ที่สุดแห่งทุกข์คืออะไรครับ ผมไม่แน่ใจว่าแบบที่ผมคิดเปล่า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 8 มกราคม 2012.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมอ่านมาว่า ที่สุดแห่งทุกข์ คือนิพพาน ผมก็งง ที่สุดแห่งทุกข์ จะนิพพานเหรอ นิพพานน่าจะเป็นที่สุดแห่งสุข

    บอกทีครับ งง
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ก็แบบที่คุณคิดนั้นแหละ ถูกแล้ว

    แต่.....

    ถ้ามันยังเป็นเพียงแค่ "ความคิด" ไม่มีใครเขาเอา สิ่งนี้ไปอ้างว่า
    เป็นข้อเท็จจริงภายในตนนะ

    เพราะว่า


    สาวๆ เนี่ยะ เขาก็คิดว่า เขาเป็นนามงามจักวาล แต่ "ความเป็นจริง"
    กับ "ความคิด" นี้มันคนละเรื่องกัน

    กลับมาทางธรรม ก็คือ "รู้เห็นตามความเป็นจริง" กับ "ความคิด" นี้
    มันคนละตัวกัน คนที่หมั่นสดับธรรมะทั่วไป จะทราบเรื่องนี้

    ไม่เอา "ความคิด" มาปะปน หรือ ยกว่านี้คือควาจริง หรือ นี้คือ การรู้ หรือ
    นี้คือ การตรัสรู้

    จะต้อง ลงมือปฏิบัติให้ รู้ชัดว่ารู้ รู้แจ้งว่ารู้ชัด เห็นชัดว่ารู้แจ้งรู้ชัด 3 อาการ
    เป็นอย่างต่ำในการ "รู้""แจ้ง""เห็น""จริง"

    * * * *

    แล้วสมมติว่า อยากถามว่า แล้วตอนนี้ อันนี้มันคืออะไร

    ก็เป็น ศรัทธาอินทรีย์มันก่อตัวขึ้น หากศรัทธาอินทรีย์ก่อตัวถูกต้อง มันจะ
    รู้สึกเหมือนกราบพระบาทด้วย น้อมนำคำสอนใส่เกล้าด้วย แต่ ตรงนี้ยังไม่
    ถือว่าเข้าถึง เพราะ มันอาจจะยังกลับกรอกอยู่ เช่นพอไปเจอ มะนาว
    หรือ ศาสดาอื่น ก็ไปรับคำสอนเขามาอีก อะไรเงี้ยะ เขาเรียกว่า จลศรัทธา

    คือ มีศรัทธาก็จริง แต่ ยังปลิ้นไปปลิ้นมา

    * * **

    แล้วถ้า จะทำยังไงไม่ให้ปลิ้น ก็ง่ายนิดเดียว ก็หมั่นปรารภ หมั่นคิดไป
    แบบนั้นแหละ แต่อาศัย ดูสภาวะ "งง" ที่มันจะเกิด ดูตัวนี้เนืองๆ จนกว่า
    "งง" มันจะสิ้นไปจากจิต ไม่ขยับหลอก ไม่เกิดการกดทับ ไม่เกิดการสะบัด
    หน้า ไม่เกิดการต่อว่าตน ก็จะถือว่า "งง" มันสิ้นไปจากจิต ก็จะทำให้
    ความคิดว่า ที่สุดแห่งทุกข์คือนิพพาน มันเป็น ศรัทธาได้แจ่มใสขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2012
  3. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ที่สุดแห่งทุกข์ ไม่ใช่ นรกเหรอครับ ที่สุดแห่งสุขน่าจะนิพพาน ผมยัง งงอยู่เลย
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    สุข กับ ทุกข์ ที่เป็นเชิง comfort กับ suffer นั่นมันเป็น ภาษาไทย
    ที่ใช้ในเชิง ภาษาไทย

