราในช่วงวัยเรียน เป็นรักแบบใส ๆ อะค่ะ พอเลิกรากันไป

    เค้าก็ไปคบกับผู้หญิงคนนี้ จนแต่งงานกัน เรารู้เรื่องของพี่ทั้งสองนี้มาตลอด อาจเป็น

    เพราะเราไม่ได้โกรธเคืองอะไรกัน เราเลยยังพูดคุยกันได้ แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่ จนมาช่วง

    หลังที่มี Facebook พี่ทั้งสองคนนี้ก็มาแอดเป็นเพื่อนกับเรา โดยฝ่ายชายแอดมาก่อน

    จากนั้นไม่นานฝ่ายหญิงก็แอดมา แต่โดยส่วนตัวแล้ว เรากับพี่ผู้หญิงไม่เคยคุยกัน ได้แต่

    เล่นเกมส์ในเฟซด้วยกัน ส่งของ ( เกมส์ ) ให้กันเท่านั้น จนมาราว ๆ ต้นปี ฝ่ายหญิงชอบ

    ขึ้นสเตตัสว่า ปวดท้อง , ป่วย , รักษาไม่หาย , ทรมาน อะไรทำนองนี้ พอเรามีโอกาส

    เจอฝ่ายชายในแชท เราเลยถามอาการเจ็บป่วย ได้ความว่า เป็นกรดไหลย้อนมาเกือบปี

    แล้ว เข้า - ออก รพ. บ่อยมาก ไม่หาย อีกไม่นานจะพามารักษาที่ กท. จากนั้นเราก็ไม่

    ได้สนใจอะไร จนมากลาง ๆ ปี ได้ข่าวว่า ฝ่ายหญิงมารักษาอาการกรดไหลย้อนที่

    รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง จากนั้นราว ๆ 3 อาทิตย์ ก็เห็นในสเตตัส( ฝ่ายชาย ) ขึ้นทำนองมี

    อุปสรรค ไม่มีเตียงให้ภรรยาเค้า และ ไม่มีห้องพิเศษ โดยเค้าระบุ รพ.มาด้วย รพ.นั้น

    เป็ฯ รพ.ของทหาร แถวสายไหม เราก็คิดว่า เราคงพอจะช่วยอะไรเค้าได้บ้าง เพราะ

    ครอบครัวทางแฟนเราเป็นทหารเหล่านี้ เลยโทรไปคุยด้วย และแล้ว เรื่องง่าย ๆ ที่น่าจะ

    ผ่านไปก็ปรากฏให้เป็นเรื่องยาก ยากมาก ๆ จนเกือบจะทำให้พี่สาวแฟนเรา ( ซึ่งเป็นผู้ที่

    เราขอร้องให้ช่วยหาห้องพิเศษและคนเฝ้า ) โดนผู้ใหญ่เล่นงาน .......... หนนั้น ทาง

    เราได้ช่วยแค่ติดต่อหาคนเฝ้าไข้ให้ จากนั้นไม่นาน ฝ่ายชายโทรมาเล่าให้เราฟังว่า ฝ่าย

    หญิงเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร ระยะสุดท้าย และจะอยู่ได้ไม่เกิน 2 เดือน เราฟังก็

    ตกใจ เพราะอย่างแรก เค้าเพิ่งแต่งงานกัน อย่างที่ 2 อาการกรดไหลย้อนของเค้าเพิ่ง

    เริ่มเป็นมาราว ๆ 1 ปี ฝ่ายชายเล่าว่า ทางบ้านฝ่ายหญิง เอาเรื่องอาการป่วยไปสอบถาม

    พระที่เค้านับถือ ( บ้าน 2 คนนี้อยู่ทางใต้ค่ะ ) และครูบาอาจารย์ที่เค้านับถือ ได้ความว่า

