เรื่องราวหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ

" แต่ถ้ามีผู้บัญชาการสูงสุดไปด้วย(ภรรยา) อันนี้พูดยากครับ อิอิอิ<!-- google_ad_section_end --> "

นี่แหละครับคือปัญหา ขนาดว่าคล้องสมเด็จแหวกม่าน สวดคาถาพระอุปคุตปราบมาร ยังเอาไม่ลง...ฮ่า ฮ่า

ขอฝากอีกองค์ครับ ขอรายละเอียดการสร้างด้วยครับผม

 

ราคาบุชา สำหรับผม ผมว่าถูกกว่าหลายๆ ที่นะครับ อย่าลืมบูชาเบี้ยแก้มาด้วยนะครับ ของดีราคาเบา (หวิว)...... เผลอๆ หลวงพ่อคิดครึ่งราคาอีก ผมเจอมาแล้ว ท่านบอกเอาไว้มีแล้วค่อยมาให้...แถมยังหยิบวัตถุมงคลให้อีก...... ท่านเมตตามากครับ อย่าลืมให้ท่านจารหัวให้นะน้าเริญ เผื่อได้เลื่อนยศเป็น พล. อิอิอิ.......

ส่วนพวกพระบูชาก็มีเยอะครับ ส่วนตัวผมอยากได้ปู่เวสฯ นานแล้ว 5555 แต่ยังไม่มีโอกาส แผ่นยันต์จารมือก็งามนะครับน้าเริญ เห็นแล้วจะลืมนึกไปว่าจารมือจริงๆ....

 

ครับ ผมเองก็ได้จากหลวงพ่อพิเชฐ มาเยอะครับ ท่านให้มามากจริง ๆ บางครั้งเกรงใจหลวงพ่อมาก ๆ บอกไม่เอา ท่านก็บอกว่า "เอาไปเหอะ หลวงพ่อให้" หลวงพ่อพิเชฐ เป็นพระดีที่กราบไหว้ได้สนิทใจครับ ท่านทำวัตถุมงคล ไม่ได้คิดหวังเอากำไรเข้าพกเข้าห่อ มากมายเหมือนที่อื่น เมื่อวานไปซื้อยา พนักงานร้านขายยา เห็นเหรียญแรงครู เนื้อชนวน แล้วชอบใจ ฝากผมเช่าอีก 2 เหรียญ บอกว่า "สวยดี ยันต์ข้างหลังนี้ ถ้าหลวงพ่อไม่เก่งจริง ทำไม่ได้แน่" ผมก็เลยบอกว่า "รู้ได้ไงวะเรื่องยันต์ฺนี้ แล้วดันไม่เจอกันก่อนหน้านั้น จะได้เช่ามาให้ เพราะเพิ่งจะไปมา และเช่าให้ไอ้เล็กร้านปาท่องโก๋ มา 1 เหรียญ แล้วจะไปเช่าให้ได้เมื่อไร ค่าแก๊ส ค่าน้ำมันยิ่งแพง ๆ อีก ที่สำคัญ ผบ.ทบ. ที่บ้าน จะเหล่เอาได้ เพราะอยู่ไม่ติดบ้าน รอก่อนแล้วกัน" มันก็บอกว่า "ถ้ารอกลัวเหรียญจะหมดก่อนน่ะสิ" ผมเลยบอกว่าถ้ามีโอกาสได้ไปจะเช่ามาให้ ไม่งั้นจะเอาหนังสือมาให้ดูถึงวิธีการเช่าทางไปรษณีย์นะ" มันก็บอกว่า "เช่าทางไปรษณีย์ไม่เป็น" ก็เลยตัดสินใจจะดำเนินการให้เจ้าลูกน้องร้านขายยา ส่วนจะเป็นวิธีการใด ก็รอดูความเหมาะสมอีกทีนึง

 

แล้วสรุปเค้ารู้เรื่องยันต์ได้ยังไงครับพี่โจ๊ะ.....แหะๆๆๆ อยากรู้

 

เจ้า...... ลูกน้องร้านขายยา (ร้านเก่า และใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครปฐม) มันชอบเล่นพระ และวัตถุมงคลต่าง ๆ มันคงมีดีและรู้อะไรหลายอย่าง มีเมียหลายคน เรื่องยันต์ข้างหลังเหรียญนี้ว่าไปแล้ว ตอนหลวงพ่อปลุกเสก ที่บาตรน้ำมนต์ที่เจ้านัน ต่อเทียนอยู่ ดอกเทียนเลื่อนไปมาคล้ายยันต์ข้างหลังเหรียญนี่ เจ้านันเห็น ผมก็เห็น แต่ดันลืมกดชัตเตอร์ ซะนี่

