30 มิ.ย.นี้ เชิญชาวพุทธร่วมกันแสดงความกตัญญู

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย mujarin2012, 21 มิถุนายน 2012.

  1. mujarin2012

    mujarin2012 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +61
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]




    <VAR id=yiv1676820610yui-ie-cursor></VAR>แล้วเราก็มีวันนี้

    โลกล่วงเลยมาถึง 2,600 ปี แล้ววันนี้ก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่ง ออกมาปวารนาตัว ถวายการปกป้องพระเกียรติพระศาสดา
    ในสมัยพุทธกาล ขณะที่พระพุทธเจ้านั่งสมาธิเสวยวิมุติสุขอยู่ใต้ต้นมุจจลินทร์ ฝนได้ตกลงมาถึง 7 วัน ในเวลานั้น พญางูชื่อว่า พญามุจลินทร์นาคราช ได้ออกมาขดตัวเป็นบัลลังก์ให้พระองค์ประทับและได้แผ่พังพานปกป้องพระศาสดาคุ้มกันฝนอย่างน่าอัศจรรย์ เหตุการณ์นี้ทำให้พญามุจลินทร์นาคราช ได้รับการจดจำในฐานะผู้ปกป้องพระพุทธเจ้า

    แต่เหตุการณ์ในวันนั้น ต่างกับวันนี้โดยสิ้นเชิง ในสมัยพระพุทธกาล ไม่มีใครลบหลู่ดูหมิ่นพระเกียรติพระศาสดาอย่างบังอาจและจงใจเยี่ยงนี้ อาจมีบ้างที่ทำไปด้วยความไม่รู้ เมื่อพระองค์ทรงแก้มิจฉาทิฏฐิ เขาเหล่านั้นก็ได้คืนสู่สัมมาทิฏฐิ คือมีความเห็นอันถูกต้อง

    พระเกียรติพระศาสดา ไม่เคยต้องได้รับการปกป้อง เพราะโลกไม่เคยเสื่อมถึงเพียงนี้ คนในสมัยพุทธกาลเพียงได้ยินคำว่า “Buddha” ผู้ถึงพร้อมด้วยธรรม ก็เกิดอาการปิติขนลุกซู่ ในสมัยปัจจุบัน ผู้ที่ดูเหมือนถึงพร้อมในธรรม กลับไม่รู้สึกรู้สาแม้จะรู้ว่ามีผู้เอาชื่อ Buddha ไปใช้เป็นชื่อสุนัข และไปใช้ในธุรกิจทุกรูปแบบ ชาวพุทธเกือบทั้งโลก กลับทำเสมือนหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนำซ้ำ ยังมีผู้ใช้คำสอนที่เป็นหัวใจสู่การหลุดพ้นของพระองค์ กลับมาทำร้ายพระองค์เองด้วยการป่าวประกาศบอกว่า ใครจะทำอย่างไรกับสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ก็ให้ปล่อยวาง อย่ายึดมั่นถือมั่น

    ทำไมหัวใจพุทธเหล่านั้น จึงมืดบอดเพียงนี้
    ชาวพุทธยังคงตั้งหน้าตั้งตา ทำบุญตักบาตร สวดมนต์ไหว้พระ แสดงตนว่าถึงพร้อมด้วยศีลและจรณะ แต่กลับไม่ถึงพร้อมด้วยสำนึกกตัญญู ไม่มีใครเลยออกมาปกป้องพระนาม,พระเกียรติ, พระสัญลักษณ์อย่างจริงจัง มีแต่บ่นว่า และแสดงความไม่พอใจ และก็จบที่แค่นั้น ต่างก็ก้มหน้าก้มตาทำมาหากิน ได้แต่ห่วงชีวิตตัวเอง ลืมห่วงความเป็นไปแห่งพระศาสนาของพระบิดา แม้ในยามว่าง ก็ตั้งหน้าตั้งตาหาที่เที่ยว หาที่กิน หาแหล่งบันเทิง รับใช้กิเลสและความทะยานอยากของตน โดยหาได้มีจิตสำเนียกสำนึก

