หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/vVxv0NLEH5OiJVok" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/c42/qWQESn.JPG" /></a>

ในรูปเป็นพระดสิน พิมพ์ซุ้มกอครับ พระพิมพ์นี้ทําด้วยกันหลายเนื้อ เนื้อดินเผาก็มี เนื้อว่านผสมผง เนื้อขมิ้นเสก เนื้อดํา ส่วนมากพระจะหนาหน่อยครับ โดยเฉพาะเนื้อดินเผาจะหนากว่าเพื่อน พระพิมพ์นี้เชื่อกันว่ามีคุณทางด้านโชคลาภ


พระเนื้อดินของท่าน เรียกว่า พระกสิน ครับ หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมดครับถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้าตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับสำหรับพระยุคแรกๆของท่าน

นะมะภะทะจะภะกะสะนะโมพุทธายะนะชาลีติพุทธคุณังธัมมะคุณังสังฆคุณังสะระนังคัจฉามิ พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิน. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติสาคะลังและอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วยสมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่ารู้ดีครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน สบายดีทุกท่านนะครับ

 

ว้าววววว! ชอบมากครับ แกะได้สวยจริงๆ ไม่ทราบองค์นี้มีรอยจารของหลวงปู่หรือเปล่าครับ? (ping-love(ping-love(ping-love(good)

 

กบาบ หลวงปู่ พิศดู

ชอบ เเละ อยาก ได้ หลวงปู่สักองครับ

 

หวัดดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ

 

พิธีตักบาตรพระมหาอุปคุต ในเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ตรงกับวันพุธ ..

มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า ครั้งหนึ่งมีสามีภรรยาฐานะยากจนคู่หนึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่นอกเมืองเชียงใหม่ ประกอบอาชีพทำนาและค้าขายพอเลี้ยงชีพไปได้ เมื่อว่างจากทำนาทั้งสองก็นำเอาผลผลิตจากไร่สวนเข้ามาขายในตัวเมือง เชียงใหม่

วันหนึ่งในฤดูหนาวอากาศหนาวเหน็บ สองสามีภรรยาตื่นแต่เช้าเดินทางเข้าตัวเมืองพร้อมกับสัมภาระสำหรับค้าขาย ระหว่างเดินฝ่าอากาศที่หนาวเย็นก็ได้พรรณนาปรับทุกข์ต่อกันถึงความทุกข์ยาก ของครอบครัวตนเองที่ต้องตื่นแต่เช้าทำงานหนัก ซึ่งต่างจากครอบครัวของคนอื่นที่ยังนอนหลับสบาย หากไม่ทำเช่นนี้ก็ต้องอดอยากไม่มีจะกิน ทั้งสองต่างปลอบใจและให้กำลังใจซึ่งกันและกันและว่า "เราสองคนทำบุญมาน้อย ทำให้ด้อยวาสนา แม้จะทุกข์สาหัสอย่างไรก็จำเป็นต้องทน ต้องดิ้นรนต่อสู้ต่อไป"

สองสามีภรรยาปรับทุกข์กันเรื่อยมาจนข้ามแม่ น้ำปิงมาฝั่งตะวันตกเข้าถนนท่าแพ ขณะนั้นยังเป็นเวลาเช้ามืดและเป็นวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ พระจันทร์เต็มดวงสาดแสงสว่างไสวดูรื่นรมย์ทำให้ความเหนื่อยล้าของสามีภรรยา หายไปสิ้น ขณะเพลิดเพลินกับบรรยากาศอยู่นั้น สายตาของทั้งคู่ก็เหลือบไปเห็นสามเณรน้อยรูปหนึ่งอุ้มบาตร ครองผ้าเป็นปริมณฑลตัดกับแสงจันทร์นวลส่อง เป็นภาพที่น่าทัศนาเป็นอย่างยิ่ง ยังความปิติซาบซ่านเข้าสู่หัวใจของทั้งสอง อีกทั้งบังเกิดศรัทธาในตัวสามเณรจึงได้แบ่งสิ่งของที่ตั้งใจนำไปขายยกขึ้น อธิษฐานแล้วใส่ในบาตรของสามเณร หลังจากรับพรจากสามเณรแล้วชายผู้เป็นสามีนึกแปลกใจว่าสามเณรจากวัดใดกันอีก ทั้งออกบิณฑบาตแต่เช้าตรู่เพียงลำพังเช่นนี้ ฝ่ายสามีจึงเดินตามสามเณรไป แต่เมื่อสามเณรเดินไปถึงชายป่าก็หายวับไปที่ต้นไทรต้นหนึ่ง สามีเห็นเช่นนั้นก็วิ่งกลับมาบอกกับภรรยาและต่างเก็บความสงสัยไว้ในใจ