 

ไม่ได้ติดตามตั้งแต่ต้น อยากทราบยันต์หลังเหรียญแรงครู เป็นยันต์อะไรครับ
รบกวนผู้รู้ด้วยครับ

 

เรียกว่ายันต์นาคเกี้ยวครับผม ลองย้อนๆดูครับมีภาพให้ชม

 

.......ยันต์นาคเกี้ยวพันกัน...เป็นยันต์ค่ายกล...กับยันต์คุณพระ..ด้านหลังครับ.........
.......บูชาติดตัวไว้สักเหรียญหนึ่งเถิด..แล้วจะรู้ถึงความขลังของเหรียญครับ...........

 

หลวงปู่ทวดเนื้อผง องค์นี้ หลวงพ่อท่านจัดสร้างเอง น่าจะต้นปี 54 หรืออาจจะปลายปี 53 ครับ ยันต์ด้านหลัง หลวงพ่อเรียกว่า ยันต์จักรวาล ซึ่งไม่เหมือนใคร เพราะมีนิมิตรมาบอกให้ทำยันต์แบบนี้ เรียกว่ายันต์จักรวาล ผมก็ถามว่า ใครมาบอกหลวงพ่อครับ ท่านก็บอกว่า เดี๋ยวก็รู้เอง จบครับ เท่าที่พอมีข้อมูลในสมองครับ

รุ่นนี้บางทีหลวงพ่อท่านแจกนะครับ บางทีแจกหลายองค์เลย ในวัดไม่แน่ใจว่ายังมีหรือป่าว แต่ผมคิดว่าน่าจะมีนะครับ

 

..................ตอนหลวงพ่อพิเชฐสื่อจิตไปเจอหลวงพ่อพรเทพอย่างไร....น้องนันจะมานำ

เสนอต่อไป.....

..................แต่ผมขอเล่าเรื่อง..ต่อ.."การส่งจิตของหลวงพ่อพิเชฐกับหลวงพ่อพรเทพ" ..

ซึ่งเป็นรูปที่ 3 ต่อจากหลวงปู่เสงี่ยมครับ...

..................วันที่ 14 มกราคมหลังจากกลับมาจากหลวงพ่อสมคิด..มารายงานให้หลวง

พ่อพิเชฐทราบ...เพื่อปรึกษาว่าจะนิมนต์พระมาร่วมพิธีปลูกเสกเหรียญแรงครูกี่รูป....ก็สรุปว่า

5 รูป...โดยหลวงพ่อบอกว่า"เป็นหลวงพ่อพรเทพรูปหนึ่ง องค์นี้เก่งมาก..ยังไม่เคยไปปลุก

เสกที่ไหน....ส่งจิตคุยกับท่านว่าจะนิมนต์ให้มาร่วมปลุกเสก...แล้วให้เจ้า(จำไม่ได้).....ไป

บอกแก่ท่าน...ท่านบอกว่า..เจ้า...กลับมารายงานว่า..หลวงพ่อพรเทพรู้แล้ว...ไม่รู้ว่ารู้ได้

อย่างไรว่าหลวงพ่อให้มาร่วมปลุกเสก......ซึ่งหลวงพ่อพิเชฐเล่าไปก็ยิ้ม ๆ

...................แสดงให้เห็นว่า..ระหว่างหลวงพ่อพิเชฐและหลวงพ่อพรเทพต่างคุยกันด้วย

การส่งจิต..จนเป็นเรื่องเป็นราว....ผมเชื่อว่าท่านคงคุยกันทางจิตมานานแล้ว......ระดับพระที่

ส่งจิตคุยกันได้ก็ไม่น่าจะธรรมดาในความคิดของผม....โดยเฉพาะหลวงพ่อพิเชฐที่ถึงขนาด

ส่งจิตตามดู..ผมกับน้องนันสองคนในการทำหน้าที่และท่านก็คอยช่วยเหลืออยู่....ทำให้เห็น

ว่านอกจากส่งจิตแล้ว...ในกระแสจิตนั้น..ยังมี"ความรักเมตตาและความห่วงใยในตัว

ศิษย์"อยู่ด้วยครับ....ความเมตตาของท่านสมกับ.."เป็นพระอาจารย์ของลูกศิษย์จริง ๆ

ครับ"..........