    ผู้มีหน้าที่เผยแผ่คำสอน ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ตามทางที่ตนยึดถือ ถูกบ้าง ผิดบ้าง ก็เดินหน้าทำกันไป ชาวพุทธอีกมากมายก็ยังคงแสวงหาที่ทำบุญ ไหว้พระ 9 วัด ทัวร์บุญต่างๆ ซึ่งคนโดยมาก ทำบุญเพราะกลัวบาปที่ตนแอบทำเอาไว้ บ้างทำเพราะโลภ บ้างทำเพราะอยากพ้นทุกข์ บ้างอยากมีหน้ามีตา บ้างทำเผื่อตายจะได้มีอะไรไว้เป็นทุนกับเขาบ้าง คนแทบทั้งหมด ล้วนทำเพื่อตัวเอง หาได้ทำเพื่อหมายจะรักษาพระศาสนาไม่

    ในโลกนี้ จะมีใครบ้างหนอ ที่จะรู้จักคำว่า “ให้” อย่างจริงใจ เราอาจให้ได้กับคนที่เรารัก ให้ลูก ให้ครอบครัว ให้บิดามารดา แต่ให้ของเรา บริสุทธิ์จริงหรือเปล่า และเรา เคยคิด “ให้” อย่างแท้จริงเพื่อตอบแทนบุญคุณพระศาสดาอย่างแท้จริงบ้างมั้ย เราอาจคิดว่าการสวดมนต์ การเวียนเทียน นั่งสมาธิ นี่คือให้แล้ว คือปฏิบัติบูชาแล้ว แต่เมื่อสวดมนต์ เมื่อปฏิบัติแล้ว เราอธิษฐานว่าอย่างไร เราล้วนอธิษฐานขอพระบารมีจากพระองค์ ให้ตนสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งทั้งสิ้น ท้ายที่สุดเรา ทุกอย่างที่ทำก็กลับมาสู่ “ความปรารถนาของตน”

    ดั่งที่เห็นและเป็นไป เพราะเป็นเช่นนั้น จึงมีวันนี้

    อาจารย์ตัดสินใจทำองค์กรโนอิ้ง บุดด้า เพื่อปกป้องพระเกียรติพระศาสดาและปกป้องพระศาสนา ด้วยคำๆเดียว “กตัญญู” ด้วยจิตที่ถึงธรรมแล้ว พลังแห่งความกตัญญูจะท่วมท้นหัวใจ ไม่มีข้อกังขา ไม่มีใครมาชี้ผิดชี้ถูก จิตที่ตั้งมั่นในธรรม พาชีวิตเดินไปสู่หนทางเดียว คือหนทางที่กตัญญูชนจะเลือกเดิน เป็นความมุ่งมั่นที่มีแต่จะให้ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ให้ด้วยหัวใจที่มีไว้เพื่อกราบพระบาทพระศาสดา ด้วยใจที่จะน้อมจิตอธิษฐานว่า ข้าพระองค์ได้พึ่งพระศาสดามามากแล้ว ขอน้อมใจถวายการปกป้องพระเกียรติและพระนามเพื่อทดแทนพระคุณ แม้สิ่งที่ทำได้ อาจมีค่าไม่มากไปกว่าหยดน้ำบนยอดหญ้า แต่หยดน้ำหยดนี้ กลั่นมาจากทั้งหมดจากทุกหยดพลังใจที่ข้าพระองค์มี

    เมื่อย้อนรำลึกถึง ครั้งที่อาจารย์เคยยืนร้องไห้อยู่หน้า Buddha Bar ที่ปารีสอย่างโดดเดี่ยว ใจนั้นเจ็บเหมือนมีเข็มแทงอยู่ข้างใน ทำไมหนอเขาช่างลบหลู่ทั้งพระสัญลักษณ์และพระนามได้เพียงนี้ วันนี้อาจารย์ได้เปลี่ยนความผิดหวัง เสียใจ หดหู่ มาเป็นพลังแห่งความกตัญญู ที่หมายจะสละพลังชีวิตปกป้องพระเกียรติพระศาสดา

