ผมเปลี่ยนแผนการปฏิบัติธรรมของผมใหม่

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย yoottapong, 23 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. yoottapong

    yoottapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +761
    ทุกท่านลองสังเกตดูการปฏิบัติธรรมในช่วงกลางวันส่วนใหญ่จะไม่สงบเท่ากับกลางคืน นั่งสมาธิตอนกลางคืนจะรู้สึกวิเวกสงัดกว่า เพราะคนส่วนใหญ่จะหลับไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวนใจ

    ตั้งแต่เดือนตุลาคม2554เป็นตั้นมาผมเริ่มเร่งความเพียรโดยการนั่งสมาธิวันละ4-7ครั้งครั้งละประมาณครึ่งชั่วโมงที่ผมปฏิบัติได้เพราะผมไม่ค่อยมีภาระแค่รับส่งลูกเช้าเย็นว่างช่วงไหนรีบทำสมาธิเลย ที่ผมนั่งได้ครึ่งชั่วโมงเพราะผมเป็นคนค่อนข้างอ้วนครึ่งชั่วโมงทีไรปวดขาแล้วก็ออกจากสมาธิ

    ช่วงต้นมกราคม2555ผมเปลี่ยนแผนการปฏิบัติธรรมโดยช่วงกลางวันนั่ง4-7ครั้งครั้งละครึ่งชั่วโมง ช่วง4-5โมงเย็นถ้าว่างก็จะเดินจงกลม40นาที ยกเว้นตอนประมาณทุ่มครึ่งถึงสองทุ่มผมจะนั่งสมาธิ1ชั่วโมงโดยขออนุญาติพระที่หิ้งเหยียดขาตอนปวดขาปฏิบัติมาจนถึงวันนี้

    ผมปฏิบัติต่อเนื่องมาได้4ปี2เดือนแล้วครับ ปฏิบัติมามีแต่นิมิตที่ควรต้องละ
    วันไหนผมไม่ได้ปฏิบัติธรรมจะหงุดหงิดคือวันไหนที่ติดธุระผมก็อาศัยนอนทำสมาธิเอาส่วนการเดินจงกลมมี่บ้างแต่ก็บ่อยเหมือนกันเดินทีละประมาณ40นาที

    ปล.อาจารย์เหลืองที่ผมนับถือดูดวงให้โดยดูกับดอกบัวบอกกับผมอีก3ปีครึ่งถึงจะรู้เห็น ส่วนบาบายีโยคีชาวฝรั่งเศสบอกกับผมว่าอายุ43ปีถึงจะมีความรู้ยิ่ง(อภิญญา)ถ้าไม่เร่งความเพียรก็อายุ50ปีถึงจะได้บาบายีบอกมา ตอนนี้ผมอายุ34ปีแล้ว บาบายีบอกผมอยู่ในช่วงฌาน3 แต่จากการปฏิบัติของผมผมรู้ตัวว่าใกล้ฌาน4แล้ว ผมไปสอบถามบางอาจารย์บอกผมฌาน9ผมเข้าใจว่าฌาน1หยาบฌาน1ปานกลางฌาน1ละเอียดจนถึงฌาน3หยาบกลางละเอียดนับได้9บางอาจารย์บอกว่าฌานมีถึงขั้น18

    ปฏิบัติบางวันรู้สึกสุขหนอ สุขหนอ จนเปล่งอุทานในใจว่าการปฏิบัติธรรมนี่ดีจริงๆการปฏิบัติของผมเริ่มส่งผลแล้วคือเลิกเอาแต่ใจได้เด็ดขาดอารมณ์ร้อนไม่มีแต่ก็มีบ้างบางจังหวะก็หงุดหงิดใส่ครอบครัวทุกวันนี้อารมณ์ดี ผมถึงว่าอยากจะเชิญชวนชาวเวบพลังจิตทุกท่านปฏิบัติธรรม บางคนปฏิบัติต่อเนื่องมาแล้วหยุด3-6เดือนแล้วมาปฏิบัติต่อก็ได้แต่อย่าเกิน1ปีกลัวฌานเสื่อม บางคนนั่งชอบง่วง บางคนนั่งเมื่อไหร่จะเห็นผล ผมอยากแนะนำคือปฏิบัติธรรมจนชินให้มันอยู่ในกมลสันดานเลยจะดีมาก เพราะอภิญญาไม่ใช่จะได้กันง่ายง่าย ผมรู้สึกอินทรีย์มาทางปฏิบัติสะดวกรู้ช้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2012
  2. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,675
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    อนุโมทนาด้วยครับ เวลากลางคืนเป็นเวลาที่สงบ
    และเหมาะแก่การวิเวกกายและใจ
    เพื่อน้อมสู่ความสงบแก่จิตเป็นอย่างมาก

