คำทำนายภัยพิบัติที่แม่นยำ และการปกป้องภัยพิบัติ ของพระมหาโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล

ตามพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าโคตม นอสตราดามุส และจากศาสนาสำคัญๆ ของโลก รวมทั้ง ผู้เห็นเหตุการณ์ในอนาคตได้บ่งบอกไว้ว่า การจะรอดพ้นจากมหันตภัยพิบัติหรือการล้างโลกอธรรมครั้งนี้ มีอยู่หนทางเดียว คือต้องพิสูจน์ความจริงเท่านั้น ไม่ใช่จากความเชื่อ ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสกาลามสูตรไว้ครับ เรื่องที่ลงไว้นี้ก็ไม่ต้องเชื่อ เพราะต้องหาความจริงอยู่แล้วใช่ไหมครับ โปรดดูที่ ธรณีสูบยักษ์... ที่ออร์กะ รวบรวมข้อมูลมาลงไว้ครับ

 

จะเอา เรตติ้งไปทำอะไร ความหมายของพระจักรพรรดิ

ขออนุญาตครับ

เห็นท่าน อ อ ร์ ก ะ วิ่งรอกวางเบ็ดไปทั่ว กะดึงเรตติ้งจะเอาไปทำอะไร หรือครับ

เราชาวมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ พร้อมญาติธรรมผู้ร่วมทำบุญ ร่วมอนุโมทนาทั้งหลาย
เราเผยแพร่ข้าวสารการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ เพื่อบอกเล่าเรื่องราว
เพื่อให้ญาติธรรมผู้มีบุญ มีกุศล ได้รับข่าวสารได้เร็วขึ้น
ญาติธรรมทั้งหลาย ก็รับทราบข่าวสาร ตามบุญวาสนาบารมีของตน
จะมีศรัทธา หรือไม่ จะเชื่อหรือไม่ ก็แล้วแต่ตัวท่านนั้นๆเอง

ผมจะไม่มีการวิ่งพล่านไปทั่ว เพียงเพื่อให้ข่าวสารถึงผู้คนได้มากขึ้น ได้เร็วขึ้น

ญาติธรรมผู้มีสติปัญญาย่อมรู้จักพิจารนาเอาเอง

เมื่อเราเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีผู้นำอย่างเด่นชัดว่า

เราจะสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ เพื่อแก้ไขภัยพิบัติ

ใครจะเชื่อหรือไม่ จะมาร่วมช้าเร็ว มากน้อย อย่างไร
ขึ้นอยู่กับ บุญวาสนา บารมีของท่านนั้นๆเอง

ผมมี วีดีโอให้ดูอย่างเด่นชัด จะดู ไม่ดู จะเข้าใจ ไม่เข้าใจ
ก็บอกแล้วว่า บุญวาสนา บารมีของท่านนั้นๆเอง

แม้ญาติธรรมของเรา ที่ท่านเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ถอยกลับไปเดินเส้นทางอื่นๆ
ท่านอาจารย์ทิพากร ท่านก็บอกว่า

"ปล่อยเขาไป อยากมาก็มา อยากไปก็ไป"
"ไม่ต้องไปตามเขากลับมาให้เสียเวลา เราต้องรีบเร่งไปข้างหน้า"
"อย่าได้เสียเวลา เสียพลังงานไปชี้แจง ชักชวนซ้ำอีก"

ขนาดญาติธรรมของเราเองใครอยากมาก็มา ใครอยากไปก็ไป
เพราะฉะนั้น การที่ผมนำเสนอเรื่องราวของพระใหญ่ชัยภูมิ
ผมก็แค่บอกเล่าเรื่องราว เสนอ วีดีโอให้ดู

เชื่อไม่เชื่อ ก็แล้วแต่บุญวาสนาบารมีของใครของมัน

ส่วนเรื่องที่ท่านอ้างถึง พระจักรพรรดิ นั้น ขอให้ข้อคิดแค่ว่า

แม้พระพุทธองค์ในสมัยพุทธกาล
พระองค์ ก็ไม่ได้ ตั้งตนเป็นพระจักรพรรดิ์ ปกครองผู้ใด

แล้วในพุทธสมัย 5000 ปีของพระองค์

ยังจะมีผู้ใดมีบุญบารมีพอที่จะเป็นจักรพรรดิ์ปกครองโลกธาตุได้

ขออนุโมทนาในกุศลผลฃบุญร่วมกับทุกๆท่าน
ขอขอบพระคุณครับ
ลุงมหา

 

ถ้ามีคลิปเพิ่มเติมก็นำมาลงอีกนะครับ ผมว่าเดี๋ยวถ้าหากพระใหญ่ขึ้นเป็นองค์เมื่อไหร่ ก็คงจะมีคนศรัทธามากขึ้นนะครับ อยากให้กระทู้นี้นำเสนอความคืบหน้าของการสร้างพระใหญ่นะครับ ในที่นี้ก็คงจะมีแต่ลุงมหาคนเดียวแหละที่ทำได้ ผมก็แค่เจออาจารย์ทิพากรครั้งเดียวครับ และก็มีงานอื่นต้องทำด้วยครับ ตอนนี้สร้างบุญใหญ่ทุกเดือนเลยครับ แต่ขอไม่เปิดเผยไม่ว่าจะทั้ง pm และในเวบนะครับ อนุโมทนากับผมแล้วกันครับ

และอีกประมาณเดือนสองเดือน การสั่งสมบุญกุศลของผมอีกอย่างหนึ่งก็คงจะสำเร็จ ทำมาสองปีกว่าแล้วครับ ถ้าสำเร็จเมื่อไหร่ ค่อยมาชี้แจงให้ทราบ จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลายๆคนทำมั่ง

ผู้รู้ท่านหนึ่งบอกว่า ไม่มีบุญกุศลใหญ่ครั้งไหน ที่จะไม่มีมารมาขวาง ผมเจอกับตัวเองหลายครั้ง แต่ในที่สุด ก็เอาชนะมารนั้นไปได้ทุกครั้ง บุญใหญ่ที่จะทำอีก 2-3 ครั้ง ต่อให้พญามารและกองทัพพญามารก็ไม่มีทางขวางผมได้อีกแล้ว

หลวงพ่อรูปหนึ่งทางอีสาน ท่านจะสร้างพระใหญ่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ท่านเจอปัญหาอุปสรรคต่างๆนานา ไม่ว่าจะเรื่องการหาที่ดิน ปัญหาสุขภาพของท่าน ร้ายแรงสุด ถึงกับมีหมอผีที่มีพลังจิตแก่กล้ามาขัดขวาง แต่ท้ายที่สุด ด้วยอำนาจของบุญบารมีของท่าน ก็เอาชนะมารเหล่านั้นไปได้

นี่แหละ ผมถึงยืนยันคำนี้ว่า ไม่มีบุญใหญ่ครั้งไหน ที่จะไม่มีมารมาขวาง

 

