นาฬิกาชีวิตสำหรับเด็ก

​

โลกมีกลางวันเเละกลางคืนเเละสิ่งต่างๆที่ใช้เวลาการทำงานในตอนกลางวัน หรือ ล่าเหยื่อในตอนกลางคืน
ร่างกายมนุษย์ก็เช่นกันมี นาฬิกาชีวิตสำหรับคุณเเละเด็กไม่ได้ต่างกันเลย
ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมมนุษย์ต้องตื่นนอนเเละหลับในยามกลางคืน? เป็นเพราะว่า
ฮอร์โมนในตัวเรามีหน้าที่ในการทำงานที่ซับซ้อนเเละเลือกเวลาทำงานเเตกต่างกันไป
คนที่ทำงานกลางคืนจะป่วยได้ง่ายมากกว่าคนที่ทำงานตอนกลางวัน

เพราะฮอร์โมนที่มีหน้าที่ในการซ่อมเเซมร่างกายคุณนั้น เช่น
เมลาโทนิน จะทำงานเฉพาะกลางคืนเมื่อเรตินาของคุณปิดลงเเละหลับสนิทเท่านั้น
ถ้าคุณนอนดึก หรือ นอนชดเชยตอนกลางวันฮอร์โมนตัวนี้จะไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้เลย

ดังนั้นขอให้จำง่ายๆว่า 24 ชม.ของคุณ
คุณมีสิทธิ์ใช้ได้หนักๆเพียงเเค่ช่วงตะวันขึ้นจนตะวันลับฟ้า
หลังจากตะวันตกดิน คือ ช่วงที่คุณต้องซ่อมเเซมตัวเอง
ระบบนี้ซ่อมฟรีไม่เสียค่ายา หรือ ค่าโรงพยาบาลใดๆ
เพียงเเค่เข้านอนให้หลับในห้องที่ปราศจากเเสงไฟเเละเเสงใดๆเข้าไปในลูกตาดำ

คุณจะหายจากโรคร้ายๆที่รุ่มเร้าเพียงง่ายดาย
ร่างกายของเราเเละเด็กมีอวัยวะเหมือนกันเพียงเเต่ของเด็กเล็กกว่า
เเต่นาฬิกาชีวิตเดินเหมือนกันกับเราทุกประการ

ดังนั้นระบบร่างกายไม่ได้ต่างกันเลย ถ้าคุณอยากเลี้ยงลูกให้ง่าย
ลองทดลองเลี้ยงตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ดูนะคะ

​

1:00 น. - 3:00 น. เป็นเวลาการทำงานของตับ
เด็กจะต้องหลับสนิทเพื่อให้เขาซ่อมเเซมตัวเอง ถ้าเด็กตื่นมาเวลานี้จะทำให้ป่วยง่าย
ไม่ต้องใช้ยานอนหลับหรอกนะคะมันมีวิธีก็เเค่อย่าทำให้เขาปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ปวดฉี่กลางดึกก็เเค่นั้น ซึ่งมันมีวิธีไม่ยากเเค่ทำตารางชีวิตของเขาให้ถูกต้อง
เเละกินอาหารให้เลือดของลูกคุณเป็นด่าง (ได้เเก่ พืช ผัก ผลไม้ หรือ อาหารมังสวิรัติ)


3:00 น. - 5:00 น. เป็นเวลาการทำงานของปอด
เด็กส่วนมากจะตื่นขึ้นมาร้องไห้กระจองอเเง ช่วงเวลานี้เป็นเรื่องปกติ
เเสดงว่า ปอดของลูกคุณเเข็งเเรง ไม่ต้องทำอะไรเอาน้ำเปล่าให้เขาดื่มเข้าไปเรื่อยๆ
เเล้วจะดีเองเพื่อเตรียมการทำงานของอวัยวะในเวลาถัดไป นั้น คือ เวลาขับถ่ายนั้นเอง

