เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 17 เมษายน 2011.

  1. เม่นจัง

    เม่นจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +401
    กราบหลวงปู่ทิม สวัสดีครับ อ.แก้วสว่าง คุณโต้ง ช่วงนี้ กทม. ลุ้นระทึกครับ ส่วนที่บ้านก็ยังระทึกเช่นเดียวกัน ขอบารมีหลวงปู่คุ้มครองครับ
     
  2. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    ซึ่งจริงๆแล้วหลวงปู่ทิมท่านเรียนวิชามาหลายอาจารย์มากซึ่งตามประวัติที่ว่าหลวงพ่อเผือกวัดกิ่งแก้วนั้นไม่มีการกล่าวถึงซึ่งไม่มีใครสามารถบอกได้ทราบแต่ว่าท่านได้ไปกับสายของหลวงพ่อปานวัดบางเหี้ยครับ
     
  3. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351

    ขอให้น้ำลดโดยเร็ว และปลอดภัยนะครับ ที่กรุงเทพฝั่งตะวันออกอยู่ในช่วงวิกฤติครับ
    เตรียมป้องกันไว้ด้วยนะครับ
     
  4. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    สถานะการณ์อุทกภัยในทุกๆที่

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     
  5. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [FONT=&quot]จากยุคสมัยของหลวงพ่อสังข์เฒ่าที่ท่านได้สร้างตำนานชื่อเสียงของวัดละหารไร่ให้เป็นที่เลื่องลือและมีชื่อเสียงที่กระฉ่อนจนทำให้เป็นที่รู้จักกันในถิ่นตำนานเก่าของเมืองระยอง ซึ่งชื่อเสียงอันเลื่องลือนี้ตามตำนานกล่าวว่าเจ้าเมืองระยองได้นิมนต์เชิญหลวงพ่อสังข์เฒ่ามาอยู่ที่วัดจันอุดมหรือวัดเก๋งซึ่งปัจจุบันก็คือโรงพยาบาลระยอง และตามตำนานชื่อเสียงของหลวงพ่อสังข์เฒ่าทำให้ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ซึ่งตามประวัติเท่าที่สืบทราบได้ว่าลูกศิษย์ของท่านนั้นจะมีทั้งพระและฆราวาส ซึ่งแต่ละคนล้วนมีชื่อเสียงทางด้านวิชาอาคมที่เก่งกล้าและเรืองวิทยาคมมากซึ่งเราจะเห็นว่าคนในสมัยก่อนการที่จะเล่าเรียนวิทยาคมได้นั้นจะต้องมีการเรียนรู้และฝึกฝนจนสามารถนำไปปฏิบัติได้ซึ่งโดยส่วนใหญ่วิชาการแพทย์แผนโบราณนั้นถือว่าเป็นพื้นฐานหลักที่จะต้องเรียนรู้ให้ได้ ซึ่งเป็นวิชาการอย่างหนึ่งที่ต้องเรียนรู้เพื่อที่จะนำไปช่วยเหลือหรือสงเคราะห์ผู้คนที่เจ็บป่วยและในยามที่ต้องการให้ความช่วยเหลือซึ่งเป็นการดูแลในสิ่งที่ต้องการนำไปปฏิบัติเพื่อที่จะใช้วิชาการต่างๆที่ได้ร่ำเรียนมาเพื่อเป็นการสร้างจิตกุศลอันดี