    ขอแบ่งปันเล็กๆน้อยๆ เวลาก่อนนอนนั้นส่วนตัวผมแล้วผมจะกำหนดจิต
    ไปกราบสมเด็จองค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบัน ไปกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกๆองค์
    กราบพระด้วยจิตเสร็จ ก็ภาวนาจิตไปเรื่อยจนจิตถึงจุดที่ทรงอารมณ์เหมาะสมแล้ว
    ทำจิตสบายๆ ภาวนาเสร็จแล้วก็แผ่บุญนี้ที่เราภาวนา ที่เรากราบพระ
    ไปโดยตลอดสามแดนโลกธาตุ ด้วยจิตที่เป็นบุญนี้เราก็แผ่ไปโดย
    ไม่มีประมาณทั่วทั้งสามโดนโลกธาตุทั่วทั้งอบายภูมิ โลกมนุษย์
    สวรรค์ พรหมโลก โลกธาตุทั้งหลาย อนันตจักรวาล
    หมั่นทำแบบนี้รับรองว่าฝันดีทุกคืนครับ และได้กำไร
    ในการสร้างบารมีไปอีก 1 วันไม่ขาดทุน

    การทำแบบนี้บ่อยๆนอกจากจะเป็นการหมั่นสร้างบารมีแล้ว
    ยังเป็นการฝึกจิตตนให้มีเมตตา กรุณา และเป็นการข่มกิเลศไว้ไม่ให้ฟุ้ง
    ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเหล่าพุทธภูมิ อนึ่งการบำเพ็ญแบบนี้
    เป็นการบำเพ็ญทางจิตที่มีอานิสงค์เร่งเสริมสร้าง ให้การภาวนา
    บารมีและอภิญญาทางจิตของเรานั้นมีความก้าวหน้าได้โดยไว . . .

    ธรรมรักษา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กุมภาพันธ์ 2012
  3. yoottapong

    yoottapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +761
    คุณwisdomปฏิบัติมานานยังครับ
     
  4. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,675
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ยังถูๆไถๆ อยู่เลยครับ ทุกวันนี้ก็พยายามที่จะปฎิบัติพัฒนาจิต
    ให้ได้สักเสี้ยวหนึงของความดีครูบาอาจารย์
    ให้สมกับที่ท่านเมตตาสอนให้คนเลวๆอย่างผมครับ สาธุ

    ธรรมรักษา
     
  5. yoottapong

    yoottapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +761
    เร่งปฏิบัติเถอะครับทุกท่านดีกว่าอยู่แล้วตาย ผมเห็นคนใกล้ชิดตาย ตายไปทีละคนผมถึงสังเวช เมื่อก่อนผมเที่ยวกินดื่มจนต้องเข้ารับการรักษาอาการทางสมองและอารมณ์ร้อนตอนนี้ผมหายแล้วอาการทางจิตก็ดีขึ้นหายแล้ว ตั้งแต่ได้ปฏิบัติธรรมมาอารมณ์ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน คงเป็นเพราะวิบากกรรมของผมตั้งแต่อดีตชาติทำให้ผมต้องรับเคราะห์กรรมก่อนเห็นธรรม
     
  6. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,675
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    อนุโมทนาบุญครับ ตัวผมเองก็ยังเลวอยู่มาก
    แต่ครูบาอาจารย์ผมท่านบอกว่าตราบใดที่ยัง
    มีลมหายใจอยู่ก็ต้องทำ เพราะเวลาที่เราทำจิตให้
    เป็นสมาธิ ภาวนาจิต และทรงศีล นั้น ทุกลมหายใจเข้่าออก
    ของเราก็เป็นบุญ ซึ่งในทางกลับกัน เมื่อเราอารมณ์ขุ่นมัว
    มีจิตเป็นอกุศล จิตเราก็บันทึกอารมณ์ที่เป็นอกุศลทุกลมหายใจเช่นกัน

