เหมือนมีพลังงานไฟฟ้าถ่ายเทลงกลางกระหม่อมหมายถึงอะไรคะ

รบกวนผู้รู้คะ คือ เวลาที่ดิฉันนั้งสมาธิ ณ.ปัจจุบันนี้พอสมาทานกรรมฐานเสร็จแล้วหลับตา ยังไม่ได้บริกรรม คำภาวนาใดๆ เลยจิตจะสงบทันที หลับตาปุ๊บเหมือนลมหายใจขาดหายไปทันทีแต่มีสติและสงบ มีเหมือนแสงวงกลมเป็นเหมือนขอบเลนส์กลมๆแวปๆ ขึ้นมา 2-3 ที แล้วดิฉันก็จะนิ่ง ในสมาธิดิฉันไม่มีไรแต่ ทุกครั้งกลางกระหม่อมเหมือนเปิด ดิฉันจะรับรู้ได้ว่าเหมือนกระเเสไฟฟ้านะคะ(เปรียบเทียบเหมือนพลังงานไฟฟ้าเพราะไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนแบบนั้นนะคะ) เหมือนมีพลังงานไหลลงกลางกระหม่อมและก็ไหลขึ้น บนเหนือหัวตลอด อาการเหมือนขนหัวลุกแต่ไม่ใช่คะ เพราะพลังงานมันเยอะมากกว่านั้น
นอกจากในสมาธิแล้ว บางเวลาในชีวิตปกติ ก็เป็น คือเวลานิ่งๆคิดว่าจะตัดสินใจอะไรแบบนี้ก็เป็นคะ ดิฉันแค่อยากรู้ว่าคืออะไร รบกวนท่านผู้รู้บอกเป็นธรรมทานด้วยนะคะ สาธุ

 

คุณมีสิ่งพิเศษที่ไม่เป็นอันตราย ดีแล้วค่ะ บอกได้แค่นี้ที่เหลือจะรู้เมื่อถึงเวลา หมั่นสวดมนต์และปฏิบัติธรรมกรรมฐานไปเรื่อยๆ อย่าไปอยากรู้ค่ะ

 

ขอบคุณมากคะ แล้วดิฉันมาถูกทางแล้วใช่ใมคะ ปกติครูบาอาจารย์ท่านจะบอกให้ดิฉันไม่ให้ส่งจิตออก แค่ให้เว้น ว่าง วาง ให้ว่าง แล้วจะสว่างเอง ท่านบอกแบบนี้ดิฉันก็ปฏิบัติตาม แต่ไม่รู้ว่าตัวเอง ถึงใหนแล้วแค่ทราบว่าตอนนี้พอหลับตายังไม่บริกรรมคำใดๆ ก็นิ่งแล้วลมหายใจละเอียดไม่ต้องบริกรรมแล้ว ทราบแค่นั้นคะ

 

ถูกทางแล้วค่ะ ปฏิบัติต่อไปนะคะ ให้ว่าง วาง แล้วจะสว่างเหมือนที่ครูบาอาจารย์บอกค่ะ เมื่อสงบดีแล้ว ให้ยกจิตขึ้นพิจารณาความว่างก็ได้ค่ะ

 

น่าจะเป็นพลังจักรวาล(รังสีคอสมิค)

สมัยหนึ่งผมเคยเรียนวิชาพลังกายทิพย์(พลังจักรวาล) กับคุณย่าเยาวเรศ ซึ่งตอนนั้นผมมีพื้นฐานด้านสมาธิมาแล้ว

พอกำหนดจิตไปที่จักระที่๗ (บนกระหม่อม) ก็จะมีพลังไหลลงเป็นท่อตามแนวเส้นทางของจักระ ลงไปยังจักระที่๑

ผมสังเกตุว่ามือจะร้อนขึ้น หากประกบมือทั้งสองเข้าหากัน จะมีพลังคล้ายผลักกันให้ห่างออกมากว้างมาก แล้วคล้ายก้อนพลังงานหยุ่นๆกลมๆอยู่ตรงกลาง

