มี Sex กับแฟนก่อนแต่งผิดศีลข้อ 3 ไหม

=====

ประมาณว่าเราเคยล่วงประเวณีเขา มาชาตินี้เลยต้องใช้กรรม เป็นเช่นนี้หนีไม่พ้นครับ คือหนีกรรมของเราไม่พ้นครับ

 

อืม แต่ของผมพ่อแม่ของทั้งฝ่ายหญิงและผมรับรู้ว่าคบกันอยู่ทุกๆคนนะ ครับ และก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่เรื่องมี Sex กันนี้ไม่แน่ใจว่าเขารู้รึป่าว แตคนปัจจุบันนี้พ่อแม่เขาน่าจะรู้อยู่ว่าเราถึงใหนกันแล้วครับ แต่แค่เขาไม่พูด อย่างงี้ก็ถือว่าบาปใช่ป่าวครับ เพราะอย่างที่ผมบอกแหละผมผมคบผมไม่เคยมีเจตนาที่จะหลอกใครรักและจริงใจทุกคน แต่ก็ต้องมีเหตุให้ต้องเลิกกันส่วนใหญ่โดนผู้หญิงทิ้ง ครับ T-T

 

ผู้ชายผิด

ลวง=หลอก แปลว่า โกหก ผิดศีลข้อ 4 ด้วย

เมื่อร่วมประเวณีแล้ว

ผิดข้อ 1 คือเบียดเบียนชีวิตซึ่งกันและกัน

ผิดข้อ 2 คือ ลักขโมย(ก็ลักรอบประเวณี) ของรักของหวงของคนอื่น

ผิดข้อ 3 คือ ผิดลูกคนอื่น

 

ใจก็เชื่อว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน อย่างผู้หญิงบางคนเขาเดือดร้อนเงิน เลยไปทำงานสถานบริการ เราไปใช้บริการ คิดว่าคงบาปไม่มาก คงไม่ถึงกับปีนต้นงิ้ว ถูกกาจิก แต่เมื่อมาอ่านหลายๆความคิดเห็นแล้วเลยไม่แน่ใจ เพราะชาตินี้อธิษฐานตายแล้วอย่างน้อยขอได้" โสดาบัน"คิดแล้วคงยากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

พระโสดาบัน เป็นก่อนตาย ไม่ใช่ตายแล้วค่อยเป็นนะ

ส่วนพวกเรื่องค้าประเวณี บาปจะหนักหรือจะเบา ต้องดูที่ เจตนา=ความตั้งใจ ครับ

เหมือนกันกับการ ออกรบ ก็ต้องไปฆ่าฟันศัตรูบาปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร แต่เจตนาอยู่ที่การปกป้องรักษาดินแดนประเทศชาติ ตายไปสวรรค์เกือบทั้งหมด เพราะก่อนออกรบก็สวดมนต์ไหว้พระปลุกพระเครื่องรางต์มนตราเป็นปกติชีวิตประจำวันและก่อนออกก็จะมีพระมาพรหมน้ำมนต์อีก

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ a5g1aeka
ขอถามหน่อยครับแล้วบาปจากการผิดศีลข้อ ๓ คือปีนต้นงิ้ว แล้วถูกอีกาจิกสถานเดียวหรือเปล่าครับๆๆๆๆ

สวัสดีครับผมเพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ ขอแสดงความเห็นหน่อยครับ

เท่าที่อ่านมา เขาดูที่จิตก่อนตาย ว่า บริสุทธิ์/เป็นกุศล หรือเศร้าหมอง/ระลึกแต่บาปที่ทำมา กรณีหลังนี้จะไปรับผลบาปตามที่ทำมาแน่ ๆ

... ว่าจะไปสุคคติ หรือทุคคติ อยู่ที่บุญบาปก่อนตายนะครับ ดังนั้น ถ้าเราเข้าใจเรื่องศีลดีพอแล้ว ตั้งสัจจะไม่ทำผิดอีก และสร้างบุญไปเรื่อย ๆ ระลึกแต่บุญที่สร้างไปทุกวัน ๆ จนลืม/ลบภาพบาปไปได้ (บาปไม่หมดไป แต่มันตามห่างไกลมากพอจะหนีได้ในชาตินี้) เราคงพอเอาตัวรอด ครับ ...

