เหตุที่ผมออกจากวัดพระธรรมกาย เพราะ...

ผมชอบคำคม บทหนึ่งที่ติดอยู่ที่บริษัทหนึ่งแถวบางนาเขาบอกว่า
"คุณไม่ต้องเห้นบันไดทั้งหมดเพียงแค่คุณมีศรัทธาที่จะขึ้นบันไดขั้นแรกความสำเร็จก็ไกลเข้ามาแล้ว"

 

นี่เห็นเองหรือฟังเขามาอีกทีครับ
ถ้าฟังเขามาผมว่าอย่าขยายความดีกว่าได้หน้าไม่คุ้มเสีย

 

ศาสนาพุทธ ศรัทธา ต้องประกอบด้วยปัญญา จึงเรียกว่าศรัทธา มิฉะนั้นจะเป็นเพียงแค่ "ความเชื่อ"

บันใดขั้นแรก บันใดแห่งความบริสุทธิ์ถูกต้องตามพระธรรมวินัยและหลักวิชชา ไม่สัทธรรมปฏิรูป ไม่นอกครู

ครูบาอาจารย์ยุคต้นวิชชาระดับหัวหน้า และพระระดับรับภาระคุมวิชชาแทนหลวงปู่ ยังมีชีวิตอยู่สามท่านได้แก่

พระราชพรหมเถร รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฝ่ายวิปัสสนาธุระ ผู้รวบรวมตำรามรรคผลพิสดารจากคำสอนหลวงปู่สดวัดปากน้ำ

คุณยายตรีธา เนียมขำ นายกสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ

คุณยายฉลวย สมบัติสุข หัวหน้าเวรทำวิชชา ผู้ร่วมแต่งตำราคู่มือสมภาร ตามคำสั่งหลวงปู่สดสอนและตรวจสอบไว้

(และได้สอบถามทั้งสามท่านแล้ว มีไล์เสียงยืนยัน ไม่มีชื่อคุณยายจันทร์ ขนนกยูง เป็นระดับหัวหน้าเวร คงเป็นแต่เพียงรักษาการหัวหน้าเวรชั่วคราว เพื่อรอการมาบวชรับหน้าที่หัวหน้าเวรของแม่ชีถนอม อาสไวย์ ที่มาภายหลัง)

นี่คือเรื่องจริง ของจริง บุคคลจริง ผู้ใกล้ชิด ถึงพร้อมในคุณสมบัติ ที่นำมาให้ท่านได้รับรู้ ไม่มีการโปรโมท ไม่มีการพูดเอาเอง และไม่ต้องอ้างอิงคำพูดของบุคคลผู้คุณสมบัติไม่พร้อมมาเสริม

นี่คือบันใดที่บริสุทธิ์ถูกต้อง ที่รอผู้มีบุญเข้ามาสิกขาให้ถูกต้อง ไม่เสียเวลาออกนอกทางอีกต่อไป

 

ผมนึกถึงวัดที่ราชบุรีแล้วภาพของท่านเจ้าอาวาสใช้ตรีศูลแกว่งลงในขันน้ำทำน้ำมนต์แล้ว มันหมดครับ กับพระของขวัญที่ฝังเหล็กไหลอีก ผ้ายันต์อีก
ไม่ได้ว่าไม่ศักสิทธฺ์ครับ ของมีอานุภาพมาก แต่มันหมดใจครับ ศรัทธาหมดไปจากใจ

 

หลวงพ่อพระเทพญาณมงคลเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสด ท่านทำงานเป็นแก่นสารเนื้อๆให้วิชชาธรรมกายมาตั้งแต่ก่อน พ.ศ. 2517 หลักธรรมวิจัย และการเผยแผ่ต่อวิชชาที่มีประสิทธิภาพล้วนๆมาตลอด และเป็นผู้ที่ทำให้วิชชาธรรมกายยังดำรงอยู่ได้ในประเทศไทยโดยเฉพาะเป็นที่ยอมรับของนักวิชาการและนักปฏิบัติ

