ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    10 สุดยอด สิ่งประดิษฐ์ แห่งปี 2011



    [​IMG]
    Mthainews: ความก้าวหน้าในเรื่องวิทยาศาสตร์ของมวลมนุษยชาติยังคงก้าวดำเนินต่อไป ในหลายปีที่ผ่านมากระทั่งปัจจุบัน เรามักจะเห็นสิ่งประดิษฐ์ต่างๆที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ บางอย่างเกิดจากอุปกรณ์ที่ได้จากอู่รถเก่าของพวกเขา บางคนมีความสุขที่ได้ประดิษฐ์ต่างๆ แต่ไม่ว่าจะเพื่อจุดประสงค์ใด นักประดิษฐ์เหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างหนึ่งก็คือ พวกเขามีแรงบันดาลใจ
    เว็บไซต์ mnbc.com ได้เผยแพร่ภาพสิ่งประดิษฐ์ แห่งปี 2011 ซึ่งในปีนี้ 10 ผลงานถูกจัดอันดับไว้ดังนี้
    [​IMG]
    1.มืออัจริยะ ของมาร์ค สตาร์ค เขาได้ประดิษฐ์มือเทียม ที่มีโครงสร้าง การทำงานได้เหมือนมือมนุษย์ สามารถหยิบจับแก้วน้ำ จับลูกบอลได้ ด้วยต้นทุนการผลิตที่ไม่มาก
    [​IMG]
    เขาได้แรงบันดาลใจมาจาก เดวิด วอกท์ เพื่อนของเขาที่พิการแขนซ้ายมาแต่กำเนิด จึงเป็นที่มาของมือเทียมอัจริยะ ช่วยให้เขามีความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆอย่างเช่นตนอื่นๆได้อย่างสมบูรณ์
    [​IMG]
    2.ถุงมือบอดี้การ์ด ป้องกันศัตรู เดวิด บราวน์ ได้ทำการประดิษฐ์ถุงมือที่ใช้ต่อสู้กับอาชญากร และสามารถจับกุมตัวผู้ร้ายได้ ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจมาจากการสนนทนากับเพื่อนของเขาจากข่าวที่มีผู้ถูกสิงโตภูเขาโจมตี ทำร้ายกัดร่างกายจนเสียชีวิต
    [​IMG]
    เขาจึงนึกขึ้นได้ว่าหากเรามีมีด หรืออาวุธที่ใช้ต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะดีไม่น้อยทีเดียว ถุงมือชิ้นนี้ มีน้ำหนักเบาไม่ถึง 3 ปอนด์ ห่อหุ้มด้วยวัสดุที่พัฒนาให้มีความแข็งแรงบริเวณข้อศอก ไม่เพียงแต่ใช้ป้องกันศัตรูเท่านั้น แต่ยังมีไฟฟ้าแรงดันสูง กล้องวีดิโอ แสงเลเซอร์ และไฟฉายรวมอยู่ด้วย เพื่อให้ถุงมือชิ้นนี้ทำงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
    [​IMG]
    3.เครื่องปรินท์ อเนกประสงค์ พัฒนาโดยนายอเล็กซ์ เบรตัน ผู้ซึ่งต้องการความสะดวกสบาย สามารถปรินท์เอกสาร หรือพิมพ์ข้อมูลต่างๆบนวัสดุที่แบนราบ เช่นไม้ พลาสติก
    <IFRAME height=225 src="http://www.youtube.com/embed/fSM5z5vL-Qo" frameBorder=0 width=399></IFRAME>
    จุดเด่นของมันก็คือมีขนาดเล็ก น้ำหนักไม่ถึง 1 ปอนด์ พกพาได้ง่าย สะดวกสบาย
    [​IMG]
    4.The Katal Landing Pad แผ่นป้องกันการเกิดอุบัติเหตุสำหรับนักเล่นสกี หลังจากที่แอรอน โคเรท นักเล่นสกีผาดโผน ประสบอุบัติเหตุระหว่างเล่นสกีหิมะเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา จนคอเป็นอัมพาต ทำให้เขาและ สตีเฟน เสลน ได้คิดค้นทำแผ่นขนาดใหญ่ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
    <IFRAME height=222 src="http://www.youtube.com/embed/Bz4LcT_3jEM" frameBorder=0 width=393></IFRAME>
    โดยมันทำมาจากวัสดุที่เป็นไวนิล บรรจุลมที่มีความนุ่มและยืดหยุ่น และยังทำให้การเล่นสกีหิมะได้สนุกมากยิ่งขึ้น สิ่งประดิษฐ์ของพวกเขายังได้รับรางวัล Popular Science Invention Award in 2011 ด้วย
    [​IMG]
    5.สุดยอดแว่นตากันแดด ไดนามิค อาย คริส มูลลิน ทำการคิดค้นประดิษฐ์แว่นตากันแดดแบบไดนามิก ประกอบด้วยเลนส์ “Dynamic Eye” สามารถป้องกันแสงแดดจ้าได้โดยที่ไม่ทำให้วัตถุที่มองเห็นมีสีหมองลง
    [​IMG][​IMG]
    ซึ่งแรงบันดาลใจในการประดิษฐ์เนื่องจาก แว่นกันแดดสว่นใหญ่ยังขาดฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ที่เพียงแค่กันแสงรังสีต่างๆเท่านั้น
    [​IMG]
    6.อุปกรณ์ป้องกันตัวเรือด ตัวเรือดที่ซุกซ่อนอยู่ตามเบาะที่นั่ง ที่นอน เป็นอันตรายสำหรับมนุษย์ โดยมันมักจะชอบดูดกินเลือดสัตว์และคนเป็นอาหาร ทำให้คริส กอกลิน คิดค้นประดิษฐ์เครื่องตรวจจับตัวดังกล่าว ซึ่งปกติจะหาตัวมันได้ยาก
    <IFRAME height=252 src="http://www.youtube.com/embed/zsNUOZD5lAg" frameBorder=0 width=336></IFRAME>
    เครื่องตัวนี้จะส่งสัญญาณหลังจากที่ตรวจพบกลิ่น ฟีโรโมนของมัน ทำหน้าที่คล้ายกับจมูกสุนัขดมกลิ่น ทั้งยังสามารถตรวจจับแมลงสาป และหนูได้ด้วยเช่นกัน
    [​IMG]
    7.ปากกาตรวจภาวะการตั้งครรภ์ นักศึกษาจากวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้เห็นถึงข้อด้อยที่ว่า การตั้งครรภ์ใช้เวลานานกว่าจะรู้ผลว่า การตั้งครรภ์มีความผิดปกติหรือไม่ จะมีภาวะแทรกซ้อนอะไรขึ้น
    [​IMG]
    ซึ่งพวกเขาได้ทำการประดิษฐ์ปากกาตรวจวัดการตั้งครรภ์ขั้นต้น ที่มีราคาถูก สามารถนำมาใช้ได้จริงตามสถานพยาบาลต่างๆ โดยการทำงานผู้ใช้จะขีดปลายปากกาลงบนหยดปัสสาวะ สีต่างๆจะสามารถบ่งบอกถึงความผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อให้คุณแม่สามารถรู้ความผิดปกติ และรักษาได้อย่างเนิ่นๆ
    [​IMG]
    8.เครื่องเปลี่ยนสิ่งปฏิกูลในยานพาหนะ ( Zero Liquid Discharge ) ด้วยการอ๊อกซิไดซ์ และการระเหยสิ่งปฏิกูลออกไป ให้กลายเป็นละอองของเหลว
    [​IMG]
    เป็นประโยชน์สำหรับเครื่องยนต์อย่างเรือสำราญ ที่มีสิ่งปฏิกูลจำนวนมาก โดยไม่ต้องปล่อยลงสู่ทะเล
    [​IMG]
    9.บอดี้บอร์ด ไฟฟ้า (body board) เจสัน วูดส์ ผู้ประดิษฐ์บอดี้บอร์ด ที่มีมอเตอร์ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้รวดเร็ว ขณะโลดแล่นอยู่บนผิวน้ำ
    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/npMwGbm96Do" frameBorder=0 width=420></IFRAME>
    โดยสามารถบังคับ ควบคุม โดยแฮนด์จับ
    [​IMG]
    10.กระจกวิเศษ บอกอัตราการเต้นของหัวใจ หมิง เซีย ป้อ นักศึกษาด้านเทคโนโลยี ในแมสซาชูเซตส์ คิดค้นวิธีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยการใช้กระจกสองด้าน แล้วใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และเว็บแคม ตรวจจับการสะท้อนของใบหน้า แปรผลออกมาผ่านกระจกด้านที่มีคนยืนอยู่
    [​IMG]
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศได้ลงข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของนายคิม จองอิล ผู้นำ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ขณะเดินทางด้วยรถไฟจากเมืองเปียงยาง คาดสาเหตุของการเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลวเนื่องจากการทำงานหนัก

    โดย เมื่อปี 2010 คิมได้เปิดตัวคิมจองอุน ลูกชายคนที่ 3 เพื่อสืบทอดตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือคนต่อไป
    ทั้งนี้ นายคิมนั้นต่อสู้กับโรคภาวะเส้นเลือดอุดตันในสมองมาตั้งแต่ปี 2008 นอกจากนี้ยังเป็นโรคหัวใจและเบาหวาน
    อย่างไรก็ตาม คิม จองอิลได้ชื่อว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดของเกาหลีเหนือ ที่สามารถสร้างความปั่นป่วนให้เกาหลีใต้ได้พอสมควร
    Mthai News

