ขอเชิญสนทนาธรรมครับ ท่านยมยักษ์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 16 มกราคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    มนุษย์ทำผิดกฏหมาย ต้องรับโทษตามที่กฏหมายบัญญัติ
    พระสงฆ์ทำผิดพระธรรมวินัย ต้องปลงอาบัติตามพระธรรมวินัยบัญญัติ

    หรือท่านจะบอกว่าเอาทรัพย์ของคนอื่นมาเป็นของตนแล้วบอกว่ามีความจำเป็นต้องใช้เดินทาง ไม่ผิดกฏหมายนะไม่ได้ขโมยมาแต่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเป็นค่าใช้จ่าย
     
  2. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    แถม
    1. รับเงินตามพระธรรมวินัยผิดไหม ตอบได้ว่าผิด
    2. แต่ต้องไม่ลืมว่าพระพุทธเจ้าเองบอกว่าอันไหนไม่เข้ายุคสมัยเราก็เปลี่ยนแปลงได้ตามที่เห็นสมควร
    3. กฏทุกอันย่อมมี ความยืดหยุ่น ทั้งนี้ดูเจตนา อย่างเรื่องกรรมเรามิได้มีเจตนาฆ่า มิถือว่าเป็นกรรม มิถือว่าผิดศีลข้อหนึ่ง ถ้ารับเพราะความโลภนี่ผิด ถ้ารับเพื่อประโยชน์ชนหมู่มากนี่ก็ไม่ผิด อย่างพระพุทธเจ้ายังรับเอาวัดมาเลย
    4.หลวงพ่อชาเองก็รับเงินนา จากที่ฝรั่งบริจาค งั้นท่านจักตั้งวัดที่อเมริกาได้อย่างไร?
    แต่ท่านมิได้ทำไปเพราะต้องการเงินหรอกนะ พวกต้องการสะสมนะมันมี แต่ท่านนี้ท่านรับเพราะท่านจักสร้างวัดขึ้นมา วัดพุทธไทยแห่งแรกในต่างแดน และด้วยเหตุนี้ฝรั่งก็เปลี่ยนมาเป็นพุทธเยอะมาก เช่น จอร์ห เคอฟิลล์ ท่านนี้กลายเป็นคุรุระดับโลกไปแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2012
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒ หน้าที่ ๒๕๑/๒๗๙ ข้อที่ ๖๒๑

    ท่านทั้งหลาย ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สิกขาบทของพวกเราที่ ปรากฏแก่คฤหัสถ์
    มีอยู่ แม้พวกคฤหัสถ์ก็รู้ว่า สิ่งนี้ควรแก่พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร สิ่งนี้ไม่ควร
    ถ้าพวกเราจักถอนสิกขาบทเล็กน้อย เสีย จักมีผู้กล่าวว่า พระสมณโคดมบัญญัติสิกขาบท
    แก่สาวกทั้งหลาย เป็นกาลชั่วคราว พระศาสดาของพระสมณะเหล่านี้ยังดำรงอยู่ตราบใด
    สาวกเหล่านี้ยังศึกษาในสิกขาบททั้งหลายตราบนั้น เพราะเหตุที่พระศาสดาของพระ
    สมณะเหล่านี้ปรินิพพานแล้ว พระสมณะเหล่านี้จึงไม่ศึกษาในสิกขาบททั้งหลายใน
    บัดนี้ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์ไม่พึงบัญญัติสิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติไม่พึง
    ถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว พึงสมาทานประพฤติ ในสิกขาบททั้งหลายตามที่
    ทรงบัญญัติแล้ว นี้เป็นญัตติ
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ปรับอาบัติทุกกฏแก่พระอานนท์

    พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒ หน้าที่ ๒๕๒/๒๗๙ ข้อที่ ๖๒๒
    [๖๒๒] ครั้งนั้น พระเถระทั้งหลายได้กล่าวกะท่านพระอานนท์ว่า ท่าน อานนท์ ข้อที่
    ท่านไม่ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า ก็สิกขาบท เหล่าไหน เป็นสิกขาบทเล็กน้อย
    นี่เป็นอาบัติทุกกฏแก่ท่าน ท่านจงแสดงอาบัติ ทุกกฏนั้น
    ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ท่านเจ้าข้า เพราะระลึกไม่ได้ ข้าพเจ้าจึงมิได้ ทูลถามพระผู้มี
    พระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า สิกขาบทเหล่าไหน เป็นสิกขาบท เล็กน้อย ข้าพเจ้าไม่เห็นเหตุที่
    ไม่ได้ทูลถามนั้นว่าเป็นอาบัติทุกกฏ แต่เพราะเชื่อ ท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้ายอมแสดงอาบัติทุกกฏนั้น
    พระเถระทั้งหลายกล่าวต่อไปว่า ท่านอานนท์ ข้อที่ท่านเหยียบผ้าวัสสิก สาฎกของพระ
    ผู้มีพระภาคเย็บ แม้นี้ก็เป็นอาบัติทุกกฏแก่ท่าน ท่านจงแสดงอาบัติ ทุกกฏนั้น
    ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าเหยียบผ้าวัสสิกสาฎกของ พระผู้มีพระภาค
    เย็บโดยมิได้เคารพก็หามิได้ ข้าพเจ้าไม่เห็นเหตุที่เหยียบนั้น ว่า เป็นอาบัติทุกกฏ แต่เพราะเชื่อ
    ท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้ายอมแสดงอาบัติทุกกฏนั้น
     
  5. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒ หน้าที่ ๒๕๑/๒๗๙ ข้อที่ ๖๒๑

    ท่านทั้งหลาย ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สิกขาบทของพวกเราที่ ปรากฏแก่คฤหัสถ์
    มีอยู่ แม้พวกคฤหัสถ์ก็รู้ว่า สิ่งนี้ควรแก่พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร สิ่งนี้ไม่ควร
    ถ้าพวกเราจักถอนสิกขาบทเล็กน้อย เสีย จักมีผู้กล่าวว่า พระสมณโคดมบัญญัติสิกขาบท
    แก่สาวกทั้งหลาย เป็นกาลชั่วคราว พระศาสดาของพระสมณะเหล่านี้ยังดำรงอยู่ตราบใด
    สาวกเหล่านี้ยังศึกษาในสิกขาบททั้งหลายตราบนั้น เพราะเหตุที่พระศาสดาของพระ
    สมณะเหล่านี้ปรินิพพานแล้ว พระสมณะเหล่านี้จึงไม่ศึกษาในสิกขาบททั้งหลายใน
    บัดนี้ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์ไม่พึงบัญญัติสิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติไม่พึง
    ถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว พึงสมาทานประพฤติ ในสิกขาบททั้งหลายตามที่
    ทรงบัญญัติแล้ว นี้เป็นญัตติ<!-- google_ad_section_end -->

    อันนี้เป็นความเห็นของสงฆ์กลุ่มใหญ่หลังจากที่พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว เขาปรึกษากันว่า จักแก้ตามที่ท่านพูดหรือไม่ ที่ประชุมเห็นว่าไม่ มิใช่พระพุทธเจ้าพูด แต่ก็มีบางกลุ่มเห็นว่าควร กลุ่มนี้ต่อมาเติบโตเป็นมหายาน และ มีจำนานมากกว่าเถรวาทเสียอีก
    ส่วนกลุ่มที่เป็นเถรวาทแม้จักพูดว่าเราจักไม่เปลี่ยนแปลง แต่เราจะเห็นว่าเมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มนี้ก็ยังคงมิอาจจะรักษาญัตตินี้ไว้ได้ นั้นคือในที่สุดก็แก้กัน เลยเกิดเถรวาทสำนักต่างๆ อย่างบ้านเราก็มีสองสำนักหลัก ไม่นับ สวนโมกข์ กลุ่มหลวงพ่อเทียน ธรรมกาย สันติอโศก กลุ่มภิกษุณี

