เพื่อการกุศล :::(เปิดจอง)ล็อกเกตพระแก้วมรกต"ภูริทัตตเถรานุสรณ์-สมเด็จองค์ปฐมอมฤตศุภมงคลญาณสังวร":::

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    [​IMG]


    ผมได้นำเรื่องราวทั้งหมดกราบเรียนหลวงพ่อสมหมาย ทั้งหมด เมื่อครู่ แล้ว


    ท่านบอกผมว่า "อย่าไปทะเลาะกับเค้า อย่าให้นำไฟนั้นมาเผาเรา ถ้าเค้าด่าเรา เราใจ สบาย ไม่ต้องสนใจ หัวเราะไป ถ้าทะเลาะกันไปกันมา ไฟจะเผาทั้งคู่ ลงนรกทั้งคู่ ให้พุทโธๆๆ จิตใจเราจะมีความสงบเย็น ที่เค้าพูดออกมา เราได้ยินจากปากหลวงพ่อเหรอ ลูกศิษย์น่ะไปเขียน จะพูดอะไรก็ได้ ตัวหลวงพ่อท่านเอง ท่านไม่เป็นแบบนึ้หรอก นั้นน่ะท่านเพ่งให้แล้ว มันต้องโดนโจมตีถึงจะขลัง ไม่ต้องลงเวปอะไรแล้ว ไม่ต้องเขียนต่อด้วย นำเวลาไปภาวนา อย่าทำเรื่องไร้สาระแบบนึ้"และ"อกฺโกเธน ชิเน โกธํ พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ"

    ไปล่ะครับ ไม่ยุ่งด้วยแล้ว ไปทำใจสบายๆๆดีกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 กุมภาพันธ์ 2012
  2. ศิษย์วัด9

    ศิษย์วัด9 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณที่เห็นว่าข้อความของผมมีคุณค่า แต่กระผมคงจะรับคำขอบคุณนั้นไว้ไ่ม่ได้ เพราะ

    1. คุณมีเจตนาปรามาสพระรัตนตรัย จากที่อ้างว่า พระของคุณสุธันย์ผู้อธิษฐานจิตเป็นพระอริยสงฆ์และมีเจตนาคิดเปรียบเปรย ซึ่งเราปุถุชนไม่อาจทราบว่าท่านเหล่านั้นสำเร็จธรรมขั้นไหน การไปปรามาสผลกรรมนั้นทำให้ตกนรก กระผมคงมุฑิตากับคุณไม่ได้ครับ

    2. เท่าที่กระผมพิจารณานั้นข้อความของคุณนั้น มีเจตนาเจือไปด้วย อวิชชาและอคติ การไปเติมเชื้อไฟหลังเหตุการณ์ ก็ทำให้บ้านเมืองของเราเกิดเสื้อเหลือง เสื้อแดง และเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆตามมาครับ

    “การตำหนิติเตียนผู้อื่น
    ถึงแม้ถึงเขาจะผิดจริงหรือไม่ผิ
    <wbr>
    ก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย

    และเป็นสาเหตุทำให้เกิดทุกข์

    เพราะฉะนั้นควรพิจารณาตัวเองจะดีกว่า”

    พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
     
  3. udomsilp

    udomsilp สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    <TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2><TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR title="Post 5682781" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle>ปัญจ</TD><TD class=alt1>ถ้ามุ่งชี้แจงข้อเท็จจริงและเจตนา โดยไม่มุ่งตอบโต้กันไปมา น่าจะทำให้จิตกลับสู่ธรรมได้ง่ายกว่าการปกป้องตนเองแต่โจมตีกลับไปสู่ผู้อื่นวนไปมาไม่รู้จบ

    หากก้าวล่วงครูบาอาจารย์ไปไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ ก็น้อมรับและขอขมาท่านไป
    และใช้เป็นบทเรียนในการปฏิบัติตน โดนศิษย์ที่เคารพครูบาอาจารย์ตำหนิบ้างก็ไม่จำเป็นต้องตำหนิกลับ

    แต่ละท่านคงสำนึกในสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้วว่าดีหรือไม่ และเกิดผลกระทบอะไร
    ลดการตัดพ้อต่อว่ากันไปมา แต่ปฏิบัติตามคำสอนครูบาอาจารย์จะตรงกับเจตนาของท่านที่ต้องการให้ศิษย์พ้นทุกข์ จะเป็นการแสดงความเคารพท่านที่ดีที่สุด

    เมื่อถูกชี้ว่าผิด ก็ไม่จำเป็นต้องชี้ต่อไปว่าผู้อื่นก็ผิด แต่ลองทบทวนว่าปฏิบัติอย่างไรจึงจะถูก น่าจะก่อประโยชน์มากกว่า





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR title="Post 5682781" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle></TD><TD class=alt1>






    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ก่อนอื่น .. ต้องขอขอบพระคุณ ท่าน ศิษย์วัด 9 .. และ ท่าน ปัญจ . . ครับที่เตือนสติ

    และขอขมา ขออภัยต่อ.. พระ และ วัดบรมนิวาส ที่ผมได้กล่าวล่วงเกินไกลไป ผมขอขมา ขออภัย ไว้ ณ. ที่นี้ด้วย ใจจริงครับ ..


