CHEMTRAILS In Thailand, HAARP,PROJECT BLUE BEAM พระเจ้าและจานบินปลอม

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ped2011, 23 พฤษภาคม 2012.

  1. nprofcomp

    nprofcomp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +339
    Daily News - Manager Online - ชักศึกเข้าบ้าน !?

    ชักศึกเข้าบ้าน !?

    <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">19 มิถุนายน 2555 14:05 น.</td> </tr></tbody></table>
    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐอเมริกาเจรจากับฝ่ายไทยได้สำเร็จอีกครั้งในการขอ ใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อเป็นศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติทางธรรมชาติและ มนุษยธรรมตลอดจนให้องค์การการบินอวกาศของสหรัฐอเมริกา (NASA)

    แม้ชื่อจะอ้างว่าเป็นศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติทางธรรมชาติและมนุษยธรรม และไม่ใช่เป็นการตั้งฐานทัพของสหรัฐอเมริกา แต่ความเป็นจริงแล้วหน่วยงานลักษณะเช่นนี้ก็เป็นหน่วยงานทางทหารของสหรัฐ อเมริกาอยู่ดี และจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องมีการตรวจสอบการปฏิบัติงานของ หน่วยงานเหล่านี้ ใครจะเป็นผู้ตรวจสอบได้จริงในทางปฏิบัติ

    พลเอกมาร์ติน เดมซีย์ ผู้แทนการเจรจาของฝ่ายสหรัฐอเมริกา แจ้งว่ายังไม่ได้ใช้เป็นฐานทัพทางการทหาร และอ้างว่าหากจะดำเนินการมากไปกว่าที่ขอเช่นนี้ก็จะต้องได้รับการอนุญาตจาก รัฐบาลไทยก่อน

    แต่ประวัติศาสตร์สอนให้เราได้รู้ว่า เมื่อสหรัฐอเมริกาได้คืบแล้วก็จะเอาศอก ลุแก่อำนาจในการใช้สนามบินแห่งนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 37 ปีที่แล้ว


    นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยเคยได้ให้สหรัฐอเมริกาได้ใช้สนามบินอู่ตะเภาในปี พ.ศ. 2509 และสนามบินแห่งนี้ได้ทำให้ประเทศไทยได้กลายเป็นแนวร่วมสงครามกับประเทศ เพื่อนบ้านด้วยการใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานทัพเครื่องบิน บี 12 ของสหรัฐอเมริกา บินขึ้นทิ้งระเบิดปูพรมถล่มเวียดนาม กัมพูชา และลาว เสียหายอย่างมหาศาล ผู้คนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก

    ต่อมาสหรัฐอเมริกาก็ลุแก่อำนาจ สหรัฐอเมริกาต้องการช่วยเหลือเรือสินค้ามายาเกวซ ที่ถูกเขมรแดงจับ โดยอ้างว่าการกระทำของเขมรแดงไม่ถูกต้อง เพราะเรือมายาเกวซถูกจับในน่านน้ำสากล ห่างจากฝั่งกัมพูชากว่า 60 ไมล์ทะเล และสิ่งที่สหรัฐอเมริกาได้ทำลงไปก็คือทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของอธิปไตยเหนือ น่านน้ำในอ่าวไทย โดยดำเนินการจมเรือปืนกัมพูชาไป 3 ลำ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากฝ่ายไทย

    17 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้นำนักศึกษาและประชาชนจำนวนมากเดินขบวนไปประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูต สหรัฐอเมริกา เพื่อต่อต้านกองทัพสหรัฐอเมริกาที่ใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการทาง ทหารตามอำเภอใจ
    การกดดันของนิสิตนักศึกษาและประชาชนครั้งนั้น ได้ส่งผลทำให้รัฐบาลไทยต้องขอให้สหรัฐอเมริกาทำหนังสือขอโทษประเทศไทยอย่าง เป็นทางการ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่มีการแจ้งให้ฝ่ายไทยได้รับรู้

    พล.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ได้เรียกตัวนายอานันท์ ปันยารชุน เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา เดินทางกลับประเทศไทยอันเป็นการประท้วงในระหว่างที่รอให้สหรัฐอเมริกาขอโทษ ประเทศไทย

    เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555 นายอานันท์ ปันยารชุน ได้ร่วมบรรยายในงานสัมมนา “ปราชญ์สยาม นามคึกฤทธิ์” โดยได้กล่าวความตอนหนึ่งถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า:

    “มีเหตุการณ์หนึ่ง ตอนนั้นผมเป็นทูตอยู่ที่วอชิงตัน สหรัฐอเมริกาในช่วงนั้นมีการสู้กันของเขมรหลายฝ่าย ไทยและอเมริกาสนับสนุนเขมรฝ่ายหนึ่งตอนนั้นมีกรณีที่เรือรบขนาดใหญ่ ของอเมริกาใช้น่านน้ำไทยผ่านไปสู่น่านน้ำเขมรและแผ่นดินเขมรเมื่อมีการใช้ ไทยเป็นฐาน รัฐบาลของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ประกาศนโยบายว่าต่อไปถ้าอเมริกาใช้น่านน้ำไทยหรือแผ่นดินไทยผ่านจะต้องได้ รับความเห็นชอบจากรัฐบาลก่อนรวมทั้งได้เรียกทูตกลับประเทศ เพื่อเป็นการแสดงความไม่พอใจ”

    ในที่สุดสหรัฐอเมริกาจึงได้ส่งสาสน์แสดงความเสียใจอย่างเป็นทางการ แต่นิสิตนักศึกษาและประชาชนในยุคนั้นก็ยังชุมนุมต่อเพื่อให้สหรัฐอเมริกา ย้ายฐานทัพออกจากประเทศไทย

    ด้วยเหตุนี้รัฐบาลไทยจึงได้ขีดเส้นตายให้สหรัฐอเมริกาถอนทหารให้หมดจาก ประเทศไทย และเดือนธันวาคม พ.ศ. 2518 เครื่องบินลำสุดท้ายก็บินออกจากประเทศไทย และเป็นการยุติการใช้ฐานทัพในประเทศไทยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    บทเรียนข้างต้นแสดงให้เห็นว่าการใช้ฐานทัพไทยให้กลายเป็นจุดล่อ แหลมต่อความมั่นคงในประเทศไทยนั้น จะต้องจัดฐานะของสหรัฐอเมริกาอยู่ “บัญชีดำ”ที่เคยมีประวัติด่างพร้อย ลุแก่อำนาจทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งละเมิดอธิปไตยและน่านน้ำไทย จนถึงทำให้ประชาชนชาวไทยต้องออกมาชุมนุมขับไล่มาแล้ว

    บทเรียนข้างต้นแสดงให้เห็นว่าหากไม่เกิดเหตุที่สหรัฐอเมริกาพลาด เพราะลุแก่อำนาจใช้น่านน้ำในการจัดการกับเขมร และดำเนินการขออำนาจจากประเทศไทย ไทยอาจจะไม่มีมูลเหตุในการออกมาอ้างในการให้สหรัฐอเมริกาย้ายฐานทัพออกจาก ประเทศไทยได้เลย

    หรืออีกนัยหนึ่งในยุคนั้นหากไม่เกิดเหตุการณ์จมเรือปืนไป 3 ลำ จนปรากฏเป็นข่าว ไทยอาจไม่ได้มีโอกาสตรวจสอบได้เลยว่า สหรัฐอเมริกาทำอะไรละเมิดข้อตกลงไปบ้างหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด

    เช่นเดียวกันหากสหรัฐอเมริกามาตั้งหน่วยบรรเทาภัยพิบัติและ มนุษยธรรม และองค์การการบินอวกาศของสหรัฐอเมริกา (NASA) แล้วถามว่าจะมีใครเข้าไปในสถานที่ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบได้ในความเป็นจริง อย่างมีอิสระบ้าง และถ้าเป็นเรื่องยากที่จะเข้าไปตรวจสอบแล้วก็ต้องมีคำถามว่า นานาชาติที่กำลังเฝ้ากำลังการแผ่อิทธิพลของสหรัฐอเมริกาก็ย่อมจะมีความหวาด ระแวงเช่นเดียวกัน

    ยิ่งไปกว่านั้นหากสหรัฐอเมริกาเข้ามาโดยง่ายแล้ว ในความเป็นจริงแล้วจะออกยากมาก เพราะการจะให้ออกจากประเทศไทยในวันข้างหน้าจะถูกมองว่าเป็นการลดระดับความ สัมพันธ์และความร่วมมือต่อกันที่ดีระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทย

    การมาขอตั้งศูนย์รับภัยพิบัติและมนุษยธรรมนั้นไม่มีความชัดเจนว่าจะ อยู่นานแค่ไหนและอยู่นานเท่าไหร่ รู้แต่เพียงเบื้องต้นว่าความคิดในเรื่องข้อตกลงนี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเพียงแต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมาสานต่อแล้วเพิ่มการเจรจาให้มีการ สำรวจชั้นบรรยากาศขององค์การการบินอวกาศของสหรัฐอเมริกา (NASA) ประมาณ 2 เดือน ในการเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทยเมื่อวันที่ 1-3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารที่เผยแพร่นโยบายของสหรัฐอเมริกานั้น ชัดเจนว่าในปี ค.ศ. 2020 สหรัฐอเมริกาจะย้ายกองทัพเรือมาประจำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกถึง 60%

    ลำพังการประกาศกร้าวของสหรัฐอเมริกาเท่านี้ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า สหรัฐอเมริกาต้องการขยายอิทธิพลในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ให้มากขึ้น

    ด้านหนึ่งเป็นการปิดล้อมอิทธิพลของจีนที่กำลังมีบทบาททางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

    อีกด้านหนึ่งคือการปกป้องผลประโยชน์แหล่งพลังงานที่สหรัฐอเมริกาที่ จ่ายค่าภาคหลวงต่ำที่มีอยู่ในภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมถึงอ่าวไทย ซึ่งค้นพบว่ามีแหล่งพลังงานคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก และมีปริมาณมากและยังค้นพบอีกมาก


    แค่ลองคิดเล่นๆว่าหากย้ายมาประจำการในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก แล้ววันหนึ่งประเทศไทยขอขึ้นค่าภาคหลวงเหมือนในหลายประเทศแถบละติดอเมริกา แต่สหรัฐอเมริกาไม่เลิกขุดเจาะ ไม่ยินยอม และไม่จ่ายและเรียกคืนสัมปทานก็ไม่คืนให้ ประเทศไทยจะทำไรได้บ้างในวันที่กองทัพเรืออยู่น่านน้ำในพื้นที่และมีทหาร สหรัฐอเมริกาอยู่จำนวนมากในสนามบินอู่ตะเภา

    แม้ว่าจะเป็นเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติและมนุษยธรรม แต่เมื่อมารวมกับการสำรวจชั้นบรรยากาศขององค์การการบินอวกาศ (NASA) ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ต้องนึกถึงโครงการ H.A.A.R.P. (High Frequency Active Aurora Research Program) หรือโครงการวิจัยพลังงานลำแสงออโรร่าจากความ ถี่สูง ซึ่งเป็นการทำงานวิจัยร่วมกันระหว่าง ส่วนห้องทดลองวิจัยของกองทัพอากาศและกองทัพเรือของสหรัฐอเมริการ่วมกับ มหาวิทยาลัยแห่งอลาสก้า และสำนักงานโครงการวิจัยความก้าวหน้าของกองทัพของสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2551 เพียงปีเดียวนั้น โครงการนี้ได้มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและการดำเนินงานโดยใช้ภาษีสนับสนุน ถึง 250 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,500 ล้านบาทต่อปี

    [​IMG]

    โครงการนี้ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาคือการสร้างและควบคุมภูมิอากาศโดยการยิง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูงและความแรงกว่า 1 พันล้านวัตต์ไปที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แล้วสะท้อนกลับมายังพื้นผิวโลกไปยังเป้าหมายที่ต้องการได้ทั้งบนบกและในทะเล เพื่อส่งพลังงานนั้นลงไปสู่ชั้นหินใต้ดินเพื่อก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนหรือ เกิดแผ่นดินไหว โดยการใช้เครื่องดังกล่าวนี้ต้องประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีร่วมกับดาวเทียมคู่ ขนานกันไปด้วย จึงไม่แปลกใจที่โครงการนี้จะต้องมีการสำรวจชั้นบรรยากาศจากองค์การการบิน อวกาศ (NASA) ของสหรัฐอเมริการ่วมทำงานด้วย โดยสหรัฐอเมริกาอ้างว่าเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับการศึกษาลักษณะทางฟิสิกส์ ในเรื่องชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ และวิทยาศาสตร์ด้านคลื่นวิทยุเท่านั้น

