เมื่อนักปฏิบัติ มี โอปะปาติกะ มาสอนในสมาธิ

เตชพโล ชื่อนี้ท่านได้แต่ใดมา??

 

ตัวจริงก็ดูดีนั่นแหละครับ
ส่วนชื่อมันจะผิดจะถูกก็จะเป็นอะไรล่ะครับ

ชื่อนายสวรรค์ นายดุสิต
ทำชั่วมันก็ตกนรก
แล้วชื่อผิดชื่อถูำกบ้างมันจะเป็นอะไรไปครับ

 

ก็ตั้งเอานั่นแหละ
ถ้าไม่ตั้งแล้วชื่อมันจะมีได้ยังไงครับ

 

ฆราวาสทุกท่าน จงฟังเราจะเตือน สิ่งที่เมื่อถึงเวลาต้องปล่อยกลับไม่ปล่อย สิ่งที่ไม่ควรนำมากลับนำมา
เป็นฆราวาส อย่าเอาของสงฆ์มาใช้!!

 

ประสาตัวหนังสือ
ยึดกระทั่งตัวหนังสือ
แล้วขันธ์ 5 จะปล่อยยังไงล่ะ
กับอีแค่ตัวหนังสือยังไปยึด
สมมติว่าชื่อนั้นชื่อนี้เท่านั้นแหละ

 

ถ้าอย่างนั้นสงฆ์ก็เป็นสมมุติ ของสงฆ์ พิธีกรรมสงฆ์ต่างๆก็ล้วนเป็นสมมุติ บุญบาป ก็เป็นสมมุติ
ท่านพ้นสมมุติแล้วรึ ถ้าอย่างนั้น ท่านก็ไม่ต้องสนใจอะไรกับคำเตือนของเราหรอก
เพราะเราเตือนฆราวาสทั่วไป ไม่ได้เจาะจงฆราวาสผู้ใช้นาม เตชพโล

 

ทั้งหลายเป็นเพียงเครื่องระลึกรู้

 

ถูกต้อง สงฆ์ก็สมมติ บุญบาปก็สมมติ
ไม่เคยได้ยินเหรอครับ
พระอรหันต์ ท่านเป็น
"ปุญฺญปาปปหีนบุคคโล บุคคลผู้มีบุญและบาปอันละได้แล้ว"

ถ้าอยากพ้นสมมติก็ต้องปล่อยวางนั่นแหละ
ยังจะไปยึิดไว้ว่าอันนั้นไม่ได้อันนี้ไม่ได้
มันก็คือยังยึดอยู่ดี

พระพุทธองค์ก็ไม่เห็นทรงบัญญัติว่าห้ามใช้ชื่อนั้นชื่อนี้นะครับ
แม้แต่ในพระธรรมวินัยก็ไม่มีว่าห้ามฆราวาสนำชื่อนั้นชื่อนี้มาใช้ไม่ได้

ส่วนคำเตือนของคุณผมไม่สนใจอยู่แล้ว
ผมแสดงความคิดเห็นตามควรเท่านั้นแหละครับ

 

เหมือนกับศีล 227 ข้อ รวมลงที่ใจข้อเดียว บางครั้งอาจใช้เพราะเหตุมีศรัทธาในสิ่งที่สร้างหรือเคยสร้างไว้ สำหรับคำว่าเตชพโล ก็มีความหมาย อาจเห็นว่า เป็นคำที่ให้ความหมายในทางที่ดี คือ กระตุ้นเตือน เป็นผู้มีพลังพอจะประหารกิเลส อาจถือเอาเป็นฐานที่ตั้งของใจในการจะทำสิ่งใดก็ได้ หากไม่ได้ใช้เพื่ออวดอ้างสรรพคุณ ต่างๆนานาๆ อย่าว่าแต่ฆราวาสเลย สงฆ์ผู้มีฉายาแต่ไม่ได้ใช้เพื่อระลึกกระตุ้นเตือนใจ ก็ยังไม่รู้จักใช้สมมติให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด แต่อย่างว่าหากคนเรามีศรัทธามากในพระอุปัชฌาย์แลพระอาจารย์ทั้งหลาย ก็คงมีไว้เพื่อระลึกนึกถึงท่านกระมัง ฉายาผมก็เคยมีแต่ไม่ใช้ออกนอกมากเพราะมันก็อาจเป็นเหตุให้คนอื่น เกิดความขุ่นข้องหมองใจได้ ผมก็ศรัทธาในฉายานั้นนะ ว่า อุตมปัญโญ แต่ไม่ใช้เพราะรู้ว่าต้องมีคนไม่ชอบแน่ๆ แต่เมื่อเห็นมีคนใช้ก็ ไม่ได้ว่าอะไรหากเกิดเพราะศรัทธาแต่ต้องพิจารณาจริงๆอยู่เนืองๆด้วยว่า ทำไมถึงใช้ จะได้ไม่เป็นโทษ