    เจ้ากรรมนายเวรมาทวง ทางนั้นว่าเค้าจะช่วย ให้ฝ่ายชาย ทำบุญให้ฝ่ายหญิงตามที่เค้า

    แจ้งมา ไอ้เราก็หวังดี เลยแนะนำให้ทำอย่างนั้น อย่างนี้ ตามความเชื่อ และพอถึงช่วง

    เวลาที่เราปฏิบัติธรรม พอเราใกล้ออกจากสมาธิ เราก็กำหนดจิตอุทิศบุญให้พี่ผู้หญิง ขอ

    บุญเราช่วยให้พี่เค้าได้หายจากอาการเจ็บป่วย ทุเลา ฯ และอื่น ๆ ตามใจเราคิด จากนั้น

    เราก็ไม่ได้สนใจ หรือได้พูดคุยกับทั้ง 2 คนอีก บางครั้ง เราไปเยี่ยมแม่สามีซึ่งมีบ้านพัก

    อยู่แถวนั้น เราว่าจะเข้าไปเยี่ยม จนแล้วจนเล่า เราก็ไม่ได้ไป บางทีเราไปเยี่ยมพี่สาว

    สามีซึ่งมีบ้านพักอยู่ในเขตทหารติดกับ รพ. เราก็ไม่มีโอกาสได้ไป แรก ๆ ก็ไม่คิดอะไร

    พอหลัง ๆ เริ่มคิด แต่ก็ไม่ติดใจอะไรลึกนัก จนมาระยะสุดท้าย แบบสุดทาง เราคุยกับ

    ฝ่ายชาย ฝ่ายชายบอกว่า ช่วงนี้ครูบาอาจารย์ฝ่ายหญิงเค้าเงียบ ๆ ไป เราก็แนะนำให้

    เค้าทำแบบนี้ ๆ ๆ ๆ แต่ก็ไม่เกิดผล ตอนนั้นเป็นเวลาเย็น เราโทรไปหาฝ่ายชาย ได้

    ความว่า กำลังขึ้นมา กท. เพื่อมาเฝ้าภรรยาเค้า เพราะหมอบอกว่า อาการไม่ค่อยดี เรา

    เลยคิดไปว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปเยี่ยมพี่ผู้หญิง โดยที่อาการภายในใจเรานั้น นึกถึงเจ้า

    กรรมนายเวรของพี่ผู้หญิง เราคิดว่า เราจะไปเยี่ยมและขอให้เจ้ากรรมนายเวรของพี่เค้า

    เข้าใจถึงการอภัยทาน เลิกจองเวร ( คือจริง ๆ ทุกวัน เราก็จะให้พี่เค้าและเจ้ากรรม

    นายเวรเค้าบ่อย ๆ แต่เหมือนไม่ไมีอะไรตอบกลับ ) ระหว่างนั้น เรากำลังรีดผ้าอยู่ ลูก

    เราก็กำลังดูการ์ตูน ซักพักเราก็รู้สึกแน่น ๆ เหมือนมีพลังงานแน่น ๆ ซักพักเราก็ได้กลิ่น

    สะตอ แรงมากกกกกก ขอย้ำว่า สะตอค่ะ กลิ่นแบบแรงสุด ๆ ทีแรกเราก็คิดว่า ข้างบ้าน

    ทำกับข้าวแล้วกลิ่นลอยมา แต่ก็แอบ งง เพราะบ้านแต่ละหลังห่างกันพอดู เลยลุกมาจะ

    ปิดหน้าต่าง แต่ !!! หน้าต่างในบ้านเราปิดทุกบาน ไม่ได้เปิดเลย เราก็เริ่มเอะใจแล้ว

    เพราะนอกจากกลิ่นแล้ว เรายังรับรู้ถึงสัมผัสที่เร้า ๆ ร้อน ๆ ทำให้เรากระวนกระวาย และ

