เป็นพระอรหันต์ทำไมน้ำตาร่วง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 13 มีนาคม 2012.

  1. หน้าถำ้

    หน้าถำ้ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +4
    sutanon ฝ่ายมหายานกับเถรวาทกำลัง สนธนาธรรมกันอยู่
    เอาใจช่วยฝ่าย เถรวาทกันหน่อย

    (||)(||)(||)(||)(f)
    ฝ่ายมหายานกับเถรวาทไม่เกี่ยวกันครับ เพราะ ไม่ได้มาทะเลาะอย่างพวกคุณ
    ฝ่ายมหายานกับเถรวาทสอนให้สงบ
     
  2. changnoy

    changnoy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +3
    เพิ่งเข้ามาอ่าน ท่านโปเยลึกซึ้งน่าสนใจ ท่านโฮดี้ฯยังคมและบาดลึกในหัวใจ นับถือๆ ท่านอุรุฯเหมือนเดิมยึดติดไร้ซึ่งปัญญามาถก ท่านสุธานนก็ยังไม่ก้าวผ่านความอยากเอาชนะยากซึ่งปัญญาที่แท้จะเกิดขึ้น
     
  3. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    อย่าไปว่าให้พระให้เจ้าเลยครับ มันบาป แม้ว่ามนุษย์ปุถุชนที่ต่ำต้อยปัญญาอย่างพวกเราทั้งหมดนี้ ไม่มีความสามารถที่จะเห็นว่าท่านนั้นอยู่ในอริยะระดับใดด้วยทิพยจักษุของตัวเอง
    แต่ถึงอย่างไรนั้น หลวงตาท่านก็มีระดับคุณธรรมอันสูงส่งดีกว่าพวกผมและหลายๆคนในบอร์ดนี้แน่่นอนครับ....................
     
  4. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    ว่าจะต้มกินเลยดีกว่า ....................... อ่านไปเสียเวลา .......................
     
  5. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    หลวงตาบัว พระอรหันต์ยังเอามาเป็นเหยื่อ

    ยกถ้อยคำท่านมาโพสเฉพาะช่วงที่สนองกิเลศตน

    คนไม่ดูคลิป ไม่ฟังทั้งหมด ติดกับดักหลงทางตาย

    นี่หรือหนทางเผยแผ่พระศาสนา???
     
  6. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    13-03-2012, 02:52 PM #6
    อุรุเวลา
    สมาชิก



    วันที่สมัคร: Dec 2011
    ข้อความ: 1,014
    พลังการให้คะแนน: 105

    นาที 12:02
    ท่านทั้งหลายเป็นบ้ากันหนักหนาแล้วหรอเราอยากถามอย่างนี้นะ ธรรมนี้ทั้งหลายท่านเคยได้เห็นหรอ หลวงตาบัวก็ไม่เคยได้เห็นตั้งแต่เกิดมา แต่อ้อนแต่ออด จากโครตพ่อโครตแม่หลวงตาบัว ไม่มีผู้ใดได้เห็นธรรมประเภทนี้ เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้ปฏิบัติ เราเป็นผู้ปฏิบัติ เราได้รู้ได้เห็นมามากน้อยมาโดยลำดับ ดังที่เคยเล่าพี่น้องทั้งหลายฟัง เป็นระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นผลของการปฏิบัติธรรมบำเพ็ญเรา

    นาที 16:10
    ก็เมื่อโลกฉันยังว่างอยู่นี้ มันมืดมันบอดอยู่ทั้งวันทั้งคืน เรียกว่ามืด.... มีแต่ฟื้นแต่ไฟเผาไหม้อยู่ตลอดเวลานี้ ท่านทั้งหลายรื่นเริงหัวเราะหาอะไร


    นาที 17:50
    เมืองไทยมันเป็นยังไงกันเราอยากถามว่าอย่างนี้นะ ยิ่งใหญ่ยิ่งโตเท่าไรยิ่งหนาแน่นด้วยกิเลสตัณหา ผยองพองตนขึ้น เก่งยิ่งกว่าศาสดาองค์เอก มันยิ่งเลวลงไปทุกวัน ๆ รู้ไหมเมืองไทยเรามันโง่ขนาดไหน

    นาที 18:47
    ธรรมของพระพุทธเจ้าสูญสิ้นจากโลกแล้วหรือ

    ----
    ที่เหลือฟังกันเอาเองครับ ยิ่งฟังหลายรอบยิ่งดีครับ เหมือนอ่านหนังสืออย่าคิดว่าอ่านจบก็จบแค่นั้น อย่าลืมพิจารณาใคร่ครวญเนื้อความด้วยครับ
     