ผมเคยทุ่มก้อนพลังงานนี้ไปที่หลังของพี่ชายที่ยืนหันหลังอยู่ห่างจากผมสัก๔-๕เมตร พี่ชายผมสะดุ้งพร้อมขนลุกคล้ายๆมีพลังไฟฟ้าผ่านตัวลงไปที่พื้น

สรุปว่า...ท่านจขกท.คงมีบุญมามาก กำหนดจิตเป็นสมาธิได้ง่าย ส่วนอาการที่เกิดขึ้นคงเป็นเรื่องพลังจักรวาลที่ไหลผ่านจักระที่๗ลงมา หากรู้สึกว่ามือร้อนขึ้นแสดงว่ามีกระแสปราณ(พลังชีวิต หรือ "ชี่") แผ่ออกมามาก(โดยเฉพาะหากนั่งหรือยืนในธรรมชาติใกล้พื้นดินจะดีกว่าทำบนตึกสูง และถ้าใกล้ต้นไม้ใหญ่หรือต้นไม้ตระกูลต้นหูกระจงก็จะดีมาก)

ถ้านำไปรักษาอาการเจ็บป่วย โรคก็จะหายได้เร็ว ... แต่ถ้ามุ่งในการเจริญกรรมฐานแล้ว อาการต่างๆที่เกิดขึ้นมา นักเจริญกรรมฐานเขาให้มีสติรู้ไว้อย่างเดียวโดยไม่ต้องสนใจนะครับ และที่สำคัญคือควรรักษาอารมณ์ใจสงบอย่างนี้ให้ทรงตัวได้ตลอด (จิตจะเกาะแต่อารมณ์สงบและสุขภายใน และจะไม่สนใจสิ่งเร้าภายนอก)

และเมื่อมีอารมณ์ใจตั้งมั่นดีแล้ว ก็ควรที่จะโน้มใจไปพิจารณาไตรลักษณ์ให้เห็นตามความเป็นจริงของขันธุ์ห้าในตัวเรา ตัวเขาและวัตถุธาตุทั้งหมด(ที่สำคัญถ้าเห็นไตรลักษณ์ในตัวเราเองได้ ก็จะเห็นไตรลักษณ์ของทุกอย่างหมด)

ดั่งคำสอนของ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ท่านบอกว่า "หากใครทำสมาธิอย่างเดียว ไม่พิจารณาธรรม ก็เสมือนกับต้มน้ำเดือดทิ้งไปเปล่าๆ"น่าเสียดายนะครับ

 

สาธุคะ..พอดิฉันแล้วเหมือนขนหัวลุกเลย... จะบอกว่า เมื่อ 2-3 วันก่อนหลังจากโพสต์ในนี้ดิฉันก็ปฏิบัติปกติ แต่ 2-3 วันที่ว่าตัวเองเหมือนโดนไฟช็อต วันแรกที่ มือด้านซ้าย คือ เวลานั้งดิฉันจะเอามือวางที่เข่าทั้ง 2 ข้างไม่ได้ประสานกันนะคะ พอวันที่ 2-3 เหมือน โดนช็อตที่ตัวแต่เเป๊บเดียว นะคะ
ขอบคุณมากคะ เรื่องที่แนะนำวืธีพิจารณาไตรลักณ์ ดิฉันจะลองหาอ่านศึกษาดูและจะนำมาปฏิบัติ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ดิฉันไม่มีความรู้ทางธรรมเลยคะ ทำเพราะมีเหตุให้เข้ามาสู่ทางธรรม เมื่อ3 ปีที่แล้วนี้เอง
ขอบคุณที่บอกเป็นธรรมทาน สาธุ คะ

 

บางเวลาในชีวิตปกติ ก็เป็น คือเวลานิ่งๆคิดว่าจะตัดสินใจอะไรแบบนี้ก็เป็นคะ ดิฉันแค่อยากรู้ว่าคืออะไร

เป็นอาการของจิตที่เป็นสมาธิ ไม่มีอะไร

นิพพานคืออะไร ?

 

สาธุ..คะ ขอบพระคุณมากคะ