    วิบากกรรม กรรมเก่าของแต่ละคนนั้น ย่อมมีติดตัวกันมาทุกคนเป็น
    เรื่องธรรมดา เพราะเราทุกคนนั้นเวียนว่ายตายเกิดมาจนกระดูก
    ของเราในแต่ละชาตินั้นกองรวมกันใหญ่ยิ่งกว่าเขาพระสุเมรเสียอีก
    แต่สิ่งที่สำคัญนั้น ในชาติปัจจุบันเราจะทำอย่างไรถึงจะให้
    สิ่งที่เราทำ เรานึก เราคิด เราพูด และปฎิบัตินั้นเป็นบุญ
    และทำไปเพื่อจิตที่ละเอียด เป็นกุศล เพื่อที่จะสานต่อ
    กระแสบุญบารมีเก่าของเราที่ทำมาในอดีตชาติให้ต่อเนื่อง
    และบรรเทากระแสกรรมบาปของเราในอดีตไม่ให้มาเบียดเบียน
    ขัดขวางการบำเพ็ญภาวนาการสร้างบารมีของเราให้มากนัก
    จะได้เอาเวลาในชาติปัจจุบันนี้น้อมทำให้เป็นประโยชน์
    ทั้งแก่ผู้อื่นและตัวเอง ให้ยิ่งๆขึ้นไป . . .

    หมั่นทำเข้าไว้ๆ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ สาธุ

    ธรรมรักษา
     
  7. yoottapong

    yoottapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +761
    คุณwisdomดื่มหรือเล่นหรือเปล่าครับ แปลกใจว่าทำไมคุณถึงว่าตัวเองยังเลวอยู่ ไม่เป็นไรครับยึดไตรสรคมค์เข้าไว้
     
  8. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,675
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ที่ผมว่าตัวผมยังเลวอยู่ก็เพราะผมยังปฎิบัติจิตได้ไม่ถึง
    เศษเสี้ยวหนึงของความดีครูบาอาจารย์ จิตยังมีกิเลส
    และหากประมาทชาตินี้ก็พร้อมลงไปทัวร์แดนนรกได้
    ไม่เหมือนกับครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ท่านมีความดี
    ปฎิบัติชอบแล้ว บารมีเต็มแล้วก็ดี เข้าถึงความเป็นอริยะแล้วก็ดี
    เข้าถึงแดนโลกุตตระ แล้วก็ดี ท่านเหล่านั้นล้วนปิดอบายภูมิ
    แล้วทั้งสิ้น มีเพียงโลกุตระเป็นฐานเป็นหนทางไปทั้งสิ้น

    ที่พูดเช่นนี้เตือนตนเช่นนี้อยู่เสมอก็เพื่อไม่ให้ตนเองประมาท
    ไม่ให้ตนเองเหลิง คิดว่าได้เรียนกรรมฐานมาจากครูบาอาจารย์
    ได้ใกล้่ชิดครูบาอาจารย์ แล้วตนเองจะดีเลิศประเสริฐ รู้ดีไปกว่าคนอื่นๆ
    ในทางตรงกันข้าม ยิ่งใกล้พระ ก็ยิ่งต้องไม่ประมาท เพราะยมบาล
    ท่านคงไม่เมตตาเป็นแน่แท้ หากพลาดลงนรกไป ท่านอาจจะซ้ำเข้าให้
    ด้วยเหตุผลที่ว่า พบพระแล้วไม่ถึงพระ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมว่าตนเอง
    ยังเลวอยู่ได้อย่างไร ได้เกิดมาในร่มโพธิ์แห่งพุทธะ นับว่าโชคดียิ่งแล้ว
    บารมีของพระ นับว่ามีคุณอันหาประมาณมิได้ เป็นเครื่องยึดเหนื่ยว
    ได้อย่างแท้จริง ที่แนะนำให้ผมยึดไตรสรคมค์เข้าไว้
    นั้นและถูกแล้วชอบแล้ว เพราะนอกจากนี้แล้วเกิดมา
    คนเราก็ไม่เห็นมีอะไรดีเลย เพราะโลกนี้ล้วนเป็นมายา
    เป็นสมมุติทั้งสิ้น กระนั้นเราควรยังให้เข้าถึงความสงบของจิตเทิอญ