อีกเรื่องหนึ่งที่ที่เมื่อตะกี้นึกขึ้นได้ ปกติเรื่องการพ้นทุกข์ของศาสนาพุทธเราก็คือ การไปอยู่ในพระนิพพานใช่มั้ยครับ ของศาสนาอื่นเค้าก็ถือว่าการได้ไปอยู่กับพระเจ้าของเค้า เป็นบุญกุศลสูงสุด หลักการใหญ่ๆตรงนี้คล้ายกัน ส่วนวิธีปฏิบัติแตกต่างกันอย่างไร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

นอกจากนี้ก็มีหลักเรื่องมัชฌิมาปฏิปทา หลักเรื่องการปล่อยวาง (ลัทธิเต๋า อาจจะมีพูดถึง) ซึ่งศาสนาอื่นไม่มี

แต่มีอยู่หลักคำสอนหนึ่งก็คือ การสอนให้อยู่กับปัจจุบัน เพราะว่าอดีตนั้น ต่อให้เป็นผู้มีฤทธานุภาพ ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอดีตได้ ส่วนอนาคตนั้น มีลักษณะพิเศษสี่อย่าง

1 อาจเกิดขึ้นตามที่คิดก็ได้
2 อาจไม่ได้เกิดขึ้นตามที่คิดก็ได้
3 อาจเกิดเร็วขึ้นกว่าที่คิดก็ได้
4 อาจเกิดขึ้นช้ากว่าที่คิดก็ได้

ก็เพราะมีเงื่อนไขอย่างเดียวของคำว่า "อนาคต" นั่นก็คือ "มันยังไม่เกิด" เมื่อยังไม่เกิด ย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงพลิกผันได้ เพราะเหตุเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน

พระท่านถึงสอนนักสอนหนาว่า อย่าไปรำลึกถึงอดีต อย่าไปถวิลหาถึงอนาคต ให้อยู่กับปัจจุบัน

การสร้างพระใหญ่ก็เหมือนกัน เราถือว่าเราทำตอนนี้ของเราให้ดีที่สุดด้วยการสั่งสมบุญบารมี ถ้าเราไม่เชื่อไม่ศรัทธาว่าพระใหญ่จะยับยั้งภัยพิบัติ ก็ขอให้คิดว่าเป็นการสร้างสมบุญบารมีของเราเอง เป็นอริยทรัพย์ที่ติดตามตัวเราไป เมื่อทำแล้วก็วางลงเสีย วางจิตลงเสีย ให้เบาสบาย

มีเงินเหรียญสักบาทในมือนี่แหละ ยกขึ้นพนมมือ อธิษฐานว่า

ทรัพย์ของข้านี้ หามาด้วยบริสุทธิ์ และแม้จะเป็นหยดน้ำเพียงหยดหนึ่ง แต่เมื่อหยดลงบนมหานที ก็ขอให้หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับมหานทีฉันนั้น
บุญกุศลใดๆที่เกิดจากการสร้างพระใหญ่ที่สาธุชนทั้งหลายพึงได้รับ ก็ขอให้ข้าพเจ้าได้รับเฉกเช่นเดียวกันด้วยเทอญ

 

สงสัยประเทศไทยทุกวันนี้ ความจริงแล้วจะต้องเกิดภัยพิบัติ ใหญ่หลวงอีกมากมาย แต่เพราะบารมี ของท่านอาจารย์ที่ ลุงมหายกย่อง นี้แหละ ที่ทำให้ประเทศไทย รอดพ้นวิกฤติ มากมายที่ควรจะเกิดขึ้นมาแล้ว เผลอๆ ถ้าไม่เป็นเพราะอาจารย์ของลุงมหา ช่วยไว้ ป่านนี้ประเทศไทย อาจเกิดภูเขาไฟระเบิด เกิดสึนามิ ใหญ่ๆ เกิดแผ่นดินไหว กรุงเทพ จมน้ำไปแล้วนะ แต่เพราะบารมี ท่านอาจารย์ของลุงมหา นะเนี้ย พวกเราคนไทยทั้งหมด จึงอยู่รอดได้ทุกวันนี้ ดังนั้น ทุกคนควรสำนึกในบุญคุณกันนะ เอ้าเร็ววววววว ช่วยกันบริจาคหน่อยเร็ว สร้างพระใหญ่ แล้ว ไทยจะรอด เอาเร็ว สมาธิ หรือภาวนา นะช่างมันเหอะ ไม่ต้องไปทำหรอก ไม่มีประโยชน์หรอก ช่วยไม่ได้หรอก เพราะอาจารย์ ลุงมหาไม่ได้บอกไว้ ว่าการทำสมาธิ ภาวนา มันจะช่วยอะไรได้ เชื่อกันเข้าไปเหอะ ส่วนคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เราเรียนกันมา 2500 กว่าปีนั้นนะ ลุงมหาบอกว่ามันก็แค่ตำรา เรื่องเหตุผลไม่ต้องไปสนใจหรอก สนใจแค่ศรัทธาเท่านั้นก็พอ และที่ศรัทธาที่ควรมีที่สุด คือ แห่กันบริจาคเงิน เร็วๆ เข้า สร้างเสร็จไม่ทันนี่ซวยแย่เลยนะ

สิ่งที่จะช่วยได้ ก็คือสร้างพระใหญ่เท่านั้น เอาเร็ว ใครมีเงิน รีบควักมา ยิ่งหมดตัวก็ยิ่งดี กู้ได้ก็กู้เงินกันนะ เอาไปบริจาคสร้างพระใหญ่กันเร็ว ไม่ต้องสนเรื่อง เหตุผล ไม่ต้องสนใจคำสอนของพระพุทธเจ้ากันหรอก สนใจ เฉพาะบริจาคเงิน เพื่อสร้างพระใหญ่เท่านั้นก็พอแล้ว


(((กราบขอขมาอาจารย์ของลุงมหา หากอาจารย์ของลุงมหาท่านไม่ได้กล่าวอวดอ้างอย่างที่ลุงมหากล่าวมา หากเป็นแค่คำกล่าวอ้างของลุงมหาคนเดียว กระผมก็กราบขอขมา แต่หากอาจารย์ทำอย่างที่ลุงมหากล่าวมาทั้งหมดทุกอย่าง อวดอ้างทุกอย่างตามที่ลุงมหาอวดอ้างมา ผมก็ไม่จำเป็นต้องขอขมา)))

 

จิตที่คอยจะคิดจ้องจับผิดคนอื่น เป็นจิตที่ไม่บริสุทธิ์

 

