แห่ดูพญานาคหลังคนหาปลาจับได้

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

แห่ดูพญานาคหลังคนหาปลาจับได้​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top>

27 กรกฎาคม 2550 23:38 น.



​

</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- ชาวหนองคายแห่ดูพญานาคพร้อมถ่ายรูป สัมผัส พิสูจน์ หลังชาวบ้านบุ่งคล้า อ้างจับได้ในแม่น้ำโขงเมื่อเดือน เม.ย. แล้วขังไว้ในตุ่มจนตาย พบลักษณะคล้ายพญานาคจริงแต่ตัวแข็งและเล็ก ยาวเพียง 20 ซม. ขณะที่ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งยันเป็นเพียงปลาแม่น้ำโขงชนิดหนึ่ง ไม่ใช่พญานาค

ชาวบ้านในพื้นที่ อ.บุ่งคล้า จ.หนองคาย พากันฮือฮากับข่าวที่มีคนในหมู่บ้านหนองบ่อ หมู่ 2 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จับพญานาคได้จากลำน้ำโขง จนพากันหลั่งไหลไปเฝ้าดูเพื่อพิสูจน์ให้เห็นกับตา ที่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 2 บ้านหนองบ่อ
นายมี อินทะวงศ์ อายุ 51 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ไปดักตาข่ายจับปลาในแม่น้ำโขงและมีสัตว์คล้ายพญานาคติดขึ้นมาด้วย ซึ่งสัตว์ที่ว่านั้นมีลักษณะตัวอ่อนนิ่ม นอนนิ่งติดตาข่ายเหมือนจะหมดลมหายใจ ที่หัวมีฟัน มีหงอน เหมือนพญานาค เส้นผ่าศูนย์กลางลำตัวกว้างประมาณ 5 ซม. และยาวราว 20 ซม. พอตนเห็นก็ตกใจและจับมาไว้ที่บ้าน แต่ไม่ได้บอกใคร พร้อมอธิษฐานจิตขอให้ได้โชคได้ลาภ ทำมาค้าขึ้น จากนั้นก็นำไปปล่อยไว้ในตุ่มน้ำ พร้อมหาดอกไม้ธูปเทียนจัดขันธ์ 5 ขึ้นบูชา
"หลังบูชาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นอนหลับไป แล้วฝันว่า มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาบอกว่า ขออยู่ด้วยนะ ขอเป็นลูกนะ พอผมตื่นขึ้นมาก็นึกถึงในความฝัน ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ผมจะมีลูกอีกเพราะอายุมากแล้ว แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นฝันดี หลังจากนั้นก็มีเด็กๆ หลายคนมาเล่นกันที่บ้านผม ลูกก็เล่าให้เพื่อนฟังว่าพ่อจับพญานาคมาเลี้ยงไว้ เขาก็ไปดูกัน แล้วก็ไปบอกต่อๆ กันปากต่อปาก ร่ำลือกันไป ผู้คนก็เลยแห่กันมาดู"
ภายในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่พากันหลั่งไหลมาดูสิ่งที่นายมีบอกว่าเป็นพญานาค ซึ่งมีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ บางคนต้องการให้มีการพิสูจน์ว่าเป็นพญานาคจริงหรือไม่
นางสุภัทตรา คุณคำพา ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง ซึ่งเป็นอำเภอใกล้เคียง บอกว่า ทราบข่าวเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวว่าจับพญานาคได้ จึงมาขอดู ซึ่งส่วนตัวแล้วมีความศรัทธาในตัวพญานาค เพราะเชื่อว่าลูกหลานชาวหนองคายล้วนแล้วแต่มีเชื้อสายพญานาค
"ดิฉันมักจะฝันเห็นพญานาคเป็นประจำ หากทราบข่าวว่าเจอร่องรอยอยู่ที่ไหนก็จะเดินทางไปดูเพื่อเป็นบุญตา ไม่ว่าจะเป็นที่คำชะโนด จ.อุดรธานี ไปดูมาหมดแล้ว และครั้งนี้พอกินข้าวตอนค่ำเสร็จก็รีบเดินทางมาดูทันที ซึ่งก็พบว่ามีลักษณะคล้ายพญานาคจริงๆ"
ขณะที่ นายสมศักดิ์ ปัดบุญทัน ชาวบ้านหมู่ 1 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า ซึ่งเข้าไปดูและสัมผัส พร้อมกับถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือ บอกว่า ขณะเดินซื้อของที่ร้านชำได้ยินชาวบ้านเล่ากันว่า มีคนบ้านหนองบ่อจับพญานาคได้ จึงมาขอดู
"จากที่เห็นด้วยตานั้น มีรูปร่างลักษณะเหมือนพญานาค แต่ตัวเล็กมาก ลองเอามือแตะที่ลำตัวรู้สึกว่าแข็ง คล้ายๆ กับทำด้วยเรซิ่น ผมยังคงไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์นะว่าเป็นพญานาค อยากให้มีการพิสูจน์ เพราะยังไม่เคยมีใครเห็นพญานาคจริงๆ เลยสักครั้ง มีแต่เล่ากันมา ซึ่งเห็นตามวัดและโบสถ์เท่านั้น"
ขณะที่ นายอำพร แสวงดี กำนันตำบลโคกกว้าง บอกว่า แม้จะทราบข่าวจากชาวบ้านและได้ดูภาพที่เขาถ่ายมาให้ดูแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ไปดู เพียงแต่นำภาพเหล่านั้นลงไว้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น ซึ่งการที่ชาวบ้านแห่ไปดูเพราะอยากรู้ อยากเห็น และศรัทธา จากภาพที่เห็นดังกล่าวหากเป็นซากพญานาคจริง ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้หลักฐานทางประวัติศาสตร์สานความเชื่อคนหนองคายอีกชิ้นหนึ่ง
ซากพญานาคตามคำกล่าวอ้างของนายมีจะจริงหรือไม่นั้น คงจะต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่เคยจับสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายพญานาค
โดยนายบุญเสริม สนั่นเอื้อ อายุ 50 ปี ครูโรงเรียนบ้านฝอยลมหนองฮู ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงโหลง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" ว่า เชื่อว่าสิ่งที่จับได้ไม่ใช่พญานาค แต่เป็นสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายพญานาค "ซากสัตว์ดังกล่าวนั้นผมเคยจับได้เมื่อหลายปีก่อน และปล่อยลงแม่น้ำโขงไปแล้ว เพราะไม่กล้ากิน โดยลักษณะลำตัวปลาชนิดนี้คล้ายกับปลาไหล แต่มีฟัน และหงอนคล้ายๆ พญานาค"