    แต่วัตถุประสงค์ในการดำเนินการโครงการนี้ที่คลุมเครือและไม่เปิดเผยให้ และดำเนินการโดยฝ่ายความมั่นคงและการทหารของสหรัฐอเมริกาหลายหน่วยงาน จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนที่เฝ้าติดตามเรื่องนี้และเชื่อในทฤษฎีสมรู้ ร่วมคิดก็มองเห็นว่าโครงการนี้แท้ที่จริงแล้วคือเครื่องมืออาวุธสงคราม ประเภทใหม่ที่สามารถสร้างภัยพิบัติหลายแห่งทั่วโลก ทั้งสึนามิ อุทกภัย เฮอร์ริเคน ไต้ฝุ่น และแผ่นดินไหว ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยในภูมิภาคเอเชียช่วงหลังๆ เพื่อให้สหรัฐอเมริกาเข้าไปมีบทบาทในการแสวงหาผลประโยชน์ เข้าครอบงำความมั่งคั่ง สูบทรัพยากร ตลอดจนทำลายประเทศที่คิดว่าจะเป็นปรปักษ์ต่อสหรัฐอเมริกา หรือทำลายบางสิ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเอง

    และถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงก็หมายความว่าอาวุธทำลายล้างเพื่อแบ่ง แยกและปกครองต่อไปก็คือ “ภัยพิบัติ” ที่อาจจะกำลังเกิดขึ้นและกำลังจะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลโดยมีประเทศใด ประเทศหนึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญหลังจากนี้

    แต่ไม่ว่าทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดในการดำเนินการโครงการ H.A.A.R.P. จะมีส่วนร่วมกับการตั้งศูนย์ภัยพิบัติและมนุษยธรรม + องค์การการบินอวกาศ (NASA) ที่สนามบินอู่ตะเภาจะเป็นความจริง หรือเป็นเพียงแค่การจินตนาการของนักทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดก็ตามที แต่การที่ประเทศไทยตัดสินใจเป็นเครื่องมือของสหรัฐอเมริกานั้น ถือเป็นการชักศึกเข้าบ้านอย่างชัดเจน และสร้างความหวาดระแวงให้กับจีนเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

    คำถามที่สำคัญตามมาก็คือรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัดสินใจยืนข้างมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา และยอมให้มหาอำนาจจีนเกิดความหวาดระแวงเช่นนี้ รัฐบาลไทยและประเทศไทยได้ อะไรกลับมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน หรือได้ประโยชน์อะไรเป็นการส่วนตัว หรือนักโทษชายทักษิณจะได้ประโยชน์อันใดเป็นการส่วนตัวหรือไม่?

    และถ้าไม่มีอะไรลับลมคมใน รัฐบาลควรแสดงความจริงใจควรเปิดเผยข้อตกลงกับสหรัฐอเมริกาให้ประชาชนได้รับ ทราบในรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร?


    ประการสำคัญ สหรัฐอเมริกาเป็นมิตรประเทศกับไทย และจีนก็เป็นมิตรประเทศกับไทย จึงไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่ประเทศไทยต้องเลือกข้างให้สหรัฐอเมริกาผูกขาด การใช้สนามบินอู่ตะเภาแต่เพียงประเทศเดียวเช่นนี้

    เว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังสมรู้ร่วมคิดกับสหรัฐอเมริกากระทำการอะไรบางอย่างที่มีผลประโยชน์ต่าง ตอบแทนระหว่างสหรัฐอเมริกากับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยหรือไม่? อย่างไร?

    Daily News - Manager Online - อย่าหยุดแค่”นาซ่า” !?
    28 มิถุนายน 2555 16:23 น.

    ณ บ้านพระอาทิตย์
    โดย : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    เห็นนักการเมืองคนไทยถึงกับให้สัมภาษณ์ว่ากรณีที่องค์การการบิน อวกาศแห่งชาติ หรือองค์การนาซ่าจะเข้ามาในประเทศไทยนั้นจะเป็นการทำให้ประเทศไทยสามารถรอด พ้นจากภัยพิบัติน้ำท่วมได้ ดังนั้นหากใครขวางโครงการนี้ก็จะต้องออกมารับผิดชอบ

    ทันทีที่มีข่าวนี้ก็ทำให้ต้องไปดูงานภัยพิบัติก็ยิ่งทำให้เห็นชัดว่า สหรัฐอเมริกา ขณะที่เขียนบทความนี้มลรัฐโคโรลาโดกำลังเผชิญหน้ากับไฟป่าที่ลุกลามอย่างหนัก อีกทั้งมลรัฐฟลอริดาก็กำลังเผชิญหน้ากับอุทกภัยที่มีพายุเข้าอย่างหนัก

    ที่สหรัฐอเมริกาไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดน้ำท่วม แต่เมื่อเกิดสถานการณ์จริงที่ลุกลามแล้วแล้วจึงค่อยประกาศเตือนภัยให้กับ ประชาชนทราบ

    พ.ศ. 2554 สหรัฐอเมริกาเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่รวมทั้งสิ้น 99 ครั้ง เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนหน้าที่มี 81 ครั้ง มีการประกาศภาวะฉุกเฉินจากภัยพิบัติ 29 ครั้ง เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนหน้าซึ่งมีเพียง 9 ครั้ง และประกาศการบริหารจัดการให้ความช่วยเหลือเพลิงไหม้ป่าอีก 114 ครั้ง เพิ่มขึ้นมากว่าปีก่อนหน้าซึ่งมีเพียง 18 ครั้ง หลักฐานเหล่านี้ก็น่าจะ เพียงพอที่แสดงให้เห็นว่าถ้าสหรัฐอเมริกามีความสามารถทางเทคโนโลยีที่ พยากรณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติได้อย่างแม่นยำ หรือสามารถรับมือกับภัยพิบัติได้จริง เหตุใดภัยพิบัติเหล่านี้สหรัฐอเมริกาก็ไม่สามารถจะรู้ล่วงหน้าได้

    และคนที่มักจะบอกว่านาซ่าไม่เกี่ยวข้องกับการทหาร แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่สามารถจะสรุปได้ว่าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ได้ จากการสำรวจขององค์การนาซ่านั้นจะไม่ได้ถูกนำมาใช้ในทางการทหารและทางด้าน พลังงานของสหรัฐอเมริกา

    โดยเฉพาะการสำรวจเกี่ยวกับ “เมฆ”และ “ชั้นบรรยากาศ”

    เพราะถ้าหากสหรัฐอเมริกามีเป้าประสงค์ที่จะต้องการสำรวจเรื่องเมฆและบรรายกา ศเพื่อการพยากรณ์คาดการณ์ภูมิอากาศจริง เหตุใดจึงไม่ใช้องค์กรที่มีภารกิจและความเชี่ยวชาญโดยตรงซึ่งก็คือ NOAA หรือที่เรียกว่า National Oceanic and Atmospheric Administration


    NOAA เป็นองค์กรที่ทำงานไม่ใช่เพียงแค่พยากรณ์อากาศน้ำท่วมหรือฝนตก หิมะตกเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงการสำรวจวิจัยทะเลด้วยทั้งชายฝั่งและใต้ท้องทะเลรวมไปถึง สมุทรศาสตร์ทั่วไป และยังทำงานไขปัญหาน้ำท่วมร่วมกับองค์กรสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา และกรมวิศวกรรมแห่งกองทัพบก

    แต่การที่สหรัฐอเมริกาส่งองค์การน่าซ่ามานั้น น่าจะต้องการใช้ผลการสำรวจนี้ในหลายด้านพร้อมๆกัน

    ทั้งนี้องค์การนาซ่ามีส่วนสำคัญทางการทหารของสหรัฐอเมริกาอย่าง มากมาย หนึ่งในตัวอย่างที่สำคัญก็คือความร่วมมือระหว่างทหารบก ทหารเรือ องค์การนาซ่า และกองทัพอากาศของสหรัฐอเมริกาในนาม JANNAF (Joint Army Navy NASA Air Force) ซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่ประกาศอย่างชัดเจนว่า ต้องการที่จะเป็นผู้นำของโลกในด้านการใช้พลังงานขับเคลื่อนในชั้นบรรยากาศ และในอวกาศโดยตอบสนองความต้องการพลังงานการขับเคลื่อนทั้งในปัจจุบันและใน อนาคต

    ซึ่งย่อมแสดงให้เห็นว่าองค์การนาซ่าทำงานร่วมกับกองทัพสหรัฐอเมริกาได้อย่างแน่นอน

    แม้แต่เรื่องที่คนไทยเห็นว่าไม่เห็นเป็นประเด็นในทางการทหาร ทั้งๆที่ความจริงการสำรวจเมฆนั้นเป็นเรื่องทางการทหารได้เช่นเดียวกัน

    9 ธันวาคม พ.ศ. 2547 สำนักข่าวเอพี ได้เคยรายงานจากแองคอร์เรจ มลรัฐอลาสก้า ว่า นายริค เลห์เนอร์ โฆษก สำนักงานป้องกันขีปนาวุธ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การทดสอบการยิงสกัดที่จะยิงขีปานาวุธจากเกาะ โคกเดียก มลรัฐอลาสก้า ต้องชะลอไปและไม่สามารถทดสอบได้ โดยเหตุผลเพียงเพราะว่า....

    “มีเมฆหนา”

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=jr4qAHr2yFU"]Intercept Video - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=RaKpJ7i-JXA"]US Navy SM-3 Missile Intercept a damaged spy satellite - YouTube[/ame]

    โครงการป้องกันขีปนาวุธนั้นได้มีการเตรียมทดสอบด้วยงบประมาณ 85 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,550 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากเกาหลีเหลือ หรือที่อื่นในเอเชียตะวันออก แต่มาติดปัญหาเพียงเพราะมีเมฆมาก เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นว่าแม้แต่เมฆและชั้นบรรยากาศก็มีความสำคัญอย่าง ยิ่งในทางการทหาร

    แค่คิดตามจากข่าวข้างต้นนี้ก็ทำให้เห็นว่าหากกองกำลังเรือของ สหรัฐอเมริกาที่จะเพิ่มการประจำการในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นี้เพิ่มขึ้นจาก 50% ให้กลายเป็น 60% ในปี พ.ศ.2568 ย่อมเข้าทำการศึกษาเมฆและชั้นบรรยากาศโดยทันที เพื่อความมั่นคงของกองกำลังเรือของสหรัฐอเมริกา

    ไม่ต้องพูดถึงโครงการ High Frequency Active Auroral Research Program หรือที่เรียกว่า โครงการ H.A.A.RP ซึ่งเป็นโครงการที่ทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพอากาศ กองทัพเรือ สำนักงานความก้าวหน้ากระทรวงกลาโหม และมหาวิทยาลัยอลาสก้า ที่มีการใช้คลื่นความถี่วิทยุ 3.6 ล้านวัตต์
    ขึ้นไปในชั้นบรรยากาศและ สามารถสะท้อนกลับมาได้บนพื้นดิน ที่สร้างความหวาดระแวงให้กับรัฐบาลและรัฐสภาหลายประเทศโดยปรากฏเป็นหลักฐาน แล้ว ได้แก่ เวเนซูเอล่า, รัสเซีย, สมาชิกสภาสหภาพยุโรป ฯลฯ ว่าสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอากาศได้ รวมถึงแผ่นดินไหวและสึนามิ ซึ่งลักษณะโครงการนี้ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้จะถูกจับตาในการสำรวจชั้นบรรยากาศ ขององค์การนาซ่าในประเทศไทย

    โดยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554 นายดิมิตตาร์ อูโซโนฟ และทีมงานซึ่งทำงานอยู่ที่ศูนย์การบินอวกาศ NASA Goodard ได้ตีพิมพ์บทความเผยแพร่รายงานทางวิชาการทางด้านเทคโลยีของสถาบันเทคโนโลยี แมตซาชูเซ็ทส์ (MIT) ระบุว่าการสร้างความร้อนในชั้นบรรยากาศในชั้นไอโอโน สเฟียร์นั้นทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ อีกทั้งยังได้ระบุอีกด้วยว่าพบความแปลกประหลาดในชั้นบรรยากาศก่อนเกิดเหตุ แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น พร้อมทั้งชี้แนะและตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเกิดจากโครงการ H.A.A.R.F

