คุณฝึกอานาปานสติอย่างไร มีผลอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jubganoi, 15 มีนาคม 2012.

  1. jubganoi

    jubganoi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +13
    อยากสอบถามคนในนี้ที่ฝึกอานาปานสติ ว่าทำอย่างไร เพราะหลายๆ คนทำไม่เหมือนกัน และอยากถามว่าได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง ที่ถามเพราะอยากจะทราบจากประสบการณ์ของหลายๆ ท่านๆ เพื่อจะได้ทราบว่าแบบไหนได้ผลอย่างไร ขอบคุณครับ
     
  2. jubganoi

    jubganoi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +13
    อนุโมธนาด้วยครับ ตอนนี้ผมก็ฝึกอยู่เหมือนกัน
     
  3. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ผลที่รู้สึกได้
    ทางร่างกาย รู้สึกว่า ร่างกายเบาสบาย จิตใจเบาสบาย รู้สึกเหมือนส่วนของร่างกาย ตั้งแต่เหนือคิ้วขึ้นไป ไม่มี ส่วนที่จะเป็นสมอง มัน เบา โล่ง เหมือนไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้นเลย เข้าขณิกสมาธิได้ง่าย นั่งอยู่เฉยๆ หายใจเข้าออก ไม่กี่ที ก็จะเริ่มสบายๆ ได้แล้ว

    ทางจิตใจ จิตใจเบิกบาน ไม่คิดร้ายต่อผู้ใด มีจิตเมตตาไม่เลือกต่อคนอื่นทุกคน ไม่ฟุ้งซ่าน อยู่กับสิ่งที่กำลังทำอยู่ ไม่คิดถึงสิ่งอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อเป้าหมายที่กำลังทำอยู่ และวางแผนที่จะทำ อารมณ์เย็นๆ สบายๆ คงที่เกือบตลอดเวลา ไม่ค่อยโมโห โกรธ ใคร หากเกิดความโกรธขึ้น จะระงับได้หมดภายในเวลาไม่กี่วินาที
     
  4. raycharlotte

    raycharlotte Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +46
    อนุโมทนาค่ะ ตอนนี้กำลังฝึกอยู่เหมือนกันอ่าค่ะ นั่งได้ไม่นานเท่าไรแต่ขออย่างน้อยวันละ 10 นาที แต่หลายครั้ง ๆ ต่อวัน อีกอย่างคือติดที่ว่าเป็นคนฟุ้งซ่านมากกกกกก....เพ้อเจ้อ ชอบคิดไปเองด้วยค่ะ ไม่ทราบว่านาน ๆ ไปอาการแบบนี้จะหายได้ไหมคะ??
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เวลา ฟุ้งซ่านอยากนั่น อยากนี่ กังวลนัั่นนี่
    ให้ สูดลมหายใจเข้าพร้อมกับนึกถึง เวลาที่สบาย ที่มีความสุข
    ผ่อนลมหายใจออก พร้อมกับนึกถึง วันที่สบาย ที่มีความสุข

    รู้จักมีเวลาพัก ทำลมหายใจแบบนี้ให้กับตัวเอง

    ไม่ใช่ หายใจเข้ามีแต่ทุกข์ กังวล หายใจออกมีแต่ทุกข์ เครียด กังวล

    แบบนั้น มันจะทำให้เรา มีแต่ทุกข์ เครียด
     
  6. jubganoi

    jubganoi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +13
    ครับ คล้ายๆ กับผมเลย ทำแล้ว สบายใจดี จิตใจดีขึ้น มีสติดีขึ้น สบายๆ ไม่ค่อยคิดร้ายกับใคร
     
  7. jubganoi

    jubganoi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +13
    ผมพยายามฝึกนั่งให้นานที่สุด รู้สึกทำแล้วเกิดผลเห็นชัดเจน และรู้สึกสบายมาก อาจจะถูกจริต
     
  8. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ตามนี้เลยครับ อุปมา ฟุ้งซ่าน ก็เหมือน ม้าป่า จะคอยพยศ เตลิดไปเรื่อยไป แต่หากเรารู้ตัว และกลับมาอยู่กับปัจจุบันได้เรื่อยๆ ก็จะค่อยๆ ละพยศไปทีละน้อยครับ
     