 

ผมทัวร์วัดมาเยอะแล้วครับ....... ของวัดโคกหม้อ ถูกสุดแล้ว..... แต่ไม่ใช่ว่าพุทธคุณจะด้อยกว่าที่อื่นเลย เหนือกว่าหลายๆวัดที่ผมไปทัวร์มาเสียอีก

ลองคิดนะครับ ตะกรุดจารมือ ดอกละ 200 บาท เชือกคาดเอว จารทั้งแต่ต้นชนปลาย ถักเชือกหุ้ม 500 หนุมานไม้พยุงแกะ พร้อมเลี่ยม 300 ผมว่าไม่มีที่ไหนราคานี้แน่นอน หลวงปู่ทวด องค์ใหญ่ บูชา 500 คุ้มค่ามากๆ พุทธจารย์โต องค์ใหญ่ 300 หลวงพ่อทำได้ไงก็ไม่ทราบ มวลสารก็เยอะ

คุ้มค่าอย่างแรงครับ

 

ข้อความนี้ถูกใจมากๆครับ

สิ่งหนึ่งที่ท่านทำทุกวันคือ ส่งจิตออกไปดูลูกศิษย์ลูกหา ท่านเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ

บางทีอาจจะดูเหมือนถูกติดตาม......พี่ชายก็เคยรู้สึกแล้ว.....

 

วันพรุ่งนี้ถ้ามีเหตุจำเป็นทำให้ไปไม่ถึงวัดโคกหม้อ

สัญญาว่าจะโดดงานไปใหม่ให้จงได้​

 

แหะๆๆๆๆ เอามาให้อ่านกันอีกครั้งสำหรับทั้งศิษย์ใหม่และศิษย์เก่า

 

ขอให้ได้ไปตามใจหวังนะครับน้าเริญ จะได้ไม่ต้องโดดงาน อิอิอิ เป็นห่วง

 

.................เนื้อเหรียญแรงครู"เนื้อชนวน"..ที่ผสมกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแต่ละเหรียญ.."ไม่เหมือนกันสักเหรียญครับ"(ส่วนเนื้อที่ผสมครับ)

 

...........อาจาริยบูชาพระอาจารย์สมคิด ปโยคจิตโต ลูกศิษย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร........