ส่วนบางวัดเอาแต่หาเงินมาสร้างความยิ่งใหญ่ ลากเอาวิชชาเข้าไปให้คนเขาด่าเอา ดังกรณีธรรมกายเป็นต้น ต้องให้ฝ่ายของจริงเขาตามล้างตามเช็ดอยู่นั่น

กิจหลักควรเผยแผ่พระธรรมวินัยและหลักวิชชาที่บริสุทธิ์ถูกต้องมีประสิทธิภาพ มิใช่เอาแต่หาเงิน เก่งจริงไม่ต้องหามากหรอก สมบัติมาเอง หลวงปู่วัดปากน้ำสอนไว้ ไปอ่านเทศน์ได้เลย ไม่ต้องไปหว่านล้อมระดมทุนตั้งเป้าตั้งยอดตบทรัพย์ชาวบ้านหรอก


ส่วนเรื่องทำน้ำมนต์ และตรีศูล และผ้ายันต์ คนรู้น้อยจะเอาอะไรมาตัดสิน เป็นเรื่องของอิทธิวิธี เป็นเพียงเรื่องเสริมๆ จะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ ของจริงทำได้จริงไม่มีแอบอ้าง นี่เป็นเรื่องของความแตกฉาน

และท่านก็บอกอยู่เสมอว่า อิทธิวิธีเหล่านี้ หยาบกว่าสมาธิมากนัก แค่เสริมฤทธิ์ในส่วนโลกิยะเท่านั้น เวลาทำต้องมีเหตุ มิใช่ทำไปส่งๆเดชๆ หาความเหมาะสมมิได้ เช่น เสริมโลกิยะฤทธิ์ในการสร้างพระของขวัญ

การทำน้ำพระพุทธปริตตาม "รัตนะสูตร" เป็นพุทธคุณ ทำในโอกาศที่เหมาะสม ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพียงแต่ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่าควรวางท่าทีเช่นไร มากน้อย เหมาะสม เพียงไร

เหล็กไหลก็คือ กายสิทธิ์ ชนิดหนึ่ง ทำไมหรือ มีปัญหาอะไร จะอวดรู้อะไรหรือ ?

มีเหล็กไหลดำ ก็มีเหล็กไหลขาวเงินยวงแก้กัน มีนิลดำ ก็มีจุยเจียใสแก้กัน ทำไมหรือ มีปัญหาอะไรหล่ะ ?

ตรีศูลเหล็กไหลเงินยวงเป็นกายสิทธิ์ที่จำลองมาจากเครื่องประจำกายของพระอินทร์ ก็เพื่อช่วยทำหน้าที่ปราบมารศาสนา

ที่วัดหลวงพ่อสดไม่มีวัตถุธาตุสีดำนำมาทำเป็นพระพุทธปฏิมา หรือกายสิทธิ์แต่ประการใด

......

ยังดีกว่าเหมาเอาดวงแก้วจากท่าพระจันทร์แล้วมาบออกว่าเป็นกายสิทธิ์

ยังดีกว่าเอาแร่พญาเหล็กเพชรดำ มาทำเป็นพระ "ดูดทรัพย์" (ดูดซับเงินเข้ากระเป๋าใครไม่รู้)
เอาของดำๆมาทำพระ ผิดเพี้ยนแล้ว ไปหาแร่นี้แถวๆท่าพระจันทร์ จตุจักร และชายแดนพม่า มีขายกันเกร่อ

สงสัยว่าไม่มีบุญที่จะเรียกพญาเหล็กของจริงได้ จึงไปเอาแร่พญาเหล็กเพชรดำมาทำพระ

....