  9. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    โดยหลักการทางธรรมชาติ เรามักจะมีการสัมผัสกับสิ่งภายนอกด้วยอายตนะทั้ง 6
    เมื่อมีการเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้รส ได้ถูกเนื้อต้องตัวกับสิ่งต่างๆ และ คิดนึกไปในเรื่อง
    อดีต อนาคต เรื่องราวต่าง ๆ .....สิ่งที่ผ้สสะทั้งหลายนี้ ย่อมเกิดอารมณ์ไปต่าง ๆ กัน

    สิ่งที่เกิดอารมณ์มันก็เป็นไปในทางชอบ ชัง เฉย ....แล้วแต่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เช่น
    คิดในเรื่องที่เคยเสียใจ อารมณ์ที่ไม่ดีมันก็เกิด ได้ยินเขานินทา อารมณ์ร้ายก็เกิด ฯลฯ
    หากเรามีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ฝึกให้มีอารมณ์ประจำใจ สงบ สบาย อยู่เสมอ จนเป็น

    ปกติวิสัย ....เมื่อมีอารมณ์อื่น ๆ ที่เราได้ผัสสะกับมันแล้ว อารมณ์ก็ไม่กระเจิงไปตาม
    สิ่งที่เราสัมผ้สนั้น ..นั่นแหละ เรามีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวที่ดี คุ้มครองป้องกันทุกข์จากการอยู่
    ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุข .....เราเรียกสิ่งนั้นว่า "ธรรมะ" คำสอนจากศาสดานั่นเอง

    ท่านสอนให้เราฝึกสร้างอารมณ์นี้ให้เกิดขึ้นด้วยการ ดูรู้ที่ลมหายใจ เข้า-ออก เพราะ
    ลมหายใจ ไม่ทำให้เกิดอารมณ์ ชัง มีแต่สงบ สบาย ฝึกให้มาก ๆ จนกำหนดอารมณ์
    สงบ สบายได้อย่างคล่องแคล่วตามใจนีก ก็สำเร็จ มันก็จะคุ้มครอง ป้องกันจิตใจของ

    ผู้นั้นได้อย่างแน่นอน .....เมื่อ เห็น ได้ยิน ...สิ่งใด แล้วไม่ชอบ ก็กำหนดอารมณ์ที่เรา
    ฝึกเอาไว้แล้วขึ้นมา อารมณ์มันก็เปลี่ยนไป จากร้าย กลายมาเป็นดี มีธรรมคุ้มครอง
    ป้องกันจิตใจเราได้ รักษาศีลก็มั่นคง ไม่ดำเนินชีวิตไปในทางเสื่อมเสีย แน่นอน....

    เหตผลที่ดีเท่านี้ พอไหม ????? ของดีอย่างนี้ ไม่ฝึก ไม่ได้แล้ว .......
     
  10. ได้คับ

    ได้คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +106
    ผมทำความรู้สึกตัวในชีวิตประจำวัน โดยไม่กำหนดที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย^^ แต่จะรู้ที่กายทั้งตัวครับ ยืน เดิน นั่ง นอน พิมๆๆอยู่นี้ด้วย^^ อะไรเกิดขึ้นก็รู้ อะไรดับไปก็รู้ ไม่ห้าม และ ไม่ทำ เป็นการรู้แบบสักแต่ว่า (รู้สึกๆ) ผลที่ได้ก็คือ ไม่ได้อะไรเลย ไม่ได้ทั้งสุข ไม่ได้ทั้งทุกข์ และไม่ได้ทั้งเฉยๆ เพราะ ไม่ได้รักษาอะไร ไม่มีภาระอะไรให้แบกให้ถือ จิตใจเบาโปร่ง จะว่าสุขก็ไม่ใช่ จะว่าทุกข์ก็ไม่ใช่ รู้แต่ว่ารู้แบบนี้ไม่มีผู้ทุกข์ และฝึกโดยไม่มีผู้ปฏิบัติ มีแต่ธรรมชาติรูปนามเค้าทำงานอย่างเป็นอิสระ สำหรับผู้สนใจการเจริญสติเพื่อละความเห็นผิดว่ามีเรา เชิญนะครับ เข้ามาพูดคุยกันแบบเพื่อนมิตรสหาย เพื่อความพ้นทุกข์ในชาติที่กลุ่มนี้ครับ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2012
  11. raycharlotte