สวัสดีค่ะลุงมหา
แค่เข้ามาให้กำลังใจลุงมหาค่ะ และ ดึกๆจะไปโอนเข้ามูลนิธิ ผ่านATM ธ.กสิกรให้...อีกรอบค่ีะ สาเหตุเพราะ ครั้งแรกแค่ีร่วมย่อนตู้สร้างพระใหญ่ตอนไปกินไก่ย่างที่เขาสวนกวาง ก็เกิดปิติขนลุกขึ้นทันที ครั้งที่สองแค่ีคนข้างๆ เขาคุยกันเรื่องไปร่วมสร้างพระใหญ่มา เราโมทนาบุญกับเขา ปิติก็เกิดอีก......เลยคิดว่าบุญเกี่ยวกับพระใหญ่ต้องใหญ่จริงๆแน่ เพราะ "พ่อแม่ครูอาจารย์กายละเอียดของเรา" หรืออาจเป็นเทวดารอบๆ ท่านชืิ่นชมกับการร่วมสร้างพระใหญ่ของเรา....อย่างมาก... ท่านถึงกับมาโมทนาบุญให้เรารู้สึกได้ .... เพราะปรกติตัวเองแล้วจะไม่มีสัมผัสพิเศษอะไรเลย .......... ก็ขอให้ลุงมหาเป็นกำลังหลักในการสร้างพระใหญ่ต่ีอไปนะคะ อย่าท้อ

 

ญาติธรรมพระใหญ่ชัยภูมิ

ขออนุญาตครับ

ต้องขออนุโมทนาบุญ ในบุญบารมีเดิมของท่าน ที่ส่งผลให้ รับรู้ ให้เข้าใจ พระใหญ่โดยเร็ว

แต่ขั้นตอนที่ถูกต้องที่ท่านอาจารย์ทิพากร ท่านแนะนำคือ
ขอให้เข้ามาร่วมพิธีเปิดบุญก่อน แม้เพียงครั้งเดียว
เหล่าทวยเทพ เหล่าเทวดา ทั้งรุกขเทวดา อารักขเทวดา กุมภเทวดา อากาศเทวดา
ก็จะคำ้จุนช่วยเหลือท่านในทุกที่ทุกสถาน

ญาติธรรมบางท่าน มองเห็นท่านอาจารย์ทิพากร เดินรอบรถของเขาวนสามรอบ
ปรากฏว่าหวยงวดนั้น ออก เลขรถทะเบียนท่านพอดี

ผมมีญาติธรรม ที่ผันตัวเองขึ้นมาเป็น ประธานศูนย์สาขามูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ
เป็นสตรี อายุแค่ ๒๕ ปี
เป็นแค่ พนักงานทำงานกะ โรงงานธรรมดาๆ ท่านก็รวมกลุ่มเพื่อนๆ มาร่วมกันตั้งเป็นศูนย์
ผมก็ช่วยแนะนำช่วยเหลือ สนับสนุนในบางเรื่อง เท่านั้นเอง

ท่านอาจารย์ทิพากร ท่านก็บอกอยู่บ่อยๆว่า

"ผู้มีบุญบารมี มีอยู่ทุกที่ทั่วโลก"
"อาจเป็นชาย เป็นหญิง เป็นเด็ก เป็นผู้ใหญ่"
"ก็ขอให้เข้ามาช่วยกันสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ"
"ตามบุญบารมี ตามความถนัดของตน"
"ใครช่วยเรื่องปัจจัยได้ก็ช่วย"
"ใครไม่มีปัจจัยก็ช่วยเรื่องแรงงาน เรื่องต่างๆ ที่พอจะช่วยได้"
"ใครมีวาทะศิลป์ในการพูด ก็เข้ามาช่วยเป็นโฆษก ประชาสัมพันธ์"
"ใคร รู้จักคนมาก ก็มาช่วยเรื่อง การประสานงาน"
"ใครมีบารมี มากน้อย ก็มาเป็น ญาติธรรมบ้าง สายบุญบ้าง ประธานศูนย์บ้าง"
"ศรัทธาเป็นเรื่องของความยิ่งใหญ่ มีคุณค่าประมาณไม่ได้"
"ให้บอกบุญ ในกลุ่ม ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จักของตนเท่านั้น"
"อย่าไปบอกบุญ ในลักษณะเรี่ยไรเป็นอันขาด"

คนมีบุญบารมี เขาก็มุ่งสร้างบุญบารมีของเขา

คนหลงผิด ก็ถูกกิเลสครอบงำต่อไป ภพแล้วภพเล่า
แม้แต่คนที่เที่ยวไปขัดขวางผู้อื่นเขาสร้างบารมี สร้างคุณงามความดี
ก็ยังหลงนึกว่า คิดว่า ตัวเองกำลังทำคุณงามความดี ตามความถนัดของตน

เป็นเหมือนดังท่านอาจารย์อาจารย์ปู่ หลวงปู่มหาบัวท่านบอกว่า

"ถูกกิเลส มันต้ม มันตุ๋น ถูกกิเลส เหมาโหลตัดตอน ไปหมดแล้ว"

อันไหนเป็นมรรค อันไหนเป็นกิเลส ก็ไม่รู้จัก ก็ไม่เข้าใจ
แม้จิตตน ใจตน ก็ไม่เคยเห็น ก็ไม่รู้จัก
แล้วยังเที่ยวไปดูจิต ดูใจคนอื่น ไปว่ากล่าวตักเตือนเขาซะอีก

คนแบบนี้ไม่อยู่ในสายตาผมหรอกครับ

ท่านอาจารย์ปู่ท่านก็นำพาทำเป็นบรรทัดฐานอยู่แล้ว
มีครูบาอาจารย์องค์หนึ่ง ท่านก็เป็นพระอรหันต์ แถมอยู่ในเขต จ. อุดร ซะด้วย
เมื่อท่านอาจารย์ปู่ ท่านทำผ้าป่าช่วยชาติ ก็กล่าวโจมตีต่างๆนาๆ

ผลสุดท้ายของชีวิต เมื่อท่านละขันธ์ไป
ก็ไม่ค่อยมีพระสายธรรมยุติไปเผาให้ท่าน มีแต่ลูกศิษย์ในวัดของท่านและชาวบ้านแถวนั้นเท่านั้น

ครูบาอาจารย์ท่านก็บอกว่า เมื่อองค์หลวงตาไม่ขยับ ท่านอื่นๆก็เลยต้องวางเฉยเสีย

นี่แสดงให้เห็นว่า แม้แต่พระอรหันต์ ท่านก็ยังผิดต่อหมู่คณะได้
แล้วคนธรรมดาผู้เต็มไปด้วยกิเลส ตัณหา จะไม่ผิดได้อย่างไร

คนมีบุญเขาก็สร้างบุญสร้างกุศลของเขาต่อไป

คนมีกิเลสมากจนถูกกิเลส เหมาโหลตัดตอนไปหมดแล้ว
เขาก็ทำในสิ่งที่เขาคิดของเขาเองว่าถูกว่าต้องของเขาต่อไป

