กลจักรทองคำสู่ความมั่งคั่งและอิสรภาพแห่งชีวิตสู่ "เศรษฐกิจพลังงานใหม่"

ที่จริง ประชาชนก็เป็นผู้มีอำนาจในการกำหนด
ด้วยการเลือกตั้ง ตามประชาธิปไตย อยู่แล้วนี่ครับ

 

ป.ล.

อ้อ ลืมบอกไปประเด็นหนึ่ง แนวคิดพลังงานใหม่นี้
เขาจะใช้เงินทุนน้อย, ทรัพยากรน้อย และยังใช้เวลา
หมดไปกับการทำงานให้น้อยลงด้วย จึงมีเวลาเหลือใน
การดำรงชีวิตแบบรอบด้านมากขึ้น มีเวลาแบ่งไปเข้าใจ
ในมิติอื่นๆ ที่แตกต่างมากยิ่งขึ้นด้วย จึงมี "อิสรภาพแห่ง
ชีวิตที่มากขึ้น" ด้วยครับ แต่รายละเอียดมันเยอะมาก กว่า
จะไปสู่จุดนั้นได้ เลยไม่ได้เขียนอธิบายไว้ในบทความนี้ครับ

 

ตอน นี้ คน เลว มัน ครอง คำ ว่า ประชาธิปไตย ไป แล้ว

ประชาธิปไตย มัน ไป อยู่ ใน มือ ของ เสือ นอน กิน

ประชาชน ใส ซื่อ จะ เหลือ อะไร ให้ รับ ประทาน กัน ล่ะ...

ระบบ ที่ นำ มา มัน ปลอม ครับ

เพราะ คน ....มัน ไม่ ดี จริง

เจอ อำนาจ ที่ หอม หวน

เจอ เงิน ที่ มาก มาย รอ อยู่

เจอ เกียรติ จน ขา ไม่ มี ขน (คิดว่างามแล้ว)

ก่ เสร็จ ทุก ระบบ ล่ะ ก่า ก่ะ

 

ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่คิดว่าจะเขียนหรือไม่เขียนดี?
แต่ก็เอาเถอะ ทำไปตามหน้าที่ครับ ที่เหลือแล้ว
แต่ธรรมชาติจัดสรร ...

 

2 ท่านนี่เค้าคุยกันน่ารักดี..ขอบคุณสำหรับ สื่อ /ความคิด/สิ่ง ดีๆ ที่มาแบ่งปัน..

 

ตัวจริงเขามาแล้วนะค๊ะ

คือเอิ่มม...พระศรีฯ(ตัวจริง) เค้าก็มาสื่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจกันอย่างคร่าวๆกันแล้วแหละนะค๊ะ

ส่วนใครไม่เชื่อหรืออยากจะเถียงล่ะก็ เชิญ ค่ะ

ปายยล่ะ ไม่อยากเถียงด้วย
เปลืองน้ำลาย ไม่อยากเอาพิมเสนมาแลกกับเกลือ

(เอาเป็นว่า ใครจะมีความเชื่อหรือมีความคิดเห็นอะไรอย่างไรกันกับพระศรีฯ ก็เชื่อกันไปนะค๊ะ ไม่ขอยุ่งกับความคิดพวกคุณ และไม่อยากจะไปเปลี่ยนความเชื่อของพวกคุณค่ะ)

ปล...คือเอิ่มมม....หนูไม่ใช่พระศรีฯค่ะ

rabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_away

 

ไม่มีใครที่เลวอย่างแท้จริง และก็ไม่มีใครดีอย่างแท้จริงหรอกคร่า คุณมิเคยเลวหรือค๊ะ แต่คือหนูไม่ได้ปกป้องคนนั้นที่คุณคิดว่าเลวหรอกนะค๊ะ แต่คืออยากจะชี้ให้เห็นว่า คนเรามันก็มีดีมีเลวกันในตัวทุกคนนั่นแหละค่ะ เท่านั้นแหละค่ะ จบ ไปล่ะ ไม่อยากทำสงครามน้ำลายโดยมิจำเป็น หุ หุ

คนที่ว่าตัวเองดีนั่นแหละ ความจริงแล้วร้ายลึก ร้ายนักเชียว

(ไม่ได้เจอกันซะนาน คิดถึงนานจองล่ะซี๊ซี๊ซี๊ซี๊ซี๊ซี๊ซี๊ซี๊)(f)(kiss)(f)(kiss)(f)({)

 

ในวิชาการตลาดก็พูดถึงกิจกรรมเพื่อสังคมนะ....มีมานานแล้ว ทำโน่นนี่นั่นแล้วให้สื่อมาปรชาสัมพันธ์ว่าทางบริษัท ห้าง ร้าน ได้ทำอย่างนี้ นี้ นะ ค่าสื่อโฆษณามากกว่าเงินที่ลงไปกับกิจกรรมที่ทำเสียอีก ประโยช์ที่ทำต่อคนร้อยคน โฆษณาให้คน 60 ล้านคนรับรู้...ท้ายที่สุดแล้วก็คุ้มค่ากับตัวเงินที่กลับมา อันนี้ไม่ใช่ว่าโยนเงินไปมั่วๆนะ แต่ต้องวางแผนก่อน เขาจึงทำกัน ^__^

 

ผมเคยคิดเปรียบเทียบคนรวยกับคนจนนะ คนจนมีมาก คนรวยมีน้อย ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มันเป็นเหมือนกฎธรรมชาติง่ายๆ เพียงแต่ใครที่จะอยู่ในตำแหน่งนั้นๆก็เท่านั้นเอง.

