นักบวชคือผู้ที่คอรัปชันมากที่สุด

ในกรณีทกลาววาพระพุทธเจา (ตามทัศนะของผูนั้น) เป็นเครื่อง
บังนิพพานเสียเองนัน ถาเรามานึกกันดูใหดีวาไดบงไวอยางไรแลว เรา
จะเห็นวาเพราะเราไมมีการรูจักตัวเองอยางถูกตอง
จึงเกิดความ
ตองการพระพุทธเจา และสรางพระพุทธเจาขึ้นดวยตัณหาของตนเอง
ตามทัศนะของตนเอง หุมหอตัวเอง จนเหลียวไปทางไหนก็พบแตสิ่งน
จนกระทั่งเปนสัญญาแหงอดีต เหลือที่จะปดเปาออกไปได. เมือใดมา
รูจักตัวเองอยางถูกตอง คือรูจักความวางจากตัวตน. เมือนั้นก็ไมม
พระพุทธเจา ไมวาอยางไหนหมด ไมมีผูบัง ไมมีผูที่ถูกบัง, ไมมีการ
แสวงหา เพราะไมมีผูทมีความตองการ. ถาเรามีความวางจากตัวตน
อยางไรพระพุทธเจาก็ควรจะมีความวางจากตัวตนอยางนั้น. ถาเรายัง
คลําตัวเราพบในลักษณะอยางไร เราก็คงคลําจนพบพระพุทธเจา(ตาม
ทัศนะของเรา) ในลักษณะที่เขารูปกันไดอยูเพียงนั้น. ถาเราคลําพบ
ความวางจากตัวตนของเราเมือใด เราก็ตองคลําพบความวางจากตัวตน
ของพระพุทธเจาดวยเมื่อนั้น แลวก็จะไมมีตัวผูตองการ หรือสิงที่
ตองการ ไมมีผแสวงที่พึ่ง และผูที่จะเปนที่พึ่ง.


คัดลอกมาจาก ภูเขาแห่งวิถีพุทธธรรม

 

การกราบไหว้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าผ่านองค์พระปฏิมา
จะบอกว่าเป็นการยึดติด ไม่ถึงฝั่ง นั่นคงเป็นความเห็นของคนความคิดแคบๆ

ที่ไม่ได้ทำความเข้าใจเลย ว่าการหลุดพ้น ไม่ใช่แค่ปล่อยที่ยึดติดแล้วจะหลุดพ้นไปง่ายๆ อย่างที่คิด มันมีอะไรที่ละเอียดลึกซึ้งมากกว่านั้นเยอะ ไม่ใช่้มองอะไรแล้วให้ปล่อยวางไป

 

บุคคลมีหลายประเภทเหมือนดอกบัวมีหลายเหล่า ธรรมบางหมวดก็เหมาะที่จะสอนกับคนบางพวก ขึ้นอยู่กับบุญบารมีธรรมของแต่ละคนสร้างสมอบรมมาไม่เท่ากัน บางคนต้องอาสัยสิ่งยึดเหนี่ยวที่ท่านว่าเป็นกระพี้ มาเป็นที่เกาะก่อนจะเข้าถึงแก่น แต่บางท่านที่บารมีผ่านกระพี้มาแล้ว ก็สามารถเข้าถีงแก่นได้เลย ดังปรากฎในสมัยพุทธกาล ท่านอย่าลืมว่า ณ.บัดนี้ ศาสนาพุทธ ล่วงเลยมา 2500 กว่าปีแล้ว ผู้คนที่เกิดในยุคนี้ส่วนใหญ่ น่าจะมีบารมีธรรมที่ ยังน้อย จำเป็นต้องอาศัยที่เกาะที่ยึด เพือสร้างสมบารมีต่อไป และอย่าได้ดูถูกตาสีตาสาที่ยังยึดยังเกาะอยู่ เพราะส่วนมากก็เป็นพวกท่านเหล่านี้นี้แหละที่มั่นคงรักษาสืบทอดพระพุทธศาสนามาจนถึงทุกวันนี้

 

เข้าท่าครับ

 

ถาม จขกท.

ตามความเห็นของ จขกท. นักบวชที่ดีและประเสริฐนั้นเป็นอย่างไร ?