....................เรื่องนี้คัดลอกมาจากหนังสือ "พระสุวรรณภูมิ" ที่ลงพิมพ์เรื่องราวของหลวงพ่อสมคิดเอาไว้..ขอนำมาเสนอให้อ่านกันเพื่อเพิ่มความศรัทธาครับ...ว่าตามหนังสือเลยครับ.....
....................สำหรับครูบาอาจารย์ที่จะแนะนำในฉบับนี้ไปไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไรครับ...แค่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรีนี้เอง...พระอาจารย์สมคิด ปโยคจิตโต..ท่านได้มาพักที่วัดเขาวงศ์เพื่อช่วยพัฒนาวัดและถาวรวัตถุเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ท่านเป็นลูกศิษย์ของ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร สุดยอดเพชรน้ำหนึ่งแห่งพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น.....
.....................หนึ่งเดียวที่หลวงปู่มั่นออกปากชมว่า พลังจิตของท่านฝั้นแข่งแกร่งหาใครเทียบได้ยากในยุคนี้..ระหว่างที่ได้สนทนากับพระอาจารย์สมคิด...ผู้เขียนเลยได้ถามย้ำอีกครั้งถึงเรื่อง พลังจิตของหลวงปู่ฝั้น...พระอาจารย์ก็ตอบรับรองว่า..มหัศจรรย์เหลือหลายเลยทีเดียว...โดยเฉพาะวิชชาทำตะกรุดที่ท่านได้เรียนกับหลวงปู่ฝั้นเป็นเวลาเต็มสองปี..ถึงจะสำเร็จ...."หลวงปู่ฝั้นสามารถเขียนยันต์ลบผงเมื่อตบลงบนกระดานชนวน..ผงยันต์เหล่านั้นจะหล่นไปยังด้านล่างผ่านกระดานชนวนอย่างน่าอัศจรรย์...เหมือนครูบาอาจารย์รุ่นเก่า ๆที่เคยได้ยินได้ฟังมา..และการเป่าทองของท่านจะเป่าทีละมาก ๆโดยไม่ต้องเปิดแผ่นทอง..หมายถึงเอาแผ่นทองหลาย ๆแผ่นวางซ้อน ๆกันบนหน้าผากแล้วเป่าพรวดทีเดียว..แผ่นทองจะเข้าไปในหน้าผากทั้งหมดโดยไม่ต้องแกะแผ่นทองออกมาเป็นอัศจรรย์"(ผู้เขียนเคยสนทนากับแป๊ะฮ้อ ลูกศิษย์หลวงปู่ดูลย์ อตโล ผู้สร้างพระผงรูปเหมือนนั่งเต็มองค์หลังฝังเกศาและจีวรหลวงปู่ดูลย์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงขณะนี้....แป๊ะฮ้อเล่าว่า..หลวงปู่ดูลย์นี้ไม่ธรรมดา..มีครั้งหนึ่งลูกศิษย์ได้นำรูปถ่ายมาให้หลวงปู่พิมพ์ลายนิ้วมือจำนวนมาก ๆ..หลวงปู่จะเอารูปภาพจำนวนมาก ๆมาวางไว้เป็นปึกใหญ่ ๆแล้วพิมพ์ลายนิ้วมือบนแผ่นแรกพร้อมกับเป่าเบา ๆ เสร็จก็จะหยิบเอาออกที่ละยี่สืบแผ่นบ้างสามสิบแผ่นบ้าง..ทุกใบจะมีลายนิ้วมือหลวงปู่เป็นอัศจรรย์...และมีครั้งหนึ่งแป๊ะฮ้อได้เชิญหลวงปู่ดูลย์มาที่บ้าน...เพื่อเป็นสิริมงคล...หลวงปู่เอาแป้งเจิมที่แผ่นกระจกเฟอร์นิเจอร์...ระหว่างนั้นแป๊ะฮ้อก็คิดในใจว่า"เจิมแล้วก็ทำความสะอาดยาก..เวลาจะเช็คถูกระจกเพื่อทำความสะอาด....ก็ไม่อยากให้แป้งที่เจิมนั้นหายไป...หลวงปู่ก็หันมามองแล้วเป่าไปที่ยันต์ที่เจิม...ปรากฏว่ายันต์นั้นเข้าไปอยู่ในกระจกเป็นอัศจรรย์ไม่มีทางลบออกได้...ตามที่แป๊ฮ้อต้องการ...(แป๊ะฮ้อผู้นี้เป็นซินแซฮวงจุ้ยอันดับต้น ๆของเมืองไทย...บริษัทชั้นนำในเมืองไทยต่างก็เคารพนับถือและให้ป๊ะฮ้อแก้ฮวงจุ้ยมาแล้วทั้งนั้น...แม้กระทั่งทหาร ตำรวจระดับนายใหญ่ ๆ และอดีตนายกฯทั้งหลายในเมืองไทยก็เคยใช้บริการมาแล้วแทบทุกคน)...มีต่อนะครับ...........

 

รอฟังต่อครับบบบบบบ.....เรื่องของหลวงพ่อสมคิดผมไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไร มีเกษาของท่าน ตอนที่ได้รับมาผมยังไม่รู้จักท่านเลยครับ

 

ตอนต่อ...........ประวัติโดยย่อหลวงพ่อสมคิด ปโยคจิตโต..

