ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย visut_p, 28 สิงหาคม 2008.

  1. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ไม่ว่าจะเป็นใครแต่มั่นใจว่าเคยเป็นทหารของพระองค์ดำมาอย่างแน่นอน เพราะว่าครั้งที่ไปถ้ำเมืองนะ ครั้งแรกที่ได้ไป และมีความพิเศษคือ เป็นปีที่ในหลวงทรงให้ข้าราชของพระองค์นำซองกฐินมาด้วย อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น และในปัจจุบันนี้ก็ได้ทำงานในมหาลัยที่ในหลวงทรงให้พระนาม เกี่ยวข้องอีกแล้ว ก็เลยทำงานอย่างไม่คิดเรื่องเงินเท่าไหร่ ทำเพื่อถวายงานในหลวง คือ สอนให้คนรักบ้านเมือง เป็นคนดี
    นานๆเข้ามาโม้ในเว๊ปเลยเล่าหลายโพสต์เลย 555
     
  2. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    และเคยคิดเหมือนกันว่า ต้องไปขอเข้าเฝ้าถวายตัวในหลวงด้วยหรือป่าว สุดท้ายก็ไม่ต้องไป เพราะก็จะเอาจิตนี้กำหนดไปกราบท่าน แล้วท่านก็พระเมตตา เล่าหลายๆเรื่องให้ฟังเหมือนกัน หลังจากที่เราเกิดเป็นทหารเสือของพระองค์ดำแล้ว อีกไม่กี่ชาติเราก็ได้มาเกิดเป็นลูกบุญธรรมของท่าน ในสมัยช่วงพระเจ้าตากสิน ตอนปลายๆ คาบเกี่ยวกับสมัยรัชกาลที่1 พ่อมีชื่อว่า เจ้าพระยาสุรสีห์บุญมา เราภูมิใจมาก หากเราไม่ได้อุปาทานไป เราได้มีโอกาสทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง ในตำแหน่งเจ้าพระยาสุรสีห์พิษณุวาธิราช เหมือนพ่อเรา แล้วก็เคยได้อยู่ในตำแหน่งพระยาสีหราชเดโชเหมือนหลวงตา ในสมัยพระนารายณ์ นี่แหล่ะเรื่องเล่า ที่ขอเล่าไว้เพื่อให้ลูกหลานเราได้เข้ามาอ่านแล้วเกิดปิติ อิอิ ขอฝากไว้นิดนึง อย่าเพิ่งหมันไส้กัน 555
     
  3. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    เล่าต่อค่ะ ท่านพระยาเดโชชัยมือศึก
     
  4. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ผมเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎอยู่วาระใหญ่ๆคือสมัยเ้จ้าฟ้ากุ้ง ดังนั้น ก็จะมีบุคคลที่ชอบคิดว่า สมัยผมเป็นพระยาชัยบูรณ์ก็น่าจะเป็นคนก่อกบฎ ไม่ใช่พระยาศรีไสยณรงค์ที่เป็นกบฎ เพราะไปอ่านเจอ 555 บุคคลที่เป็นพระยาชัยบูรณ์สมัยพระนเรศวรไม่ได้กบฎจ้า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนมาก
     
  5. ขุนพิฆาต

    ขุนพิฆาต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,704
    แล้วผมได้เป็นพระยากับเขาหรือป่าวครับท่าน มีคนเคยทักว่าเป็นทหารจาตุรงค์เหมียนกัลล์ แถมยังไปรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านด้วย หุ หุ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าท่านเองเป็นคนบอกว่าเราปีนบันไดเพื่อไปทะลวงฟัน จริงอ๊ะป่าว จำเองบ่ได้ ต้องให้ท่านพระยาช่วยแถลงไข
    แถมมีคนได้มโนฯทักอีกว่าเคยเกิดเป็นลูกหลวงพ่อ และเคยร่วมรบในสมัยพระเจ้าพรหมโน่น และมีคนเคยบอกอีกว่าเคยเป็นนายกอง ยกทัพไปเมืิองถลางสมัยคุณหญิงมุก และอีกจ้าวหนึ่งบอกว่าเคยเป็นหัวหมู่สมัยพระเจ้าตากมีธนูเป็นอาวุธ เคยยิงตาพม่าบอด ชาตินี้เลยต้องใส่แว่นสายตาแต่เด็กๆ รบกวนช่วยแก้ไขข้องใจทั้งหมดให้เกล้าด้วยขอรับ
     
  6. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ---- ถ้าเป็นนายกองไปรบถลาง แสดงว่าท่านขุนพิฆาต ไม่พ้นเคยเป็นทหารในสังกัดผม 555
     