    โนอิ้ง บุดด้า จะเกิดไม่ได้เลย หากไม่ได้พลังหนุนสำคัญจากศิษย์เตโชวิปัสสนากรรมฐาน ศิษย์ทั้งหลายที่มาปฏิบัติ ล้วนได้เห็นธรรมจนเกิดจิตกตัญญูอย่างยิ่ง ศิษย์เหล่านี้ มีจิตเหมือนเพชรเจียรนัย จากก้อนดิบ ไปสู่ก้อนหยาบ จากก้อนหยาบไปสู่จิตที่อ่อนใส บางคนผ่านการเจียรนัยชีวิตมาพันชาติพันภพ บางคนผ่านความระทมและเศร้าโศกมาสาหัส บางคนผ่านการตายอย่างทุกข์ทรมานมาหลายชาติ ทุกบริบทความทุกข์ที่ผันผ่าน ทำให้ทุกคนต่างอธิษฐานปรารถนาขอให้ได้พบทางหลุดพ้น และวันนี้ เมื่อพบทางแล้ว แม้จะยังเดินไปไม่สุดทาง แต่ทุกคนก็ได้เข้าถึงความรู้สึกเป็นอิสระจากกิเลสตัณหา และได้น้อมแบ่งพลังชีวิต มาป้องพระศาสดา น้อมใจมารักษาพระศาสนาให้ยั่งยืน ด้วยวิถีแห่งนักรบ ไม่ใช่นักพูด ด้วยวิถีแห่งนักปฏิบัติ ไม่ใช่นักจินตนาการ

    หนทางการทำงานล้วนมีขวากหนาม ต้องพบกับการเผชิญหน้า การอวดรู้จากชนผู้โง่เขลา การขวางทางจากมารทุกรูปแบบ การปลุกจิตสำนึกชาวพุทธทำได้ยากยิ่ง เพราะแทบทุกดวงจิต ล้วนจมด่ิงอยู่ในมนต์มายา มองหาแนวร่วม ก็มีแต่เข้าร่วมแค่ลมปาก ป่าวประกาศเชิญชวน ก็มากไปด้วยคนที่ทำแค่อนุโมทนา กลุ่มชนผู้มีธรรมชาวพุทธ ก้าวข้ามความเป็นศิษย์ต่างสายไม่ได้ ทั้งๆที่ธรรมทุกสาย ล้วนเป็นการเดินไปสู่ ทางที่พระพุทธบิดาทรงชี้ไว้ พุทธบุตรมากมาย กลับโดดเดี่ยวพระพุทธบิดาของตน เพียงเพราะการเป็นศิษย์ต่างอาจารย์

    วันนี้ เราจะเหลียวหาใคร ก็ยากแท้จะมีคนยื่นมือมาประสาน
    แต่แม้ข้างหน้าจะโดดเดี่ยว แต่ข้างบนยังมีพระพุทธบิดา

    โลกได้แสดงสีของตัวเองให้เห็น ว่าโลกนี้เป็นสีหม่น คนในโลกนี้สละอย่างแท้จริงไม่ได้ แสดงความกตัญญูอย่างถึงแก่นไม่เป็น แม้ว่าเรา ต้องเดินฝ่าลมหนาว หรือพายุฝน ก็ไม่มีอะไรที่จะหยุดเราได้ แม้จำนวนคนที่เรามี จะน้อยกว่าใบไม้ที่อยู่ในกระถาง เปิดทางให้โลกหัวเราะเยาะ แต่หัวใจที่ยิ่งใหญ่ จะกลบทุกเสียงที่เย้ยหยัน

    หัวใจของเรายิ่งใหญ่ด้วยความกตัญญู ในวันนั้นทุกดวงจิตกตัญญูจะออกเดินไปด้วยกัน โดยน้อมรำลึกถึงความมุ่งมั่นขององค์พระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเสียสละพระชนม์ชีพเพื่อรักษาชาติและพระศาสนา เพื่อให้เกิดเป็นขวัญและกำลังใจ


