ช่วงนี้อยากขอเตือนว่าระวังตึกใหญ่ๆสูงๆให้ดีครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Tonnana, 12 ธันวาคม 2011.

  1. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    เคยฝันว่า ตึกสูงๆ ใกล้ๆแม่น้ำในกรุงเทพฯ จะล้มพังภาพลงไปในแม่น้ำ สยองจริงๆ
     
  2. teeover

    teeover สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +4
    ผมว่าบางทีก็งงๆเหมือนกันนะ..เพราะปรากฎการณ์ทางธรรมชาติมันเอามือไปอุดก็ไม่ได้จะไปวิ่งชนก็ไม่ไหว ก็พยายามคิดซะว่า..เป็นไปตามกรรมของสัตว์โลก อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด บางทีก็คิดจะหนีเหมือนกันแต่.อืม.แล้วเราเองจะไปได้ซักกี่วันเดี๋ยวก็ต้องกลับมาอีก.เฮ้อ.บางทีก็คิดว่างั้นช่วยกันสวดมนต์ วันไหนไม่สวดก็เปิด mp3 ทำวัตรเช้าของหลวงพ่อทุยซะเลยเผื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิท่านจะช่วยจะได้โดนกันเบาๆหน่อย .เปิดปุ๊บ มอไซต์มันแว๊นกลบเสียงผ่านหน้าบ้านไป เลยคิดว่ามันจะรู้มั๊ยว่าเนี่ยสวดมนต์ช่วยโลกอยู่นะ.555..สุดท้ายก่อนหมดวันแรกของปีใหม่.เวปนี้เหมือนโรคระบาด ผม 1 คน สามารถแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างได้เป็นร้อย.อย่าเปลี่ยนแปลงเลยครับเป็นอย่างที่เป็นนี่แหละดีแล้ว.บางเรื่องอ่านไปก็อารมณ์ดี บางเรื่องก็พิสดาร ..คำถาม.เรื่อง ไผ่แดง.ถ้าทุกคนบวชพระหมดแล้วใครจะไถนา
     
  3. sasuki

    sasuki สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    เพี้ยนกันไปค่อนเว็บแล้วมั่งเนี่ย
     
  4. KARNDAVADEE

    KARNDAVADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +217
    การเตือนคือความหวังดี ขอบคุณที่มาเตือนค่ะ
     
  5. Akornlokudorn

    Akornlokudorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +60
    ขอบคุณทุกท่านที่มาเตือน ขอร้องผู้อ่านคำเตือนไม่ต้องเครียดครับ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ยึดมั่นความดี คิดดี พูดดี ทำดี ไว้ในจิตใจ
     
  6. คนรักชาติ

    คนรักชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +181
    ฉันว่าแกนั่นละสมควรไปหาจิตแพทย์ พวกที่ติคนอื่นด้วยความรุณแรงทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อนนี่สิ อาการหนักแท้ๆ
     
  7. suriyawibool

    suriyawibool Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +25
     
  8. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ไม่ได้เป็นผู้รู้ แต่เห็นด้วยค่ะ
    กับการเตรียมการณ์รองรับตึกสูงถล่ม ถึงแม้ไม่มีใครออกมาเตือนแต่วิเคราะห์เชิงธรณีวิทยา มีโอกาสเกิดขึ้นได้สูงมาก แต่เราบอกระดับความรุนแรงไม่ได้ เพราะเราไม่ทราบความสามารถของตัวตึกที่วิศวกรได้วางโครงสร้างการรับแรงเคลื่อนไว้ตั้งแต่แรก

    ธรรมดาคนเราอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่ยังไม่เกิด ถึงได้เข้ามาศึกษาในเวปต่างๆ ซึ่งไม่ได้มีแค่เวปพลังจิตที่เตือนกันเรื่องภัยพิบัติ ความเป็นความตายในทำนองอวดรู้ ญาณ กูรู รวมทั้งจากวิทยาศาสตร์ นาซ่า การแลกเปลี่ยน การแสดงความคิดเห็น ก็ควรจะมีกันต่อไป ตามปกติ อาจมีบ้างที่ทะเลาะกันเพราะความเห็นที่แตกต่าง แต่การจะเอาผิดกันถึงฟ้องร้องเป็นเรื่องนอกประเด็นไปแล้ว เหมือนคุยกันคนละภาษาไปเลย ... คุยกันแบบน่ารัก ดีกว่า เนอะ อิอิ bubububu
     
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขออนุญาตแชร์ไอเดียร์ด้วยคนนะครับ..
    ผมแค่แชร์นะ..ไม่จำเป็นต้องเชื่อผมหรอกครับ
    แค่ลองเอาไปคิด และ พิจารณาดูก็พอครับ