....................ท่านเป็นชาวอยุธยาโดยกำเนิด..เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2495..ท่านเคยเป็นครูก่อนจะมาบวช...ท่านเรียนจบปริญญาตรีจากประเทศออสเตรเลีย เมืองแคมเบอร์ล่า..เมื่ออายุแค่ 19 ปีเท่านั้น...เพราะบิดามารดาเป็นครูทั้งสองคน...ท่านเริ่มเข้าเรียน ป.1 เพียงอายุแค่ 4 ขวบ...เมื่อจบแล้วก็สอนหนังสืออยู่ที่เมืองนอกสักพัก...ก็กลับมาเป็นครูที่บ้านเกิด...แต่ก็มีเหตุให้ออกบวชเนื่องจากบิดามารดาจัดหาคู่ครองให้..แต่โดยตามธรรมเนียมประเพณีไทย...ลูกผู้ชายไทยต้องบวชเรียนก่อน..จึงบังคับให้บวชที่วัดแถวบ้าน...แต่หลวงพ่อสมคิดท่านไม่ชอบการมีครอบครัว..โดยเฉพาะการถูกบีบบังคับให้แต่งงานกันแบบคลุมถุงชน.....จึงคิดหนีการแต่งงาน..เลยขอไปบวชสายธรรมยุตโดยมีความศรัทธาในองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นทุนอยู่แล้ว...จึงได้เข้าอุปสมบทที่วัด ป่าอุดมสมพร โดยมีพระอาจารย์จันทร์ศรี จันททีโป หรือพระอุดม ญาณโมลี วัดโพธิสมภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์...........
....................เมื่อบวชแล้วก็ติดตามรับใช้ปฏิบัติธรรมกรรมฐานกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นเวลา 5 ปี จนหลวงปู่ฝั้นมรณภาพ..ก็ได้ติดตามหลวงปู่เทสก์ เทสรังสีเป็นเวลา 15 ปี ในระหว่างนั้นได้ศึกษาธรรมจาก หลวงปู่ขาว อานาลโย,หลวงปู่ชอบ ฐานสโม,พระอาจารญ์จวน กุลเชฏโฐ ,พระอาจารย์วัน อุตตโมและอื่น ๆอีกหลายองค์.........

...........(คัดลอกจาก"หนังสือพระสุวรรณภูมิ"ครับ)

 

สื่อกับหลวงพ่อพรเทพ

ในวันหนึ่ง ก่อนวันที่จะทัวร์นิมนต์พระกับพี่อุตตโม....... ก็ได้ไปกราบหลวงพ่อ แล้วก็ถามว่า อีกรูปนึงเป็นใครครับหลวงพ่อ ที่จะมานั่งปรก........หลวงพ่อกล่าว..อาจารย์วัดรามราษฏ์ .....สื่อกันได้แล้ว..... ท่านไม่ปลุกเสกให้ใครนะ เก่งเลยหละ.......ไม่ใช่ธรรมดานะ........แต่ถ้าหลวงพ่อนิมนต์ท่านก็มาหล่ะ ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อก็ไม่รู้ว่าท่านจะมาหรือป่าวนะ..... เอาน่า....เก่งก็แล้วกัน รับรองได้ ถ้าไม่เก่ง ก็ไม่นิมนต์หรอก ผมก็ถามต่อว่า......หลวงพ่อรู้จักท่านได้ไงครับ........หลวงพ่อตอบ.....ก็ตอนแรก จะสือกับพระแม่จามเทวี เพราะอดีตท่านเป็นคนลพบุรีนะ ก่อนที่ท่านจะไปอยู่ที่เหนือ เพื่อที่จะให้ท่านมาอยู่ที่นี่จะทำรูปปั้นท่านซะหน่อย พอสื่อไปสื่อมา ท่านก็ให้มาดูที่วัดรามราษฏ์ ว่าในอดีตวัดนี้เคยผูกพันธ์กับพระแม่จามเทวี ก็วัดนี้เป็นวัดของพระสวามีของพระแม่จามเทวี แล้วก็เจอ หลวงพ่อพรเทพ แล้วท่านก็เป็น.............(พี่แกงส้มเคยบอกไปแล้ว) ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ เป็นพระหมอ ช่วยคนมาเยอะ สร้างวัดมาเยอะ ไม่ธรรมดานะ

พอมาถึงวันงาน หลวงพ่อก็มาเล่าให้ฟังหน้างานพิธีไหว้ครู........ว่า หลวงพ่อพรเทพท่านเก่งนะ..เห็นหนุ่มๆอย่างนี้..อย่าได้ดูถูกเลย......เอาเป็นว่า ขนาดเป็นโรค.(เซ็นเซอร์)......ท่านเหยียบ ก็หายนะ บารมีท่านดี ผมก็ถามว่า หลวงพ่อทำบ้างไม่ได้หรอครับ ท่านบอกว่า บารมีที่ทำมามันต่างกัน ท่านมาด้านนี้ ก็ต้องทำอย่างนี้.......เราไปทำไม่ได้หรอก

และผมเองนี่ก็ไม่เคยเห็นหลวงพ่อพรเทพ ในงานไหว้ครู อยู่ๆ ก็มีพระห่มจีวรออกแดงแบบล้านนาเดินถือย่ามหนึ่งใบผ่านผมไป แต่รู้สึกได้ถึงกระแสเมตตา เพราะไม่มีความหยิ่งทนงตน ใบหน้าอมยิ้มตลอดเวลา แต่ดูภายนอกแล้วรู้สึกว่าอายุท่านคงยังไม่มาก พูดภาษาบ้านๆ ก็ติดดินนั่นเอง จบจร้า.... (ต่อมาจะบ่นนิดหน่อยไม่ต้องอ่านก็ได้ครับ)