05.00 น. - 07.00 น. เป็นเวลาการทำงานของลำไส้ใหญ่
ให้ลูกดื่มน้ำเปล่าเข้าไปล้างอวัยวะภายในจนเขาอิ่มเเละเเน่นท้องพร้อมจะขับเคลื่อนขีปนาวุธนำวิถี
เขาจะต้องถ่ายในช่วงเวลานี้เพื่อไม่ให้ อุจจาระกลับเข้าไปในระบบอาหารอีกครั้ง
ถ่ายให้ออกเเล้วค่อยกิน ถ้าถ่ายไม่ออกให้บด กล้วยให้เละๆช่วยเพิ่มพลังผลักดันออกมาให้ได้
ไม่อย่างนั้นน้องจะอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด อึดอัด งอเเงไปทั้งวัน

07.00 น. - 09.00 น. กระเพาะอาหาร
ให้ดื่มนมจากเเม่ หรือ นมถั่วเหลือง / ผักผลไม้บด งดเนื้อสัตว์
เน้นอาหารกากๆเพื่อการขับถ่ายที่ดีของน้อง เพื่อทำให้เลือดน้องมีค่าเป็นด่าง
เมื่อเลือดเป็นด่าง จะทำให้ระบบย่อยอาหารย่อยง่าย ท้องไม่อืด น้องไม่ปวดท้อง

*** อย่าดื่มน้ำหลังอาหาร หรือ ดื่มนมวัวเด็ดขาด เพราะ น้ำจะทำให้น้ำย่อยในท้องน้องเจือจาง ย่อยไม่ได้ดี อาหารจะเน่าทำให้เกิดเเก๊สตีกลับมา ส่วนนมเเละผลิตภัณฑ์จากสัตว์จะทำให้เลือดเป็นกรด เมื่อเลือดเป็นกรด ระบบการย่อยจะบกพร่อง สุดท้ายน้องก็ป่วย ปวดท้อง เรอเหม็นเปรี้ยว หายใจไม่ออก เป็นภูมิเเพ้ กลางคืน นอนไม่หลับเพราะหายใจไม่ออก เพราะ ฉะนั้น "กินเเต่อาหารงดเว้นน้ำ ให้จิ๊บนิดหน่อย หรือ หลังอาหารอย่างน้อย 30 นาที"

9:00 น. - 11:00 น. เป็นเวลาการทำงานของม้าม
พาออกไปเล่นกลางเเจ้งที่มีเเดดธรรมชาติ เเสงสว่างจากพระอาทิตย์จะสร้างฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกอารมณ์ดี
ถ้าไม่มีก็พาไปอยู่ในที่ที่มีเเสงสว่างเพื่อให้ฮอร์โมนตัวนี้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ
อย่าให้เด็กนอนเด็ดขาดจะทำให้ม้ามอ่อนเเอ หากิจกรรมที่เสริมทักษะ
หรือ ปล่อยให้ซนเล่นไปเรื่อยๆ จะทำให้เด็กฉลาดในช่วงเวลานี้

11.00 น. - 13.00 น. เป็นเวลาการทำงานของหัวใจ ทานมื้อเที่ยง นมเเม่/นมถั่วเหลือง/ผัดผลไม้บด งดเนื้อสัตว์ เน้นอาหารกากๆเพื่อการขับถ่ายที่ดีของน้อง

*** งดน้ำเเละนมวัวหลังอาหาร = อาหารไม่ย่อย/ท้องอืด/ท้องเฟ้อ

13.00 น. - 15.00 น. เป็นการทำงานของลำไส้เล็ก ห้ามกินเด็ดขาด!!!

15.00 น. - 17.00 น. เป็นการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ
เปิดเพลงให้เต้น จับน้องออกกำลังกาย วิ่งเล่น ปล่อยซนเลย เอาน้ำให้ดื่มเยอะๆ
เพื่อให้เด็ก ฉี่ออกมา เเละ ให้เหงื่อออกเยอะๆ ขับถ่ายของเสียออกมามากๆ

17.00 น. - 19.00 น. เป็นการทำงานของไต
อาบน้ำก่อนกินข้าวเพื่อให้หลังกินข้าว กระเพาะอาหารจะได้ไม่เสียความร้อนในการย่อยอาหาร
ถ้าอาบที่หลังความร้อนในตัวจะเเผ่กระจายเพื่อสร้างความอบอุ่นให้น้อง
เเทนที่จะอยู่ย่อยที่กระเพาะอย่างเดียวทำให้น้องท้องอืดค่ะ

