ในนี้มีใครเป็นศิษย์ หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม

สวยจริงๆ หายากยังไม่เคยพบเนื้อนวโลหะเลย ขอบคุณที่โชว์นะครัีบ สุดท้ายระวังถูกตีท้ายครัวเหรียญรุ่นหนึ่งที่จารนะครับ

 

ขอบคุณคุณเป็ดอโยธยาและคุณศรีอุบลมากๆครับที่เอาใจช่วย
วันี้ผมดีใจมากๆเพราะไ้ด้เหรียญที่เคยได้รับมาจากมือหลวงพ่อทั้งหลวงพ่อยังเมตตาจารให้ด้วย ได้กลับมาวันมาฆบูชาพอดี อีกทั้งยังได้ร่วมทำบุญซ่อมแซมกำแพงศาลากรรมฐานของหลวงพ่อ...คงเป็นเจตนาของหลวงพ่อแน่ๆ

 

ยินดีกับครูตุ้ยด้วยครับ ที่ได้นิมนต์เหรียญที่เคยอยู่ในความของครอบครัวท่าน กลับสู่บ้านอีกครั้งครับ ผมก็มีหน้าที่ประสานแล้วส่งคืนให้กับเจ้าของเดิมครับ... วันนี้ดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันไหม?ครับ เพื่อนและพี่ทุกท่าน ก่อนจาก " งากำจาย มีลูกศิษย์นำมาให้หลวงพ่อท่านทำให้ มีอยู่ไม่กี่ชิ้น "

 

ขอคอมเม้นท์คุณเป็ดอโยธยาหน่อยครับ งาชิ้นนี้เรียกว่า งากำจัด เพราะตอนได้มาฝังอยู่กับต้นไม้ และมีเสี้ยนไม้ติดเป็นรอยอยู่ ส่วน งากำจาย ต้องกระเด็นหัก และไม่ฝังกับต้นไม้ครับ ขอบคุณภาพสวยๆ ครับ ลืมไปสำหรับงากำจัดชิ้นนี้ ด้านหนึ่งหลวงพ่อจารว่า อิสวาสุ อีกด้านหนึ่งจารว่า นะมะพะทะ ข้อมูลเผื่อมีใครพบเ็ก็บไว้นะครับ

 

ขอบพระคุณท่านเด็กวัด ไม่ได้จดไว้ก็เลยจำผิด"กำจัด"กับ"กำจาย" สรุปว่าเป็น"กำจัด" แต่ถ้าจะให้จำแม่นๆต้องเอามาอยู่กับผม จะจำไม่ลืมเลย.... วันนี้ก็ขอเอาสมเด็จเนื้อไม้แกะ จากไม้แก่นจันท์ เข้าใจว่ามีอยู่แค่สิบองค์ไม่เกินนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งที่หาได้ยากยิ่ง.. ดีนะที่จัดทำเมื่อก่อนนี้ ถ้าเป็นตอนนี้อาจจะทำไม่ได้เจ้าหน้าทีอุทยานฯป่าไม้ อาจจะเอาเรื่องได้ ฮิฮิๆๆๆ.... สำหรับยันต์ของหลังอ่านว่าอย่างไร?ก็คงต้องให้ทั้ง2ท่านที่พอจะอ่านอักขระ ได้เข้ามาเพิ่มเติมแล้วกัน ผมมีหน้าที่เปิดประเด็น...

 

สำหรับพระคาถาด้านหลัง โบราณจะเรียกว่าพระคาถานวโลกุตระ หรือนวหรคุณ หรือเรียกเต็มๆว่า พระคาถาคุณพระพุทธเจ้า 9 ประการ คาถาเต็มว่า อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ สำหรับด้านหลังพระสมเด็จนี้ มี 3 พระคาถา ภะ สุ อะ อ่านเต็มๆ ว่า ภะคะวา สุคโต อะระหัง ถ้าแปลเป็นภาษาบาลี จะต้องอ่านและแปลว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า(แถวที่ 1) เป็นพระอรหันต์ (แถวที่ 3) เป็นผู้เสด็จไปด้วยดีแล้ว (แถวที่ 2)

 

สวยจริงๆครับสำหรับสมเด็จแกะจากไม้แก่นจันทน์ ส่วนใหญ่หลวงพ่อจะลงอักขระด้วยบทพุทธคุณ เห็นอักขระด้านหลังสมเด็จไม้แล้วนึกได้ว่าหลวงพ่อจารให้อย่างนี้เหมือนกันแต่เป็นพระพุทธรูปไดบุตสึจากประเทศญี่ปุ่น ตอนนำไปให้หลวงพ่อเสกให้ท่านยังพูดว่า"นี่มันพระเจ๊กนี่หว่า"...ลองชมครับที่หน้าอกหลวงพ่อลง"ภะคะวาสุคคะโตอะระหัง"ส่วนใต้ฐานลง"นะมะอะอุ นะมะพะทะ"

 