    ในภาษาธรรมนั้น สุข แบบ comfort นั้น ท่านชี้ให้เห็นว่า มันชั่วคราว

    เพราะความ สุขชั่วคราว มันจึงมี สภาพ ทุกข์

    ดังนั้น สุขแบบโลกๆ นั้น ภาษาธรรมเรียกว่า มีสภาพทุกข์

    ก็จะเห็นว่า สุข ทุกข์ ในนิยามแบบโลกๆนั้น ล้วนแต่เป็น ทุกข์

    สุข ในทางธรรมจึงไม่มี ถึงมี ก็พูดเพียงเพื่อให้ อาศัยพักจิต
    แต่ไม่ให้อยู่แบบยึดไว้ เช่น ฌาณ ท่านให้ทำเพื่อพักจิต แต่ไม่
    ให้ยึดเอาแค่ตรงนั้น ดังนั้น ฌาณ ท่านก็จะสอนให้เห็นว่ามัน
    ก็ชั่วคราว ฌาณโลกีย์นั่นเอง ก็จะเห็นว่า ท่านก็ชี้มาที่ทุกข์อีก

    สรุป ทางศาสนา ท่านมีแต่ ชี้ทุกข์

    แล้วให้ กำหนดรู้ (ทุกขสัจจ) เสียทั้งหมด

    ที่สุดของการ กำหนดรู้(ทุกขสัจจ)ในทุกๆสรรพสิ่ง จะเข้าถึงความเป็นที่สุดได้

    อย่าคิดว่าจะไม่มีที่สุด อย่าไปคิดเอาเองว่า งานการศึกษาจะไม่จบ งาน
    ทางธรรม การศึกษาทางธรรมนั้น มีวันจบ มีที่สุด ( เข้าใจคำว่าที่สุด ตรง
    นี้ไหม เขาหมายถึง บั้นปลาย ไม่ได้แปลว่า ที่สุดของที่สุดของแจ้ ไม่ใช่
    เรื่อง กูแน่ กูหนึ่ง กูSuper กูSuprem )
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    คุณ บอล ต้องมีหลักการแม่นๆ เวลาเจอ ศัพท์ ธรรมะ

    ต้อง วางมุมการแปลภาษาเหล่านั้นให้เป็น ภาษาปฏิบัติ ให้เป็นคำศัพท์เชิงกริยา หรือ มรรค

    อย่าไปแปลเป็น ภาษาเชิง คุณสมบัติ หรือ ผล

    เนี่ยะ ถ้าทำการศึกษาศัพท์ธรรมะ ให้ลงเป็น มรรควิธี การปฏิบัติไว้ จะศึกษาไม่พลาด
     
  6. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    เว้ากันซื่อๆ

    คำว่าที่สุดทุกข์ ทำที่สุดทุกข์ สิ้นสุดทุกข์??
    ถ้าเห็นว่าทุกข์คือการเกิด ทำที่สุึดทุกข์คืออะไรละ ..ทำให้ไม่เกิดหรือป่าว

    นิพพานเป็นสุขหรือ ?? พระท่านว่านิพพานคือนิพพาน

    อะไรเป็นสุข ??

    พระพุทธองค์ตรัสว่า สุขใดเสมอด้วยความสงบไม่มี

    แล้วอย่างไรถึงสงบ เกิดมาเนี่ย สงบใหม ??
    ทำสมาธิสงบใหมสงบหรือสงบแค่ชั่วคราว??
    เกิดเป็นพรหมสงบใหม หรือสงบแค่ชั่วคราว ??

    ไม่เกิดสงบใหม ??
     
  7. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,456
    แล้ว นิพพานัง ปรมังสุขัง ล่ะ
    หมายความว่ายังไง
     
  8. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    ก็เอามารวมกันมั๊ง ไม่ได้สนใจนัก:cool:
     
  9. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,814
    ค่าพลัง:
    +15,099
    ขอตอบบ้างแล้วกันนะ !
    ที่สุดแห่งทุกข์สำหรับเรา คือดวงจิตที่เป็นอิสระ
    ไม่ถูกความทุกข์ หรือความสุข ครอบงำจิตได้อีกเลย ตลอดไป.
     