    <TABLE id=post5682545 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>[​IMG] เมื่อวานนี้, 08:39 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2930 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ลูกวัดท่าซุง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5682545", true); </SCRIPT>



    สมาชิก PREMIUM



    [​IMG]



    วันที่สมัคร: Sep 2007


    สถานที่: ชมรมวิมุตติธรรม มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ


    ข้อความ: 3,789


    พลังการให้คะแนน: 1043 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_5682545 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ผมขออนุญาตชี้แจ้งน่ะครับ จะเข้ามาตอบครั้งเดี่ยว และอยากให้เรื่องจบซักที่ เพราะเป็นกระทู้งานบุญ ยิ่งมากเรื่อง มากความ เป็นบาปเป็นกรรมครับ



    ผมว่าชักจะไปไกลแล้วน่ะครับ ตอนแรกผมไม่อยากมีปัญหา อยากอยู่เงียบๆและได้ขอโทษไปแล้ว ยังไม่จบ ก็ต้องขออนุญาตชี้แจ้งครับ



    1.ผมได้สนทนากับท่านพระอาจารย์สมหมาย วัดป่าสันติกาวาส ท่านบอกผมว่า "น่าจะลองนำพระไปให้หลวงพ่อจันทร์เรียนอธิษฐานจิต อ้างเราเลยว่า เราให้มาขอให้ท่านแผ่เมตตาให้"



    2.ทางพี่หมอตี๋ได้โทรมาหาผมว่า ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร เดินทางมากรุงเทพ และโทรมาหาผมเวลา 06.00 น. ผมกำลังรอเรียนวิชาสังคมอยู่ ผมบอกว่าอยากไปมาก แต่ติดเรียน ถ้าเรียนเสร็จจะไป ผมเลิกเวลา 19.30 น. เดินทางไปหาคุณชัยพร เวลา 20.00 น. ออกเดินทางเวลา 20.30 น. ถึง 21.10 น. ที่วัดบรมนิวาส คุณหมอมารับผมหน้าวัด และพาผมเข้าไปกราบท่านพระอาจารย์ที่กุฏิ กุฎิปัทมราช กุฏิใหญ่ เป็นกุฏิไม้โบราณ สีชมพู มีที่รับแขก และมีห้องจำวัดที่รัดกุม เมื่อเข้าพักแล้ว ไม่สามารถเข้าได้ คุณหมอได้ขออนุญาตไปกราบลาพระกุฏิข้างๆท่านพระอาจารย์ ส่วนพวกผมได้เดินเข้าไป ณ.เวลานั้น มีโยมบอกว่า ท่านพระอาจารย์เลิกรับแขก แล้ว เมื่อเข้าไป เห็นแต่เจ้าคุณอำนวยกับพระภิกษุอีก 1 รูป กราบท่านเสร็จ ท่านบอกว่า ท่านพระอาจารย์เลิกรับแขกแล้ว พวกผมคิดว่าไม่เจอ ก็ขอกราบหน้าห้องจำวัดของท่าน ก็เป็นบุญของผมแล้ว ปรากฏว่าพระอาจารย์จันทร์เรียนท่านเดินมาจากไหนไม่รู้ มาข้างหลัง กำลังจะเดินเข้าห้องจัดวัด คุณชัยพร ขอโอกาศท่าน ท่าหันมายึ้มๆแล้วกล่าวว่า "จะกราบก็รีบกราบเราน่ะ ถ้าเราเข้าพักแล้ว ไม่ออกมาแล้วน่ะ" กราบท่านเสร็จ คุณชัยพรขอเมตตาท่านแผ่เมตตาวัตถุมงคล ท่านบอกว่า "เราไม่เสก เราไม่ยุ่งกับเรื่องพวกนึ้" ใจจริงผมอยากจะบอกว่า ท่านพระอาจารย์สมหมาย ให้นำพระมาให้หลวงพ่อเเผ่เมตตา ให้ แต่ดูไม่งาม กลัวจะเสียถึงท่าน จึงไม่อยากจะอ้างแต่น่าแปลก แทนที่ท่านจะปิดประตูเลย ท่านกลับไปเผ่งพิจารณาถุงที่บรรจุของมงคลและอยู่หลังสุด ฝั่งทางซ้าย และไม่มีใครอยู่เลย ชั่วระยะหนึ่ง และปิดประตูเข้าห้องพักไป ของมงคลนั้นผมตั้งใจนำมาให้ท่านอธิษฐานจิต ถ้าท่านแผ่เมตตาให้ แต่เกรงว่าท่านจะไม่อธิษฐานจึงนำไว้ฝั่งทางซ้าย หลังสุด ก็เป็นเรื่องแปลก ผมเชื่อว่าหลวงพ่อมีเจโต ท่านน่าจะรู้ หรือท่านไม่เชื่อล่ะ ผมก็แปลกใจคิดว่าท่านคงไม่อธิษฐานจิตหรอก แต่คุณชัยพรบอกว่า "แค่ท่านเผ่งมองให้ก็เป็นมงคลสงสุดแล้ว ท่านจะไม่เสกให้ก็ไม่เป็นไร" อาจจะเป็นอุปาทานหมู่ของผมก้ได้ครับ แต่ตอนนั้นยืนยันว่าเห็นสองลูกกะตา ผมอยากจะให้ท่านแผ่เมตตาจริงๆตอนนึ้ยอมรับครับว่า ผมก็เสียมารยาท ผมผิดครับ จริงๆแล้วน่าจะรู้จักกาละเทสะมากกว่านึ้ เพราะมันก็ค่ำแล้ว เลยนั่งรอท่านต่อไป คุณชัยพรเข้าสมาธิภาวนา หน้าห้องที่ท่านพัก ซึ่งติดกับโตธหมู่บูชาพระ ส่วนตัวผมก็ไปอ่านหนังสือพระ ในตอนนั้นมีแต่ความเงียบ ไม่มีใครส่งเสียง สร้างความวุ่นวายอะไรทั้งสิ้น ทางเจ้าคุณอำนวยก็ไปทรงน้ำ ผ่านไป 45 นาที คุณชัยพรยังนั่งสมาธิอยู่ คุณชัยพรฉุกคิดว่า "หลวงพ่อครับลูกหลานมาไกล ขอความเมตตาหลวงพ่อมาโปรดลุกหลานน่ะครับ" อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงจากห้องท่านและท่านก็ออกมา ทำธุระห้องข้างๆ เป็นที่น่าแปลกอีก คือนิสัยหลวงพ่อเมื่อเข้าห้องพักแล้วจะไม่ออกมาอีก ท่านก็ยึ้มให้และบอกว่า "กลับกันได้แล้ว ปิดไฟด้วยน่ะ" ผมขอร้องให้คุณชัยพรขอเมตตาท่านอีกครั้งท่านบอกว่า "เราไม่เสก มันไม่ใช่หน้าที่ของพระ เป็นรูปพระพุทธเจ้าแล้วจะทำอะไรหนักน่า" และขณะที่ท่านจะปิดประตู ล็อกกุญแจจากภายใน ท่านบอกว่า "ทำมาแล้วนำไปสักการะบูชาได้เลย" พวกผมจึงกราบลาท่าน ท่านเจ้าคุณมาถึงพอดี จึงปิดไฟ ผมจึงฝากปัจจัยไว้กับเจ้าคุณอำนวย ถวายหลวงพ่อ ท่านบอกว่า ตอนเช่้าจะบอกหลวงพ่อให้ และกราบขอขมาเจ้าคุณที่รบกวน ท่านเมตตาบอกว่า ไม่เป็นไร และเดินทางกลับ หลังจากนั้น ก็มีคนเข้าไปต่อจากผม เจ้าคุณบอกว่า "มาช้าเสียแล้ว หลวงพ่อเลิกรับแขกตั้งนานแล้ว" เข้าบอกว่า"จะนอนรอ ใส่บาตรหลวงพ่อ" และคุยกับเจ้าคุณต่อ ส่วนตัวผมกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ผมยอมรับครับว่าเสียมารยาทและไม่รู้จักกาละเทสะ แต่ผมไม่ได้รบกวนหลวงพ่อหรือรบเร้าให้หลวงพ่อออกมา ท่านไม่ออกมาก็ไม่เป็นไร ภาวนาเอาบุญ ก็กลับแล้ว คุณชัยพรก็นั่งสมาธิ ตัวผมอ่านหนังสือพระ ในกุฏิมีแต่ความเงียบ ไม่ได้สร้างเสียงอะไรเลยและผมไปรบกวนท่านยังไง ไม่ได้ชวนท่านคุยเลย พูดกันยังไม่ถึง 10 คำ ท่านก็เข้าพักข้างใน ห้องจำวัด ไม่มีใครเข้าได้ เพราะล็อกกุญแจจากด้านใน ยอมรับว่า ทำให้หลวงพ่อไม่สบายใจ เพราะท่านไม่ชอมเรื่องพวกนึ้ แต่ถ้าท่านแผ่เมตตาให้เป็นมงคลสูงสุด เพราะหลวงปู่เจี๊ยะบอกว่า "ถ้าท่านจันทร์เรียนทำให้ศักดิ์ศิษย์ที่สุด" ถ้ารบกวนคงเป็นเรื่องนึ้ และผมไม่ได้ดักรอท่านหน้าห้องน้ำ อย่างข่าวที่ว่าไป