    หลายคนอาจจะมีความเห็นว่าเรื่อง H.A.A.R.P นั้นเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ และจินตนาการ แต่ในความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องที่จะไปพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ แต่ความสำคัญก็คือมีรัฐบาลและรัฐสภาหลายประเทศมีความหวาดวิตกโครงการนี้น่า จะเป็นประเด็นสำคัญมากกว่า


    และประการสำคัญเทคโนโลยีขององค์การนาซ่ายังถูกเชื่อมโยงกับการแสวงหาพลังงาน ของกลุ่มทุนในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาที่องค์การนาซ่าเข้ามาสำรวจนั้น เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าที่จะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 นี้

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=UtUDCCrK5CU"]That's Impossible Weather Warfare 1 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=lbLeY8jkdW4"]That's Impossible Weather Warfare 2 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=71Ynx2QGS1I"]That's Impossible Weather Warfare 3 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=sgRu2oVYMbc"]That's Impossible Weather Warfare 4 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=REyC03gZgLU"]That's Impossible Weather Warfare 5 - YouTube[/ame]
    [​IMG]

    <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="650"><tbody><tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพ แสดงแผนที่แปลงสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21 ที่จะเริ่มประกาศเชิญชวนเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2555</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2554 นายทรงภพ พลจันทร์ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรักษาการอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า “รัฐเตรียมเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 เน้นพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งมีปริมาณก๊าซธรรมชาติสูงถึง 5-10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต คิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณในอ่าวไทย ชั้นความหนา 1-2 กิโลเมตร และมีโครงสร้างที่ใหญ่มาก กินพื้นที่มากว่า 1 แสนตารางกิโลเมตร ยันศักยภาพรองรับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือผลิตก๊าซเอ็นจีวีป้อนได้ทั้งอีสานและคาดว่าใหญ่กว่าซาอุดีอาระเบีย”

    ทุกวันนี้กลุ่มบริษัทเชฟรอน ของสหรัฐอเมริกามีส่วนแบ่งปริมาณปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้วในการสัมปทาน ปิโตรเลียมในประเทศไทยโดยคิดปริมาณปิโตรเลียมคิดเทียบเท่าน้ำมันดิบ ประมาณ 1,255 ล้านบาเรล ถือเป็นผู้ที่ได้สัมปทานอันดับ 1 ในประเทศ และมีสัดส่วนถึง 50.7%

    ดังนั้นเชฟรอนเมื่อได้แหล่งพลังงานจากประเทศไทยในราคาค่าสัมปทานที่แสนถูก ครองตลาดเป็นอันดับหนึ่ง แถมยังจะมีสัมปทานราคาค่าภาคหลวงต่ำๆอีกกำลังจะเริ่มเปิดสัมปทานครั้งที่ 21 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 นี้
    แต่เมื่อภาคประชาชนเริ่มตื่นรู้การเสียผลประโยชน์ทางพลังงานของชาติไทยเพิ่ม มากขึ้น การเคลื่อนกองกำลังเรือเข้ามาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของสหรัฐอเมริกาจึง กลายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองเพื่อดูแลคุ้มครองผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาเอง

    ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ห้องปฏิบัติการการขับเคลื่อนก๊าซหรือของเหลวที่พ่อออกมาด้วยความเร็วของ องค์การนาซ่า ที่เรียกว่า The NASA Jet Propulsion Laboratory ได้ประกาศเป็นหุ้นส่วนกับเชฟรอน ในอันที่จะพัฒนาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสำหรับสิ่งแวดล้อมที่หยาบกระด้าง รวมทั้งในอวกาศและบนบก เช่น ระบบปั้ม, วาล์ว, การบริหารจัดการ, ระบบตรวจสอบบ่อลึก โดยเชฟรอนระบุว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ต้องการที่จะค้นหาน้ำมันและก๊าซทั้งบนโลก และอวกาศได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องบินสำรวจ ER2 นั้น ที่จะเข้ามาสำรวจในประเทศไทยโดยองค์การนาซ่านั้น มีประวัติหลายด้านทั้งการสำรวจชั้นบรรยากาศ การทำงานร่วมกับดาวเทียมในการสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และการดัดแปลงอุปกรณ์เพื่อจารกรรมข้อมูลทางการทหาร

    ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใดแต่การเดินหน้าโครงการนี้โดยไม่เปิดเผยข้อตกลงให้ ประชาชนและสาธารณชนได้รับทราบ สังคม ประชาชน และสื่อมวลชน ย่อมมีสิทธิ์สงสัย ทั่วโลกย่อมมีสิทธิ์หวาดระแวง ดังนั้นการปกปิดข้อมูลในเรื่องนี้โดยอ้างลอยๆว่าไม่ใช่ภารกิจด้านการทหารแต่ เป็นการดำเนินการทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ ทั้งๆที่ผู้มาเจรจาเป็นทหารนั้น ย่อมเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจได้เลย

    ดังนั้นการที่องค์การนาซ่ายกเลิกภารกิจที่สนามบินอู่ตะเภา โดยอ้างว่าประสานงานยุ่งยากนั้น ต้องถือว่าเป็นความโชคดีของประเทศไทยแล้ว เพราะจะมาทำสิ่งใดโดยที่ไม่เปิดเผยข้อตกลงให้คนไทยได้ทราบทั้งๆที่มี พฤติกรรมที่หลายประเทศหวาดระแวง ก็ไม่ควรมาทำภารกิจลับๆล่อๆในแผ่นดินไทย หรือทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสมรภูมิแห่งความขัดแย้งของมหาอำนาจโดยไม่จำเป็น


    หลังจากที่องค์การนาซ่าได้ยุติบทบาทตัวเองแล้ว สิ่งที่ประชาชนควรจะต้องเฝ้าระวังต่อไปก็คือภารกิจในการตั้งศูนย์บรรเทา สาธารณภัยและมนุษยธรรมของสหรัฐอเมริกา และการเข้าสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21 ทั้งบนบกและอ่าวไทยในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2555 นี้เป็นต้นไป

    ต้องเฝ้าระวังชนิด “ห้ามกระพริบตา”โดยเด็ดขาด!!!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2012
  2. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    แหม..ตัวเองก็ อ่านดูเหมือนกระแหน๊ะระแหน๋ เค้าหมายถึงเรื่องอิลลูเค้าจะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องก่อการร้ายที่จะเกี่ยวกับโลกเราต่างหากล่ะ คิๆๆ
     
  3. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ขออนุญาตสอบถามครับ ทั้งคุณเป็ดและคนที่ให้ข้อมูลได้ทั้งหมดครับ ช่วงหลังจากที่พบเห็นเครื่องบินไอพ้นเยอะมากในช่วง1-2อาทิตย์ที่ผ่านมา จะมีคนป่วยเพิ่มขึ้นแต่ด้วยอาการที่ประหลาดเพิ่มเติมจากจากอาการอ่อนเพลียจากหวัดบ้าง คือผู้ชายจะมีอากรอ่อนเพลียนอนหลับเหมือนไม่ค่อยพอ ปวดท้องและคลื่นใส้เวลาทานอาหารเสร็จคืออาจจะมีอาการแต่เล็กน้อยทำให้เบื่ออาหาร ส่วนผู้หญิงจะมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นใส้เช่นกันบางรายอาจจะคลื่นมาก แต่พิเศษกว่าผู้ชายหน่อยคือจะมีอากร ปวดตามข้อ ตามหัวไหล และแขนขาตามมาอีกด้วย ใครมีข้อมูลอะไรสอบถามเพิ่มเติมครับผมอาจจะอธิบายได้ไม่หมด มาคุยกันครับ
     
  4. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ตามเรื่อง โอลิมปิคอันตราย,ฮาพ,ครีมพิษและโปรเจคบลูบีม

    ขอบคุณมากครับ ท่านพี่ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nprofcomp<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6290547", true); </SCRIPT> ที่ทำให้เราพอจะจับทางนาซ่าได้ ในเรื่องการเข้ามาที่อู่ตะเภา

    ผมตามข่าวเรื่องวันที่ 21-22 ตามหัวข้อกระทู้อยู่ครับ แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า สงสัยต้องตามเรื่องโอลิมปิค ฮาพ ครีมพิษ และโปรเจคบลูบีมกันต่อ ที่ผ่านมาผมไม่ทราบว่าท่านที่สนใจจะจับเนื้อความตามที่ผมมั่วได้หรือเปล่า นี่ถ้าผมฉลาดและมีความรู้หน่อย คงมีอะไรมาเล่าสู่กันฟังในแบบที่ลงในรายละเอียดได้มากกว่านี้

    มีภาพโฆษณากีฬาโอลิมปิคที่มันทะแม่งๆครับ

    หนึ่งในภาพโปรเตอร์โฆษณากีฬาในกรุงลอนดอน ที่เขาตัดภาพนี้มาวิจารณ์

    [​IMG]


    ให้เล็งไปที่ภาพที่ล้อมกรอบสีแดง

    [​IMG]

    จะมีภาพคนอาหรับขนาดเล็กที่แยกออกจากกลุ่ม (เป็นจุดสังเกตุว่ามีการเกี่ยวพันกันกับคนอาหรับ แต่จะยังไง ผู้โพสเขาเองก็งง)

    ที่แบล๊คกราวด์ด้านหลัง ที่น่าจะเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน

    [​IMG]

    และผู้หญิงถือธงสีแดง ที่อาจหมายถึง

    1. ธงสีแดงเป็นคำเตือนจากอันตรายหรือปัญหาที่เกิดขึ้น พวกเขาได้ให้มองที่ธงสีแดง เป็นกลยุทธ์การแจ้งเตือนของเขตหายนะ

    2. ธงสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิวัติสังคมนิยม
     
  5. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    เมื่อวานผมได้ดูรายการ "เปิดปม" ทางไทย pbs เค้านำเสนอเรื่องชาวสระบุรีป่วยจากสารปรอท ที่คาดว่าสาเหตุมาจากแหล่งน้ำ ดูได้หน่อยเดียว กะว่าจะมาดูที่ยูทูป แต่เนทผมช้าและค้นหาไม่เจอ
     
  6. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    จัดเลยครับ
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=qfR5V-iZ1Qo&feature=player_embedded]เปิดปม - เหยื่อมลพิษ 18Jun12 - YouTube[/ame]
     
  7. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ได้ดังใจยังกะสั่งข้าวผัดกระเพราเลยนะท่าน ragpon ไปดูสัญลักษณ์ของธงกันต่อครับ

    "ธงแดง"

    เมื่อดูที่วิกิ
    [​IMG]

    ธงแดง มักมีความหมายถึงธงต่างๆ ที่เป็นสีแดง โดยทั่วไป อาจใช้เป็นสัญลักษณ์เตือนภัย การประกาศกฏอัยการศึก หรือการต่อต้านท้าทาย หรือแม้แต่การใช้เป็นสีธงชาติต่างๆ ในยุคเริ่มแรกของหลายประเทศ เพราะเป็นสีที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายที่สุด

    เท่าที่มีการอ้างถึงครั้งแรกสุดว่า คำนี้เริ่มปรากฏในปี คศ. 1602 โดยกองทหารในยุคนั้นใช้ในความหมายที่แสดงถึงการเตรียมพร้อมที่จะรบพุ่งกับศัตรู

    <O:pอ่านต่อที่ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%98%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87
     
  8. pisi

    pisi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +244
    แล้ว...รูปโลโก้...กับ...รูปภาพตรงช่องหน้าต่าง ที่คล้ายกับมี..ลูกตา..ดวงเดียว และรูปเมฆ...คล้ายคนบิน...จะเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยมั้ยครับ
     
  9. nprofcomp

    nprofcomp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +339
    ไม่มีใคร ฉลาดหรือโง่ รู้มากหรือรู้น้อย ขึ้นอยู่กับความคิด ความเชื่อของแต่ละคนครับ:cool:
     
  10. nprofcomp

    nprofcomp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +339
    พุทธแท้ พุทธเทียม บังเอิญ จัดฉาก

    IndoChina - Manager Online - ซูจี เข้าเฝ้าฯเจ้าฟ้าชายชาร์ลส ก่อนกล่าวสุนทรพจน์สภาอังกฤษ

    21 มิถุนายน 2555 19:48 น.

    [​IMG]
    นางอองซานซูจีเข้าเฝ้าฯ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฎราชกุมารอังกฤษ และดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายาที่พระราชวังแคลเรนซ์ในกรุงลอนดอน . -- REUTERS/Facundo Arrizabalaga/Pool.

