น้ำท่วมปี 2555 นี้จะร้ายแรงหรือไม่

ใต้ทะเลลึกตอนนี้คงจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งของการตายของปลาจำนวนมากด้วยหรือเปล่า

 

วิทยาศาสตร์ยังไม่ค่อยมีองค์ความรู้ ในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นภายใต้พื้นโลกมากนัก มีข้อจำกัดอยู่มากครับ

คราวนี้ใครๆเขาก็เตรียมรับน้ำจากเขื่อนและแม่น้ำกัน ปรากฏว่าน้ำจะมาจากคลื่นทะเล เป็นหลัก อันนี้แทบไม่มีทางป้องกันเลยครับ

ที่จริงผู้ที่ท่านเมตตามาบอกกล่าวเรื่องภัยพิบัติและเตือนให้เตรียมตัวมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลังๆนี่ ไม่ใช่เฉพาะพระเกจิในประเทศไทย อย่างเช่น ปู่ทวด เท่านั้นแต่ยังมีองค์ต้นธาตุต้นธรรม(องค์อชิตะ)ซึ่งท่านเป็นแสงแห่งธรรม เป็นใหญ่อยู่ในอนันตจักรวาล(เป็นพระพุทธเจ้าที่เป็นใหญ่กว่าพระพุทธเจ้าทั้งหมดที่มีมาจำนวนนับไม่ถ้วน) และพระพุทธเจ้าองค์ปฐมในจักรวาลนี้(พระพุทธเจ้าวิปัสสีหรือปู่ขาวมหาราช)หรือพระพุทธเจ้าสิขีทศพล ที่หลวงพ่อฤษีลิงดำท่านกล่าวถึง(ปู่ขาวมหาราชท่านบอกผมอย่างนั้น) รวมทั้งพระศรีอริยเมตรัยก็มาเตือนเรื่องภัยพิบัติบ่อย

สำหรับองค์อชิตะนี้เป็นคนละองค์กับพระศรีฯนะครับ ชื่อพระศรีฯที่มาจุติในยุคพุทธกาลไปซ้ำกับชื่อขององค์อชิตะ ผู้ที่สื่อสารกับท่านเหล่านี้ได้ในคณะของผมนั้น ไม่ใช่มีเฉพาะผมคนเดียวแต่ยังมีพระสงฆ์อีกรูปนึงและฆราวาสอีกคนนึง ก็สามารถรับสื่อจากองค์อชิตะได้ เช่นเดียวกัน และอาจจะมีคนอื่นๆที่เขาสามารถสื่อสารกับท่านเหล่านั้นได้อีก แต่อาจจะยังไม่เปิดเผยตัวก็เป็นได้

การที่จะเข้าถึงองค์อชิตะ(ผมเรียกท่านว่าปู่อชิตะ)นั้น ต้องฝึกจิตให้เข้าถึงความว่าง เลยความว่างไปก็จะเป็นแสงครับ แสงที่สามารถสื่อสารกับจิตวิญญาณของเราได้นั้นแหละคือองค์อชิตะครับ ผมเลยไม่รู้จะเรียกแสงนั้นว่าอะไรจึงเรียกท่านว่า "แสงแห่งธรรม" อาจจะเข้าใจยากสำหรับผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงตรงนี้ การสื่อสารกันนั้นเป็นการสื่อสารแบบจิตต่อจิตเท่านั้นครับ

ก็ถือว่าเป็นบุญของเราที่ท่านเหล่านั้นมาโปรด จากเหตุที่เราเคยสร้างบุญกุศลในพุทธศาสนามาในพุทธันดรอื่นๆจนส่งผลมาถึงพุทธันดรนี้ และเหตุจากพุทธันดรนี้ก็จะส่งผลไปถึงการทำหน้าที่ต่อไปในพุทธันดรหน้าต่อไป ก็เป็นอันว่าจะหมดหน้าที่ในกึ่งกลางศาสนาของพระศรีอริยเมตรัย จึงจะหมดหน้าที่ตามที่ปรารถนามาทำในภัทรกัปป์นี้