    กรุณาอ่านที่มาของข้อความในพระไตรปิกฏก่อนจักพูดนะขอรับ จักเป็นประโยชน์ต่อท่านมากนะ มิใช่สักต่อท่อง แต่ก็อปปี้มา และถือเอาไม่สอบสวน แลสงสัย การทำเช่นนี้มิอาจจะเรียกว่าตัวเองเป็นชาวพุทธได้ที่ก็อปปี้มานะได้อ่านให้ดีแล้วไหมเอ๋ย มิใช่พุทธเจ้าสั่งว่าห้ามแก้นาข้อความนี้ ความหมายของเขาคือที่ประชุมสงฆ์เห็นพ้องต้องกันว่าให้คงพระธรรมวินัยไว้อย่างเดิม เหมือนสมัยที่พระศาสดายังมีชีวิตอยู่ ถ้าอ่านดีๆจักเข้าใจว่ามันเป็นเช่นนี้นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2012
  6. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผมยึดหลักฐานที่มีมาสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้วเป็นหลักฐาน มหายาน-เถรวาท พระพุทธเจ้าไม่รู้จักครับ
     
  7. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    555 อ่านก่อนนะขอรับ นี่ไม่ใช่พุทธวัจนะนะขอรับ นี่คือ ญัญติสงฆ์เรื่องพระธรรมวินัยว่าจะแก้หรือไม่แก้ ไม่ใช่ว่าเห็นว่าอยู่ในพระไตรปิกฏแล้วพุทธเจ้าตรัสหมด นี่บางอันก็เป็นบันทึกเรื่องราวทั่วๆๆ ไปของสังฆในยุคแรก บางอันก็เป็นคำสอนของสาวกองค์สำคัญ อันนี้มีมาตั้งแต่การสังคยานาพระไตรปิฎก ครั้งที่หนึ่งแสดงญัญติสงฆ์ว่า ไม่แก้ ไม่ใช่พุทธวัจนะ อย่าสับสนนะขอรับ มิมีอันใดเกี่ยวกับเถรวาทหรือมหายานเลย เพียงแต่จักบอกว่าเพราญัญตินี้แลเป็นมูลเหตุให้เกิดเถรวาทแลมหายาน อ่านก่อนสองสามรอบก่อนพูดนะขอรับ จะได้เข้าใจที่เขาสื่อสาร ด้วยความหวังดีครับ

    ลองดูคำสอนก่อนท่านจักนิพานสิ ท่านตรัสไว้ว่า เธอแก้ได้นะถ้าเห็นว่าไม่เหมาะกับยุคสมัยไอ้ที่ตถาคตบัญญติไว้นี่ เอาล่ะมีอะไรจะถามเราไหมเราจะไปแล้วนะ ส่วนใครจะสืบต่อเป็นพระศาสดาก็ขอให้เธอถือเอาพระธรรมก็แล้วกันนะ ถ้าไม่มีอะไรถามก็อย่าเสียใจไปเลยสังขารทั้งหลายนี่มันมีความเสื่อมไปเป็นธรรรมดา ขอเธอจงตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท และ จงเป็นแสงสว่างให้ตนเอง

    นี่แก่นของสูตรตอนนั้นมีดังนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2012
  8. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    อีกละเห็นไหม พอตอบไม่ได้ก็เป็น สะอย่างนี้ แล้วผมจะทำไงละทีนี้
    ขอตอบ พระต่างจังหวัดทำไง
     
  9. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    การที่อาบัติพระอานนท์
    ในขณะที่ท่านเป็นพระอรหันต์ พระอานนท์ท่านก็ยอมรับ
    เป็นการแสดงความศักดิ์สิทธิ์ในพระธรรมวินัย
    เพราะพระอรหันต์ท่านไม่มีคำว่าอาบัติแล้ว
    เพราะท่านปลดจากความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวง
    ข้อนี้ควรพิจรณา แต่ ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาและความยินดี
    หากบางอย่างเรายังธรรมมะกระดาษอยู่ไม่นานศาสนาก็เสื่อม
    เหลือแต่ตำรา อยากกินกับข้าวถูกใจต้องผัดเอง
    ท่านทั้งหลายตอน้ำตื้นจะไปติดมัทำไม
    เราก็ไม่ได้ไปไหนสักที ศาสนาพุทธคืออะไร
    ..........................