    เอเอฟพี - นางอองซานซูจี ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยของพม่า เข้าเฝ้าฯ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฎราชกุมารอังกฤษ ในวันนี้ (21 มิ.ย.) ก่อนที่จะกล่าวสุนทรพจน์ครั้งประวัติศาสตร์ในสองสภาของอังกฤษ

    การเข้าเฝ้าฯเชื้อพระวงศ์อังกฤษของนางอองซานซูจีในวันที่ 3 ของการเยือนอังกฤษในรอบ 24 ปี มีขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่รัฐบาลอังกฤษยืนยันว่ารัฐบาลได้เชิญประธานาธิบดี เต็งเส่งเยือนกรุงลอนดอน

    "ประธานาธิบดีเต็งเส่งมีกำหนดการที่จะเยือนอังกฤษในอีกไม่กี่เดือน ข้างหน้าเพื่อสานต่อการหารือที่ได้เริ่มต้นไว้เมื่อครั้งที่นายกฯคาเมรอน เดินทางไปพม่าในเดือนเม.ย." โฆษกนายคาเมรอน กล่าว

    ด้านนางอองซานซูจีที่อยู่ในระหว่างการเยือนอังกฤษเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ส่วนหนึ่งของการตระเวนเยือนประเทศในยุโรป ได้เข้าเฝ้าฯเจ้าฟ้าชายชาร์ลสและนางคามิลล่า พระชายา ที่พระตำหนักแคลเรนซ์ ในกรุงลอนดอน และก่อนที่จะเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ นางอองซานซูจีได้เข้าพบกับนายวิลเลียม เฮก ที่กระทรวงการต่างประเทศและเครือจักรภพ

    ทั้งนี้ เจ้าฟ้าชายชาร์ลสทรงรู้จักกับนายไมเคิล อาริส สามีที่ล่วงลับของนางอองซานซูจี และทรงเป็นองค์อุปถัมภ์องค์กรการกุศลทิเบตและหิมาลัยศึกษา หลังจากนายอาริสเสียชีวิตในปี 2542

    นางอองซานซูจี ที่ชนะการเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภาเมื่อไม่นานที่ผ่านมา จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาของอังกฤษ ในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ที่เป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดในกลุ่มอาคารรัฐสภา และนางอองซานซูจีจะกลายเป็นชาวต่างชาติคนที่ 5 นับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้รับเกียรติกล่าวสุนทรพจน์ต่อทั้งสองสภา ตามหลังประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 อดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา และอดีตประธานาธิบดีชาร์ลส์ เดอ โกลล์ และหลังจากนั้นนางอองซานซูจีจะเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน

    นาซูจีมีกำหนดเดินทางต่อไปยังฝรั่งเศสในวันที่ 26 มิ.ย. เป็นสถานที่สุดท้ายในการตระเวนเยือนยุโรป หลังจากเยือนไอร์แลนด์ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์.

    ภาพประวัติศาสตร์ "ทะไลลามะ"พบ"อองซานซูจี"ที่ลอนดอน : มติชนออนไลน์

    วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 15:51:08 น.

    [​IMG]

    "ทะไล ลามะ" ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวทิเบต เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนางออง ซาน ซูจี ผู้นำการเรียกร้องประชาธิปไตยของพม่าที่กรุงลอนดอน

    โดยในข้อความที่โพสต์ลงในเว็บไซต์ของทะไลลามะระบุว่าองค์ทะไลลามะได้พูดคุยกับนางออง ซาน ซูจี เป็นการส่วนตัวเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเวลานานราว 30 นาที

    ทะไลลามะกล่าวว่า ได้บอกกับนางซูจีว่า รู้สึกชื่นชมความหาญกล้าของเธออย่างแท้จริง และเชื่อว่าเธอจะอุทิศตนรับใช้มนุษยชาติอย่างกล้าหาญ

    การพบปะดังกล่าว ประจวบเหมาะกับวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 67 ปีของนางซูจี ระหว่างการเดินทางเยือนยุโรป 5 ประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี หลังถูกปล่อยตัวจากการกักกันตัวเมื่อปี 2010 ขณะที่ทะไล ลามะ อยู่ระหว่างการเดินทางเยือนยุโรปเช่นกัน

    2หนุ่มทิเบตพลีชีพเผาร่างประท้วงจีน | เดลินิวส์

    วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2555 เวลา 18:57 น.

    [​IMG]
    2 หนุ่มวัยรุ่นชาวทิเบตราดน้ำมันจุดไฟเผาร่าง ประท้วงการยึดครองดินแดนทิเบตของจีน ดับสยอง 1 ส่วนอีกคนอาการสาหัส

    วันนี้ (21 มิ.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนว่า 2 หนุ่มชาวทิเบตราดน้ำมันจุดไฟเผาร่าง ประท้วงจีนยึดครองดินแดนทิเบต โดยสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน ยืนยันว่า เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจริง เมื่อวันพุธ (20 มิ.ย.) ที่เมืองหยูซือ มณฑลชิงไห่ ทางภาคตะวันตกของจีน และชาย 2 คนที่ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังว่า นายเทนซิง เคห์ดุป วัย 24 ปี และนายเนียวัง นอร์ปาล วัย 22 ปี ทั้งสองเป็นคนเชื้อสายทิเบต นายเทนซิงเป็นคนท้องถิ่น อาชีพเลี้ยงสัตว์ ส่วนนายเนียวังอาชีพช่างไม้ เป็นชาวเมืองอาปา มณฑลเสฉวนที่อยู่ติดกัน

    รายงานของสถานีวิทยุเอเชียเสรี ระบุว่า หนุ่มทั้งสองคนถือธงทิเบต ยืนร้องตะโกนเรียกร้องเอกราชทิเบต บนถนนใจกลางเมืองหยูซือ และเรียกร้องให้ดาไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณของชาวทิเบตเดินทางกลับสู่ถิ่นฐาน ก่อนจะใช้น้ำมันราดบนร่างและจุดไฟ ทำให้ไฟลุกท่วมร่างของทั้งสอง แค่ชั่วครู่นายเทนซิงล้มลงขาดใจตายบนพื้น ส่วนนายเนียวังมีผู้ที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยดับไฟ และนำส่งโรงพยาบาล แต่อาการสาหัสขั้นโคม่า

    นับตั้งแต่เดือน มี.ค. ปีที่แล้ว มีผู้จุดไฟเผาร่างอย่างน้อย 40 คน ในพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศ ซึ่งมีชนเชื้อสายทิเบตอาศัยอยู่หนาแน่น โดยเป้าหมายเพื่อประท้วงนโยบายการปกครองแบบกดขี่ของรัฐบาลปักกิ่ง.

    China - Manager Online - ทิเบตประท้วง ความรุนแรงไม่หยุดแค่ 1 ศพ
    26 มกราคม 2555 14:50 น.

    [​IMG]
    ลามะทิเบต (ซ้าย) เดินผ่านรถตำรวจบนถนนในเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) 26 ม.ค. (ภาพเอเอฟพี)

    เอเยนซี - เหตุการณ์ประท้วงรุนแรงของชาวทิเบตในแถบตะวันตกของมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ไม่ยุติที่ 1 ศพ มีรายงานว่าตำรวจได้ยิงผู้ชุมนุมต่อเนื่องเสียชีวิตอีกรายแล้วในช่วงเวลา 2 วันนี้

    สำนักข่าวซินหวาอ้างรายงาน ข่าวของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่เผยนาม ชี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกบีบบังคับให้ต้องเปิดฉากระดมยิงในช่วงที่ปะทะกับผู้ ประท้วง ที่เข้าจู่โจมทำลายสถานีตำรวจเฉิงเฉวียน เขตอำเภอเซ่อต๋า แคว้นปกครองตนเองชนชาติทิเบตกานจือ ส่งผลให้ผู้ก่อจลาจลเสียชีวิต 1 คน และอีกคนได้รับบาดเจ็บ ในรายงานข่าวระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงไว้อีก 13 ราย

    อย่างไรก็ตามรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบตฯ และกลุ่มฟรีทิเบตเผยว่า ผู้เสียชีวิต 2 รายถูกสังหาร กอปรกับมีผู้ได้รับบาดเจ็บอื่น ๆ ในเหตุรุนแรงเมื่อวันอังคาร (24 ม.ค.) หลังจากเกิดจลาจลที่อำเภอหลูฮั่วซึ่งมีการโจมตีจนทำให้ผู้ประท้วงเสียชีวิต 1 คนนั้น วันต่อมาก็เกิดการจู่โจมสถานีตำรวจคล้าย ๆ กันที่อำเภอเซ่อต๋าแห่งใหม่

    เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งให้ สัมภาษณ์กับซินหวาว่า กลุ่มม็อบรวมตัวในอำเภอเซ่อต๋าเมื่อเวลาบ่าย 14.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่จะระดมพลแห่กันไปสถานีตำรวจ ทำร้ายร่างกายตำรวจด้วยการปาระเบิดขวด มีดและก้อนหิน

    “ผู้ประท้วงเปิดฉากการปะทะ ทำให้ตำรวจ 14 นายได้รับบาดเจ็บ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งอธิบายว่า ทำให้ตำรวจต้องตัดสินใจใช้กำลังหลังจากที่ล้มเหลวไม่สามารถทำให้กลุ่มผู้ ชุมนุมกลับบ้านอย่างสันติได้

    รายงานข่าวระบุว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลและได้รับคำสั่งให้มารวมตัวกันอีกที่ อำเภอเซ่อต๋าวานนี้ ซินหวาเผยวานนี้ว่า เหตุความรุนแรงที่อำเภอหลูฮั่วเมื่อวันจันทร์ เกิดจากข่าวลือจากพ่อค้าหาบเร่ซึ่งอ้างว่า “มีลามะทิเบต 3 รูปจะมาจุดไฟเผากายที่นั่น และศพของลามะต้องไม่ให้รัฐบาลจีนได้ไปเด็ดขาด” หลังจากได้รับข่าวลือแล้วผู้คนนับสิบนับร้อยก็เริ่มรวมตัวเพิ่มจำนวน บางคนพกมีด เตรียมก้อนหิน เดินเข้าสู่ท้องถนน และโจมตีสถานีตำรวจ พังรถตำรวจไป 2 คัน และทำลายอาวุธยิงของเจ้าหน้าที่ไป 2 ชิ้น

    ทั้งนี้ ในช่วงเวลาไม่ถึงปีที่ผ่านมา มีชาวทิเบตและนักบวชอย่างน้อย 16 คนที่จุดไฟเผากายเพื่อประท้วงแรงกดดันจากรัฐบาลจีน

    ขณะนี้ไม่สามารถโทรศัพท์เข้าไปยังพื้นที่อำเภอเซ่อต๋า และหลูฮั่วได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำการท้องถิ่น โรงแรม และโทรศัพท์ส่วนบุคคล ในช่วง 2 วันของความรุนแรง

    เดือนก.ค. ปี 2552 ที่เกิดเหตุปะทะระหว่างชาวฮั่นและชาวอุยกูร์จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 200 คนในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ซินเจียง ครั้งนั้นก็ไม่สามารถโทรศัพท์ทางไกลเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวได้เป็นเวลานับ เดือน

    ศูนย์บริการข่าวจีนเผยว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนก็ได้ส่งป้ายโฆษณารูป 4 ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน ไล่มาตั้งแต่ประธานเหมา เจ๋อตง ผู้นำเติ้ง เสี่ยวผิง เจียง เจ๋อหมิน จนถึงประธานาธิบดีหู จิ่นเทาคนปัจจุบัน จำนวนกว่าล้านป้าย และธงชาติจีนอีกมากมายกระจายไปติดตามบ้านช่อง อารามลามะต่าง ๆ ในหมู่บ้านชาวทิเบต จากการสำรวจสำมะโนประชากรพบว่า มีประชาชนประมาณ 3 ล้านคนอาศัยอยู่ในทิเบต นั่นก็เท่ากับว่าต้องได้รับป้ายผู้นำจีนกับธงชาติกันทุกครัวเรือน หรือไม่บางบ้านก็ได้ทั้งธงทั้งป้ายฯ

    ศาสตราจารย์หยวน เหว่ยซื่อ นักประวัติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยซุนยัดเซ็น วิทยาเขตก่วงโจวเผยว่า “มันเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อกระจายอิทธิพลของคอมมิวนิสต์ในทิเบต และเพื่อต้องการแรงสนับสนุนจากประชาชนเพื่อดึงความศรัทธาจากทะไลลามะผู้นำ จิตวิญญาณของทิเบต มาให้ได้”

    เมื่อวันอังคาร (23 ม.ค.) มาเรีย โอเทโร ผู้ประสานงานพิเศษประเด็นทิเบตแห่งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ขณะนี้วอชิงตันได้เรียกร้องจีนไปอีกครั้ง ให้แก้ไขนโยบายที่ขัดแย้งกับทิเบต สถานการณ์ในขณะนี้ทำให้ล็อบซัง ซังเก ผู้นำรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบตในอินเดีย มีความพร้อมที่จะเรียกร้องให้ประชาคมโลกเข้ามามีส่วนในการแก้ปัญหาความ รุนแรงนี้มากขึ้น

    ความคิดเห็นที่ 1
    ทุกครั้งที่มีข่าวทิเบต ก็จะมีสุนัขรับใช้(ไม่?)ทราบฝ่าย เข้ามาเห่าหอนตามเสียงผายลมของฝรั่งกันตรึมๆๆๆๆ ..... โดยไม่เคยศึกษาว่าความจริงเป็นอย่างไร ...