ยังดีกว่าเจ้าอาวาส ที่วาจาไม่สำรวม พูดอ้อนแต่คำว่า "น๊ะจ๊ะ ๆ"

ทำธุรกิจ ทั้งเอาเงินให้เสี่ยสองปั่นหุ้น เล่นแชร์แม่ชม้อย ทำเมืองแร่ ธุรกิจเงินกู้ให้คนทำบุญ ออกโฉนดในที่ดินป่าสงวนโดยอาศัยอำนาจอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ (ผ่อง เล่งอี้ ที่ตอนนี้ ถอนตัวและถอนเงินออกจากวัดหมดแล้ว) ยังไม่นับคดียักยอกเงินที่มีวินิจฉัยว่าอาบัติปาราชิก การบริหารการเงินที่ไม่ผ่องใส ฯลฯ

การอวดคุณวิเศษพยากรณ์ออกอากาศทาง dmc ทุกวันๆ ช่างไม่เกรงต่ออาบัติ ทำตนตีเสมอการพยากรณ์ของพระพุทธเจ้า ให้ชาวบ้านหลงไหลอยู่กับคุณวิเศษเช่นนั้น

การเทศน์เอาสวรรค์มาล่อ เพื่อหว่านล้อมให้คนควักเงินทำบุญ โดยการยั่วกิเลศ ว่าจะได้อานิสงส์กลับคืนมาหลายเท่า ใครบังเอิญรวยก็ให้มาออกอากาศเชียร์ให้คนควักเงิน ใครยังไม่รวยซักที ก็ไปไกลๆ ไปขัดส้วม
....

ผมเคยกล่าวไปแล้วว่าต้องการเผยแผ่หลักวิชชา ไม่ปราถนาให้ด่ากันไปๆมาๆ หากคุณชอบที่จะแถๆเช่นนี้ ก็คงต้องมีบ้าง หนักเบา ตามเหตุปัจจัย

หมดศรัทธาในเรื่องไม่เป็นเรื่องเพราะอคตินั้นก็ไม่ว่ากันหรอก แต่หมดทั้งใจ หมดทั้งตัว เพราะถูกเขาหลอก "ดูดๆๆทรัพย์" ไปนี่สิ น่าสงสาร

เห็นคุณตามไปแก้ต่างให้สำนักคลองสามแบบเอาสีข้างถูๆๆ เป็นร้อยๆกระทู้ นี่ถ้าเข้าไปสิกขาหลักวิชชาจากต้นวิชชา ป่านนี้ได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะเลย

สนใจเสวนาหลักวิชชาหรือยัง จะแถออกนอกเรื่องไปไหน ระวังจะโดนสวนกลับเอานะครับ

หลายคนที่กลับใจได้ ต่างก็บ่นเสียดายเวลาที่ผ่านไปกับการหลงงมงายกันทั้งนั้น โยนิโสมนสิการเอาเถิด ท่านอาจจะเป็นผู้มีบุญรายต่อไป

 

ขอบคุณคุณ ต้นไม้โพธิ ที่เอาความจริงส่วนหนึ่งมาเปิดเผย ให้พุทธศาสนิกชนได้เห็นกันถ้วนหน้า สาธุ

 

ขอให้พุทธบริษัท โดยเฉพาะท่านที่เคยเข้าวัดพระธรรมกาย ช่วยกันแสดงทัศนะไว้เป็นหลักฐานให้อยู่ในอินเทอร์เน็ตไปตลอด เพื่อพระศาสนา เพื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำ เพื่อวิชชาธรรมกายที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่สิ่งที่เข้าปนเป็นมาแล้ว

ช่วงนี้ผมเรียนหนัก

ไว้สักระยะ ผมจะลงบทวิเคราะห์ชุดใหญ่ สิ่งที่อยากทำคือการเรียบเรียงเนื้อหา ประเด็นข่าวต่างๆ และทุกๆเรื่องมารวบรวมไว้ในลักษณะที่สรุปข้อมูลแบบตกผลึกแล้วเป็นความจริงที่ท่านธัมมชโยไม่อยากฟัง คำถามที่ท่านธัมมชโยไม่อยากตอบ

