การเข้าถึงหลักชัยแห่งพระโพธิสัตย์เจ้าต้องผ่านปราการต่างดั่งที่ประสบพบมา

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย emperron, 19 มิถุนายน 2012.

  1. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..บางทีอาจจะจริงก้อได้แต่พระพุทธเจ้าไม่ทรงแสดง เพราะจะทะเลาะกัน..
     
  2. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ไม่เคยได้ยิน ขอฟังหูไว้หูก่อนละกัน
     
  3. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    กายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต อันเป็นธรรมดาวิสัย ความเป็น มิจฉาทิฏฐิ ย่อมไม่มีแก่พระนิยตะโพธิสัตว์และพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
     
  4. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    เท่าที่ทราบ ทราบจากไหนจ๊ะ ลอยมาเองเหรอ

    ข้อมูลอ้างอิงไม่มี กล่าวลอยๆ พอใครว่าติงก็ว่าเป็นมาร

    แค่นี้ก็รู้แล้วล่ะ ว่าใครที่เป็นมาร หน้ากากหลุดไวจังหนังยังไม่ทันจบเรื่อง
     
  5. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ว่าด้วยเรื่อง พระนิยตะโพธิสัตว์

    การทำนายของพระพุทธเจ้าจะเกิดได้ก็ด้วยพระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งด้วยพระญาณดีแล้วว่า มนุษย์ผู้นั้น ได้สั่งสมบุญและสร้างความเพียรมา มากพอในระดับหนึ่งแล้ว และภูมิจิตก็ถึงพร้อมแล้ว มีจิตใจอันเด็ดเดี่ยวแน่นอนไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว ของการปราถนาพุทธภูมิ
    และด้วยผลบุญเดิมเก่าที่มากพอเดิม เองเหล่านั้นก็จะส่งผลผลักดันให้ เจริญรอยตามพุทธเจ้า และจักสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในที่สุดไม่แปลเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นอย่างแน่นอน

    อนึ่งหากเราจะดูพระอนิยะโพธิสัตว์ ที่ถึงแม้ยังไม่ได้กล่าวทำนายจากพระพุทธเจ้า ก็จะเห็นได้ว่า พระอนิยะตะโพธิสัตว์เหล่านั้นก็ล้วนสร้างบุญบารมีมามากมายเช่นกันทีเดียว ครั้นเมื่อลาพุทธภูมิ ด้วยผลบุญและกิเลสที่มีอยู่น้อยนิดเป็นทุนเดิม ก็ย่อมตัดละกิเลสเข้าถึงความเป็นอรหันต์ ดับขันธ์นิพพานได้โดยง่าย ดังมีตัวอย่างให้เราเห็นหรือรับทราบมากมายครับ ไม่ขอยกตัวอย่างนะครับ ลองไปหาดูในประวัติศาสตร์ต่างๆหาไม่ยากครับ ซึ่งพระอรหันต์ที่ลาพุทธภูมิก็มีมากหลายพระองค์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2012
  6. pomvigo

    pomvigo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +250
    ความตาย อบู่ที่ปลายจมูก บัดนี้เธอทั้งหลายทำอะไรอยู่
     
  7. เฉยฉิบ

    เฉยฉิบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +251
    กรุณาบอกที่มาด้วยครับ ว่าเอามาจากไหน...
     
  8. wayokasin

    wayokasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +277
    นา นา จิตตัง ก็มี ถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง เป็นธรรมดา ขออนุโมทนาในธรรมทั้งปวงด้วยเถิด
    เป็นแก้วที่ว่างเปล่า ดีกว่าเป็นแก้ว ที่เต็มปรี่ อยู่ตลอดเวลามิใช่หรือ
     
  9. ธรรมานุภาพ

    ธรรมานุภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +122
    ตั้งสติให้มั่นแล้วพึงระลึกเตือนตนว่า รู้อะไรก็ไม่เท่ารู้ละกิเลส(รัก โลภ โกรธ หลง)ในใจตัวเองก่อน........
     
  10. ธรรมานุภาพ

    ธรรมานุภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +122
    ถาม : ​
    อย่างนี้พระโพธิสัตว์บารมีเข้ม จะเป็นปทปรมะไหมครับ ?