ที่จริงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผมกล่าวถึงท่านบอกผมว่า ท่านก็ต้องการสื่อสารกับนักปฏิบัติทั้งหลายแต่มีข้อจำกัดในเรื่องของบารมีรองรับและหน้าที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างบารมีมารองรับและไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกัน จึงไม่สามารถรองรับญาณบารมีของท่านเหล่านั้นได้ หรือแม้แต่ผู้ที่มีบารมีรองรับเพียงพอแต่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกัน ท่านก็จะไม่สื่อสารด้วย

ดังนั้น การที่ท่านเหล่านั้นเมตตามาบอกกล่าวเรื่องของภัยพิบัติ ซึ่งสิ่งที่ท่านบอกกล่าวมานั้น ก็ย่อมเป็นสัจจะธรรมเช่นกัน จึงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ผมเองก็รอพิสูจน์สัจจะธรรมอันนี้อยู่เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้

 

ขอบคุณ คุณ Aunyasit มากนะค่ะ

อ้างถึงข้อมูลเรื่องที่คุณ Aunyasit แจ้ง

"ปี 55 นี้ธรรมชาติจัดหนักแน่นอนครับ อีกประมาณ 3 เดือน น้ำมหาศาลจะมาจากทางทะเล ปั่นป่วนไปหมดทั้งโลก สาเหตุมาจากลาวาร้อนใต้ผืนโลกที่กำลังแทรกแผ่นดินขึ้นมาจากมหาสมุทร พิกัดอยู่ระหว่าง ญี่ปู่น ไต้หวัน และ ฟิลิปปินส์ เมื่อความร้อนจัดจากลาวากับความเย็นจัดจากน้ำใต้ทะเลปะทะกัน ประกอบกับแรงดันสูงจากลาวาใต้โลกปริมาณมหาศาลดันทะลุเปลือกโลกขึ้นมา แรงดันจากใต้โลกจะยกยกผืนน้ำให้สูงขึ้นจากระดับปกติเป็นร้อยเมตร ขณะที่โลกก็หมุนไป ก็จะก่อตัวเป็นพายุใหญ่ยักษ์หอบเอาน้ำและโคลน เมื่อพายุน้ำหมุนผ่านที่ไหนก็จะกวาดพื้นที่นั้นไปกับน้ำด้วย เส้นทางของมหันตภัยที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านบอกเตือนไว้คือผ่านไต้หวัน เวียดนาม เขมร ลาว ไทย ศรีลังกา อินเดีย ฯลฯ ไปรอบโลก และประเทศที่พายุนี้ผ่านจะราบคาบครับ ท่านบอกว่าขนาดมหึมาของพายุจะคลุมพื้นที่ระหว่างใต้หวันกับฟิลิปปินส์เต็มพื้นที่"

ตามความคิดเห็นของติ๊กที่ศึกษาเรื่องนี้มาค่อนข้างเยอะ เชื่อว่าจะมีการเกิดภูเขาไฟระเบิดใต้น้ำแน่นอนค่ะ (ด้านข้อมูลทางวิทยาศาสตร์) + คำเตือนของครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ + นิมิตรในสมาธิ
สรุปเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
ปีนี้ไม่ค่อยห่วงเรื่องน้ำท่วมที่เกิดลักษณะปลายปีที่แล้วเท่าไร
แต่ที่ห่วงคือ เรื่องน้ำทะเลที่จะเกิดขึ้นในอ่าวไทย (ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าจะเป็นรูปแบบไหน) แต่บอกได้เลยว่าต้องเป็นผลต่อเนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แน่นอน