  7. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒ หน้าที่ ๒๕๑/๒๗๙
    ท่านทั้งหลาย ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สิกขาบทของพวกเราที่ ปรากฏแก่คฤหัสถ์
    มีอยู่ แม้พวกคฤหัสถ์ก็รู้ว่า สิ่งนี้ควรแก่พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร สิ่งนี้ไม่ควร
    ถ้าพวกเราจักถอนสิกขาบทเล็กน้อย เสีย จักมีผู้กล่าวว่า พระสมณโคดมบัญญัติสิกขาบท
    แก่สาวกทั้งหลาย เป็นกาลชั่วคราว พระศาสดาของพระสมณะเหล่านี้ยังดำรงอยู่ตราบใด
    สาวกเหล่านี้ยังศึกษาในสิกขาบททั้งหลายตราบนั้น เพราะเหตุที่พระศาสดาของพระ
    สมณะเหล่านี้ปรินิพพานแล้ว พระสมณะเหล่านี้จึงไม่ศึกษาในสิกขาบททั้งหลายใน
    บัดนี้ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์ไม่พึงบัญญัติสิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติไม่พึง
    ถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว พึงสมาทานประพฤติ ในสิกขาบททั้งหลายตามที่
    ทรงบัญญัติแล้ว นี้เป็นญัตติ
    ท่านทั้งหลาย ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สิกขาบทของพวกเราที่ ปรากฏแก่คฤหัสถ์
    มีอยู่ แม้พวกคฤหัสถ์ก็รู้ว่า สิ่งนี้ควรแก่พระสมณะเชื้อ สายพระศากยบุตร สิ่งนี้ไม่ควร
    ถ้าพวกเราจักถอนสิกขาบทเล็กน้อยเสีย จักมีผู้กล่าวว่า พระสมณโคดมบัญญัติสิกขาบท
    แก่สาวกทั้งหลายเป็นกาล ชั่วคราว พระศาสดาของพระสมณะเหล่านี้ยังดำรงอยู่ตราบใด
    สาวก เหล่านี้ยังศึกษาในสิกขาบททั้งหลายตราบนั้น เพราะเหตุที่พระศาสดา ของพระ
    สมณะเหล่านี้ปรินิพพานแล้ว พระสมณะเหล่านี้จึงไม่ศึกษาในสิกขาบททั้งหลายใน
    บัดนี้ สงฆ์ไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติ ไม่ถอนพระ บัญญัติที่ทรงบัญญัติแล้ว สมาทาน
    ประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่ ทรงบัญญัติไว้แล้ว การไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติ
    ไม่ถอนพระบัญญัติ ที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว สมาทานประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่
    ทรงบัญญัติแล้ว ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้น
    พึงพูด
    สงฆ์ไม่บัญญัติสิ่งที่ทรงบัญญัติ ไม่ถอนพระบัญญัติตามที่ทรง บัญญัติแล้ว
    สมาทานประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่ทรงบัญญัติ แล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึง
    นิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ ด้วย อย่างนี้ ฯ

    ----
    พระธรรมโดยเนื้อแท้หาได้มีฝ่ายมหายานหรือเถรวาท ใครบัญญัติอะไรเพิ่มเติมนั่นไม่ใช่ คำสอนของพระพุทธเจ้า
     
  8. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระจิต
    พระเจ้า
    ผลแอปเปิล
    มาร์คไรเดอร์
    อุลตร้าแมน