    ตอบ : ​
    ก็ไม่แน่เหมือนกันนะ ตัวอย่างโตไทยพราหมณ์ ก็ยังอยู่อเวจีอยู่นี่ อันนั้นเจตนาขวาง
    พระพุทธเจ้าเลย เพราะว่ากลัวพระพุทธเจ้าจะเอาบริวารตัวเองไปหมด พระโพธิสัตว์เขาต้องมี
    บริวาร โตไทยพราหมณ์ จริงๆ ก็คือคนไทย โต-ไทย-ยะ-พราหมณ์ = พราหมณ์คนไทยชื่อนาย
    โต สมัยก่อนเขาไม่มีนามสกุล เขาก็เลยต้องมีฉายาต่อท้าย สมัยก่อนเขาใช้ฉายากันใช่ไหม

    ภัททิยะศากยราชา ​
    ก็จะได้รู้ว่า ภัททิยะที่เป็นราชาของเหล่าศากยะเขา เพราะว่าชื่อภัททิยะเขามี
    เยอะ
    ลกุณฑกะภัททิยะ ภัททิยะที่เป็นคนเตี้ย, คนค่อมน่ะ เขาบอกเอาไว้ชัดๆ ไม่งั้นชื่อซ้ำกัน
    จะแยกไม่ออกว่าเป็นคนไหน คราวนี้พระพุทธเจ้าเข้าไปประกาศศาสนาในเขตนั้น โตไทย
    พราหมณ์เขากลัวว่า จะเอาลูกศิษย์เขาไปหมด เลยไปยืนลำเลิกเบิกประจานด่าพระพุทธเจ้า ไล่
    ให้ออกไปจากเขต ตายตอนนั้นยังไม่ลงนรกนะ กลายเป็นหมา เกิดเป็นลูกหมาก่อน เกิดเป็น

    48 “กระโถนข้างธรรมาสน์”​
    ลูกหมาอยู่ในบ้านตัวเอง พระพุทธเจ้ามาบิณฑบาต มาเห่าอีก พอมาเห่าไล่พระพุทธเจ้าก็บอกว่า
    โตไทยพราหมณ์ สมัยเธอเป็นคนอยู่ ก็ขวางทางตถาคตแล้ว เกิดเป็นหมาแล้ว ยังจะทำอย่างนี้
    อีกหรือ โตไทยพราหมณ์ก็ตกใจ เอ๊ะ สมณโคดมรู้ด้วยว่าเราเป็นใคร ก็เลยเสียใจ ไปนอนซุกกอง
    ขี้เถ้า ไม่ยอมกินอะไร บรรดาคนใช้เขาได้ยิน เขาก็ไปฟ้องเจ้านาย ไปฟ้อง​
    สุภมานพที่เป็นลูก
    ของโตไทยพราหมณ์ บอกว่าสมณโคดมประจานตระกูลนี้ว่า โตไทยพราหมณ์ที่จะต้องเกิดเป็น
    พรหมแน่ ตามความเชื่อของเขาน่ะ เกิดเป็นเดรัจฉาน สุภมานพก็เลือดขึ้นหน้า กะว่าจะบุกไป
    โซ้ยพระพุทธเจ้าถึงเชตวันเลย พาบริวารพาอะไรไป พอไปถึงก็ว่า ถ้าหากว่าพระสมณโคดม
    พิสูจน์ไม่ได้ว่า ลูกสุนัขตัวนี้เป็นบิดาของเรา เราก็จะประจานสมณโคดมต่อหน้ามหาชน เขาตั้ง
    ความคิดไว้อย่างนั้นเลย พอไปถึงพระพุทธเจ้าก็เลยบอกว่า ท่านกล่าวอย่างนั้นจริงๆ เอาอย่าง
    นี้สิ ให้เอาลูกสุนัขนั้นมาอาบน้ำทำความสะอาดให้ดี หาอาหารให้กิน พอเขากินอิ่มแล้วกระซิบ
    ตรงข้างหูว่า สมบัติอะไรที่พ่อยังไม่ได้บอกแก่ลูก ขอให้ช่วยบอกด้วย สุภมานพก็เอา ไอ้เรื่องแค่
    นี้มันพอทำได้ก็ทำดู ถ้าไม่ได้อย่างนั้นจริงๆ แล้วค่อยกลับมาด่าใหม่ ก็ไป พอทำอย่างนั้นปุ๊บ
    โตไทยพราหมณ์ได้ยินลูกพูดอย่างนั้น ก็ความลับแตกแล้วน่ะ ก็เลยพาไป ตะกุยดินตรงไหน
    สุภมานพก็ขุดตรงนั้น ได้มาลัยทองราคาตั้งแสนกหาปณะ ได้ถาดทองราคาตั้งแสนกหาปณะ
    อะไรขึ้นมาบานเบิกเลย สุภมานพก็ อ๋อ พระพุทธเจ้าท่านตรัสจริง ก็เลยเลื่อมใสนับถือ
    พระพุทธเจ้า ปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ แต่โตไทยพราหมณ์เขาใช้คำว่าอกแตกตาย ก็คงหัว
    ใจสลายน่ะนะ คนอื่นรู้ความลับตัวเองหมด ทั้งๆ ที่คิดว่าพราหมณ์เป็นตระกูลที่สูงมาก อย่างไร
    ก็ต้องเกิดเป็นพรหม มันกลับไปเกิดเป็นลูกหมาซะได้
    ตายในขณะที่จิตเศร้าหมอง คราวนี้ลง
    อเวจีไปเลย
    ถาม :
    หลวงพ่อเคยบอกไว้ไม่ใช่หรือครับ ว่าหมานี่ไม่มีทางไปต่ำ ?