    30 มิถุนายนนี้ 2555 ทัั้งผู้ที่เป็นศิษย์และเหล่าชาวพุทธผู้มีธรรมอันเที่ยงแท้ จะมารวมตัวกันที่ ตลาดนัดจตุจักร ด้านนอกประตู 2 เวลาบ่ายโมง และจุดที่ต้องการกำลังพลมากที่สุดคือที่ วัดชนะสงคราม เวลา 4 โมงเย็นครึ่ง เพื่อออกเดินประกาศให้โลกรู้ว่า

    “ชาวพุทธไม่เงียบอีกต่อไป หยุดย่ำยีพระพุทธเจ้า “ ขอให้ทุกคน ใช้หัวใจกตัญญูนำพาท่านไป



    [​IMG]

    [​IMG]<!-- -->
    [​IMG]<!-- -->
    [​IMG]<!-- -->
    [​IMG]<!-- -->
    [​IMG]<!-- -->
    [​IMG]




    **Do not treat Buddha badly**

    If you can not pay respect to Buddha at least do not treat the image of Buddha badly. Nobody should look down on or treat badly someone’s father. Buddhists respect Buddha as the religious father. All leaders of religions are regarded with respect. This should also be applied to Buddha.



    ที่มา: เตโชวิปัสสนา

    https://www.facebook.com/KnowingBuddha

    www.knowingbuddha.org
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ใครย่ำยี พระพุทธเจ้าอยู่ หรือ
     
  3. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    พระพุทธเจ้าไม่มีใครย่ำยีท่านได้หรอกครับ สิ่งที่เค้าทำคือเค้าย่ำตัวเองครับ เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้หรอกครับ โดยเฉพาะฝรั่งพระพุทธเจ้าไม่ใช่สิ่งที่เค้ารพของเค้า เราเปลี่ยนความคิดฝรั่งยากครับ เค้าไม่ได้คิดว่าพระพุทธเจ้ามีบุญคุณกับเค้าเหมือนกับเรา ผมเชื่อว่าถ้าหากพระพุทธเจ้าท่านยังอยู่ท่านคงจะไม่แนะนำให้เราไปเดินต่อต้าน เพราะนั่นไม่ใช่วิถีของเรา สิ่งที่เค้าทำนั่นมันคือกรรมของเค้า นั่นแหละจะนำมาสู่การคัดเลือกมนุษย์ ใครทำใครได้ใครดีใครลอด ถึงฝรั่งเค้าจะรวยกว่าเราก็ไม่ได้แปลว่าเค้ามีความสุขมากกว่าเราหรอก สิ่งที่เราเห็นจากเค้ามันคือภาพ ของจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เชื่อผมเถอะครับไม่มีใครย่ำพระศาสดาของเราได้ทั้งนั้นครับ แต่สิ่งที่พวกคุณทำก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีครับ คือการกตัญญู ต่อพระองค์แต่ถ้าทำไปแล้วก็อย่าลืมกลับมาปฏิบัติธรรม มามองดูตัวเอง มาศึกษาแก่นแท้ของธรรมด้วยนะครับ อย่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เราต้องรู้วามันจะเกิดผลดีอย่างไร ผลเสียอย่างไร สมมุติว่าเราเกลียดใครคนใดคนหนึ่ง แล้วเค้ามาประท้วง มาเดินมันจะทำให้เราหายเกลียดเค้าหรือไม่ ในทางกลับกันบางครั้งมันอาจจะยิ่งกลายเป็นการทำให้เค้าเกลียดหรือตลกสนุก หรือสะใจ เราต้องมองด้วยวว่าฝรั่งพื้นเพเป็นไง เค้าดูถูกความคิดพวกที่ด้อยกว่าอยู่แล้วยังไงเค้าก็คิดว่าเค้าเหนือกว่าเรา เราทำอะไรเค้าไม่ได้ ยิ่งทำก็เหมือนยิ่งยุ เราทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ตราบใดที่บ้านเมืองเรายังคลั่งค่านิยมเค้าอยู่ ตามหลังเค้าอยู่ เค้าก็ยังเหนือกว่าเราครับ จะให้ดีต้องให้ลูกหลานเลิกอุดหนุนเค้าได้ไหม ตอบได้เลยว่ายากครับ แต่ไม่มีใครย่ำพระพุทธเจ้าของเราได้แน่นอนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  4. กำแพงพระ

    กำแพงพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +1,966
    ผมว่าใครทำกรรมใด กรรมนั้นย่อมตามสนองครับ
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ยินดีสนับสนุนอย่างยิ่งครับ......