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​





    ส่วน ลูกวัดท่าซุง ..

    ก็ดีครับ แสดงตัวออกมาสักที่ .. ดีกว่าไปเที่ยวกล่าวอ้างไปทั่ว ..เพราะคำกล่าวอ้างของท่านมาถึงหู พวกผม .. พฤติกรรม การกระทำ และเจตนา ในครั้งนี้ ท่านก็เล่ามาแล้ว สมเหตุ สมผล สมควรหรือเปล่า ก็ให้ทุกท่าน ใช้วิจารณญานเชื่อกันเองแล้วกันครับ ... แต่อยากเตือนว่า อย่าได้คิดประพฤตอีกเลยครับ

    เรื่องที่ท่านว่าผมเรื่องธรรมะ ผมไม่ถือสาหรอกครับ .. ตัวตนผมก็ไม่ใช่คนธรรมะธัมโม .. อ่านหนังสือธรรมะบ้างเป็นบางครั้ง .. ทำบุญตามกำลัง ..กิเลศยังหนาอยู่ .. แต่ผมรู้สิ่งที่ ควร ..ไม่ควร ประพฤต ปฎิบัติต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ .. แต่สำหรับท่าน ก็รู้กันอยู่ในเรื่อง พฤติกรรม ความประพฤต คงไม่ต้องอธิบายกัน ท่านคงรู้ตัวดี ...

    กำลังนั้งพิมพ์อยู่ .. เห็นข้อความ ลูกวัดท่าซุง ขึ้นมาเพิ่ม อ่านแล้ว .. สงสัยจะยากเกินเตือนสติแล้ว ...สงสารเป็นอย่างมาก .. สุดท้ายก็กล่าวล่วงถึงพระอาจารย์สมหมายเป็นเกราะป้องกันตัว และยังดึงดันว่าท่านพระอาจารย์เพ่งเมตตาอีก ..นิสัยเดิม สันดานเดิม .. ผมหมดปัญญากับลูกวัดท่าซุงแล้ว .. ก็เป็นไปตามกรรมแล้วกัน ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  4. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    ขออนุญาตทุกท่านนะครับ ผมเองติดตามกระทู้นี้มาอยู่นานพอสมควร เห็นงานบุญครั้งนี้ ท่านเจ้าของกระทู้มีความตั้งใจ ในการสร้างล๊อคเกตพระแก้วมรกตในครั้งนี้ จุดประสงค์เพื่อร่วมสร้างเจดีย์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นงานบุญที่ดี มีเจตนาที่ดี และก็ขอกล่าวชมเชยว่ามีความเพียรพยายามอย่างยิ่งถึงแม้ว่า จะต้องสละเวลาและใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัว ผมเองถือว่าสมัยนี้หายากครับที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ และเปี่ยมไปด้วยพลัง ในการทำงานบุญ