ผลจากหิมะที่ตกหนักมาก บางที่มีความหนาถึง 4-5 เมตร ระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือนต่อจากนี้ไป ท่านจะได้เห็นผลจากหิมะละลาย ทำให้น้ำบนโลกเพิ่มปริมาณจำนวนมาก ส่งผลกระทบถึงระบบนิเวศน์อย่างแน่นอน โดยนักวิทยาศาสตร์และคนทั้งโลกจะได้เห็นและสัมผัสกับผลกระทบดังกล่าว

ข้อความบางส่วนที่คุณ Aunyasit กล่าว

"เมื่อความร้อนจัดจากลาวากับความเย็นจัดจากน้ำใต้ทะเลปะทะกัน ก็จะก่อตัวเป็นพายุใหญ่ยักษ์หอบเอาน้ำและโคลน เมื่อพายุน้ำหมุนผ่านที่ไหนก็จะกวาดพื้นที่นั้นไปกับน้ำด้วย"
ประเทศไทยอาจจะได้เห็นเป็นลักษณะของพายุงวงช้าง (น้อง ๆ ทอร์นาโด) ในทางพุทธศาสตร์ เรียกว่า พายุนาคเล่นน้ำ หรือพยานาคเล่นน้ำ
เพื่อน ๆ อย่าลืมติดตาม พายุงวงช้าง จะเป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งก่อนจะเกิดเหตุใหญ่

 

ไม่ว่าจะฝั่งอ่าวไทย หรือ ฝั่งอันดามันก็หวาดเสียวทั้งคู่เลยครับคุณติ๊ก ++

 

สำหรับประเทศไทยแล้ว ฝั่งอ่าวไทยน่ากลัวมากกว่าอันดามัน
เนื่องจากถ้าเปรียบเทียบความเสียหาย และความสูญเสียแล้วอ่าวไทยจะทำให้เสียหายมากและกระทบมาถึงกรุงเทพอย่างแน่นอน

ปล. Link ที่นำมาให้ดูนั้นเป็นกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวที่ห่างจากไทย กรณีที่ไหวไม่รุนแรง แต่ถ้าไหวรุนแรงจะกระทบมากกว่าที่ อ.เสรี คาดการณ์
ติ๊กเป็นแฟนพันธ์แท้ ดร.เสรี 5555 เท่าที่รู้จักอาจารย์ท่านนี้เป็นผู้ที่เก่งมากทุกด้าน และเป็นผู้ที่เสียสละมากนะค่ะ

http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=WGyhnKArSZ8

http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=gh8hBKgyWAQ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=gh8hBKgyWAQ"]???????????????????????? - YouTube[/ame]

 

ลองดูนี่อีก link นะค่ะ

รายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ ตอน สึนามิ สิ้นปีนี้ที่อ่าวไทย - YouTube

 

คลื่นน้ำสูงมากๆจะเคลื่อนจากฝั่งอ่าวไทย ข้ามไปทะเลอันดามัน มาพร้อมๆกันทั้งพายุหมุนและคลื่นขนาดมหึมา ลูกแล้วลูกเล่าครับ ซัดเข้ามาตรงแนวที่เคยคิดกันว่าจะขุดคอคอดกระ แล้วด้ามขวานไทยจะขาดสองท่อน รวมทั้งจะมีคลื่นสูงมากๆขนาดภูเขา ผมประมาณว่าคลื่นขนาดเท่าเกาะภูเก็ตมั้งครับ น้ำและโคลนจากคลื่นยักษ์นั้นคงจะกวาดเอาพื้นที่ข้างเคียงไปด้วยเป็นระยะหลายร้อยกิโลเมตรจากศูนย์กลางของพายุหมุน

ใน กทม. ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเคยทำภาพให้ผมดูนั้น น้ำจะขึ้นสูงประมาณตึก 4 ชั้น ครับ(ระดับน้ำความลึกน่าจะประมาณ 10 เมตรกว่าๆ) คลื่นที่เข้ามาทางฝั่งทะเล ท่านเคยทำภาพให้ดูก็ขนาดเท่าเกาะใหญ่ๆ ความแรงจากคลื่นซัดนั้นจะแรงและเสียงดังมาก ทำให้อาคาร บ้านเรือนต่างๆสั่นสะเทือน ขนาดความรู้สึกในความเป็นทิพย์นั้น ความแรงคล้ายๆจะทำให้หัวใจผมหลุดกระเด็น ออกมาจากตัวเลยครับ