    แล้วสาระมันคืออะไรแล้วมันได้อะไร
    แล้วจะเสียเวลาทำไม
    นั้นไงตัวอัตตากู มานู้นๆแล้ว
    นี่รึที่เรียกสนทนาธรรม เมื่อไหรๆหนา
    ...........นะจ๊ะ นะจ๊ะ
     
  10. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    ทำไมน้องพี่เก่งจัง รู้แยะ วะยอมเด็กรุ่นใหม่จริง ๆ ยอมรับเลยรุ่นพี่เองผู้ใหญ่พาหลงอยู่นาน เป่าเสกเลขยันต์แขวนเต็มคอ พอตั้งใจจริงศึกษาที่แล้วมาโดนหลอกทั้งนั้น เสียเวลามาก
     
  11. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    ไม่มีใครหลอกไม่อาบัติ เชื่อสิ แค่เดินเหยีบบมดยัง อาบัติเลย ผมปรงตลอด บางทีเหยียบเราไม่รู้ไงว่าเหยียบไปตอนไหน
     
  12. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    ถ้าเขาไม่ได้เจตนา ไม่อาบัติครับการเหยียบมดนะ แต่ถ้าเจตนาจะฆ่านี่เรียกอาบัติ เหมือนดื่มเหล้าถ้าเจตนาดื่มเพื่อเมานี่อาบัติ ถ้าเพื่อประโยชน์ตนนี่ไม่ กรรมหมายถึงการกระทำบวกเจตนา เจตนาก็มีทั้งดีและร้าย ถ้าดีก็กุศล ถ้าร้ายก็อกุศล แต่อาบัติเขาก็ต่อได้ครับเพียงแต่การต่อก็คือการประจานตัวเองต่อที่ประชุมสงฆ์ว่าเราจะไม่ทำผิดอีก คือต้องให้สงฆ์หมู่มากมาเห็น ได้ยินตักเตือน คอยเตือนกัน เราจะเห็นได้ว่าเป็นชุมนุมของความรัก แต่เดี๋ยวนี้มันหายไปมาก และ ก็ไม่ใช่เราอาบัติแล้วเราเงียบๆๆ ทำพิธีต่อเองนี่มันไม่ใช่แบบนี้ครับ

    ถ้าอาบัตินี่มันอาบัติหมดอันนี้ก็จริงครับคนเรามันเผลอได้ แต่ถ้าเรากำหนดรู้ได้ ตั้งหมั้นว่าจะไม่ทำอีก มีคนคอยเตือน คอยสนับสนุน เราจะทำได้ดีขึ้น นี่คือความหมายแท้ๆๆ ของการปลงอาบัติ ไม่ใช่การประนาณพระว่าชั่ว ว่าไม่ดี แต่เป็นการช่วยกันตระหนักถึงปัญหา และ ช่วยกันแก้มากกว่า นี่พุทธเจ้าท่านต้องการบอกแบบนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2012
  13. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    ไม่ว่ารับ หรือ ไม่รับเขาวัดกันที่เจตนา พระแต่ละองค์
     