  10. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ที่สุดแห่งทุกข์ = จุดจบ/จุดสิ้นสุดของทุกข์ ไม่ใช่ทุกข์ที่สุดนะครับ

    จริงๆ ตามหลักภาษาแปลแบบที่คุณเข้าใจก็คงได้

    ดังนั้นเวลาอ่านพระไตรปิฎก ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน ควรดูอรรถกถาและพจนานุกรมพุทธศาสนาเพิ่มเติมเพราะมีศัพท์เฉพาะอยู่เยอะ และแม้เป็นคำเดียวกันแต่ก็มีความหมายกันคนล่ะเรื่องเลยกับความหมายที่คนทั่วๆไปเขาใช้กันอยู่

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  11. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +356
    เอามาฝากให้เจ้าของกระทู้จ๊าาาาาาาาา


    ในกรณีที่ จิตใจฝุ้งซ่าน คิด นั่นนู้น นี่ ไปเรื่อยไม่หยุด ไม่หย่อน มีมานะเป็นกําลังมาคอยเสริม องค์ สงสัย ให้เคลื่อนที่ตลอด ยี่สิบห้า ชั่วโมง

    เขาว่าให้เเก้โดยการ ฝึก เนสัชชิก

    การฝึกเนสัชชิก คือฝึกอดนอน หลักการคือการห้ามในอิริยาบถนอน หลังแตะพื้นนิดหนึ่งก็ไม่ได้ ถือว่าขาดอธิษฐาน ต้องเริ่มตั้งต้นใหม่


    อิริยาบถมี ๔ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน
    เมื่อห้ามอิริยาบถนอนเสียแล้ว ก็ให้ทรงอยู่ในอิริยาบถ ๓ แค่นั้นคือ ยืน เดิน นั่ง


    ก่อนจะฝึกต้องมีเวลาว่างเพียงพอ เช่นหยุดงานติดต่อกันหลาย ๆ วัน อย่างน้อยสัก ๑๐ วัน,


    การทรงตัวต่อสู้ในเวลาที่เกิดอาการง่วงมาก ๆ เช่นตอนตีหนึ่งตีสองของแต่ละคืน หรือเวลาพักผ่อน อย่างน้อยต้องทรงตัวอยู่ในอิริยาบถนั่งให้ได้ อย่างสูงคือนั่งสมาธิเป็นหัวตอไปเลย อย่างกลางคือพิงข้างฝาหรือพิงเสาหลับได้ (แต่จะไม่หลับจริงหรอกมันจะมีอะไรรู้ ๆ อยู่)


    อย่างอ่อนคือ นั่งติดกับเสาหรืออะไรแล้วเอาเชือกมัดอกผูกติดไว้อย่าให้ร่างกายล้มลงถึง พื้นเป็นท่านอนไป หลับก็หลับได้ไม่เป็นไร ไม่ถือว่าขาดองค์ของเนสัชชิก (แต่ยังไง ๆ มันก็ไม่หลับได้จริง มีอะไรรู้ ๆ ทรงตัวอยู่ตามธรรมชาติ)