บางอย่างที่เซ็นเซอร์ไปบางทีเป็นข้อมูลที่ต้องไปถามท่านเอง เปิดเผยไปเดี๋ยวงานจะเข้าหลวงพ่อทั้งสองท่านอีก เพราะตั้งแต่ที่ผมแฉไปสองเรื่อง ครั้งที่แล้ว ผมก็โดนหลวงพ่อเทศไปชุดใหญ่ บางทีคนที่อ่านกระทู้นี้แยกไม่ออกว่า อันไหนข้อมูลของผม ที่ผมหามาเอง ได้มาเอง ประสบกับตัวเอง และมาบอกต่อ แต่กลับกลายเป็นว่า เอามาปนกัน นำเรื่องที่ผมแฉ ไปถามหลวงพ่อซะงั้น และมีไปถามเยอะเสียด้วย...ซึ่งหลวงพ่อท่านก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยที่ผมแฉไปเลยซักอย่าง หลวงพ่อก็เลยบอกว่า กระทู้นี้ มีผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศอ่านติดตามด้วย แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นใคร (ลูกศิษย์หลวงพ่อที่เป็นนักการเมืองก็เยอะ) เขาติงมาว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เอาเป็นว่า หลวงพ่อขอก็แล้วกัน อย่าไปโจมตีใครเขาเลย..... ผมจะพูดต่อว่า ผมยอมไม่ได้ แต่หลวงพ่อพูดดักก่อนว่า ..รู้...แกหน่ะยอมไม่ได้ เห็นคนโดนหลอกแล้วอดใจไม่ไหว แต่ตัวแกเองเนี่ย ไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่มหาเถระสมาคม จะไปทำเพื่ออะไร ผมก็บอกว่า ..แล้วคนที่โดนหลอกอยู่ตอนนี้หละครับ ปั้นเรื่อง แต่งเรื่องมาหลอกขายพระราคาแพงๆ จะทำอย่างไร หลวงพ่อบอกว่า.....ก็ปล่อยเขาไป...วางเฉยซะ ไอ้คนหลอก..เดี๋ยวมันจะได้รับผลของมันเอง......ส่วนคนที่โดนหลอก ก็เป็นเพราะกรรมของเขา วิธีคิดพิจารณาเขาไม่ค่อยดี....คนแบบนี้มีเยอะในสังคมหากินกันแบบนี้แล้ว.......เราต้องวางใจเป็นกลาง มองผ่านมันไป ช่างมันเหอะ เอาตัวเองเราให้ดีก็พอแล้ว......แล้วอย่างนี้นะจะไปบวช แกเลิกคิดเลย ถ้าใจแกเป็นแบบนี้อยู่ แกบวชไปก็ไปต่อยกับเขาตายในวัดอีก ในเมื่อแกยอมไม่ได้ที่เห็นความไม่ถูกต้อง พระหน่ะใช่จะดีทุกองค์ บางรูปเสพยา ขายยาก็มี บางรูปมีเมียก็มี บางรูปขี้เกียจปฏิบัติอยู่ไปวันๆ ก็เยอะ ยิ่งพระบวชใหม่มันเรียกเพื่อนฝูงเข้ามามั่วสุมกันในวัดก็มี ถามตัวเราเองก่อน ยอมได้ไหมถ้าเห็นอย่างนี้ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว..ถ้าจะไม่ไหวจริงๆแกก็ไปตั้งกระทู้ใหม่เห็นผู้ใหญ่เขาบอกมาอย่างนั้น....ต่อไปก็ให้มองที่ตัวเองก่อนเป็นสำคัญ อย่าไปยุ่งกับเขามาก ผมก็กราบขอขมาหลวงพ่อ แล้วก็น้อมรับมาปฏิบัติตามครับ

กระทู้นี้เลิกแฉแล้วนะจ๊ะ แล้วก็มีข้อมูลบางอย่างที่จะเปิดเผย แต่หากจะแฉจริงๆแล้วจะไปตั้งกระทู้ใหม่นะจ๊ะ อิอิอิ