ความจริงเรื่องรูปหลวงปู่เทพโลกอุดร

ขอบคุณที่มาจากเว็บ ที่กัลยาณมิตรทุกท่านส่งมาให้ครับ และนี่ก็คือรายละเอียดครับภายในเว็บ ขออนุญาตคัดลอกมานะครับ
จากนั้น เพื่อความมั่นใจ จึงได้เดินทาง ไปพบ หลวงพ่อเจ็ก วัดระนาม ... เพื่อให้ท่านยืนยันว่า หลวงพ่อพรหม ในรูปใช่หลวงพ่อพรหม หรือ ไม่ ... คำตอบจาก เสียงเบาๆ ของหลวงพ่อ คือ "ท่านคือหลวงพ่อพรหม เป็นอุปัชญาย์ ของฉันเอง" ภาภาพถ่ายนี้ถ่าย เมื่อไปพบหลวงพ่อเจ็ก ซึ่งกำลังอาพาธ ก่อนจะมรณะภาพอีกประมาณ ๑ ปี ต่อมา

 

สุดยอดครับ

 

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมไม่เคยข้องเกี่ยวกับบุคคลใดบุคคลนึงที่แสวงหาผลประโยน์กับการขายพระหลวงปู่ใหญ่ พระครูโลกอุดร และที่จะเล่าให้ฟังเป็นประสบการส่วนบุคคลจะเชื่ิอหรือไม่ ไม่ว่ากัน เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมชอบซื้อหนังสือเกี่ยวกับประวัติพระเกจิ พระเครื่อง หรือถ้าไม่มีอะไรอ่านจริงๆ พวกหนังสือโลกทิพย์ ผมก็อ่านได้ แล้วในนั้นก็มีอยู่เล่มนึง เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระครูโลกอุดร ตอนอ่านผมก็พูดกับตัวเองตลอด ว่าจะจริงหรือ โม้ไปเปล่า หลอกลวงมั่ง แต่ก็อ่านจนจบเล่ม และด้วยความสงสัยไม่เชื่อ ผมจึงพูดขึ้นมาลอยๆว่า ถ้าท่านมีตัวตนจริง ผมขอเจอท่านสักครั้งนึง แล้วจะนับถือท่านไปตลอด และทุกวันนี้ผมก็ยังนับถือท่านอยู่ บนคอผมจะต้องรูปท่านอยู่เสมอ ความเชื่อส่วนบุคคลครับ

 

ขอบคุณครับพี่โจ๊ะ.....
มีเพื่อนผมคนหนึ่งถามผมเรื่องนี้เหมือนกัน....
ผมจำได้แต่เพียงหลวงปู่เทพโลกอุดร สมัยโบราญที่เข้ามีเผยแพร่ศาสนาในดินแดนศรีวิชัย....

แต่หลวงปู่เทพฯในภาพ...ตอนนี้กระจายในวงกว้างในสำนักแม่ชีหลายๆแห่งอยู่นะครับ....

จะมาอ่านต่อครับพี่...

 

ตาสว่างอีกแล้ว.....ขอบคุณมากมายสำหรับภูมิคุ้มกันครับ

 

ครับพระครูเทพโลกอุดร หรือสมัยก่อนเขาเรียกว่าพระครูขี้หอม จะจริงจะเท็จยังไงเรียนตามตรงสำหรับผมไม่สรุปครับไม่ได้มีการลบหลู่อะไรท่าน หรือไม่ได้บอกว่าท่านไม่มี แต่ผมเชื่อด้วยหลักฐานที่พี่กำธรเอามาดูว่ารูปภาพที่นำมากล่าวอ้างและมีการค้าเกิดขึ้นไม่ใช่รูปพระครูเทพโลกอุดรแน่ๆละครับส่วนท่านจะมีตัวตนหรือไม่หน้าตาท่านเป็นอย่างไรเรียนตามตรงผมไม่ทราบครับ

 

รูปนี้เห็นมานานแล้วที่แท้ก็ไม่ใช่นี่เอง ลงในหนังสือพระหลายเล่มเหมือนกันเมื่อก่อน

 

ผมเองก็ไม่เคยคิดลบหลู่ ครูบาอาจารย์สายนี้ สิ่งที่เราไม่เห็นอาจจะมีจริงก็ได้ แต่สิ่งที่เราเห็นอาจจะไม่จริงก็ได้ เพียงแต่นำสิ่งที่มีหลักฐานมาให้ได้รู้ได้เห็นกัน และก็ไอ้คนขายพระที่อ้างหลวงปู่โลกอุดร ที่ไม่รู้ว่าท่านมีหน้าตาเป็นอย่างไร ผมว่ามันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เหมือนหลอกลวงกัน ขอบคุณมาก ๆ นะครับ