    ... ทิเบต และ ซินเกียง เป็นส่วนหนึ่งของจีน(เหมือนปัตตานี เชียงใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของไทย) ตั้งแต่ราชวงศ์หยวน(เกือบพันปีที่แล้ว) ต่อมาก็ราชวงศ์หมิง และ ชิง
    ... แต่ประกาศเอกราชตอนปลายราชวงศ์ชิง(ซึ่งกำลังถูกฝรั่งรุมกินโต๊ะ)

    แต่ไม่เคยมีฑูตทิเบต และ ซินเกียง ประจำไทย อังกฤษ อเมริกา
    และไม่เคยมีฑูตไทย อังกฤษ อเมริกา ประจำ ทิเบต และ ซินเกียง

    อเมริกา ไม่เคยประกาศรับรองเอกราชของทิเบต ตอนทิเบตประกาศเอกราช

    ปี 1904 อังกฤษส่งทหารเข้าไปฆ่าคนทิเบตเป็นเบือ โดยอ้างว่า ได้ข่าวว่ารัสเซียจะยึด เลยยึดก่อน

    เมื่อ พรรคคอมมูนิสต์จีนชนะสงครามภายใน(1949 ไม่ใช่ 1940) ก็กลับมายึดธิเบตคืน ... CIA ส่งอาวุธช่วยดาไลลามะ อยู่ 3 ปี ก็ไม่เป็นผล จึงหนีไปอยู่อินเดีย แล้วใช้สื่อโจมตีจีนมาตลอด

    .... และ พวกลามะที่ก่อความวุ่นวาย มีชาวทิเบตสนับสนุนกี่เปอร์เซนต์ ????? ... ชั่วร้ายแอบแฝงหรือไม่?

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]http://www.komchadluek.net/2007/10/14/a001_162082.php?news_id=162082[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]สหรัฐเตรียมมอบเหรียญเกียรติยศสูงสุดแก่ ดาไล ลามะ[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]สหรัฐ เตรียมมอบรางวัลเหรียญทองเกียรติยศสูงสุดฝ่ายพลเรือนแก่ ดาไล ลามะ ผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณพลัดถิ่นของทิเบต ขณะที่จีนออกมาคัดค้านและวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
    [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ดา นา เปริโน โฆษกหญิงประจำทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐมีกำหนดมอบเหรียญเทิดเกียรติคุณ “คองเกรสชันนอล โกลด์ มิดอล” ดังกล่าวแก่ ดาไล ลามะ วัย 72 ปี ในวันพุธที่17 ต.ค.นี้ เพื่อสดุดีการทำหน้าที่เผยแพร่ภูมิปัญญาธรรม ความเมตตากรุณา และการแก้ปัญหาตามแนวทางสันติ โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ผู้นำสหรัฐ จะเปิดการพบปะหารือเป็นการส่วนตัวกับ ดาไล ลามะ ในวันอังคารที่ 16 ต.ค. ก่อนเข้าร่วมพิธีอย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำทั้งสองจะปรากฏตัวต่อสาธารณะร่วมกัน [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]โฆษก หญิงประจำทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีบุช ทราบดีถึงข้อทักท้วงจากจีนต่อประเด็นการมอบรางวัลแก่ดาไล ลามะ ทว่าที่ผ่านมาผู้นำสหรัฐได้เข้าร่วมในพิธีมอบเหรียญรางวัลทุกครั้ง ซึ่งรัฐบาลสหรัฐก็คาดหวังว่าผู้นำจีนจะเปลี่ยนทัศนคติต่อ ดาไล ลามะ ในทิศทางเดียวกับประธานาธิบดีบุช กล่าวคือ มอง ดาไล ลามะ เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณและบุคคลผู้ปรารถนาสันติภาพ
    [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ทาง ด้านจีนได้ออกมาทักท้วงการมอบรางวัลแก่ ดาไล ลามะ โดยระบุว่า การมอบรางวัลดังกล่าวถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน และบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอย่างรุนแรง พร้อมกับชี้ว่า ดาไล ลามะ เป็นบุคคลอันตรายที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของจีน โดยที่ผ่านมาได้ใช้ศาสนาเป็นเครื่องบังหน้าเพื่อฟื้นฟูระบบศักดินาทิเบตขึ้น มาอีกครั้ง[/FONT]

    RW ONLINE:The True Story of Maoist Revolution in Tibet
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
    The truth is this: from its beginning within Tibet in the 1950s to the armed feudalist uprising of 1959, to the armed exile-based guerrilla movement of the 1960s--this "struggle" was organized, financed, trained, armed, led, and finally dispersed by the CIA.
    [/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]In the old days, the Dalai Lama was a figurehead of an oppressive feudal order. In exile, he became the figurehead of a Tibetan CIA-backed, anticommunist armed movement headed by his brother, Gyalo Thondup--similar to so many "contra" (counterrevolutionary) armies the CIA has created to wage covert wars. [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
    [/FONT]
    In fact, USA since 1972 has made China as a bulwark against the Soviet Union by supplying indirectly every type of weapons technology via Israel, France, Pakistan, and Turkey. USA also made China as the permanent member of the UN Security Council as a counterweight against the Soviet Union.

    Also, we now have some facts about Thubtan Norbu. The eldest brother of the Dalai Lama was connected to the "American Society for a Free Asia," a CIA-funded organization that sponsored a series of visits to and lectures in the United States by Norbu, beginning in 1956 (Prados, 1986). Secretly, the Dalai Lama's family was very involved with the CIA in fighting the Chinese.
    <hr>Behind Dalai Lama's holy cloak - Business - Business - theage.com.au
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
    The government set up in exile in India and, at least until the 1970s, received $US1.7 million a year from the CIA.


    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]The money was to pay for guerilla operations against the Chinese, notwithstanding the Dalai Lama's public stance in support of non-violence, for which he was awarded the Nobel Peace Prize in 1989.[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]The Dalai Lama himself was on the CIA's payroll from the late 1950s until 1974, reportedly receiving $US15,000 a month ($US180,000 a year).[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]The funds were paid to him personally, but he used all or most of them for Tibetan government-in-exile activities, principally to fund offices in New York and Geneva, and to lobby internationally.

    [​IMG]

    [/FONT]
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]จากข้อมูลในเบื้องต้น รวมทั้ง ตำราพิชัยสงคราม ซุน วู บทที่ ๑ พอที่จะประมวลได้คือ ขณะนี้สหรัฐฯ กับจีนกำลังรบกันด้วยสงครามขนาด ใหญ่ ทั้งสองฝ่ายรบกันเพื่อความอยู่รอดของตนเองทั้งนั้น

    [​IMG]
    [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]• กลุ่มปฏิบัติการ “ ผู้ปลดปล่อย ( Crusader )”
    การทำงานดังกล่าวนี้ มีรหัสภายในว่า “ ผู้ปลดปล่อย ( Crusader ) “ ประกอบด้วยคณะทำงานคือ
    1. กลุ่ม ACA ( AMERICAN CONSERVATIVE ASSOCIATION ) เป็นกลุ่มอนุรักษ์ของอเมริกัน
    2. กลุ่ม IG ( INDEPENDENT GROUP ) เป็นพวกชาตินิยมอเมริกัน ข้างเอียงซ้าย ต้องการสร้างประเทศ
    3. กลุ่มนายทุนธุรกิจซึ่งสนับสนุนพรรครีพับรีกัน

    [​IMG]
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=mscc2&topic=713[/FONT]
    เอกสารวิจัยเรื่อง แนวความคิดใหม่ของการก่อการร้าย[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]

    ไม่ว่าการเมืองจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ใครจะได้จัดตั้งรัฐบาล ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี คนใหม่ สิ่งที่จะเป็นบทพิสูจน์ว่า จะสามารถแก้ไข ปัญหาที่สำคัญของประเทศชาติได้หรือไม่ หลายเรื่อง เป็นบทพิสูจน์ความสามารถ เช่นเรื่องการแก้ปัญหา เศรษฐกิจ เรื่องราคาน้ำมัน......และเรื่องที่จะพิสูจน์ ฝีมือได้ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือ....การแก้ปัญหาภาคใต้ ซึ่งส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาภาคใต้ก็คือ " เรื่องการก่อการร้าย" ในที่นี้จะได้นำเสนอเรื่อง การมองการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นอยู่ในยุคปัจจุบัน ที่หลายคนมองไปในทิศทางที่แตกต่างกัน บางคน มองอย่างมีเหตุมีผล บางคนมองด้วยอารมณ์ความรู้สึก หรือสามัญสำนึก แต่ในที่นี้จะมองด้วยผลงานการ วิจัยของหลักสูตรการศึกษาในระดับปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ สาขาการจัดการทรัพยากรเพื่อความ มั่นคง หัวข้อเรื่อง " แนวความคิดใหม่ของการก่อการร้าย" ซึ่งผู้ที่ทำการวิจัยคือนิสิตในหลักสูตร การศึกษา และได้รับการพิจารณาจากคณาจารย์ของ มหาวิทยาลัยบูรพา และ สถาบันวิชาการป้องกัน ประเทศว่าเป็นผลงานวิจัยที่ผ่านหลักสูตรการศึกษาดังกล่าวได้ และ ผู้วิจัยได้รับผลการศึกษา โดยรวมในการศึกษาหลักสูตรนี้อยู่ในเกณฑ์ดีเลิศ โดยมีเกรดเฉลี่ย ๔.๐๐ ซึ่งก็คงจะเป็นสิ่งที่จะประกัน
    ถึงความน่าสนใจและเชื่อถือได้ในเรื่องข้อมูลและ เรื่องกระบวนการวิจัย เชิญติดตามเนื้อเรื่องได้เลยครับ
    [/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]โดย Special Force [27 ธ.ค. 2550 , 12:54:02 น.]