  7. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    วันนี้ผมได้ไปเข้าเฝ้าในหลวงแล้วนะ ผมไปกราบหลวงปู่สุภาที่ตึก84ปีเสร็จ ก็เดินไปที่ลานพระรูปเสด็จพ่อมหิตลาฯ แล้วก็แหวนมองขึ้นตึกสยามมินทร์ ตรงธงที่ติด แล้วก็กำหนดจิตไปกราบพระนเรศวรนายของผม อิอิ อาม่าอาซิ้มข้างๆมองด้วยความซาบซึ้ง 555
     
  8. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ขุนศึกเสมา จบไปแล้ว แต่ชีวิตของพวกเรา ยังอีกยาวไกล 555
     
  9. ขุนบรม

    ขุนบรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +35
    ถึงทุกท่าน

    ชาวบ้านที่แม่สอด ชาวกะเหรี่ยงที่ยอมตายแทนพวกเรา ชาวกะเหรี่ยงผู้ช่วยออกรบและสืบข่าว ปกป้องกรุงศรีอยุธยา กำลังมีปัญหาบางอย่าง และผมก็ได้เคยเตรียมการช่วยเหลือบางอย่างแต่ก็ได้มีเหตุขัดข้องเหมือนวิญญาณทหารพม่าคอยกลันแกล้ง ขอใหท่านผู้ใดที่ปรารถนาความสุขแก่พวกเขา ไดก้โปรดมารับฟังปัญหาบางอย่างจากผมด้วยเถิด

    วิธีแก้ไขปัญหาให้พวกเขานั้นมีมากมายหลายวิธี ที่นอกจากเรื่องช่วยคนให้มีสุขภาพที่ไม่ต้องทนทุกข์แล้วยังก่อเกิดสิ่งบันดาลใจในการสร้าง
    สรรค์คุณประโยชน์ได้อีกมากมาย

    ผมเองก็เป็นแค่คนที่ผ่านไปมา เคยมี พระอาจารย์สิงห์ทน และคณะผู้เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเอกาทศรถ มาบอกเป็นนัยๆ ว่าผมเคยมีความเกี่ยวข้องกับพระเอกาทศรถ แต่ผมกลับไม่เคยคิดอย่างนั้น ในใจนึกถึงแต่อาณาจักรเชียงแสน ก็เลยอาจจะไม่ได้มีดวงชะตาสมพงศ์กับชาวกรุงศรีอยุธยาเท่าไรนัก แต่ในชาตินี้ ผมก็เรียนมาจากสถาบันการศึกษาที่เป็นเชื้อพระวงศ์สืบเชื้อสายมาจากกรุงศรีอยุธยา มีพระตำหนักของเจ้าจอม มีนางในทำเครื่องเสวยมาให้กิน และก็บังเอิญต้องเกี่ยวข้องกับวังๆ มาโดยไม่คาดคิดตลอด และก็ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ผมจะได้ใช้ความรู้ความสามารถ ตอบแทนผู้ที่เคยช่วยเหลือกรุงศรีอยุธยา

    แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นผมยังคิดไม่ออกว่าจะทำประการใดหรือบอกใครว่ายังไงดี เพราะตอนนี้ก็ไม่ได้คุยกับใครที่มีชะตาเกี่ยวข้องกันมากะทางนี้ ไม่รู้ว่าไปเกิดที่ไหนกันหมด หลังจากที่ผมต้องปิดตัวเองหลังจากมีปัญหาวุ่นวายกะพวกลูกน้องขอมดำกลับชาาติมาเกิดมานานหลายปี แต่ที่รู้คือ มันยังไม่ถึงเวลามากกว่า แต่ก็อยากมีผู้ช่วยแบ่งเบา โปรดรับภาระอันนี้ รับรู้ข้อมูลบางอย่างตรงนี้ ไปทำแทนผม เพราะผมก็กังวลใจว่าผมไม่รู้จริงๆ ว่าผมจะตายเมื่อไร และก็เสียดายหลายอย่างที่จะช่วยประชาชนได้แต่ได้แต่เก็บเอาไว้

    ผมคงไม่ได้เข้ามาดูกระทู้นี้บ่อย ทางเดียวที่ท่านที่สนใจจะติดต่อผมได้คงต้อง PM มาครับ

    ผมเคยได้รับพระราชทานรางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ แต่ก็ไม่เห็นจะใช้ทำอะไรได้ ชีวิตนี้ก็ไม่เห็นจะได้ทำอะไรเพื่อประเทศชาติจริงๆบ้าง ชาตินี้ก็ไม่ได้เป็นทหาร (มีคนบอกว่าเป็นทหารของ "ทองด้วง" ด้วยนะ ที่อยู่กะพระเจ้าตากสิน) เป็นนักเรียนทุนก็เอาเงินภาษีประชาชนมาแล้วตัวเองก็ล้มเหลวได้รับความอัปยศอดสูมากมาย ทุกวันนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะมีชีวิตอยู่ต่อ ในใจก็หวังบอยู่แต่ว่าจะมีใครมาเอาเรื่องบางอย่างไปสานต่อ.....................
     