นับ จากที่ได้นำสิ่งของใส่บาตรเป็นกุศลศรัทธากับเณรน้อยรูปนั้น นับแต่วันนั้นสองสามีภรรยาก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับไม่ว่าจะประกอบอาชีพ อะไรก็ได้ผลกำไรงามฐานะร่ำรวยขึ้น ต่อมาจึงทราบจากพระผู้เฒ่ารูปหนึ่งผู้ทรงอภิญญาญาณเคร่งครัดในศีลว่า การที่เจริญก้าวหน้าค้าขายร่ำรวยนั้นเนื่องจากอานิสงส์ที่ได้ตักบาตรกับ สามเณร ผู้ซึ่ง คือ พระอุปคุตมหาเถระที่เข้านิโรธสมาบัติอยู่ใต้สะดือทะเล ครั้นถึงวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ ตรงกับวันพุธ ท่านจะออกจากสมาบัติ แปลงเป็นสามเณรน้อย ออกบิณฑบาตแต่เช้าตรู่เพื่อโปรดสัตว์ บุคคลใดได้ตักบาตรท่านพระมหาอุปคุต ถือว่าเป็นบุคคลที่โชคดีทำให้เจริญรุ่งเรืองมาก จึงถือเป็นประเภณีที่สืบทอดกันมาตราบเท่าทุกวันนี้ ..

บทความโดย จุลจันทร์ นันนทมาลา​

.​

 

สวัสดีครับป๋าบัติ และสมาชิกทุกท่านครับ

 

องค์นี้ไม่มีจารครับ :VO

 

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/vVDgaJR1LBA4hebC" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/cfd/ScCljN.JPG" /></a>

ในรูปเป็นพระขสินขององค์หลวงปู่ครับ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ขุนแผนใบพุทรา พระเป็นเนื้อดินครับ พุทธลักษณะปางสมาธิครับ สําหรับพิมพ์นี้โดยนั่งประทับอยู่บนดอกบัวสองชั้น มีประภามณทลอยู่บนเหนือหัว ใต้ฐานบัวจะมีเส้นลากลงมาลักษณะคล้ายใบพุทรา จึงเป็นที่มาของชื่อพิมพ์....เนื้อพระจะเหมือนพระสมเด็จกสินและหลวงพ่อโตบางกระทิงที่แจกตอนนํ้าท่วมครับ องค์พระจะใหญ่หน่อยครับ แต่สามารถแขวนบูชาที่คอได้ครับ ประมาณว่าห้อยเดี่ยวครับ มวลสารหลัก ก็จะมีผงที่หลวงปู่ท่านลบเอง ผงองค์หลวงปู่ไห้พระ ธูปอธิฐาน ข้าวก้นบาตร ผงวิเศษของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ว่านยา แร่ต่างๆครับ พระเนื้อจะแกร่งแห้งครับ พุทธศิลป์ไม่ต้องพูดถึงเพราะต้นตํารับทํามาสวยงามอยู่แล้ว เรียกได้ว่า เรียบง่ายแต่งดงาม


พระเนื้อดินของท่าน เรียกว่า พระกสิน ครับ หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมดครับถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้าตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับสำหรับพระยุคแรกๆของท่าน

นะมะภะทะจะภะกะสะนะโมพุทธายะนะชาลีติพุทธคุณังธัมมะคุณังสังฆคุณังสะระนังคัจฉามิ พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิน. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติสาคะลังและอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วยสมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่ารู้ดีครับ

 

พิธีตักบาตรพระมหาอุปคุต ในเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ตรงกับวันพุธ ..

ซึ่งที่ผ่านมา ทางวัดเทพธารทองนำโดยองค์หลวงปู่พิศดู ก็ได้จัดพิธีตักบาตรส่งพระมหาอุปคุตเป็นประจำ รวมถึงอธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆเพื่อความเป็นศิริมงคล .. โดยในพิธีองค์หลวงปู่ท่านจะตั้งจิตกล่าวนำสวดบูชาอัญเชิญพระพระมหาอุปคุตว่า " อุปคุตโต จะมหาเถโร ปิยัง มะมะ " จากนั้นพวกเราก็จะสวดคาถานี้กันต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเวลาเที่ยงคืน แล้วจึงพากันตักบาตรอาหารแห้ง คาว หวาน ผลไม้ต่างๆ เพื่อบูชาคุณแด่พระมหาเถระอุปคุต พอตักบาตรเสร็จก็จะได้รับแจกวัตถุมงคล หลวงปู่ให้พร พวกเราพากัน สาธุ.. เป็นอันเสร็จพิธี ซึ่งของที่ได้มานั้น หลังจากองค์หลวงปู่ท่านพิจจารณาแล้ว ก็จะแจกเป็นทานต่อไป ..​