    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]นิยามศัพท์
    ๑. การก่อการร้าย ( Terrorism ) หมายถึง "ปฏิบัติการรุนแรงที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง (politically motivated violence) และมีการเตรียมการล่วงหน้าหรือคิดไว้ก่อนล่วงหน้า (Premeditated) ที่กระทำต่อเป้าหมายซึ่งไม่สามารถสู้รบได้ (noncombatant targets) และกระทำโดยขบวนการหรือกลุ่มที่มิได้เป็นของชาติ (sub-national groups) หรือกระทำโดยสายลับของรัฐ (clandestine state agents) สำนักงานประมวลข่าวกลางสหรัฐ ฯ (Central Intelligence Agency : CIA) ระบุว่า หมายถึง ) , หมายถึง "การใช้ความรุนแรงเพื่อจุดมุ่งหมายทางการเมือง และรวมถึงการใช้ความรุนแรงใด ๆ ก็ตาม เพื่อจุดมุ่งหมายในการทำให้สาธารณชน หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของชุมชนเกิดความหวาดกลัว"( พระราชบัญญัติป้องกันการก่อการร้ายของสหราชอาณาจักร (The United Kingdom's Prevention of Terrorism Act) ) " ได้แก่การปฏิบัติการคุกคาม หรือใช้ความรุนแรงของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ที่มุ่งหวังผลตามเงื่อนไขข้อเรียกร้องทางการเมือง " ( พระราชบัญญัติรักษาความสงบภายในของไทย พ.ศ.๒๕๑๙ )
    [/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]๒. ยุคสงครามสารสนเทศ หมายถึง ยุคที่เสร็จสิ้นสงครามเย็นแล้วตั้งแต่ประมาณปี ๑๙๘๙ ( ๒๕๓๒ ) หรือ ๑๙๙๐ ( ๒๕๓๓ ) ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่สหภาพโซเวียตล่มลาย สหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี จอร์จ บุช ( ในขณะนั้น ) ได้ประกาศการจัดระเบียบโลกใหม่ ( New World Order ) ด้วยการพัฒนาการด้านเทคโนโลยีด้านข้อมูลข่าวสารที่มีความก้าวหน้าไปอย่างรวด เร็วในยุคใกล้เคียงกันนั้นทำให้ยุคนี้ได้รับการเรียกขานกันว่ายุคโลกาภิวัฒ น์ ( Globalization Era ) ด้วยพัฒนาการของข้อมูลข่าวสารที่มีความรวดเร็วและกว้างขวางทำให้โลกทั้งโลก ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากอิทธิพลของข้อมูลข่าวสาร หลายประเทศและหลายกลุ่มชนได้แสวงประโยชน์จากยุคข้อมูลข่าวสารกันอย่างหลาก หลายทำให้การใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสารดังกล่าวกระทบต่อผลประโยชน์แห่ง ชาติของรัฐชาติต่าง ๆ ขึ้น ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศหนึ่งที่ตระหนักถึงผลกระทบอันเกิดจากยุคข้อมูลข่าวสารจึงได้กำหนด เป็นหลักนิยมด้านสงครามข้อมูลข่าวสารขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อประมาณปี ๒๕๓๘ (Information Warfare : Information Operation National Security in the Interconnected Age : Dr. Dan Kuehl ; Information Operation Resources Management College, National Defense University ) จึงได้เรียบเรียงรูปแบบของสงครามข่าวสารไว้ ดังนี้

    ก. สงครามการควบคุมบังคับบัญชา ( Command and control warfare )
    ข. สงครามฐานข่าวกรอง ( Intelligence based warfare )
    ค. สงครามอิเลคทรอนิกส์ ( Eletronics Warfare )
    ง. สงครามจิตวิทยา ( Psychological Warfare )
    จ. สงครามแฮ็กเกอร์ ( Hacker Warfare )
    ฉ. สงครามข้อมูลทางเศรษฐกิจ ( Economical Information Warfare )
    ช. สงครามไซเบอร์ ( Cyber warfare )

    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]๓. แนวความคิดเดิมเรื่องการก่อการร้าย จอร์น คูลีย์ ( John Cooley ) ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ ABC และผู้เขียนหนังสือ Unholy Wars : America and International Terrorism ได้เปิดเผยเบื้องหลังของที่มาแห่งเหตุการณ์ ๙๑๑ จนถึงสงครามต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐอเมริกาสรุปได้ว่า “....สหรัฐอเมริกาต้องการต่อต้านการรุกของสหภาพโซเวียตเข้ามายังอัฟกานิสถาน จึงใช้ปฏิบัติการจิตวิทยาต่อชาวมุสลิมเพื่อให้เป็นอาสาสมัครต่อสู้กับสหภาพ โซเวียต ในจำนวนนั้นมี บิน ลาเดน รวมอยู่ด้วย ในปี ค.ศ. ๑๙๘๐ บิน ลาเดน ได้เข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มมูจาฮีดีนที่ได้รับการฝึกจากองค์กร CIA ของสหรัฐอเมริกาเพื่อต่อสู้กับกำลังทหารของสหภาพโซเวียต ในปี ค.ศ.๑๙๘๙ บิน ลาเดน ได้เป็นผู้นำสูงสุดขององค์กรต่อต้านโซเวียตที่อัฟกานิสถานและได้รับชัยชนะ ต่อสภาพโซเวียตอย่างเด็ดขาด หลังจากนั้นสหรัฐอเมริกาไม่ได้ให้การสนับสนุนกลุ่มมูจาฮีดีนอีก ทำให้ บิน ลาเดน โกรธแค้นและเตรียมที่จะแก้แค้นสหรัฐอเมริกาโดยการจัดตั้งกลุ่ม อัล เคดา ขึ้นโดยมีฐานปฏิบัติการอยู่ที่อัฟกานิสถาน ในปี ค.ศ.๒๐๐๑ จึงเกิดเหตุการณ์ ๙/๑๑ ขึ้นโดยการดำเนินการของ กลุ่ม อัล เคดา ของ บิน ลาเดน เป็นผู้ดำเนินการ....” ( ปอกเปลือก CIA ความลับใต้อุ้งปีกพญาอินทรี ดานุภา ไชยพรธรรม : ๑๒๓- ๑๒๕ )[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู.บุช แห่งสหรัฐอเมริกาได้กล่าวปราศรัยต่อสภาพคองเกรสและประชาชนชาวอเมริกันเมื่อ ค่ำวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๔๔ ว่า“...ชาวอเมริกกันมีคำถามหลายข้อในคืนนี้ ชาวอเมริกันกำลังถามว่า ใครเป็นผู้ทำร้ายประเทศของเรา หลักฐานทั้งหมดที่เรารวบรวมมาได้ล้วนแต่ชี้ไปถึงองค์กรก่อการร้ายที่รวมตัว กันเป็นกลุ่มภายใต้ชื่อว่าอัล เคดา ( Al Qaida ) กลุ่มคนเหล่านี้คือฆาตกรชุดเดียวกับที่วางระเบิดสถานทูตอเมริกันที่ แทนซาเนียและเคนยาและเรือ USS Cole ของสหรัฐฯ...” ( บาดแผลอเมริกา สงครามกับเสรีภาพในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ ๒๕๔๗ : ๒๑๕ )[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]๔. แนวความคิดใหม่ของการก่อการร้าย หมายถึง แนวความคิดที่ไม่ได้ยึดถือและเชื่อตามแนวความคิดเดิมที่เชื่อว่าผู้ก่อการ ร้ายที่จี้บังคับเครื่องบินพุ่งชนตึกเวิร์ลด์เทรด เซ็นเตอร์ ของสหรัฐอเมริกาในเหตุการณ์ ๑๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๔ เป็นการก่อการร้ายอันเกิดจาก การสั่งการของ โอซามา บิน ลาเดน ดังที่ได้รับทราบข่าวจากรายงานข่าวของสื่อตะวันตกที่ประกอบด้วยสำนักข่าว CNN และ BBC เป็นหลัก และเชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิมเป็นหลักจนกระทั่ง ประชาคมโลกเกิดการหวาดกลัวและหวาดผวาชาวมุสลิมทั่วโลกว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ที่คุกคามความสงบเรียบร้อยของประชาคมโลก แต่จะขยายขอบเขตและมุมมองให้กว้างขวางและหลากหลายไปกว่าเดิมที่เคยศึกษามา[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]๕. เหตุการณ์ ๙/๑๑ หมายถึง เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๔๔ ที่ผู้ก่อการร้ายใช้เครื่องบินพุ่งเข้าชนตึกเวิร์ลด์เทรดเซ็นเตอร์ และตึกเพนตากอนของสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลังจากนั้นกลุ่มก่อการร้ายได้ขยายเครือข่ายการปฏิบัติออกไปทั่วโลกและ เป็นภัยคุกคามของมนุษยชาติจนกระทั่งปัจจุบันนี้

    [​IMG]
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ออ ง ซาน ซูจี เป็นผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ในประเทศพม่า เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2488 บิดาของเธอคือ นายพล ออง ซาน ผู้นำการเรียกร้องเอกราชของพม่า ซึ่งถูกสังหารเสียชีวิตเมื่อเธอมีอายุเพียง 2 ขวบ. ซูจีได้สมรสกับ ศ.ดร. ไมเคิล อริส อาจารย์สอนวิชาทิเบตศึกษา ที่สถาบันตะวันออก มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ มีบุตรชายสองคน คือ อเล็ก และ คิม ปัจจุบัน ศ.ดร.ไมเคิล อริสได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็ง

    การศึกษา
    พ.ศ. 2510 ปริญญาสาขาวิชาปรัชญา การเมืองและเศรษฐศาสตร์, มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร

    ประวัติการทำงานและผลงาน
    สำนักงานเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก
    เจ้าหน้าที่วิจัยกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศภูฏาน
    รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ พ.ศ. 2534 จากการต่อสู้โดยสันติวิธีในการเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
    [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]โดย sunny [28 ก.ย. 2550 , 15:43:09 น.][/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
    [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์ กรณีนางอองซาน
    ..........................
    นาง อองซาน เป็นคริสต์ และถูกส่งเข้าสู่ประเทศพม่าด้วยเงื่อนไขทางการเมือง ของมหาอำนาจตะวันตก ภายหลังที่รัฐบาลทหารพม่าปิดประเทศ การเคลื่อนไหวของนางอองซาน เป็นลักษณะของการชักศึกเข้าบ้าน โดยอ้างคำว่าประชาธิปไตย แต่ไม่มีความรักชาติจึงยินดีกับการที่ต่างประเทศแซงชั่นพม่า คนอดหยากก็เพราะเกิดจากตนเอง อีกทั้งไม่เคยรู้สึกรู้สากับความทุกข์ยากของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่ถูก จับติดคุกในปี1988 เนื่องเพราะเดินขบวนประท้วงการเลือกตั้ง ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่นางอองซาน จะยื่นเงื่อนไขให้รัฐบาลปล่อยตัวพระสงฆ์เหล่านั้น ก็เพราะความจริงไม่ได้ถือพุทธศาสนา แต่อ้างพระพุทธศาสนาบังหน้า เพื่อการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะชาวพม่านับถือพุทธ
    [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
    [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]หากนางอองซานมี ความรักชาติจริง ต้องมองเห็น และรู้ว่าประเทศชาติวุ่นวายก็เพราะสาเหตุเกิดจากตนเองตลอดกว่า 30 ปี สมควรจะฆ่าตัวตายเป็นชาติพลีไปได้แล้ว ไม่ใช่แอบอ้างสร้างกระแส ตัวถือคริสต์แต่เอาพระบังหน้า เรียกว่า "...เหยียบศพพระขึ้นเป็นใหญ่.."
    ใน วงการข่าวลับ รู้กันดีว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังนางอองซาน คือ กลุ่มผู้หวังจะกอบโกยผลประโยชน์ในประเทศพม่าอย่างถาวรคือ วาติกัน และ นักธุรกิจน้ำมันที่จะได้ผลประโยชน์ เมื่อนางอองซานขึ้นเป็นใหญ่ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
    ........................
    และนี่คือ ที่มาของประวัติ "... นางมารร้าย..แห่งเอเซีย" ตัวจริง
    [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]โดย Ghost Bat [28 ก.ย. 2550 , 16:01:45 น.][/FONT]

    [​IMG]

    นักธุรกิจน้ำมัน = กลุ่มทุนยิว หรือ เรียกว่าองค์กรลับ ฟรีเมสัน,อิลลูมิเนติ
    โดยผ่านองค์กรที่เรียกว่า NGO'S หรือมูลนิธิด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆ

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]http://www.voltairenet.org/article30024.html[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Financial Crime and Coup d’état. First Part.