สิ่งที่จะฝากเตือนก็คือ ใครจะประสบกับเหตุการณ์รุนแรงขนาดไหนก็แล้วแต่ ขอให้ตั้งสติให้ดี มิฉะนั้นแล้วจะเกิด สติวิปลาสโดยทันที ที่บางคนบอกกันว่าจะคุมสติได้นั้น ผมว่าไม่แน่นักหรอกเพราะในความเป็นจริงมันรุนแรงเหลือเกิน ยังไงก็ขอให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทก็แล้วกัน ผมเองบอกกับตัวเองไว้ว่า จะหนีก่อนใครๆเพราะว่าถ้าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆคงจะคุมสติตัวเองได้ยากเช่นกันเพราะขณะที่นั่งสมาธิ เมื่อมีฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาใกล้ๆจิตผมยังสะเทือนไหว ก็แสดงว่ายังใช้การไม่ได้ที่จะเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ของภัยพิบัติครั้งนี้ ถ้าหนีไปก่อนจะปลอดภัยทั้งธาตุขันธ์และจิตวิญญาณของตนเอง

ยังไงก็อย่าลืมเร่งเตรียม "เสบียงบุญ" กันนะครับ เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อทุกคน ถ้าไม่มีเสบียงบุญนี่ สิ่งต่างๆที่เราเตรียมกันเอาไว้ก็ไร้ค่าครับ

ผมล่ะขอพึ่งพระบารมีองค์ต้นธาตุต้นธรรม(องค์อชิตะ) องค์พระวิปัสสีและก็พระพุทธเจ้าห้าพระองค์นี้ครับ นี่คือเสบียงบุญหลักๆของผมที่เตรียมมาอย่างยาวนานสิบกว่าปีครับ

 

ถ้าท่วม4ชั้น แล้วตึกต่างๆหละครับ ตึกใบหยกอะไรอย่างงี้ จะเป็นอย่างไร

 

"สิ่งที่จะฝากเตือนก็คือ ใครจะประสบกับเหตุการณ์รุนแรงขนาดไหนก็แล้วแต่ ขอให้ตั้งสติให้ดี มิฉะนั้นแล้วจะเกิด สติวิปลาสโดยทันที"

จริง ๆ ตามที่ท่านพูดค่ะ

ณ ขณะนี้เพื่อน ๆ บางท่านอาจจะสัมผัสได้กับผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดผลจากพายุสุริยะ ผลจากพลังแม่เหล็ก หรือผลการรับข้อมูลข่าวสารมากเกินไป อากาศร้อนเนื่องจากการเปลี่ยนระหว่างฤดูหนาวและฤดูร้อน ทำให้หลาย ๆ ท่านปวดหัว มึนงง คิดอะไรไม่ค่อยออก กระสับกระส่าย นอนไม่ค่อยหลับ เกิดอาการเครียดต่าง ๆ ขึ้น

นี่เป็นหนึ่งบททดสอบ ให้ท่านพยายามฝึกจิต เอาชนะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับร่างกายของท่าน ให้ท่านปล่อยวางจิตให้สบาย จนกว่าอาการนั้นจะหายไป ถ้าไม่ดีขึ้นถือว่าท่านไม่ผ่านบททดสอบเบื้องต้น หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง ท่านจะไม่สามารถคุมกาย คุมจิตท่านได้
ลองฝึกกันดูนะค่ะ
1. นั่งนิ่ง ๆ หลับตา หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกแรง ๆ 3 ชุด
2. ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเข้า หายใจออกให้ช้าลง จนแทบจะไม่ได้ยินเสียงลมหายใจของเราเอง
3. นึกถึงภาพพระพุทธเจ้า
4. คิดถึงคำว่า "ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง ดับเพลิงกิเลส เพลิงทุกข์สิ้นเชิง "