ซึ่งวิชาอาคมต่างๆนั้นเราจะเห็นว่าตามตำราโบราณส่วนใหญ่จะเป็นตำราที่บันทึกยาสมุนไพรต่างๆในการรักษาโรคภัยต่างๆซึ่งตำราที่บันทึกนั้นมีทั้งตำราที่เขียนลงในใบลานหรือใบตาลซึ่งเป็นการบันทึกในยุคเริ่มแรกและในยุคต่อมาจะเขียนบันทึกลงในตำราสมุดข่อยซึ่งเกจิอาจารย์หรือผู้เฒ่าผู้แก่ที่เรืองวิทยาคมในสมัยก่อนจะเขียนหรือบันทึกกันไว้เพื่อให้ตำราต่างๆที่ได้บันทึกกันไว้เหล่านี้ได้นำไปปฏิบัติสืบทอดให้คนรุ่นต่อมาได้เรียนรู้และได้นำไปใช้ปฏิบัติกันเพื่อเป็นแนวทางในการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งเราจะเห็นว่าการรักษาด้วยสมุนไพรนั้นตัวยาสมุนไพรในการรักษาโรคต่างๆนั้นอาจจะมีตัวยาที่แตกต่างกันในการรักษาซึ่งก็แล้วแต่การรักษาของแต่ละคนกันไปหรืออาจจะกล่าวกันง่ายๆคือแล้วแต่สูตรตัวยาการรักษาของแต่ละคนซึ่งก็โดยจุดประสงค์หรือจุดมุ่งหมายหลักอย่างเดียวกันคือให้หายจากโรคหรือให้หายจากการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ ซึ่งโดยแท้จริงแล้วเรื่องของวิชาการหลักๆในวิชาอาคมต่างๆส่วนใหญ่โดยเฉพาะวิชาการแพทย์แผนโบราณซึ่งเป็นวิชาที่สำคัญมากที่ถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะต้องเรียนรู้ก่อนที่จะร่ำเรียนวิชาอาคมในด้านอื่นๆ ตามตำนานลูกศิษย์ของหลวงพ่อสังข์เฒ่าแห่งวัดละหารไร่ก่อนที่ท่านจะสอนวิชาอาคมต่างๆในด้านวิชาไสยศาสตร์ต่างๆนั้นท่านจะให้ลูกศิษย์เรียนวิชาการแพทย์แผนโบราณก่อนเป็นอันดับแรกซึ่งเป็นการเรียนรู้ในสิ่งต่างๆโดยเฉพาะการเรียนรู้เรื่องสมุนไพร ซึ่งตัวยาของสมุนไพรนั้นมีสรรพคุณทั้งผลที่ดีและบางอย่างก็สามารถทำอันตรายแก่มนุษย์ได้ และสมุนไพรบางอย่างก็สามารถแก้อาถรรพ์ในเรื่องของไสยศาสตร์ได้ซึ่งจริงๆแล้ววิชาการในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นมากที่ต้องการเรียนรู้ให้ได้เพื่อที่จะเป็นพื้นฐานหลักที่ดีที่จะได้เรียนรู้ในเรื่องวิชาการต่างๆทางไสยเวทย์ต่อไป จะเห็นว่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อสังข์เฒ่าแต่ละท่านไม่ว่าพระหรือฆราวาสจะมีชื่อเสียงที่โด่งดังมากในยุคสมัยนั้นโดยเฉพาะการรักษาทางด้านแผนโบราณแล้วนั้นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสังข์เฒ่าท่านจะมีชื่อเสียงมาก ซึ่งตามตำนานคำบอกเล่ากล่าวว่าหมอวังซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสังข์เฒ่าในยุดแรกๆและได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆจากหลวงพ่อสังข์เฒ่าซึ่งท่านได้ร่ำเรียนวิชาการแพทย์แผนโบราณและวิชาการและไสยศาสตร์ต่างๆในหลายแขนงซึ่งหมอวังท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมและสามารถเรียนรู้วิชาการต่างๆได้จนจบสิ้น ในยุคสมัยนั้นในเขตมณฑลบ้านค่ายถ้าเอ่ยชื่อหมอวังแล้วคนส่วนใหญ่ในยุคสมัยนั้นจะรู้จักกันดีซึ่งท่านถ้าใครที่เจ็บไข้ได้ป่วยใดๆหรืออาจโดนอำนาจแรงกระทำทางไสยศาสตร์หรือแรงอาถรรพ์ใดๆก็แล้วแต่ถ้ารักษาจากที่ไหนไม่หายต่างก็จะไปหาหมอวังซึ่งท่านเป็นฆราวาสที่เลื่องลือกันมาก