    อนุโมทนาสาธุครับ

    ธรรมรักษา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กุมภาพันธ์ 2012
  9. yoottapong

    yoottapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +761
    ปฏิบัติได้ไม่ถึงไม่เป็นไรครับคุณwisdomลองปฏิบัติให้สม่ำเสมอพอปฏิบัติไปมานานเข้าแล้วเดี๋ยวพระธรรมก็เข้าถึงจิต และจะสนุกกับการปฏิบัติและชินไปเองครับ
     
  10. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,675
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ขอบพระคุณกัลยาณมิตร ที่ชี้แนะในสิ่งที่เป็นมงคล เป็นทางสว่าง
    เป็นทางเพื่อยังถึงความไม่ประมาท ด้วยครับ นับว่าเป็นกุศล

    สาธุ . . .

    ธรรมรักษา
     
  11. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    พี่อาจารย์เหลือง ผมอยากดูดวงกับเค้า เห็นพี่เคยเอาดวงผมไปให้เค้าดูว่าผมมีอะไรตามตัวมันก็จริง แต่ไม่ได้บอกวิธีแก้ ตามตัวนี้คือสิวนะครับตามตัว
     
  12. รัศมีสีทอง

    รัศมีสีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +391
    อนุโมทนาด้วยครับ เมื่อมีสุขก็จงมองให้มีสติอย่าเข้าไปยึดถือในสุขนั้นว่าเป็นตัวเรา เราเป็นสุข สุขเป็นตัวเรา เพราะสุขในฌานมันเป็นหลักอนิจจัง มีเสื่อมมีหาย มีขึ้นมีลง รีบพิจารณารูปร่างกายให้มาก แล้วการเจริญสมาธิภาวนาก็จะรุดหน้ามากกว่านี้ ไม่ติดในฌานใดๆ เมื่อขณะใดไม่มีสมาธิก็มานั่งหงุดหงิด ขณะใดมีสมาธิใจก็ฟูตาม คุณโดนกิเลสหลอกเต็มๆเลยยังไม่รู้ตัว กิเลสมันจะมาในรูปของสิ่งที่สวยๆมามาดผู้ดี จนเราไม่รู้ตัวเลย ถ้าไม่ใช้สติให้มาก ส่วนวันไหนที่ไม่ได้ปฏิบัติจะหงุดหงิดนั้นมันเป็นฌาน แต่คุณตามอารมณ์หงุดหงิดไม่ทัน อาการหงุดหงิดนั่นแหล่ะคือตัวจะดึงสมาธิให้ต่ำลง ขอให้คุณดึงสติปัญญามาใช้ให้มากขึ้น สมาธิที่คุณมีมันเป็นฐานรองรับปัญญาได้อย่างดีแล้ว อย่าติดในสมาธิเกินไป
     
  13. boatsa2538

    boatsa2538 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +90
    ทุกท่านลองสังเกตดูการปฏิบัติธรรมในช่วงกลางวันส่วนใหญ่จะไม่สงบเท่ากับกลางคืน นั่งสมาธิตอนกลางคืนจะรู้สึกวิเวกสงัดกว่า เพราะคนส่วนใหญ่จะหลับไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวนใจ
    ...สาธุ คำว่าวิเวกนี่วิเศษ ที่สุด ๑.กายวิเวก ๒.จิตวิเวก ๓.อุปธิวิเวก นั่นเรียกว่ากายวิเวก เป็นธรรมอันประเสริญ ...
    ตั้งแต่เดือนตุลาคม2554เป็นตั้นมาผมเริ่มเร่งความเพียรโดยการนั่งสมาธิวันละ4-7ครั้งครั้งละประมาณครึ่งชั่วโมงที่ผมปฏิบัติได้เพราะผมไม่ค่อยมีภาระแค่รับส่งลูกเช้าเย็นว่างช่วงไหนรีบทำสมาธิเลย ที่ผมนั่งได้ครึ่งชั่วโมงเพราะผมเป็นคนค่อนข้างอ้วนครึ่งชั่วโมงทีไรปวดขาแล้วก็ออกจากสมาธิ