เหมือนแม่น้ำสายเล็กๆที่ใหลมารวมกันจึงเกิดแม่น้ำสายใหญ่ ฉันใดก็ฉันนั้น บุคคลผู้ร่ำรวยก็เกิดจากบุคคลผู้ที่จน ผู้ที่จนก็เปรียบได้กับแม่น้ำสายน้อยที่มีอยู่มากมาย ผู้ที่รวยก็เปรียบเสมือนแม่น้ำสายใหญ่ที่มีเพียงไม่มากฉันนั้น ตราบใดที่แม่น้ำน้อยใหญ่บนโลกนี้มีขนาดที่ไม่เท่ากัน ความเท่าเทียมกันของเพื่อนมนุษย์ก็ไม่มีวันเป็นไปได้ ถึงแม้จะมีคำพูดที่สวยหรูคอยปลอบประโลมใจอยู่ก็ตาม.

 

ใคร ที่ เสพ อำนาจ แล้ว จะ รู้ ว่า คน ดี เปลี่ยน แปลง ได้

ใคร ที่ เห็น ผล ประโยชน์ จาก อำนาจ และ เงิน ที่ ตาม มา คน ดี เปลี่ยนแปลง ได้

ใคร ที่ เห็น ผล ประโยชน์ จาก ชื่อเสียง ก่ จะ เห็น เงิน ตาม มา คน ดี เปลี่ยนแปลง ได้


คำ ว่า คำ ดี คือ มอง ดู ดี

หรือ ว่า ดี คือ ดี จริง ๆ

อำนาจ เงิน ชื่อเสียง สาม สิ่ง นี้ คือ ตัว เดียว กัน

ได้ อัน ใด อัน หนึ่ง สอง สิ่ง ที่ เหลือ จัก ตาม มา ตาม ลำดับ

เมื่อ มี ครบ ก่ หลง ไหล ได้ ปลื้ม ว่า ตน ยิ่ง ใหญ่ แล้ว

เมื่อ ยิ่ง ใหญ่ ปัญหา หนัก คือ รักษา ความ ยิ่ง ใหญ่

และ จัก ไม่ มี เวลา มา ดู แล งาน ที่ ตั้ง ใจ ไว้ เพราะ ความ ยิ่ง ใหญ่

จะ มี ศัตรู เยอะ หมด เวลา ไป กับ ความ ยิ่ง ใหญ่ ของ ตน เอง

และ ก่ จะ จบ ตน เอง เพราะ ความ ยิ่ง ใหญ่

นั่ง ดู ข้าง นอก ก่ มอง เห็น .....

 

มอบ อำนาจ ให้ ประชาชน ยิ่ง ใหญ่ มาก

เห็น ยัง ....

ประชาชน (บางกลุ่ม) ก่ คิด ว่า ตน เอง มี อำนาจ

มี สิทธิ จึง ออก มา เรียก ร้อง สิทธิ กัน สอง กลุ่ม ใหญ่

และ ก่ อ้าง ความ ดี กัน

นี่ ล่ะ คือ อำนาจ ของ ประชาชน ที่ ให็ ไป ใช้ อย่าง อิสระ เสรี

ขอบ เขต ที่ เหมาะ สม กับ สภาวะ ของ สังคม หรือ ประชาชน อยู่ ตรง ไหน???

 

เรื่อง กิจกรรมฯ เป็นแค่ 1 ในล้านๆ
ตัวอย่างที่ขอยกมา 1 อย่างนะครับ
ถ้าเข้าใจแนวคิด "พลังงานใหม่"
จริงๆ มันไปได้มากวิธีกว่านั้นเยอะ


มันเป็นแค่การยกตัวอย่าง ที่อาจ
ตรงกันกับบางท่านเคยใช้ แต่สิ่ง
สำคัญมันอยู่ที่ "การใช้พลังงาน
ใหม่" ให้เป็นครับ เพราะถ้าใช้
ได้ มันได้มากกว่า 1 ตัวอย่าง
นั้นนะครับ


ใช้ "พลังงานใหม่" เป็นเหตุ ก่อ
ผลผลิตใหม่ๆ ได้มากมายครับ

 

คงไม่ดีนะครับ ถ้าให้คนมีเงินเท่ากันหมด
ถ้าคนหนึ่งขยันมาก แต่อีกคนขี้เกียจมาก
มันคงไม่สะท้อนภาพความจริงนะครับ


ความเท่าเทียมไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเงิน
มันควรหมายถึง โอกาส, การเข้าถึง,
กติกาในการแข่งขันที่ยุติธรรม ฯลฯ
เป็นต้น มีอีกหลายอย่าง แต่ไม่มี
เวลาจะมานั่งเขียนให้ละเอียด
ทั้งหมดครับ

 

ยกตัวอย่างการใช้พลังงานใหม่ ในทางเศรษฐกิจ


นาย ก. ลงทุนโฆษณา TV แต่ว่าไม่ประสบผลสำเร็จ
ต่อมาเปลี่ยนเป็นทำคลิปลงยูทูป แต่เขาเพิ่มพลังงาน
ใหม่เข้าไป คือ พลังจากพระอาทิตย์ ทำให้งานของเขา
สว่างไสว และน่าสนใจมากขึ้น ต้นทุนต่ำ แต่แพร่หลาย
จนออกข่าวทางทีวี ประสบความสำเร็จได้?


คือ อย่างไรดีละ? คนสองคนใช้สิ่งเดียวกัน แต่พลังงาน
มันต่างกัน เข้าใจไหม? สำคัญคือ รู้จักวิธีใช้พลังงานใหม่
หรือไม่? ถ้าไม่รู้ ก็จบครับ ไปอ่านเอา ศึกษาเอาละกัน ...