 

พุทธสถานสำคัญในภาคอีสานที่ใกล้แม่น้ำโขง เท่าที่ดูจากแผนที่ไม่น่าเกินรัศมี 1 กิโลเมตร คือ พระธาตุพนม ครับ ... แต่อย่างไรผมเชื่อว่า บริเวณนี้คงมิได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ

 

คุณ wee2010

เท่าที่ท่านเคยให้ภาพมา ก็เห็นตึกที่ตั้งตรงอยู่ได้ใน กทม.มีไม่มาก พื้นที่ที่เหลือมีแต่น้ำ และก็มองเห็นตึกต่างๆอยู่ห่างกัน ไม่หนาแน่นเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าตึกต่างๆใน กทม.ทำไมเหลือน้อย คล้ายกับมีตึกตั้งอยู่กระจัดกระจายกลางทะเลครับ(ท่านให้ภาพตอนที่ กทม. จมน้ำไปแล้ว)

คุณ CopperOxide

สำหรับที่พระธาตุพนมนั้น ยังไม่ทราบว่าจะกระทบมากน้อยขนาดไหน ประมาณวันที่ 4 มี.ค. 55 เมื่ออัญเชิญเสด็จปู่ขาวมหาราชไปที่นั่น ท่านคงจะเปิดให้ทราบถึงความเป็นไปของพระธาตุพนม แต่ก็อย่าลืมว่าในอดีต พระธาตุพนมก็เคยรกร้างและก็เคยหักโค่นลงมาเช่นกัน เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์นั่นแหละครับ

 

ขอบคุณครับสำหรับคำตอบ

 

ขอขอบคุณทุกท่านครับ ยังไงก็ขอให้มีสติมากเท่าที่จะทำได้ จะพยายามครับ ^^

 

ขอถามอีกคำถามครับว่า ถ้าถึงตอนนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านจะไปอยู่ที่ไหนครับ จะมีเทวดามาช่วยท่านไหม เป็นห่วงท่านครับ

 

นั่นสิ...ส่วนตัวเชื่อว่าน้ำท่วมมี แต่คงไม่ถึงกับในหนังมั้งครับ ตัวผมและครอบครัวก็จะไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้น เชื่อในความดีที่ตัวเองทำมาต่อเนื่องจนถึงวันนี้ เชื่อในอนุภาพของพระรัตนตรัย...

 

สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในยุคนี้พระองค์ท่านมีบารมีสูงส่งกว่าใครในสยามประเทศ ผมเข้าใจว่าพระองค์ท่านทรงรู้เรื่องภัยพิบัติเหล่านี้ดีครับ และก็คาดเดาว่าทรงรู้มานานแล้วด้วย เพราะโครงการเศรษฐกิจพอเพียงนั้นเป็นโครงการที่สามารถจะทำให้ชาวไทยอยู่รอดในภาวะของภัยพิบัติได้เป็นอย่างดี พระองค์ท่านทรงเข้าถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ผมกล่าวถึงข้างต้น(รายละเอียดไม่ขอกล่าวถึงครับ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่พูดออกไปย่อมไม่เหมาะสม) เอาเป็นว่าพระองค์สามารถสื่อสารจิตต่อจิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งกับผู้คนที่เข้าถึงได้ครับ

 

ขอบคุณมากครับ เศรษฐกิจพอเพียงคือทางรอดหลังภัยพิบัติจริงๆครับ พระองค์ท่านทรงมองการไกลจริงๆครับ มีปัจจัย 4 ก็สามารถดำรงชีวิตก็อยู่ได้ครับ

 

เป็นบุญของชาวไทยทุกคน

 

ได้ข่าวแล้วจะมาบอกอีกที

 

อ้างอิงจาก​