    ผมเชื่อว่าสร้างวัตถุมงคล ทุกคนก็สามารถที่จะทำได้ แต่จะทำให้ดีและมีคุณค่านั้นยาก ซึ่งต้องดีในทุกๆส่วน อาศัยความตั้งใจและทุ่มเท ไอ้คำว่าทุ่มเท และความตั้งใจเนี่ยละครับ บางครั้งมันอาจก่อให้เกิดผลกระทบโดยไม่ตั้งใจ ไม่มากก็น้อย ผมเชื่อว่าผู้จัดสร้างเองก็มีความตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยตั้งใจที่จะให้ครูบาอาจารย์อธิษฐานจิตให้มากที่สุด จะว่าไปแล้วท่านผู้จัดสร้างเองก็ต้องการสร้างเกียรติประวัติแก่ตนเอง ซึ่งความเห็นผมแล้ว ท่านเองก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่อาจจะมองได้ถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจ การดูคนผมว่าเราควรดูที่เจตนากันดีกว่าครับ บางครั้งในการทำงานย่อมมีข้อผิดพลาดได้เหมือนกัน อาจจะเกิดจากความตั้งใจเกินไป อาจจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งนำมาซึ่งการก่อให้ให้เกิด
    ความไม่พอดี ในบางเรื่อง ความไม่เหมาะสมในบางเรื่อง โดยส่วนตัวผมเองก็เคยทำงานบุญมาก่อน ผมเองก็เข้าใจทุกท่าน และคิดว่า ทุกท่านที่เป็นลูกศิษย์ครูบาอาจารย์ ท่านเคารพรักและศรัทธาก็คงไม่อยากที่จะให้ใครมารบกวนหรือทำการใดๆต่อครูบาอาจารย์อย่างไม่เหมาะสมแก่เวลา อีกส่วนหนึ่งผู้จัดสร้างก็อยากที่จะขอความเมตตาครูบาอาจารย์ แต่ผมเองก็เห็น เขาได้อธิบายถึงเหตุการณ์ต่างๆ และ ทางกลุ่มลูกศิษย์ก็ได้อธิบายว่าไม่เป็นความจริง

    ผมว่าการโต้ตอบกันไปกันมา ย่อมไม่เกิดผลดีครับ การให้อภัยแก่กันและกันสำคัญยิ่งกว่า ผมถือว่าเราเองก็ต่างก็เป็นศิษย์มีครูด้วยกันทั้งนั้น อย่าถือโทษโกรธกันและกันเลยครับ การเอาชนะกัน มันเกิดผลดีอย่างไร ตรองดูครับ ผมว่าผมเข้าใจทั้งสองฝ่ายนะครับ ผมเองเคยอยู่ ใน 2 สถานะ เหมือนอย่างนี้เลยครับ สุดท้ายผมแก้ด้วยการไม่ยึดติดครับ ปล่อยวาง ไม่สนใจ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ใครดีมาเราจงดีตอบ ใครไม่ดีมาเราก็ดีตอบ ใครร้ายมาเราไม่ร้ายตอบ ใครไม่ชอบเราจงปล่อยวาง ใครอา็ฆาตมาเราจงเมตตา

    เราจงมีสติกันทุกฝ่ายนะครับ ผมเชื่อว่าทุกๆท่านนั้นล้วนเป็นผู้มีบุญและความดีในตัวเองอยู่แล้ว เพราะผมคิดว่าโดยส่วนใหญ่ผู้ที่เข้ามาในเวปพลังจิตแห่งพุทธศาสนา นั้นมีความดีในตัวกันทุกคน อย่าให้ความดีที่พวกเราสั่งสมมาโดยตลอด นั้นมีราคีเลย

    คติธรรมคำสอนของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    คัดจากหนังสือ ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ


    * ผู้สนใจศึกษาปฏิบัติธรรม คือผู้สนใจหาความรู้ความฉลาดเพื่อคุณงามความดีทั้งหลาย ที่โลกเขาปรารถนากันเพราะคนเราจะอยู่และไปโดยไม่มีเครื่องป้องกันตัวย่อมไม่ปลอดภัย ต่ออันตรายทั้งภายนอกภายใน เครื่องป้องกันตัวคือหลักธรรมมีสติปัญญาเป็นอาวุธสำคัญ จะเป็นเครื่องมั่นคงไม่สะทกสะท้านมีสติปัญญาแฝงอยู่กับตัวทุกอิริยาบท
    จะคิด-พูด-ทำอะไรไม่มีการยกเว้น มีสติปัญญาสอดแทรกอยู่ด้วยทั้งภายในและภายนอก มีความเข้มแข็งอดทน มีความเพียรที่จะประกอบคุณงามความดี คนอ่อนแอโง่เง่าเต่าตุ่นวุ่นวายอยู่กับอารมณ์เครื่องผูกพันด้วยความนอนใจ และเกียจคร้านในกิจการที่จะยกตัวให้พ้นภัย

    * การตำหนิติเตียนผู้อื่น ถึงเขาจะผิดจริงก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย
    ความเดือดร้อนวุ่นวายใจที่คิดตำหนิผู้อื่นจนอยู่ไม่เป็นสุขนั้น นักปราชญ์ถือเป็นความผิดและบาปกรรม ไม่มีดีเลย จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนามาทรมานอย่างไม่คาดฝัน
    การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรอง เป็นการสั่งสมโทษและบาปใส่ตนให้ได้รับความทุกข์ จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน งดความเห็นที่เป็นบาปภัยแก่ตนเสีย ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง

    * ผู้เห็นคุณค่าของตัว จึงเห็นคุณค่าของผู้อื่น ว่ามีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่เบียดเบียนทำลายกัน ผู้มีศีลสัตย์เมื่อทำลายขันธ์ไปในสุคติในโลกสวรรค์ ไม่ตกต่ำเพราะอำนาจศีลคุ้มครองรักษาและสนับสนุน จึงควรอย่างยิ่งที่จะพากันรักษาให้บริบูรณ์ ธรรมก็สั่งสอนแล้วควรจดจำให้ดี ปฏิบัติให้มั่นคง จะเป็นผู้ทรงคุณสมบัติทุกอย่างแน่นอน

    * เมื่อเกิดมาอาภัพชาติ แล้วอย่าให้ใจอาภัพอีก
    ผู้เกิดมาชาตินี้อาภัพแล้ว อย่าให้ใจอาภัพ คิดแต่ผลิตโทษทำบาปอกุศลเผาผลาญตนให้ได้ทุกข์ เป็นบาปกรรมอีกเลย

    * คนชั่ว ทำชั่วได้ง่าย และติดใจไม่ยอมลดละแก้ไขให้ดี

    คนดี ทำดีได้ง่าย และติดใจกลายเป็นคนรักธรรมตลอดไป


    * เราต้องการของดี คนดี ก็จำต้องฝึก ฝึกจนดี จะพ้นการฝึกไปไม่ได้ งานอะไรก็ต้องฝึกทั้งนั้น ฝึกงาน ฝึกคน ฝึกสัตว์ ฝึกตน ฝึกใจ นอกจากตายแล้วจึงหมดการฝึก คำว่า ดี จะเป็นสมบัติของผู้ฝึกดีแล้วแน่นอน

    * ศีล นั้นอยู่ที่ไหนมีตัวตนเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้รักษาแล้วก็รู้ว่า ผู้นั้นเป็นตัวศีล ศีลก็อยู่ที่ตนนี้ เจตนาเป็นตัวศีล เจตนาคือจิตใจ คนเราถ้าจิตใจไม่มีก็ไม่เรียกว่าคน มีแต่กายจะทำอะไรได้ ร่างกายกับจิตต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อจิตไม่เป็นศีล กายก็ประพฤติไปต่างๆ มีโทษต่างๆ ผู้มีศีลแล้วไม่มีโทษ จะเป็นปกติแนบเนียนไม่หวั่นไหว ไม่มีเรื่องหลงหา หลงขอ คนที่หา คนที่ขอต้องเป็นทุกข์ ขอเท่าไหร่ยิ่งไม่มี ยิ่งอดอยากยากเข็ญ
    กายกับจิตเราได้มาแล้ว มีอยู่แล้ว ได้มาจากบิดามารดาพร้อมบริบูรณ์ จะทำให้เป็นศีลก็รีบทำ ศีลมีอยู่ที่เราแล้ว รักษาได้ไม่มีกาล ได้ผลไม่มีกาล
    ผู้มีศีลย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญ ผู้มีศีลย่อมมีความสุข ผู้จักมั่งคั่งบริบูรณ์ไม่อด ไม่ยาก ไม่จน ก็เพราะรักษาศีลให้สมบูรณ์ จิตดวงเดียวเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา
    ผู้มีศีลแท้เป็นผู้หมดเวรหมดภัย

    * คุณธรรม ยังมีผู้เข้าถึงให้เป็นผู้ฉลาดปราดเปรื่องเลื่องระบือ มีความฉลาด กว้างขวางในอุบายวิธี ไม่มีคับแค้นจนมุม
    * การปฏิบัติธรรม เป็นการทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทรงตรัสสอนเรื่องกาย วาจา จิต มิได้สอนเรื่องอื่น ทรงสอนให้ปฎิบัติฝึกหัดจิตใจ ให้เอาจิตพิจารณากาย เรียกว่า กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน หัดสติให้มากในการค้นคว้า เรียกว่า ธัมมวิจยะ พิจารณาให้พอทีเดียว เมื่อพิจารณาพอจนเป็นสติสัมโพชฌงค์ จิตจึงจะเป็นสมาธิรวมลงเอง
    การประกอบความพากเพียรทำจิตให้ยิ่ง เป็นการปฏิบัติตามคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า


    • ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอน
    • ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืน
    • ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู
    • ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเท่านั้น


      * วาสนา นั้นเป็นไปตามอัธยาศัย

      คนที่มีวาสนาในทางที่ดีมาแล้ว แต่คบคนพาล วาสนาก็อาจเป็นคนพาลได้ บางคนวาสนายังอ่อน เมื่อคบบัณฑิต วาสนาก็เลื่อนขึ้นเป็นบัณฑิต
      ฉะนั้น บุคคลควรพยายามคบแต่บัณฑิต เพื่อเลื่อนภูมิวาสนาของตนให้สูงขึ้น


    • ผู้มีปัญญา ไม่ควรให้สิ่งที่ล่วงแล้วตามมา ไม่ควรหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
    • ผู้มีปัญญา ได้เห็นในธรรมซึ่งเป็นปัจจุบัน ควรเจริญความเห็นนั้นไว้เนืองๆ ควรรีบทำเสีย
    • ผู้มีปัญญา ซึ่งมีธรรมเป็นเครื่องอยู่ มีความเพียรแยกกิเลสให้หมดไป จะไม่เกียจคร้าน ขยันหมั่นเพียรทั้งกลางวันและกลางคืน