    raycharlotte Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +46
    ขอบคุณคอมเม้นต์ฯ ของทุก ๆ ท่าน ด้านบนนะคะ มีคำถามอีกข้อค่ะ คือว่า ถ้าจะนั่งสมาธิ คือฝึกจิตให้สงบจริง ๆ จะต้องนั่งเฉลี่ยให้ได้นานวันละเท่าไหนขึ้นไปคะ?? ตอนนี้เป็นผู้เริ่มต้นค่ะ รบกวนขอคำแนะนำด้วย ขอบคุณอีกรอบค่ะ
     
  12. ได้คับ

    ได้คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +106
    1.เมื่อมีสิ่งกระทบเข้ามาคุณเห็นอะไรมั๊ยคะ
    เห็นว่าเห็นเค้าเห็นการกระทบกันครับ
    2.และเป็นอย่างไรเมื่อมีสิ่งกระทบเกิดขึ้น สิ่งนั้นเป็นอะไร และเป็นอย่างไร
    สิ่งที่กระทบก็เป็นอย่างนี้ๆเอง ไม่ได้มีอะไรนอกจกากระทบ
    สิ่งที่กระทบต้องลองทำตามดูนะครับ ยกตัวอย่างให้เห็นการกระทบนะครับ
    ลองเอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้มาสัมผัสกันดูนะครับ มันจะกระทบกันแล้ว
    เกิดการรับรู้ (เห็นมั้ยว่ามันรับรู้ว่ามีการกระทบ)เกิดสัมผัส(รู้สึกถึงนิ้วสัมผัสกันมั้ย)
    นั้นแสดงว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างเป็นตัวรับรู้ถูกมั้ยครับ^^
    ดังนั้น รูปที่เกิดทางตาก็เช่นกันครับ มีการกระทบกันเกิดการรับรู้ทางตา
    เกิดสัมผัสทางตา จนเกิด เวทนาขึ้นมา เกิดสัญญาจำได้ เกิดสังขารความคิด
    เป็นระบบของธรรมชาติ
    หูก็เช่นกัน กระทบเสียงแล้วเกิดการรับรู้ทางหู เกิดสัมผัส
    เกิดเวทนาตามมา จะเห็นได้ว่าธรรมชาติเค้าทำงานอย่างนี้เอง
    โดยไม่มีเราต้องไปทำอะไรให้มันเห็น มันได้ยิน ได้กลิ่น ได้รส ได้สัมผัสทางกาย
    และรับรู้ทางใจ นี่คือระบบกระทบกันครับ
    3.สักแต่ว่า" สักแต่ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงสักแต่ว่าได้ เพราะเหตุใด
    การรับรู้หรือสักแต่ว่ารู้นั้น
    เป็นการรู้แบบธรรมชาติ โดยไม่มีเราไปหลงสร้างตัวผู้รู้ขึ้นมา
    เพราะโดยธรรมชาติของคนเราทุกคน รับรู้ได้เองอยู่แล้ว
    (อย่างที่ได้ยกตัวอย่างเรื่องนิ้ว เรื่องตา หู หมูก ลิ้น กาย ใจ)
    บางท่านเรียกธาตุรู้บางท่านเรียกอาการรู้หรือธรรมชาติรู้(แล้วแต่จะเรียกนะครับ^^)
    เมื่อเข้าใจจุดนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีเราไปแทรกแทรงการรู้ หรือ
    ไปเติมรู้จนกลายเป็นเราคือผู้รู้
    การแทรกแทรงการรู้มันจะรู้แบบทึบๆครับแน่นๆ โดยมีความอยาก มีตัวเราไปกำหนดไว้
    บางทีกลายเป็นติดเพ่งไปเพราะความอยากรู้ อยากได้ อยากเป็นนั้นเอง
    เวลารู้ ก็จะเป็นเรารู้สึก ภาวนาแล้วมีเรา ภาวนาแบบนี้ยังละความเห็นผิดไม่ได้
    แต่ถ้าลองไม่แทรกแทรงการทำงานของธาตุรู้ เวลารู้เค้าจะรู้ได้เอง
    และเราก็ไม่สามารถบังคับเค้าให้รู้นั้นรู้นี้ได้เลย เดี๋ยวก็รู้จิต เดี๋ยวก็รู้กาย เดี๋ยวก็รู้ความคิด
    จะเห็นเลยว่าเค้าทำงานได้เองโดยไม่มีเราต้องไปกำหนด ภาระความเป็นเราก็จะลดลง
    จากเป็นเรารู้สึก กลายเป็นเห็นมันรู้สึก ออกมาเห็นมันทุกข์ไม่ใช่เราทุกข์
    ทุกอย่างเลยเป็นสักแต่ว่ากระทบกันเฉยๆครับ
     
