" ไข่เยี่ยวม้า อันตรายในความอร่อย "

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย น า ทู รี, 14 มีนาคม 2012.

  1. น า ทู รี

    น า ทู รี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +164
    อาหารที่หลายคนโปรดปราน อาจทำให้เจ็บป่วยเพราะพิษจากสารตะกั่วได้จ้ะ

    www.pharm.su.ac.th/cheminlife/cms/index.php/kitchen-room/preserved-egg.html

    [​IMG]


    ไข่เยี่ยวม้าเป็นอาหารชนิดหนึ่งของชาวเอเชีย ซึ่งเป็นอาหารดั้งเดิมของจีน ในปัจจุบันนิยมทำไข่เยี่ยวม้าจากไข่เป็ดมากกว่าไข่ไก่ ไข่เยี่ยวม้าประกอบด้วย โปรตีนในปริมาณสูง นอกจากนี้ยังประกอบด้วยไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก

    ไข่เยี่ยวม้าจึงเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีราคาถูก ในปัจจุบันพบการปนเปื้อนของตะกั่วในไข่เยี่ยวม้า ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพร่างกาย เพราะตะกั่วจัดเป็นโลหะหนักที่มีพิษและสามารถสะสมในร่างกายได้จึงทําให้เกิด โรคเรื้อรัง โดยมักสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ตับ ไต กระดูก กล้ามเนื้อ และระบบประสาทส่วนกลาง

    ซึ่งความเป็นพิษของตะกั่วจะเกิดขึ้นเมื่อมีระดับตะกั่วในเลือดสูงประมาณ 0.06-0.10 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ความจำเสื่อม โลหิตจาง ควบคุมการทรงตัวไม่ได้ และในที่สุดจะทำให้ไตวาย ชัก และเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นผู้บริโภค จึงควรมีความรู้เบื้องต้น ในการเลือกซื้อหรือเลือกรับประทาน ไข่เยี่ยวม้าที่ปราศจากตะกั่ว เชื้อจุลินทรีย์ และสารพิษต่าง ๆ

    ซึ่งไข่เยี่ยวม้าที่มีวิธีการผลิตที่ดี ไม่ปนเปื้อนสารอันตราย จะทำให้ไข่มีลักษณะเปลือกไม่แตกร้าว ไม่บุบ ไม่มีจุดสีดำ ไข่ขาวเป็นวุ้นใสสีน้ำตาล อ่อนนุ่ม และมีความคงตัวดี ไข่แดงและไข่ขาวแยกจากกันชัดเจน ไข่แดงมีสีเทาหรือน้ำตาลอมเขียว เป็นยางมะตูมหรือแข็งกว่า มีกลิ่นและรสตามธรรมชาติ ไข่ขาวมีรสเค็มเล็กน้อย ไข่แดงมีรสมันและเค็มเล็กน้อย

    คุณค่าทางอาหารของไข่เยี่ยวม้า

    ไข่เยี่ยวม้ามีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงกับไข่สด เพราะประกอบด้วยโปรตีนเป็นส่วนใหญ่ ไขมัน คาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังประกอบด้วยวิตามิน (วิตามินเอ วิตามินบี1 และบี 2) และเกลือแร่ (แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก) เป็นต้น<SUP>3</SUP> ในไข่แดงของไข่เยี่ยวม้ายังประกอบด้วยเลซิทิน (lecithin) ซึ่งมีปริมาณต่ำกว่าที่พบในไข่สด เนื่องจากเลซิทินถูกทำลายในระหว่างกระบวนผลิตไข่เยี่ยวม้าและในระหว่างการ เก็บรักษา อย่างไรก็ตามไข่เยี่ยวม้ามีข้อดีกว่าไข่สด คือ สามารถเก็บไว้ได้นานประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ไม่แตกร้าวง่าย จึงสะดวกในการขนส่ง


    การปนเปื้อนของตะกั่วในไข่เยี่ยวม้า

    มีรายงานการพบตะกั่วปนเปื้อนในไข่เยี่ยวม้า ในปริมาณที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยผู้ผลิตมีการเติมออกไซด์ของตะกั่วหรือสารประกอบของตะกั่วลงในส่วนผสมที่ ใช้ทำไข่เยี่ยวม้า เพื่อเป็นตัวควบคุมความเป็นกรดด่างให้คงที่ซึ่งจะทำให้ไข่ขาวแข็งตัวได้สม่ำ เสมอ ทำให้พบตะกั่วในรูปของซัลไฟด์ปนเปื้อนอยู่ในไข่เยี่ยวม้า

    สังเกตได้จากไข่ขาวมีสีดำมากผิดปกติและมีสีขุ่นไม่เหมือนไข่เยี่ยวม้าทั่วไป ซึ่งไข่ขาวจากไข่เยี่ยวม้าที่ปราศจากตะกั่วจะมีลักษณะใสและสีน้ำตาลคล้ายสี กาแฟ ดังนั้นถ้าพบไข่เยี่ยวม้าที่มีไข่ขาวขุ่นและสีดำคล้ำผิดปกติควรละเว้นการรับ ประทานเพราะอาจทำให้เกิดพิษจากตะกั่วได้
    <SUP></SUP>
    [​IMG]