  10. maenamping

    maenamping เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2011
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +183
    ไม่รู้ว่าเคยเป็นหรือเปล่า แต่รักชาติ ศาสนา พระกษัตริย์ มากค่ะ
     
  11. พิรชัช14

    พิรชัช14 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่าน
     
  12. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    ในใจก็รู้สึกถูกใจ และ ยกย่องพระนเรศวรมาก แค่ได้ยินชื่อ ดูหนัง อ่านประวัติ ชอบมากเลย
     
  13. pkdragon

    pkdragon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +35
    พระองค์หญิงมณีจันทร์ กุหลาบเมาะลำเลิง<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ถ้าย้อนกลับไปยุคนั้นได้...ทำไม..ใคร ๆ ก็รุมเกลียดมณีจันทร์ เพราะว่ายังไงดีนะ ก้อ..พระองค์หญิงผู้นี้เป็นใคร มาจากไหน... เป็นมอญแท้ ๆ เป็นคนนอกแผ่นดินที่มาครองหัวใจพระองค์ท่าน..มหาบุรุษชาตินักรบ..สมเด็จนเรศวรมหาราช.. แล้วอย่างนี้จะไม่ให้อิสตรีในแผ่นดินนี้รุมเกลียดได้ยังไงกัน แต่ในชาตินี้มีแต่คนอยากชื่อมณีจันทร์...เฮ้ยคนหนอคน<o:p></o:p>
    .พระองค์หญิงมณีจันทร์ผู้นี้...ในพระชนม์ชีพของพระองค์ท่านมีแต่ความทุกข์ยากลำบากแสนเข็ญ พระชตาชีวิตมิได้มีความแตกต่างกับองค์สมเด็จนเรศวรและพระพี่นางพระสุพรรณกัลยาเลย จะแตกต่างกันตรงความเป็นอิสระเท่านั้น แต่ก็สูญเสียแผ่นดินเช่นกัน<o:p></o:p>
    มณีจันทร์...เป็นพระธิดาองค์โตของกษัตริย์เจ้ามอญ มีน้องร่วมพระมารดาเดียวกันสองพระองค์ คือน้องหญิงอายุประมาณ 12 ขวบ น้องชายอายุประมาณ 9 ขวบ แต่น้องทั้งสองของพระองค์ท่านก็สิ้นชีวิตเพราะสงครามที่พม่ารุกรานแย่งชิงเมือง ส่วนพระมารดานั้นท่านเป็นเหมือนคนสองสัญชาติหรือลูกครึ่งมอญกับฮอลันดาหรืออาจจะโปรตุเกต เพราะท่านมีผิวพรรณวรรณะเหมือนลูกครึ่งฝรั่ง ผิวขาวอมชมพูสวยมาก แต่ก็สิ้นพระชนม์ตั้งแต่อายุประมาณสี่สิบกว่าเท่านั้นพร้อมพระธิดาและพระโอรสเพราะการเกิดสงครามนั้น พระองค์หญิงมณีจันทร์จึงเป็นธิดาที่ติดตามพระบิดาไปอยู่ยังเมาะลำเลิง ซึ่งการติดตามไปนั้นพระองค์ท่านอายุไล่เรียงกับสมเด็จนเรศวร คือประมาณ 14-15 ปีเท่านั้น<o:p></o:p>
    พระองค์หญิงมณีจันทร์นั้น แท้จริงแล้วใครจะรู้ว่า พระองค์ท่านเป็นอิสตรีที่ถูกฝึกสอนอาวุธจากพระราชบิดาคือกษัตริย์เจ้ามอญ พร้อมด้วยคณาจารย์ทางด้านการรบ รวมถึงสมเด็จพระมหาเถรคันฉ่องสังฆราชของเจ้ามอญที่บังคับพระองค์ท่านฝึกเรียนทางด้านกรรมฐาน โดยเฉพาะวิชาอิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย<o:p></o:p>
    พระองค์หญิงถูกฝึกการรบทุกชนิด ไม่ว่าจะโหดร้ายแค่ไหนพระองค์ท่านก็ต้องทำ เมื่อกษัตริย์เจ้ามอญและนักรบมอญทั้งหลายออกรบนั้น พระองค์หญิงต้องปลอมตัวเป็นบุรุษชาติอาชาไนย ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกษัตริย์เจ้ามอญพร้อมด้วยแม่ทัพนายกองมอญและเหล่าทหารของแผ่นดินมอญ ความชาญฉลาดของพระนางนั้นหาใครเปรียบได้ยากยิ่ง ทรงกำหนดพิธีการรบให้และแผนที่เดินทัพให้กองทัพมอญ รวมถึงวิธีการรบที่เรียกว่า สงครามกองโจร หน่วยจู่โจมม้าเร็วนั้นก็มาจากแผนการรบที่ทรงวางไว้ให้กับมอญเช่นกัน<o:p></o:p>
    องค์สมเด็จนเรศวรฯ นั้นพระองค์ท่านทรงผิดสังเกตุตลอดเวลาที่เจอกองทัพมอญ เจ้าทหารมอญ(มณีจันทร์)ผู้นี้ทำไมถึงตัวเล็กนิดเดียว แถมร่วมรบทีไรก็ใช้เขม่าควันไฟทาหน้าจนดำปี๊ดปี๋ บางครั้งก็เอาผ้าโพกหัวพันหน้าจนเห็นแต่ดวงตา บางครั้งใบหน้านั้นก็สวยหวาน แต่บางครั้งก็ดูผิดแผกจากทหารทั่ว ๆ ไป แถมเมื่อศึกประชิดตัวทีไรทหารฝ่ายมอญก็ช่วยห้อมล้อมกันท่าพาหนีรอดทุกครั้ง ผิดสังเกตุจนพระองค์ท่านตั้งพระทัยไว้ว่าสักวันหนึ่งถ้าโอกาสมาถึง จะต้องจับตัวทหารมอญผู้นี้ให้ได้ จะได้คาดคั้นเอาความจริงว่า เป็นบุคคลสำคัญเช่นไรในกองทัพมอญ จึงได้รับการอารักขาเป็นพิเศษจากทหารฝ่ายมอญ<o:p></o:p>
    ความสงสัยบังเกิดขึ้นในใจขององค์สมเด็จนเรศวรฯ ตลอดเวลามา แต่โอกาสยังมาไม่ถึง จนวันหนึ่งเมื่อเหตุจะเกิด..พระองค์ท่านพาทหารออกลาดตระเวณ ในขณะเดียวกันทหารมอญพร้อมด้วยพระองค์หญิงมณีจันทร์ที่ปลอมเป็นนักรบชายก็ออกลาดตระเวณเช่นกัน องค์สมเด็จนเรศวรนั้นทรงรู้ว่าโอกาสอันดีของพระองค์ท่านมาถึงแล้ว จึงให้กองลาดตระเวณของพระองค์ท่านช่วยโอบล้อมเหล่าทหารมอญพร้อมพระองค์หญิง และกล่าวคำท้าไปยังทหารมอญผู้นั้นผู้เดียวเพื่อประดาบประลองฝีมือกัน<o:p></o:p>