ผมมีเรื่องชวนคิดนิดเดียวว่า

ที่หนังสือพิมพ์เคยนำมาลงขอโทษวัดพระธรรมกายนั้น เป็นเพียงการอ้างอิงประเด็นจากการตัดสินของศาลใน2ประเด็นคือ เพื่อความสามัคคีในหมู่พุทธศาสนิกชนและท่านธัมมชโยได้คืนเงินกลับวัดแล้ว

แล้วเรื่องอื่นๆหล่ะครับ

ผมตั้งข้อสังเกตุว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวออกมาว่าวัดพระธรรมกายกำลังจะแก้พระไตรปิฎก โดยส่วนตัวผมเอง วิเคราะห์สถานการณ์ ผลดีผลเสียแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ และในที่สุดทางวัดพระธรรมกายก็ออกมาแก้ข่าวกันอย่างอุตหลุด หยิบยกหลักฐานมานำเสนอมากมายผ่านทางสื่อที่อยู่ในสังกัด

แต่ทำไม? เรื่องข่าวต่างๆที่เกิดขึ้นในระหว่างปีพุทธศักราช2541 -2543 กลับนิ่งเงียบกันตั้งแต่สมัยนั้นจนถึงตอนนี้ แล้วทีเรื่องการแก้ข่าวพระไตรปิฎก ทำไมไม่เล่นบทนิ่งเหมือนเดิมเล่า แล้วก็มาบอกว่า "ไม่สู้ ไม่ถอย ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป"

จริงๆแล้วการแก้ไขความเข้าใจให้ผู้อื่นเข้าใจถูกต้องนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ มิใช่การต่อสู้ เหมือนดังกรณีแก้พระไตรปิฏก ประเด็นข่าวทั้งหมดต้องทำแบบนี้เป็นอย่างน้อย หรือจริงๆแล้วไม่มีอะไรจะแก้ตัวกันแน่
ทุกวันนี้ก็พยายามสร้างความชอบธรรมให้ตัวด้วยวิธีการต่างๆ ออกสื่อโทรทัศน์บ้าง วิทยุบ้าง หนังสือพิมพ์ต่างๆที่เคยลงข่าวโจมตีวัด ก็ใช้เงินใส่ จ้างให้ลงโฆษณาโครงการวัดเพื่อสร้างความชอบธรรม ในทำนองอ้อมๆว่าที่ผ่านมาเป็นการเข้าใจผิด สื่อก็ไม่มีจุดยืน อำนาจทางการเมืองก็เข้าไปพัวพัน ...

​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=T0w3Q4IBJZs"]??????? ????????????????????????? - YouTube[/ame]​

 

คุณวงบุญพิเศษแนะนำว่าให้ไปโพสต์ที่เวบบอร์ดพันทิบครับ เพราะที่นั่นมีคนที่สนใจพุทธศาสนาและคนวัดพระธรรมกายเข้าไปอยู่พอสมควรเหมือนกัน เราเอาความจริงมาพูดกันครับ อย่าให้ความไม่ถูกต้องมาเป็นตัวชี้นำเลย คนที่เข้าวัดพระธรรมกายอย่างน้อยคนที่พอมีบารมีเข้ามาอ่านก็คงคิดได้เอง ซึ่งผมก็เป็นคนนึงที่เข้าวัดมาเกือบ 20 ปีแล้วก็ออกจากวัดนี้ไปโดยไม่คิดหวนกลับมาอีกเลย

ตอนนี้กระทู้ของคุณก็ขึ้นอยู่ในอันดับกระทู้แนะนำให้เวบพันทิปแล้วครับ
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11528587/Y11528587.html

 

อีกเรื่องที่ผมอยากแนะนำคือ อยากให้คุณวงบุญพิเศษ เอารูปส่วนตัวที่ทางวัดนั้นเป็นผู้จินตนาการออกไปนะครับ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ล้วนปรุงแต่งไม่ได้เห็นไปในทางที่ถูกต้อง แต่เกิดจากการชี้นำจากอวิชชาที่เห็นผิดอยู่ในวัดพระธรรมกาย ณ ขณะนี้ครับ