    ช่วงต้นมกราคม2555ผมเปลี่ยนแผนการปฏิบัติธรรมโดยช่วงกลางวันนั่ง4-7ครั้งครั้งละครึ่งชั่วโมง ช่วง4-5โมงเย็นถ้าว่างก็จะเดินจงกลม40นาที ยกเว้นตอนประมาณทุ่มครึ่งถึงสองทุ่มผมจะนั่งสมาธิ1ชั่วโมงโดยขออนุญาติพระที่หิ้งเหยียดขาตอนปวดขาปฏิบัติมาจนถึงวันนี้

    ผมปฏิบัติต่อเนื่องมาได้4ปี2เดือนแล้วครับ ปฏิบัติมามีแต่นิมิตที่ควรต้องละ
    วันไหนผมไม่ได้ปฏิบัติธรรมจะหงุดหงิดคือวันไหนที่ติดธุระผมก็อาศัยนอนทำสมาธิเอาส่วนการเดินจงกลมมี่บ้างแต่ก็บ่อยเหมือนกันเดินทีละประมาณ40นาที
    ...ผู้ปฏิบัติใหม่ ชอบยึดแนวทางของตัวเอง บางครั้งมันก็ถูก แต่ถูกสำหรับวาระนั้นๆ ผู้ที่ต้องการความสำเร็จ คือผู้ที่มี ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา คือการปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ การปฏิบัตินั่น ปฏิบัติได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าอิริยาบถใดๆ ที่ต้องเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อไม่ให้ร่างกาย ทรุดเกินไป ไม่ให้จิตใจมันจำเจ ซ้ำซากสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้หลักใจ นั่นถ้าเราภาวนา ว่าต้องครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง เรามัวไปกำหนดเวลา จริงๆเราต้องไปกำหนดตัวสติ ถ้าเราตั้งไว้ครึ่งชั่วโมง นั่งคิดไป ๆ มันก็จบ ไม่ได้อะไรเลย ต้องตั้งสติให้จดจ่อลองดู สัก ๕ นาทีมันจะดีดจะดิ้น จะปรุงไป ก็กลับมาให้เริ่มใหม่ต่อให้ครบ ๕ นาที ลองอย่างนี้สำหรับผู้ปฏิบัติใหม่ ลองทำดูถ้าทำได้ต่อสติให้จดจ่อสัก ๑๐ ๒๐ ๓๐ นาที ความสงบก็เกิด นี่เรียกวา จิตวิเวก และอุปธิวิเวก คือขาดจากการปรุงแต่ง คือสมาธิ คือความสงบ คือฐาน คือหลักของใจ ...
    ปล.อาจารย์เหลืองที่ผมนับถือดูดวงให้โดยดูกับดอกบัวบอกกับผมอีก3ปีครึ่งถึงจะรู้เห็น ส่วนบาบายีโยคีชาวฝรั่งเศสบอกกับผมว่าอายุ43ปีถึงจะมีความรู้ยิ่ง(อภิญญา)ถ้าไม่เร่งความเพียรก็อายุ50ปีถึงจะได้บาบายีบอกมา ตอนนี้ผมอายุ34ปีแล้ว บาบายีบอกผมอยู่ในช่วงฌาน3 แต่จากการปฏิบัติของผมผมรู้ตัวว่าใกล้ฌาน4แล้ว ผมไปสอบถามบางอาจารย์บอกผมฌาน9ผมเข้าใจว่าฌาน1หยาบฌาน1ปานกลางฌาน1ละเอียดจนถึงฌาน3หยาบกลางละเอียดนับได้9บางอาจารย์บอกว่าฌานมีถึงขั้น18
    ...ไม่มีใคร ทราบวาระ การสำเร็จเราได้หรอก ว่าจะสำเร็จ นั่นตอนนี้ สำเร็จนี่ตอนนี้ ยกเว้นสัพพัญญูผู้รู้แจ้ง และตัวเราเองนี่แหละที่สำเร็จ พอสำเร็จก็ไม่ต้องไปหาใครมาดูให้เราแล้ว เรารู้อยู่กับจิตกับใจเราแล้ว แต่ถ้าตัวเรายึดแต่สิ่งภายนอก ยึดหมอดู ก็รอไปเถอะ มีหวังตายเสียก่อนจะได้ จะได้ไปลงอยู่ในโคลน ในปลัก เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องยึดในปัจจุบันเลย มีแต่จะยึดในอนาคต ว่าเดือนนั้นเดือนนี้ จะสำเร็จนั่นนี่ ยิ่งปุถุชนเราเราแล้วใหญ่ พอได้ฟังก็นอนใจ ขี้เกียจ นอนเป็นหมูรอให้เขาเชือด นี่ต้องฝึกตัวที่เรียกว่า ความเพียรให้ตรง ...
    ปฏิบัติบางวันรู้สึกสุขหนอ สุขหนอ จนเปล่งอุทานในใจว่าการปฏิบัติธรรมนี่ดีจริงๆการปฏิบัติของผมเริ่มส่งผลแล้วคือเลิกเอาแต่ใจได้เด็ดขาดอารมณ์ร้อนไม่มีแต่ก็มีบ้างบางจังหวะก็หงุดหงิดใส่ครอบครัวทุกวันนี้อารมณ์ดี ผมถึงว่าอยากจะเชิญชวนชาวเวบพลังจิตทุกท่านปฏิบัติธรรม บางคนปฏิบัติต่อเนื่องมาแล้วหยุด3-6เดือนแล้วมาปฏิบัติต่อก็ได้แต่อย่าเกิน1ปีกลัวฌานเสื่อม บางคนนั่งชอบง่วง บางคนนั่งเมื่อไหร่จะเห็นผล ผมอยากแนะนำคือปฏิบัติธรรมจนชินให้มันอยู่ในกมลสันดานเลยจะดีมาก เพราะอภิญญาไม่ใช่จะได้กันง่ายง่าย ผมรู้สึกอินทรีย์มาทางปฏิบัติสะดวกรู้ช้า