พี่ศุภฤกษ์กลับมาจาก usa แล้ว กลับบ้านเราครับ รักรออยู่

 

หลวงปู่โลกเทพอุดร จะไม่จริงหรือไม่จริง ฐานะอย่างพวกเราไม่มีทางรู้ได้ แต่มีแก๊งหลายแก๊งนำชื่อของท่านไปหาผลประโยชน์เกี่ยวกับพระเครื่อง แล้วยังนำรูปพระองค์ในรูปมาอ้างว่าเป็นหลวงปู้เทพโลกอุดร จึงมีคนตามล่าหาความจริงแล้วความจริงก็เปิดเผย คุณกำธร ก็นำมาเผยแพร่ ให้พวกเราทุกคนได้ตาสว่าง ในทางโลกวิญญาณท่านอาจจะมีจริงแล้วพระหรือคนที่ญาณชั้นสูงอาจจะสัมผัสได้แล้วท่านก็อาจจะมาสอนธรรมมะกันในจิต แต่ผมว่าหลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านคงไม่มาปลุกเสกพระเครื่องให้ใครหลอกครับถ้าเรื่องธรรมมะเพื่อการหลุดพ้นท่านอาจจะมาโปรดผู้มีบุญ เพาะฉะนั้นผู้ที่แอบอ้างพระเครื่องว่าเป็นหลวงปู่เทพอุดร ก็อย่าไปเล่น ขนาดแค่พระเครื่องครูบาอาจาร์ยที่มีหลักฐานชัดเจนยังแทบเอาตัวไม่รอดกันเล๊ย ยังพากันโดนเป็นแถบๆแล้วพระหลวงปู่โลกเทพอุดร ที่แก๊ง18มงกุฏอ้างถึง พวกเราจะเหลือหรอครับ

 

ช่วงนี้กระทู้หนักๆ ทั้งน้านนนนน ห้ามกระพริบตา ไม่งั้น จะคุยกับเขา ไม่รู้เรื่อง

 

อ่านมาเรื่อยๆ ถึงโพสจารย์น้ำ กำลังจะปิดเพจ สำลักกาแฟเลยครับ นึกว่าพี่ต๋อยมาเอง ฮ่าๆๆๆ

 

ที่คุณคิงคอง999ว่าจริงครับ ผมเองไม่เคยคิดลบหลู่ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานที่เป็นพระสายกรรมฐานแท้ๆ หรือแม้แต่หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านอาจจะไม่ได้ใช้ชื่อนี้ก็ได้ แต่ชื่อนี้ คุณสิทธา เชตวันเป็นผู้คิดขึ้นมาใช้เรียกแทนตัวละคร และหนังสือยุคเก่าหารูปของท่านไม่ได้เพราะท่านเป็นพระในตำนานจึงหารูปที่คิดว่าใช่มาลง คนจึงหลงเชื่อว่านั่นคือรูปท่านจริงๆ แต่ตอนหลังโลกมันเปิด ความจริงจึงเปิดเผยออกมา หากว่าผู้ที่งมงายหรือหากินกับความศรัทธาของคนก็นำรูปหลวงพ่อพรหม วัดบางปูน มาใช้เป็นเครื่องมือสร้างรายได้ และยังโยงไปถึงเรื่องราวลี้ลับต่างๆมากมายตามแต่จะจินตนาการผูกเรื่องราวต่างๆขึ้นมา เพื่อเพิ่มพูนรายได้จากแฟนคลับของตนมาช้านาน บัดนี้ผู้ที่เคยหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาทั้งชีพ และ ธิฐิ หากเปิดใจยอมรับความผิดพลาดแห่งใจตนแล้ว กลับมานับถือพระเจ้าธรรมดาอย่างเดิม อย่าไปเดินลุ่มหลงเรื่องราวลึกลับเกินกว่าที่เราเห็นดีกว่าครับ โลกต้องหมุนไปข้างหน้า ไม่ใช่หมุนกลับ

 

แบบว่าขอออกความคิดเห็นหน่อยนะครับ ภาพที่เป็นปัญหากันตอนนี้ ของหลวงปู่พรหมเป็นภาพถ่าย แต่ภาพของหลวงปู่ใหญ่เป็นภาพวาดนะครับ นี้คือภาพที่เคยเห็นกัน