    ความเป็นพิษของตะกั่ว

    บุคคลทั่วไปมีโอกาสที่จะเกิดโรคพิษตะกั่วได้ จากการสัมผัสตะกั่วที่ปนเปื้อน ในอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยตะกั่ว เป็นโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก<SUP>6-8</SUP> เมื่อตะกั่วเข้าสู่ร่างกายจะถูกดูดซึม และมักสะสมอยู่ในกระดูกเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังสะสมได้ที่ สมอง ปอด ตับ ม้าม ไต เส้นผม และไขกระดูก อาการพิษจากตะกั่วหรือโรคพิษตะกั่วจะเกิดขึ้นเมื่อมีปริมาณตะกั่วสะสมในร่าง กายในระดับสูงเกินเกณฑ์

    อาการพิษจากตะกั่วในผู้ใหญ่เริ่มจากเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก หรืออาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย อาการที่สำคัญ คือ ปวดท้องอย่างรุนแรง อาการทางระบบประสาทส่วนปลาย ได้แก่ อาการกล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรง บางครั้งปวดตามกล้ามเนื้อและข้อต่าง ๆ ถ้าร่างกายได้รับตะกั่วเข้าไปในปริมาณสูงและติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้ กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต เช่น กล้ามเนื้อที่ใช้เหยียดข้อมืออ่อนแรง ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่ามือห้อย

    ส่วนมากจะเป็นเฉพาะที่กล้ามเนื้อข้างใดข้างหนึ่งของแขนหรือขาเท่านั้น อาการทางสมองจากพิษของตะกั่วเป็นอาการที่รุนแรงที่สุด เริ่มด้วยอาการตื่นเต้น นอนไม่หลับ ฝันร้าย อารมณ์ฉุนเฉียว ขาดสติ และในที่สุดอาจชัก หมดสติ และเสียชีวิตได้

    อาการทางโลหิตพบว่าผู้ป่วยมักมีอาการซีด โลหิตจาง อ่อนเพลีย นอกจากอาการดังกล่าวแล้วผู้ป่วยมักมีอาการปวดศรีษะ มึนงง ความดันโลหิตสูง ไตและสมองถูกทำลาย9 ในรายที่เป็นพิษตะกั่วเรื้อรังพบว่ามีอาการตัวเหลืองและตาเหลืองร่วมด้วย

    สำหรับพิษตะกั่วในเด็กพบว่าตะกั่วมีพิษต่อระบบประสาท โดยตะกั่วจะทำลายทั้งระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทส่วนปลาย เกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อ มีอาการเท้าห้อย ทำให้ระดับสติปัญญาลดต่ำลง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการผิดปกติทางจิตประสาทอีกด้วย พิษของตะกั่วในระบบทางเดินปัสสาวะของเด็กพบว่าตะกั่วมีพิษต่อไต ทำให้เซลล์ในไตเสียหาย

    หากมีอาการรุนแรงเฉียบพลันจะพบกรดอะมิโน น้ำตาล และเกลือฟอสเฟต ในปัสสาวะในปริมาณที่สูงมาก เกิดไตวาย และมีความดันโลหิตสูง ตะกั่วจะออกฤทธิ์ขัดขวางการดูดซึมและการใช้ธาตุเหล็กจึงทำให้ร่างกายหยุด สร้างเม็ดเลือดแดง อายุของเม็ดเลือดแดงสั้นลง เม็ดเลือดแดงจะแตกง่าย เกิดภาวะโลหิตจาง

    ตะกั่วมีพิษต่อหัวใจโดยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ สำหรับในระบบทางเดินอาหารของเด็กนั้นพบว่าตะกั่วทำให้เกิดการบีบเกร็ง ของกล้ามเนื้อเรียบจึงมีอาการปวดท้อง ในตับพบว่าตะกั่วทำลายตับและขัดขวางการสร้างวิตามินดีที่ตับ จึงทำให้เด็กเจริญเติบโตช้า ทารกในครรภ์หรือเด็กที่ได้รับน้ำนมจากมารดาที่ได้รับอาหารจากการปนเปื้อนของตะกั่วจะเจริญเติบโตช้า และระดับสติปัญญาลดลง


    [​IMG]
     
  2. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,842
    โหวตให้ค่ะ.. มีประโยชน์มากๆ บางคนชอบจังไข่เยี่ยมม้า
     
  3. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ขอบพระคุณสำหรับความปรารภนาดีครับ โหวตให้อีกเสียง
     
  4. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    นานๆทานทีค่ะ แม้จะทราบว่าไม่ดี
    ชอบทานส่วนที่เป็นไข่ขาว อร่อยค่ะ
     
  5. khunfongbeer

    khunfongbeer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +668
    ขอโหวตด้วยคนค่ะ ชอบทานกะเพราไข่เยี่ยวม้ามากเลยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...