    * จิต เป็นสมบัติสำคัญมากในตัวเราที่ควรได้รับการเหลียวแล ด้วยวิธีเก็บรักษาให้ดี ควรสนใจรับผิดชอบต่อจิต อันเป็นสมบัติที่มีค่ายิ่งของตน วิธีที่ควรกับจิตโดยเฉพาะก็คือภาวนา ฝึกหัดภาวนาในโอกาสอันควร ตรวจดูจิตว่า มีอะไรบกพร่องและเสียไป จะได้ซ่อมสุขภาพจิต
    นั่งพินิจพิจารณาดูสังขารภายใน คือ ความคิดปรุงแต่งของจิตว่า คิดอะไรบ้าง มีสาระประโยชน์ไหม คิดแส่หาเรื่อง หาโทษ ขนทุกข์มาเผาตนอยู่นั้น พอรู้ผิด-ถูกของตัวบ้างไหม
    พิจารณาสังขารภายนอกว่า มีความเจริญขึ้นหรือเจริญลง สังขารมีอะไรใหม่หรือมีความเก่าแก่ชราหลุดไป พยายามเตรียมตัวเตรียมใจเสียแต่เวลาที่พอจะทำได้ ตายแล้วจะเสียการให้ท่องในใจอยู่เสมอว่า เรามีความแก่-เจ็บ-ตาย อยู่ประจำตัวทั่วหน้ากัน

    * ทาน-ศีล- ภาวนา ธรรมทั้ง 3 นี้ เป็นรากแก้วของความเป็นมนุษย์ และเป็นรากเหง้าของพระศาสนา ผู้เกิดมาเป็นมนุษย์ ต้องเป็นผู้เคยสั่งสมธรรมเหล่านี้มาอยู่ในนิสัย ของผู้จะมาสวมร่างเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ด้วยมนุษย์อย่างแท้จริง


     
  5. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    ขออนุญาตแชร์อีกหนึ่งบทนะครับ

    ของดีมีอยู่กับตัวเราทุกคน - ธรรมคำสอนหลวงมั่น ภูริทัตโต

    "ของ ดีมีอยู่กับตัวเราทุกคน ก็พากันปฏิบัติเอา ทำเอา เมื่อเวลาตายแล้วจึงวุ่นวายหานิมนต์พระมากุสลามาติกา ไม่ใช่เกาถูกที่คัน ต้องรีบแก้เสียบัดนี้ คือเร่งทำความดีแต่บัดนี้ จะได้หายห่วง อะไร ๆ ที่เป็นสมบัติของโลก มิใช้สมบัติอันแท้จริงของเรา ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล สมบัติในโลกเราแสวงหามา หากทุจริตก็เป็นไฟเผา เผาตัวทำให้ฉิบหายได้จริง ๆ

    ข้อ นี้ขึ้นอยู่กับความฉลาดและความโง่เขลาของผู้แสวงหาแต่ละราย ท่านผู้พ้นทุกข์ไปด้วยความอุตส่าห์สร้างความดีใส่ตนจนกลายเป็นสรณะของพวกเรา ท่านไม่เคยมีสมบัติเงินทองเครื่องหวงแหน เป็นคนร่ำรวยสวยงามเฉพาะสมัย จึงพากันรักพากันห่วงจนไม่รู้จักเป็น รู้จักตาย สำคัญตนว่าจะไม่ตายและพากันประมาทจนลืมตัว เพลิดเพลินตักตวงเอาแต่สิ่งไม่เป็นท่าใส่ตนแทบหาบไม่ไหว

    อย่าสำคัญ ว่าตนเอง เก่งกาจสามารถฉลาดรู้กว่าเขาเลย ถึงกับสร้างความมืดมิดปิดตาทับถมตัวเอง จนไม่มีวันสร่างซา เมื่อถึงเวลาจนตรอกอาจจนยิ่งกว่าสัตว์ ยังไม่เตรียมทราบไว้เสียแต่บัดนี้ ซึ่งอยู่ในฐานะอันควร

    อาตมาขออภัยด้วย ถ้าพูดหยาบคายไป แต่คำพูดที่สั่งสอนคนให้ละชั่ว ทำความดี จัดเป็นหยาบคายอยู่แล้ว โลกเราก็จะถึงคราวหมดสิ้นศาสนา เพราะไม่มีผู้ยอมรับความจริง

    การทำ บาปหยาบคายมีมาประจำแทบทุกคน ทั้งให้ผลเป็นทุกข์ ตนยังไม่อาจรู้ได้ และตำหนิมันบ้าง พอมีทางคิดแก้ไข แต่กลับตำหนิคำสั่งสอนหยาบคาย ก็นับเป็นโรคที่หมดหวัง

    เมื่อมีผู้เตือนสติ ควรยึดมาเป็นธรรมคำสอน จะเป็นคนมีขอบเขตมีเหตุผล ไม่ทำตามความอยาก เมื่อพยายามฝ่าฝืนให้เป็นไปตามทางของนักปราชญ์ได้จะประสบผลคือความสุขใน ปัจจุบันทันตา แม้จะมิได้เป็นเจ้าของเงินล้าน แต่มีทางได้รับความสุขจากสมบัติและความประพฤติดีของตน