    ก่อนฝึกให้สร้างความมั่นใจก่อนด้วยการทดลองสักแค่ข้ามวันข้ามคืน แค่คืนเดียวก่อน ข้ามวันข้ามคืนแค่คืนเดียวหมายถึงทรงเนสัชชิกอยู่ประมาณ ๓๖ ชั่วโมงติดต่อกัน สองกลางวันหนึ่งกลางคืน จะนอนได้เมื่ออาทิตย์ตกดินของวันถัดไป (สมมุติเริ่มเช้าวันนี้ ผ่านไปทั้งวัน ผ่านกลางคืนทั้งคืน ผ่านกลางวันพรุ่งนี้อีกหนึ่งกลางวัน) ทำได้อย่างนี้ถือว่าถือได้ครบหนึ่งวันหนึ่งคืน แต่ถ้าอธิษฐานติดต่อกันหลายวันเช่น ๗ วัน ๑๐ วัน อะไรก็ตาม ก็จะนอนได้ต้องดวงอาทิตย์ตกดินของวันหลังวันสุดท้าย เช่น ของวันที่ ๘ (อธิษฐาน ๗วัน) หรือวันที่ ๑๑ (อธิษฐาน ๑๐ วัน)



    ข้อสำคัญต้องเตรียมใจให้แข็งแกร่ง เป็นไรเป็นกัน อย่างไรต้องทำให้ได้ ล้มเลิกไม่ได้ ไม่งั้นจะเสียความมั่นใจในตนเอง แย่เลย, ...ในแง่ร่างกายหรือสมอง ไม่มีอันตรายอะไร ไม่ต้องกลัว ซึ่งถ้าคนใจอ่อนอาจจะถอย เพราะทำไประยะหนึ่งจะมีอาการมึนงง ง่วงซึม หรือในร่างกายมีอาการเหมือนมีมด หรือนอนเป็นล้าน ๆ ตัวชอนไชอยู่ทั่วร่าง ไม่ต้องสนใจ ไม่มีอันตรายสู้ไปเรื่อยจนถึงจุดหมาย


    เวลาเริ่มต่อสู้เริ่มฝึกวันแรก กิเลสจะเล่นงานผู้ฝึกอย่างหนักเลย ทั้ง ๆ ที่บางคนก่อนหน้านั้นอดนอนเก่ง
    เช่น บางคนเล่นไพ่ติดต่อกันสองวันสามคืน ตีสนุ๊กเดินรอบโต๊ะติดต่อกันสองสามวัน ดูฟุตบอลหรือรายการอะไร หรือดูหนังยาวได้ข้ามวันข้ามคืนได้ แต่พอมาเริ่มฝึกเนสัชชิก ปราก็ว่าวันแรกพอเริ่มแค่สามสี่ทุ่มก็ง่วงสุดขีดเสียแล้ว โดนเฉพาะตอนตีหนึ่งตีสองจะง่วงมากแทบไปแทบอยู่บางคนสู้ไม่ไหว ล้มลงหมอน ครอกไปเลย ถ้าผ่านได้ จะเจออีกช่วงหลังอาหารเที่ยง ช่วงบ่าย ๆ ... ครานี้ถ้าผ่านไปได้ถึงวันที่ ๔ (บางคนอาจจะมากหรือน้อยกว่านั้น) จะเจอกับปู่ทวดของความง่วงมาเยือน คืนนั้นจะคล้าย ๆ กับความมืดและความง่วงทั้งโลกจะมารุมเราคนเดียวทับท่วมมามืดสนิทมาเต็มท้อง ฟ้าเต็มโลก



    ความรู้สึกคืออยากจะนอนลูกเดียว ไม่สนใจเรื่องอื่น จะเป็นจะตายอะไรก็ไม่สนใจ ขอแต่ได้นอนก็พอ ใครจะมายกบัลลังก์ให้ครองยกแผ่นดินให้ครองก็ไม่เอา จะขอนอนลูกเดียว ตอนนี้ต้องต่อสู้ด้วยความเด็ดขาดจะพ่ายแพ้ไม่ได้ หมอบไม่ได้ เป็นไรเป็นกัน บางทีตอนที่หักดิบกันซึ่งหน้านี่แหละจะได้ของดีเลย คือจิตอาจจะรวมลงเต็มที่ แจ๋วแหววไปเลย ถ้าได้ก็หมดง่วงไปเลย จะกลับมีความเชื่อมั่นอย่างใหม่ขึ้นมาว่าจะสามารถอยู่แบบนี้ไปได้ตลอดชีวิต เลย ไม่ต้องนอนกันอีกชาตินี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร, ตอนง่วงเต็มที่นี้พยายามทำแยบคายดี ๆ