ซึ่งโดยเฉพาะวิชาที่เลื่องลือกันที่น่าทึ่งกันมากคือการรักษาคนบ้าหรือวิกลจริต ซึ่งก็เป็นวิชาหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อสังข์เฒ่าที่ท่านได้ถ่ายทอดวิชาเฉพาะให้กับลูกศิษย์ ซึ่งการที่จะเรียนวิชานี้ให้สำเร็จก็ต้องฝึกให้มีอำนาจจิตสมาธิถึงขั้นฌานสมาบัติ จึงจะสามารถเรียนวิชานี้สำเร็จได้ ซึ่งตามตำนานเล่าว่าท่านรักษาโดยที่ท่านจะใช้น้ำมนต์เป็นหลักโดยใช้อำนาจจิตสมาธิถ่ายทอดลงไปเพื่อที่จะทำให้อำนาจของจิตสมาธินี้ซึ่งถือว่าเป็นพลังงานอย่างหนึ่งที่พลังตัวนี้สามารถควบคุมจิตและอารมณ์เพื่อให้มีพลังอำนาจที่เหนือปรากฏการณ์ที่จิตสามารถหยั่งรู้ได้โดยสิ้นเชิงและสามารถถ่ายทอดพลังลงไปเพื่อให้อำนาจจิตนี้สามารถทำลายล้างหรือควบคุมอาการที่คนป่วยนั้นไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ซึ่งอาจเกิดจากผลของแรงกรรมหรือเกิดจากแรงอาถรรพ์ใดๆที่มาครอบงำจิตและสมาธิจนไม่สามารถเกิดสัมปชัญญะขึ้นมาได้หรือการที่ไม่สามารถควบคุมสติปัญญาของตัวเองได้จนเกิดอาการฟั่นเฟือนเพ้อคลั่งหรืออาจจะมีอาการของจิตประสาทที่สับสนวกวนกันไปต่างๆนาๆซึ่งถ้าปล่อยให้มีอาการแบบนี้เนิ่นนานไปและมีจิตที่ไม่สามารถรับรู้ตัวเองได้เลยก็จะเรียกว่าคนบ้าหรือคนวิกลจริต คนในสมัยก่อนนั้นจะกลัวกันมากซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเชื่อกันว่าโดนการครอบงำจากแรงอาถรรพ์หรืออาจจะเรียกกันง่ายๆว่าโดนผีเข้าหรือโดนเจ้ากรรมนายเวรกระทำซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะเป็นผลของการกระทำหรือผลของการกระทำมาจากอดีตหรือเมื่อชาติปางก่อนที่เคยกระทำกันมาหรือจะกล่าวกันง่ายๆว่าอาจจะเป็นคู่เวรคู่กรรมกันก็ว่าได้ซึ่งเมื่อไม่ได้รับการอภัยหรือยกโทษให้หมดกรรมกันก็จะเป็นคู่เวรคู่กรรมกันไปทุกภพทุกชาติไป ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมากถึงแม้จะเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นหรือสัมผัสกันได้ แต่ก็เป็นสิ่งที่คนโบร่ำโบราณนั้นได้ยึดถือกันมาซึ่งเราจะเห็นได้ว่าทำไมถึงต้องมีการทำบุญกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลกันเขาทำกันเพื่ออะไร ซึ่งตามโบราณนั้นเขาทำกันเพื่อที่มีความเชื่อกันว่าเพื่ออุทิศผลกรรมที่ได้ล่วงเกินหรือกระทำการไม่ดีต่อผู้อื่นหรือสัตว์ใดๆก็แล้วแต่จนมาเกิดเป็นเจ้ากรรมนายเวรขึ้นมา และได้อุทิศผลบุญนี้เพื่อที่จะอโหสิกรรมกันที่ได้ล่วงเกินกันเพื่อที่ให้ขาดจากการเป็นเจ้ากรรมนายเวรกัน