  14. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    ท่านยมยักษ์เคยได้ยินคำว่า"พรหม3หน้ามั้ยครับ? พรหม3หน้าหมายถึง บุคคลที่น่ารำคาญที่สุด น่ารังเกียจที่สุด น่าเบื่อหน่ายที่สุด น่าไกลห่างที่สุด ทำดีมีทุกข์ใจปน เป็นผู้จัดการชีวิตผู้อื่น เป็นเสือกชน ล่วงละเมิด จุ้นจ้าน วุ่นวายแส่ส่ายเรื่องผู้อื่น คนดีที่โลกเกลียดชัง เบื่อระอา และไม่ต้องการ คิดหวังว่าโลกนี้ต้องสมบูรณ์แบบ เป็นการให้เพื่อจะเอา เป็นผู้จะเอาจะเสพพฤติกรรมดีๆจากผู้อื่น ดูเผินๆเหมือนจะให้ผู้อื่นได้ดีหรือมีพฤติกรรมดีๆแต่ซ้อนลึก ตนเองก็เอาการเสพสิ่งดีนั้นตอบแทนให้สมใจตน ไม่ใช่การให้ที่บริสุทธิ์แท้ จิตที่คิดจะเอาจะเร่าร้อน ทุกข์ระทม

    ไม่รู้ความจริงตามความเป็นจริงว่า ใครจะได้รับอะไรเท่าไร เวลาใดก็ตาม เหตุปัจจัยของการกระทำ(กรรม)ของคนๆนั้นทำมา จะได้ดีมากไปกว่าที่ตนทำมาไม่ได้ (คนประเภทนี้มีให้เห็น)
     
  15. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ยังไงก็ไม่ตายครับ..
     
  16. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    ส่วน"พรหม4หน้า"นั้น เมื่อคบหามีความสบายใจ อบอุ่น สงบเย็น ผาสุก น่าเข้าใกล้ น่าระลึกถึง ทำดี ไม่มีทุกข์ใจ เป็นที่ปรึกษาคอยช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น เป็นสุภาพชน ไม่ล่วงละเมิด ไม่จุ้นจ้าน ไม่สอดส่าย(เื-ือก) ไม่ผลักดัน แต่ให้อิสระเสรี ให้เสรีภาพกับผู้อื่นในการคิด พูด ทำตามความเห็นของเขา เขาจะดี จะชั่ว มันเป็นสิทธิเสรีภาพของเขา แต่เรามีหน้าที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เหมาะสมดีงามด้วยความเต็มใจสมัครใจของเขา ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อยากให้เกิดสิ่งถูกต้องเหมาะสม ดีงาม แต่ไม่ทุกขืกาย ไม่ทุกข์ใจ คนดีที่โลกรัก รอ และต้องการ..
     
  17. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    ผมรู้นะว่าคุณเจออะไรมา แต่ทำไงได้เขากระทำเราไปแล้วอดีตไงเรากลับไปแก้ไม่ได้ แต่โอกาศตอนนี้เวลานี้ได้ให้มีสุขยังไง ผมก็ให้กำลังใจคนที่โดนเมฆปิดบังฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอยิ้มสิ สบายจะตาย วู้แว วู้เว่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2012
  18. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,670
    พรหมหน้่าสุดท้ายนี้น่ารักนะครับ มีแต่ความดีให้อิสระ แล้วยังคอยระแวดระวังให้อีก

    เอาอีกแล้วส่งออกอีกแล้ว เดียวเขาก็ว่าหรอก (สอนตัวเองนะครับคงไม่จุ้นจ้านเกินไปนะครับ)
     
  19. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    รับเองกับให้ลูกศิษย์ฆราวาสรับแทนมันก็ไม่ต่างกัน แค่เลี่ยงบาลี
    มันอยู่ที่เจตนาว่ารับเงินมาเพื่ออะไร
    วัดยังต้องเสียค่าน้ำ-ค่าไฟเลย

    ถ้าไปอยู่ตามป่า ตามเขา ตามถ้ำคงทำได้ตามอักษรเป๊ะๆ
    และถ้าเป็นอย่างนั้นหมด ใครจะมาเผยแผ่ สั่งสอนธรรม