ขอบอบพระคุณอย่างสูงที่ท่านเข้ามาให้กำลังใจ

มีผู้มีบุญบารมีอันสูงส่ง ท่านหนึ่งท่านบอกวาทะที่คนไทยรู้จักกันทั่วท่านบอกว่า

"อยากจะท้อ ก็ ท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันมันสูงมาก"
"เดิมพันที่ว่าก็คือ ความอยู่ดี กินดี ของคนในชาติ"

แต่เดิมพันของท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ ของญาติธรรมพระใหญ่ชัยภูมิคือ

"สร้างพระใหญ่ไม่เสร็จ ภายในปี ๒๕๖๑ โลกถล่ม"

ยิ่งใหญ่ปานนี้ แล้ว จะให้ชาวพุทธเข้าใจได้อย่างไร
ถ้าพระเจ้าพระสงฆ์ท่านยังไม่เข้าใจ แล้วชาวพุทธจะเข้าใจได้อย่างไร

ก็เหลือแต่ความเชื่อ ความศรัทธา อันยิ่งใหญ่เท่านั้นละครับ
จึงหล่อเลี้ยง จิตใจของญาติธรรมทั้งหลายเอาไว้ได้

คนมีบุญบารมี มากน้อย ก็เข้ามาช่วยกันสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ มากน้อย ช้าเร็ว ตามบุญวาสนาบารมีของตน

ตลอดพุทธกาลนี้ ความยิ่งใหญ่อันดับหนึ่ง คือ

การอุบัติขึ้นของพระพุทธองค์ ทรงออกประกาศพระศาสนาแผ่กว้างออกไป

ความยิ่งใหญ่อันดับสอง คือ

การอุบัติขึ้นของพระโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล
เพื่อนำพามวลมหาชนให้มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาอีกครั้ง
เพื่อนำพามวลมหาชนสร้างพระใหญ่ชัยภูมิเพื่อแก้ไขภัยพิบัติ

ยิ่งใหญ่ปานนี้ แล้ว คนบุญน้อยจะเข้าใจได้อย่างไร

ผมก็บอกย้ำแล้วย้ำอีกว่า

คนมีบุญบารมี มากน้อย ก็เข้ามาช่วยกันสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ มากน้อย ช้าเร็ว ตามบุญวาสนาบารมีของตน

แม้ว่าผมไม่สามารถ บันทึกชื่อของญาติธรรมได้หมดทุกๆท่าน
แต่ผมเชื่อว่า ผมสามารถบันทึก ภาพวีดีโอ ของญาติธรรม เอาไว้ได้
ให้เป็นเกรียติประวัติอันดีงามในอนาคต ที่ใครก็มาแย่งเอาไปไม่ได้

ขออนุโมทนาบุญร่วมกับผู้มีบุญบารมีทุกๆท่าน
ขออนุโมทนา
ขอขอบพระคุณครับ
ลุงมหา

 

แล้วองค์หลวงตาท่านเคยกล่าวถึงอาจารย์ทิพากรหรือเปล่าครับ

 

มรดกสุดท้ายของท่านอาจารย์ปู่ทวด หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

มรดกสุดท้ายของท่านอาจารย์ปู่ทวด หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ขออนุญาตนำข้อความเดิมของผมมาให้ดูอีกทีครับ

ผมขอยกข้อความสำคัญออกมาให้ดู ให้อ่านกันชัดๆ

พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านอาจารย์ปู่ทวด หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ท่านได้อบรมสั่งสอนไว้เป็นบรรทัดฐาน ที่ถูกถ่ายทอดต่อมาโดย
ท่านอาจารย์ปู่ หลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโณ
ท่านอาจารย์ปู่ทวดท่านสอน เรื่องเกี่ยวกับ พระโพธิสัตว์ เอาไว้ว่า

"พระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก
เป็นผู้ที่จะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต
ต้องให้ความเคารพในท่านด้วย"

ลองคิดตาม แล้วมาวิเคราะห์กันนะครับ

ท่านอาจารย์ปู่ทวด ท่านบอก ท่านสอนที่ วัดป่าบ้านหนองผือ
ซึ่ง วัดของท่านนั้น ไม่อนุญาตให้โยมเข้าไป จะใส่บาตรต้องรออยู่หน้าวัดเท่านั้น

ในวันพระท่านจะอนุญาตให้ ญาติโยมนักปฏิบัต เข้าไปฟังธรรมร่วมกับพระได้
เป็นบางคน เป็นครั้งคราว

แล้วที่ท่านบอก ท่านสอนนั้น ท่านบอกทำไม ท่านสอนทำไม

พ่อแม่ครูบาอาจารย์ระดับนี้
ไม่มีวันที่ท่านจะพูดอะไร จะบอกอะไร โดยไม่มีต้นสายปลายเหตุ
เพราะองค์ท่านนั้น "เป็นธรรมทั้งแท่ง"
เหมือนที่ท่านอาจารย์ปู่ท่านว่าไว้จริงๆ

แล้วท่านทั้งหลายก็อย่าได้ลืมว่า พระสงฆ์มีหน้าที่อะไร
ก็ท่านมีหน้าที่ ฝึกฝนตนเองให้บรรลุเป็นพระอรหันต์
แล้วอบรมสั่งสอน พระรุ่นหลังๆ ให้บรรลุตาม
แล้วเผยแผ่พระธรรม คำสอน อบรม ฆราวาส ญาตฺโยม ให้เป็นคนดีของสังคม

จนท่านอาจารย์ปู่ ท่านมาทำผ้าป่าช่วยชาติ กินเวลา สิบกว่าปี
ได้เงิน ได้ทอง มาสอง-สามหมื่นล้านบาท

ขณะเดียวกันท่านก็ทำสถานีวิทยุเสียงธรรม แผ่ขยายไปคลอบคลุม เกือบทุกตารางนิ้วของประเทศไทย

ผลงานของท่านเป็นอมตนิรันดร์กาล ยากจะหาผู้ใดมาเทียบได้

แต่คำบอกเล่าของท่านที่เล็ดรอดออกมานั้น ที่องค์ท่านบอกว่า

"ท่านแก้ไขภัยพิบัติไม่ได้"

ผมก็เฝ้าดู คอยเงื่อหูฟังว่า ท่านจะบอก ท่านจะพูดอะไรเรื่อง "ภัยพิบัติบ้าง"

จนป่านนี้ก็ไม่ได้ข่าวอะไรเลย เงียบสนิท

แล้วเราลองมาคิดดู การทำผ้าป่าช่วยชาติ กับ งานการขยายสถานีวิมยุเสียงธรรมนั้น
เป็นการรวมพลัง ครูบาอาจารย์สายธรรมยุติ และสายมหานิกาย ฝ่ายปฏิบัติ
กินเวลานานถึง สิบกว่าปี คุณพอจะเข้าใจไหม ท่านเหล่านั้น อ่อนล้า ขนาดไหน