    กลิ่นก็ยังคงแรงอยู่ เราเลยเอะใจว่าต้องเป็นเจ้ากรรมนายเวรของฝ่ายหญิงแน่ ๆ เราเลยตั้ง

    จิตว่าไป ว่า " หากที่มานี่ เป็ฯการมาเตือน ไม่ให้ข้าพเจ้าไปก้าวล่วงในเรื่องของกรรมนี้

    ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม และขอให้ท่านอภัยในความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ข้าพเจ้าจะไม่ยุ่งกับ

    เรื่องนี้แล้ว " พอจบคำ กลิ่นและความรู้สึกก็จางลง เรารีบโทรไปหาพี่คนนึง เป็นพี่ที่

    ปฏิบัติธรรมในสายที่เราปฏิบัติ พี่เค้าได้ฟังจบ เค้าก็บอกว่า เจ้ากรรมนายเวรเค้าไม่ให้ยุ่ง

    เรื่องของเค้า ให้เราไปกราบพระ แล้วบอกกับพระถึงเรื่องนี้ เราก็ไปกราบพระและบอก

    กับท่าน ตกค่ำ เราก็ปฏิบัติธรรม ( มโนมยิทธิ ) พอจิตเราไปกราบท่านปู่ ท่านย่า เราถาม

    ท่านย่าเรื่องนี้ ท่านย่าไม่ตอบ เพียงแต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ เราเลยหยุดการติดต่อกับ 2

    คนนี้ และเฝ้าดูห่าง ๆ ผ่าน Facebook ตัวหลังสือที่ฝ่ายชายแจ้งอาการฝ่ายหญิง ล้วน

    แต่ทรุดลง ๆ หนักขึ้น ๆ ทุกวัน ๆ จนมาวันนึง ช่วงเวลาราว ๆ 8 โมงเช้า เรามีความรู้สึกว่า

    มีดวงจิตดวงนึง เป็นสุขนัก มาวนเวียน ๆ ให้เราได้รับรู้ถึงสุขของเค้า เราก็เริ่มเอะใจว่า

    หรือว่าจิตดวงนั้นจะสมปราถนาแล้ว พอสาย ๆ เราเสร็จงานบ้าน เราก็สวดมนต์ ไหว้พระ

    ตามปกติ ระหว่างที่จิตเริ่มเป็นสมาธิ ก็ปรากฏภาพขึ้นมา เป็นผู้หญิงคนนึง ตาบวม ๆ คล้าย

    ๆ นอนมาก ใส่ชุดสีออกฟ้า ๆ ซีด ๆ กำแพงสีเขียวแบบทูโทน คือ ครึ่งบนสีอ่อนครึ่งล่างสี

    เขียว กำลังเดินตามใครบางคนออกจากห้อง คน ๆ นั้นหันมายิ้มให้เรา เรามานึกหน้าดู

    ใช่พี่ผู้หญิงจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นก็ตกใจ คิดไปว่า สงสัยพี่เค้าเสียแล้ว พอเราเสร็จกิจ

    เราก็ลงมาเปิดคอมพ์ดู ไล่อ่าน ๆ ดู ก็พบว่า ฝ่ายชายเค้าเล่าให้ฟังถึงอาการก่อนที่ภรรยา

    เค้าจะเสียว่ากี่โมงอาการเป็นยังไง ๆ จนราว ๆ 7 โมงกว่า ไม่มีอาการตอบสนอง 8 โมง

    เสีย แพทย์ตรวจครั้งสุดท้าย พี่เค้าจากไปอย่างสงบแล้ว พอช่วงบ่าย เราก็คิดอะไรไป

    เรื่อย ๆ ถึงเรื่องนี้ พี่ที่เรานับถือก็โทรมาหา เราเล่าให้พี่เค้าฟังว่า ฝ่ายหญิงเสียแล้ว พี่

    ท่านนี้เลยบอกว่า งั้นเรามาอุทิศกุศลให้เค้าทั้ง 2 กันเถอะ เพราะไหน ๆ แล้ว เราก็คงมี