    ร่วมเป็นหนึ่งในพลังชาวพุทธที่ดี....ร่วมเป็นหนึ่งในกำลังรักษาพระศาสนา....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  6. konkoh

    konkoh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +298
    ปกป้องพระศานา...ศีล 5 ต้องเป็นปกติ แค่นี้ ทำแล้วหรือยัง
     
  7. nussuw

    nussuw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอร่วมแสดงความเห็นด้วยค่ะ เราควรส่งเสริมให้ชาวพุทธแสดงออกซึ่งความเป็นพุทธที่แท้ ให้เป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก พระพุทธองค์ทรงมีเมตตามาก เราเองต่างควรนำธรรมะของพระพุทธองค์มาปฏิบัติให้ยิ่งๆขึ้นไป ให้เขาได้เห็นเองว่าชาวพุทธเรามีสันติในใจมากแค่ไหน มีข้อหนึ่งที่อยากให้ไตร่ตรองให้มากคือเราเองนับถือพุทธลึกซึ้งแค่ไหน เราสนใจพุทธที่เป็นเปลือกที่แปลกปลอมคืออิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ หรือต้องการความสงบสุขและหลุดพ้นจากความทุกข์ นี่ต่างหากทำให้หัวใจของพุทธศาสนาเลือนลางไป เราอย่าเป็นผู้ที่กระทำให้เกิดความเสื่อมเสียเสียเอง เหมือนอย่างคำที่ว่าสนิมเกิดแต่เนื้อในตน
    สังคมเราตอนนี้ใช้ปัญญาและมีความกล้าหาญทางจริยธรรมน้อยลง เรื่องต่างๆจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตแค่ไหนก็ธุระไม่ใช่ เพิกเฉย ไม่ดูดำดูดี เอาเปรียบเห็นแก่ตัว การเกื้อกูลกันหาได้ยากมากๆ ตัวอย่างง่ายๆ เด็กนักเรียนต้องการข้ามถนนแต่รถยนต์ยิ่งเร่งความเร็วผ่าน หายากมากที่จะมีผู้ใหญ่ใจดีหยุดหรือชะลอความเร็วให้เด็กๆ เดินข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย คนทำดีไม่ได้รับคำชื่นชมถูกลืมเลือนไปไม่มีการกล่าวถึง เราต้องส่งเสริมคนทำดีให้เป็นที่ปรากฏให้มากๆค่ะ ทุกวันนี้ วันๆ มีแต่เรื่องล่อแหลมเสื่อมเสียถูกประโคมให้ดุน่าสนใจตื่นเต้นเร้าใจ ผู้ใหญ่ล่อลวงเด็กให้ลุ่มหลงในอบายมุข สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร บางที่สังคมพุทธชาวไทยคงต้องเปลี่ยนแปลงวิถีของตนเองเหมือนกัน พวกท่านที่รณรงค์กันอยู่ก็อย่าท้อค่ะ พวกเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ ผู้ปฏิบัติยังมีอยู่แม้เขาไม่ได้ออกมาประกาศตัวแต่ก็ยังมีส่วนที่ทำให้สังคมไทยยังคงไปต่อได้ เราต้องกลับมาทบทวนตัวเอง และใช้ปัญญาให้มากๆ ยุคนี้เป็นยุคที่ต้องใช้วิจารณญานที่เข้มข้นและต้องเข็มแข็งกว่าเดิม พวกเราจะได้ยืนหยัดอยู่ได้และต้องบอกกล่าวสอนลูกหลานเรา ดึงเขากลับมาจากสิ่งยั่วยวนทั้งหลายและช่วยกันทำให้ลูกหลานเราได้รับรู้สัมผัสสิ่งดีงามและมีคุณค่ายิ่งจากคำสอนของพระพุทธเจ้าของเราต่อการดำเนินชีวิตของเด็กๆของเราค่ะ และต้องผลักดันในสังคมทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้ตระหนักถึงสิ่งต่างเหล่านี้เพื่อจะได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นกระบวนการและจะทำให้มีพลังที่อาจจะเปลี่ยนสังคมเราได้เร็วย่งขึ้น
    ขอให้เราทุกคนมีความเพียรและรักษากำลังใจเข้มแข็งที่จะปฏิบัติบูชาคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราซึ่งเป็นหนทางประกาศคุณความดีของพระพุทธองค์ที่ดีที่สุด ขอให้ปฏิบัติกันจนเป็นที่ลือลั่นแก่ชาวโลกเถิด
     
