อดีตชาติ หลวงปู่วัดปากน้ำ อานุภาพ วิชชาธรรมกาย

อย่าได้สงสัยมากมายไปเลยครับ กิจวัตรของผม เดินวิชชานั่งสมาธิวันละอย่างน้อย 2 เวลา คือก่อนนอนครั้งหนึ่ง ตื่นนอนตอนเช้าครั้งหนึ่ง คือเดินวิชชาในหลักสูตรวิชชา 18 กายและวิชชาตามที่ครูอาจารย์สั่งให้ืปฏิบัตินั่นแหละ

ผมทำหน้าที่ของผมครบถ้วนกระบวนความทุกเวลานาที ทางโลกผมเป็นครูสอนในโรงเรียน ทางธรรมผมเป็นวิทยากรสอนสมาธิวิชชาธรรมกาย ก่อนสอนก็ต้องเดินวิชชา วันหนึ่งๆ ผมทำหน้าที่ได้หลายอย่างก็เพราะผมทำเต็มที่โดยเห็นแก่ประโยชน์ท่านมากกว่าประโยชน์ตนนี่แหละครับ

เชิญมาร่วมฝึกสมาธิวิชชาธรรมกายได้ที่ http://khunsamatha.fix.gs/index.php?board=2.0

 

สาธุ....อนุโมทนาบุญด้วยครับ พี่ชายผมบอกว่า บุญต้องมี สมาธิถึงจะมีการเจริญก้าวหน้า การเดินวิชาผมว่าน่าจะอย่างน้อย 4 ชม./ครั้ง ในสมัยหลวงปู่ท่านให้ทำผลัดละ 6 ชม. ท่านเองก็สร้างบุญด้วยการสร้างศาสนวัตถุ และเลี้ยงพระ/เณร ตลอดจนชีด้วย นี่ก็แสดงว่าท่านทำทุกด้าน ในสมัยนั้นมีคนบอกกับท่านเหมือนกันว่าท่านสร้างอะไรใหญ่โตนั้ก (ทุกคนก็คิดว่าใหญ่โต) ความจริงถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ ผมว่านะ วัดปากน้ำจะยิ่งใหญ่กว่านี้ คุณสมถะคิดให้ดีๆ นะ ในสมัยนั้นหลวงปู่สดท่านสร้างขนาดไหน(ในสมัยท่าน) แล้วในสมัยนี้จะทำให้เหมือนท่านต้องทำอย่างไร เพราะปัจจุบันอยู่ในยุคโลกาภิวัตร ควรจะทำอย่างไร ลองคิดดูนะ ถ้าคิดได้ คุณจะมองโลกได้ทะลุเลย ส่วนในเรื่องสมาธิคุณก็ทำไป หลวงปู่สดท่านขยายวิชา ขยายคน ตอนนั้นก็ถือว่าเจริญมากกว่าทุกวัด จริงไหมคุณสมถะ เพราะฉะนั้นจะขยายวิชาธรรมกาย ต้องทำกันเป็นทีม ทำคนเดียวไม่ได้ ถ้าทำคนเดียวชาตินี้จะขยายได้สักเท่าไร???????? ทำละเอียดได้แล้วต้องทำหยาบให้เกิดผลสำเร็จด้วย จะทำอย่างไรนั้นผมว่าคุณสมถะน่าจะคิดได้ครับ (ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำนะครับไม่ใช่อวดความรู้)
ผมส่งรูปพระของขวัญให้คุณสมถะดู ช่วยตรวจสอบให้หน่อยนะครับว่าใช่และท่านทำวิชาหรือเปล่า รบกวนนะครับ (ไม่มีข้อแม้นะครับและอย่าปฏิเสธผมเลย)

 

เรียนคุณanuchakpyความคิดเช่นนี้ เป็นเรื่องอัตโนมติที่ไม่ตรงกับมุมมองของผมเลยนะครับ