บวกกับมาเจอภัยพิบัติ ที่ท่านทั้งหลายได้แต่เฝ้ามองตาปริบๆ เพราะแก้ไขไม่ได้
เมื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านยังบอกว่า

"ท่านแก้ไขภัยพิบัติไม่ได้"

แล้วครูบาอาจารย์ที่เป็นรุ่นหลังๆ จะทำได้อย่างไร

เพราะการแก้ไขภัยพิบัตินั้น ต้องแก้ทั้ง ภาคเจ้ากรรมนายเวร
ต้องแก้ทั้ง ภาคการรวมพลังของเทพเจ้าและของเหล่าเทวดา

พระท่านมีหน้าที่ดังกล่าวมาข้างต้นแล้วท่านจะทำได้อย่างไร

คราวนี้ลองมาดู พุทธกาล ๕๐๐๐ ปีดู

พุทธกาล ๕๐๐๐ ปี ฉบับของเทวดานั้น
(จากการบอกเล่าของท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์)

พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสว่า

พระสงฆ์ ดูแล พระพุทธศาสนา ๒๕๐๐ ปี
เทวดา ดูแล พระพุทธศาสนา ๑๐๐๐ ปี
ผู้มีฤทธิ์ ดูแล พระพุทธศาสนา ๑๕๐๐ ปี

ก็จะครบ ๕๐๐๐ ปีพอดี

เมื่อท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ ท่านนำ ท่านพา
เหล่าญาติธรรม สร้างหลวงพ่อทันใจก็ดี สร้างพระใหญ่ชัยภูมิก็ดี
เพื่อให้ญาติธรรม ผู้ร่วมสร้าง ผู้ร่วมอนุโมทนา ร่วมสาธุการ
ได้ร่วมกันสร้างกุศลผลบุญ เพื่อแผ่กุศลผลบุญให้เหล่าเจ้ากรรมนายเวร
บรรพชน วีระชน บูรพกษัตริย์ ดวงวิญญาณไร้ญาติขาดมิตร
ตลอดจน เหล่าทวยเทพ ทั้งสัมมาทิจฐิ มิจฉาทิจฐิ
ตลอดจน ทวยเทพผู้มีฤทธิ์ทั้งหลาย
ได้มีโอกาสสนับสนุนในการสร้าง ได้ โมทนา ได้สาธุการ "ได้รับกุศลผลบุญโดยทั่วหน้า

การทำงานที่ยิ่งใหญ่ปานนี้ มีแต่ผู้มีบุญบารมีระดับสูงจึงทำได้
ถ้าขาดซึ่งบุญบารมีของพระโพธสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาลแล้วยากจะทำให้สำเร็จได้
เมื่อสร้างพระไป มารก็จะต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย

ถ้าไม่กล้า ไม่แกร่งพอ ก็จะอ่อนล้าลงเรื่อยๆ

แต่บุญบารมีของพระโพธิสัตว์นั้น มีแต่จะกล้า จะเกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้ว่าการสร้างพระใหญ่ชัยภูมินั้น เสร็จแน่ๆ ทันปี ๒๕๖๑ แน่ๆ
เพราะท่านอาจารย์ทิพากร ได้ พยากรณ์บอกเล่าไว้อย่างละเอียดแล้ว

เพียงแต่ว่า ท่านอาจารย์ได้บอกเล่าว่า

"แต่เราก็ต้อง พยายามอย่างสุดกำลังเช่นเดิม"
"ลุงมหาก็เขียน ในเว็บไซด์ บอกเล่าเรื่องราว นำหน้าไป ให้ญาติธรรมเข้าใจตามไป อย่าหยุดเขียน"

สรุปคือว่า

การสร้างพระใหญ่ชัยภูมินั้น สร้างเสร็จภายในปี ๒๕๖๑ แน่นอนอยู่แล้ว

(ท่านอาจารย์ทิพากร บอกว่า จะให้เสร็จเร็วกว่านั้น)
(เพื่อควบคุมเพื่อลดภัยพิบัติให้เหลือน้อยที่สุด)

เพียงแต่ว่า เราจะรวบรวมญาติธรรม ผู้มีบุญวาสนา ให้มาร่วมสร้าง
ให้เร็ว ให้มากขึ้นได้อย่างไร

เพราะพระท่านก็คงบอกว่า ไม่ใช่หน้าที่ของท่าน ท่านเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้ามามากแล้ว
เมื่อท่านเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ท่านจะช่วยผู้อื่นได้อย่างไร
เมื่อไม่ใช่หน้าที่ของท่าน ท่านจะทำไปทำไม

ก็คงจะเหลือแต่ ฆราวาส ญาติ โยม เราๆท่านๆนี่ละครับ

เมื่อท่านต่างก็รู้ว่า เราเกิดมาเพื่อสร้างบุญ สร้างกุศล สำหรับอนาคต สำหรับชาติหน้า

ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ หลุดพ้น

ผมจะรอเฝ้าดูว่า

ญาติธรรมชาวพุทธทั้งหลายจะมาช่วยกันสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
มาร่วมสายบุญพระมหาโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล มากน้อย ช้าเร็วขนาดไหน

รวมถึงผมจะรอเฝ้าดูว่า

ญาติธรรมที่แยกตัวออกไปเร่งความเพียรนั้น ท่านจะไปได้ไกลแค่ไหน
สร้างพระใหญ่เสร็จ หรือใกล้เสร็จ ผมจะเร่งปฏิบัติตามไป

ผมจะรอเฝ้าดูว่า ผมจะไล่ท่านทันหรือไม่ ผมจะแซงท่านได้หรือไม่

ส่วนญาติธรรมที่รอคอยว่า กองทัพพระสงฆ์จะมาช่วยสร้างพระใหญ่ชัยภูมิหรือไม่
เราญาติธรรมพระใหญ่ไม่รอ หรอกครับ อยากมาก็มา ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา

ส่วนฆราวาส ญาติโยม ก็คิดก็พิจารนาเอาเองนะครับว่า

ท่านจะสร้างกุศลผลบุญของตัวท่านเอง
ช้าเร็ว มากน้อย อย่างไร

จะสมกับที่ท่านได้เกิดมาร่วมยุค ร่วมสมัย
กับพระโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาลหรือไม่

เกิดเร็วกว่านี้ก็ไม่ได้ร่วมสร้าง
เกิดช้ากว่านี้ก็ไม่ได้ร่วมสร้าง

บางท่านร่ำรวยล้นฟ้า
แม้เกิดทัน ก็ไม่มีโอกาสร่วมรู้ ร่วมสร้าง ก็มีให้เห็นๆอยู่

ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมทุกๆท่าน
ขออนุโมทนา
ขอขอบพระคุณครับ
ลุงมหา

 