    คนฉลาดปกครอง ตนให้มีความสุขและปลอดภัย ไม่จำต้องเที่ยวแสวงหาทรัพย์มากมาย หรือเที่ยวกอบโกยเงินเป็นล้าน ๆ มาเป็นเครื่องบำรุงจึงมีความสุข ผู้มีสมบัติพอประมาณในทางที่ชอบ มีความสุขมากกว่าผู้ได้มาในทางมิชอบเสียอีก เพราะนั่นไม่ใช่สมบัติของตนอย่างแท้จริง ทั้ง ๆ ที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ แต่กฎความจริง คือ กรรมสาปแช่งไม่เห็นด้วยและให้ผลเป็นทุกข์ไม่สิ้นสุด นักปราชญ์ท่านจึงกลัวกันหนักหนา

    แต่คนโง่อย่างพวกเราผู้ชอบสุกเอาเผากิน และชอบเห็นแก่ตัว ไม่มีวันอิ่มพอ ไม่ประสบผล คือความสุขดังใจหมาย

    คน หิวอยู่เป็นปกติสุขไม่ได้ จึงวิ่งหาโน่นหานี่ เจออะไรก็คว้าติดมือมาโดยไม่สำนึกว่าผิดหรือถูก ครั้นแล้วสิ่งที่คว้ามาก็มาเผาตัวเองให้ร้อนยิ่งกว่าไฟ คนที่หลงจึงต้องแสวงหาถ้าไม่หลงก็ไม่ต้องหา จะหาไปให้ลำบากทำไม อะไร ๆ ก็มีอยู่กับตัวเองอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว จะตื่นเงาตะครุบเงาไปทำไม เพราะรู้แล้วว่า เงาไม่ใช่ตัวจริง ตัวจริงคือสัจจะทั้งสี่ที่มีอยู่ภายในใจอย่างสมบูรณ์แล้ว

    ความมั่งมี ศรีสุขจะไม่บังเกิดแก่ผู้ทุจริต สร้างกรรมชั่วมีมากเท่าไรย่อมหมดไปพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายที่สร้างบาปกรรมไว้ผลกรรมนั้นย่อมตกอยู่กับลูกหลานรุ่นหลังให้มีอัน เป็นไป ผู้ทุจริตเบียดเบียน รังแกผู้อื่น จะหาความสุขความเจริญไม่ได้เลย"
     
  6. jirayarn

    jirayarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +4,290
    สาธุๆๆ กับบทความของ คุณ brosnan ที่นำธรรม หลวงปู่มา นำเสนอครับ:cool:
     
  7. suratept

    suratept เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +1,924
    ที่สุดก็เป็นเพราะ ความโลภะ และโมโหะ
    อยากให้ท่านอาจารย์แผ่เมตตา วัตถุมงคลที่คณะตนสร้าง
    โดยไม่คำนึงถึงปฏิปทาขององค์ท่าน และความเหมาะสม
    น่าจะพิจารณาตนเองได้บ้าง ว่าการอันใดควร อันใดไม่ควร
     
  8. amar

    amar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +606
    คุณได้พยายามแล้ว เป็นกำลังใจให้คับ อิอิ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=dy05mnQ45UI&feature=related]YouTube the oran project อย่าหยุดยั้ง - YouTube[/ame]
     
  9. จารุธัมโม

    จารุธัมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +262
    กระผมขอเนื้อที่ในกระทู้นี้พิมพ์ความคิดเห็นหน่อยนะครับ เท่าที่กระผมได้ทราบเรื่องการอธิษฐานจิตวัตถุมงคลนั้น ต้องมีการจัดพิธี จะเล็กหรือจะใหญ่ ก็สุดแต่จะทำ ผู้ที่คิดจะสร้างต้องมีจิตใจที่ใสบริสุทธิ์ สร้างเพื่อไม่หวังอะไร หวังเพียงแต่เอาไว้เป็นที่ระลึกนึกถึงครูบาอาจารย์ ผู้สร้างต้องถือศึลให้ครบ นุ่งขาวห่มขาว สื่อถึงความบริสุทธิ์ เวลาจะนำวัตถุมงคลไปให้ครูบอาจารย์อธิษฐานจิต ก็ต้องขออนุญาติท่านเสียก่อน หรือ ถามคุณโยมอุปัฏฐาก ก่อนก็ได้ หรือทำเป็นหนังสือไปก่อนก็ได้ (ต้องให้ครูบาอาจารย์ท่านรับรู้และอนุญาติเสียก่อน) ไม่ใช่นึกอยากจะไปก็ไป แบบนี้มันไม่ถูกต้อง นี่เป็นความคิดเห็นของผมน่ะ ส่วนท่านอื่นจะคิดอย่างไรก็ว่ากันไป "การทำวัตถุมงคลมาแจกน่ะดีครับเจตนาดี" แต่ควรจะทำให้ถูกต้อง และควรทำด้วยจิตใจบริสุทธิ์ ไม่ใช่ทำเพื่ออยากดัง หรือเพื่อชื่อเสียง หรืออยากยกระดับตัวเอง ให้เหนือกว่าคนอื่น แต่ควรจะทำด้วยความศรัทธา ถ้าคิดดีทำดีและมีจิตใจบริสุทธิ์ ผมรับรองว่า จะไม่ประสบเหตุการณ์ อะไรได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  10. หมอตี๋

    หมอตี๋ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +0
    มีสมการมาให้พิจารณาฮับ..ใครเก่ง ลองถอด ดูนะฮับ

    เจตนา + ความตั้งใจ + โกหก + หลอกลวง + วิธีการสกปรก = สุดยอดวัตถุมงคล ??