ใน วันพุธที่ 7 มีนาคม 2555 นี้ ตรงกับวันมาฆบูชา อันเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และก็เป็นวันเพ็ญพุธ หรือทางล้านนาเรียกว่า เป็งปุ๊ด ทางวัดที่ศรัทธาในองค์พระมหาอุปคุตก็จะจัดพิธีตักบาตรถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อบูชาพระมหาอุปเถระ ซึ่งเห็นได้ตามวัดทั่วไปทางภาคเหนือ ..
และที่จังหวัดจันทบุรี ก็มีพิธีมหามงคลนี้เช่นกัน โดยจัดขึ้นเป็นประจำ ณ วัดแตงเม ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี เริ่มพิธีตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งที่วัดนี้ได้ประดิษฐานรูปหล่อพระมหาอุปคุตองค์ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เพื่อให้ทุกท่านได้สักการะบูชา ขอพร เพื่อความเป็นศิริมงคลแด่ท่านและครอบครัวสืบไป (วัดแห่งนี้ได้จัดพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุตขึ้น ก็เนื่องมาจากองค์หลวงปู่พิศดูเป็นสำคัญ...)​

ส่วนทางวัดเทพธารทองนั้น ตั้งแต่องค์หลวงปู่พิศดู ละสังขารลง ก็ยังมิได้จัดพิธีตักบาตรส่งพระมหาอุปคุตอีกเลย ก็ได้แต่คาดกาลไว้ว่า ต่อไปในอนาคตอาจจะมีจัดพิธีนี้ขึ้นอีกครั้งเพื่อสืบสานประเภณีอันดีงาม​

ส่วนท่านใดไม่สะดวกในการไปร่วมพิธีที่วัดดังกล่าว ก็สามารถตั้งจิตอธิษฐานขอตักบาตรกับพระภิกษุรูปใดก็ได้ที่ท่านผ่านมาบิณฑบาตร หรือจะไปทำบุญที่วัดใดๆก็ได้ แล้วน้อมถวายบูชาแด่องค์พระมหาอุปคุตเถระ ก็จะได้อานิสงส์ดุจเดียวกัน ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับใจเป็นที่ตั้ง ไม่แน่นะครับ..ท่านอาจเป็นผู้โชคดี มีโอกาสได้ใส่บาตรต่อองค์พระมหาอุปคุตก็เป็นได้ ..​

.​

<!-- google_ad_section_end -->

 

พระใบพุทราเนื้อดีมากๆครับพี่ เห็นมวลสารชัดเลย

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน เสียดายครับ วันพุธนี้ลงไปบ้านพอดีแต่ต้องกลับกรุงเทพประมาณ6โมงครับ งานเริ่มทุ่มนึง ไม่แน่อาจจะแวะไปครับ

 

สวัสดีครับพี่พี่ทุกท่านเข้ามาศึกษา ฝากตัวเป็นสิทธิ์หลวงปู่พิศดูด้วยคนครับ

 

กราบพระมหาอุปคุต กราบหลวงปู่พิศดู และสวัสดีพี่ๆทุกท่านครับ

 

วันพระใหญ่ใกล้มาถึงแล้วล่ะครับ ชักชวนคนข้างกายไปทำบุญทำทานกันดีกว่านะครับ จิตใจจะได้ใสสว่าง มีความสุข หากเราทุกคนมองข้ามการทำความดีเล็กๆน้อยๆ วันหนึ่งยามเมื่อเราสิ้นลม ไม่รู้ว่าสถานที่ใดจะเป็นที่ไปของเราๆท่านๆ ถ้าองค์หลวงปู่ยังดำรงขันธ์อยู่ ท่านคงบอกให้ลุกศิษย์รีบไปทำบุญ ทำดี กันแน่นอนครับ

 

คุณทุเรียนทอดไม่ทราบว่าอัฐิของหลวงปู่ ณ ตอนนี้ได้กลับคืนมารึยาง

 

คุณทุเรียนทอดไม่ทรึาบว่าอัฐิของหลวงปู่ ณ ตอนนี้ได้กลับคืนมารึยาง

 

เดี๋ยวคนที่ได้ไปจะนำมามอบให้พระอาจารย์ชิน ในงานประชุมเพลิงสรีระหลวงปู่จันทา ครับ

 

พี่แฝงจันทร์ครับ อยากทราบว่าบางองค์ที่สีดำทั้งองค์เป็นเนื้อดินที่โดนไฟนานจนดำหรือเปล่าครับหรือเป็นที่มวลสาร
แล้วพระที่แช่น้ำมนต์ ก็เป็นพระที่สร้างยุคแรกและแจกออกมาช่วงน้ำท่วมด้วยหรือเปล่าครับ
แล้วน้ำมนต์ที่แช่คือหลวงปู่นำไปแช่เองหรืออย่างไรครับพี่

ขอบคุณครับ