 

คุณอุรุเวลา

คนที่ไม่ยึดติดแม้แต่คุณก็เถอะ ทุกวันนี้หลุดพ้นแล้วหรือยัง

ถ้าคิดว่าเพียงแค่ปล่อยวางสิ่งที่อ้างแล้ว หลุดพ้นง่ายๆ อย่างที่ท่านบอก
มันคงจะง่ายไป คงไม่ต้องใช้ปัญญาอะไรในการตรัสรู้ถึงขั้นนิพพานไปได้เลย

 

ถูกใจ
เอามาฝากไว้เป็นข้อคิดสะกิดใจ "ท่านที่เข้าถึงความเป็นพระโสดาบันนี่ ท่านกล้าที่จะยกมือไหว้ รูปพระพุทธเจ้าที่ติดไว้ หรือที่ปั้นด้วยดิน ด้วยโคลนก็ตามทีอย่างสนิทใจ ไม่อายคนรอบข้าง อย่างเช่นเรื่องของ สุปะพุทธกุฏิ ผู้ที่เป็นโรคร้าย ได้ฟังเทศน์ของสมเด็จฯ แล้วปฏิบัติตามเข้าถึงความเป็นพระโสดาบัน ดีใจ จะไปกราบทูลให้ทราบ ระหว่างทางเจอพระอินทร์ เข้ามาลองใจว่าจะบรรดาลให้โรคร้ายหาย ขอเพียงกล่าวคำว่า "พระพุทธเจ้าไม่มี พระธรรม ไม่มี พระสงฆ์ไม่มี" ท่านก็ชี้หน้าว่า พระอินทร์ถ่อยจงถอยไป ฯลฯ" ข้อความนี้ อาจารย์ใหญ่กล่าวไว้ชัดเจน คิดกันเอาเองครับ ผมขอไม่ล่วงเกินใคร อยากไปไหนกันเราห้ามไม่ได้

 

๓. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย พระอริยสาวกในพระธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบด้วยความ
เลื่อมใสอย่างแน่นแฟ้นในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว
ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติชอบ คือคู่บุรุษ ๔ บุรุษบุคคล ๘ นั่นคือพระสงฆ์สาวก
ของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ควรรับของบูชา เป็นผู้ควรรับของต้อนรับ เป็นผู้ควรรับของทำบุญ
เป็นผู้ควรทำอัญชลี เป็นบุญเขตของชาวโลก ไม่มีเขตอื่นยิ่งกว่า ฯ
๔. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย พระอริยสาวกในพระธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยศีล ที่พระ
อริยเจ้าใคร่แล้ว อันไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไทย อันวิญญูชนสรรเสริญ อัน
ตัณหาและทิฐิ ไม่ลูบคลำแล้ว เป็นไปเพื่อสมาธิ ฯ

 

รบกวนช่วยขยายความให้เข้าใจมากขึ้นหน่อยครับ
ศีล ที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว อันไม่ขาด เป็นอย่างไร
ศีล ที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ไม่ทะลุ เป็นอย่างไร
ศีล ที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ไม่ด่าง เป็นอย่างไร
ศีล ที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ไม่พร้อย เป็นอย่างไร
ศีล ที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว เป็นไทย เป็นอย่างไร

สาธุครับ

 

ขอบคุณพี่เจ้าของกระทู้ ที่แบ่งปัน คลิปดีๆครับ ผมชอบมาก.... คิดไว้ในใจเหมือนกันเรื่องพวกนี้....