    ไม่ได้เป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
     
  9. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค หน้าที่ ๖๘/๒๘๘
    [๑๕๓] อริยสาวกย่อมประกอบด้วยธรรมเป็นองค์แห่งโสดาปัตติ ๔ อย่างเป็นไฉน ดูกร
    คฤหบดี อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธ
    เจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ
    ถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก
    ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระ
    ธรรม ดังนี้ย่อมประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มี
    พระภาคตรัสดีแล้ว อันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อม
    เข้ามา อันวิญญูพึงรู้เฉพาะตน ดังนี้ ย่อมประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์
    ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติตรง เป็นผู้ปฏิบัติเป็นธรรม
    เป็นผู้ปฏิบัติสมควร คือคู่แห่งบุรุษ ๔ บุรุษบุคคล ๘ นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค เป็น
    ผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญ
    ของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้ ย่อมประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าปรารถนา อันไม่ขาด
    ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไทย อันวิญญูชนสรรเสริญอันตัณหาและทิฐิไม่ครอบงำได้
    เป็นไปเพื่อสมาธิ อริยสาวกย่อมประกอบด้วยธรรมเป็นองค์แห่งโสดาปัตติ ๔ อย่างนี้ ฯ
    [๑๕๔] ก็ญายธรรมอันประเสริฐ อันอริยสาวกเห็นดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา
    เป็นไฉน ดูกรคฤหบดี อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ กระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ถึงปฏิจจสมุป
    บาทเป็นอย่างดีว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี
    เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ ด้วยประการดังนี้ คือ เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมี
    สังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป เพราะนามรูป
    เป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะเพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมี
    เวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน เพราะอุปาทาน
    เป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชราและมรณะ
    โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส ความเกิดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการ
    อย่างนี้ ก็เพราะอวิชชาดับด้วยสำรอกโดยไม่เหลือ สังขารจึงดับ เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ
    เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ เพราะสฬายตนะดับ
    ผัสสะจึงดับ เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับเพราะตัณหาดับ
    อุปาทานจึงดับ เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ เพราะภพดับชาติจึงดับ เพราะชาติดับ ชราและ
    มรณะโสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาสจึงดับความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วย
    ประการอย่างนี้ ญายธรรมอันประเสริฐนี้ อริยสาวกนั้นเห็นดีแล้ว แทงตลอดดีแล้ว ด้วยปัญญา ฯ
    [๑๕๕] ดูกรคฤหบดี เมื่อใดแล ภัยเวร ๕ ประการนี้ของอริยสาวกสงบแล้ว เมื่อ
    นั้น อริยสาวกย่อมประกอบด้วยธรรมเป็นองค์แห่งโสดาปัตติ ๔ อย่างและญายธรรมอย่าง
    ประเสริฐนี้ อันอริยสาวกนั้นเห็นดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อริยสาวกนั้นหวังอยู่
    พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า เราเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานสิ้นแล้ว มีปิตติ
    วิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว เราเป็นโสดาบันมีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้
    เที่ยงจะตรัสรู้ในภายหน้า ฯ

    ----
    คำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
     
  10. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    --------------------

    ผมขอถามคุณว่าผมไร้ซึ่งปัญญาเรื่องใด ช่วยยกมาด้วย คุณกับผมมาถกกันได้

    เอาเรื่องที่คุณคิดว่ามีปัญญาที่เห็นด้วยกับการทำลายรูปพระพุทธเจ้าก็ได้
    ขอดูว่าคนมีปัญญาอย่างคุณจะตอบอย่างไร
     
  11. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค หน้าที่ ๒๓๑/๒๖๑
    [๒๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจเป็นไฉน นี้คือมรรค
    มีองค์ ๘ อันประเสริฐ คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมา
    อาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
    ก็สัมมาทิฏฐิเป็นไฉน ความรู้ในทุกข์ ความรู้ในทุกขสมุทัย(การเกิดทุกข์) ความรู้ในทุกขนิโรธ(การดับทุกข์)
    ความรู้ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(วิธีดับทุกข์) อันนี้เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ ฯ
    สัมมาสังกัปปะ เป็นไฉน ความดำริในการออกจากกาม ความดำริใน ความไม่
    พยาบาท ความดำริในอันไม่เบียดเบียน อันนี้เรียกว่า สัมมาสังกัปปะ ฯ
    สัมมาวาจา เป็นไฉน การงดเว้นจากการพูดเท็จ งดเว้นจากการพูดส่อเสียด
    งดเว้นจากการพูดคำหยาบ งดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ อันนี้เรียกว่า สัมมาวาจา ฯ
    สัมมากัมมันตะ เป็นไฉน การงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ งดเว้นจากการถือ เอาสิ่งของ
    ที่เขามิได้ให้ งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม อันนี้เรียกว่า สัมมากัมมันตะ ฯ
    สัมมาอาชีวะ เป็นไฉน อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ละการเลี้ยงชีพที่ผิดเสีย สำเร็จ
    การเลี้ยงชีพด้วยการเลี้ยงชีพที่ชอบ อันนี้เรียกว่า สัมมาอาชีวะ ฯ
    สัมมาวายามะ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เกิดฉันทะพยายาม ปรารภความ
    เพียร ประคองจิตไว้ ตั้งจิตไว้ เพื่อมิให้อกุศลธรรมอันลามกที่ยังไม่เกิดบังเกิดขึ้น เพื่อละ
    อกุศลธรรมอันลามกที่บังเกิดขึ้นแล้ว เพื่อให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิดบังเกิดขึ้น เพื่อความตั้งอยู่
    ไม่เลือนหาย เจริญยิ่ง ไพบูลย์ มีขึ้น เต็มเปี่ยม แห่งกุศลธรรมที่บังเกิดขึ้นแล้ว อันนี้เรียกว่า
    สัมมาวายามะ ฯ
    สัมมาสติ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร
    มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌา และโทมนัสในโลกเสียได้ พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่
    ฯลฯ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ฯลฯ พิจารณา เห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ
    มีสติ กำจัดอภิชฌาและ โทมนัสในโลกเสียได้ อันนี้เรียกว่า สัมมาสติ ฯ
    สัมมาสมาธิ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจาก อกุศลธรรม
    บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ เธอบรรลุทุติยฌาน มีความ
    ผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะวิตกวิจารสงบไป ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
    มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่ เธอมี อุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยกาย เพราะ
    ปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌาน ที่พระอริยทั้งหลาย สรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา
    มีสติอยู่เป็นสุข เธอบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัส
    โทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ อันนี้เรียกว่า สัมมา สมาธิ ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรียกว่า ทุกขนิโรธคามิมีปฏิปทาอริยสัจ ฯ