    George Soros, speculator and philanthropist
    [/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]George Soros, financier and philanthropist as well as an archetype of the "post-capitalist" speculator and prophet, is flattered and feared at the same time. He is responsible for the "Stock Market crash" and Maecenas in some fifty countries. Today, according to estimates, his fortune accounts for 7 billion dollars. He said he was willing to finance campaigns aimed at preventing George W. Bush’s reelection, in spite of the fact that he himself saved Bush Junior from the 1990 bankruptcy and is still working with his father in the Carlyle Group, a powerful financial organization. He has been equally active in many changes of governments and has been labeled a CIA cover.[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Publicly committed with the US Presidential campaign to prevent George W. Bush’s reelection, billionaire George Soros has unleashed a storm in Washington. Such personal decision has won the famous speculator the sympathy of all those in the world who fear Bush’s reelection as President of the United States.[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]George Soros was born in Hungary in 1930. As a result of the Second World War, he emigrated to England in 1947. There he met anticommunist philosopher Karl Popper, became his disciple and identified himself with the ideas promoted by this thinker. In 1956 he moved to the United States where he created the "first hedging funds" devoted to meet the demands of the large corporate fortunes. Since 1969, his main company, the Quantum Fund (located in tax haven countries like the Netherlands Antilles first and then Curazao), provides him with a mean income benefit of 34,5 % return investment per year.[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]The man who made the Bank of England collapse[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]George Soros has never generated any wealth, but he has enriched himself thanks to his activities in the stock market. With seven billion dollars, his personal wealth would be the 28th most important fortune in the United States, according to a classification made by the Forbes magazine in the year 2003. He has been nicknamed "The man who made the Bank of England collapse", after an operation based on the Sterling Pound (the British domestic currency) in September 1992, a stock market operation that brought him one billion dollars without batting an eyelash, at the expense and to the detriment of the United Kingdom taxpayers. Soros has become the paradigm of speculators. In spite of the fact that he also had to face great losses during the Stock Market fall in 1987, the crisis in Russia in 1998 and the implosion of the stock market speculations on Internet, Soros has been the great beneficiary of the Asian economic crisis that affected, especially, Thailand, Korea and Indonesia since 1997.[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]President and director in charge of a great number of societies to which he would devote more than 300 million dollars, Soros became one of the greatest philanthropists of modern times. His main foundation, the Open Society Institute, takes its name after the philosophical project of his maestro Karl Popper: to build open societies, meaning an awareness of imperfections and a willingness to advance so as to create a better world. His main programs tend to defend human rights, to fight against drug-dependency, to train political leaders and to develop the freedom of information. These objectives agreed by consensus include controversial campaigns for the defense of homosexual’s rights, the decriminalization of drugs and the establishment of substitution programs for drug-addicts. This charitable and progressive activity has wisely contributed to wipe off his financial predator image.[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Nevertheless, for many years now, many voices have suggested that his philanthropic actions are nothing but a false facade and a cover for the CIA and the State of Israel interventions in the world and that he owes his fortune to financial crimes, not to the magic fingers of "King Midas". [[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]1[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]] At the beginning, the Quantum Fund was administered by representatives appointed by Lord Jacob Rothschild (Mijail Khodorkovsky’s proxy), Sir James Goldsmith (who was a European deputy) and Edmond Safra (main Israeli negotiator of weapons).[/FONT]

    [​IMG]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Member of the Carlyle Group[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Recently, the American newspaper The Nation revealed that George Soros, through the Harken Energy and Spectrum 7 societies, was the one who, in 1990 saved George W. Bush from bankruptcy by eliminating and absorbing his debts. When asked about this by the newspaper, Soros stated that he did so in order to buy a "political influence" (sic) [[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]2[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]]

    Like his friend Khodorkovsky, George Soros joined the Carlyle Group when this company became the "financial shelter" for many in the former Bush father administration in 1992. Today, that company is the most important fortune-administration society (financial portfolio) in the world. It is in charge of administering the billionaire wealth of Bush and Bin Laden families through the societies it controls. The Carlyle Group is the eleventh provider of the Pentagon.

    On December 20, 2002, George Soros was sentenced to pay a fine of 2,2 million dollars by the Paris Correction Court for the commission of a financial crime, when he tried to attack the Societe Generale, a French company, in the stock market.
    [/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Human Rights Watch and the International Crisis Group[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Aside from the Open Society Institute (OSI), present in almost fifty countries, George Soros has created or financed several very important and prestigious associations and foundations the Human Rights Watch and the International Crisis Group.

    Human Rights Watch (HRW) was one of the humanitarian organizations that submitted most of the evidences and documents against the crimes attributed to Slobodan Milosevic, thus justifying NATO intervention in Serbia. A significant part of the accusations made by this association has not yet been confirmed by the International Criminal Court for Former Yugoslavia.

    The International Crisis Group (ICG) was created in 1994 as a non-governmental (NGO) diplomatic organization, headed by the US Democratic Senator George Mitchell (who, later gave his name to the Report on the Israeli-Palestinian Question). Actively working in Burundi, Nigeria and Sierra Leone (African countries) at the beginning, the ICG was getting closer to NATO on the Yugoslavian crisis. It is currently presided over by Martti Ahtisaari, the former President of Finland who pretended to be negotiating with Milosevic to prevent the war. His Administrative Council gathers the elite of NATO personalities. By his side, former national security advisors like Richard Allen and Zbigniew Brzezinski, the Kuwaiti Prince Saud Nasir Al-Sabah, the former prosecutor of the International Criminal Court for Former Yugoslavia, Louise Arbour, and former NATO Supreme Commander during the Yugoslavian War, General Wesley Clark. We also find some financial links like former President of The Philippines, Fidel Ramos, or the Russian oligarch Mijaíl Khodorkovsky, all of them members of the Carlyle Group. Likewise, some French personalities like Simone Veil, President of the Shoah Memorial, and journalist Christine Ockrent, wife of former Kosovo governor, Bernard Kouchner. In 2001, George Soros created the Democracy Coalition Project (DCP) in charge of encouraging the non-governmental forum beside the summit meetings of the Community of Democracies organized by the United States State Department.
    His agency includes the most important neoliberal economists. Likewise, he created a Network Media Program that bought the archives of the Radio Free Europe (one of its former leaders, Herbert Okun, forms part of OSI management), the CIA radio station during the Cold War. Besides, he has subsidized several "independent" mass media stations like B92 radio during the Yugoslavian War and today the "free" newspapers in Iraq. He controls the Project Syndicate, a mass media agency publishing editorials on political personalities in 181 international daily papers. These authors include a great number of ICG managers, as well as the cream of neoliberal economists. [
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]3[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]].[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]He argues manipulation of 9/11 victims[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]In September 2001, shortly after the attacks George Soros participated in a working group of the Council on Foreign Relations, the club of the establishment in Washington, on the role to be played by the mass media in the war on terror. Sessions were presided over by Ambassador Richard C. Holbrooke, who played an important role in the attack launched against Yugoslavia and whose wife, Kati Marton, is the OSI manager. Conclusions reached at that meeting were sent to President Bush for him to use them and convince the rest of the world of the well-founded foreign policy of the United States, mentioning and repeating once and again, the 9/11 attacks, manipulating the civil victims of these attacks to provoke compassion. He insists so as to force foreign governments not only to condemn the attacks, but also to approve his reasoning leading to a war on terror. Besides, he advises on the mass media presence in the world and supports the inclusion of New York Times supplements in large friendly newspapers.[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Russia expelled the Open Society Institute at the end of 2003[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Recently, George Soros played an important role in the change of governments, especially in central and eastern Europe. He was particularly active in Poland, where he was, at the same time, friend of General Jaruselski and of the main official patron of the Solidarnoc (Solidarity) trade union, the Polish Bronislaw Geremek, who is currently member of the ICG administrative council. He was also very active in Hungary, his native country.

    It is highly probable that he also engaged in the preparation of the "Velvet Revolution" in the Czech Republic, an action that culminated with Vaclav Havel as President. He repeated the same model in Serbia to defeat Slobodan Milosevic and, recently, in Georgia against Edouard Shevarnardze. Every time he has been served and supported by Otpor-style youth organizations. He has been accused of stirring popular disturbances in Ukraine and Belarus. In order to put an end to his intervention in Russia, authorities have resorted to the pretext that the rent was not paid to expel the Open Society Institute some days after Mijaíl Khodorkovsky was detained under complot suspicions.
    [/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]What moves George Soros?[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Bearing in mind the multiple facets of the man who "made the Bank of England collapse", it is difficult to understand why he decided to invest 12 million dollars now to prevent de George W. Bush’s reelection. In an interesting article published by the New Statesman [[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]4[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]], journalist Neil Clark affirms that the President and the billionaire, who have collaborated and cooperated for such a long time, agree on a neoliberal Empire but disagree on the way of turning it into a reality. George Soros, who for so many years has tried to humanize financial capitalism, considers that the brutality shown by George W. Bush jeopardizes the acceptance of this system by peoples. Others suggest that Soros campaign is doomed to failure and that it only serves to create a false illusion, the illusion that there is a democratic debate going on in the United States.
    In 2002, George Soros stated: «In ancient Rome, only the Romans could vote. Under world modern capitalism, only the Americans can vote. Brazilians, they do not vote». [
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]5[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]] Now, you see, this is the futre program, things are going to be even better...[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]<hr noshade="true" size="1">[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]1[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]] Mystic character, King Midas transformed everything he touched in gold.[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]2[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]] Cf. Bush and billionaire : How insider capitalism benefited W. par David Corn, The Nation July 17, 2002.[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]3[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]] For France, economists Michel Camdessus, Daniel Cohen, Jean-Paul Fitoussi, Jean-Pierre Lehmann, Jean Pisani-Ferry; and political scientists like François Heisbourg, Pierre Nora or Jacques Rupnik[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]4[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]] Cf. George Soros, NS Profile par Neil Clark, in New Statesman, 2 June 2003.[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]5[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]] Public statement by George Soros at Social Forum held in Porto Alegre, Brazil.[/FONT]


    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT]


    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]http://www.conflict-prevention.net/page.php?id=45&formid=72&action=show&articleid=678[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]<hr>[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]http://www.isop.ucla.edu/eas/thisweek/12-10.htm[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]1991 Aung San Suu Kyi (b. 1945) received the Nobel Peace Prize. The daughter of Aung San, the leader of the Burmese struggle for independence from Britain, Aung San Suu Kyi had lived outside Burma for many years when she returned in 1988 to care for her sick mother. She quickly became the leader of the democratic movement opposed to the continuing military domination of Burma's government. The government placed her under house arrest from 1989 to 1995 and continued to restrict her movement after international pressure caused the regime to formally end her arrest. The [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Free Burma Coalition[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] has a collection of web pages devoted to her. The [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Burma Project[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] website (funded by the Soros Foundation) includes the [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]videotaped speech[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] she made in November 1999 to the United Nations Commission on Human Rights.[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]<hr>[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]http://www.soros.org/initiatives/bpsai/news/burmanet_20050808[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]OSI-Supported Website Promotes Burma Rights and Democracy[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Press Release
    August 5, 2005
    [/FONT]
    <table style="PADDING-BOTTOM: 10px" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td>[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Contact: [/FONT]</td><td>[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Aung Myo Min
    [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]myomin@cscoms.com[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]+66-1-992-5293 [/FONT]
    </td></tr></tbody></table>[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]MAE SOT, THAILAND, AND NEW DELHI, INDIA—A new website launched today aims to aid Burma’s democracy movement by opening channels of communication into one of the world’s most repressive states. [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]The Burma Guide to Rights and Democracy ([/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]www.burmaguide.net[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]) is designed for easy access to a collection of resources for people interested in Burma’s future as a democratic country where the rights of all peoples are honored under the rule of law. News on Burma and tools for promoting a peaceful democratic transition are available in English, as well as the six different languages spoken in Burma (Burmese, Chin, Kachin, Karen, Mon, and Shan). [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
    [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]The launch of BurmaGuide.Net comes on the eve of the 17th anniversary of the massive “8-8-88” pro-democracy uprising in Burma, when thousands of demonstrators were killed by the Burmese military junta. Today, the junta continues its repressive rule. By providing hundreds of summaries of key issues and reports that are crucial to the process of democratic transition, BurmaGuide.Net seeks to counter the junta’s efforts to restrict access to information.[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
    [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]“Access to information is crucial for people to understand their rights, and to promote and defend them,” said Aung Myo Min, executive director of the Human Rights Education Institute of Burma, an organization based on the Burmese-Thai border that has helped manage research and translation for the project. “BurmaGuide.Net offers democracy and human rights resources for different peoples of Burma to in their own languages.”[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]The website, which is funded by OSI's [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Burma Project[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] and the [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]United States Agency for International Development[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif], was developed in cooperation with the Burma Information and Technology Team and the [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]Human Rights Education Institute of Burma[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]The Burmese-language version of this site is known as “Lanpya.Net” (lanpya means “guide” in Burmese), and offers access to a new Burmese Unicode font developed by the Burma Information and Technology Team, an organization of Burmese refugees based in New Delhi that will provide technological support for the website. The Unicode font will be accessible to many types of computer systems.[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]“BurmaGuide.Net will be an important resource for both the Burmese Diaspora and people within Burma as internet access expands,” said Maureen Aung-Thwin, director of the Burma Project. “The process of creating the website and researching its content has also built new capacities among Burmese that will promote the country’s future democratic and economic development.”[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 555000008049401.JPEG
      555000008049401.JPEG
      ขนาดไฟล์:
      89.8 KB
      เปิดดู:
      905
    • 13402454231340245489l.jpg
      13402454231340245489l.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.3 KB
      เปิดดู:
      773
    • 120952.jpg
      120952.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.6 KB
      เปิดดู:
      640
    • 7eskwYLh.gif
      7eskwYLh.gif
      ขนาดไฟล์:
      78.1 KB
      เปิดดู:
      660
    • Ls8oTNbw.gif
      Ls8oTNbw.gif
      ขนาดไฟล์:
      76.6 KB
      เปิดดู:
      674
    • 4kk3ODHZ.jpg
      4kk3ODHZ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.1 KB
      เปิดดู:
      735
    • dQ4RdqoV.jpg
      dQ4RdqoV.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13 KB
      เปิดดู:
      682
    • F2wKNOS9.jpg
      F2wKNOS9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.3 KB
      เปิดดู:
      959
    • jiyOL12Aminus.jpg
      jiyOL12Aminus.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11.4 KB
      เปิดดู:
      607
    • PMJsUGFY.gif
      PMJsUGFY.gif
      ขนาดไฟล์:
      96.5 KB
      เปิดดู:
      1,123
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  11. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    พี่ nprofcomp ครับ ผมคิดว่าเรื่องต่างๆที่เราคุยกันนี้ มันมีอะะไรที่ลึกลับที่น่าอึ้งจริงๆ ไม่แปลกที่ "rik ดีน" ที่พยายามค้นเกี่ยวกับแผนของไซออนและโอลิมปิค จนตัวเองต้องจบชีวิตลง ที่อายุแค่ 26 ปี สาเหตุการตาย พ่อแม่เขาบอกว่า ฆ่าตัวตาย แต่นักวิเคราะห์บอกว่าการตายของเขาเป็นปริศนาแบบไมเคิล แจคสัน