    ลองไปบวชสักปีสิ อย่ามัวแต่นึกเอา

    ค่าเวปไซด์ ค่าโดเมน ค่ากล้องเอามาถ่ายลงยูทูป เอามาจากไหนละ
    ลูกศิษย์ถวาย ถวายให้ใครละ? เพื่อกิจของใคร?
    ต้องใช้เงินไหม? ก็แค่ไม่ได้เอามือจับเงินเอง?
    เลี่ยงบาลี แต่ชอบอ้างบาลี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2012
  20. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    อิอิ
    ตามอ่านมา สอง หน้า แล้ว ก็ อ่าน ผ่าน ๆ

    ทั้ง สอง ท่าน จะ งัด กัน ให้ มัน ได้ อะ ไร

    ท่าน ยม เจตนาดี
    ท่าน อุรุก็ เจตนาดี แต่ เรื่อง ไม่ดีคนเห็นกันได้ง่ายกว่า จำกันได้ง่ายกว่า บอกต่อกันได้เร็วกว่า แค่รู้ว่า เขาไม่ได้มาบวชเพื่อหลุดพ้นท่านจะทำใจได้ ถึงแม้จะไม่มีคนโกนหัวห่มเหลืองอยู่แล้ว แต่ถ้ามีคนปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอยู่ ดำเนินอยู่ในมรรคมีองค์แปดประการอยู่ แก่นของศาสนาก็จะยังคงไม่สูญหายไป แต่ถ้า ถึงจะมีคนบวชเรียนกันครึ่งโลก แต่ไม่มีผู้ที่หวังหลุดพ้น กริยางามพร้อม แต่เพื่อหวังเอาหน้า ไม่มีผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยได้หมดจด เมื่อนั้นหลักคำสอนจะค่อยๆจางหายไป ตามกฏธรรมชาติ ผู้ใดก็ไม่สามารถทัดทานได้ เพราะมันเป็นของมันอย่างนั้นเอง ตามเหตุ

    ถ้าท่านมองโลกอย่างที่มันเป็นท่านจะไม่ร้อนกันอย่างนี้

    พระ สมัย นี้ คือ อะไร

    การ บวช สมัย นี้ บวช เพื่อ อะ ไร

    จุดมุ่งหมายมันแตกต่างกันไปหมดแล้ว

    พระวินัยบัญัติมา ใครทำตามนี้ ก็สามารถบรรลุได้ผลแน่นอน
    เป็นเกณฑ์ควบคุมใจตนไม่ให้ทำในสิ่งไม่เกิดประโยชน์ หรือเกิดโทษแก่ตน

    มีสักกี่หน่อ ที่บวชเพราะไม่อยากเกิดแล้ว น่าจะนับหัวได้

    ถ้าจุดมุ่งหมายในการออกบวชของใครผู้นั้นเพื่อพ้นทุกข์ เขาก็จะไม่นำทุกข์มาใกล้ตัว มีแต่จะเห็นโทษภัย ในวัฏฏะ

    แต่ถ้ามุ่งบวชเพื่อหวังให้พ่อแม่สบายใจ หรือมุ่งหวังเพื่อเหตุผลใด เขาผู้นั้นก็จะปฏิบัติไปในแนวทางนั้น

    ไม่มีกฏบังคับกันในสมัยนี้ว่า ใครจะมาบวชแล้วต้องมุ่งปฏิบัติเพื่อให้บรรลุผล ถ้าไม่ปฏิบัติก็จะถูกดำเนินคดี

    แต่ที่มาบวชกันเพราะเป็นประเพณีนิยม หรือ ทำตามๆกันไปซะมากกว่า

    มีอยู่ไม่เท่าไหร่หรอกที่จะเข้าใจ ว่า บวช ทำ ไม จุด ประสงค์ ของ การ ออก บวช เพื่อ อะ ไร

    ถ้าจำกัดว่าเป็นพระต้องทำดีพร้อม คงจะไม่ค่อยเห็นบุตรหลานเข้ามาบวชพระกันเป็นแน่ แล้วพระสงฆ์ก็จะค่อยๆลดจำนวนลงเป็นแน่ เพราะจะมีสักกี่คนที่จะอยากหลุดพ้น มิต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอีกต่อไป จริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...