กรุณาอย่าเพิ่งคิดเองเออเองไปเลยครับ การเดินวิชชาเขามีหลักสูตรในการเดินวิชชาว่าควรจะเดินอย่างไรและแค่ไหนอยู่้แล้ว ท่านทราบหรือไม่..? และขออย่าไ้ด้เอาเรื่องการเดินวิชชาในโรงงานมาโยง เพราะมันคนละประเด็นกัน

การสร้างอาคารวัตถุนั้น ถ้าหลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่ ท่านจะไม่ก่อสร้างอย่างที่บางวัดกำลังทำอยู่แน่นอน ผมทราบเป็นอันดี ลุงเปล่งเคยถามหลวงพ่อว่า "หลวงพ่อครับ ทำไมเราไม่สร้างพระใหญ่ๆ เหมือนวัดอื่นๆ" หลวงพ่อตอบว่า ไปสร้างพระอิฐ หิน ปูน ทรายทำไม มาสร้างพระในใจตนดีกว่า คิดดีๆ นะครับ อย่าได้ดูเบาความคิดหลวงพ่อเป็นอันขาด

การเผยแผ่ไปทั่วโลก ต้องทำเป็นทีมนั้น กรุณาอย่าเที่ยวไปพูดเช่นนี้ที่ไหนๆ อีกเลย เพราะทุกสำนักเขาก็ทำเป็นทีมเป็นกลุ่มอยู่แล้ว ไม่มีใครทำคนเดียว แล้วท่านจะเอามาพูดทำไม

ขอความกรุณาศึกษาวิชชาให้ถูกตรงหลักวิชชาเถิดครับ ใจหยุด-นิ่ง-แน่น ได้เมื่อไร หิริโอตตัปปะจะเกิดขึ้นเอง แล้วจะพึงทราบว่า เจตนาในการเผยแผ่วิชชาธรรมกายของธรรมภาคขาวนั้นคืออย่างไร ดูง่ายๆ ถ้าการสอนเบื้องต้นไม่ได้ผล ไม่มีใครเห็นดวงธรรมเห็นกายธรรมอย่างชัดเจน กล่าวถือไม่สามารถสอนเดี๋ยวนั้น วัดผลเดี๋ยวนั้น ต่อวิชชาเดี๋ยวนั้น แก้ไขทางวิชชาให้ผู้ฝึกได้เดี๋ยวนั้น ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าไปเที่ยวพูดว่ากำลังเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลกเลย เพราะที่เผยแผ่นั้นไม่ใช่เผยแผ่ให้คนเข้าถึงธรรมกายทั่วโลก แค่เผยแผ่โดยอ้างวิชชาธรรมกายเพื่อจุดประสงค์ทางการเงินและทางโลกธรรมเท่านั้นเอง นี่คือมุมมองของผม

ขอเรียนเชิญทุกท่านที่คิดจะเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก ท่านจะต้องมาฝึกเป็นวิทยากรให้จงได้ ต้องมาเรียนรู้ภาควิทยากร และสอนได้ผลด้วย จึงจะถือว่าช่วยเผยแผ่วิชชาธรรมกายได้จริง โปรดศึกษาข้อมูลต่างๆ ได้ที่ http://khunsamatha.com/

ขอความกรุณาศึกษาเรื่องจักรพรรดิกายสิทธิ์ได้ที่กระทู้นี้ http://khunsamatha.fix.gs/index.php?topic=101.0
และอย่าได้ตั้งคำถามเช่นนี้อีก ไม่ใช่ประโยชน์ในการสนทนากันเลย

 

๒๒. การค้นพบวิชชาธรรมกายในชาติก่อนๆ ที่ผ่านมาภายหลัง จากพุทธปรินิพพานดังกล่าว พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่าน ก็จะเป็นผู้ค้นพบวิชชา ธรรมกายและฟื้นฟูธรรมกายขึ้นมาใหม่ทุกครั้งไป


จากคำพูดนี่มันขัดกันนะ ค้นพบธรรมกายทุกชาติๆไปหรืออยางไร
เข้าถึงธรรมกายนี่เป็นอรหันต์แล้วไม่ใช่เหรอไม่มาเกิดมาตายแล้วไม่ใช่เหรอ
ต้องไปเกิดอีกๆแล้วมีค้นพบอีกได้เหรอ
ถ้าเป็นอรหันต์ไม่ใช่ท่านวางขันธ์ห้าไปเลยเหรอ