    ส่วนพระองค์หญิงมณีจันทร์นั้นไม่อยากรับคำท้า เพราะพระองค์ตรองดูแล้วมีแต่จะเสียเปรียบ ถ้าชนะก็รอดตัวไป ถ้าแพ้ถูกจับได้ความลับ ใหญ่หลวงของพระองค์ท่านก็จะต้องถูกเปิดเผย แต่ไม่รับก็ไม่ได้เพราะถูกโอบล้อมไว้หมดแล้ว การชิงชัยกันเป็นไปด้วยความดุเดือด ไม่มีใครยอมรามือให้ใคร เพียงเพราะฝ่ายหนึ่งต้องการเปิดเผยความลับแต่อีกฝ่ายต้องการปกปิดความลับไว้ แต่ในที่สุดพระองค์หญิงก็ต้องพ่ายแพ้แก่องค์สมเด็จนเรศวรท่านด้วยกำลังของชายชาตินักรบ พระองค์หญิงถูกจับและถูกคาดคั้นเอาความจริง<o:p></o:p>
    มิมีวาจาใด ๆ หลุดออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์หญิงท่าน สมเด็จนเรศวรทรงกริ้วยิ่งนักที่ไม่สามารถบังคับทหารมอญผู้นี้ได้ จึงได้ออกคำสั่งให้ทหารถอดผ้าคลุมศรีษะที่พันใบหน้านั้นออก สิ่งที่ปรากฏต่อสายพระเนตรของพระองค์ท่าน คืออิสตรีที่ปลอมแปลงพระองค์เป็นบุรุษชาติอาชาไนย ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารมอญทั้งหลายเพื่อกอบกู้แผ่นดินมอญ พระองค์ท่านทรงได้แต่ตะลึง เปล่งพระวาจาได้เพียงว่า "ทำไมถึงกล้าหาญชาญชัยเยี่ยงนี้" ความรักความพึงพอใจจึงเกิดขึ้นในพระทัยของพระองค์ท่าน คงเพราะทรงเกิดมาเพื่อกันและกัน ชตาชีวิตของทั้งสองพระองค์มิได้แตกต่างกันเลย ความทุกข์ยากในน้ำพระทัยทั้งหลายมีท่วมท้นเสมอเหมือนกัน ทรงถูกยึดครองแผ่นดินเหมือนกัน ทรงตกระกำลำบากระหกระเหินระเหเร่ร่อนเหมือนนกไร้รังไม่แตกต่างกันเลย ผู้หนึ่งสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินและต้องตกไปเป็นเชลยศักดิ์ อิสตรีผู้หนึ่งสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินจนไร้ที่อยู่เหมือนหงส์ไร้รัง ความทุกข์ยากในน้ำพระทัยไม่แตกต่างกันเลย ชีวิตจะมีความหมายอะไรเมื่อบัลลังก์ถูกกดขี่ยึดครอง ข้าคนอาณาประชาราษฏร์ต่างได้ร้อนนอนทุกข์จากการรุกรานของพม่า ความสัมพันธ์ของอโยธยาและมอญจึงเริ่มต้นตั้งแต่บัดนั้น<o:p></o:p>
    "กุหลาบเมาะลำเลิง"<o:p></o:p>
    องค์สมเด็จนเรศวรนั้น ทรงขอเข้าเฝ้ากษัตริย์เจ้ามอญเป็นการส่วนพระองค์ ทรงทูลขอพระธิดา พระองค์หญิงมณีจันทร์จากกษัตริย์เจ้ามอญ พระองค์ท่านไม่พึงประสงค์จะยกให้ แต่เมื่อตรองดูแล้วการยกพระธิดาให้แด่องค์สมเด็จนเรศวรนั้น ดีกว่าให้พระธิดาต้องตกไปเป็นสนมของกษัตริย์องค์อื่นเป็นไหน ๆ พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยยกพระธิดาให้แด่องค์สมเด็จนเรศวรท่าน ความรักความสัมพันธ์ของสองแผ่นดินจึงปรากฏขึ้นนับแต่เวลานั้น<o:p></o:p>
    พระองค์หญิงมณีจันทร์จึงถูกส่งไปอยู่กับพระพี่นางเพื่อฝึกหัดเรียนรู้ธรรมเนียมประเพณีของสยามประเทศ ซึ่งที่พระองค์ได้ไปอยู่นั้นถูกเรียกว่า "พระตำหนักนอก" เป็นตำหนักเรือนไทยอยุธยาที่ปลูกเรียงกันเป็นแถว เป็นตำหนักที่ปลูกไว้สำหรับเจ้านางทางฝ่ายอยุธยาที่ถูกขอตัวไป ที่พระตำหนักนอกนี้เป็นเรือนไทยใต้ถุนสูงประมาณ 1 เมตร 20 เซนต์ หน้าเรือนไทยมีระเบียงกว้าง ตัวระเบียงมีทางเดินรอบ ตัวเรือนทาสีเหลืองทองทั้งหลังเหมือนสีแป้งผงขมิ้นของพม่าที่เรียกว่า ตะนาคา เหตุที่เรียกว่า พระตำหนักนอกนั้น ทั้งนี้เพราะถูกปลูกอยู่นอกวังหลวง เป็นที่จัดไว้ให้สำหรับเจ้านางฝ่ายอยุธยา ที่พระตำหนักนี้พระองค์หญิงมณีจันทร์ทรงแต่งพระวรกายเป็นสตรี แต่ไม่ทรงพระยศและเครื่องยศของเจ้าหญิงมอญ ทั้งนี้เพราะทางพม่าไม่มีใครล่วงรู้ความลับนี้ เมื่อพระองค์ท่านแต่งกายเป็นหญิง เป็นอิสตรีเต็มตัวนั้น ทรงงามมาก ผิวพรรณขาวอมชมพู พระพักตร์สวยมาก รูปร่างสมส่วน องค์สมเด็จนเรศวรจึงทรงเรียกขานพระองค์หญิงว่าทรงเป็น "กุหลาบเมาะลำเลิง" นั่นจึงเป็นที่มาของพระนามนี้ เพราะทรงเป็นพระองค์หญิงที่พลัดถิ่นไปอาศัยอยู่ยังเมาะลำเลิง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • r93_4.jpg
      r93_4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.7 KB
      เปิดดู:
      275
  14. นารถะสุญญตา

    นารถะสุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +676
    อาทิตย์ที่แล้ว....ผมฝันเห็นขรัวมณีจันทร์ด้วย ในฝันยังรู้นี้คือความฝันก็พยามจดจำใบหน้าให้ได้มากที่สุด เพราะไม่เคยฝันเห็นเลย ส่วนใหญ่จะฝันเห็นพระองค์ท่านกับทหารซะเป็นส่วนใหญ่ การคราวนี้คงต้องมีเหตุอะไรสักอย่าง..ที่ให้ผมได้เห็นเป็นแน่แท้ไว้รอกลับจากไปนมัสการพระธาตุมุเตา ถ้าเกิดว่าใช่ผมจะมาเล่าให้ฟังอีก คงต้องขออนุญาตท่านเจ้าของกระทู้ไว้ก่อนนะครับ
     
  15. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,060
    รู้สึกอยากจะเข้ามาตั้งแต่เห็นชื่อกระทู้แล้วค่ะ แต่เกรงจะโดนว่า เป็นผู้หญิงเข้ามาทำไม และก็ไม่รุ้ด้วยว่า เคยเป็นทหารพระองค์ดำหรือเปล่า แต่ก็อยากเข้ามา
    พอได้มาอ่านแล้วยิ่งรู้สีกปิติแทบจะร้องไห้เลยค่ะ
     