    คือเอาสติใส่เข้าไปให้ถูกจังหวะ จะเห็นคล้าย ๆ เอาไม้ขีดก้านเดียวจุดแล้วโยนลงในทะเลน้ำมันเบ็นซินชั้นดีอย่างไรอย่างนั้น ดวงดำ ๆ มืด ๆ เต็มโลกจะแปรสภาพเป็นดวงอาทิตย์เที่ยงวันไปเลย มหัศจรรย์มาก คนที่มีจิตฟุ้งซ่านมาก ๆ ฝึกจิตยาก ควรจะมาฝึกเนสัชชิกนี้แหละ แก้กันได้ชงัดเลย
     
  12. มนุสสเทโว

    มนุสสเทโว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +30
    ที่สุดแห่งทุกข์ = จุดที่ทำให้เกิดทุกข์=เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์


    เพราะเมื่อเราหาสมุทัยของทุกข์ไปเรื่อยๆ จนถึงที่สุดแล้ว ก็จะเจอ จุดเกิดทุกข์อันแรก เมื่อรู้จุดเกิดของทุกข์อันแรก
    ก็จะดับเหตุทุกข์อันที่เป็นตัวแรกเลย ก็คือ การที่จะไม่ต้องมีเกิดต่อไป เพราะ การเกิดเป็นทุกข์

    ไม่เกิดอีกแล้ว ก็คือ นิพพาน
     
  13. ไม่ใช่ใคร

    ไม่ใช่ใคร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +21
    นิพพานคือสุขอย่างยิ่ง อันนี้ เอาไว้สอนชาวโลก ที่คิดว่า โลกนี้เต็มไปด้วยความสุข

    นิพพานเป็นที่สุดแห่งทุกข์ อันนี้ คือ อริยสัจ ที่สอนในหมู่สงฆ์

    พระพุทธเจ้าทรงประกาศว่า โลกนี้เต็มไปด้วยความทุกข์

    ที่ปุถุชน คิดว่า มีสุข จริงๆแล้ว แค่มีทุกข์น้อยลง

    นิพพานจึงเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ด้วยประการ ละ ฉะนี้
     
  14. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    นิพพานสูตรที่ ๑


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อายตนะนั้น มีอยู่

    ดิน น้ำ ไฟ ลม
    อากาสานัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ
    โลกนี้ โลกหน้า พระจันทร์และพระอาทิตย์ทั้งสอง

    ย่อมไม่มี ในอายตนะนั้น

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่กล่าวซึ่ง อายตนะนั้น ว่า
    เป็นการมา เป็นการไป เป็นการตั้งอยู่ เป็นการจุติ เป็นการอุปบัติ
    อายตนะนั้นหาที่ตั้งอาศัยมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้

    นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ

    (smile) พระนิพพานคือที่สุดแห่งทุกข์
     
  15. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    นิพพานสูตรที่ ๔

    ความหวั่นไหวย่อมมีแก่บุคคลผู้อันตัณหาและทิฐิอาศัย
    ย่อมไม่มีแก่ผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัย

    เมื่อความหวั่นไหวไม่มี ก็ย่อมมีปัสสัทธิ
    เมื่อมีปัสสัทธิ ก็ย่อมไม่มีความยินดี
    เมื่อไม่มีความยินดี ก็ย่อมไม่มีการมาการไป
    เมื่อไม่มีการมาการไป ก็ไม่มีการจุติและอุปบัติ
    เมื่อไม่มีการจุติและอุปบัติ โลกนี้โลกหน้าก็ไม่มี ระหว่างโลกทั้งสองก็ไม่มี

    นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...