    อย่างที่บางท่านออกมาบอกนั่นแหละครับ ว่า "นิมิตร" หนะ มันมีทั้งจริงทั้งหลอก
    และอีกอย่างหนึ่งเรื่องแบบนี้ จริงๆแล้ว ผมก็ไม่ค่อยอยากบอกหรอกนะครับ
    ว่า ต่อให้เราเห็นจริงก็เถอะ แต่อนาคตมันก็เปลี่ยนได้ และที่สำคัญที่สุดก็คือ
    อนาคตที่ใครแต่ละคนไปเห็นนั้นหนะ มันเป็นแค่หนึ่งใน "ภาพ" หรือ "เส้นทาง"
    แห่งความเป็นไปได้ในอนาคตที่มีอยู่นับอนันต์ ไม่มีจำกัด ไม่มีประมาณ
    ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยในขณะที่เห็นนั้นๆ ในวินาทีนั้นๆ เท่านั้นเอง

    ดังนั้น ถ้าเมื่อใดที่เหตุปัจจัยเปลี่ยนไป เส้นทางในอนาคตที่ควรจะเป็นไป
    ก็จะเปลี่ยนตามไปด้วยในทันที แบบ real time (รวมถึงเส้นทางในอดีตด้วย)
    เพราะปัจจุบันคือจุดตัดของทั้งอดีตและอนาคต

    มันเป็นเรื่องที่คิดแบบมองเห็นกาลเวลาว่าเป็นแบบเส้นตรงไม่ได้
    เพราะว่าในระดับปรมัตถ์แล้ว มันไม่มีกาลเวลา
    แม้ว่าสมองของมนุษย์จะทำงานอยู่ภายใต้กาลเวลาก็ตาม
    แต่จิตของมนุษย์ไม่ใช่ มันอยู่เหนือกาลเวลา มันเป็นของหลากมิติ
    มันไปได้ทั่ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมถึงไปเยี่ยมภพชาติใด ของใคร ก็ได้ด้วย

    เหตุปัจจัยที่จะทำให้ "เหตุการณ์" ที่จะเป็นไปทั้งหลาย เปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด
    ก็คือ "พลังจิต" หรือ "กระแสจิต" ซึ่งก็คือ "กระแสความคิดและความเชื่อ" ของมนุษย์นั่นเอง
    ยิ่งพากัน "เชื่อ และ พุ่งความจดจ่อ" ไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเท่าไหร่
    เช่น ทั่วประเทศ หรือ ทั่วโลก เป็นต้น โอกาสที่เหตการณ์นั้นๆจะกลายมาเป็นความจริง
    มันก็จะยิ่งมีมากเท่านั้นด้วย จนถึงจุดหนึ่งแล้ว มันก็จะเป็นความจริงให้เราได้สัมผัสจริงๆ

    แต่อย่างที่ผมบอกไปแล้วนั่นแหละครับว่า ถ้าตราบใดที่มันยังไม่เกิดขึ้น
    เราก็สามารถที่จะใช้พลังจิต - พลังความคิด - ความเชื่อ - อารมณ์ความรู้สึกของพวกเราทั้งหลาย
    เปลี่ยนทิศทางของมันได้เสมอ

    ดังนั้น ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ
    ท่านใดก็ตาม ที่มองเห็นภาพนิมิตร หรือเหตุการณ์ในอนาคตได้ แล้วออกมาเตือนไว้
    ผมเชื่อว่าลึกๆในใจของทุกคนก็ไม่มีวัตถุประสงค์ร้ายแต่อย่างใดหรอก
    ตรงข้ามด้วยซ้ำ คือ หวังดี อยากให้คนอื่นๆระวังตัว
    เผื่อจะสามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจริงนั้นๆได้
    ก็ประมาณว่า..ช่วยชีวิตคน ดีกว่าสร้างเจดีย์ 7 ชั้นอะไรประมาณนั้นหนะครับ

    แต่ในมุมมองตามที่ผมอธิบายไปแล้วนั้น ถ้าท่านจะเปิดใจกว้างรับฟังอีกนิด
    ผมก็อยากจะขออนุญาตบอกท่านว่า

    "คำเตือนทั้งหลายของท่านนั้น ก็เป็นดาบสองคมด้วย"