    [​IMG]
    สำนักข่าวต่างประเทศ เผยภาพเมืองคากายันเดโอโร และเมืองอิลิแกน บนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ กลายสภาพเป็นเมืองที่จมอยู่ใต้น้ำ มีแต่ซากปรักหักพัง หลังพายุโซนร้อนวาชิ พัดเข้าถล่ม ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่ม
    โดยตัวเลขล่าสุด มีผู้เสียชีวิต สูงถึง 652 คน และผู้สูญหายเพิ่มขึ้นเป็น 808 คน
    Mthai News
    [​IMG]
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    Photograph: Dennis M. Sabangan/EPA , Reuters , Erwin Mascarinas/AP , Froilan Gallardo/AP , Cherryl Vergeire / AFP/Getty Images
    แท็ก : น้ำท่วม, พายุวาชิ, ฟิลิปปินส์
     
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
    พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูุรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนายวิกโยธิน เปิดเผยถึงผลการประชุมเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและกัมพูชา จากกรณีที่ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเฮลิคอปเตอร์ ของกองทัพเรือ โดยทางฝ่ายกัมพูชาได้ส่ง ผู้บัญชาการทหารประจำจังหวัดเกาะกง ซึ่งดูแลและควบคุมทหารที่อยู่ติดเขตแดนของไทย
    โดยการหารือมีการพูดถึง 3 เรื่อง คือ
    1.ความผิดพลาดที่เกิดจากแผนที่ที่ใช้ไม่ตรงกัน ทำให้มีพื้นที่ทับซ้อนอยู่ประมาณ 500 เมตร
    2.การติดต่อของฝ่ายกัมพูชา โดยหน่วยเหนือกับหน่วยรองจนไปถึงผู้ปฏิบัติ ไม่มีเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร เช่น เมื่อฝ่ายเราติดต่อไปว่าตอนบ่ายจะนำเฮลิคอปเตอร์บินปฏิบัติภารกิจ เขาสื่อสารไปถึงลูกน้องของเขาไม่ทันเวลา และ
    3.ฝ่ายกัมพูชา ตั้งแต่ที่มีการปะทะกันบริเวณปราสาทพระวิหาร เขาได้สั่งกำชับว่าหากมีการรุกล้ำทางอากาศยานให้ใช้อาวุธได้ทันที เขาก็ยึดถือคำสั่งนั้น และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เกิดความเข้าใจผิดกัน
    “พล. ต. ยอนมิน ยอมรับและขอโทษที่ทหารฝ่ายกัมพูชาประมาทจนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเห็นว่า ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เป็นเพื่อนบ้านกัน หากเราล้ำแดนก็ให้ประท้วง ทำไมต้องยิงกัน ซึ่งจะนำเรื่องทั้งหมดไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกัมพูชาให้รับทราบเพื่อจะได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของไทยอีกครั้งหนึ่ง” พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ระบุ
    Mthai News


    [​IMG]
    สำนักข่าวต่างประเทศเผยภาพ แม่น้ำเจี้ยนเหอ ในเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนัน ประเทศจีน ที่น้ำกลายเป็นสีแดงเลือด
    ทั้งนี้ สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า สาเหตุที่น้ำในแม่น้ำเจี้ยนเหอกลายเป็นสีเลือดนี้ เกิดจากสารพิษที่ถูกปล่อยออกมาจากการย้อมสีของโรงงานเถื่อน 2 แห่ง
    โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำน้ำไปวิเคราะห์เพื่อหาทางบำบัดและฟ้องร้องโรงงานเถื่อนทั้ง 2 แห่งแล้ว
    Mthai News
    [​IMG]
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    แท็ก : แม่น้ำสีเลือด
     
  4. sirathep

    sirathep Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +67
    มีผู้ทรงปัญญา แจ้งข่าวมาว่า ในช่วงเทศกาลคริสต์มาศ และปีใหม่ ถ้ามีทุกคนเวลา ขอเชิญชวนช่วยกันสวดมนต์และแผ่เมตตากันเถิด เพราะสถานการณ์ของภัยพิบัติที่ร้ายแรงมีแนวโน้มว่าอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลที่ใกล้จะมาถึงนี้ (มีโอกาส 50-50) โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เพิ่งได้รับภัยพิบัติมา ก็อาจเกิดภัยพิบัติซ้ำซ้อนได้ ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพสนามแม่เหล็กของโลก ในขณะนี้สนามแม่เหล็กของโลกอยู่ในสถานภาพที่ไม่สมดุล อันเป็นผลเนื่องจากกรรมไม่ดีของชาวโลกรวมถึงท่านทั้งหลาย ได้ส่งพลังงานที่ไม่ดีไปกระทบทำให้พลังงานแห่งสนามแม่เหล็กโลกอยู่ในสภาพควบคุมสมดุลไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่มีการรื่นเริง มนุษย์ก็จะเฉลิมฉลองซึ่งเต็มไปด้วยกิเลส ยิ่งส่งผลให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลง การรักษาจิตให้อยู่ในความสงบ และการสวดมนต์ก็เป็นทางหนึ่งที่ช่วยส่งพลังงานแห่งความเมตตาแผ่ออกไป ซึ่งพลังงานที่ดีสามารถเสริมสร้าง morphic field ให้เกิดปรับตัวสู่สมดุลได้

    บางท่านอาจไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ท่านที่มีความเข้าใจว่าภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดเร็วๆ นี้ หรือในอนาคตข้างหน้านั้น เหตุของการเกิดก็หาใช่ใคร ก็พวกเราทั้งหลายนั่นเองที่สร้างกรรมไม่ดี อกุศลจิตหรือจิตที่ไม่สะอาดเต็มไปด้วยอำนาจด้านมืดก็เป็นเครื่องทำลายให้โลกนี้เต็มไปด้วยภัยพิบัติจากทั้งธรรมชาติและมนุษย์ด้วยกัน มนุษย์นั้นทำลายโอกาสของตัวเองด้วยความเห็นแก่ตัวของตัวเอง ดังที่ท่านพุทธาสได้เคยกล่าวไว้ว่า "ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ" ขอความเมตตาจากท่าน ได้ช่วยค้ำจุนสรรพชีวิตในดินแดนแห่งนี้ได้มีโอกาสต่อไปอีกสักเพลา โดยการร่วมกันสวดมนต์แผ่เมตตา แต่ละศาสนา ก็สวดด้วยวิธีการของตน เวลาที่เหมาะ น่าจะเป็นช่วง 2-3 ทุ่ม ของทุกวัน ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงคืนวันปีใหม่ ยิ่งสวดกันมากๆ ยิ่งลดโอกาสความเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติในช่วงนี้ ให้เลื่อนออกไปตามเหตุผลสมควรที่จะเกิด หากสนใจสวดมนต์ ไม่รู้จะสวดบทไหนดี ก็อาจเลือกบทสวดบูชาพระมหาโพธิสัตว์ "โอม มณี เป เม ฮง" หรือบทมหาเมตตาใหญ่ เข้าไปดูได้ที่
     
  5. นายสุริยา

    นายสุริยา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +94
    อนิจัง ทุกขัง อนัตตา
    อะไรจะเกิดให้มันเกิดทำจิตใจให้ผ่องแผ้วรักษาศีลให้บริสุทธิ์เคารพนับถือพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นที่สุดทำบุญแผ่เมตตาเชื่อมั่นในบารมีและสิ่งที่เราเคารพสูงสุดคือพระรัตนไตรและปฎิหารจะเกิดแก่ท่าน แต่ทางที่ดีทำบุญเตรียมตัวตายดีกว่าได้ไปสวรรค์ไม่ต้องมาเจอเรื่องวุ่นวายในสังคมโลกอีกแล้วแต่พวกท่านจะปราถนาเทอญ ถ้าพ้นปี2560ไปแล้วยังมีชีวิตอยู่ของให้พวกเราได้เจอกันและมาสร้างบุญด้วยกันนะครับพี่น้องร่วมโลก สาธุขอบารมีรวมตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงพระบรมมหาจักพรรดิ์บารมีพระปัจเจกพุทธเจ้าพระโพธิสัตย์พระอริยสาวกทุกพระองค์พระธรรมพระสงฆ์ตั้งแต่อดีตปัจจุบันอนาคตบารมีครูบาอาจาร์บารมีหลวงปู๋ทวดบารมีหลวงปู่ดู่หลวงตาม้าให้ปกปักรักษาพวกพี่น้องชาวไทยของข้าพพุทธเจ้าด้วยเทอญของให้ท่านทั้งหลายมีความสุขความเจริญสาธุ
    ปล.พิมคำได้ผิดพลาดหรือประมาดพลาดต่อพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ขอขมา อโหสิแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ
    มีไรpmมาแลกเปลี่ยนกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2011
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อารมณ์พระโสดาบัน

    [​IMG]
    พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    เนื่องจากในขณะนี้ ครูบาอาจารย์หลายๆสำนัก พยายามเน้นสอนลูกศิษย์ในเรื่องการละวางอัตตาตัวตน หรือความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายนี้ว่าเป็นตัวเราของเราให้ได้ เพื่อให้ทันกับภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดในอนาคตอันใกล้นี้ ผมจึงขออนุญาต นำคำสอนเรื่องการละวางอัตตาตัวตน(สักกายทิฏฐิ) ในระดับพระโสดาบัน ซึ่งแสดงธรรมโดยพระราชพรหมยาน มาให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณากันดังนี้ครับ