    เรื่องราวความลึกลับของใต้ดินสนามบินนานาชาติเดนเวอร์ ก็ยังเป็นความลับ ข่าวซุบซิบ ว่า Queen Elizabeth II, ได้ซื้อทรัพย์สินในบริเวณใกล้เคียงในนามแฝง หลายซื่อ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=CWaNSU2Vm1w&feature=player_embedded"]Denver International Airport Masonic Symbols Exposed - YouTube[/ame]
    ถ้าพี่มีอะไรที่คิดว่าจะเปิดหู เปิดตา ให้รู้เท่าทันคนกลุ่มนี้ ช่วยเอามาบอกกล่าวให้พวกเราๆได้รู้ด้วย จะขอบคุณมากครับ
     
  12. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    [FONT=&quot]ตอนนี้คิดอยู่อย่างเดียว จะทำยังไงให้คนในประเทศเราได้รับรู้เกี่ยวกับ [/FONT][FONT=&quot]Chemtrails พิษนี้ให้มาก ที่ตอนนี้เราไม่รู้ว่ามีเชื้อโรคไข้หวัดหมูหรือเชื้ออะไรปะปนมาด้วยหรือไม่ [/FONT]
    [FONT=&quot]ผมคิดว่าใกล้เวลาที่พวกเขาจะ [/FONT][FONT=&quot]edgเกมส์ กลัวว่าอะไรๆมันจะสายไป ผมอยากทำให้การพูดคุยของเราเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม หรือว่าที่ผ่านมาผมตกข่าว ว่าได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กันไปแล้วในภาครัฐ และหรือเจ้าหน้าที่ทางวิทยาศาสตร์ไทย [/FONT]
    [FONT=&quot]ผมได้พยายามค้นหาการพูดคุยเรื่องนี้ในเนทที่เป็นภาคภาษาไทย เจอแค่ไม่กี่คนที่พูดเรื่องนี้ แต่ที่ต่างประเทศเห็นเขาตื่นตัวกันมาก ถ้านักวิทย์ฯบ้านเราพูดคุยเรื่องนี้กันในสื่อทีวี คงจะกระตุ้นเตือนให้รัฐตรวจสอบและเฝ้าระวังภัยกันให้มากกว่าที่เป็นอยู่[/FONT][FONT=&quot]

    วานทุกท่านช่วยบอกข่าวและช่วยกันหาวิธีหน่อยครับ ผมคิดว่ามันเป็นภัยที่ใกล้ตัว
    ของทุกคน[/FONT]
     
  13. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด Chemtrail สิ่งที่ซ่อนในก้อนเมฆ

    เมื่อตามดู Chemtrail ในวิกีพีเดีย ภาษาอังกฤษ Chemtrail conspiracy theory - Wikipedia, the free encyclopedia มีความหมายถึงทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด

    เครมเทรลChemtrail ขณะที่ลอยกระจายคล้ายเมฆ เมื่อกระทบกับแสงแดด มันจะทำให้เกิดเป็นสีต่างๆ คล้ายรุ้งกินน้ำ

    [​IMG]

    ภาพที่ถ่ายมาได้ แถวสายไหม วันนั้นเขาพ่นไป 3-4 รอบ มีหลักฐานมาให้ดูกันเห็นๆ

    [​IMG]

    ภาพการกระจายตัวของ Chemtrai หลังจากถูกฉีดพ่นในท้องฟ้า มันจะลอยค้างประมาณอยู่ประมาณ 20 นาที - ครึ่งชม.
    เมื่อมองดู มันจะลอยพริ้วไหวสวยงาม คล้ายเป็นก้อนเมฆยามต้องสายลม แต่ที่แท้มันคือมนพิษที่มีคนเอามาปล่อย

    [​IMG]
    จุดถ่ายที่ถนนวิภาวดีหน้าห้างเชียร์รังสิต เวลา 6 น. เมื่ออาทิตย์ก่อน

    เมื่อค้นดูที่ยี่ปุ่น ケムトレイル(Chemtrail) ยังได้มีการพูดเรื่องนี้กันเป็นวงกว้างในหลายเวป


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Gc50w-BxInA&feature=player_detailpage"]Chemtrails(in Japan)ケムトレイル - YouTube[/ame]

    ที่จีน​
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=fYQZJc2zi-M&feature=player_detailpage"]Chemtrails in Russia China Iran North Korea - YouTube[/ame]

    ชาวบ้านในเมืองแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย แนะดูสิ่งที่ตกค้างหลังจากเมื่อตอนกลางคืนมีการฉีดพ่นสเปรย์บางอย่างในอากาศ ​
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=9312Bj-jk_0&feature=player_detailpage"]Residue from overnight spray covers town...??? - YouTube[/ame]


    รู้กันทั่วทั้งโลก ว่านี่เป็นสารอันตราย พลโลกเรียกร้องให้พวกเขาหยุด แต่พวกเขาจะไม่หยุด "ตราบใดสิ่งที่พวกเขากระทำยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์"

    นี่เป็นที่ๆทุกท่านสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการรับรู้ข่าวสารกับพวกเขาได้
    (chemtrails คลับ)

    Aerosol Crimes & Cover Up

    http://weatherwars.info/~~V

    http://educate-yourself.org/ct/~~V

    cloudbusters : cloudbusters

    ชุมชน SkyWatch

    แคลิฟอร์เนีย : California Skywatch | Agriculture Defense Coalition

    ลอสแอนเจลิส : Venice Beach Chemtrail / Geoengineering Community Outreach | Los Angeles SkyWatch

    อาริโซน่า : Welcome to our Front Page!

    ออริกอน: chemtrailupdate.com

    มิสซูรี่: Missouri Sky Watch

    รายงานวิสคอนซิน Chemtrail: Chemtrails over Wisconsin: No permits, no records weather modification DATCP Stratospheric Aerosol Geoengineering

    นิวยอร์ก: New York Skywatch

    และบางกอก คือที่นี่ และทุกๆที่ๆท่านต้องการสื่อสารถึงพี่น้องเราทุกคน!<!-- google_ad_section_end -->

    "เรากำลังตายผ่อนส่ง น่าเศร้า ที่บางคนไม่รู้ตัวว่าการตายของเขา มาจากสาเหตุใด"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  14. E22QBR

    E22QBR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +177
    :boo::boo:ช่วงเช้า หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจาก ลาดพร้าว 48 ก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันครับ ว่าเมฆทีเราเห็นอยู่ทุกวันนี้ มันคงไม่ใช่ละอองน้ำ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
     
  15. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    คือว่า ถ่ายเอง แสดงเอง ไม่ใช้สแตนอิน เมื่อเวลาประมาณเกือบบ่าย2โมง วันนี้ครับ

    อะไร ครีมๆเนี้ยอะจ้า - YouTube

    ความจริงที่เห็นด้วยตาจะชัดกว่านี้มากแต่ที่ถ่ายไปด้วยกล้องที่มีคุณภาพต่ำ ราคาบ้านๆเลยทำให้ภาพที่ออกมาไม่ตื่นตาตื่นใจต้องขออภัยมา ณ โอกาศนี้ก่อนนะครับ
     
  16. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ส่วนเมฆนั้นที่สมุยก็มีลักษณะคล้ายอย่างที่คุณ E22QBR บอกไว้แต่ผมถ่ายไว้ตั้งแต่เกือบบ่าย2 ต่อจากคลิปครีมของผมนะครับ

    เมฆที่สมุย - YouTube

    และตามติดด้วยภาพสบายตาสบายใจ ทิวทัศน์ บริเวณพระเจดีย์ หลวงพ่อแดง วัดแหลมสอดั่งเดิม อันโด่งดังของเกาะสมุยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_3051.JPG
      SAM_3051.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.1 MB
      เปิดดู:
      100
    • SAM_3049.JPG
      SAM_3049.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.1 MB
      เปิดดู:
      82
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  17. gijjij

    gijjij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +346
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  18. gijjij

    gijjij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +346
    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/5uhMGKbxbLU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  19. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ขอบคุณgijjij ที่มาเตือน

    เรื่องระเบียบโลกใหม่และ 2012 ที่ฟังดูเหมือนนิยาย

    กลุ่มอิลิท พวกเขามีการประชุมลับกันเป็นประจำ เพื่อสารต่อภารกิจให้เสร็จสิ้น

    พวกเขาต้องการควบคุมมนุษย์ทั้งโลกให้เหลือเพียง 500 ล้านคนเพื่อให้เหมาะกับสภาพทรัพยากรณ์สิ่งแวดล้อมของโลก แล้วควบคุมผู้คนทั้งหมดด้วยวิธีการทางเทคโนโลยี พวกเขาหวังว่าจะใช้แผนของพวกเขาให้เสร็จสิ้นภายในปี 2012

    และทำไม 2012? อาจเป็นไปตามความเชื่อตามไสยเวทย์ 2​​012 ปีที่พวกเขาถืออำนาจเป็นพิเศษ พวกเขามี "กองกำลังที่มองไม่เห็น" <o:p></o>
    ปีที่จะได้รับการปลดปล่อย ในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ปีที่พวกเขาจะเผยแพร่กระจายลัทธิที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ "ยุคใหม่" ยุคที่มนุษย์จะถูกคาดคะเนในเรื่องของการ "วิวัฒน์" ถึงระดับที่สูงขึ้น แต่ในบางวงการบ้างก็เชื่อว่าเป็นวันที่โลกจะมาถึงจุดสิ้นสุด

    คนที่จะส่งเสริมความคิดเหล่านี้มีวาระการประชุมลับ กลุ่มคนนี้คบหากันมานานหลายศตวรรษ พวกเขาได้ immeresed ตัวเองลงไปดึงดูดความรู้ของไสยเวท

    มีหลักฐานข้อสรุปเกี่ยวกับกิจกรรมของ สมาคมลับเช่นกลุ่ม Freemasons กับกะโหลกศีรษะและกระดูกโบฮีเมียน และคริสตจักรของซาตาน ฯลฯ ที่พิสูจน์ได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าคนเหล่านี้ บูชาปีศาจ พวกเขาปฏิบัติตามประเพณีสืบเนื่องกันมาเช่นเดียวกับชาวอียิปต์โบราณและ baylonians ที่ฝึกมนต์ดำ พวกเขาได้ใช้สัญลักษณ์เดียวกันกับชาวอียิปต์โบราณใช้

    ถามว่าทำไม?? พวกคนเหล่านี้เงินไม่ใช่คำตอบ พวกเขาต้องการควบคุมมนุษย์ทั้งโลก พวกเขาต้องการเป็นพระเจ้า

    [​IMG]

    เขาต้องการให้มีแค่ศาสนาหนึ่งเดียวในโลก

    เขาจะให้คนติดแท็กด้วย ชิป RFIDs

    (เป็นความเชื่อส่วนตัวนะจ้ะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  20. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    อันนี้คืออะไรหรือครับ ไม่เข้าจ๋าย
     

แชร์หน้านี้

Loading...