  13. ได้คับ

    ได้คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +106
    ขอโทษนะครับ สำหรับผู้สนใจการเจิรญสติความรู้สึกตัว เชิญเข้ากลุ่มธรรมะพูดคุยเพื่อความพ้นทุกข์ ที่นี้มีแต่ความจริงใจให้ครับวิสัชนาลัย | Facebook
     
  14. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ไม่มีอะไรกำหนดแน่นอนตายตัวครับ เพราะสิ่งที่ท่านกำลังจะได้ เป็นสิ่งที่ท่านได้สั่งสมมาจากชาติก่อนๆ แต่ถ้าเพิ่งเริ่มฝึกใหม่ๆ จริงๆ ก็เริ่มต้นสัก วันละ 15 นาที ก็ได้ครับ
     
  15. ได้คับ

    ได้คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +106
    4.และการรักษาอารมณ์สักแต่ว่า อยู่ได้ตลอดทั้งวันมั๊ยคะ 24 ชั่วโมงมั๊ยคะ<!-- google_ad_section_end --> (ลืมตอบ^^)

    อาการรู้นั้นไม่ต้องรักษาให้เป็นภาระครับ ^^ เพียงแค่มีสติรู้สึกตัว ร่างกายก็จะเป็นสิ่งที่ถูกรู้ถูกดูแล้ว แน่นอนว่าเมื่อมีสิ่งที่ถูกรู้ก็ต้องมีบางอย่างไปรู้แล้ว ถามว่าอยู่ได้ตลอดวันมั้ย มีเผลอบ้าง และตอนนอนครับหลับปุ๋ยเลย^^ ตื่นมาก็เจริญสติต่อ ซักวันคงจะหลงน้อยขึ้นเองเพราะสติธรรมชาตินี้เองครับ^^
     
  16. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    พระพุทธเจ้า ตรัสว่า "อานนท์ อยู่กับลมหายใจไว้นะ แล้วจะไม่ทุกข์"

    นี้แระ ผลของอานาปาน ลองดูจิ
     
  17. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    ตอนนี้ผมก็เเค่จะเริ่มฝึก ผมถนัดตอนนอนมากกว่า หายใขเข้าพุท โธ เเค่นั่นละ

    ท่องได้ไม่นานก็หลุด บางครั้งก็เพลอหลับเวลาจิตหลุด อิอิ
     
  18. ได้คับ

    ได้คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +106
    คิดแล้ว พิจารณาแล้ว ตอบแล้วครับ ^^
     
  19. jubganoi

    jubganoi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +13
    ส่วนตัว ทำทุกเมื่อที่คิดได้ และเมื่อว่าง เช่นก่อนนอนจะนั่งให้นานที่สุด ผมเชื่อว่ายิ่งทำเยอะยิ่งดี
     
  20. lg786ls

    lg786ls สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +9
    สำหรับผม มีผลเป็นอย่างมาก ปรกติเป็นคนที่พูดน้อยอยู่แล้ว ก็จะพูดน้อยลงไปอีก
    ทุกครั้งที่สงสัยอะไรหรือจะถามใคร เพียงแค่เริ่มคิดที่จะถามมันก็ได้คำตอบเลย
    บางทียังคิดคำถามไม่จบ ใจมันก็ตอบกลับมาทันที เลยไม่ต้องถามกัน... กลายเป็น
    คนที่ถนัดฟังอย่างเดียวครับ คิดว่าหลายๆท่านก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...