ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

.............ขอบคุณครับ

 

วันนี้ขับรถออกจากบ้านไปเมืองกาญจน์...โดนตำรวจตั้งด่านเรียกตรวจแถวๆเจ้าปลุก ก่อนถึงอ่างทอง...ขอดูใบขับขี่ แล้วก็ปล่อยผมขับต่อไป...เหตุการณ์น่าจะปกติ ไม่มีอะไร แต่พอผมไปติดไฟแดงแถวอ่างทอง ก็ต้องตกใจ...ผมลืมคาดเข็มขัดมาตลอดทาง...ปกติไม่เคยลืม แปลกมาก..ทำไมตำรวจนายนั้นเค้าก็ก้มมาดูภายในรถ แต่กลับไม่เห็นผมไม่คาดเข็มขัด ( ใครขับรถย่อมทราบดีนะครับว่า ปกติพี่ตำรวจแกตาไวเรื่องนี้มาก ) ...ผมเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองลืมคาดตอนออกมาจากบ้าน...เกือบเสียค่าปรับไปหลายตังค์แล้วมั้ยล่ะ วันนี้ก็แขวนพระเส้นเดิมกับลูกแก้วจักรพรรดิ์สีดำ พร้อมสวดคาถาเงินล้านระหว่างเดินทางไปด้วยครับ...ยังงงๆอยู่จนป่านนี้แหละครับ ว่าทำไมเขามองไม่เห็น...

 

ขอแบ่งปันประสบการณ์บางนะครับ ช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมาผมขับรถกลับจากที่ทำงาน มีความรู้สึกว่าตาลายคล้ายกับจะเป็นลม ก็พยายามบังคับรถที่ขับให้ช้าลง แต่ไม่สามารถจะหยุดรถได้เพราะเลนที่ผมวิ่งเป็นทางวิ่งขวาสุด สบัดหน้าให้หายอาการมึนงงอยู่พักใหญ่ก็ไม่หาย ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ดี จึงกำพระพระที่อยู่ในคอและอธิฐานขอให้ ถ้าจะเป็นอะไรก็ให้กลับมาเป็นที่บ้าน พออธิฐานจบตาที่ลายก็หายเป็นปรกติ แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียอยู่ อาการผมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็พยายามประคองขับรถมาถึงบ้านจนได้ พอกลับมาก็กินยาแล้วนอนเลย พระที่ผมห้อยอยู่เป็นสมเด็จองค์ปฐม รุ่น5 ครับ บารมีท่านคุ้มครองผมจริง ก็ขอขอบคุณที่ได้แช่ร์ประสบการณ์ครับ

 

....ขอบคุณประสบการณ์อันน่าทึ่งเกี่ยวกับพุทธานุภาพของวัตถุมงคลวัดท่าซุง ที่นำมาถ่ายทอดนะครับ...สาธุ

 

สวัสดีครับ
ผมมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ อย่างนี้ครับ
ประมาณ ปีที่แล้ว คือปรกติผมจะต้องเอาลูกชายและลูกสาวหลังเลิกเรียน หรือวันเสาร์บางเสาร์ ไปฝากกับบ้านยายที่เลี้ยงลูกผมทั้งสอง ช่วงนั้นมีเด็กที่อยู่บ้านยาย คนนึงเกิดเป็นอีสุกอีใส ซึ่งอย่างไรก็เลี่ยงที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับลูกไม่ได้ ผมจึงเอาน้ำมนต์ชาตรีของหลวงพ่อที่บูชามาจากวัดท่าซุง มาอาราธนาเป็นน้ำมนต์อาบซึ่งมีผมยังไม่เคยเป็นอีสุก อีใส เลยได้อาบกับ ลูกชาย ส่วนลูกสาวกับภรรยา ไม่ได้อาบสักที พลัดเรื่อยๆ เดี๋ยวก่อนๆ ผลลูกสาวผมติดเชื้อมา แล้วภรรยาผมก็ติดลูกสาวอีกที แปลกที่ผมกับลูกชายไม่เป็นทั้งๆที่นอนห้องเดียวกันหมด 4 คน แล้วครอบครัวบ้านคุณยายก็ติดกันหมดทั้งบ้าน 11 คนรวมบ้านผม 2 คนทั้งหมด 13 คนซึ่งทุกคนแปลกใจกันว่าผมกับลูกชายรอดมาได้อย่างไร ซึ่งผมมั่นใจว่าเกิดจากการได้อาบน้ำมนต์ของหลวงพ่อแน่นอน