จุดประสงค์นั้นก็เพื่อให้มีชีวิตเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและอนาคตที่ดีซึ่งการเชื่อถือตามโบราณนี้ก็ได้ยึดถือเป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาตราบจนทุกวันนี้ เราจะเห็นว่าแรงกรรมนั้นถือว่ามีอิทธิพลมากอย่างยิ่งที่ไม่สามารถจะลบกันได้ซึ่งจะมากหรือน้อยก็แล้วแต่การกระทำของแต่ละคนซึ่งการที่ได้อุทิศผลกรรมนั้นก็แล้วแต่เจ้ากรรมนายเวรจะได้รับการอโหสิกรรมให้ได้มากน้อยเพียงไหน ซึ่งตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนานั้นพระพุทธเจ้าท่านได้ให้มนุษย์ทุกคนให้ทำแต่ความดีละเว้นความชั่วเพื่อที่จะมีผลที่ดีต่อไปในวันข้างหน้า เราจะเห็นว่าโรคภัยไข้เจ็บต่างๆอาจเกิดจากแรงกรรมหรือการกระทำนั้นจะอยู่ที่การเชื่อมั่นกันมากน้อยเพียงใดก็แล้วแต่อยู่ที่ทุกวันนี้ขอให้เราทำดีเป็นที่สุดแล้วชีวิตก็จะมีแต่ความสุขสบาย ซึ่งถ้าจะกล่าวถึงโรคภัยไข้เจ็บต่างๆโดยเฉพาะโรควิกลจริตหรือโรคคนบ้าที่กล่าวถึงนี้ซึ่งในสมัยก่อนนั้นยากแก่การรักษาที่จะให้หายขาดกันได้ ซึ่งการที่จะรักษาเยียวยากันส่วนใหญ่ก็จะรักษากันตามหมอพื้นบ้าน ซึ่งอาจจะรักษากันได้เพียงบรรเทาอาการหรือการรักษาเพียงแค่ระดับหนึ่งให้หายจากอาการในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งการที่จะรักษาให้หายขาดได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย หมอวังซึ่งท่านเป็นฆราวาสที่คงแก่เรียนที่ท่านสำเร็จวิชารักษาคนบ้าได้ ซึ่งโดยตามตำนานเล่าว่ามีคนเป็นคนบ้าและได้นำตัวมารักษาที่หมอวังซึ่งท่านก็ได้รักษาโดยท่านได้วิเคราะห์ดูอาการและจากนั้นท่านก็ทำน้ำมนต์ซึ่งเป็นน้ำมนต์ที่รักษาอาการบ้าหรือวิกลจริตโดยเฉพาะ ซึ่งตามประวัติเล่าว่าท่านจะรักษานั้นก็อยู่ที่อาการของแต่ละคนส่วนใหญ่หมอวังท่านจะรับรักษาไว้ซึ่งการรักษาของท่านๆจะใช้โดยการทำน้ำมนต์นั้นเป็นหลักสำคัญ ซึ่งแสดงว่าอานุภาพที่เป็นตัวสำคัญในการรักษาคือการใช้อำนาจจิตสมาธิบวกกับคาถาอาคมที่ได้รับการถ่ายทอดมาแล้วได้รวมพลังจิตอันกล้าแกร่งนั้นลงสู่น้ำอันบริสุทธิ์ที่เรียกกันว่าน้ำมนต์หรือน้ำพระพุทธมนต์ ซึ่งน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ก็เป็นตัวสื่อนำที่ได้ถ่ายทอดลงสู่ผู้ที่มีอาการป่วย เราจะเห็นว่าน้ำมนต์นั้นมีอานุภาพที่สามารถมีฤทธิ์ที่เกิดจากแรงแห่งอำนาจพุทธคุณและตัวคาถาอาคมที่ประจุไว้โดยเกิดจากแรงอำนาจของจิตและสมาธิที่ได้รับพลังการถ่ายทอดมาเพื่อรักษาอาการต่างๆของโรคบ้าหรือวิกลจริตโดยเฉพาะได้ ซึ่งโดยมากคนส่วนใหญ่ที่ได้รับการรักษาจากหมอวังจะหายกันซึ่งก็เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก ซึ่งชื่อเสียงของหมอวังนั้นถ้านับเวลาย้อนหลังไปก็กว่าร้อยปีแล้วที่ท่านจากไปซึ่งวิชานี้ท่านได้ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อสังข์เฒ่าซึ่งก็ยังมีลูกศิษย์ของหลวงพ่อสังข์เฒ่าในยุคต่อมาที่ได้ร่ำเรียนซึ่งตามตำนานเล่าว่าพระครูวิจิตรธรรมานุวัตรหรือหลวงพ่อวงษ์แห่งวัดบ้านค่ายและพระครูเทพสิทธิการหรือหลวงพ่ออ่ำ(เรือเก่า)แห่งวัดหนองกระบอกที่ได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสังข์เฒ่าในยุคต่อมาที่ได้ร่ำเรียนวิชานี้แต่โดยส่วนใหญ่ตามคำร่ำลือนั้นเรื่องการรักษาคนบ้าและวิกลจริตนั้นจะกล่าวกันถึงหลวงพ่อวงษ์ซึ่งท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านค่ายซึ่งเป็นที่ยอมรับนับถือกันว่าท่านมีจิตที่แกร่งกล้ามากซึ่งเล่ากันว่าท่านสามารถใช้จิตของท่านบังคับมีดให้วิ่งไปวิ่งมาได้และสามารถบังคับให้มีดให้วิ่งขึ้นไปตัดลูกมะพร้าวบนต้นได้ สามารถเสกใบพลูให้เป็นแมงป่องได้หรือเสกผ้าอาบน้ำฝนให้เป็นกระต่ายได้ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากการได้ใช้อำนาจจิตสมาธิที่ฝึกฝนจนเก่งกล้าจนสำเร็จฌาณสมาบัติสามารถทำอะไรได้ตามพึงปรารถนาได้ซึ่งเกจิในยุคเก่าเล่าว่าการที่ได้เสกหรือการใช้อำนาจจิตในการทำอะไรให้ได้พึงตามประสงค์ได้นั้นมันเป็นเพียงสิ่งบังตาหรือสิ่งที่สมมุติหรือบันดาลขึ้นมาซึ่งเป็นการลองวิชากันเพื่อให้ทราบว่าวิชาอาคมและไสยศาสตร์นั้นมีจริงและสามารถทำสำเร็จได้ถ้ามีการเรียนรู้กันโดยจริงจัง และตามคำร่ำลือที่หลวงพ่อวงษ์ท่านมีชื่อเสียงมากก็คือท่านสามารถรักษาคนบ้าวิกลจริตให้หายขาดจากโรคได้ ซึ่งหลวงพ่อวงษ์ท่านก็ได้ใช้น้ำมนต์หรือน้ำพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ในการรักษาคนป่วยให้หายได้อย่างน่าอัศจรรย์มาก ซึ่งหลวงพ่อวงษ์ก็สมแล้วที่ท่านได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสังข์เฒ่าและท่านก็สมแล้วที่มีชื่อเสียงที่ได้บันทึกไว้เป็นตำนานเก่าของเมืองระยอง เราจะเห็นว่าตำนานชื่อเสียงของหลวงพ่อสังข์เฒ่าที่ได้มีการกล่าวขานกันอย่างมากหลายซึ่งเกจิในยุคเก่าๆของเมืองระยองนั้นก็ยังมีให้เล่ากันหรือกล่าวขานกันอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงกันซึ่งก็มีทั้งเกจิอาจารย์ชื่อดังและฆราวาสผู้เรืองอาคมที่ต่างก็ได้เรียนมาจากหลวงพ่อสังข์เฒ่าซึ่งหลวงพ่อสังข์เฒ่านั้นท่านก็สำเร็จวิชาในหลายแขนงอย่างเช่นวิชาการเล่นแร่แปรธาตุซึ่งการเล่นแร่แปรธาตุนั้นสามารถเสกแร่ธาตุต่างๆให้เป็นทองคำได้ถือว่าประสบความสำเร็จซึ่งการที่จะทำให้สำเร็จได้ก็ต้องมีจิตที่แน่วแน่มากที่เดียวซึ่งวิชานี้ตามตำนานคำบอกเล่ากล่าวว่าหลวงพ่อวงษ์ วัดบ้านค่ายท่านสามารถทำสำเร็จได้สามารถเสกเล่นแร่แปรธาตุจนเป็นทองคำได้ซึ่งก็เปรียบเหมือนการหุงปรอทซึ่งเป็นวิชาๆหนึ่งที่มีการใช้จิตสมาธิให้ถูกหลักและมั่นคงมากอย่างเช่นตามตำนานเล่าว่าพระยอด ซึ่งท่านอยู่วัดหนองกระบอกและท่านก็เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสังข์เฒ่าและท่านก็ได้ร่ำเรียนวิชาการหุงปรอทซึ่งวิชานี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนให้สำเร็จได้ ซึ่งเป็นวิชาที่ต้องใช้จิตและสมาธินั้นสูงมากถ้าควบคุมจิตไม่อยู่จะเกิดอาการร้อนวิชาได้ ซึ่งตามตำนานเล่าว่าพระยอดท่านเคร่งมากในการเล่นวิชาหุงปรอท ซึ่งปรอทที่กล่าวกันนี้ไม่ใช่ปรอทที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ซึ่งปรอทนี้จะอยู่ตามที่ครำหรือตามทางน้ำไหลเวลาไปเอาจะต้องเอาไข่แล้วเจาะรูแล้วไปวางดักเอาปรอทก็จะมาเข้าไปกินไข่แล้วจะอยู่ในนั้นซึ่งเป็นตามคำที่เล่ากันมาซึ่งพอได้ปรอทแล้วก็จะนำมาหุงตามวิธีการทางไสยศาสตร์ ถ้าเป็นคนที่เรียนสำเร็จแล้วสามารถเรียกปรอทมาได้ ซึ่งต้องใช้จิตสมาธินั้นสูงมาก ซึ่งอานุภาพของปรอทนั้นมีสรรพคุณที่วิเศษมากสามารถกันคุณไสย รักษาโรคต่างๆได้และกันภูติผีปีศาทได้ซึ่งถือว่าเป็นของที่วิเศษมากเลยทีเดียวเป็นต้น ซึ่งตำนานเล่าว่าพระยอดซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสังข์เฒ่าได้พร่ำเพียรกับการหุงปรอทให้สำเร็จจนได้และจนวันหนึ่งพระยอดท่านสามารถหุงปรอทได้สำเร็จแต่ท่านก็ไม่สามารถควบคุมจิตหรือสติได้ทำให้เกิดอาการร้อนวิชาได้ ซึ่งทำให้มีอาการเพ้อครั่งจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ซึ่งวันนั้นพระยอดก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งพระในวัดก็ช่วยกันจับก็จับกันไม่อยู่ พอช่วยกันจับมัดมือก็สะเดาะแก้ได้หมดครั้นจับขังไว้ในห้องท่านก็สะเดาะกุญแจออกได้ จนต้องไปนิมนต์หลวงพ่อวงศ์วัดบ้านค่ายมาหลวงพ่อท่านก็ได้จับมัดและได้ใช้คาถากลึงไว้ พอมัดไปสักพักพระยอดท่านก็ว่าคาถาไปสามารถสะเดาะแก้ออกจากที่กลึงได้อีกจากนั้นหลวงพ่อวงศ์ท่านก็ได้มัดแล้วกรึงไว้ถึงสามเปราะ จากนั้นพระยอดท่านก็ได้ท่องคาถาสะเดาะโดยพระยอดท่านจะท่องด้วยเสียงดังๆอีกผลปรากฏว่าจากที่กลึงไว้ถึงสามเปราะก็เอาไม่อยู่ ซึ่งในสมัยนั้นหลวงพ่อสังข์เฒ่าท่านก็ได้ล่วงไปแล้ว จนท้ายสุดจึงได้ไปตามหมอวังซึ่งถือว่าเป็นลูกศิษย์ผู้พี่หรือในยุคก่อน พอคนไปตามหมอวังพอท่านมาถึงหมอวังท่านก็ได้ใช้เชือกแล้วเสกคาถาแล้วจับมัดและได้ใช้อำนาจจิตของท่านนั้นกลึงเอาไว้ผลปรากฏว่าทีนี้พระยอดสะเดาะยังไงก็ไม่ออกจนทีนี้พระยอดถึงได้สงบ จากนั้นหลวงพ่อวงศ์ท่านก็ได้รักษาพระยอดจนหายเป็นปรกติได้ ซึ่งเป็นตำนานๆหนึ่งของเมืองระยองที่ถูกเล่าขานสืบต่อกันมา<o></o>[/FONT]
     
