เรื่องของพลังจิต

Discussion in 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' started by thanan, Mar 6, 2005.

  1. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 20, 2004
    Messages:
    1,668
    Featured Threads:
    1
    Ratings:
    +5,217
    <u>จากหนังสือ ธรรมะในจิต โดย อาจารย์ พิศ เงาเกาะ </u>
    <font color=green><h4><u>เรื่องของพลังจิต</u></h4></font>
    <h4><font color=blue>พลังจิต (Mind Power)</h4></font>
    <li>หมายถึงคลื่นความถี่ของพลังงานความคิด (Pranic Energy) ซึ่งเป็นพลังงานไฟฟ้าบวก (Proton) ไฟฟ้าลบ (Electron) ที่เกิดจากต่อมไพเนียล (Pineal Body) ที่สมองตอนบน เมื่อบุคคลคิดต่อมนี้จะสร้างคลื่นความถี่ของความคิดขึ้น

    <li>คลื่นนี้อาจจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขบวนการทางความคิด(Thinking Process) นั้น คลื่นนี้จะลอยอยู่รอบๆตัวผู้คิด เมื่อคิดถึงใคร
    คลื่นนั้นจะพุ่งตรงไปยังต่อมสร้างความคิดของผู้รับนั้น ถ้าผู้รับรับคลื่นความคิดนั้นได้ จะเกิดความคิดเช่นนั้นทันที เรียกว่าเกิดการรับรู้ความคิดของผู้อื่นได้
    บุคคลที่มีพลังจิตสูง

    <li>บุคคลที่มีพลังจิตสูงคือ บุคคลที่มีสมาธิดี เช่น มีสมาธิอยู่ในขั้นกลางที่เรียกว่าอุปจารสมาธิ และสมาธิขั้นสูงที่เรียกว่าอัปปนาสมาธิ
    <hr>
    <h4><font color=blue>การทำงานของพลังจิต</font></h4> <p>
    <li>จิตจะทำงานได้จิตต้องมีเครื่องมือคือร่างกายที่เป็นอยู่ของจิต จิตจึงแสดงผลออกมาให้เห็นได้ ส่วนของมันสมองมีหน้าที่รับคำสั่งของจิตคือ ต่อมไพเนียล (Pinial Body) ซึ่งเป็นต่อมเล็กๆสีแดงอมเทา รูปกรวย เป็นส่วนประกอบของปลายประสาท ต่อมนี้อยู่ในส่วนกลางตอนบนของมันสมอง เมื่อต่อมไพเนียลรับคำสั่งของจิตต่อมนี้จะสร้างเป็นคลื่นความถี่ออกมา คลื่นความถี่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความคิดนั้น และจะลอยอยู่รอบๆตัวผู้คิด และคลื่นความถี่นี้จะวิ่งไปตามประสาทต่างๆทั่งร่างกายเพื่อควบคุมการทำงานของอวัยวะนั้นๆ พลังงานไฟฟ้าที่ควบคุมอวัยวะต่างๆจะมีกระแสความถี่ต่างกันตามหน้าที่ของอวัยวะและคนนั้นๆอีกด้วย เช่น Electron และ Protron ที่ควบคุมการทำงานของเซลล์เนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆทำให้มีการสร้างและการทำลายของเซลล์ได้ตามปกติ เช่น ทำลายไป 10 เซลล์ก็จะสร้างขึ้นมาทดแทนเช่นเดิม อวัยวะนั้นจะทำหน้าที่ได้ตามปกติ สร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้สูงเป็นปกติ ร่างกายจะแข็งแรงสมบูรณ์
    <hr>
    <h4><font color=blue>การศึกษาพลังจิต </font></h4>
    <li>ได้มีการค้นคว้าทางพลังจิตทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ประเทศไทยเรียกพลังนี้ว่าพลังอำนาจทิพย์ ในต่างประเทศ เช่น ชาวจีนโบราณเรียกว่าพลังแห่งชีวิต
    (Life Force Energy) ชาวยุโรป เช่น เยอรมันเรียกว่าพลังงานแม่เหล็กสัตว์ (Animal Magnetism) ชาวรัสเซียเรียกว่าพลังงานชีวภาพ
    (Bioplasmic Energy) นักวิทยาศาสตร์ในกลุ่มประเทศตะวันตกเรียกว่าพลังชีวภาพ (Bio Energy) หรือพลังแม่เหล็กไฟฟ้า
    (Electo Magnetic Force)