    ตอบ : ​
    ท่านบอกว่าส่วนน้อยที่จะไปอย่างนั้น โอกาสที่จะพลาดมันมีแต่มันน้อยมาก ส่วนใหญ่
    แล้วก็ไปแค่หมา แต่ไอ้ส่วนน้อยมันมีอยู่ อาจจะเปอร์เซ็นต์เดียว แล้วไอ้เปอร์เซ็นต์เดียว มัน
    ดันลงไปให้เห็นชัดๆ ซะด้วย

    ถาม : ​
    พระพุทธเจ้าท่านเคยพยากรณ์ไว้หรือเปล่าครับ ว่าโตไทยพราหมณ์เป็นพระโพธิสัตว์
    ชั้นไหน

    ตอบ : นิยตะโพธิสัตว์ แน่นอนด้วยว่าจะตรัสรู้ในภัทรกัปนี้
    ที่มา จากหนังสือกระโถนข้างธรรมมาสน์
    อย่ากังวลให้เศร้าหมอง มีแต่รู้มากขึ้นไปเรื่อยๆ ..ไม่ผิดหรอก
     
  11. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    กระผมต้องขออภัย จริงๆครับ ที่อาจทำให้เกิดความลังเลสงสัย แต่ด้วยครูอาจารย์ผมให้เหตุผลชัดเจนว่า พระนิยตะโพธิสัตว์ หรือพระโพธิสัตว์ ที่ได้รับการทำนายจากพระพุทธเจ้า ว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอนในปลายภัทรกัปบ์นี้หรือภัทรกัปบ์ต่อไป นั้น ก็ด้วยเหตุที่ว่า พระพุทธเจ้าจะตรวจดูด้วยพระญาณรู้แจ้งชัดแล้ว ถึงการสั่งสมบุญบารมี และภูมิจิตภูมิธรรมที่เขาเหล่านั้นมีมากสูงพอแล้วซึ่งไม่มีมิจฉาทิฏฐิใดๆแล้ว และจากพุทธประวัติ ผมก็ไม่เคยเจอว่าพระโพธิสัตว์ที่พระพุทธเจ้าทรงทำนายไว้นั้นจะมี มิจฉาทิฏฐิใดๆ แต่ถ้าก่อนหน้านั้นผมเห็นว่ามีแน่นอน
    ก็จนกว่าจะได้สร้างบารมีความดีมากพอ และมีภูมิธรรมสูงแล้ว จิตก็หนักแน่นมากพอแล้ว พระพุทธองค์จึงตรัสทำนายครับ
    สุดท้ายนี้ จะอย่างไรก็ตามก็ควรฟังหูไว้หูพิจารณาให้รอบคอบย่อมดีแล้วครับ
    เพื่อความรู้จริงทุกประการครับ สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2012
  12. 我是泰国福建人