  8. nutsuanplu

    nutsuanplu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +27
    คนฝรั่งเขาคงคิดว่า สิ่งที่เขาเห็นเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะแถบประเทศของเขา
    สามารถรับศิลปะในแขนงต่างๆ ได้มาก ไม่ได้ปิดกั้นเหมือนประเทศของเรา เนื่องจาก
    ขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมา อีกทั้งศิลปะในด้านพระพุทธศาสนาในบ้านเรา
    มีความสวยงามมาก ชาวต่างชาติคงไม่เข้าใจว่าเป็นสิ่งที่พวกเราเคารพบูชา
    แต่คงเข้าใจเพียงว่า เป็นศิลปะที่สวยงามอย่างหนึ่งเท่านั้น
     
  9. ฉันผู้ฝึกตน

    ฉันผู้ฝึกตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +201
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

    ความเชื่อและศรัทธา นั้นบังคับกันไม่ได้
    แต่ถึงเช่นนั้น ชาวพุทธก็ไม่เคยลบหลู่พระเยซูคริสต์ หรือ พระอัลเลาะห์
    เพราะเราให้เกียรติ ซึ่งความเคารพศรัทธาของพวกเขา
    โปรดให้เกียรติซึ่งกันและกันเถิด
    สงครามศาสนาจะได้ไม่เกิดขึ้น ในอนาคต...
     
  10. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,941
    ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ช่วยสนันสนุนนะครับ
     
  11. monkeyswilf

    monkeyswilf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +122
    กฎแห่งกรรมจะตัดสินเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01.jpg
      01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.2 KB
      เปิดดู:
      53
  12. vaddee

    vaddee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +443
    ปกป้องบ้างก็ดี พวกฝรั่งไร้วัฒนธรรมคนดีก็มีเยอะคนชั่วก็มากอยู่ ที่พูดได้เพราะตอนนี้ก็อยู่ที่เมืองนอก พวกคนต่างชาติถ้าเราไม่เอาจริงจรังเขาจะไม่หยุดนิสัยแบบนี้ท้าทายบาปด้วยซ้ำ อย่างเด็กฝรั่งเขาปล่อยให้เด็กแสดงออกมากเกินไปจนก้าวร้าวไม่น่ารักเลยจะบอกให้ คนไทยเจอกันไหว้แสดงถึงความอ่อนน้อมฝรั่งเห็นชอบในวัฒนธรรม แต่คนไทยไม่เห็นคุณค่าในวัฒนธรรมของตัวเอง เลียนแบบสิ่งผิดๆ ผู้หญิงก็หัดดื่มเหล้า มือคีบบุหรี่ ดูแล้วสวยงามเหลือเกิ๊นนน......แต่ยังไงดิฉันก็รักคนไทยที่หัวใจเป็นไทย แม้เรามาอยู่เมืองนอกมันไม่จำเป็นต้องเลียนแบบสิ่งไม่ดี ดิฉันไม่ใช่คนดีอะไรแต่ไม่ชอบดื่มเหล้า ดูดบุหรี่ มีฝรั่งถามเยอะมากทำไม่ เพราะอะไรบอกไปว่าร่างกายเราดีอยู่แล้วทำไม่ต้องทำร้ายตัวเอง.......<<
     