    <li>บุคคลที่มีร่างกายแข็งแรงคือผู้ที่มีพลังจิตสมบูรณ์ควบคุมอยู่ทั่วทุกส่วนของร่างกายทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นแจ่มใสกระฉับกระเฉง พลังจิตจะเปล่งเป็นรัศมีออกโดยรอบร่างกาย ตรงกันข้ามคนป่วยจะมีพลังจิตควบคุมอยู่เพียงเล็กน้อย ภูมิต้านทานในร่างกายจะลดต่ำลง ร่างกายจะอ่อนแอ และจะมีร่างกายที่ปกติเหมือนเดิมได้เมื่อได้รับพลังจิตนั้นๆเพิ่มขึ้น

    <li>ดังนั้นพลังจิตจึงเป็นพลังงานที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย เช่น การหมุนเวียนของโลหิต การเจริญเติบโตของเซลล์ หากร่างกายส่วนใดขาดพลังจิตร่างกายส่วนนั้นจะไม่สามารถทำหน้าที่ใดๆได้ตามปกติ หรือร่างกายไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ พลังจิตที่ใช้กันทั่วไปมี 3 ลักษณะคือ
    1.<font color=blue>Telepathy</font> คือพลังงานแห่งเมตตา พลังนี้ติดต่อกันได้โดยทางจิต เป็นพลังงานที่ใช้เพื่อการสร้างสรรค์
    2.<font color=blue>Telkynesys</font> คือพลังงานที่ใช้บังคับวัตถุให้เคลื่อนที่ หรือใช้เพื่อทำลายวัตถุต่างๆ เป็นพลังงานที่ใช้เพื่อการบังคับหรือเพื่อการทำลาย
    3.<font color=blue>Teleportation</font> คือพลังงานที่ใช้เพื่อการล่องหนหายตัว เมื่อใช้พลังงานนี้แล้ว สามารถเดินบนน้ำบนอากาศ หรือเพื่อผ่านเครื่องกีดขวางได้
    พลังจิตผิดปกติทำให้เจ็บป่วย

    <li>จิตมีอำนาจเหนือร่างกาย ที่เรียกว่า จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธาน สำเร็จแล้วด้วยจิต เมื่อจิตมีอำนาจของกรรมครอบงำอยู่ จิตนั้นจะสั่งกายซึ่งเป็นเครื่องมือของจิตตามอำนาจของกรรมนั้น เช่น จิตมีอำนาจของอกุศลกรรมมาก พลังงานไฟฟ้าที่ออกมาจะไม่มีความสมดุลย์ทางธรรมชาติ เช่น ทำให้พลังงานไฟฟ้าบวกสูงมาก พลังงานไฟฟ้าลบสูงมากบ้าง จะมีผลทำให้ระบบการสร้างการทำลายของร่างกายไม่คงที่ ดังนี้ พลังงานไฟฟ้าบวกสูงมาก จะทำให้การสร้างเซลล์มากกว่าการทำลายหรือเท่าเดิม แต่รูปร่างโตกว่าเดิม จะเป็นสาเหตุของโรคบวม เนื้องอก เช่น โรคหัวใจ โรคมดลูก เนื้องอกธรรมดา เนื้องอกมะเร็งเป็นต้น

