"ผอมสวย กล้วยช่วยคุณได้"..การไดเอ็ทด้วยกล้วยมื้อเช้า

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 21 สิงหาคม 2011.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    <ins style="display: inline-table; border: medium none; height: 250px; margin: 0pt; padding: 0pt; position: relative; visibility: visible; width: 300px;">นอกจากน้ำหนักหรือความอ้วนจะลดลงแล้ว สุขภาพยังดีขึ้นด้วย
    ส่วนขนาดหน้าอกจะเพิ่มขึ้นจริงหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้...รอสาวๆมาเล่าให้ฟังดีกว่า

    ทุกข้อที่เค้าให้เราปฏิบัติ จะมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่อธิบายแบบง่ายๆ รองรับอยู่ด้วย

    เพื่อนๆอ่านเองน่าจะเข้าใจได้มากกว่า ราคาเล่มละ 150 บาท

    ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดใด</ins> <noscript>[​IMG]</noscript>
    [​IMG]



    "Asa Banana Diet" เป็นหนังสือที่มียอดขายถล่มทลายขายเกิน 1 ล้านเล่มในญี่ปุ่น
    สำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ นำมาพิมพ์ในชื่อว่า "ผอมสวย กล้วยช่วยคุณได้"..การไดเอ็ทด้วยกล้วยมื้อเช้า

    อ่านแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนังสือถึงขายดี

    เพราะหนังสือไม่ได้บอกให้เราทำอะไรที่มันฝืนธรรมชาติ เหมือนกับตำราไดเอ็ททั้งหลาย
    เพราะคอนเซ็ปต์สำคัญสามข้อของหนังสือนี้คือ
    * ไม่ต้องอด ไม่ต้องทน
    * ไม่เปลืองเงิน
    * ไม่เปลืองเวลา
    มันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ทำได้ต่อเนื่อง เพียงแต่ต้องเข้าใจอาหารที่เรากิน เข้าใจระบบการย่อยอาหารของเราเอง


    สรุปย่อจากหนังสือ... "ผอมสวย กล้วยช่วยคุณได้"..การไดเอ็ทด้วยกล้วยมื้อเช้า

    หนังสือบอกว่าโลกเรามีวิธีการลดน้ำหนักมากมาย แต่แทนที่จะหยิบยกเทคนิคโน่นนิดนี่หน่อยมาผสมกัน
    ขอให้ทดลองทำตามวิธีในหนังสือนี้โดยไม่ต้องดัดแปลง ทำต่อเนื่องสัก 3 เดือนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด...

    มีสาวๆบอกมาด้วยว่าทำตามหนังสือนี้แล้วน้ำหนักลดโดยที่หน้าตาไม่โทรมและหน้าอกใหญ่ขึ้นถึงกับเปลี่ยนขนาดยกทรง

    1. ในมื้อเช้าให้ทานกล้วยอะไรก็ได้กับน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติที่ไม่ใช่น้ำเย็น แทนอาหารเช้า และไม่ทานร่วมกับนมหรืออาหารอื่นๆ กล้วยมีสารอาหารและเอ็นไซน์ที่มีประโยชน์อยู่มากมายต่อระบบเมตาบอลิซึม (การเผาผลาญพลังงาน) ย่อยง่าย ทำให้กระเพาะลำไส้ตับได้พักผ่อน เป็นการฟื้นฟู ระบบการย่อยอาหารในช่วงเช้า กล้วยดีที่สุด กล้วยอะไรก็ได้แต่ตามหนังสือนี้เค้าทานกล้วยหอม แต่ถ้าไม่มีกล้วยอาจเลือกทานผลไม้อื่นๆที่ไม่หวานจัด เช่น มะละกอ แคนตาลูป ต้องเป็นผลไม้สดที่ไม่ผ่านการแปรรูปหรือการปรุงเช่น ต้ม ย่าง ทอด เพราะจะสูญเสียเอ็นไซน์ที่มีประโยชน์ไป การทานอาหารที่ย่อยยากตั้งแต่เช้าทำให้ระบบย่อยอาหารอ่อนแอซึ่งทำให้อ้วน ง่าย

    2. การทานผลไม้ให้ทานมื้อละ 1 ชนิดเท่านั้น หากต้องการทานผลไม้หรืออาหารอื่นให้เว้นระยะประมาณ 30 นาที ผลไม้ต่างชนิดกันหรือการทานร่วมกับแป้ง นมหรือเนื้อสัตว์มีผลทำให้ต้องใช้เวลาในการย่อยต่างกันซึ่งเป็นการเพิ่มภาระ ระบบการย่อยอาหาร

    3. งดการดื่มน้ำเย็น ไอศครีม ของแช่เย็น และควรดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ น้ำเย็นของเย็นทำให้ระบบย่อยอาหารอ่อนแอ ระบบย่อยอาหารที่อ่อนแอจะทำให้อ้วนง่าย น้ำเปล่าช่วยขับของเสีย สารพิษ และช่วยให้ระบบต่างๆทำงานเป็นปกติ