    <CENTER><TABLE id=AutoNumber1 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    <CENTER><TABLE id=AutoNumber2 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">
    <TABLE cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="90%" border=1><TBODY><TR><TD align=left>อารมณ์พระโสดาบัน
    ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย เวลานี้ท่านทั้งหลายได้สมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐานแล้ว ต่อไปนี้ขอได้โปรดฟังคำแนะนำ อารมณ์ของพระโสดาบัน
    สำหรับวันนี้จะได้พูดถึงอารมณ์ของท่านที่ทรงความเป็นพระโสดาบัน ท่านทั้งหลายจะได้ทราบไว้ว่า คนที่เป็นพระโสดาบันแล้วมีอารมณ์เป็นยังไง ส่วนใหญ่คนทั้งหลายมักจะมีความรู้สึกว่า คนที่เข้ามาเจริญพระกรรมฐาน หรือสมถภาวนา หรือ วิปัสสนาญาณ และเริ่มเข้ามาเจริญแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องตัดหมดนั้นเป็นความรู้สึกผิดของท่านผู้มีความคิดอย่างนั้น
    ความจริงการเจริญพระสมณธรรมมีอารมณ์เป็นขั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านที่ทรงจิตเป็น ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิหรือ อัปปนาสมาธิ สำหรับอัปปนาสมาธินี้หมายถึงอารมณ์ฌาน ตั้งแต่ฌานที่ 1 ถึงฌานที่ 8 อารมณ์ประเภทนี้จะระงับได้เพียงนิวรณ์ 5 ประการ แต่ก็เป็นเพียงระงับเท่านั้นไม่ใช่ตัด ถ้ายังมีความประมาทจิตคิดชั่ว ฌานก็สลายตัว เป็นอันว่าผู้ทรงฌานโดยเฉพาะอย่างยิ่งฌานโลกีย์ ยังไม่มีความหมาย ในการเจริญสมณธรรมในพระพุทธศาสนา ถึงแม้ว่าท่านผู้นั้นจะได้มโนมยิทธิก็ดี ได้อภิญญา 5 ในอภิญญา 6 ก็ดี ได้ 2 ในวิชชาสามก็ดี ก็ยังไม่มีความหมายในการตัดอบายภูมิ ท่านที่จะตัดอบายภูมิได้จริง ๆ ก็คือ ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป
    คำว่า พระโสดาบัน แปลว่า ผู้เข้าถึงกระแสพระนิพพาน
    ฉะนั้นพระโสดาบันก็ยังตัดอะไรไม่ได้หมด เป็นแต่เพียงว่ามีอารมณ์ชนะสังโยชน์ 3 ประการเบื้องต้น แต่เพียงอย่างอยาบเท่านั้น อารมณ์ชนะสังโยชน์ 3 ประการเบื้องต้นก็คือ
    1. สักกายทิฏฐิที่มีความรู้สึกว่าสภาพร่างกายหรือว่าขันธ์ 5 เป็นเรา เป็นของเรา เรามีในขันธ์ 5 ขันธ์ 5 มีในเรา เฉพาะอย่างยิ่งในด้านสักกายทิฏฐินี้ พระโสดาบันลดลงมาได้เพียงเล็กน้อย ยังมีความรู้สึกว่าร่างกายเป็นเรา เป็นของเราอยู่ แต่ทว่ามีอารมณ์ไม่ประมาท มีความรู้สึกอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ที่ท่านกล่าวว่าบรรดาพระโสดาบันกับพระสกิทาคามี เป็นผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ มีสมาธิเล็กน้อย คำว่าสมาธิเล็กน้อยคือ อารมณ์สมาธิของท่านผู้เจริญฌานสมาบัติ มีอารมณ์ตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป ยังไม่ถึงฌาน 4 ก็สามารถจะเป็นพระโสดาบันได้
    สำหรับที่ว่ามีปัญญาเล็กน้อย ก็เพราะว่ายังไม่สามารถตัดขันธ์ 5 ได้เด็ดขาดด้วยกำลังของจิต ยังมีความรู้สึกว่าร่างกายเป็นเรา เป็นของเรา แต่ทว่าความรู้สึกของท่านมีความดีอยู่หน่อยหนึ่งว่าเราจะต้องตาย ยังไง ๆ ก็ต้องตายแน่ เหมือนกับที่เปสการีมีอารมณ์คิดถึงคำสั่งสอนของสมเด็จพระธรรมสามิสร ที่ทรงตรัสว่า
    ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง ท่านทั้งหลายจงอย่ามีความประมาทในการสร้างความดี
    นี่ความรู้สึกของพระโสดาบันในด้านสักกายทิฏฐิ มีอยู่จุดนี้เข้าใจไว้ด้วย มีคนพูดกันว่าถ้าเจริญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน จะต้องสามารถระงับทุกขเวทนาได้หมด ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ร้อน ไม่หนาว นี่ไม่ใช่ความจริง ร่างกายยังมีความรู้สึก ร่างกายยังมีมีจิตเป็นเครื่องรักษา ร่างกายยังมีวิญญาณรู้การสัมผัส ถึงแม้ว่าพระอรหันต์ก็ดี พระพุทธเจ้าก็ดีก็ยังรู้สึก รู้สึกเจ็บ รู้สึกปวดเหมือนกัน
    นี่ว่ากันถึงอารมณ์ของพระโสดาบัน เมื่อจิตเข้าถึงพระโสดาบันแล้ว มีความไม่ประมาทในชีวิต มีความรู้สึกเสมอว่าเราจะต้องแก่ เราจะต้องตาย แล้วก็ขึ้นชื่อว่าความตายนี้ไม่มีนิมิตเครื่องหมาย ไม่ใช่ว่าจะไปกำหนดอายุการตายว่าต้องตายเท่านั้นเท่านี้ จะตายตั้งแต่ความเป็นเด็ก หรือ ความเป็นหนุ่มเป็นสาว ความเป็นคนแก่ อาการที่จะตาย อาจจะด้วยโรคภัยไข้เจ็บ อาจจะตายด้วยอุบัติเหตุ หรือตายเช้า ตายสาย ตายบ่าย ตายเที่ยง ตายกลางคืน ตายดึก ตายหัวค่ำก็เอาแน่นอนไม่ได้
    ฉะนั้น พระโสดาบันจึงไม่ประมาทในชีวิต คิดว่าถ้าเราจะตายก็เชิญ แต่เราจะตายอยู่กับความดี อารมณ์ของพระโสดาบันที่จะคัดค้านคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระชินศรีนั้นไม่มี คือว่าเป็นคนไม่สงสัยในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า นี่เป็นอันดับที่ 2 ที่เรียกว่าวิจิกิจฉา พระโสดาบันตัดสังโยชน์ตัวที่ 2 ได้ คือ ความสงสัย ที่เรียกว่า วิจิกิจฉา ขึ้นชื่อว่าความสงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่มีในพระโสดาบัน เกิดขึ้นด้วยกำลังของปัญญา ที่พิจารณาหาความจริงว่า
    พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นปัจจัยให้เกิดความสุข
    และอันดับ 3 สีลัพพตปรามาส พระโสดาบันย่อมทรงศีลบริสุทธิ์ตามฐานะของตัว คำว่า ฐานะของตัวก็หมายความว่า ถ้าเป็นฆราวาสก็มีศีล 5 เป็นปกติ มีศีล 5 บริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา ไม่มีเจตนาในการทำลายศีล รักษาศีลบริสุทธิ์ ไม่ทำลายศีลด้วยตนเอง ไม่ยุให้บุคคลอื่นทำลายศีล แล้วก็ไม่ยินดีเมื่อบุคคลอื่นทำลายศีลแล้ว เป็นอันว่าพระโสดาบันเป็นผู้มีความทรงอารมณ์อยู่ในศีลเป็นสำคัญ หนักหน่วงในเรื่องของศีล ยอมตัวตายดีกว่าศีลขาด
    ที่กล่าวมานี้หมายความว่า สังโยชน์ 3 ประการนี่ พระโสดาบันปฏิบัติมีจิตเข้าถึงตามนี้ นี่ก็พูดกันไปว่าก่อนที่จะเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันจากโลกียะเป็นโลกุตตระ ตอนนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเรียกว่า โคตรภูญาณ ขณะเมื่ออารมณ์จิตของท่านผู้ปฏิบัติเข้าถึงโคตรภูญาณ
    คำว่าโคตรภูญาณ นี่ก็หมายความว่า จิตของท่านผู้นั้น ยังอยู่ในระหว่างโลกียะกับโลกุตตระ
    แต่ทว่าอารมณ์ตอนนี้จะไม่ขังอยู่นาน บางท่านจิตจะทรงอยู่เพียงแค่ชั่วโมงหนึ่ง หรือไม่ถึงชั่วโมง และบางท่านก็อยู่ถึงอาทิตย์สองอาทิตย์ถึงเป็นเดือนก็มี สุดแล้วแต่ความเข้มแข็งของจิต ในช่วงที่จิตเข้าถึงโคตรภูญาณ ท่านกล่าวว่า ในขณะนั้นอารมณ์จิตของนักปฏิบัติ จะมีความรักพระนิพพานอย่างยิ่ง คือมีความรู้สึกอยู่เสมอว่ามนุษย์โลกก็ดี เทวโลกก็ดี พรหมโลกก็ดี ไม่เป็นแดนแห่งความสุข ถ้าเราเกิดเป็นมนุษย์ มันก็ทุกข์ตลอดเวลา ถ้าเกิดเป็นเทวดาก็พักทุกข์ชั่วคราว หรือ พรหมก็เช่นเดียวกัน ถ้าหมดบุญวาสนาบารมีแล้วก็จะต้องจากเทวดา จากพรหมมาเกิดเป็นคนบ้าง บางรายก็เกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นอันว่าเขตทั้ง 3 จุด ไม่มีความหมายสำหรับใจ
    จิตใจของท่านที่มีอารมณ์เข้าถึงโคตรภูญาณ ใจมีความต้องการอย่างเดียวคือ พระนิพพานเป็นปกติ
    แต่ทว่าพอจิตพ้นจากโคตรภูญาณไปแล้ว ก้าวเข้าสู่ความเป็นพระโสดาบันเต็มที่ ที่เรียกว่า โสดาปัตติผล ตอนนี้อารมณ์จิตของท่านละเอียดขึ้นมานิดหนึ่ง นอกจากจะรักพระนิพพานเป็นอารมณ์ แล้วก็มีความรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันเป็นของธรรมดา
    การนินทาว่าร้ายที่จะปรากฏขึ้นกับบุคคลผู้ใดกล่าวถึงเรา จิตดวงนี้มีความรู้สึกว่า ธรรมดาของคนที่เกิดมาในโลกมันเป็นอย่างนี้ ความป่วยไข้ไม่สบายเกิดขึ้น การพลัดพรากจากของรักของชอบใจเกิดขึ้น มีความรู้สึกหนักไปในด้านของธรรมดา แต่ทว่าธรรมดาของพระโสดาบัน ยังอ่อนกว่า ธรรมดาของพระอรหันต์มาก
    ฉะนั้น ท่านที่เข้าถึงความเป็นพระโสดาบัน จึงยังมีความรักในระหว่างเพศ ยังมีการแต่งงาน ยังมีความอยากรวย ยังมีความโกรธ ยังมีความหลง ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่า ท่านกล่าวไว้แล้วว่า พระโสดาบันมีสมาธิเล็กน้อย และก็มีปัญญาเล็กน้อย หากว่าท่านทั้งหลายจะถามว่า ถ้าคนยังมีความรักในเพศ ยังมีการแต่งงาน ยังมีการอยากรวย ยังมีความโกรธ ยังมีความหลงก็ดูเหมือนว่าพระโสดาบันก็คือ ชาวบ้านธรรมดา
    แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น ความรักในระหว่างเพศก็ดี ความอยากรวยก็ดี ความโกรธก็ดี ความหลงก็ดี ของพระโสดาบันอยู่ในขอบเขตของศีล เรารักในรูปโฉมโนมพรรณ มีการแต่งงานกันได้ระหว่างสามีภรรยาของตนเอง ยอมเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน จะนอกใจสามีและภรรยา ขึ้นชื่อว่า กาเมสุมิจฉาจาร จะไม่มีสำหรับพระโสดาบัน จะทำให้ครอบครัวนั้นมีอารมณ์เป็นสุข