    ถ้าเป็นเว็บพระเครื่อง มาตรฐาน ที่อื่น เจอเรื่องแบบนี้เข้าบอกได้คำเดียวว่า Black-list แน่นอน โดนแบน ไปแล้ว แต่กับเว็บนี้ คณะผู้สร้างยังลอยหน้าลอยตา ท้าทายอย่างไม่สะท้าน สะเทือน แถมยังไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ ให้เหมาะสมกับผู้ที่ชื่อได้ว่าปัญญาชนซักนิดเลย

    เชื่อว่าอีกไม่นาน เรื่องราวเหล่านี้ก็จะจางหายไป พร้อมๆกับเรื่องราวอันน่าตื่นใจกับ การตระเวน เสกพระครั้งใหม่ อย่างแน่นอน เอาหัวหมอตี๋เป็นประกันจร้าา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  11. ธุลี-ดิน

    ธุลี-ดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2012
    โพสต์:
    12,650
    ค่าพลัง:
    +12,202
    สวัสดีครับ ผมอ่านกระทู้นี้มานานแล้วครับ ผมว่าเลิกตอบโต้กันเถอะครับ ใครทำอะไรก็ได้รับผลที่ทำเองครับ สมาชิกในเว๊ปพลังจิตมีความคิดเป็นของตนเองทุกคนครับ
     
  12. ปัญจ

    ปัญจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    27,244
    ค่าพลัง:
    +87,795
    เห็นด้วยกับหลายท่านว่า แต่ละฝ่ายได้เรียนรู้อะไรกันมากแล้ว "หยุด" แล้วจะเป็นสุข

    ส่วนท่านที่พยายามปรามาส "คน" ก็ลองละดู ก็จะเป็นสุขได้เช่นกัน

    แต่ที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งเลยคือปรามาส "พระแก้วมรกต" อย่าเห็นว่าเป็นเพียงวัตถุ แต่ให้เห็นว่าเป็นรูปแทนท่าน แม้จะไม่ปลุกเสกเลยสักครั้ง แม้จะไม่ได้บรรจุชนวนหรือมวลสารใดๆ ก็ยังไม่สมควรปรามาสว่าศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ศักดิ์สิทธิ์ อย่าให้เรื่องลามไปถึงท่านด้วยเลย พุทธศาสนิกชนด้วยกันทุกคน มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเหมือนกัน
     
  13. หมอตี๋

    หมอตี๋ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +0
    เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยฮับลุง คณะผู้สร้างสมควรหยุด พฤติกรรม เถื่อน แบบนี้

    ว่าแต่ว่า..ใครไปปรามาส องค์พระแก้วมรกต อ่ะฮับที่เขียนๆกันมาผมก็ไม่เห็นว่าจะมีใครพูดนะฮับ ลุงเพ้อเจ้อละ

    ผมจะบอกไรให้นะ ปัญหาจะไม่เกิดเลยฮับ ถ้าลุงจะเมตตาออกความเห็นตั้งแต่แรก ว่าไม่ต้องเอาไปเสกหรอกไอ้หนู ของมันดีอยู่แล้ว เห็นแต่เข้ามาบอกกันว่าเออดีๆ เสกเยอะๆ เลยไอ้หนู ทำไมไม่ห้ามตั้งแต่แรกล่ะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นเรื่องราวมันคงไม่มาไกล หลายร้อยหน้าขนาดนี้หรอกฮับลุงงงง แล้วลุงไปอยู่ไหนมาฮับ มาพูด แก้ตัว เอาป่านนี้ มันสายไปแล้วจร้า...ว่าแล้วต้องไม่เข้าใจ เอิ๊ก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  14. ธุลี-ดิน

    ธุลี-ดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2012
    โพสต์:
    12,650
    ค่าพลัง:
    +12,202
    ผมว่า หยุดโพสต่อว่าเจ้าของกระทู้หรือผู้สร้างได้แล้วครับ มันไม่มีประโยชน์อะไรครับ มันบอกถึงสติปัญญาคนที่มาต่อว่าครับ ในเมื่อผู้สร้างเขาออกมารับผิดชอบแล้วครับ
     
  15. ใต้สุด

    ใต้สุด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +2
    เชื่อเถอะครับว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง คนเราหนีไม่พ้นกรรมหรอกครับ คนทำดีต้องได้รับสิ่งที่ดีไม่วันใดก็วันหนึ่ง คนทำชั่วก็เช่นกันครับ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ
     
  16. ming-ching

    ming-ching Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +98
    โกรธแค้นกันมากเลยหรือครับ เอาไม่เลิกเลยรึ... ในเมื่อผู้สร้างเขาออกมารับผิดชอบแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  17. naron

    naron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    2,515
    ค่าพลัง:
    +3,573
    อนุโมทนาสาธุบุญด้วยกับทุกๆท่านทุกๆกองบุญกองกุศลครับผม สาธุ
     
  18. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    มอบบทเพลงให้ก็แล้วกันครับ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=3F1kddMD4jE]ปู พงษ์สิทธิ - อยู่อย่างสิงห์ - YouTube[/ame]
     
  19. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    ศรัทธา

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=a8AuCArVHMk]MV เพลง ศรัทธา - YouTube[/ame]
     
  20. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    นักสู้หัวใจสิงห์

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=mdma2-rCamY]MV เพลง นักสู้หัวใจสิงห์ - YouTube[/ame]

    เหนื่อยกายไม่เท่าไร แต่เหนื่อยใจสู้ไม่่ไหว ได้ฟังเพลงแบบนี้ก็ขอสู้ต่อไป เพื่อใคร ๆ หลาย ๆ คน(ที่ไม่ยอมเข้าใจ) ท้อ....แต่ไม่ถอย จะไปให้สุดทางที่เดิน


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=iKDBiMgWFIA&feature=related]ชัยชนะ - ป๊อด - YouTube[/ame]


    มอบให้อีกเพลงเป็นบทสรุป

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=IcQXbgN1TZg]MV แสงสุดท้าย OST. Top Secret วัยรุ่นพันล้าน - YouTube[/ame]
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...