  6. naygood

    naygood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +7,245
    ท่าน อ.แก้วสว่างครับ ปรอท เมื่อก่อนกับปรอทเดี๋ยวนี้ต่างกันยังไงครับ
     
  7. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,082
    ขอแจมเหรียญประจำกาย
    เจริญพรบน นวะโลหะ ห้าโค๊ด มีจาร 1 เดียวในโลก

    [​IMG]

    ปล. เดิมทีเหรียญนี้อยู่ในคอของศิษย์ปู่ทิมรุ่นแรกๆ คือ คุณ อารมณ์ ท.
    ภายหลังเสียชีวิต จึงเปลี่ยนมือออกมา 3-4 มือได้ กว่าจะมาถึงผม มือต่อไปรอผมตายก่อน นานหน่อยเพราะผมไม่รีบ
     
  8. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    ผมได้ติดต่อแจ้งทางpmไปแล้วครับ
     
  9. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351

    สุดแจ่มเลยครับ (good)
     
  10. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    สวัสดีครับหมอ ฟอร์ด:cool:
    ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับยินดีต้อนรับครับ
     
  11. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    สุดยอดจริงๆๆครับเหรียญนี้
     
  12. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,932
    ยินดีที่ได้รู้จักอาจารย์เเก้วสว่างเเละคุณโต้งนะครับ
     
  13. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    ปรอทที่พบเห็นกันทุกวันนี้ เป็นปรอทวิทยาศาสตร์เสียส่วนใหญ่
    บางครั้งผมก็ได้พบเห็นปรอทที่ได้จากใต้ทะเลลึก ที่มาจากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาตินั่นเอง
    ปรอทธรรมชาติ มาจาก ดิน น้ำ อากาศ ปรอทจากแต่ละที่ก็มีคุณต่างกัน
    มีฤทธิ์ และความเป็นทนสิทธิ์ จากธรรมชาติ

    ปรอทเมื่อก่อน เป็นปรอทธรรมชาติ ซึ่งหาได้ไม่ยากเท่าทุกวันนี้
    เพราะสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปเยอะ ถ้าเคยอ่านตามหนังสือ หรือ อินเตอร์เน็ตมา
    การดักปรอท จะใช้ไข่เน่าเจาะรู้แล้วไปดักตามทางน้ำไหน
    ใช่ว่าจะดักกันง่ายๆ ต้องมีเทคนิคอีกต่างหาก

    ปรอทธรรมชาติ และ ปรอทวิทย์ ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Hg เหมือนกัน
    มีสรรพคุณทางวิทยาศาสตร์เหมือนกัน สามารถนำมาทำเครื่องรางได้
    แต่ความเป็นทนสิทธิ์ และมีฤทธิ์ นั้นต่างกัน (เท่าที่ผมเคยสอบถามมานะครับ)
    อาจจะสีต่างกัน พอจะสังเกตได้บ้าง แต่ที่แน่ๆ ปรอทหนักกว่าที่ตาเห็น
    ถ้านำไปใส่กระปุกเนสกาแฟ คงจะปาเข้าไปสิบกิโลขึ้นแน่ๆ

    เป็นอีกข้อมูลหนึ่งครับผม...
     
  14. kawpunt

    kawpunt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,276
    ค่าพลัง:
    +3,086
    กราบหลวงปู่ทิม
    สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง โต้ง และเพื่อนๆทุกท่าน
    ขอให้มีความสุขความเจริญทุกท่านครับ
     
  15. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351

    สวัสดีครับพี่ ขอให้พ้นวิกฤติเรื่องน้ำด้วยนะครับ
     
  16. เม่นจัง

    เม่นจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +401
    ขอบคุณมากครับคุณโต้ง ผมก็ขอให้ทุกท่านที่น้ำท่วมปลอดภัยเช่นกันครับ ติดตามข่าวสารตลอดเวลาครับ
     
  17. เม่นจัง

    เม่นจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +401
    ขอบคุณบทความดีๆ ของอ.แก้วสว่างครับ ติดตามตลอดๆ ครับ
     
  18. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    กราบหลวงปู่ิทิม สวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ มาติดตามบทความครูบาอาจารย์ที่ล่วงลับ
    อัศจรรย์ใจจริงๆ ขอบคุณมากครับ
     
  19. แบมบางบ่อ

    แบมบางบ่อ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +26
    อยากให้นำมาลงบ่อยๆครับ ผมนับถือหลาวงปู่ทิมท่านมากครับ
     
  20. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    :cool:
    มาปูเสื่อ นอนรอตอนต่อไปครับ
    เอา อีกครับ มันส์ดีครับ ชอบครับ แหะๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...