 

ถ้าไม่เป็นการลำบากมาก อยากจะดูคลิปอ่ะคับ พอหาได้ใหมอ่ะ

 

---------------------

ถ้าต้องหามาให้คุณอีก ก็จะเป็นครั้งที่ สาม
ผมเอือมระอากับการหามาให้ พอกันที

ทุกคำที่ผมกล่าวไว้ มีทุกคำ ไม่เติมแต่ง

หรือว่ามีใครจะเถียง ว่าไม่จริง ไม่มี คำไหน

 

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๓ หน้าที่ ๓๐๔/๓๗๙
อีกประการหนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีลกระทำพอ
ประมาณในสมาธิ ในปัญญา บุคคลนั้นเป็นสกทาคามี เพราะสังโยชน์๓ สิ้นไป เพราะราคะ
โทสะ และโมหะเบาบาง กลับมายังโลกนี้เพียงคราวเดียวจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ดูกรสารีบุตรนี้บุคคลจำพวกที่ ๖ ... ฯ
อีกประการหนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล
กระทำพอประมาณในสมาธิ ในปัญญา บุคคลนั้นเป็นเอกพีชี เพราะสังโยชน์สิ้นไป บังเกิดยังภพ
มนุษย์นี้ครั้งเดียว จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ดูกรสารีบุตรนี้บุคคลจำพวกที่ ๗ ... ฯ
อีกประการหนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล กระทำพอ
ประมาณในสมาธิ ในปัญญา บุคคลนั้นเป็นโกลังโกละ เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป ท่องเที่ยว
อยู่ ๒-๓ ตระกูล แล้วจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ดูกรสารีบุตร นี้บุคคลจำพวกที่ ๘ ... ฯ

----
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒
บริบูรณ์ [บอริบูน] ก. ครบถ้วน, เต็มที่, เต็มเปี่ยม

พระพุทธเจ้าทรงประมาณพระอริยะในส่วนของสมาธิและปัญญาใช้คำว่า "พอประมาณ" ในส่วนของศีลใช้คำว่า "บริบูรณ์" ที่นี้จะบริบูรณ์แค่ไหนต้องประมาณกันเองครับ พระพุทธเจ้าไม่ได้ประมาณไว้ บอกแต่ว่าต้องบริบูรณ์ เพราะจะเป็นทางประมาทครับ

 

ดูทีวี คลิปวีดิโอ เสื่อม! พระเกษม แบบนี้หรือ..ที่อยากดัง

ประเดี๋ยวหาว่าผมกล่าวพล่อยๆ
คุณbosslnwskr10 ลองนับดูละกันว่ามีกี่คำ เพราะที่ผมยกมาเพียงไม่กี่คำ
แต่มั่นใจเลยว่ามีทุกคำ นี่แค่เพียงคลิปนี้เท่านั้น ยังมีอีกหลายคลิปที่ใช้คำหยาบคาย

 

หลวงพ่อท่านไม่สำรวม พูดคำหยาย ท่านปลงอาบัติก็จบ ศีลท่านก็บริบูรณ์เหมือนเดิมครับ

 

แล้วใครจะเป็นคนประมาณครับ ถ้าต่างคนต่างประมาณมันก็จะไม่ตรงกัน โดยสรุปว่าหาข้อยุติไม่ได้ อย่างนี้ใช่หรือเปล่าครับ

 

ทำศีลให้บริษูรณ์ที่สุดครับ ศีลเป็นแค่เบื้องต้นของการปฏิบัติ เป็นพระโสดาบัน พ้นจากนรกแน่นอนครับ

 

---------------------------

อ้อ.. ปลงอาบัติก็จบ ง่ายไปมั้งท่าน

ไม่เห็นแก่ตัวไปหรอกหรือ แล้วส่วนรวมหละทำให้ชาวพุทธเสื่อมศรัทธา
จะไม่รับผิดชอบใดๆ หรือไง หรือว่าใครจะมองยังไงก็ช่าง กูปลงอาบัติแล้ว

เป็นพระต้องเป็นที่ศรัทธา ไม่ใช่ทำให้เสื่อมเช่นนี้

 

พระรับเงิน ขายเครื่องรางของขลัง ท่านปลงอาบัติก็จบ ศีลท่านก็บริบูรณ์เหมือนเดิมครับ

:d

 

คุณลมสุริยะ

มีขีดแดงเข้มเหมือนผมเลยนะครับ คงจะมีพวกสมัครหลายยูส
เข้ามาเพื่อดิสเครดิสเรา เพื่อที่ว่าความเห็นเราจะได้ไม่น่าเชื่อถือ

สู้ในเรื่องหลักการและเหตุผลไม่ได้ เลยต้องใช้วิชามาร นี่แหละพวกมิจฉาฑิฐิ