  16. pkdragon

    pkdragon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +35
    พระองค์หญิงมณีจันทร์ กุหลาบเมาะลำเลิง<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    .พระองค์หญิงผู้นี้เป็นใคร มาจากไหน... เป็นมอญแท้ ๆ เป็นคนนอกแผ่นดินที่มาครองหัวใจพระองค์ท่าน..มหาบุรุษชาตินักรบ..สมเด็จนเรศวรมหาราช.. แล้วอย่างนี้จะไม่ให้อิสตรีในแผ่นดินนี้รุมเกลียดได้ยังไงกัน แต่ในชาตินี้มีแต่คนอยากชื่อมณีจันทร์...เฮ้ยคนหนอคน<o:p></o:p>
    .พระองค์หญิงมณีจันทร์ผู้นี้...ในพระชนม์ชีพของพระองค์ท่านมีแต่ความทุกข์ยากลำบากแสนเข็ญ พระชตาชีวิตมิได้มีความแตกต่างกับองค์สมเด็จนเรศวรและพระพี่นางพระสุพรรณกัลยาเลย จะแตกต่างกันตรงความเป็นอิสระเท่านั้น แต่ก็สูญเสียแผ่นดินเช่นกัน<o:p></o:p>
    มณีจันทร์...เป็นพระธิดาองค์โตของกษัตริย์เจ้ามอญ มีน้องร่วมพระมารดาเดียวกันสองพระองค์ คือน้องหญิงอายุประมาณ 12 ขวบ น้องชายอายุประมาณ 9 ขวบ แต่น้องทั้งสองของพระองค์ท่านก็สิ้นชีวิตเพราะสงครามที่พม่ารุกรานแย่งชิงเมือง ส่วนพระมารดานั้นท่านเป็นเหมือนคนสองสัญชาติหรือลูกครึ่งมอญกับฮอลันดาหรืออาจจะโปรตุเกต เพราะท่านมีผิวพรรณวรรณะเหมือนลูกครึ่งฝรั่ง ผิวขาวอมชมพูสวยมาก แต่ก็สิ้นพระชนม์ตั้งแต่อายุประมาณสี่สิบกว่าเท่านั้นพร้อมพระธิดาและพระโอรสเพราะการเกิดสงครามนั้น พระองค์หญิงมณีจันทร์จึงเป็นธิดาที่ติดตามพระบิดาไปอยู่ยังเมาะลำเลิง ซึ่งการติดตามไปนั้นพระองค์ท่านอายุไล่เรียงกับสมเด็จนเรศวร คือประมาณ 14-15 ปีเท่านั้น<o:p></o:p>
    พระองค์หญิงมณีจันทร์นั้น แท้จริงแล้วใครจะรู้ว่า พระองค์ท่านเป็นอิสตรีที่ถูกฝึกสอนอาวุธจากพระราชบิดาคือกษัตริย์เจ้ามอญ พร้อมด้วยคณาจารย์ทางด้านการรบ รวมถึงสมเด็จพระมหาเถรคันฉ่องสังฆราชของเจ้ามอญที่บังคับพระองค์ท่านฝึกเรียนทางด้านกรรมฐาน โดยเฉพาะวิชาอิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย<o:p></o:p>
    พระองค์หญิงถูกฝึกการรบทุกชนิด ไม่ว่าจะโหดร้ายแค่ไหนพระองค์ท่านก็ต้องทำ เมื่อกษัตริย์เจ้ามอญและนักรบมอญทั้งหลายออกรบนั้น พระองค์หญิงต้องปลอมตัวเป็นบุรุษชาติอาชาไนย ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกษัตริย์เจ้ามอญพร้อมด้วยแม่ทัพนายกองมอญและเหล่าทหารของแผ่นดินมอญ ความชาญฉลาดของพระนางนั้นหาใครเปรียบได้ยากยิ่ง ทรงกำหนดพิธีการรบให้และแผนที่เดินทัพให้กองทัพมอญ รวมถึงวิธีการรบที่เรียกว่า สงครามกองโจร หน่วยจู่โจมม้าเร็วนั้นก็มาจากแผนการรบที่ทรงวางไว้ให้กับมอญเช่นกัน<o:p></o:p>
    องค์สมเด็จนเรศวรฯ นั้นพระองค์ท่านทรงผิดสังเกตุตลอดเวลาที่เจอกองทัพมอญ เจ้าทหารมอญ(มณีจันทร์)ผู้นี้ทำไมถึงตัวเล็กนิดเดียว แถมร่วมรบทีไรก็ใช้เขม่าควันไฟทาหน้าจนดำปี๊ดปี๋ บางครั้งก็เอาผ้าโพกหัวพันหน้าจนเห็นแต่ดวงตา บางครั้งใบหน้านั้นก็สวยหวาน แต่บางครั้งก็ดูผิดแผกจากทหารทั่ว ๆ ไป แถมเมื่อศึกประชิดตัวทีไรทหารฝ่ายมอญก็ช่วยห้อมล้อมกันท่าพาหนีรอดทุกครั้ง ผิดสังเกตุจนพระองค์ท่านตั้งพระทัยไว้ว่าสักวันหนึ่งถ้าโอกาสมาถึง จะต้องจับตัวทหารมอญผู้นี้ให้ได้ จะได้คาดคั้นเอาความจริงว่า เป็นบุคคลสำคัญเช่นไรในกองทัพมอญ จึงได้รับการอารักขาเป็นพิเศษจากทหารฝ่ายมอญ<o:p></o:p>
    ความสงสัยบังเกิดขึ้นในใจขององค์สมเด็จนเรศวรฯ ตลอดเวลามา แต่โอกาสยังมาไม่ถึง จนวันหนึ่งเมื่อเหตุจะเกิด..พระองค์ท่านพาทหารออกลาดตระเวณ ในขณะเดียวกันทหารมอญพร้อมด้วยพระองค์หญิงมณีจันทร์ที่ปลอมเป็นนักรบชายก็ออกลาดตระเวณเช่นกัน องค์สมเด็จนเรศวรนั้นทรงรู้ว่าโอกาสอันดีของพระองค์ท่านมาถึงแล้ว จึงให้กองลาดตระเวณของพระองค์ท่านช่วยโอบล้อมเหล่าทหารมอญพร้อมพระองค์หญิง และกล่าวคำท้าไปยังทหารมอญผู้นั้นผู้เดียวเพื่อประดาบประลองฝีมือกัน<o:p></o:p>