    และประการที่ 2 พระโสดาบันยังมีความโกรธ ท่านโกรธจริง พูดเป็นที่ไม่ถูกใจท่านก็โกรธ ทำให้ไม่เป็นที่ไม่ถูกใจท่านก็โกรธ แต่ทว่าพระโสดาบันมีแต่อารมณ์โกรธ ไม่ประทุษร้ายให้เขามีการบาดเจ็บ และไม่ฆ่าคนหรือสัตว์ที่ทำให้ตนโกรธ ให้ถึงแก่ความตาย เป็นอันว่าความโกรธหรือความพยาบาทของท่าน อยู่ในขอบเขตของศีล จิตโกรธแต่ว่าไม่ทำร้าย คือ แตกต่างกับคนธรรมดาตรงนี้
    สำหรับด้านความหลงของพระโสดาบัน ที่ขึ้นชื่อว่าหลง เพราะยังมีความรักในเพศ ยังมีความอยากรวย เมื่อสักครู่นี้ข้ามคำว่าอยากรวยไป การอยากรวยของพระโสดาบัน คือ ต้องการความรวยในด้านสุจริตธรรมเท่านั้น เรียกว่า การทุจริตคิดร้ายคดโกงบุคคลอื่นใด ไม่มีในอารมณ์จิตของพระโสดาบัน ประกอบอาชีพด้วยความสุจริต เพราะอาศัยยังรักในความสวยสดงดงาม คือ รูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่าเพศยังมีอยู่ ยังมีความอยากรวย ยังมีความโกรธ ยังมีความหลง เพราะว่ายังคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ยังมีของสวยของงาม การถือตัวถือตนแบบนี้ จึงเชื่อว่ายังมีความหลง แต่ความหลงของพระโสดาบันนั้น ไม่สามารถจะนำบุคลผู้นั้น ในเวลาแล้วไปสู่อบายได้
    จุดนี้ขอบรรดาท่านทั้งหลายผู้รับฟัง จงจำไว้ว่า ความจริงอารมณ์ของพระโสดาบันนั้น ไม่แตกต่างกับชาวบ้านธรรมดาเท่าไรนัก ชาวบ้านธรรมดา ยังมีความรักในเพศ ยังมีสามี ภรรยา แต่ทว่ายังมีการนอกใจภรรยา สำหรับพระโสดาบันไม่มี ชาวบ้านอยากรวยก็ยังมีการคบคิดกันคดโกง การโกงมีการยื้อแย่งฉกชิงวิ่งราวดูทรัพย์ สำหรับพระโสดาบันนี่ ถ้าต้องการรวยก็รวยด้วยการสุจริต หากินด้วยความชอบธรรม ต่างกันตรงนี้
    พระโสดาบันยังมีความโกรธ ชาวบ้านโกรธแล้วก็ปรารถนาจะประทุษร้าย ถ้ามีโอกาสก็ประทุษร้ายบุคคลที่เราโกรธ ถ้าสามารถจะฆ่าได้ก็ฆ่า สำหรับพระโสดาบันมีแต่ความโกรธ การประทุษร้ายไม่มี การฆ่าการประหารไม่มี นี่ต่างกันกับชาวบ้าน
    พระโสดาบันยังมีความหลง ตามที่ได้กล่าวมาด้วยอาการที่ผ่านมาแล้ว แต่ทว่าพระโสดาบันก็ไม่ลืมคิดว่า เราจะต้องตาย เมื่อเราตายแล้ว เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ตอนนี้พระโสดาบันไม่เสียใจ ไม่เสียดาย ถือว่าถ้าตายเราจะมีความสุข นี่ขอท่านทั้งหลายจำอาการอารมณ์จิตที่เข้าถึงพระโสดาบันไว้ด้วย
    ตอนนี้จะขอพูดอีกนิดหนึ่งถึงอารมณ์ความจริงของพระโสดาบัน ที่เรียกกันว่า องค์ของพระโสดาบัน
    คำว่า องค์ ก็ได้แก่ อารมณ์จิตที่ทรงไว้อย่างนั้นอย่างแนบแน่นสนิท นั่นก็คือ
    1.พระโสดาบันมีความเคารพในพระพุทธเจ้าอย่างจริงใจ ไม่คลายในความเคารพในพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะมีเหตุผลใด ๆ เกิดขึ้น ใครจะมาจ้างให้รางวัลมาก ๆ ให้กล่าวว่าพระพุทธเจ้าไม่ใช่พระพุทธเจ้า พระธรรมไม่ใช่พระธรรม พระสงฆ์ไม่ใช่พระสงฆ์ แม้แต่พูดเล่นพระโสดาบันก็ไม่พูด ทั้งนี้เพราะว่าอะไร เพราะว่าท่านมีความเคารพในพระพุทธเจ้า มีความเคารพในพระธรรม มีความเคารพในพระอริยสงฆ์อย่างจริงใจ แต่ทว่าระวังให้ดี ถ้าพระสงฆ์เลว พระโสดาบันไม่ใส่ข้าวให้กิน
    ตัวอย่าง ภิกษุโกสัมพี มีความประพฤติชั่ว ตอนนั้นฆราวาสที่เป็นพระอริยเจ้านับหมื่น ไม่ยอมใส่ข้าวให้กิน เพราะถือว่าเป็นโจรปล้นพระพุทธศาสนา เป็นผู้ทำลายความดี ไม่ใช่ว่าเป็นพระอริยเจ้าแล้วละก็ จะเมตตาไปเสียทุกอย่าง ท่านเมตตาแต่คนดีหรือว่าบุคคลผู้ใดมีความประพฤติชั่วท่าน แนะนำแล้วสามารถจะกลับตัวได้ พระโสดาบันก็เมตตา ถ้าเขาชั่วแนะนำแล้วไม่สามารถจะกลับตัวได้ พระโสดาบันก็ทรงอุเบกขา คือ เฉยไม่สงเคราะห์ โปรดจำอารมณ์ตอนนี้ไว้ให้ดี
    2. ในประการต่อไป พระโสดาบันมีศีลบริสุทธิ์ ขอพูดย่อให้สั้น เพราะองค์ของพระโสดาบันก็คือ
    (1) มีความเคารพในพระพุทธเจ้า
    (2) มีความเคารพในพระธรรม
    (3) มีความเคารพในพระอริยสงฆ์
    นี่จัดเป็นองค์ที่มี 3 ประการ
    (4) และสิ่งที่จะแถมขึ้นมาก็คือรักพระนิพพานเป็นอารมณ์ ทำทุกสิ่งทุกอย่างไม่หวังผลตอบแทน ไม่หวังความดีมีชื่อเสียงในชาติปัจจุบัน มีความรู้สึกต้องการอยู่อย่างเดียวว่าเราทำความดีทุกอย่างเพื่อพระนิพพานเท่านั้น อารมณ์จิตตอนนี้ขอบรรดาท่าพุทธบริษัทภิกษุ สามเณรทุกท่านต้องจำไว้ จงอย่าไปคิดว่าพระโสดาบันเลอเลิศไปถึงอารมณ์อรหันต์โดยมากมักจะคิดว่าอารมณ์ของพระอรหันต์เป็นอารมณ์ของพระโสดาบัน ก็เลยทำกันไม่ถึง นี่เป็นการคิดผิด ความจริงการเป็นพระโสดาบันเป็นง่าย มีอารมณ์ไม่หนักที่หนักจริง ๆ ก็ คือ ศีลอย่างเดียว
    ต่อไปนี้ขอพูดถึงอาการของพระโสดาบันที่จะพึงได้ พระโสดาบันจัดเป็น 3 ขั้น คือ
    1.สัตตักขัตตุง สำหรับที่ท่านเป็นพระโสดาบันมีอารมณ์ยังอ่อน จะต้องเกิดและตายในระหว่างเทวดาหรือพรหมกับมนุษย์อีกอย่างละ 7 ชาติ เป็นมนุษย์ชาติที่ 7 และเข้าถึงความเป็นอรหัตผล
    2. ถ้ามีอารมณ์เข้มแข็งปานกลาง ที่เรียกกันว่า โกลังโกละอย่างนี้จะทรงความเป็นเทวดาหรือมนุษย์อีกอย่างละ 3 ชาติครบเป็นมนุษย์ชาติที่ 3 เป็นพระอรหันต์
    3.สำหรับพระโสดาบันที่มีอารมณ์เข้มแข็งเรียกว่า เอกพิชี นั่นก็จะเกิดเป็นเทวดาอีกครั้งเดียว มาเกิดเป็นมนุษย์แล้วก็เป็นพระอรหันต์
    4.ที่พูดตามนี้ หมายความว่า ท่านผู้นั้นเมื่อเป็นพระโสดาบันแล้วเกิดใหม่ไม่ได้พบพระพุทธศาสนา จะต้องฝึกฝนตนเองอยู่เสมอทุกชาติ แต่ว่าความเป็นมิจฉาทิฏฐิในชาติต่อ ๆไป จะไม่มีแก่พระโสดาบัน เพราะว่า พระโสดาบันไม่มีสิทธิที่จะไปเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน จะเกิดได้แค่ช่วงแห่งความเป็นมนุษย์กับเทวดาหรือพรหมสลับกันเท่านั้น
    เป็นอันว่าพระโสดาบันนี่ ถ้าท่านทั้งหลายพิจารณาให้ดีแล้ว ก็มีความรู้สึกว่าเป็นของไม่ยาก
    หากว่าท่านจะถามว่า พระโสดาบันทั้งสัตตักขัตตุง โกลังโกละ และเอกพีชี มีอารมณ์ต่างกันอย่างไร
    ก็จะขอตอบว่า พระโสดาบันขั้นสัตตักขัตตุง มีจริยาคล้ายชาวบ้านธรรมดามาก ยังมีอารมณ์รุนแรงในความรัก ยังมีอารมณ์รุนแรงในความโลภ ในความโกรธ ในความหลง แต่ทว่าเป็นผู้มั่นคงในศีล ไม่ละเมิด
    สำหรับพระโสดาบันขั้นโกลังโกละ ขั้นโกลังโกละนี้มีอารมณ์เยือกเย็นมาก หรือว่ามีความมั่นในคุณพระรัตนตรัย มีศีลมั่นคงมาก ความจริงเรื่องศีลนี่มั่นคงเหมือนกัน แต่ว่าจิตท่านเบาบางในด้านความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความคำนึงถึงอารมณ์อย่างนี้มีอยู่แต่ก็น้อย ถ้ามีคู่ครองเขาจะโทษว่า กามคุณท่านจะลดหย่อนลงไป ความสนใจในเพศ ความสนใจในความโลภ อารมณ์แห่งความโกรธ อารมณ์แห่งความหลงมันเบา กระทบไม่ค่อยจะมีความรู้สึก
    สำหรับพระโสดาบันขั้นเอกพีชี ในตอนนี้อารมณ์ของท่านผู้นั้น จะมีอารมณ์ธรรมดาอยู่มาก ขอท่านทั้งหลายโปรดอย่าลืมว่า พระอริยเจ้าจะเป็นฆราวาสก็ดี จะเป็นพระก็ดี จะเป็นเณรก็ดี จะเป็นคนมีจิตละเอียด ไม่ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา และไม่ขัดคำสั่ง ไม่ฝ่าฝืนกฎระเบียบวินัยและกฏหมาย อันนี้เป็นอารมณ์ของพระโสดาบัน ที่ท่านทั้งหลายจะพึงทราบ
    สำหรับเอกพิชีนี่ ความจริงมีอาการจิตใจใกล้พระสกิทาคามี แต่ทว่าสิ่งที่จะระงับไว้ได้นั้น กดด้วยกำลังของศีล มีความรู้สึกว่าเราจะต้องประคับประคองศีลของเราให้แจ่มใสอยู่เสมอ มองดูความรักในระหว่าเพศ หรือว่าความร่ำรวย หรือว่าความโกรธ หรือหลงในระหว่างเพศ หลงในสภาวะต่าง ๆ เห็นว่าเป็นของไร้สาระ มีอารมณ์เบาในความปรารถนาในสิ่งนั้น ๆ แต่ทว่าก็ยังมีความปรารถนาอยู่
    เอาละ บรรดาสาวกขององค์สมเด็จพระบรมครู เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ วันนี้คงไม่ได้อารมณ์แห่งการปฏิบัติ แต่ทว่าอารมณ์แห่งการปฏิบัติ ในความเป็นพระโสดาบันท่านฟังกันมาแล้วสองคืน ผมเองมีความรู้สึกว่า ท่านทั้งหลายคงจะรู้สึกว่าง่ายสำหรับท่าน แต่ถ้าหากว่าเห็นว่าอารมณ์ของพระโสดาบันยากนี่ ถ้าเป็นพระเป็นเณร ผมไม่ถือว่าเป็นพระเป็นเณร ผมถือว่าเป็นเถน เถนในที่นี้หมายความว่ามี สระเอ นำหน้า มีถอถุง และ นอหนู เขาแปลว่าหัวขโมย คือ ขโมยเอาเพศของพระอริยเจ้ามาหลอกลวงชาวบ้าน ตามปกติพระกับเณรนี่ต้องทรงศีลบริสุทธิ์อยู่แล้ว
    เอาละ พุดไปเวลามันเกินไป 1 นาที ก็ขอพอไว้แต่เพียงนี้ หวังว่าท่านทั้งหลายคงจะเข้าใจ ต่อแต่นี้ไปขอท่านทั้งหลายตั้งกายให้ตรง ดำรงจิตให้มั่น จะอยู่ในอิริยาบถใดก็ตาม นั่งก็ได้ ยืนก็ได้ เดินก็ได้ นอนก็ได้ตามอัธยาศัย ทรงกำลังใจควบคุมความเป็นพระโสดาบันของท่านไว้ จนกว่าจะถึงเวลาที่ท่านเห็นว่าสมควร สวัสดี
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​
    ที่มา http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=195
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 108000644.jpg
      108000644.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.2 KB
      เปิดดู:
      4,684
  7. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    สาธุ สาธุ สาธุครับ
    ขอบพระคุณท่านเกษมที่นำมาให้อ่านกัน
     