    ----
    คำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
     
  12. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    คุณช้างน้อย เห็นคุณหลายกระทู้ ก็ไม่ได้แสดงเหตุผลอะไรที่มันส่อถึงปัญญาสักอย่าง
    แล้วมีหน้ากล้ากล่าวพร่อยๆ เพื่อจะทำให้คุณดูมีปัญญามากกว่าคนอื่นหรืออย่างไรกัน

    คุณกล่าวหาคนที่บูชากราบไหว้รูปพระพุทธเจ้า เป็นพวกไร้ปัญญา
    แต่ผมกลับมองว่า พวกที่คิดลบหรู่และทำลายรูปพระพุทธเจ้า เป็นพวกเนรคุณ ซะมากกว่า

    บรรพบุรุษของคุณถ้าเป็นชาวพุทธ ผมว่าก็คงบูชากราบไหว้กันหมด
    เว้นซะแต่คุณมันไม่ใช่ชาวพุทธ!!!
     
  13. !_!

    !_! สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +0
    หลายเรื่อง
    (f)
     
  14. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    --------------------

    เอามาสักเรื่องสิ แล้วมาคุยกัน
     
  15. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ทองเทียมเกิดขึ้นทองคำธรรมชาติจึงหายไป ฉันใดพระสัทธรรมก็ฉันนั้น เมื่อแต่งบทบัญญัติขึ้นมาใหม่ พระศาสนามีฝ่ายมีนิกาย หมู่สัตว์เลวลง พระสัทธรรมกำลังเลือนหายไป
     
  16. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ธาตุดินยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้
    ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ก็ยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้
    ที่แท้โมฆบุรุษในโลกนี้ต่างหาก
    เกิดขึ้นมาก็ทำให้พระสัทธรรมเลือนหายไป
     
  17. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้
    ไม่เคารพยำเกรงในพระศาสดา ๑ ในพระธรรม ๑ ในพระสงฆ์ ๑
    ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความฟั่นเฟือน
    เพื่อความเลือนหายแห่งพระสัทธรรม
     
  18. !_!

    !_! สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +0
    2009-2012
    หลายเรื่อง
    (kiss)(kiss)(kiss)(kiss)(kiss)
     
  19. loguttara

    loguttara Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +39

    นี่คือกระจก


    ปล. ขออภัยหากมีท่านใดขัดเคืองใจด้วยโพสต์นี้
     
  20. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ข้าพเจ้าก็เคยร้องไห้เพราะความสังเวชใจในสังขารมาแล้ว
    ข้าพเจ้าไม่เสียใจ เสียดายน้ำตาเลยสักนิด
    ข้าพเจ้ารู้สึกสังเวชใจยิ่งนัก

    พวกโมฆบุรุษเป็นชาวพุทธแต่ทะเบียนบ้าน ไม่มีความยำเกรงในพระศาสดา พระธรรม พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า พวกบิดเบือนพระสัทธรรม พวกโมฆบุรุษคำของข้ายิ่งใหญ่ พวกอ่านพระไตรปิฏกเสียเวลา เป็นพวกโง่เขลา เอาไปต้มกินดีกว่า พวกโมฆะบุรุษอย่างข้าต้องศึกษาศาสนาโปเยโฮดี้โจนส์และพ้องเพื่อน พระจิด พระเจ้า ผลแอปเปิล มาร์คไรเดอรื อุลตร้าแมน พวกโมฆบุรุษไม่พอใจข้าก็ด่า ใครคิดผิดจากข้าข้าก็ด่า พวกโมฆบุรุษแบบข้าเท่านั้นเป็นผู้ที่ถูกต้องที่สุด
     

แชร์หน้านี้

Loading...