มื้อเย็น นมเเม่/นมถั่วเหลือง/ผัดผลไม้บด งดเนื้อสัตว์ เน้นอาหารกากๆเพื่อการขับถ่ายที่ดีของน้อง
*** งดน้ำเเละนมวัวหลังอาหาร = อาหารไม่ย่อย/ท้องอืด/ท้องเฟ้อ

19.00 น. - 21.00 น.เป็นการทำงานของเยื้อหุ้มหัวใจ
เปิดเพลงเบาๆ หรือ บทสวดมนต์อ่อนโยนให้น้องฟัง หรือ อ่านนิทานก่อนนอน ลูบผม จูบ โอบกอด
ปิดไฟให้มืดพาน้องเข้านอนจนกว่าเขาจะหลับ หรือ หลับไปด้วยเลยก็ดีค่ะ
เพราะ หลังจากหลับสนิท ร่างกายน้องเเละคุณจะหลั่งสารเมนลาโทนินเเละโกรท์ฮอรโมน
ออกมาซ่อมเเซมร่างกายเเละสร้างให้น้องโตขึ้นเรื่อยๆทุกอวัยวะ
ถ้าหลับไม่สนิทน้องจะมีพัฒนาในการเจริญเติบโตช้า
เเละถ้าหลับสนิททั้งคืนน้องจะมีการพัฒนาที่โตเร็วกว่าคนอื่น

การที่เด็กจะสูงได้โภชนาการเป็นส่วนสำคัญเเต่ที่สำคัญที่สุด
คือ ฮอร์โมนที่เรียกว่า "โกรทฮอร์โมน กับ เมลาโทนิน"
น้องจะเตี้ยหรือสูงอยู่ที่ว่า น้องหลับสนิททั้งคืนหรือไม่
เเละ ต้องเป็นที่มืดเพื่อไม่ให้เเสงเข้าไปรบกวนฮอร์โมนตัวนี้เด็ดขาดนะคะ

นอกจากเด็กผู้ใหญ่อย่างเราๆก็มีผล หน้าเด็ก หน้าเเก่เพราะฮอร์โมน 2 ตัวนี้ละค่ะ
ผู้ใหญ่นอนดึก นอนน้อย นอนไม่ปิดไฟ นอกจากโทรมง่าย ป่วยง่ายเเล้วยังทำให้เราเเก่เร็วขึ้นนะคะ

เพราะฉะนั้น "อย่าให้น้องดื่มน้ำ(เยอะ) ก่อนนอน เอาเเค่จิบๆไม่ให้คอเเห้งเกินไปพอเเล้วค่ะ
ทั้งวันดื่มมามากพอเเล้วมากพอที่เผื่อเเผ่ไปถึง คนทำงานกะดึกอยู่เเล้วค่ะ

21.00 น.- 23.00 น. เป็นการทำงานของทุกอวัยวะประสานงานกัน ถึงเวลาชาร์ตเเบบนอนหลับให้สนิท

23:00 น. - 01:00 น. เป็นเวลาการทำงานของถุงน้ำดี นอน นอน นอน
ถ้าไม่นอน หรือ ถ้ารู้สึกปวดหัวกลางดึก นอนตื่นมา หรือ เเม้เเต่ตัวคุณเองก็ตามให้ดื่มน้ำนะคะ
(ถ้าทั้งวันดื่มน้ำน้อยจะตื่นมาเพราะปวดหัวค่ะ)

ถ้าทำตามตารางนี้ได้ลูกของคุณเเละตัวคุณเองจะเเข็งเเรงเเละเลี้ยงง่ายเเน่นอนค่ะ

จำไว้ว่า
เวลากลางวันต้องเล่นกลางเเจ้ง
เวลากลางคืนต้องนอนในที่มืดสนิท

​

 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...
...ทุกสิ่งอยู่ที่จิต ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า...
...ปลูกพืชฉันใด ย่อมได้ผลฉันนั้น...

 

ขอบคุณมากๆครับ เดี๋ยวจะเอาไปใช้กับน้องชายที่บ้าน ^_^

 

ขอบคุณมากค่ะ COPY ให้น้องที่ทำงานได้อ่านต่อ มีประโยชน์มากน้องเขามีลูกเล็กค่ะ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

 

ขอบคุณค่า