  8. เติมบุญ

    เติมบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +174
    เอาเถอะยิ่งอ่าน ยิ่งฟัง ยิ่งปวดห้ว ตายก็ตาย ทำไงได้ก็เราเป็นส่วนหนึ่งของโลก ถ้าจะให้หนีก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ยอมเป็นคนบาปตายพร้อมครอบครัวก็แล้วกัน เพราะยังไง ก็ต้องตาย หนีไม่พ้น ไม่รู้จะทำให้จิตหมองเพราะความกังวลไปทำไม
     
  9. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    ถูกต้องนะจ๊ะ จะทำให้ใจเศร้าหมองไปทำไม ยังไงก็ตาย ตายช้าตายเร็วก็ตาย จะแก่ตายป่วยตายโลกวิปริตตายก็ตาย กี่ภพกี่ชาติก็ตาย เป็นมนุษย์ก็ตายเป็นสัตว์ก็ตาย ไม่เห็นจะมีอะไร สำคัญที่เราต้องทำกำลังใจให้เห็นว่า ทุกอย่างของโลกก็ไม่เห็นมีอะไร
     
  10. มโหสถผู้เจริญ

    มโหสถผู้เจริญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +851
    มันเริ่ม........................แล้วสิ.....นะ....
     
  11. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    20 ธ.ค. 54 เจ้าสังเวียน

    มุมแดง ค่ายราชดำเนิน
    มุมเขียว ค่ายสวนมิกสักกวัน

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  12. ยัย fame

    ยัย fame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2011
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +104

    หมายความ.....ว่าไงคะ......อ๋อ....แล้วลุงเชียร์ค่ายไหน.........
     