    เวรกรรมผูกพันกันมาด้วย ถึงได้มารับรู้ตั้งแต่ต้นเรื่องจน เรื่องจบ พอเรากับพี่ท่านนี้ร่วมกัน

    อุทิศให้ สัมผัสที่ได้รับคือ ปิติตอบกลับมาแรงมาก ๆ ขนลุก หนาวแดด พี่ท่านนี้บอกกับ

    เราว่า นายเวรเค้าแรงมากนะเนี่ย พอหญิงคนนี้เสียปุ๊บ เค้าเหมือนดั่งปลดทุกข์ที่รัดใจ

    เค้าออกหมดสิ้นเลย จากนั้นเวลาผ่านไประยะนึง เราก้ได้คุยกัยฝ่ายชาย ฝ่ายชายเล่า

    ว่า ฝ่ายหญิง บอกกับเค้า ให้มาบอกกับเราว่า เห็นเรามาหา ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ห่างจาก

    เตียงในระยะสายตาเค้าเห็นพอดี เราก็มาประมวลดู มันตรงกับช่วงเวลาที่เราอุทิศกุศลให้

    พี่เค้าพอดี และเราก็เล่าให้ฝ่ายชายฟังถึงเวลาของการเสีย และสีชุดที่เค้าใส่ และสี

    กำแพง เราได้รับคำตอบยืนยันถึงสีชุดว่าใช่ สีกำแพงคือกำแพงหน้าห้อง แต่ผมนี่ไม่ใช่

    เพราะคนที่เสีย ก่อนเสีย ได้มีการตัดผมออก เพราะให้เคมีแล้วผมร่วง อันนี้ก็ไม่รู้จะว่ายัง

    ไง แต่พี่ที่รู้บอกว่า เป็นสภาวะกายที่คนตายเค้าจำตัวเองได้ เค้าเลยมาบอกสภาพนั้น

    สุดท้าย ..... เราไม่อยากจะเข้าข้างใคร หรือ ตำหนิใคร เพราะเราเข้าใจถึง การจองเวร

    หากคนผู้นั้นไม่ได้ก่อกรรม ทำให้ผูกใจเจ็บ ก็คงไม่มีดวงวิญญาณไหนยอมเฝ้ารอการแก้

    แค้นเป็นเวลานาน ยอมที่จะหิว และทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส และไม่รู้ว่าอีกนานแค่

    ไหนจะได้แก้แค้น สิ่งเหล่าจะไม่เกิด หากไม่จุดสุมไว้ด้วยไฟแค้นที่โดนกระทำ ท้ายสุด

    ข้าพเจ้าได้ผ่านมารับรู้ในแรงกรรมของทั้งสอง และอีกฝ่ายที่โดนทวงกรรม ลั่นวาจาไว้ก่อน

    จาก ว่าจะไม่แค้น จะไม่จองเวร ขอให้จบไปในชาตินี้ ข้าพเจ้า อนุโมทนากับอภัยทาน

    ของพี่ยาด้วยค่ะ
     
  17. lagoon04

    lagoon04 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +24
    สนุกและได้แง่คิดดีครับ รออ่านเรื่องที่คุณจะมาเล่าต่อนะครับ
     
  18. yaka

    yaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +1,384
    โมทนาสาธุกับเรื่องราวที่ได้นำมาเล่านะค่ะ น่าติดตามมากๆค่ะ เลิกงานแล้วแต่อ่านเพลินจนลืมกลับห้องเลยค่ะอิอิ
     
  19. bkhamnon

    bkhamnon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +28
    โมทนา กับเรื่องราวที่นำมาถ่ายทอดและแง่คิด รอติดตามต่อครับ
     
  20. jomjamm

    jomjamm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +36
    ไม่กล้าอ่านเลยค่ะ กลัว!!! อิอิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...