    <li>นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งได้กล่าวถึง ทฤษฏีเกี่ยวกับมะเร็งที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดว่า เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในตัวคนเราตลอดเวลา แต่ถูกทำลายโดยเซลล์เม็ดเลือดขาว ก่อนที่มันจะโตจนก่อพิษภัยแก่ร่างกาย โรคมะเร็งเกิดขึ้นต่อเมื่อระบบภูมิคุ้มกันถูกกดดันการทำงานไว้ ทำให้ไม่สามารถขจัดเซลล์มะเร็งที่ก่อตัวขึ้น ดังนั้นถ้ามีอะไรก็ตามส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองที่จะควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน มะเร็งย่อมเกิดขึ้นได้ พลังงานไฟฟ้าลบสูงมาก จะทำให้การสร้างเซลล์น้อยกว่าการทำลายหรือเท่าเดิม แต่รูปร่างเล็กกว่าเดิม จะเป็นสาเหตุของโรคลีบตีบต่างๆ เช่น หลอดเลือดตีบ ลิ้นหัวใจตีบ
    กล้ามเนื้อตาย มันสมองฝ่อ ภูมิต้านทานบกพร่อง ตับวาย ไตวาย กล้ามเนื้อหัวใจไม่ทำงาน เรียกว่า โรคไหลตาย เด็กเกิดมามีร่างกายไม่สมบูรณ์เป็นต้น

    <li>พลังงานไฟฟ้าภายในร่างกายของแต่ละบุคคลอาจไม่เท่ากันก็เป็นได้ ผมเคยพบว่าการเพิ่มเลือด เกล็ดเลือดให้คนไข้ สภาพร่างกายคนไข้ไม่ยอมรับเลือดหรือเกล็ดเลือดนั้น เพราะเลือดใหม่และเลือดเก่าไม่สามารถเข้ากันได้ แม้ทางการแพทย์จะวิเคราะห์แล้วว่าเป็นเลือดกรุ๊ปเดียวกัน เมื่อพิจารณาในสมาธิพบว่าพลังงานไฟฟ้าที่ควบคุมเม็ดเลือดนั้นไม่เท่ากัน แสดงว่าพลังงานควบคุมเม็ดเลือดของแต่ละคนจะเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ และพบอยู่มากกับกลุ่มผู้หลงผิดที่ไปรับเอาพลังงานอื่นมากดทับพลังจิตของตนเอง ทำให้การทำงานของพลังจิตของตนผิดไป