 

อย่างไรก็เน้นหลักวิชชา มากกว่าการว่ากันไปๆมาๆนะครับ (มีบ้างหนักเบาตามเหตุปัจจัย)

ประเด็นปัญหาที่มักจะเกิดคือ จะมีการโต้ตอบไปๆมาๆ ก็จะห่างจากหลักพระธรรมวินัยหลักวิชชาไป กลายเป็นกระทู้เถียงกันไปๆมาๆ

อีกปัญหาคือ ชาววัดก็จะพยายามเปลี่ยนไปประเด็นอื่นๆ เช่นนำเสนอกิจกรรมดีๆของทางวัด ผลงานของวัดมาแทน ซึ่งไม่ใช่ประเด็นของกระทู้เลย

ปัญหาสำคัญอีกอย่างคือ จะมีผู้ที่ต่อต้านวิชชาธรรมกายทั้งหมดเข้ามาผสมโรงด้วย กลายเป็นกระทู้ล่วงเกินวิชชาธรรมกายที่แท้จริงไป

^^ ครับ ก็บอก 9 เล่า 10 ให้ฟังครับ

 

เท่าที่ได้ศึกษา วิชาธรรมกายยังไม่ไช่หนทางนิพพานนะครับ
แม้หลวงพ่อสดเองก็ได้เคยกล่าวเอาไว้ หลังจากเรียนวิปัสนากัมมัฏฐานแล้ว

 

กรณีมีคนสร้างข้อมูลอันเป็นเท็จว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำเลิกฝึกธรรมกายนั้น เชิญท่านศึกษาความจริงได้ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ


http://khunsamatha.com/blog/dhammakaya-C1.html​

 

ผมได้อ่าน link ที่คุณสมถะนำมาแล้วนะครับ


ไตรภูมิพระร่วง
ทางเข้าสู่พระนิพพาน
นางแก้วคู่บารมี
ลีลาวดี
พระนางปฎาจาราภิกษุณี
เรื่องนารีผล ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ผมหามาฟัง
ผมได้ฟังมาก็นึกไปว่าเป็นอรรถชีวะประวัติของหลวงพ่อจรัล
ด้วยเห็นว่าท่านเป็นพระปฏิบัติสายวิปัสนากัมมัฏฐาน เลยเข้าใจว่าน่าจะ
พอเชื่อถือได้ในเบื้องต้น ทุกเรื่องหากมีการคัดค้านโต้แย้งว่าไม่ใช่และไม่จริง
ผู้มีความเป็นธรรมก็ควรจะพิจารณาวาอะไรคือเท็จอะไรคือเรื่องจริง

ผมเป็นคนมีเหตุผล ก็จะยังไม่ปักใจเชื่อทั้งสองฝ่ายจนกว่าจะพิสูจน์ความจริงได้

สำหรับเรื่อง ธรรมกาย กับ กัมมัฏฐาน ก็คงเป็นอีกเรื่องที่ต้องศึกษาเช่นกัน
ว่าทั้งสองแนวทางไหนนั้นใกล้นิพพาน

 

ขออนุโมทนากับคุณวงบุญพิเศษ ขอชื่นชมในอิทธิบาท๔ และความกล้าของคุณวงบุญด้วยครับ อีกอย่างคือหากสิ่งที่คุณวงบุญพิเศษพิจารณามาดีแล้วเชื่อมั่นว่าสำเร็จแล้วถูกต้องดีแล้วเป็นไปอย่างนั้นอย่าลืมว่าทางวัดพระธรรมกายก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้มีส่วนให้มีทัศนะอย่างปัจจุบันนี้ด้วยครับ

 

ก็นั่นไงครับ ใครมีศรัทะาที่ไหนก็ไปที่นั่น มีปัญหามั๊ยครับ
ผมไม่ศรัทธา ตรีศูล กับผ้ายันต์ในวิชชาธรรมกาย ใครจะทำไม
เพราะผมก็ไม่เคยเห็นหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านทำ