 

ขอทำความเข้าใจเรื่องการค้นพบวิชชาธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำกันก่อน เท่าที่พอรับทราบความเป็นจริงมีดังนี้

การค้นพบวิชชาธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำพูดใหม่ การค้นพบการเข้าถึงกายในกายจนกระทั่งถึงธรรมกายสูญหายไปหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 500 ปี หลวงพ่อวัดปากน้ำได้เข้าถึงธรรมกาย จึงรู้หรือพบวิธีเข้าถึงกายในกายจนกระทั่งถึงธรรมกาย(วิชชา 18 กาย)กลับคืนมาได้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น คำว่า วิชชาธรรมกาย ก็คือ ความรู้แจ้งใจ(วิชชา)เพื่อเข้าถึงกายในกายจนถึงธรรมกาย ไม่ใช่พบวิชาใหม่ เหมือนวิชาคณิตศาสตร์ วิชาสังคม อะไรอย่างนั้นนะครับ

ส่วนการเข้าถึงธรรมกาย หรือเข้ากายในกายทั้ง 18 กาย อันได้แก่

1.กายมนุษย์หยาบ(กายที่กำลังนั่งอ่านอยู่นี่)
2.กายมนุษย์ละเอียด
3.กายทิพย์หยาบ
4.กายทิพย์ละเอียด
5.กายรูปพรหมหยาบ
6.กายรูปพรหมละเอียด
7.กายอรูปพรหมหยาบ
8.กายอรูปพรหมละเอียด
(1-8 เป็นกายโลกีย์ ใช้เรียนวิชชาขั้นสมถะ)

9.กายธรรมโครตภูหยาบ
10.กายธรรมโครตภูละเอียด
11.กายธรรมโสดาหยาบ
12.กายธรรมโสดาละเอียด
13.กายธรรมสกิทาคาหยาบ
14.กายธรรมสกิทาคาละเอียด
15.กายธรรมอนาคามีหยาบ
16.กายธรรมอนาคามีละเอียด
17.กายธรรมอรหัตต์หยาบ
18.กายธรรมอรหัตต์ละเอียด
(9-18 เป็นกายโลกุตตระ ใช้เรียนวิชชาขั้นวิปัสสนา)

คนที่เข้าถึงกายในกายทั้ง 18 กายได้นี้ จัดเป็นโคตรภูบุคคลซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทุกคนไม่จำกัดเพศ เชื้อชาติ ศาสนาฯลฯ เมื่อเดินวิชชา 18 กายให้ขาวใสเนืองๆ ก็ถือว่า ทรงความเป็นโคตรภูบุคคล ถ้าไม่หมั่นเดินวิชชากายในกายไม่ขาวใสจนกระทั่งดับหายไปในที่สุดก็กลับสู่ความเป็นเพศปุถุชน แต่ถ้าหมั่นเจริญสมถะ-วิปัสสนาชำแรกกิเลสอาสวะสะสางธาตุธรรมภายในก็มีสิทธิได้ไปสู่ภูมิอริยบุคคลนั่นเทียว

กระทู้ให้ความรู้เพิ่มเติม

โคตรภูบุคคลเป็นไฉน..?
โคตรภูบุคคลเป็นไฉน..?

 

เรียนคุณสมถะ
กรุณาตอบให้ตรงกับคำถามผมด้วยครับ ผมสอบถามเรื่องพระเครื่องที่ให้คุณพิจารณา กรุณาอย่าตอบเลี่ยงเมือง ตอบให้ตรงด้วย เรื่องจักรพรรดิผมก็พอที่จะมีความรู้บ้างไม่ต้องอธิบายมากแม้กระทั่งการเดินวิชาผมก็พอทราบ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากทราบจากปากคุณคือ รูปพระของขวัญที่ส่งให้ดู ใครเป็นคนอธิฐานจิต ตอบไม่ได้ก็บอกมาตรงๆ ไม่เห็นต้องขายหน้าเลยผมไม่ว่าอะไรหรอก ตอบไปเถอะคุณ จะให้พิสดารกายตอบผมก็ตามคุณทัน
ด้วยความนับถือ