  13. มโหสถผู้เจริญ

    มโหสถผู้เจริญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +851
    อ่ะ!!! แย่แว๊ววววววววววววว
     
  14. สิริพล

    สิริพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +336
    กลับบ้านทันไหมเนี่ยะ ยังนั่งทำงานอยู่เลย
     
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>วัดอรุณฯ ผวาดินทรุดหลังกำแพงโบราณ หวั่นพระปรางค์พัง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันที่ 19 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พระครูอรุณธรรมานุวัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

    ในฐานะประธานฝ่ายภูมิทัศน์และพิธีการ เปิดเผยว่า ช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ วัดอรุณฯ ได้จัดการป้องกันอย่างเต็มที่ จนทำให้วัดรอดจากน้ำท่วม แต่ขณะนี้วัดยังคงสูบน้ำออกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 2 วันที่ผ่านมา พบการทรุดตัวของพื้นลานหน้าพระปรางค์วัดอรุณ ความยาวประมาณ 2 เมตร มีความลึกประมาณ 1 ฟุต ห่างจากองค์พระปรางค์ไม่เกิน 10 เมตร แนวดังกล่าวอยู่บริเวณกำแพงริมแม่น้ำเดิมที่มีอายุมากกว่า 70-80 ปี ถ้าเป็นพื้นที่แนวกำแพงริมแม่น้ำใหม่จะไม่กังวล เพราะมีการถมแม่น้ำออกไป แต่นี่ทรุดในแนวพื้นที่กำแพงริมแม่น้ำเก่าเกรงว่า หากมีการทรุดตัวมากกว่านี้จะส่งผลกระทบต่อพระปรางค์ว่า จะเกิดการทรุดเอียงหรือพังลงมาได้

    พระอรุณธรรมานุวัตร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านการป้องกันน้ำท่วมมีการก่ออิฐ เสริมกระสอบทรายในพื้นที่โดยรอบ

    จากเดิมกำแพงสูง 2.80 เมตร เสริมขึ้นไปเป็น 3 เมตร ที่น่าประหลาดใจ คือ น้ำไม่ท่วม แต่เหตุใดพื้นที่ภายในกำแพงเดิมถึงทรุด โดยกำแพงเดิมจะทำเป็นฟันปลาสลับ เพื่อลดแรงปะทะของน้ำ ปัจจุบันได้ทำเป็นเขื่อนแนวตรงทำให้พื้นที่ของกำแพงวัดปะทะกับน้ำโดยตรง ขณะเดียวกัน พื้นที่ภายในวัดอรุณโดยเฉพาะบริเวณองค์พระปรางค์จะมีโพรงหรือท่อน้ำที่เข้ามาถึงองค์พระปรางค์ได้ เมื่อระดับน้ำสูงขึ้นหรือหน้าน้ำหลาก น้ำจะเข้าท่วมบริเวณฐานขององค์พระปรางค์วัดอรุณฯ ก่อน จะเห็นเหมือนว่าองค์พระปรางค์ลอยน้ำ

    “ตอนนี้เราไม่รู้ว่า ใต้พื้นดินที่ทรุดและภายในฐานองค์พระปรางค์เป็นโพรงมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากระบบวิศวกรสมัยก่อนเขาจะขุดให้เป็นโพรงแล้วนำท่อนซุงมาวางเพื่อเป็นฐานราก มีการวางระบบท่อโบราณเช่นไรมีการอุดตันหรือไม่ หากปล่อยทิ้งไว้เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อพื้นที่และองค์พระปรางค์ได้ จึงอยากให้กรมศิลปากร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาตรวจสอบการทรุดตัวที่เกิดขึ้นด้วย ความรู้สึกของคนไทยหรือคนที่เห็นอาจจะรู้สึกเฉยๆ ว่ามีการทรุดตัวเล็กน้อย แต่อาตมาไม่คิดเช่นนั้น เพราะมันอยู่หลังกำแพงเก่าที่ดินมีการถมมานานมากแล้ว และไม่เคยเห็นการทรุดตัวแบบนี้ หากปล่อยไว้แล้วเกิดผลกระทบรุนแรงขึ้น มาจะสร้างความเสียหายต่อองค์พระปรางค์ซึ่งเป็น หน้าตาของประเทศได้” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณฯ กล่าว

    ด้านนายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผอ.สำนักโบราณคดีกรมศิลปากร กรมศิลปากร กล่าวว่า

    ตนจะเร่งเข้าไปตรวจสอบความเสียหายของการทรุดตัวหลังกำแพงเดิมภายในพื้นที่วัดอรุณว่า สาเหตุทรุดตัวเกิดจากอะไร แล้วจะเกิดผลกระทบต่อองค์พระปรางค์หรือไม่ คงต้องไปสำรวจความเสียหายก่อน ถึงจะมีการซ่อมแซม เพื่อให้เกิดความมั่นคง อย่างไรก็ตาม จากนี้ตนคงต้องหารือกับทางวัดว่า มีความเสียหายใดเกิดขึ้นกับทางวัดบ้าง

    สำหรับพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่2 ทรงมีพระราชปรารภสร้างพระปรางค์ในวัดอรุณฯ ซึ่งเดิมสร้างสูง 16 เมตรนั้นให้สูงขึ้นอีกเพื่อเป็นศรีแก่พระนคร แต่พอทรงกำหนดแผนผังที่จะสร้างใน พ.ศ.2363 ได้รื้อพระปรางค์องค์เดิม และขุดดินวางรากฐานแล้ว ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน

    พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดฯ ให้ดำเนินการสร้างพระปรางค์ต่อ และเสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อ 2 กันยายน พ.ศ.2385 ครั้นพอสร้างเสร็จจนถึงยกยอดนภศูลและพระมหามงกุฏไว้บนยอด แต่ไม่ทันจัดงานฉลองก็สิ้นรัชกาลเสียก่อนใน พ.ศ.2394 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดฯ ให้จัดงานฉลอง ทั้งนี้องค์ประปรางค์ ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา สูง 81.85 เมตร วัดรอบฐาน 234 เมตร ปัจจุบันมีอายุเก่าแก่กว่า 160 ปี

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อุตุฯเตือนฉบับที่ 4 พายุวาชิ ส่งผล 8 จว.ภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนัก คลื่นสูง 2-4 เมตร </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศเตือนภัยฉบับที่ 4 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2554 เมื่อเวลา 05.30 น. เรื่องพายุ วาชิ ระบุว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (20 ธ.ค. 54) พายุโซนร้อน “วาชิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ได้อ่อนกำลังลง
    เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้วและจะเคลื่อนตัวเข้าประเทศมาเลเซีย ในวันพุธที่ 21 ธ.ค. 54 ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าฝั่ง สำหรับชาวเรือขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 21-22 ธ.ค. 54

    อนึ่ง ในระยะ 1-2 วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ในวันศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 54 จะมีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เสริมปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกครั้ง ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    ภาคเหนือ ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
    ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา: อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>กทม.สรุปผลกระทบมหาอุทกภัย 54-คนกรุงเดือดร้อน 8 แสนครัวเรือน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันที่ 19 ธ.ค. ที่ศาลาว่าการกทม. กทม.รวบรวมข้อมูลพื้นฐานอุทกภัย ปี 2554 ดังนี้

    1.จำนวนพื้นที่เขตที่ไม่ได้รับผลกระทบเลยมี 12 เขต แบ่งเป็น 1.1พื้นที่เขตกรุงธนใต้ 2 เขต คือ ทุ่งครุ และราษฏร์บูรณะ 1.2พื้นที่เขตกรุงธนเหนือ 1 เขตคือ คลองสาน 1.3พื้นที่เขตกรุงเทพกลาง 4 เขต คือ ป้อมปราบฯ ราชเทวี วังทองหลาง และ พญาไท 1.4พื้นที่เขตกรุงเทพใต้ 5 เขต คือ วัฒนา สาทร สวนหลวง ปทุมวัน และบางนา

    2.จำนวนพื้นที่ที่เสียหายบางส่วนที่เกิดจากปริมาณน้ำเจ้าพระยาขึ้น-ลง(ผลกระทบช่วงสั้นๆ) มี 9 เขต แบ่งเป็น 2.1 พื้นที่เขตกรุงเทพกลาง 3 เขต คือ พระนคร ดุสิต และสัมพันธวงศ์ 2.2 พื้นที่กรุงเทพใต้ 5 เขต คือ บางรัก บางคอแหลม คลองเตย ยานนาวา และพระโขนง 2.3 พื้นที่เขตกรุงเทพเหนือ 1 เขต คือ บางซื่อ

    3.จำนวนพื้นที่เสียหายบางส่วนที่เกิดจากน้ำเหนือ แบ่งเป็น 3.1 พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเกิน 20 %ของพื้นที่ มี 9 เขต ได้แก่ 3.1.1 พื้นที่เขตกรุงเทพตะวันออก 6 เขต คือ ประเวศ คันนายาว มีนบุรี ลาดกระบัง และสะพานสูง 3.1.2 พื้นที่เขตกรุงเทพเหนือ 1 เขต คือ ลาดพร้าว 3.1.3 พื้นที่เขตกรุงธนเหนือ 1 เขต คือ บางกอกน้อย 3.1.4 พื้นที่เขตกรุงธนใต้ 1 เขต คือ บางบอน

    3.2 พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายน้อยกว่า 20%ของพื้นที่มี 8 เขตได้แก่ 3.2.1 พื้นที่เขตกรุงเทพกลาง 2 เขต คือ ดินแดง ห้วยขวาง 3.2.2 พื้นที่เขตกรุงเทพตะวันออก 2 เขต คือ บึงกุ่ม บางกะปิ 3.2.3 พื้นที่เขตกรุงธนเหนือ 3 เขต คือ บางกอกใหญ่ จอมทอง ธนบุรี 3.2.4 พื้นที่เขตกรุงธนใต้ 1 เขต คือ บางขุนเทียน