  13. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    ผมว่าถ้าเราทำให้พุทธบริษัทเรามั่นคงแล้ว ถือว่าปกป้องศาสนาแล้วล่ะครับ
    ก็คือการปฏิบัติตามคำสอน ทำหน้าที่ชาวพุทธไปไม่ขาดเว้น ทำเงียบหรือทำเป็นกลุ่มเท่านั้นแหละ
    ผมว่าการเรียกร้องแสดงพลังแบบนี้มันก็ดีอยู่นะ แต่พระพุทธโคดมท่านคงไม่สนับสนุนให้เราไปทำอย่างนั้น มันเป็นเรื่องของแนวคิดและการรวมกลุ่มแบบวิถีโลก
    ตามที่คุณ Reynolds ว่า"มาเดินมันจะทำให้เราหายเกลียดเค้าหรือไม่ ในทางกลับกันบางครั้งมันอาจจะยิ่งกลายเป็นการทำให้เค้าเกลียดหรือตลกสนุก หรือสะใจ" ผมว่าผลมันคงเป็นแบบนั้น
    ถ้าจะทำอะไรสักอย่างผมว่าน่าจะชุมนุมเรียกร้องอะไรร่มเย็น แต่ไม่ต้องไปหวังผลอะไรหรอกเราทำไปอย่างร่มเย็นให้แก่พระพุทธเจ้า ถ้าเราไปปลุกกระแสให้รุนแรงหรือเกลียดชังนิดเดียวล่ะไปเลยทั้งขโยง.. มันล่อแหลมเหมือนกัน
     
  14. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    ผมเห็นด้วยนะครับ การกระทำอันไม่ชอบ
    กรรมก็จะลงโทษบุคคลนั้นไม่ช้าก็เร็ว
    เราชาวพุทธมิได้ปล่อยให้ใครย่ำยีศาสนา
    มีการติเตียนตามสมควร และ
    เราก็ดำรงตนตามคำสอนของพุทธองค์
    ศาสนาของเราไม่ได้เน้นความรุนแรง
    แต่ว่ากันด้วยเหตุและผล
    บุคคลที่ทำในสิ่งไม่สมควร สังคมย่อมประณามอยู่แล้ว
     
  15. เด็ก3ขวบ

    เด็ก3ขวบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +1,524
    จัดการพระเลวๆในเมืองไทยให้หมดก่อนเถอะครับ..555
     
  16. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    ปลูกพืชฉันใด ย่อใได้รับผลฉันนั้น...
     
  17. น้องอ๊อด

    น้องอ๊อด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +4
    นานาจิตตัง....
     
  18. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +2,177
    เห็นภาพแล้วเศร้าจัง:'(
     
  19. babae

    babae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +470
    ผมก็ตั้งใจว่าจะรักษาศีล ห้าให้ครับ
     
  20. Ankamang

    Ankamang สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +3
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนเหล่าอื่นอาจกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์. ท่านทั้งหลายไม่พึงผูกอาฆาต ขุ่นเคือง ไม่พอใจในบุคคลเหล่านั้น. เพราะถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์นั้น, อันตรายเพราะความโกรธเคืองนั้น ก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง. ถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์ จะรู้ได้ละหรือว่า คำกล่าวของคนเหล่าอื่นนั้น เป็นคำกล่าวที่ดี (สุภาษิต) หรือไม่ดี (ทุพภาษิต) ? "ไม่ทราบ พระเจ้าข้า." "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงชี้แจง (คลี่คลาย) เรื่องที่ไม่เป็นจริง ให้เห็นว่าไม่เป็นจริง ในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์ ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นไม่จริง ข้อนั้นไม่แท้ ข้อนั้นไม่มีในพวกเรา ข้อนั้นไม่ปรากฏในพวกเรา ดังนี้."

    พรหมชาลสูตร ๙/๓
     

แชร์หน้านี้

Loading...