 

ผมคงไม่จำเป็นต้องสนองความอยากรู้อยากเห็นของคุณนะครับ เอาเป็นว่าผมไม่ตอบ หรือคุณจะคิดไปว่าตอบไม่ได้ก็ได้ตามสบายเถิด ผมไม่นิยมคุยกับพวกอยากรู้อยากเห็นเช่นนี้ ต้องขออภัย ผมไม่ใช่ผู้วิเศษใดๆ ดังนั้นกิจนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมควรทำ กรุณาอย่ามาท้าทายใดๆ เลยครับ เชิญคุณไปหาผู้วิเศษตามที่ต้องการเถิด

 

55555555555555555555 นี่คือคำตอบที่คล้ายๆกัน ของคนที่ว่าทำวิชาธรรมกายได้ ไม่ว่าคุณสมถะ หรืออีกหลายคนที่บอกว่าตัวเองทำวิชาปราบมารได้ ผมคุยมาหลายคนแล้วครับที่มีลักษณะเหมือนกับคุณ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะไม่ตอบผม 555555555555555

 

ขอเรียนตามตรงว่าผมไม่เคยบอกว่าผมทำวิชชาปราบมารได้ ขอให้แก้ความเข้าใจผิดตรงนี้ด้วย ผมเป็นแค่ปลายแถว ไม่เก่งกาจอะไรดอกครับ แต่ผมทำหน้าที่ของผมเท่าที่ทำได้ตามข้อมูลที่ได้แสดงไว้ในลิ้งค์นี้เท่านั้นเอง ห้องสนทนาธรรม โดย "ชมรมพัฒนาใจให้สว่างใส"

 

โอเคครับ ยุตินะครับ ไม่เป็นไร เราไม่โกรธเคืองกันนะ ความรู้ก็คือความรู้ ความสามารถก็คือความสามารถ ละเอียดกับหยาบ ย่อมแตกต่างกัน
อนุโมทนาบุญกับการทำหน้าที่เป็นวิทยากรด้วย สาธุ

 

กราบขอขมาทุกท่านที่อาจไม่พอใจนะครับ กระผมเคยเข้าสมาธิแบบเบาๆอารมณ์ก่อนนอน และได้นิ่งสนิทเหมือนเข้าไปอยู่ในฝันๆผมได้ไปนั่งปรากฎกายเบื้องหน้าองค์หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านนั่งอยู่บนแท่นมีดอกบัวรองรับอีกชั้น ในวิมานอันเจิดจ้าเหมือนแก้วเจียระไนสว่างไสวทีเดียว กายเนื้อของท่านเหมือนกายมนุษย์แต่จู่กายก็เปลี่ยนเป็นร่างกายเหมือนแก้วมีผลึกแพรวพราวผุดผ่องสะท้อนสว่างสวยงาม ตอนนี้ปรากฎว่าทุกอย่างกลายเป็นแก้วสะท้อนสวยจริงๆผมนั่งมองจนตื่น ทั้งวันผมมีอาการโปร่งเพราะรู้สึกจากคำตอบที่ออกมาจากใจว่าท่านประทับ ณ เมืองแก้วมหานฤพาน ต่อจากนั้นมาผมเคารพและเลื่อมใสท่านมากเป็นพิเศษครับ

 

ต่างชาติเขาอึ้งพลังชาวพุทธที่วัดพระธรรมกายมาก ผมเองขอชื่นชมในส่วนนี้เรื่องอื่นมิอาจเอื้อมเพราะผมเป็นเพียงผู้น้อยไร้ความสามารถ

 

วิชชาธรรมกายเป็นวิชชาแรกที่ผมฝึกเลยครับ แต่ตอนนี้ตามจริงหลวงปู่ท่านเข้านิพพานไปแล้วครับ