    4.พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายทั้งเขตที่เกิดจากน้ำเหนือ(ได้รับผลกระทบเป็นเวลานาน) มี 12 เขต แบ่งเป็น 4.1 พื้นที่เขตกรุงธนเหนือ 3 เขต คือ ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางพลัด 4.2 พื้นที่เขตกรุงธนใต้ 3 เขต คือ บางแค ภาษีเจริญ หนองแขม 4.3 พื้นที่เขตกรุงเทพเหนือ 5 เขต คือ ดอนเมือง บางเขน สายไหม หลักสี่ จตุจักร 4.4 พื้นที่เขตกรุงเทพตะวันออก 1 เขต คือ คลองสามวา

    สำหรับจำนวนยอดครัวเรือนในพื้นที่เขตกทม.ทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 54 มีทั้งสิ้น 828,915 ครัวเรือน

    โดยเขตที่ได้รับผลกระทบทั้งเขต 12 เขต มีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้ 1.พื้นที่เขตกรุงธนเหนือ มี ตลิ่งชัน 37,243 ครัวเรือน ทวีวัฒนา 29,880 ครัวเรือน และ บางพลัด 45,252 ครัวเรือน 2.พื้นที่เขตกรุงธนใต้ มี บางแค 78,764 ครัวเรือน ภาษีเจริญ 6,839 ครัวเรือน หนองแขม 54,676 ครัวเรือน 3.พื้นที่เขตกรุงเทพเหนือ มี ดอนเมือง 64,735 ครัวเรือน บางเขน 51,302 ครัวเรือน สายไหม 83,816 ครัวเรือน หลักสี่ 46,141 ครัวเรือน จตุจักร 4,290 ครัวเรือน 4.พื้นที่เขตกรุงเทพตะวันออก มี คลองสามวา 26,129 ครัวเรือน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ฟิลิปินส์สรุปผู้เสียชีวิตจากวาชิ927ราย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ทางการฟิลิปปินส์ สรุปยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่น วาชิ เพิ่มขึ้นเป็น 927 ศพ พร้อมทั้งคาดการณ์ จะพบศพอีกจำนวนมากในทะเล


    นายเบนิโต รามอส ผู้อำนวยการบริหารสภาการจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ เผยว่า ตอนนี้มียอดรวมจากผู้เสียชีวิตด้วยไต้ฝุ่น วาชิ 927 ศพ และคาดว่า จะพบศพผู้เสียชีวิตอีกจำนวนมากในทะเล ขณะเดียวกัน นายเบนิโต รามอส ได้เผยว่า ตอนนี้ ยังไม่สามารถยืนยันถึงยอดผู้สูญหายได้ชัดเจน หลังจากที่ ไต้ฝุ่นวาชิ พัดเข้ามายัง ประเทศฟิลิปปินส์

    ซึ่งส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำในแม่น้ำหลายสาย บนเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของประเทศ เอ่อล้น


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. คนดี14

    คนดี14 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +0
    ลิ้งค์ถอดคำสัมภาษณ์ พ่อ ดช.ปลาบู่ คำต่อคำ

    kan kondee
     
  17. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    21 ธ.ค. 54

    รู้สี ย่อมรู้สื่อ
    เดินธรรม ไม่มีข้าง

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  18. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    กำลังสนใจพอดี ได้อ่านธรรมะจากพระครูบาบุญชุ่ม หน้า 10 เรื่องพระโสดาบัน ตัดสังโยชน์ได้3อย่าง คือ 1ละสักกายะทิฏฐิ 2ละวิจิกิจฉา 3 ละสิละปัตตะปรามาท
    พิมพ์ไม่เก่ง ลองหาอ่านแบ่งกันดูนะ มีคำอธิบายละเอียด
     
  19. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    อาร์มาเกดดอน ไวรัสมรณะ

    [​IMG]


    สื่อ ตปท.เผย นักวิทยาศาสตร์เนเธอร์แลนด์ เพาะไวรัสไข้หวัดนกมรณะ หวั่น หลุดจากห้องทดลอง

    (21 ธ.ค.54) เว็บไซท์แท็บลอยด์ เดลี่เมล ของอังกฤษ รายงานว่า ไวรัสไข้ หวัดนกสายพันธุ์มรณะ ที่สามารถติดต่อ และแพร่ระบาดสู่คนหลายล้านคน ได้ถูกพัฒนาขึ้นแล้วในห้องทดลอง


    โดยคณะนักวิทยาศาสตร์ชาวเนเธอร์แลนด์ ได้สร้าง "ไวรัสอาร์มาเกดดอน " ระบุว่า นี่อาจจะเป็นหนึ่งในไวรัสที่อันตรายที่สุดที่สามารถถูกสร้างขึ้นมาได้

    นักวิทยาศาสตร์ชุดนี้ ได้มุ่งเน้นการวิจัยไปที่ปัจจัยที่สามารถทำให้ไวรัสไข้หวัดนก ที่สามารถคร่าชีวิตคนที่ติดเชื้อได้มากกว่าครึ่ง แต่ไม่สามารถแพร่ระบาดได้โดยง่าย กลับกลายเป็นซูเปอร์ไวรัส ที่สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย


    ซึ่งคำตอบในเรื่องนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาวัคซีนและยา เพื่อป้องกันความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้

    แต่ก็มีนักวิชาการบางคนที่ออกมาโต้แย้งว่า ไม่ควรจะเพาะพันธุ์ไวรัสชนิด นี้ และเตือนถึงอันตรายถ้ามันหลุดรอดออกไปจากห้องแลปทดลอง และที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ การที่มันไปตกอยู่ในมือของผู้ก่อการร้ายที่กำลังมองหาอาวุธชีวภาพชั้นยอด


    ขณะที่รัฐบาลสหรัฐกำลังวิตกเช่นกัน และคณะที่ปรึกษาต่างพยายามจะขัดขวางไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเพาะเชื้อไวรัสถูกเผยแพร่ออกไป

    นายพอล เคียม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยาศาสตร์แห่งชาติด้านชีวนิรภัย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อแอนแทร็กซ์ด้วย ระบุว่า เขาไม่คิดว่าจะมีอะไรที่น่ากลัวไปกว่าไวรัสชนิดนี้
    อีกแล้ว อันตรายของเชื้อแอนแทร็กซ์เทียบไม่ได้กับไวรัสชนิดนี้

    เคยเกิดเหตุการณ์ที่น่าวิตกแบบเดียวกันนี้ เมื่อ 6 ปีก่อน เมื่อมีข่าวว่า คณะนักวิทยาศาสตร์อีกชุดหนึ่ง ได้เพาะเชื้อไวรัสไข้หวัดสเปน ที่คร่าชีวิตประชาชนไปถึง 50 ล้านคน เมื่อปี 2461


    และปรากฎในภายหลังว่า ไม่เป็นความจริง ตามด้วยประเด็นขัดแย้งล่าสุดเกี่ยวกับไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่มีการเตือนถึงอันตรายที่อาจจะมีการระบาดไปทั่วโลก ที่จะทำให้คนเสียชีวิตเป็นร้อยล้านคน

    มีผู้ติดเชื้อไวรัสไข้ หวัดนกสายพันธุ์ H1N1 จำนวน 573 คน ทั่วโลก และในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิต 336 คน แต่มันไม่สามารถแพร่ะระบาดจากคนสู่คนได้อย่างง่ายดาย ทำให้ความวิตกเรื่องการแพร่ระบาดลดลงไปด้วย


    แต่ปัจจุบัน คณะนักวิทยาศาสตร์จากศูนย์การแพทย์ อิรัสมัส ในนครรอตเทอร์ดาม ได้เพาะไวรัสไข้ หวัดนกสายพันธุ์ H1N1 ที่แพร่ระบาดได้ง่ายเหมือนไข้หวัดในช่วงฤดูหนาว โดยจากการทดลองกับตัวเฟอร์เร็ต ซึ่งเป็นสัตว์คล้ายพังพอน ที่เมื่อรับเชื้อจะมีอาการใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด

    และพบว่า เพียงแค่ไวรัสชนิดนี้กลายพันธุ์ ทำให้มันแปรสภาพจากไวรัสไข้หวัดนกธรรมดา กลายเป็นสายพันธุ์ที่มีอันตรายและมีขีดความสามารถแพร่ระบาดได้อย่างสูง หรือที่เรียกว่า ซูเปอร์-สปรีดเดอร์

    รอน ฟูเชียร์ นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ ระบุว่า ตอนนี้ทราบแล้วว่า การกลายพันธุ์ชนิดไหนที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันและยับยั้งการระบาดก่อนที่จะสายเกินไป ด้านโฆษกของสถาบัน


    ระบุว่า ถ้าการวิจัยนี้อยู่ภายใต้สภาพความปลอดภัยอย่างสูงสุด ประโยชน์ที่จะได้รับจากการทดลองครั้งนี้จะมีค่าเหนือกว่าความเสี่ยงใด ๆ

    ด้านโดนัลด์ เฮนเดอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านชีวนิรภัย ที่เป็นแกนนำในการผลักดันให้ไข้ทรพิษหมดไปจากโลก ได้เปิดเผยต่อนิตยสาร นิว ไซเอินทิสต์ ว่า ไวรัสมรณะที่มีอัตราการฆ่า 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าสามารถหลุดรอดออกไปได้ ผลที่ตามมาคือหายนะ