ทำบุญกับพระโพธิสัตย์กึ่งพุทธกาลนี่มีองค์เดียวหรอครับ มีองค์อื่นๆให้ร่วมบุญอีกมั้ยครับ สงสัยนิดหน่อยครับ มีพระโพธิสัตย์องค์อื่นที่บารมีเต็มแล้วอีกบ้างมั้ยครับที่มีทศพลญาณ หรือตอนนี้มีแค่องค์เดียวครับ

 

พระโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล ที่ท่านบารมีเต็มแล้ว

ขออนุญาตครับ

พระโพธิสัตว์ที่ท่านบารมีเต็มแล้ว มี ๑๐ พระองค์ ก็ตามพุทธทำนายนั่นละ่ครับ
ส่วนใครจะนับถือองค์ไหน ทำบุญกับองค์ไหนก็ตามกำลังศรัทธา ความเชื่อ ความเลื่อมใส ของใครของมัน

แต่ตามที่ท่านอาจารย์ทิพากร ท่านบอกเล่ามา ท่านบอกว่า

"เมื่อโลกมีภัยพิบัติ พระโพธิสัตว์ที่ท่านบารมีเต็มแล้ว"
"ก็จะผลัดกันลงมา ช่วยเหลือมนุษย์"
"เหมือนตอนนี้ที่ผมต้องลงมา"

ผมก็เรียนถามท่านว่า คนส่วนมากเข้าใจวา พระโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาลคือ องค์พระศรีอริยะเมตไตย

ท่านอาจารย์ทิพากร ท่านตอบว่า

"องค์พระศรีก็เคยเจอกันที่สวรรค์ชั้นดุสิต ก็ตามหนังสือประวัติที่เขียนไว้นั่นล่ะ"

"ที่ผมลงมา เพราะผมชอบทำสิ่งที่ยาก สิ่งที่เหลือวิสัยของมนุษย์จะทำได้"

ถ้าวิเคราะห์ตามคำบอกของท่านที่เล่าว่า

"ก็จะผลัดกันลงมา ช่วยเหลือมนุษย์"

คำว่าผลัดกันลงมา แปลว่า จะลงมาทีละองค์นะครับ
ก็เหมือนวิ่งผลัดนั่นละครับ ต้องวิ่งทีละคน
เราถึงมีกติกาว่าต้องส่งไม้ รับไม้ก่อนจึงจะวิ่งต่อไปได้

ส่วนท่านที่ลังเล สับสน สงสัย ก็ค่อยๆติดตามดู ค่อยๆคิด ค่อยๆพิจารนา เอาก็แล้วกันนะครับ

ชอบแบบไหน รักแบบไหน ก็ทำบุญไว้ก่อน อนุโมทนาก็ยังดี

ว่าที่มีตัวตนจริงๆ มีธาตุสี่ ขันธ์ห้าครบถ้วน มีวีดีโอให้ดู มีตารางเปิดบุญล่วงหน้าเดือนต่อเดือน

ส่วนองค์อื่นๆ ถ้าลงมาแล้ว หรือมีข่าวก็บอกกันมั่งนะครับ
แต่ถ้าลงมาแล้ว ประเภท รู้เห็นไม่กี่คน จับต้องไม่ได้ ไม่มีโทรศัพท์มือถือให้โทรหา
ไม่ต้องบอกก็ได้ เพราะผมคงไม่ไปแน่ๆ

พิจารนาเอานะครับ ของอย่างนี้ ต้องดูเอง รู้เอง เห็นเองครับ

ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมทุกๆท่าน
ขออนุโมทนา
ขอขอบพระคุณครับ
ลุงมหา

 

- พระโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาลมีทั้งละพุทธภูมิมาเป็นอรหันต์สืบทอดศาสนา มีทั้งลงมาบำเพ็ญบารมี อย่างในหลวงเป็นต้น เคยได้ยินว่าในหลวงทรงมีบารมีเต็มแล้ว เรื่องญาณต่างๆไม่ทราบว่ามีหรือไม่เนื่องจากท่านไม่มาป่าวประกาศให้รับรู้ แต่ก็ดูจากพระราชกรณียกิจ พระราชดำรัสต่างๆ คิดว่าคงไม่ใช่แค่ปัญญาทางโลกแน่
ส่วนพวกแอบอ้างและป่าวประกาศนั้นมีเยอะครับ ทั้งที่ตั้งใจ หรือคิดหลงไปเอง

- พระอรหันต์แห่งยุคทั้งหลวงตาบัวหลวงปู่มั่น บอกว่าให้ทำบุญกับพระโพธิสัตว์ ส่วนใหญ่ท่านหมายถึงพระมหากษัตริย์ไทยนะ ท่านสอนให้ธำรงรักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้จงรักภักดีต่อในหลวง อย่าไปทำให้ท่านทรงระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทไม่เช่นนั้นจะมีอันเป็นไป ผมไม่เห็นท่านเคยพูดถึงอาจารย์ทิพากรครับ อย่างก่อนหลวงตาละสังขารท่านก็รับรองพระอรหันต์ต่างๆ บอกชื่อเสียงเรียงนามให้ลูกศิษย์ได้ไปแสวงหา แต่ไม่เห้นจะฝากใครไว้กับอาจารย์ทิพากรเลย (ไม่ทราบลุงมหารู้ได้ยังไงว่าพระโพธิสัตว์ที่พระอริยะแห่งยุคกล่าวถึงคืออาจารย์ทิพากร)

- ส่วนผมเชื่อญาณพระอรหันต์อย่างหลวงตาครับว่า ภัยพิบัติไม่มีใครไปหยุดยั้งได้ แต่ผู้มีศีลมีธรรมจึงจะอยู่รอด
- ผมอ่านที่ลุงมหาบรรยายมายืดยาว แต่ก็ยังสับสนว่า
1. อาจารย์ทิพากรตั้งใจจะทำให้เสร็จ แต่ขึ้นกับญาติโยมมากกว่าเพราะอาจารย์อ่อนล้า ??
2. อาจารย์บอกว่าเสร็จก่อนปี 2561 แน่ๆ แต่ก็ขึ้นกับญาติโยมว่าจะเสร็จหรือไม่ ??