    ...คุณปฏิบัติหวัง อภิญญา นี่ต้องทำกสิณ แล้วต้องดูว่าถูกจริตหรือเปล่า แล้วการทรงอารมณ์ ก็ต้องดำเนินให้แม่นยำ คือต้องปฏิบัติให้เป็นวสี คือเกิดความชำนาญ จะละเลยการปฏิบัติไม่ได้เลย และต้องมีครูบาอาจารย์ด้วย ในช่วงแรกการปฏิบิต นั่น การศึกษาต้องลพเอียด ความเพียรต้องมาก การปรับปรุงแก้ไขตัวเองต้อง ทำให้มากขึ้น ถ้าหวังอภิญญา จริงๆ ศีลต้องละเอียดมาก สมาธิจึงจะมั่นคง แต่สำหรับเราเรานี่ เอาตัวศีลให้ละเอียดก่อน คือความเป็นปกติของจิต จิตปกติมันไม่มียินดี ยินร้าย มีตัวอารมณ์เข้ามามันจึงปรุงไป หลุดไป นี่ต้องปฏิบัติให้เห็นจิต ละตัวกิเลสขั้นหยาบไปเรื่อยๆ ไม่ไปด่าใคร ทุบตีใคร ขโมย ไม่ไปดื่มสุราเมรัย เท่านี้เรียกว่าได้ โล่ คือเครื่อง ป้องกันแล้ว ไม่ให้ตกไปในทางชั่ว ...

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  14. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    ถ่อมตนมากไปแล้ว นะท่าน 555
    อนุโมทนาในธรรมครับ
     
  15. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ปฏิบัติตามสะดวกที่เราถนัดดีที่สุด

    ช่วงนี้เราลองทำสมาธิเวลาว่างๆ หรือช่วงวุ่นวาย ได้ผลดีเช่นกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...