    ส่วนพระองค์หญิงมณีจันทร์นั้นไม่อยากรับคำท้า เพราะพระองค์ตรองดูแล้วมีแต่จะเสียเปรียบ ถ้าชนะก็รอดตัวไป ถ้าแพ้ถูกจับได้ความลับ ใหญ่หลวงของพระองค์ท่านก็จะต้องถูกเปิดเผย แต่ไม่รับก็ไม่ได้เพราะถูกโอบล้อมไว้หมดแล้ว การชิงชัยกันเป็นไปด้วยความดุเดือด ไม่มีใครยอมรามือให้ใคร เพียงเพราะฝ่ายหนึ่งต้องการเปิดเผยความลับแต่อีกฝ่ายต้องการปกปิดความลับไว้ แต่ในที่สุดพระองค์หญิงก็ต้องพ่ายแพ้แก่องค์สมเด็จนเรศวรท่านด้วยกำลังของชายชาตินักรบ พระองค์หญิงถูกจับและถูกคาดคั้นเอาความจริง<o:p></o:p>
    มิมีวาจาใด ๆ หลุดออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์หญิงท่าน สมเด็จนเรศวรทรงกริ้วยิ่งนักที่ไม่สามารถบังคับทหารมอญผู้นี้ได้ จึงได้ออกคำสั่งให้ทหารถอดผ้าคลุมศรีษะที่พันใบหน้านั้นออก สิ่งที่ปรากฏต่อสายพระเนตรของพระองค์ท่าน คืออิสตรีที่ปลอมแปลงพระองค์เป็นบุรุษชาติอาชาไนย ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารมอญทั้งหลายเพื่อกอบกู้แผ่นดินมอญ พระองค์ท่านทรงได้แต่ตะลึง เปล่งพระวาจาได้เพียงว่า "ทำไมถึงกล้าหาญชาญชัยเยี่ยงนี้" ความรักความพึงพอใจจึงเกิดขึ้นในพระทัยของพระองค์ท่าน คงเพราะทรงเกิดมาเพื่อกันและกัน ชตาชีวิตของทั้งสองพระองค์มิได้แตกต่างกันเลย ความทุกข์ยากในน้ำพระทัยทั้งหลายมีท่วมท้นเสมอเหมือนกัน ทรงถูกยึดครองแผ่นดินเหมือนกัน ทรงตกระกำลำบากระหกระเหินระเหเร่ร่อนเหมือนนกไร้รังไม่แตกต่างกันเลย ผู้หนึ่งสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินและต้องตกไปเป็นเชลยศักดิ์ อิสตรีผู้หนึ่งสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินจนไร้ที่อยู่เหมือนหงส์ไร้รัง ความทุกข์ยากในน้ำพระทัยไม่แตกต่างกันเลย ชีวิตจะมีความหมายอะไรเมื่อบัลลังก์ถูกกดขี่ยึดครอง ข้าคนอาณาประชาราษฏร์ต่างได้ร้อนนอนทุกข์จากการรุกรานของพม่า ความสัมพันธ์ของอโยธยาและมอญจึงเริ่มต้นตั้งแต่บัดนั้น<o:p></o:p>
    "กุหลาบเมาะลำเลิง"<o:p></o:p>
    องค์สมเด็จนเรศวรนั้น ทรงขอเข้าเฝ้ากษัตริย์เจ้ามอญเป็นการส่วนพระองค์ ทรงทูลขอพระธิดา พระองค์หญิงมณีจันทร์จากกษัตริย์เจ้ามอญ พระองค์ท่านไม่พึงประสงค์จะยกให้ แต่เมื่อตรองดูแล้วการยกพระธิดาให้แด่องค์สมเด็จนเรศวรนั้น ดีกว่าให้พระธิดาต้องตกไปเป็นสนมของกษัตริย์องค์อื่นเป็นไหน ๆ พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยยกพระธิดาให้แด่องค์สมเด็จนเรศวรท่าน ความรักความสัมพันธ์ของสองแผ่นดินจึงปรากฏขึ้นนับแต่เวลานั้น<o:p></o:p>
    พระองค์หญิงมณีจันทร์จึงถูกส่งไปอยู่กับพระพี่นางเพื่อฝึกหัดเรียนรู้ธรรมเนียมประเพณีของสยามประเทศ ซึ่งที่พระองค์ได้ไปอยู่นั้นถูกเรียกว่า "พระตำหนักนอก" เป็นตำหนักเรือนไทยอยุธยาที่ปลูกเรียงกันเป็นแถว เป็นตำหนักที่ปลูกไว้สำหรับเจ้านางทางฝ่ายอยุธยาที่ถูกขอตัวไป ที่พระตำหนักนอกนี้เป็นเรือนไทยใต้ถุนสูงประมาณ 1 เมตร 20 เซนต์ หน้าเรือนไทยมีระเบียงกว้าง ตัวระเบียงมีทางเดินรอบ ตัวเรือนทาสีเหลืองทองทั้งหลังเหมือนสีแป้งผงขมิ้นของพม่าที่เรียกว่า ตะนาคา เหตุที่เรียกว่า พระตำหนักนอกนั้น ทั้งนี้เพราะถูกปลูกอยู่นอกวังหลวง เป็นที่จัดไว้ให้สำหรับเจ้านางฝ่ายอยุธยา ที่พระตำหนักนี้พระองค์หญิงมณีจันทร์ทรงแต่งพระวรกายเป็นสตรี แต่ไม่ทรงพระยศและเครื่องยศของเจ้าหญิงมอญ ทั้งนี้เพราะทางพม่าไม่มีใครล่วงรู้ความลับนี้ เมื่อพระองค์ท่านแต่งกายเป็นหญิง เป็นอิสตรีเต็มตัวนั้น ทรงงามมาก ผิวพรรณขาวอมชมพู พระพักตร์สวยมาก รูปร่างสมส่วน องค์สมเด็จนเรศวรจึงทรงเรียกขานพระองค์หญิงว่าทรงเป็น "กุหลาบเมาะลำเลิง" นั่นจึงเป็นที่มาของพระนามนี้ เพราะทรงเป็นพระองค์หญิงที่พลัดถิ่นไปอาศัยอยู่ยังเมาะลำเลิง
     