    我是泰国福建人 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2008
    โพสต์:
    298
    ค่าพลัง:
    +306
    ทางใต้ก็มีนะครับ แต่พระทางอีสานมาอยู่ใต้และสร้างวัดเยอะ จากสำนักสงฆ์มาเป็นวัด
     
  13. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    =====

    อนูโมทนาครับ ที่มีพระป่าสายกรรมฐาน มาโปรดบ้าง แต่ทางใต้นี่จากที่เคยบวชครั้งหนึ่ง พระอาจารย์แดงท่านเคยสอนว่า หลวงปู่ทางใต้สมัยก่อน ที่เขาเก่งกันและทรงอภิญญานี่ เขาไม่โอ้อวดบอกใคร การปฏิบัติจะเคร่งเพราะได้รับอิทธิพลจากพระศรีลังกาและอินเดียมาเผยแพร่ และจะเป็นแบบนิกายหินยาน และที่สำคัญคือเคร่งในศีล227มาก แบบที่ว่ามีระเบียบกับตนเองมากครับ
    และตอนนี้ที่เหนียวแน่นและคนนับถือมากก็จะเป็นสายเขาอ้อครับ ทางพัทลุงครับ เขามีงานทุกปีครับ เก่งเคร่งทั้งปฏิบัติและอภิญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2012
  14. P184

    P184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +809
    ข้อเท็จจริงเป็นประการใดไม่มีใครรู้
    ฟังหูไว้หูนะแหละดีแล้ว
    มันอาจจะจริงหรือเป็นแค่นิยายก็ได้ครับ
    รู้เพียงแต่สมัยพุทธกาลไม่มีเรื่องเช่นนี้
    . . .
     
  15. jikkiijang

    jikkiijang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    215
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +335
    อนุโมทนา สาธุ

    "เกิดมีทุกวันแก่ลงทุกวินาทีเจ็บทุกกรณีตายทุกอาลัย
    รักมากแค้นหนักพรากผูกพันจากกันทุกอย่างศูนย์สลายด้วยใจ" ขอไปโพสไว้ใน facebook นะครับ
     
  16. นาย ธิติ

    นาย ธิติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +56
    ขออนุโมทนา

    ขอผู้ปราถนาพุทธภูมิทุกท่านจงได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญานเช่นเดียวกับข้าพเจ้าและอย่าได้ลาพุทธภูมิเลย
     
  17. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    องค์คุณความรู้ ไม่สำคัญว่าจะมาจากที่ไหน ท่านใดใครแต่ง
    อ้างที่มา ขอเพียงดับทุกข์ในใจได้ องค์คุณความรู้นั้นก็เป็นที่ยอมรับ
    ในหมู่วิญญููชนทั้งหลาย ขอความเจริญในธรรมมีในหมู่เพื่อนผู้ประฏิบัติธรรม
     
  18. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ศาสดาย่อมเห็นในศาสดาด้วยกัน

    ศาสดาทั้งหลายล้วนกล่าวธรรมะที่มีในตนอวดธรรมะที่มีในตน ส่วนบรรดาเกจิอาจารย์ไม่กล้ากล่าวธรรมะที่ไม่มีในตน จึงลดธรรมะลงไม่อวดธรรมะที่ไม่มีในตน

    ดังนี้ เราแสวงหาช่างผู้สร้างเรือนคืออัตภาพ เมื่อไม่
    พบ ก็ท่องเที่ยวไปสิ้นสงสารนับด้วยชาติมิใช่น้อย
    ความเกิดบ่อย ๆ เป็นทุกข์. ดูก่อนช่างผู้สร้างเรือนคือ
    อัตภาพ เราพบท่านแล้ว ท่านจักสร้างเรือนคืออัตภาพ
    อีกไม่ได้ โครงเรือนของท่านเราหักเสียหมดแล้ว ยอด
    เรือนคืออวิชชา เราก็รื้อเสียแล้ว จิตของเราถึง
    พระนิพพานแล้ว เพราะเราได้บรรลุธรรมเป็นที่สิ้น
    ตัณหาทั้งหลายแล้ว.​
    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ 30
     

แชร์หน้านี้

Loading...