ที่ว่าพอเอาตัวรอด คือ เราประมาทไม่ได้นั่นเองครับ ดังนี้ จึงต้องเร่งสั่งสมบุญและระลึกถึงบุญกันทุกวัน ๆ ไม่ใช่ทำทิ้ง ทำแล้วลืม แต่แปลกคนเราสมัยนี้ บาปเรากลับทำแล้วจำ แบบนี้คงขาดทุนครับ

 

ไม่รู้เป็นอารัย ผมรู้สึกชอบคำตอบของ "เฮียปอ ตำมะลึง" อ่านแล้วมันคมแบบว่าไม่ต้องเพิ่มเติมให้ต่อความยาวสาวความยืด

 

เอาล่ะ ผู้มีอวิชชา = คนไม่รู้

ตีความหมายคนอื่นถ้าตั้งใจ = กับยังประมาทอยู่ ถ้าไม่ได้ตั้งใจก็แล้วไปแล้วไป

ผมไปตอบเรื่อง กฏแห่งกรรมคนละกระทู้กัน ผมหมายถึงหนังสือ ที่บอกเรื่องคนทำอะไรแล้วได้อะไรทำไมชาตินี้ถึงเป็นแบบนี้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องของนักปาด(ตั้งใจพิมพ์แบบนี้นะครับขออภัยที)ตั้งใจเติมแต่งเข้าไปด้วยจริงและไม่จริงตามึวามคิดของเขา แต่คุณดันคิดไปเองว่ารวมกันถึงกระทู้นี้ ภาษานักวิชาการ เรียกว่า อุปทาน ไปเอง

ฉะนั้นอย่าเพิ่งแย้งใคร ถ้าตัวคุณยังไม่เข้าใจคนอื่น คำตอบของคุณมันดีแต่ที่เสียคือคุณไม่เข้าใจคนอื่น

 

ถ้าเชื่อในศีล ตั้งใจมั่นในศีล มันก็คงจะไม่ผิดศีล จนศีลทะลุด่างพร้อยร้อก
อย่ามาพูดเลยว่ารักจริง ถ้ารักจริงแล้วเลิกกันทำไมฟ่ะ

เรื่องแบบนี้บอกได้คำเดียวว่า "ยุ่งชิกหัย"
อย่าลืมว่า พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่อง เนกขัมมะ การออกจากกามเป็นเรื่องสำคัญน่ะจ๊ะ

 

คนโบราณ บางหมู่บ้าน ถูกตัวต้องเสียผี
สมัยก่อน ชายจะเห็นหญิง เมื่อว่างหน้านาแล้วเจอกันในงานวัด ขนทรายเข้าวัด
สมัยนี้ ความเจริญทำให้พบหากันง่ายขึ้น
ปัญหาสังคมจึงตามมามากมายก่ายกอง
เด็ก...ก็คือเด็ก แม้จะอ้างว่าโตแล้ว รับผิดชอบแล้ว...ล้วนไม่จริงเสียส่วนมาก
เมื่อเพศสัมพันธ์ ไม่มีหลักให้ยึด คือ พ่อแม่ปู่ย่าตายายญาติ เพื่อนสนิทมิตรสหายที่เป็นพยานรัก บีบบังคับทางสังคมให้ยึดมั่นในผัวเดียวเมียเดียวแล้ว มนุษย์ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เราดีๆนี่เอง ที่มี กิน ขี้ ปี้ นอน เหมือนกัน....
...อย่าว่าแต่ผิดศีลข้อ3เลย เอาใกล้ๆก่อน ชายหญิงใดประพฤติเยี่ยงนี้ ผมไม่ถือว่าเป็นคน ผมถือว่าเป็นสัตว์ อย่างหมาเป็นต้น ไม่มีเดือนสิบสองแล้ว เจอกัน เอากันติดเก้งกันข้างถนนนั่นแหละ จะมาบอกยินยอม บอกเลิกกันด้วยความเข้าใจฯลฯล้วนเป็นสัตว์ทั้งสิ้น
ใครก็ตามทั้งชายหญิงคิดหรือทำเรื่องนี้ ไม่ต้องไปกลัวศีลข้อ3ซึ่งโดนกรรมเล่นงานแน่นอน ให้กลัวถูกหาว่าเป็นสัตว์นี่ซิน่าอายยิ่งนัก...นี่ถ้าเป็นลูกผม ผมจะเรียกมันว่า"อ้ายสัตว์"ทันที
พร้อมฟาดด้วยหลังมือแล้วบอก"กูเลี้ยงมึงให้เป็นคน ไม่ใช่ให้เป็นหมา" ฮา

 

พูดได้ตรงและแทงใจดีครับ ต่อไปต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ขอบคุณๆๆทุกๆท่านครับสำหรับความคิดเห็น...