    <li>จิตนั้นจึงสั่งมาที่สมองของตนผิด การแสดงออกของร่างกายจิตผิดไปด้วย เช่น กลุ่มของคนทรงเจ้าเข้าผี กลุ่มของคนเหล่านี้จะไปรับเอาเวทย์มนต์คาถา ของอิทธิฤทธิ์ ของอาถรรพ์ดวงวิญญาณเข้ามาสิง เช่น ดวงวิญญาณกุมารทอง นางกวัก ปลัดขิก เจ้าพ่อ เจ้าแม่ น้ำมันพรายหรือองค์เทพต่างๆมาอยู่กับตนที่เรียกว่า เดรัจฉานวิชา ไม่เป็นจิตดั้งเดิมของตนเอง อาการป่วยของบุคคลเหล่านี้ทางการแพทย์จะตรวจหาสาเหตุไม่พบ
    <hr>
    <h4><font color=blue>การเพิ่มและการรับพลังจิต</font></h4>
    <li>บุคคลที่มีสมาธิดีจะมีคลื่นความถี่ และความรุนแรงของพลังงานความคิดสูง สามารถที่จะส่งพลังงานนั้นไปยังบุคคลที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้แน่ชัดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ตัวผู้รับได้ตามความปราถนานั้น เรียกว่า การเพิ่มและการรับพลังจิต การเพิ่มแต่ละครั้งแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพิ่มพลังจิตแต่ละครั้งนานเท่าใด ผู้เพิ่มพลังจิตจะทราบได้ในสมาธิจิตนั้น หากผู้รับยังรับได้ก็เพิ่มให้ต่อไป หากเห็นว่าพลังจิตที่ส่งไปนั้นหยุดลง ก็หยุดเพิ่มพลังจิตในครั้งนั้น และต้องเพิ่มพลังจิตกี่ครั้งจึงจะได้ผล สิ่งนี้ไม่มีกำหนดแน่นอนขึ้นอยู่กับผู้รับ หากผู้รับสามารถรับพลังจิตได้มาก และเห็นว่าอวัยวะที่ผิดปกตินั้นเปลี่ยนเป็นปกติเร็วพลังจิตที่ส่งไปจะหยุดลง ควรหยุดเพิ่มพลังจิตให้ผู้ป่วยกลับไปทำสมาธิภาวนาด้วยตนเอง ผู้ป่วยจะสร้างพลังจิตที่ดีขึ้นมาได้ พลังจิตนั้นๆจะบำบัดทุกข์ให้กับผู้ป่วยได้ในที่สุด
    การเพิ่มพลังจิตกระทำได้ 3 ทาง คือ
    1. เพิ่มที่อวัยวะนั้นโดยตรง
    2. เพิ่มที่จุดกำเนิดของพลังจิต คือที่ต่อมไพเนียล
    3. เพิ่มพลังจิตให้ครอบคลุมทั้งตัวผู้รับ จะเพิ่มให้ใครที่อวัยวะใดนั้นจะทราบและเห็นได้ในสมาธินั้นๆ<hr>
    <h4><font color=blue>ผู้เพิ่มพลังจิตที่ดี</h4></font>
    <li>ผู้เพิ่มพลังจิตที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้คือ เป็นผู้ที่ตั้งอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา และเมื่อเพิ่มพลังจิตให้กับใครก็ตามต้องรู้ทุกข์ รู้สาเหตุแห่งทุกข์ รู้หนทางดับทุกข์ และรู้วิธีการดับทุกข์นั้นๆโดยชัดแจ้งพร้อมตั้งตนอยู่ในพรหมวิหารธรรม และหิริโอตัปปธรรม ผู้รับพลังจิตที่ดี คือ เป็นผู้ที่มี
    1. ศรัทธา ผู้รับต้องมีศรัทธาที่จะรับพลังจิต
    2. สมาธิ ผู้รับต้องมีความตั้งมั่นแห่งจิตอยู่กับกายและจิตของตน
    3. สติ ผู้รับต้องมีความระลึกได้ว่าตนกำลังรับพลังจิตอยู่
    4. ปัญญา ผู้รับต้องรู้จักการปล่อยวางความทุกข์ออกจากจิตใจในขณะนั้น
    5. ความขยันหมั่นเพียร การรับพลังจิตนั้นต้องรับสม่ำเสมอและให้ตั้งอยู่ในคำสอนของพุทธองค์เป็นหลัก ดังกล่าวแล้ว
    <hr>
    <h4><font color=blue>การเพิ่มพลังจิตผ่านบุคคลอื่นวัตถุอื่น </h4></font>
    <li>บางกรณีที่จำเป็น คือ ผู้ป่วยไม่สามารถขอรับพลังจิตด้วยตนเองได้ เช่นอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช อยู่ต่างประเทศ ผมได้ทดลองเพิ่มพลังจิตผ่านกระแสจิตของผู้ใกล้ชิด เช่น พ่อ แม่ บุตร สามี ภรรยา ผู้ดูแล หรือผ่านลงไปในน้ำดื่ม ก็สามารถช่วยผู้ป่วยได้บ้างเป็นบางส่วนเท่านั้น<hr>
    <h4><font color=blue>บุญและบาปเป็นพลังงาน </h4></font>
    <li>หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 4 ธันวาคม 2536 และ 30 มกราคม 2537 ลงบทความเรื่องสัจธรรม โดย พญ.บุษกร กล่าวว่า
    ร่างกายของสัตว์เป็นสสารควบคู่กับจิตใจซึ่งเป็นพลังงานทั้งร่างกายและจิตถูกพลังงานแห่งกิเลสปรุงแต่งให้จิตมืดบอด หรือ ราคะ โทสะ และโมหะ ส่งผลให้เกิดมโนกรรม วจีกรรม และ กายกรรมและกระทำความชั่วต่างๆได้ตามอำนาจของกรรมนั้นๆ