ผมไม่ได้ด่าใคร ไม่ได้แถ แต่อยากให้ทราบไว้ว่า
ผมมองเห็นอะไร ต่างคนต่างมีมุมมองต่างกัน มันย่อมมีสิ่งที่ทำให้ศรัทธาและไม่สรัทธา เป็นปกติ

ใครที่เอาแต่ตำหนิก็ตามสะดวก เพราะอนาคตผมอาจออกไปบ้างก็ได้
แต่ผมก็จะไม่ออกมาตำหนิแบบนั้นเพราะผมเคารพ ครูบาอาจารย์ในวิชชาทุกท่าน เพราะผมไม่ทราบจริงว่าอะไรถูกหรือผิดจริงหรือไม่

เพราะสอบเค้าดูมันก้มีที่ผิดเพี้ยนด้วยกันทั้งที่ราชบุรีและปทุมนั่นแหละ
อีกอย่างผมสำนึกบุญคุณในครุบาอาจารย์ที่อย่างน้อยก็นำพาผมให้อยู่ในพระพุทะศาสนาวิชชาธรรมกายครับ

 

จบแล้ว จบไปหลายร้อยล้านแล้ว

(หมายถึงชาวบ้านนะ จบไปหลายคนละ)

(หลายคนจบ แต่ก็เก็บเงียบ)

 

แน่ใจหรือครับว่าไม่มี หลวงปู่เขียนอักขระขอมว่า สัม มา อะ ระ หัง และยังใช้พระคาถาประสิทธิ ที่ใช้กันตามบูรพาจารย์แต่โบราณใช้กันด้วย (สิทธิ กิจจัง ฯลฯ) วชิระและตรีศูลก็บอกไปแล้วว่าเป็นกายสิทธิ์ที่จำลองมาจากอาวุทธประจำกายของท้าวสักกะ น้ำพระพุทธปริต ก็ใช้ตามรัตนสูตร ตามพระไตรปิฎก ที่เหลือก็เป็นเรื่องของอิทธิวิธีในวิชชา ๘ ประการ ตามความเหมาะสม ไม่เคยนำเรื่องเหล่านี้มาเพื่อการระดมเงินบริจาค หรือนำมาเป็นเรื่องสำคัญแต่ประการใด มีแต่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆภายใน เป็นส่วนเสริม ไม่ใช่กิจหลัก

เรานำพระธรรมวินัย และตำราวิชชาธรรมกายดั่งเดิมเป็นหลัก

ผมเองก็ไม่เคยเห็นแหวนและสร้อยส้มตำปูปลาร้า ว่าในพระไตรปิฎกจะมีนะครับ และว่าหลวงปู่จะสอนไว้นะครับ ไม่เคยเห็นเลยจริงๆ หลวงปู่ไม่เคยสอนเรื่องวงศ์บุญพิเศษ และใครก็ไม่ควรยกตัวเองว่าแบ่งธาตุธรรมมาที่เดียวกับหลวงปู่ ไม่เคยสอนว่าตนเองเป็นทัพหลวง หลวงปู่สดเป็นทัพหน้า ไม่เคยสอนว่าต้องทำบุญด้วยเงินเยอะๆแล้วจะเป็นบารมีหลักในการปราบมาร มีแต่สอนให้ทำทานแล้วปฏิบัติให้เข้าถึงภาคผู้เลี้ยงภายในก็จะได้สมบัติมาช่วยบำเพ็ญบารมี ไม่เคยสอนให้ปิดกั้นมรรคผลนิพพานตนเอง มีแต่ปราถนาพุทธภูมิระดับนิพพานเป็น ที่ราชบุรีไม่เคยปฏิเสธตำราดั่งเดิมใดๆ มีแต่ธรรมวิจัยเพิ่มเติมเสมอมา ไม่เคยสอนอะไรนอกเหนือไปจากที่พระไตรปิฎกตำราดั่งเดิมตามคำสอนท่านสอนไว้ และได้สอนต่อวิชชาอย่างมีประสิทธิภาพ ทำนิพพานให้แจ้งด้วยโคตรภูญาณที่นี่เดี๋ยวนี้
....