    [​IMG]


    www.dailymail.co.uk/health/article-2076422/Bird-flu-potential-infect-millions-grown-DELIBERATELY-Dutch-laboratory.html

    www.komchadluek.net/detail/20111221/118285/อาร์มาเกดดอนไวรัสมรณะ!.html

    www.nwoobserver.wordpress.com/2009/11/13/armageddon-has-begun/
    <!--MsgFile=0-->
     
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่าวประเทศเผยภาพก้อนเมฆหลายก้อนก่อตัวเป็นคลื่นบนท้องฟ้า เหนือเมืองเบอร์มิ่งแฮม รัฐแอละแบมา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(16 ธ.ค.) สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้พบเห็นอย่างมาก
    ทั้งนี้เมฆลักษณะแบบนี้เรียกว่า เมฆคลื่นเคลวิน-เฮลม์โฮลตซ์ หรือเมฆลายพลิ้ว เป็นเมฆที่ม้วนตัวเป็นรูปคลื่น ซึ่งจะเกิดเมื่อมีลมที่พัดสวนกันที่ระดับต่างกัน เมฆด้านล่างจะถูกดึงไว้ ทำให้เมฆด้านบนเคลื่อนที่ไปเร็วกว่า จึงเกิดการม้วนตัวคล้ายลักษณะคลื่นกระทบฝั่ง
    Mthai News
    [​IMG]
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    แท็ก : สหรัฐ, เบอร์มิ่งแฮม, เมฆลายพลิ้ว





    20 สุดยอดภาพถ่าย มุมมองนอกโลกจากยานอวกาศ ปี 2011


    ข่าว » ข่าวต่างประเทศ, ข่าวเด่นประจำวัน, ภาพข่าว » 20 สุดยอดภาพถ่าย มุมมองนอกโลกจากยานอวกาศ ปี 2011
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=aswift_0 height=15 marginHeight=0 frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=aswift_0 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>
    [​IMG]
    สุดยอด ภาพถ่ายมุมมองนอกโลก จากยานอวกาศ ปี2011
    Mthai news: สำนักข่าวเทเลกราฟ ของอังกฤษเปิดเผยภาพถ่าย ที่บันทึกได้จากสถานีอวกาศนานาชาติ
    ซึ่งแต่ละภาพแสดงถึงภูมิประเทศต่างๆของพื้นผิวโลก ในลักษณะแตกต่างกันไป หลายร้อยไมล์ เหนือผิวโลก บางภาพเผยถึงภาพเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญ อาทิ พายุเฮอริเคน การลำลายล้างจากไฟป่า และการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อช่วงต้นปี
    [​IMG]
    1.วันที่ 6 มกราคม ภาพเทือกเขาหิมาลัยเต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง บันทึกโดยมนุษย์อวกาศ จากสถานีอวกาศนานาชาติ
    [​IMG]
    2.นายเดอรัต อัล บาเรห์น ช่างภาพชาวบาเรห์น บันทึกภาพถ่ายเกาะแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา โดยสถานที่แห่งนี้มีการสร้างโรงแรมหรู ที่พักอาศัย ศูนย์การค้า เมื่อมองจากด้านบนจะเห็นภาพที่แปลกตา
    [​IMG]
    3.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ช่างภาพบันทึกภาพภูเขาไฟ ใกล้กับเวิร์ดลากูน่า บนพรมแดนประเทศชิลี และโบลิเวีย
    [​IMG]
    4.นายเปาโล เนสโปลี มนุษย์อวกาศ บันทึกภาพยานขนส่งอัตโนมัติ (Automated Transfer Vehicle – ATV) ลำแรกขององค์การอวกาศยุโรป ซึ่งจะทำหน้าที่ขนส่งพัสดุ อาหาร น้ำ ขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ และเขาก็สามารถจับภาพยานลำนี้ได้พอดีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
    [​IMG]
    5.ภารกิจสุดท้ายของกระสวยอวกาศดิสคัฟเวรี บันทึกเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นับว่าเป็นกระสวยลำดับที่ 39 ก่อนที่จะจบสิ้นภารกิจ
    [​IMG]
    6.ภาพแนวชายฝั่งทะเล ตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเซนได อ่าวอ่าวมัตสุชิมา (Matsushima) 13 มีนาคม แสงแดดสาดส่องผิวน้ำ หลังจากที่เกิดคลื่อนยักษ์สึนามิ
    เมื่อวันที่ 11 มีนาคม เป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน
    [​IMG]
    7.เอสทัวรี่ ตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะมาดากัสการ์ บันทึกเมื่อ 24 เมษายน ปรากฎภาพอ่าว Bombetoka อยู่ทางด้านเหนือซ้าย และอ่าวMahajamba ด้านบนขวาของภาพ เป็น
    พื้นที่ของต้นไม้โกงกางเป็นจำนวนมาก และยังเป็นแหล่งนิเวศน์ที่สำคัญของธรรมชาติ
    [​IMG]
    8.วันที่ 2 เมษายน ที่บาสซาสดาอินเดีย มหาสมุทรอินเดีย เผย เกาะรูปวงแหวนที่เกิดจากหินประการัง หรืออะทอลล์ในมหาสมุทรอินเดีย บริเวณชายฝั่งโมซัมบิกและชายฝั่งในเกาะมาดากัสการ์ พื้นที่สีเข้มบ่งบอกถึงระดับความลึกของน้ำ
    [​IMG]
    9.แม่น้ำปารานา (Paraná River)แสดงให้เห็นถึงร่องรอยการกัดเซาะของกระแสน้ำ ในอาร์เจนติน่า เมื่อ 9 เมษายน แม่น้ำแห่งนี้เป็นแม่น้ำที่ใหญ่อันดับสองในแอฟริกาใต้ ซึ่งในภาพนี้
    จับภาพแม่น้ำระยะทาง 29 กิโลเมตร
    [​IMG]
    10.วันที่ 12 เมษยน ที่ยสถานีอวกาศนานาชาติ คาดี โคลแมน มนุษย์อวกาศบันทึกภาพถ่าย
    บรรยากาศของโลก จากภายในยาน Cupola ที่บรรจุนักบินได้ 2 คน
    [​IMG]
    11.เกาะภูเขาไฟ ที่ Onekota บันทึกเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางตอน
    เหนือ ของหมู่เกาะคูริน มหาสมุทรแปซิฟิก สะกดอารมณ์ทุกสายตากับความงดงามอันน่าทึ่ง
    [​IMG]
    12.ภาพหนองน้ำ Okavango (โอคาวันโก)ในบอสซาวาน่า บันทึกเมื่อ 2 มิถุนายน สถานที่เป็นสวนสวรรค์กลางทะเลทราย มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เป้นจำนวนมาก เปรียบประดุจ ”สวนอีเดนแห่งทะเลทราย” สีเขียวเข้มเป็นแนวยาว คือแนวต้นไม้ที่มีความยาวนับร้อยกิโลเมตร
    [​IMG]
    13.ควันไฟปะทุ พวยพุ่งขึ้นที่วนอุทยานแห่งชาติซานตาเฟ นิวแม็กซิโก สหรัฐอเมริกา เมื่อ27มิถุนาคมที่ผ่านมา
    [​IMG]
    14.แม่น้ำไนล์ ทะเลเมดิเตอเรเนียน ในยามค่ำคืน บันทึกได้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม สายที่ทองที่ทอดยาวออกไป เป็นความสวยงามในมุมหนึ่งในโลกของเรา
    [​IMG]
    15.ไมค์ ฟอสซัม บันทึกภาพพายุเฮอริเคน (Katia) จากมุมมองนอกโลก แสดงถึงความ
    กว้างใหญ่ รุนแรง ของพายุ โชคดีที่มันไม่สร้างความเสียหายมาก บันทึกเมื่อ 6กันยายนทีผ่านมา
    [​IMG]
    16.ภาพไฟป่าเหนือรัฐเท็กซัส เผาผลาญพื้นที่ป่าไปกว่า 2 แสน 5 หมื่นไร่ จุดที่เกิดไฟป่าใหญ่ที่สุดมีระยะทาง 26 กิโลเมตร ในเขต Bastrop และทำลายบ้านเรือนประชาชนไปกว่า 1,000 หลัง บันทึกโดยมนุษย์อวกาศ รอน การัน เมื่อวันที่ 8 กันยายน
    [​IMG]
    17.Aurora australis หรือแสงใต้ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มีแสงเรืองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน โดยมักจะขึ้นในบริเวณแถบขั้วโลก จะเรียกว่า แสงเหนือ หรือ แสงใต้ ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิด สามารถบันทึกได้เมื่อ 17 กันยายน ที่ผ่านมา
    [​IMG]
    18.บรรยากาศยามค่ำคืน กับแสงเจิดจ้าบริเวณทวีปยุโรป 2 ตุลาคม
    [​IMG]
    19.โลกในยามวิกาล มองเห็นเทือกเขาร็อกกี้ เดนเวอร์-โคโลราโด สปริงส์ (กลางขวา) ซานตาเฟ อัลบูเคิร์ก (กลางล่างขวา) และที่ราบในบริเวณใกล้เคียง เช่น เมืองดัลลัส-โอกลาโฮมา ซิตี้ สหรัฐอเมริกา เห็นความสว่างไสวที่สวยงามตระการตา บันทึกเมื่อ 16 ตุลาคม
    [​IMG]
    20.รอน การัน มนุษย์อวกาศบันทึกภาพบรรยากาศนอกโลก ที่มองเห็นดวงจันทร์ค่อนข้างชัดเจน เมื่อ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา
    Mthai News
     

แชร์หน้านี้

Loading...