    <li>บุคคลที่มีจิตมีสัมมาสมาธิ สัมมาทิฏฐิ มีจิตเมตตาปราณี ทางการแพทย์พบว่าต่อมใต้สมองจะผลิตสารบุญเรียกว่า เอนดอร์ฟีน (Endorphine) ออกมามากส่งผลให้ร่างกายเบาสบาย ที่เรียกว่าเกิดปิติ กินได้นอนหลับ ไม่ฝันร้าย หรือไม่ฝันเลย ผิวพรรณผ่องใสใบหน้าสดชื่น โคเรสเตอรอลละลายสลายตัว เม็ดเลือดขาวแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรคสูง ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้ดี เจ็บป่วยทางกายน้อยลง บาดแผลหายเร็วกว่าผู้มีจิตใจเป็นบาปถึงเท่าตัว หากเป็นโรคมะเร็ง เซลล์มะเร็งจะหยุดหรือลุกลามช้าลง

    <li>ในทางตรงกันข้าม บุคคลที่จิตมีมิจฉาสมาธิ มิจฉาทิฏฐิ จิตที่คิดเกลียด โกรธ อิจฉาริษยา อาฆาต พยาบาท เคียดแค้น เครียด วิตกกังวล ต่อมหมวกไตจะสร้างสารบาปออกมามาก สารนี้จะซึมเข้าสู่กระแสโลหิตแล้วไปออกฤทธิ์ที่อวัยวะเป้าหมาย ดังนี้
    1. สารแอดรินาลิน (Adrenalin) ทำให้หัวใจเต้นเร็งแรง เส้นโลหิตแดงหดเกร็ง เป็นเหตุให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ถ้าเส้นเลือดแดงที่ไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อผนังหัวใจหดจนตีบตัน หัวใจจะวายถึงตายได้ โคเรสเตอรอลจะถูกสร้างขึ้นทั้งๆที่มิได้รับประทานไขมันสัตว์ กะทิ ไข่แดง หอยนางลม หรือเครื่องในสัตว์มากกว่าปกติ
    2. สารสเตียร์รอยด์ (Sterroid) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการหลั่งน้ำย่อยอาหาร อาจมีผลทำให้หลั่งมากหรือน้อยก็ได้ ถ้าหลั่งมากน้ำกรดในน้ำย่อยย่อมกัดผนังด้านในของกระเพาะอาหารทำให้ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ถ้ากัดกร่อนเส้นเลือดใหญ่ทะลุ จะอาเจียนเป็นเลือด หากช่วยไม่ทันจะเสียเลือดจนตาย ถ้าหลั่งน้อย ท้องจะอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ไม่อยากรับประทานอาหาร
    3. สารแลคติค แอซิด หรือ เกลือแลคติค (Lactic Acid) ที่เกิดขึ้นแล้วมีผลต่อร่างกาย คือ
    3.1 ทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำลายความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว เหมือนฤทธิ์ของ HIV เชื้อโรค AIDS ร่างกายจึงอ่อนแอ เจ็บป่วยบ่อย หายนาน
    3.2 เกล็ดเลือดในกระแสโลหิตจับตัวกันเป็นลิ่มเล็กๆ ไปอุดตันตามหลอดเลือดฝอยต่างๆ ถ้าเกิดขึ้นกับอวัยวะสำคัญ เช่น มันสมองจะทำให้เกิดอัมพาตขึ้นได้