 

ฉายาตอนเป็นพระก็มีนะแต่ไม่กล้าเอามาใช้หรอก ตอนสึกจากพระเขาก็ถามแล้วว่า...หรือยัง เราก็ตอบไปแล้วว่า...แล้ว เขาถึงได้กระตุกผ้า

 

พระอุปัชฌาย์ถามว่าอะไรครับ...หรือยังคืออะไรครับ แล้วเราตอบว่า...แล้ว ที่เป็น...หมายถึงอะไรครับ ช่วยขยายความนิดนึงครับ
ขอบคุณครับ (คือขี้สงสัยครับ)

 

ถามอะไรครับ ถามขอชื่อคืนเหรอ

 

เป็นไงครับยังอยากเตือนผมอยู่มั้ย
ตอนอยากเตือนกับตอนนี้อารมณ์ต่างกันมั้ยครับ

 

ต่างกันนะ แล้วตอนนี้กับ ตอนโดนเตือนต่างไหมล่ะ นี่ละ ผู้ปฏิบัติ พอทิฏฐิมันขึ้นมันก็ขึ้นจนไม่ลืมหูลืมตา ลืมตัวลืมตนไป พอรู้ว่ามันลืม เอ้า กู นี่ เมื่อก่อนหลวงตาเคยเทศน์ให้ฟังทางสมาธินะ เอ้าเมื่อก่อนกู นั้นเก่งนะ ใครมันจะมาเตือนกูได้ ต้องมาแนะนำกูซิ เพราะกูดีอยู่แล้ว นี่ พอทิฏฐิมันคลาย เออ เตือนมันก็เรื่องของเขาไม่ใช่เรอะ มันสิทธิของเขา เธอจะฟังไม่ฟังมันเรื่องของเธอ แล้วที่เตือนไม่ได้หวังให้ไปทำร้ายใคร ไม่ได้ให้ไปทุบตีใคร ถ้าผู้มีปัญญาก็คงทำความเห็นให้ตรง ไม่พูดมากละ .

 

ช่ายยยยย

 

ส่วนของผมไม่ต่างล่ะครับ
รู้อยู่แล้วว่าคุณจะมาไม้ไหน

ถ้าต่างกันแสดงว่าไม่เป็นธรรมแล้วล่ะครับ
แสดงว่ากิเลสบงการแล้วล่ะครับ
หลวงตาท่านมีอยากสอนอยากไม่สอนมั้ยล่ะครับ
ท่านสอนแล้วก็จบท่านไม่เอามาเป็นอารมณ์
ใครจะเอาก็เอาไม่เอาก็เรื่องของเค้า

ตกลงจะยังอวดเก่งสอนคนอื่นอยู่อีกเหรอ
ยังอยากทำอะไรที่เกินความสามารถตัวเองอยู่อีกนะคุณ

 

คุณ ปราบ ฝากคำถามไว้ใน pm. เรื่องที่จะถาม หลวงพ่อ ได้นะครับ..
พรุ้งนี้ ที่ 11/4/2555 ผมจะไปทำสังฆทานที่วัดพอดี..ถ้าไม่เห็นข้อความนี้.ก็วันหลังไปอีกจะถามให้ครับ..

 

ครับขอบคุณครับผม ยินดีในบุญครับ