- ยังไงซะผู้ที่ทำบุญด้วยจิตใจบริสุทธิ์ย่อมได้บุญ เมื่อนึกถึงบุญย่อมเกิดปิติได้ อย่างวัดธรรมกายคนมาทำบุญทีเป็นล้าน ทำแล้วก็ปิติ ไม่ใช่ทำแล้วทุกข์ถึงได้มาทำอยู่เรื่อยๆ เพราะทางวัดบรรยายผลบุญไว้เลิศหรู แต่เอาเข้าจริงจะได้อานิสงฆ์แบบนั้นจริงหรือไม่ กว่าจะรู้ว่าผิดทาง หลงติดในนิมิตภาวนาไม่ก้าวหน้า ก็หมดไปไม่รู้เท่าไหร่ ดังนั้นอานิสงฆ์จะมากเพียงใดขึ้นกับผู้รับทานด้วย พระท่านสอนว่าการทำบุญเหมือนการหว่านข้าวในนาย่อมเกิดผล ยิ่งดินดีผลก็ได้มาก ถ้าดินไม่ดี ผลก็ได้น้อย

 

คำกล่าวนี้ ยังเป็นจริงอยู่ คือ "ของจริง นิ่งเป็นใบ้ ที่พูดได้ นั้นบ่จริง" ความหมายก็บอกอยู่แล้วในตัว

พระอริยะในอดีตและปัจจุบัน ก็ไม่เคยมีท่านใดออกมาป่าวประกาศ อวดบารมี ... ที่อวดกันอยู่ มีจุดมุ่งหมายอะไร ??? ก็เห็น ๆ กันอยู่ มักจะมีเรื่องเงิน เรื่องบริจาคมาเกี่ยวข้องด้วยทุกครั้งไป ...

กี่ครั้งกี่หนมาแล้วที่คนไทยเจอการหลอกลวง โดยเอาศาสนา เอาบาป บุญมาอ้าง แต่คนไทยเป็นคนจิตใจดี ชอบทำบุญ ขี้สงสาร และยังเชื่อเรื่องพิธีกรรม ที่ไม่ใช่แก่นของพุทธศาสนาอยู่ ฯลฯ พวกที่หากินแบบนั้นจึงยังคงมีให้เห็นอยู่เนือง ๆ

หากชาวพุทธยึดแนวทางของพระพุทธเจ้าจริง ๆ ตัดเรื่องการเน้นพิธีกรรม หรือความเชื่อที่ไม่ใช่แนวทางของพระพุทธองค์ออกไป พวกที่อาศัยศาสนามาหาผลประโยชน์ ก็คงจะหากินได้ยากขึ้นนะ ...

 

ของจริงไม่พูดมากว่าตัวเองเป็น คนเห็นก้มลงกราบ นี่แหละของจริง

 

ได้ข่าวว่าช่วงวันที่ 5,6,7 เมย. 55 ที่ผ่านมา มีคนทางใต้ไปร่วมในพิธีตั้ง 4,000-5,000 จริงหรือปล่าวครับ

ตอนนี้ผมว่าการสร้างพระใหญ่ถ้าเสาเข็มตอกหมดเมื่อไหร่ ขั้นตอนขึ้นเป็นองค์พระก็จะไปเร็วแล้ว จะเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

ส่วนใครจะปรามาสอาจารย์ทิพากร ผมว่าลุงมหาปล่อยเค้าไปเหอะ เพราะทุกครั้งที่เค้านึก ทุกครั้งที่เค้าโพสต์ ก็จะเป็นการบันทึกผลการกระทำ ของตัวเค้าเองแหละครับ เป็นการเพิ่มพูนผลการกระทำของเค้าเอง ด้วยใจของเค้าเอง ด้วยฝีมือของเค้าเอง

แต่ถ้าเป็นคนฉลาดและทำใจได้ เค้าก็จะวางเฉยเสีย นึกเสียว่า ถ้าเรื่องจริง ก็ขออนุโมทนาด้วย ถ้าเรื่องไม่จริง ใครทำคนนั้นรับ เก๊าะแค่นั้น

 

ความเข็มแข็งของญาติธรรมชาวใต้

ขออนุญาตครับ

ญาติธรรมชาวใต้นั้น มาร่วมงานผ้าป่าพระใหญ่ หลายคันรถบัสสองชั้นครับ
ต้องยกศาลาใหญ่ใกล้ห้องน้ำให้พักทั้งหลังกันเลย
ข้าวปลา อาหาร ก็ระดมมาช่วยกันเต็มที่
ดูแลโดย ท่านทนายสุระชัย จากขอนแก่น

ที่น่าสนใจยิ่งกว่า กลับเป็นความตั้งใจที่จะร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
เพื่อแก้ไขภัยพิบัติ ให้ญาติพี่น้องทั้งภาคใต้ทั้งภาค

แค่สี่เดือนแรก ก็ช่วยกันบริจาคมาแล้ว หลายล้านบาท น่าชื่นชมยิ่งนัก

เห็นพี่น้องทางภาคใต้ ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก
ผมอดนึกคุ้นเคยว่า กลุ่มคนแบบนี้ ทำไมผมคุ้นๆนัก
แล้วผมก็นึกออก ก็คนชาวยิว ของประเทศอิสราเอล อย่างไงละ่ครับ

ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก เหมือนกันแปะๆ

ก็ผมไปอยู่ที่ประเทศอิสราเอลช่วงปี 1979-1981

อยู่เมืองไทยทำอะไรก็ไม่ได้กลัวบาปกลัวกรรม
แต่อยู่ในอิสราเอล เพื่อนชาวอังกฤษพากันเรียกผมว่า Playboy ครับ
ผมก็ถามเขาว่า แล้ว Play boy คืออะไร
เขาตอบว่า มีงานดี มีรายได้ดี ชอบกินดื่มเที่ยว มีผู้หญิงมากหน้าหลายตา

เพื่อนคนไทยด้วยกันยังสงสัยว่า อยู่โน่นอย่างกับราชา
คนอย่างผมไปอยู่ไหนก็ได้ทั่วโลก แล้วผมกลับมาเมืองไทยทำไม
ก็เพราะเพื่อนเหล่านั้น ไม่รู้ว่าชีวิตผมในส่วนที่เกี่ยวพันกับพระศาสนา

แม้เพื่อนที่อยู่ด้วยกันที่โน่น ท่านผู้นั้นมาบวชเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ใหญ่
หลวงปู่โลกเทพอุดร มาเจอผมนั่งปฏิบัติอยู่ ท่านก็อดสงสัยไม่ได้ว่า
ว่า Playboy อย่างผม เข้าทางธรรมได้อย่างไร

ฝรั่งที่พัทยาบางท่านเงินเดือน 7 หลัก เห็นนามบัตรผมถึงกับหน้าถอดสีด้วยความตกใจ
ก็ตำแหน่งหน้าที่การงานแบบนี้ ในบริษัทเขามันสูงกว่า President ซะอีก

นอกจากนี้ก็ยังมีญาติธรรมทางภาคใต้ ที่มาตั้งรกรากทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล
หลายๆท่านเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงระดับแนวหน้า ประเภทว่าทุ่มเทสุดชีวิต
เห็นท่านเหล่านี้ทีไร ผมอดนึกถึง เทพบุตร เทพธิดาไม่ได้

ท้ายนี้ก็ขอนำภาพ การรำบวงสรวง มโนราห์ ของพี่น้องทางภาคใต้มาฝาก
(ต้องขออภัยที่ยัง upload ไม่ได้)