    4. มื้ออื่นๆ ทานได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องอด แต่ควรทานช้าๆและเคี้ยวให้ละเอียด ไม่ควรทานอาหารรสจัดมากเกินไป ทานแป้งหรือขนมหวานได้ตามปกติเพื่อเป็นการให้รางวัลตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดความทรุดโทรมอ่อนเพลียและป้องกันการเกิดโยโย่เอฟเฟ็กต์ อาหารรสจัด เช่น เค็มจัด หวานจัด ทำให้ระบบประสาทการรับรสเสื่อม ในที่สุดจะมีผลทำให้แม้กินจนอิ่มแล้วแต่ก็ยังอยากจะกินเพื่อรับรสอาหารอยู่ เรื่อยๆ จนกลายเป็นกินจุบจิบ

    5. ไม่จำเป็นต้องงดแป้งหรืออดอาหาร เพียงแต่ปรับเวลาการกินให้ตรงเวลาเพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานปกติ และไม่ควรทานอาหารมื้อเย็นหลัง หลัง 18.00 น. โดยทานอาหารตามปกติ ถ้าจะทานดึกอย่างช้าที่สุดคือไม่เกิน 20.00 น. และควรเป็นอาหารประเภทผลไม้ที่ย่อยง่ายๆ การทานอาหารดึกเกินไป ไม่เพียงแต่ร่างกายจะสร้างไขมันสะสมจากพลังงานส่วนเกินแล้ว ยังทำให้ร่างกายอ่อนแอ โดยเฉพาะระบบย่อยอาหารและระบบเผาผลาญพลังงาน คือ กระเพราะและลำไส้ต้องทำงานหนักแม้ในขณะหลับ ทำให้เกิดสารพิษและภาวะอ้วนหรือบวม

    6. เข้านอนแต่หัวค่ำหรือก่อน 24.00 น. การนอนดึกมีผลทำให้อ้วน เนื่องจากระบบย่อยอาหารจะรวนเพราะไม่ได้พักผ่อนและฟื้นฟู ระบบเมตาบอลิซึม (การเผาผลาญพลังงาน) ปกติร่างกายจะหลั่งสารที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายในช่วง 22.00 – 02.00 น. ร่างกายที่อ่อนแอจากการนอนดึกหรือเที่ยวกลางคืนจะทำให้อ้วนง่าย

    7. ทำดีท๊อกซ์ขับสารพิษตกค้างในร่างกาย เมื่อร่างกายมีพิษสะสม ร่างกายจะสร้างไขมันขึ้นมาหุ้มสารพิษไว้เพื่อไม่ให้ร่างกายดูดซึมสารพิษ จึงทำให้อ้วนง่าย ถ้าต้องการอาจออกกำลังกายหรือโยคะบ้าง การฝืนออกกำลังกายไม่เป็นผลดีต่อการลดความอ้วน การออกกำลังที่น้อยเกินไปหรือหักโหมเกินไปทำให้ร่างกายอ่อนแอ ระบบเผาผลาญพลังงานจะรวน ไม่ควรทานอาหาร Junk Food และน้ำอัดลมบ่อยนัก ไขมันประเภทที่อยู่ในอาหารเหล่านั้นมีพิษและเป็นไขมันประเภทเลวที่ทำให้อ้วน ง่าย

    8. ความเครียดทางจิตใจจะทำให้กินบ่อย หิวบ่อย ควรหากิจกรรมที่ผ่อนคลาย สวดมนต์ นั่งสมาธื ออกกำลังกาย โยคะ ฝึกการปล่อยวาง ฝึกหายใจให้ลึก ทำในสิ่งที่อยากทำ การตั้งใจลดความอ้วนแบบเร่งรัดจะยิ่งทำให้เครียดและหิวบ่อย จึงควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป การหมกมุ่นแต่เรื่องความอ้วนหรือน้ำหนักไม่ใช่เคล็ดลับในการลดความอ้วน

    9. การรับประทายยาลดความอ้วนหรือยาถ่ายที่เป็นสารเคมีจะทำให้ระบบต่างๆ รวนหรือเป็นพิษ ทำให้เกิดภาวะโยโย่เอฟเฟ็กต์เมื่อหยุดทานยา หากทานยาเป็นจำนวนมากหรือติดต่อกันจะมีผลต่อระบบประสาท ไทรอยด์และไต

    10. หัวใจสำคัญของการลดความอ้วนแบบมีคุณภาพโดยที่หน้าตาและร่างกายไม่โทรม รวมทั้งไม่เกิดภาวะโยโย่เอฟเฟ็กต์คือ ดูแลร่างกายให้ระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร ระบบเผาผลาญพลังงาน ระบบขับถ่ายพิษและของเสีย ทำงานได้ตามปกติ ร่างกายได้รับการนอนที่มีคุณภาพ (เข้านอนแต่หัวค่ำหรือดึกไม่เกิน 24.00 น)

    ลิ้งค์น่าสนใจ
    http://topicstock.pantip.com/lumpini.../L8556298.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2011
  2. แสงนำทาง

    แสงนำทาง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบคุณค่ะ
     
  3. khunfong

    khunfong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    462
    ค่าพลัง:
    +162
    ขอบคุณนะค่ะ กล้วยของโปรดเราเลย
     
  4. มงคล18

    มงคล18 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +1,829
    น่าสนใจ อะ เราชอบกินผลไม้ด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...