    <li>พลังงานแห่งวิบากกรรมเหล่านี้ เมื่อถูกก่อขึ้นแล้วมิอาจสูญหายไปในทางใดได้ พลังงานดังกล่าวจะตามสนองเรื่อยไปตามโอกาสตราบจนผู้นั้นสิ้นกิเลส สิ้นกรรม ไม่ก่อพลังงานของกรรมใหม่อีกต่อไป ที่เรียกว่า กรรมเป็นผู้ติดตาม

    <li>เมื่อท่านทราบผลกรรมที่เป็นปัจจุบันกรรมเช่นนี้แล้ว ขอได้หยุดสร้างกรรมต่อกัน ทั้งมโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม พลังงานของวิบากกรรมจะเกิดขึ้นน้อยหรือไม่เกิดขึ้น การทำงานทุกระบบของร่างกายจะเป็นปกติ ท่านจะมีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ
     
    Last edited: Mar 6, 2005
    • ถูกใจ ถูกใจ x 74
    • List
  2. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jan 6, 2005
    Messages:
    9,776
    Ratings:
    +36,839
    Very well Na Ka ....
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 9
    • List
  3. ดาวหางสีเงิน

    ดาวหางสีเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jan 2, 2005
    Messages:
    726
    Ratings:
    +795
    สนใจครับ ^^
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List
  4. กระเจียว

    กระเจียว เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 18, 2004
    Messages:
    1,353
    Ratings:
    +2,011
    กระทู้5ดาว
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 11
    • List
  5. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 20, 2004
    Messages:
    2,098
    Ratings:
    +2,662
    ตอนนี้กำลังสะสมพลัง(โรค)จิต ไว้ต่อกรกับอสูรร้ายภายในใจ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 11
    • List
  6. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jan 30, 2005
    Messages:
    4,033
    Ratings:
    +10,044
    ว้าววววววววววว(b-flower)
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 9
    • List
  7. jeds22

    jeds22 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Nov 21, 2004
    Messages:
    192
    Ratings:
    +498
    จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
    ทุกสิ่งเกิดที่จิต และจบลงที่จิต
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 9
    • List
  8. Nemo

    Nemo Active Member

    Joined:
    Jan 25, 2005
    Messages:
    40
    Ratings:
    +97
    ผมอยู่ใกล้คนหนึ่งแล้วมีพลังจิต แต่อยู่กับอีกคนหนึ่งไม่มีพลังจิต พยายามจะรวมก็รวมไม่ได้
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 8
    • List
  9. กระสือข้างส้วม

    กระสือข้างส้วม เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jan 12, 2005
    Messages:
    1,212
    Featured Threads:
    1
    Ratings:
    +392
    (verygood) Oh! Very Good ......
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 8
    • List
  10. นิรทุกข์

    นิรทุกข์ Active Member

    Joined:
    Mar 8, 2005
    Messages:
    73
    Ratings:
    +93
    กาลามสูตร
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 9
    • List
  11. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 13, 2004
    Messages:
    124
    Ratings:
    +230
    (b-ping) ครับผม
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 9
    • List
  12. ! ผาเมือง