ส่วนวีดีโอ กำลังตัดต่ออยู่ เนื่องจาก ผมต้อง แยกภาพเหตุการณ์ ของทั้งหมด
ออกมาทำเป็น บทนำ ทำให้การตัดต่อล่าช้าออกไปอีก

ต้องขออภัยต่อท่านที่รอคอย

ขออนุโมทนาบุญร่วมกับทุกๆท่าน
ขออนุโมทนา
ขอขอบพระคุณครับ
ลุงมหา

 

สาธุ konkhangram และ ตาดำดำ ท่านกล่าวไว้ชอบแล้ว

พระพุทธศาสนา นอกจากผู้บำเพ็ญเพียร ควรมุ่งละกิเลสแล้ว ก็ต้องช่วยเหลือ พวกเดินทางผิด ขจัด พวกอาศัย พระพุทธศาสนา หากิน พวกมารศาสนา เหลือบศาสนา

ใครเดินทางผิด ก็ช่วยหาทางชี้แนะ ให้เขาเดินไม่หลงทาง
ใครมารศาสนา ก็ต้องช่วยกันขจัด
มัวแต่ รอให้ เวรกรรมลงโทษเขาแล้ว ศาสนาก็เสื่อมไปเรื่อยๆ ครับ
จึงเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัท ทั้งปวง

 

ถามลุงมหา 2 คำถาม เพื่อความเข้าใจตรงกัน
1. ผู้ที่ทำบุญร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิจะรอดพ้นจากภัยพิบัติทุกคนใช่หรือไม่
2. ต้องรอให้พระใหญ่เสร็จก่อนจึงจะรอด หรือได้ร่วมทำบุญแล้วถ้าตอนนี้มีภัยพิบัติก็จะรอด (ยังไม่ถึงปี 2561 ถ้ามีภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติในช่วงนี้ก็จะรอดใช่หรือไม่) อย่างที่ใต้ไม่เกิดสึนามีทั้งที่แผ่นดินไหวเพราะมีการดำเนินการสร้างพระใหญ่แล้วใช่หรือไม่

ปล. ส่วนการสร้างพระใหญ่ อย่างที่บอกว่าคนทำบุญก็ย่อมได้บุญนะครับ แต่อานิสงฆ์จะมากแค่ไหน อย่างลุงมหาก็คงจะทำบุญไปเยอะมาก แต่มีความเจริญในธรรมมากขึ้นแค่ไหน ผมเห็นแต่บอกว่าอาจารย์ทิพากรเห็นนั่นเห็นนี่ แล้วลูกศิษย์ลูกหาไม่ได้เห็นอะไรบ้างเหรอ ต่อให้ไม่มีญาณถึงขั้นพระพุทธเจ้า อย่างน้อยทำบุญขนาดนี้ ทุ่มสุดตัวขนาดนี้ก็ต้องภาวนาก้าวหน้าบ้างหรือมีฌาณบ้างสิ อย่างพระพุทธเจ้าท่านตรัสไม่กี่ประโยคคนก้บรรลุโสดาบัน ไม่ทราบลูกศิษย์ลูกหาท่านอาจารย์เป็นอย่างไรกันบ้าง ลองไปอ่านประวัติครูบาอาจารย์ดูได้ อย่างหลวงปู่มั่น ท่านไปที่ไหนก็ช่วยให้ชาวบ้านเข้าถึงธรรม เลิกนับถือผีหันมาเคารพพระรัตนตรัย รู้จักการบำเพ็ญภาวนา เป็นต้น
จริงๆก็เคยเห้นอาจารย์ทิพากรแนะนำลูกศิษย์เรื่องการภาวนานะ อย่างบอกให้นึกถึงพระแก้วมรกต นึกถึงร.5 ร.9 บอกใหเพ่งรูป.... แต่สำหรับผม พระท่านสอนให้ดูใจเราเอง ส่วนถ้าใครชอบวิธีไหนก็ลองดู แต่ก็ให้รู้ละกันว่าเราก้าวหน้าหรือไม่ ถ้าไม่ก้าวหน้าเป็นเพราะอะไร

 

ผมว่า ลองทำใจให้กลางๆดู

การสร้างถาวรวัตถุหรือพระพุทธรูป ที่เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาหรือศาสดา ผมว่าเป็นเรื่องดีมากๆ ยังไงพุทธานุสสติ ก็เป็นสิ่งดีสำหรับเจริญศรัทธา และเป็นศรัทธาที่ถูกที่ควร อย่าลืมว่าบางท่านถนัดในทางสร้าง แต่อาจไม่ถนัดในทางเผยแพร่พุทธพจน์ หน้าที่ใครหน้าที่มันประมาณนั้น

เป็นเรื่องปกติมากๆในยุคดิจิตอล การจะสร้างอะไรที่เป็นประโยชน์สาธารณะ จำต้องมีการระดมทุน แน่นอนย่อมต้องมีการตลาดนำบ้าง ในเมื่อเป็นงานทางศาสนาก็จำต้องทำการตลาดในด้านบุญ เพื่อชักนำผู้สนใจเข้ามามีส่วนร่วม จะร่วมไม่ร่วมก็เป็นวิจารณญาณของแต่ละคน คงบังคับกันไม่ได้

ธรรมดางานใหญ่งานช้าง ย่อมมีอุปสรรคนานัปการ ผู้ดำเนินการย่อมมีจิตใจที่ยิ่งใหญ่จึงจะทำงานใหญ่ได้ ใหญ่คู่กับใหญ่ เล็กก็คู่กับเล็ก
งานสร้างพระใหญ่ เราก็ถือเสียว่าเป็นงานสร้างพระพุทธรูป ไม่ใช่งานเผยแพร่ศาสนา งานเผยแพร่ศาสนาเสียอีกที่กระทำได้ยาก เพราะเป็นงานใหญ่แต่ละเอียดอ่อน สมัยพุทธกาลผู้ไม่บรรลุอรหัต์ไม่มีสิทธิ์เทศนาสั่งสอนใครเขาหรอก ยิ่งงานเผยแพร่ยิ่งไม่มีทาง แต่ดูสมัยนี้สิ ใครอยากตั้งตนสอนธรรมก็ทำกันให้เกร่อ ทั้งฆราวาสทั้งนักบวช มันจึงวุ่นวายกันไปหมดทั้งสังคม

ใครคิดสร้างพระ ไม่ว่าเขาจะเป็นคนยังไงผมก็ไม่สนใจเขาหรอก มีแต่ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วย ฉายาลักษณ์พระพุทธเจ้า เห็นที่ใดจิตใจก็ผ่อนคลาย สงบลงได้ ใจสงบแม้น้อยนิด ก็เป็นบุญใจอยู่แล้วมิใช่หรือ อย่ามัวเสียเวลาไปจับผิดคนสร้างเลย มันไม่ดีมากๆ