  17. maquist

    maquist Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +63
    แล้วกระผมเคยเป็นกับเค้าด้วยรึเปล่าครับช่วยบอกที
     
  18. มั่นในธรรม

    มั่นในธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +603
    ไม่มีญาณรู้พอว่าชาติก่อนๆเคยเกิดเป็นอะไรหรือใครมา ได้แต่ถามคนอื่นบ้างก็ว่าเป็นนักรบ บ้างก็ว่าเป็นนางใน แต่ที่รู้คือชอบประวัติศาสนตร์และรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มาก ยิ่งเรื่องของพระนเรศวรพยายามหาข้อมูล ขรัวมณีจันทร์ เมื่อรู้ว่าท่านมีเชื้อสายมอญยิ่งรู้สึกดีใจบอกไม่ถูก มีใครตอบได้ไหมคะว่าดิฉันได้เคยเกิดในสมัยท่านบ้างหรือไม่ ขอบคุณค่ะ
     
  19. kountee

    kountee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +166
    มาสายครับพอดี ฝึกหนักไปหน่อยเลยเขาแถวช้าไป ยอมคลุกฝุ่นครับ
     
  20. pkdragon

    pkdragon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +35
    เร่งสร้างสมบุญบารมี หากถึงเวลาที่สมควรก็จะระลึกได้ว่าเป็นใครหาก เกิดมาเพื่อภาระกิจร่วมกันก็ขออนุโมทนาบุญทุกท่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...