 

อนุโมทนาทุกท่านครับ ก่อนหน้านี้ผมประสบปัญหามากมาย แม้แต่เงินกินข้าวแทบจะไม่มี ไม่รู้จะไปไหนอยากบูชาพระหลวงพ่อแต่เงินแทบจะไม่เหลือพอดีไปเจอเทปที่หลวงพ่อบันทึกไว้เป็นหมวดหมู่ก็ฟังไปเรื่อยๆก็อยากได้พระหลวงพ่อมาก สวดมนต์ทุกวันทำสมาธิตลอด กิน เดิน นั่ง นอน แต่รู้สึกอึดอัดมากเพราะผมท่าจะมีกิเลสเยอะ
แล้ววั้นหนึ่งผมก็ได้เหรียญหลวงพ่อของขวัญวันเกิดรุ่น 1 มาฟรี จากอาที่ผมรู้จักครับ

 

ต่อครับ....
แล้วมีวันหนึ่ไม่รู้คิดได้ไงความเลวของผม จะเอาพระของขวัญวันเกิดหลวงพ่อไปให้คนอื่นบูชาต่อ วันรุ่งขึ้นอามาที่บ้าน เอาไปใส่เฉยเลย ผมก็ไม่ทวงคืน พออารมณ์ใจอยากมันสงบ จิตวิเคราะห์แล้วนิ่งสงบ ไม่ขายแล้ว วันรุ่งขึ้นได้กลับคืนมาเลยครับ

 

....พอจิตสงบแล้ว ก็สวดคาถาเงินล้านควบไปด้วยเลยครับ แล้วก็จะมีลาภไม่มีอด

 

ผู้เข้าถึงพระนิพพานได้โดยง่าย พระพุทธเจ้าองค์ปฐม
<O</O
ในเรื่อง “ผู้เข้าถึงพระนิพพานได้โดยง่าย” นี้ ผมอ่านพบในหนังสือ “ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้นเล่ม ๑๕” โดยพระพุทธเจ้าองค์ปฐม รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน พระธรรมตอนนี้อยู่ในพระธรรมที่ทรงตรัสสอนไว้ในเดือนธันวาคม ๒๕๔๕ ข้อ ๑๐ แต่ในที่นี้ผมขอนำเสนอข้อ ๑ ถึง๑๐ เลย เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของเนื้อหา และได้ประโยชน์ที่กว้างขวางขึ้น<O</O
..................................................
สมเด็จองค์ปฐม ทรงตรัสสอนไว้ มีความสำคัญดังนี้
<O</O
๑.อะไรที่ทำแล้วเป็นทุกข์ จงอย่าทำ การจะทำอะไรก็ให้ทำไปเถิด เอาความถูกต้อง และเอาความสบายใจเป็นสำคัญ ทั้งนี้จักต้องไม่ขัดต่อศีล-สมาธิ-ปัญญาด้วย หากทำอะไรแล้วเกิดความทุกข์ใจ อึดอัดขัดข้อง จงอย่าทำ เพราะนั่นจักทำให้ขาดทุน ไม่ได้ผลดีในการปฏิบัติธรรมด้วย เรื่องของใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ระวังอย่าให้กิเลสมาฟอกจิตจนทำให้ไม่สบายใจ

http://www.tangnipparn.com/page_book_all.html คลิกเลย

 

วันนี้พี่ๆน้องๆท่านใดมีโอกาสไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก ที่วัดท่าซุง...ผมขอโมทนาบุญด้วยนะครับ....ติดภารกิจที่บริษัท เลยไม่ได้ไปครับ.....