ภาพนี้ทำแจกในหมู่ลูกศิษย์ จนเป็นที่แพร่หลาย ลูกศิษย์ท่านนึงเคยเล่าให้ฟังว่า ภาพนี้ถูกวาดจากความทรงจำของผู้ที่เคยพบหลวงปู่ใหญ่ แต่รายละเอียดส่วนใหญ่ผมไม่ได้ถาม ก็แบบว่าไม่รู้ในอนาคตต้องมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ คราวนี้เป็นข้อสันนิฐานของผม เมื่อเป็นภาพวาด ไม่มีหลวงปู่่มาเป็นแบบให้ ก็ต้องออกแบบหาแบบถึงภาพที่จะวาด แล้วคงไปเจอภาพของหลวงปู่่พรหมแล้วถูกใจ เลยเอามาเป็นไกค์ในการวาด โดยใช้องค์ประกอบของภาพหลวงปู่พรหมเป็นหลัก เปลี่ยนเพียงหน้าตาเท่านั้น

สังเกตุนะครับ ที่เห็นชัดๆคือรูปหน้าของหลวงปู่พรหมจะออกกลมๆ ส่วนหลวงปู่ใหญ่จะเรียวกว่าครับ ผมลองถ่ายใกล้ๆให้เห็นกันชัด



อย่างว่าเป็นเพียงแค่ความคิดผมเท่านั้น เพราะตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะไปถามใครแล้ว ก็คณะศิษย์ที่สร้างภาพนี้ที่ผมรู้จักได้เสียไปหมดแล้ว
1.ครูโทนที่ตาคลี เสียไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน อายุตอนที่เสีย 118ปีหรือ 128ปีนี้แหละ
2.อาจารย์มนูญ เสียหลังจากครูโทนไม่กี่ปี
3.เฮียสมชาย เสียไปประมาณ2ปีได้

และนี้เป็นพระหลวงปู่ใหญ่ใส่มานานหลายปี ถึงแม้ว่าในวงการพระเครื่องจะไม่มีราคา แต่สำหรับผม......ต้องสั่งตัดตลับทองน้ำหนักเกือบสองบาท



แต่ปัจจุบันผมเปลี่ยนเป็นพระองค์เล็กๆ จะได้ใส่เยอะหน่อย



อยากสูงสัก190ซ.ม จะได้ทำสร้อยยาวๆ คงได้อีกหลายองค์

ปล.พระของหลวงปู่ใหญ่ ที่ผมได้ทั้งหมดฟรีครับ สร้างแจกในหมู่บุคคลที่นับถือ กฏหลักคือห้ามขาย ให้กับบุคคลที่ควรให้เท่านั้นครับ ไม่เกี่ยวกับพวกวังหน้าอะไรนั้นนะครับ

 

ภาพนี้หนังสือโลกทิพย์เป็นผู้เอามาเผยแพร่ก่อน จากนั้นก็มีรูปวาดเวอร์ชั่นอื่น ๆ ตามมาทีหลังโดยอาศัยภาพที่โลกทิพย์นำออกเผยแพร่เป็นหลักครับ

 

เวอร์ชั่นอื่นผมไม่เคยเห็น เอาเวอร์ชั่นนี้หนังสือโลกทิพย์เอามาจากไหนครับ

 

อื่อ..ส่วนตัวกระผมคิดว่ามีจริงน่ะครับแต่รูปที่วาดมาหรือภาพที่ถ่ายมาอาจจะคล้ายคลึงกันก็ได้ เพราะคนเราก็ยังมีหน้าตาคล้ายกันเยอะ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างท่านก็สอนให้ปฏิบัติดี ถือศีลทำความดีก็ไม่เห็นจะเสียหาย แต่ใครที่นำเอาท่านมาทำมาหากิน หรือเอาปัจจัยต่างๆเข้ากระเป๋าตัวเองก็แล้วแต่กรรมของใครของมัน น่ะครับ แต่ถ้านำมามาเพื่อทนุบำรุงพระพุทธศาสนาก็อนุโมทนาสาธุ อย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ได้สอนบอกว่าอย่าเชื่ออะไรโดยง่ายนั่นแหละครับ ....

กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตติยสูตร หรือเกสปุตตสูตร ก็มี<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP>) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

 

ผมเคารพรักหลวงปู่ใหญ่นะครับ อย่าโกรธกันนะครับ ผมเชื่อว่าท่านมีจริง เเละเชื่อถือในภาพวาดนั้น ถ้าจะถูกมองว่าเป็นควายก็ยอมครับ เพราะหลักพละ5ของพะรพุทธเจ้า ศรัธามาก่อน จนขนาดย้ายภูเขา เปลี่ยนป่าเป็นเมือง ล้างใจคนให้บริสุทธิ์ได้ เคารพทุกความเห็นครับ สาธุๆๆ หลวงปู่ใหญ่ และไม่เห็นด้วยกับเสี้ยนพระที่นำชื่อเสียงปู่ใหญ่มาหากิน แต่มองอีกด้านก็ช่วยให้คนมีที่พึ่ง แต่ไม่ควรเช่าหาเเพงนัก และพูดอะไรเกินจริง