    เพราะว่า คนอ่านมีระดับจิตที่แตกต่างกัน ท่านว่าคนบนโลกนี้ คนที่อ่านแล้ว
    ไม่รู้สึกอะไร คือไม่รู้สึกกลัว หรือรู้สึกในแง่ลบนั้น มีมากหรือน้อยกว่าคนที่รู้สึกกลัวหละครับ
    ท่านว่า คนที่มีระดับจิตสูง น่าจะมีน้อยหรือมากกว่าคนที่มีระดับจิตพื้นๆ-ปานกลาง ถึงต่ำหละครับ

    แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้า ถ้าเฉยๆนะ ถ้าพลังจิตของมนุษย์คือตัวแปรสำคัญอย่างที่ผมว่ามาจริงๆ
    อันที่จริงผมก็ไม่ได้ว่าเองหรอกครับ ผมก็อ่านมาเหมือนกันนั่นแหละ
    แต่ผมรู้สึกว่ามันมีเหตุมีผล มันเป็นสากล และมันน่าจะเชื่อถือได้อยู่
    ผมก็เลย "เลือก" ที่จะเชื่อตามนี้หนะนะครับ

    มาต่ออีกนิดนะครับ คือ ถ้าคนอ่าน 95% อ่านแล้ว เชื่อถือข้อมูลนี้อย่างมาก
    แล้วก็หวาดกลัว วิตกกังวล จิตตก คิดจดจ่ออยู่แต่กับการหาวิธีป้องกันเหตุร้ายนี้
    สรุปว่าคิดอะไรก็ตาม ที่เกี่ยวข้องจดจ่อด้วยความเชื่ออย่างมากเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นๆแล้ว
    อะไรมันจะเกิดขึ้น..

    ก็พลังจิตมวลรวมของคนส่วนใหญ่ทั้งหลายนั่นแหละ จะไป "เติมเชื้อไฟ"
    ให้กับเหตุการณ์นั้นๆมันกลับกลายมาเป็นความจริง ได้จริงๆ

    ก็สรุปว่า ถ้าตามนัยยะนี้..คนที่ออกมาบอกนั่นแหละ
    คือผู้จุดประกายแห่งความหายนะนั้นขึ้นมาคนแรก

    สรุปว่า มันเป็นดาบสองคมครับ..เพราะฉะนั้นแล้ว การไปรู้ไปเห็นเหตุการณ์อะไรล่วงหน้า
    หรือไปรู้ไปเห็นเหตุเภทภัยส่วนตัวอะไรของใครเขาล่วงหน้า พระพุทธเจ้าท่านถึงได้ห้ามไงครับ
    ว่าอย่าเที่ยวไปพยาการณ์ส่งเดชใครต่อใครเขาหวาดกลัว
    เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมของเขาเองอยู่แล้ว

    แต่ว่าก็ว่าเถอะ..ทิ้งท้ายไว้อีกนิดหนึ่งครับ หลายท่านอาจจะบอกว่า
    ก็ถ้ากรรมมันจะพาให้เกิดอยู่แล้ว แล้วเราแค่ไปบอกให้เขาเลี่ยงกรรมเฉยๆ
    มันจะเป็นการไปจุดชนวนให้เรื่องร้ายๆเหล่านั้นเกิดได้อย่างไร?

    ก็นั่นหนะ เรามองเรื่องราวต่างๆแบบเป็นเส้นตรงหนะสิครับ
    และเราก็ "รู้ ตามที่ถูกสอนมา" แค่เพียงว่า
    "กฎแห่งกรรม คือกฎๆเดียวที่มีอยู่ในจักรวาลนี้"
    แล้วท่านว่า มันน่าจะจริงไหมหละ ที่จักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้
    จะมีเพียงกฎเดียวที่ทำงานเป็นกลไกหลักอยู่
    หรือว่ามันเป็นเพียงกฎเดียวที่เรารู้จักกันแน่
    หรือว่ากฎอื่นๆเราไม่เคยถูกสอนให้รู้จักกันแน่ เราก็เลยคิดอยู่แต่ว่า
    ทั้งหมดที่มีอยู่ มันมีอยู่แค่นั้นแหละ..อะไรแบบนั้นครับ

    เพราะในความเป็นจริงแล้ว..ไม่มีใครพิสูจน์อะไรได้เลยเกี่ยวกับเรื่องนี้
    เพราะว่าทุกคน "ก็ฟังท่านว่ามา" อีกต่อหนึ่ง ด้วยกันทั้งสิ้น

    ...ถูกไหมครับ??...

    แต่ผมก็ไม่ได้กำลังบอกว่า "กรรม" มันไม่มีส่วนหรอกนะครับ แต่ผมกำลังบอกว่า
    "มันยังมีปัจจัยอื่นๆ และ กฎข้ออื่นๆของจักรวาล ที่เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่อีก" ต่างหากหละครับ

    .........................................................

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...