 

นอกเรื่องนิดนึง สงสัยว่าทำไมไม่มีใครตั้งกระทู้ประสบการณ์วัตถุมงคลของหลวงพ่อเล็กอะ

 

มีท่านใดทราบมั้ยคะ หลังสวดคาถาเงินล้านจบแล้วจะต้องอธิษฐานขอโชคลาภเงินทองหรือเปล่าคะ
หรือเพียงแต่สวดไปเรื่อยๆไม่ต้องอธิษฐานหรือขอใดๆ พอดีช่วงนี้การเงินติดขัดสาหัสเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

ลองทำตามวิธีนี้ดูครับ ผมใช้อยู่ ให้นั่งหรือนอนสบายๆ จับลมหายใจเข้านึก "พุทธ" จับหายใจออกนึก "โธ" พอใจเริ่มสบายหน่อยๆก็เอาเลย ตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วยคาถา ตอนว่าคาถาให้นึกไว้เวลาว่าคาถานี้เป็นคาถาที่มีอานุภาพศักดิ์สิทธิมากๆ เราจะตั้งใจสวดให้ดีที่สุด (ตรงนี้กันอารมณ์ว่อกแว่ก จิตตก) แล้วว่าคาถาไปเรื่อยๆ นึกถึงภาพพระยืน 30 ศอก ที่วัดท่าซุง แล้วนึกเอาว่าเรากำลังใส่บาตรพระท่านอยู่ จะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง ข้าวสวยร้อนๆ อาหาร ผลไม้ เงิน ทอง ของมีค่า ฯลฯ ใส่ไปเรื่อยๆ จนสวดจบ 9 จบ และไม่ต้องอธิษฐานขออะไรซ้ำ เพราะตอนนี้ถ้าตั้งจิตผิดนิดเดียวจะกลายเป็นโลภ สวิทช์ตัดปั๊บหมดกันเลย

ทำแบบนี้ให้บ่อย และทุกครั้งที่จะสวดคาถาให้คิดให้รู้สึกว่าเรากำลังจะทำบุญตักบาตร ไม่ใช่คิดว่าเรากำลังจะขอหรือคิดว่าเราจะได้นะครับ (คือคิดว่าเราเป็นผู้ให้ ไม่ใช่ผู้รับ ตรงนี้จะช่วยตัดโลภ ตัดโกรธ ตัดอารมณ์เศร้าหมองและตัดอารมณ์ฟุ้งครับ เพราะจิตที่คิดจะให้ จะมีอานุภาพและการใช้งานที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าจิตที่คิดแต่จะเอาครับ)


ลองดูตามนี้แล้วมาดูผลกันครับ
ปล. ภาพจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=95660 ครับ

 

เทคนิคนี้ชอบครับ ยังไม่เคยทำเลย

ส่วนของผม ผมจะเปลี่ยนคำว่า เม เป็น เต หมายถึงผมตั้งจิตสวดให้ผู้อื่น อาทิ สวดถวายพระ สวดให้เขา ให้ไปเรื่อยๆ เป็นต้น

แต่ถ้าเดืิอดร้อนเรื่องเงินผมจะตั้งใจว่าสวดเพื่อให้จิตเลิกคิดฟุ้งซ่านเรื่องเงินๆทองๆ อย่างเช่นตอนที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินหรือขัดสนอยู่ อยากได้อยากมีอยากเป็น ตอนนั้นจิตมันจะคิดฟุ้งซ่านมาก คิดเละเทะไปเรื่อย อยากเป็นคนเลว ยักยอกเงินสักหน่อย ทุจริตสักหน่อยนึงครั้งเดียวพอ จะได้รวยเร็วๆ ไม่ต้องลำบากให้เหนื่อย

เลยอธิฐานบอกพระบอกหลวงพ่อว่าตอนนี้มันฟุ้งมากครับ ขอให้จิตมันนิ่งๆ ขอหลบความฟุ้งซ่านนี้ไปพักกับคาถาของหลวงพ่อสักหน่อย ก่อนที่จะออกมาฟุ้งซ่านต่อไป ก็เริ่ิมเลยครับ ตั้งใจทำ ไม่ต้องเกร็ง ทำสบายๆ นิ่งพริ้วสบาย ไม่ร้อนรน เหมือนไฟที่กำลังลุกโชนถูกดับด้วยน้ำไปชั่วขนะนึงเท่านั้นเองครับ ทีนี้สบาย มีความสุขดี ไม่ร้อนรนไม่อยากได้อะไร ก็ออกจากสมาธิมาก็แผ่เมตตาไปทั่วหมื่นจักรวาลแสนโลกธาตุสักหน่อย