ผมเองก็กล่าวไปแล้วว่าไม่ปราถนาจะว่ากล่าวกันไปๆมาๆ นอกจากหลักวิชชาที่บริสุทธิ์ถูกต้อง และไม่ได้บอกให้ใครต่อต้านสำนักไหนๆด้วย เพียงแค่ให้มีความรู้จริง ไม่ถูกชี้นำผิดๆ ถูกๆ เป็นอิสระด้วยตนก็เท่านั้น ก็บอกไปแล้ว กิจกรรมดีๆผมก็อนุโมทนา

ตรงไหนเห็นว่าเพี้ยน ก็กล่าวมาสิครับ เรามาเสวนาตามหลักวิชชาเลยครับ เราจะได้เสวนาหลักวิชชากัน นี้คือกิจหลักให้ทุกคนได้โยนิโสมนสิการ รอมานานแล้ว ยังมีอีกหลายประเด็นเลย รอเสวนาอยู่

อยากรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ก็เข้าหาต้นวิชชาสิครับ ที่วัดปากน้ำ ที่ครูบาอาจารย์ยุคต้นวิชชายังมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่มาที่ราชบุรีก็ได้ หลายคนเขาชีวิตดีขึ้น อิสระขึ้น มีความสุขขึ้น มีปัญญาวิชชา และหนทางที่ถูกต้องมากขึ้น คุณอาจจะเป็นรายต่อไป

 

เอาเลยครับ...รอฟังอยู่ครับ ชาวพุทธจะได้มีโอกาสได้รู้อะไรๆเพิ่มเติมครับ ขอให้หลายๆท่านอย่าแถ เอาจริตส่วนตัว เพื่อหวังแต่ชัยชนะของตัวเองนะครับ เอาความจริงมาคุยกัน ว่าใครได้ทำอะไรไว้บ้าง ขอศึกษาเงียบๆด้วยคนครับ...เต็มที่เลยนะครับ

 

เหตุผลครับอย่าใช้โทษะมุมมองต่างแต่อย่าแตกแยกครับหักล้างกันด้วยเหตุผลครับเอาแต่จริงนะครับอย่ายกเมฆเพราะคนสนใจกันมาก

 

แต่ก็ไม่มีผ้ายันต์ และเหล็กไหลตรีศูล ใช่มั๊ยครับ ท่านก็แค่เขียนสัมมาอรหัง หรือธรรมขันต์เป็นภาษาอื่นแค่นั้น และท่านก็ให้พรเป็นภาษาบาลีอีก
ถ้าผมเขียนชื่อผมด้วยภาษาขอมคุณก็ว่าเป็นยันต์สิครับ

คุณก็ลองนึกภาพพระใช้ตรีศูล ลงไปแกว่งทำน้ำมนต์ดูแล้วมันน่าเลื่อมใสอย่างไร แล้วบอกว่าสอนวิชชาของพระพุทธเจ้าหรอ มันฟังดูขัดกันมั๊ย

ก็วิชชาธรรมกายเป็นของจริง มีอานุภาพมาก แล้วใช้ทำไมครับตรีศูลย์ อันนี้เพี้ยนมั๊ยครับ


มันก็เลยทำให้เสื่อมศรัทธาไป คนอื่นอาจไม่มองแต่ผมเลือกครูครับ
หากครูมำอะไรที่ทำให้ผมไม่เลื่อมใส ผมก็กราบลาครับ

ผมไม่ได้ปรามาสนะครับ เพียงแค่ถ้าผมแคลงใจในใครผมไม่อาจกราบเป็นครูผมได้

แต่ผมก็เคารพนับถือครับ ท่านเจ้าอาวาสที่ราชบุรีผมก็เคารพครับ ท่านก็ทำงานของท่าน ท่านเชียวชาณครับ

จบ...