 

สาธุ คับ
ผมอยากจะบวช ห่มผ้าเหลืองตลอดชีวิต แต่ไม่รู้จะบอกแฟนยังไงดีให้เค้าเข้าใจ
ดูเหมือนว่าเค้าจะรักผมมาก

 

ขอตอบให้ซักนิดแล้วกันค่ะ

ถ้า คุณ เกิดมาเพื่อมาปฏิบัติ เพื่อออกบวช ตามที่อธิษฐานไว้จากอดีตชาติ
แฟนของคุณ ก็ย่อมจะรับรู้ได้เองเมื่อถึงเวลาค่ะ และย่อมจะอนุโมทนาไปกับเส้นทางที่คุณเลือกเดินนั้นด้วย

ถ้ายังไง คุณบอกกับแฟนว่าจะบวชซัก1พรรษา ก่อนก็ได้ค่ะ จะได้เป็นการทดสอบด้วยว่า คุณเองจะเลือกเส้นทางใด ระหว่างทางโลกกับทางธรรม

บางคู่แต่งงานกันไปหลายปี พอลูกโตหมดห่วง ก็ออกบวชครองผ้าเหลืองตลอดชีวิต โดยอีกฝ่ายก็ยินดี และอนุโมทนาด้วย

ถ้าออกบวช ก็ขออนุโมทนาด้วยนะคะ

 

อนุโมทนากับคำตอบของเฮียปอค่ะ
ในความคิดเห็นของติง มีความเห็นว่าอะไรที่ไม่แน่ใจว่าผิดหรือเปล่าก็ควรเลี่ยงไว้ก่อนค่ะ
ถือหลักปลอดภัยไว้ก่อน

 

-จากคำกล่าวอ้างนี้ผมขอถามคุณกลับว่าที่พ่อ-แม่ฝ่ายหญิงรับรู้ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าใจเค้าเป็นทุกข์หรือสุขจากการกระทำของคุณกับแฟน เค้าอาจแสดงออกว่าเฉยๆ ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเป็นลูกสาวคุณ คุณอยากให้ลูกทำแบบนี้ไหม ที่เค้ารับรู้แต่ไม่ว่าอะไรอาจเพราะเค้ารักลูกไม่อยากให้เสียใจ
-และถ้าจะกล่าวถึงกฎแห่งกรรม อย่างน้อยสุดคุณก็จะได้พบแต่คู่ครองแบบนี้ หาเจอคนที่ดีได้ยาก เพราะจิตใจมันตกลงสู่ความมืดดำ
-ในแง่ทางธรรมนั้น แสดงว่าคุณไม่สามารถยับยั้งความรู้สึกตัวเองได้ ซึ่งเป็นการปูทางสู่การกระทำที่ผิดมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เรื่องแบบนี้คิดให้รอบคอบอย่าหลอกตัวเองหรือหาทางเข้าข้างตัวเอง ก็จะเข้าใจว่าคิดมุมไหนก็ผิดครับ

 

คนสมัยนี้ พอผิดศีลข้อ 3 ก็มักจะผิดศีลข้อ 1

" ท้องก่อนแต่ง ----> ทำแท้ง

 

ขอบคุณทุกท่านที่ เปิดตาให้กับคนๆนี้ หลงผิดมาตลอด เลยค่ะ

 

ตอบกันเยอะมากเลย
สรุปนะครับ ถ้ามีกันก่อนพ่อแม่ทั้ง2ฝ่ายรู้ ผิดศีลทั้งคู่ครับ
ฉนั่นต้องรู้ทั้ง2ฝ่ายและ 2 ฝ่ายยินยอมทั้งคู่ครับ
ถึงจะไม่ผิดนะครับ แต่ถ้าหลังจากนั้นแล้ว ไปเล่นกับคนอื่นอีกเช่น กิ๊กหรือหญิงงามเมือง คุณผิดแน่ๆ เพราะคู่รักของคุณไม่ได้ยินยอมครับ

อย่าไป หยวนๆน่า นิดๆหน่อยๆ กลับไปนั่งสมาธิล่ะ มืดเลยเชียว

 

สงสัยผมคงหนักเหมือนกัน มีเยอะเกิน