จบแล้วครับ พอทำเสร็จแล้วกลับมาฟุ้งซ่านต่อได้เลยครับ เอาให้เต็มที่ ไม่ผิดแน่นอน และไม่มีใครว่า แต่มันจะมีบางอย่างมาครอบจำกัดขอบเขตความฟุ้งนั้นอยู่จนกระทั่งเลิกคิด ปล่อยวางไปได้ระยะหนึ่งครับ

วันดีคืนดีมันก็จะฟุ้งอีกเรื่อยๆ เป็นอย่างนี้ตลอดชีวิต ถ้าคนทำมาหากินแล้วอยากรวยนะ มันต้องมีฟุ้งแบบนี้แน่นอน ถ้ายังไม่อยากหยุด ยังไม่อยากพอ ก็แนะนำวิธีการนี้ครับ

ส่วนเรื่องของผลที่ได้รับนั้นทางด้านจิตใจจะโปร่งใสมากขึ้น สามารถรับรู้และใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาได้ จะรู้สึกว่าที่จริงมันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แค่นึกไม่ถึงเท่านั้นเอง ส่วนด้านอิทธิฤทธิ์ไม่ขอพูดถึง เพราะแต่ละคนย่อมได้ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับจิตว่าสามารถทำได้ดีแค่ไหน และ กำลังการให้ทานที่เคยทำมาครับ

 

ขอบคุณคำแนะนำดีๆ ของพี่ท่านทั้งสองนะครับ

 

โมทนาบุญในคำแนะนำที่มีคุณค่านะครับ

 

ผมได้ห้อยพระคำข้าว..พระหางหมาก..และสมเด็จองค์ปฐมรุ่น 3 อยู่ครับ..ห้องมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย..ผมได้มีโอกาสได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อองค์หนึ่งในสายพระคุณหลวงพ่อฤาษีท่านได้ให้จีวรขององค์หลวงพ่อฤาษ๊มาครับ ผมเลยนำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ3ชิ้นติดเข้ากับพระคำข้าว..พระหางหมาก..และสมเด็จองค์ปฐมรุ่น 3ที่มีมีอยู่..มิทราบว่าจะเหมาะวมไหมครับ

 

...ถ้าเรากระทำด้วยความเคารพศรัทธาไม่มีเจตนาปรามาส ความเห็นของผมก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมเองบางทีได้พระคำข้าวของหลวงพ่อฯจากข้างนอก ไม่ได้บูชาจากวัด ...
เพื่อความมั่นใจผมเองก็จะจะตัดขอบผ้ายันต์ธงพิชัยสงคราม หรือ นำทรายเสกแปะกาวติดที่พระองค์นั้นๆ หรือไม่ก็หยดน้ำมันชาตรีที่องค์พระเลยครับ....

 

พอจะมีคำแนะนำอยู่บ้างให้ไว้พิจารณานะครับ ผมทำแบบนี้ เวลาสวดพระคาถาหลวงพ่อบอกแล้วว่าห้ามอยากได้โน้นอยากได้นี่ ให้ทำใจให้สบายทำใจให้ว่าง พอสวดจบหมดเก้าจบ ผมก็จะอาราธนาพระและหลวงพ่อเป็นที่สุด ถ้ามีวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ก็บอกอาราธนารวมหมดเลยครับ ต้องการอะไรก็ว่าไป ท้ายสุดลงด้วย "ขอความปรารถนาของข้าพเจ้าจงสำเร็จทุกประการทั่งทางโลกและทางธรรม" ผมแบบนี้ ลองดูครับ (วัตถุมงคลที่มีผลทางด้านลาภสูงของหลวงพ่อก็มีพระคำข้าว พระหางหมาก องค์แก้วมณีรัตนะ เหรียญมหาลาภ ลองหามาไว้ติดตัวครับ)

 

ขอบคุณที่นำมาเผยแผ่ครับ โมทนาด้วยครับผม ได้ความรู้เทคนิคอีกหนึ่งวิธี ดีมากเลยครับ