-->
ชาวหนองคายแห่ดูพญานาคพร้อมถ่ายรูป สัมผัส พิสูจน์ หลังชาวบ้านบุ่งคล้า อ้างจับได้ในแม่น้ำโขงเมื่อเดือน เม.ย. แล้วขังไว้ในตุ่มจนตาย พบลักษณะคล้ายพญานาคจริงแต่ตัวแข็งและเล็ก ยาวเพียง 20 ซม. ขณะที่ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งยันเป็นเพียงปลาแม่น้ำโขงชนิดหนึ่ง ไม่ใช่พญานาค

ชาวบ้านในพื้นที่ อ.บุ่งคล้า จ.หนองคาย พากันฮือฮากับข่าวที่มีคนในหมู่บ้านหนองบ่อ หมู่ 2 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จับพญานาคได้จากลำน้ำโขง จนพากันหลั่งไหลไปเฝ้าดูเพื่อพิสูจน์ให้เห็นกับตา ที่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 2 บ้านหนองบ่อ

นายมี อินทะวงศ์ อายุ 51 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ไปดักตาข่ายจับปลาในแม่น้ำโขงและมีสัตว์คล้ายพญานาคติดขึ้นมาด้วย ซึ่งสัตว์ที่ว่านั้นมีลักษณะตัวอ่อนนิ่ม นอนนิ่งติดตาข่ายเหมือนจะหมดลมหายใจ ที่หัวมีฟัน มีหงอน เหมือนพญานาค เส้นผ่าศูนย์กลางลำตัวกว้างประมาณ 5 ซม. และยาวราว 20 ซม. พอตนเห็นก็ตกใจและจับมาไว้ที่บ้าน แต่ไม่ได้บอกใคร พร้อมอธิษฐานจิตขอให้ได้โชคได้ลาภ ทำมาค้าขึ้น จากนั้นก็นำไปปล่อยไว้ในตุ่มน้ำ พร้อมหาดอกไม้ธูปเทียนจัดขันธ์ 5 ขึ้นบูชา
"หลังบูชาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นอนหลับไป แล้วฝันว่า มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาบอกว่า ขออยู่ด้วยนะ ขอเป็นลูกนะ พอผมตื่นขึ้นมาก็นึกถึงในความฝัน ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ผมจะมีลูกอีกเพราะอายุมากแล้ว แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นฝันดี หลังจากนั้นก็มีเด็กๆ หลายคนมาเล่นกันที่บ้านผม ลูกก็เล่าให้เพื่อนฟังว่าพ่อจับพญานาคมาเลี้ยงไว้ เขาก็ไปดูกัน แล้วก็ไปบอกต่อๆ กันปากต่อปาก ร่ำลือกันไป ผู้คนก็เลยแห่กันมาดู"

ภายในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่พากันหลั่งไหลมาดูสิ่งที่นายมีบอกว่าเป็นพญานาค ซึ่งมีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ บางคนต้องการให้มีการพิสูจน์ว่าเป็นพญานาคจริงหรือไม่

นางสุภัทตรา คุณคำพา ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง ซึ่งเป็นอำเภอใกล้เคียง บอกว่า ทราบข่าวเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวว่าจับพญานาคได้ จึงมาขอดู ซึ่งส่วนตัวแล้วมีความศรัทธาในตัวพญานาค เพราะเชื่อว่าลูกหลานชาวหนองคายล้วนแล้วแต่มีเชื้อสายพญานาค

"ดิฉันมักจะฝันเห็นพญานาคเป็นประจำ หากทราบข่าวว่าเจอร่องรอยอยู่ที่ไหนก็จะเดินทางไปดูเพื่อเป็นบุญตา ไม่ว่าจะเป็นที่คำชะโนด จ.อุดรธานี ไปดูมาหมดแล้ว และครั้งนี้พอกินข้าวตอนค่ำเสร็จก็รีบเดินทางมาดูทันที ซึ่งก็พบว่ามีลักษณะคล้ายพญานาคจริงๆ"
ขณะที่ นายสมศักดิ์ ปัดบุญทัน ชาวบ้านหมู่ 1 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า ซึ่งเข้าไปดูและสัมผัส พร้อมกับถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือ บอกว่า ขณะเดินซื้อของที่ร้านชำได้ยินชาวบ้านเล่ากันว่า มีคนบ้านหนองบ่อจับพญานาคได้ จึงมาขอดู

"จากที่เห็นด้วยตานั้น มีรูปร่างลักษณะเหมือนพญานาค แต่ตัวเล็กมาก ลองเอามือแตะที่ลำตัวรู้สึกว่าแข็ง คล้ายๆ กับทำด้วยเรซิ่น ผมยังคงไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์นะว่าเป็นพญานาค อยากให้มีการพิสูจน์ เพราะยังไม่เคยมีใครเห็นพญานาคจริงๆ เลยสักครั้ง มีแต่เล่ากันมา ซึ่งเห็นตามวัดและโบสถ์เท่านั้น"

ขณะที่ นายอำพร แสวงดี กำนันตำบลโคกกว้าง บอกว่า แม้จะทราบข่าวจากชาวบ้านและได้ดูภาพที่เขาถ่ายมาให้ดูแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ไปดู เพียงแต่นำภาพเหล่านั้นลงไว้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น ซึ่งการที่ชาวบ้านแห่ไปดูเพราะอยากรู้ อยากเห็น และศรัทธา จากภาพที่เห็นดังกล่าวหากเป็นซากพญานาคจริง ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้หลักฐานทางประวัติศาสตร์สานความเชื่อคนหนองคายอีกชิ้นหนึ่ง

ซากพญานาคตามคำกล่าวอ้างของนายมีจะจริงหรือไม่นั้น คงจะต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่เคยจับสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายพญานาค โดยนายบุญเสริม สนั่นเอื้อ อายุ 50 ปี ครูโรงเรียนบ้านฝอยลมหนองฮู ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงโหลง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" ว่า เชื่อว่าสิ่งที่จับได้ไม่ใช่พญานาค แต่เป็นสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายพญานาค "ซากสัตว์ดังกล่าวนั้นผมเคยจับได้เมื่อหลายปีก่อน และปล่อยลงแม่น้ำโขงไปแล้ว เพราะไม่กล้ากิน โดยลักษณะลำตัวปลาชนิดนี้คล้ายกับปลาไหล แต่มีฟัน และหงอนคล้ายๆ พญานาค"


</TD></TR></TBODY></TABLE>
-------------
ที่มา:คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/2007/07/28/n001_128901.php?news_id=128901
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท

 

พญานาคมีจริงครับ แต่คนธรรมดาอย่างเราไม่สามารถเห็นได้
ผมเชื่อเช่นนั้นครับ