ไหนๆก็พูดถึงอักขระรอยจารที่หลวงพ่อลงแล้ว...งั้นวันนี้มาชมวัตถุมงคลประเภทโลหะอีกชนิดหนึ่งที่หลวงพ่อลงเหล็กจารไว้ด้วยก็คือ...รูปหล่อ"หลวงปู่รอด(เสือ)"ขนาดห้อยคอ ใต้ฐานเจาะอุดผงและหลวงพ่อจารข้างๆรูอุดผงด้วยตัวเฑาะว์ไว้ 1 ตัวทุกองค์(ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ถ่ายภาพใต้ฐานให้ชม)ซึ่งหลวงพ่อสละท่านใช้โลหะที่เหลือจากการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่รอด(เสือ)ขนาดใหญ่มาหล่อได้เป็นรูปหล่อขนาดห้อยคอ จำนวน 200 องค์

 

สวยมากครับคุณตุ้ย องค์นี้ผมหาในตลาดมากว่า 10 ปี (เฉพาะในเวปต่างๆ) ไม่เคยเห็นแม้แต่เงา หลวงพ่อสร้างน้อยมาก องค์ที่ผมได้มาหลวงพ่อบอกว่าเป็นองค์สุดท้ายที่ท่านมีอยู่จริงๆ เก็บรักษาให้ดีครับ ฝากถึงคุณเป็ดอโยธยาด้วยครับ โชว์พระสมเด็จแร่บ่อพระพรหมหน่อย ให้ลูกศิษย์ได้ชมกันหน่อย เป็นความรู้ครับ เผื่อท่านใดจะเจอบ้างจะได้รู้ครับ ขอบคุณครับ

 

จัดไปตามคำขอของคุณเด็กวัด ส่วนรายละเอียดนั้นก็ต้องให้คุณเด็กวัดเข้ามาต่อเติมแล้วกัน เกี่ยวกับสมเด็จแร่บ่อพระพรหม เนื้อหาของพระจะออกสีเขียวอ่อนๆ ดูแล้วสวยจับใจครับ...

 

มาดูมาชมกันแต่ละเนื้อไป องค์แรกวันนี้นำเสนอ 1.เนื้อผงรัตนมาลา ภาพอาจจะไม่ชัดต้องขอโทษด้วยแต่ถ่ายสุดฝีมือแล้ว

 

องค์ต่อมา 2.เนื้อผงพระธาตุ เนื้อนี้จะมีความมันเงา เข้ากล้องดูแล้วซึ้งตาจริงๆ พับผ่าซิ...

 

องค์ที่3.เนื้อเกสร จะดูออกหนึกนุ่ม โทนสีไปทางออกเหลืองครับ...

 

ต่อไปองค์ที่ 4. เนื้อแร่เกาะล้าน แข็งแกร่ง สีเหมือนซีเมนต์ ท่าทางจะแข็งมากเพราะกดพิมพ์มายังติดไม่เต็มเลย ตรงบริเวณแขนจึงหย่อนสวยไปนิดหน่อย...

 

แค่นี้ก่อนครับเดี๋ยวว่างๆจะเข้ามาลุยต่อ...

 

รอชมอยู่นะครับคุณ เป็ดอโยธยา ^_^

 

สมเด็จนะฉัพพรรณรังษี ของหลวงพ่อเขาบูชากันเท่าไรครับ มาอ่านแล้วสนใจ
อยากได้ขอมูล และ แหล่งที่น่าเชือถือครับ

 

พระสมเด็จนะฉัพพรรณรังษี ของหลวงพ่อไม่มีครับ ส่วนใหญ่หลวงพ่อใช้ผงรัตนมาลาเป็นหลักครับ และผสมผงเช่น พระธาตุ เกษรดอกไม้ แร่เหล็กน้ำพี้ ฯลฯ

 

มาว่ากันต่อครับ องค์ที่ 5 เป็นสมเด็จที่มีเนื้อผสมกับผงเกาะวัดนนท์(ที่นนทบุรี) เอามาผสมกับผงหลวงพ่อ ทำให้พระเนื้อนี้เมื่อเข้ากล้องส่องดูแล้ว จะมีเนื้อที่มีสีผสมออกชมพูอ่อน สวยงามครับ ผมยังชอบเลย... รูปภาพจะดูยากเพราะสีอ่อนทำให้ถูกแสงกลับไปหมดครับ...คงต้องรอดูองค์จริง ครับ...

 

องค์ที่6 เป็นเนื้อแร่น้ำพี้ ก็เหมือนกับองค์ก่อนๆหน้า ครับสีจะออกอมม่วง ให้นึกประมาณบ๊วยเค็ม สีคล้ายๆประมาณนั้น(อันนี้เป็นความรู้สึกและมุมมองของผมที่คิดว่าใกล้เคียงนะครับ) องค์นี้ก็ไม่เลวดูแกร่งและก็มีความสวยไปอีกแบบ... ( ผมมีเลยต้องดันสักหน่อย...) แต่องค์ที่ลงในรูปนี้จะดูอ่อนไปหน่อย อาจจะเป็นเพราะพระไม่ได้แขวน ทำให้ไม่โดนความชื้นสีจึงไม่เข้มขึ้นครับ...