    ! ผาเมือง Active Member

    Joined:
    Mar 17, 2005
    Messages:
    2
    Ratings:
    +38
    จิตที่ว่างเปล่า (ชั่วขณะหนึ่ง) เปรียบเสมือนพลังจิตหรือเปล่าหนอ ?
    ครั้งหนึ่งในวันปีใหม่ ได้ไปสวดมนต์ที่วัดแห่งหนึ่ง สวดในสถานที่ ที่รู้สึกว่า ถูกจริตมาก
    คนที่ร่วมสวดในครั้งนี้มีไม่มาก ประมานยี่สิบกว่าคน แต่ละคนนั่งเรียงเป็นแถว
    แถวละห้าคน ประมาน ห้าแถว
    หลังจากที่สวดจบแล้ว คนที่นั่งด้านหน้า ซึ่งเป็นพี่ผู้หญิง หันมากล่าวว่า " พลังจิตคุณแรง
    แรงจนพี่เกือบอดใจหันมามองว่าเป็นใครไม่ได้ "
    (น่าเสียดายว่าพี่คนนี้ พึ่งเสียชีวิตเพราะ โรคมะเร็งในลำไส้ไปประมานสักสามอาทิตย์ที่แล้ว)
    ฟังคำปรารถของเธอจบ ผมก็บอกว่าเปล่าเลย ผมไม่มีพลังจิตดอก ช่วงที่สวดนั้น
    จิตผมว่างว่างมาก แทบไม่ได้ยินเสียงบุคคลอื่นเลย

    จิตที่ว่างนับเป็นพลังจิตหรือไหมหนอ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 17
    • List
  13. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 20, 2004
    Messages:
    1,668
    Featured Threads:
    1
    Ratings:
    +5,217
    สงสัยคุณจะเข้าฌานในขณะสวดมนต์อยู่ อย่างน้อยก็ฌาน 2 ล่ะครับ เพราะคุณแทบไม่ได้ยินเสียงบุคคลอื่นเลย
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 12
    • List
  14. jit_jai

    jit_jai Active Member

    Joined:
    Mar 17, 2005
    Messages:
    38
    Ratings:
    +57
    แล้ว ถ้ารับสัมผัสได้ ได้บ้างไม่ได้บ้าง แปลว่ามี พลังหรือรับพลังไหมคะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List
  15. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 20, 2004
    Messages:
    1,668
    Featured Threads:
    1
    Ratings:
    +5,217
    ได้บ้างไม่ได้บ้าง นี่ก็ถือว่าพอได้ครับ แต่ก็ต้องหมั่นทำอย่างสม่ำเสมอ ให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้นหรือไม่ยังงั้นก็ให้คงเท่าเดิม ไม่งั้นมันจะเสื่อมไปได้
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 9
    • List
  16. jit_jai

    jit_jai Active Member

    Joined:
    Mar 17, 2005
    Messages:
    38
    Ratings:
    +57
    ตอนนี้จิตไม่สงบ.........กำลังเอา เพลงมหาเมตตา ข่มอยู่

    ขอพัก สักนิด ให้สงบแล้วค่อยตั้งต้นใหม่

    อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยทีเดียว

    ขอบคุณมากค่ะ.............สาธุ สำหรับความกระจ่าง
     
    Last edited: Mar 19, 2005
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List
  17. kiatkiat

    kiatkiat เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Nov 25, 2004
    Messages:
    665
    Ratings:
    +826
    อ่า ขอบคุนในข้อมูลที่นำมาเผยแผ่นะฮะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 11
    • List
  18. jojokola

    jojokola เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Apr 13, 2005
    Messages:
    44
    Ratings:
    +100
    ขอบคุณครับสำหรับบทความ

    นับว่าเป็นการนำวิทยาศาสตร์ มาอธิบายได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 10
    • List
  19. pastela

    pastela บุคคลทั่วไป

    Ratings:
    +0
  20. rin5297

    rin5297 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jul 28, 2005
    Messages:
    103
    Ratings:
    +569
    ผู้อยากรู้

    หลังสวดมนต์เสร็จนั่งสมาธิ ตอนนั่งหายใจเข้าภาวนาคำว่า พุทธ หายใจออกภาวนาคำว่า โธ
    แล้วไงต่อครับ จิตเรานึกถึงหรือเพ่งไปที่ไหนอย่างไร วานผู้รู้ตอบหน่อยครับ
     

    Attached Files:

    • boat.jpg
      boat.jpg
      File size:
      88.6 KB
      Views:
      206
    • ถูกใจ ถูกใจ x 9
    • List

Share This Page

Loading...