ช่วยด้วยครับ ผมกังวลกับการทำบุญของผมมากครับ

คือผมหยอดเงินใส่กระปุกทุกวันๆ วันละ2บาท วันพระ 5 บาท
เพื่อทำสังฆทาน พอถึงวันจะไปทำแล้ว ไม่กล้าทำ เลยมีคำถามดังนี้
1.หากเอาเงินในกระปุกไปใส่กระเป๋าส่วนตัว แล้วเปลี่ยนเป็นแบงค์เราไปทำ
ได้ไหม (กลัวจะติดหนี้สงฆ์เพราะว่าเอาเงินทำบุญไป ) แต่ก็แลกแล้วนะไม่มั่นใจ ไม่มีความรู้เรื่องนี้
2.หากไปซื้อของทำบุญแล้ว มูลค่าของต่ำกว่าเงินที่มีในกระปุก เงินส่วนที่เหลือ เราเก็บไปใช้ ถือว่าติดหนี้สงฆ์ใช่ไหมครับ
3.ผมตั้งเป้าว่าจะทำสังฆทานหากเงินไม่พอจะควักเพิ่ม(โดยไม่ใช้เหรียญในกระปุก คือแลกแบงค์แล้ว) และหากเงินเหลือก็จะเอาไปทำบุญอย่างอื่นผิดไหมเพราะตั้งเป้าว่าจะทำสังฆทาน

คือที่ผมกังวลคือตัวเงินหละครับ เอาเป็นว่าหากเงินมูลค่าเดียวกันก็เอาไปทำได้ใช่ไหม ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเงินในกระปุก (คือเราแลกแบงค์ได้)
เห็นเรื่องการติดหนี้สงฆ์บ่อยๆ ก็ไม่ค่อยกล้าหนะครับ

 

เรียน คุณSathuja
คำถามของคุณเป็นคำถามที่น่าเอ็นดูดีครับ คือ กังวลมากเกินไปครับ ทุกอย่างอยู่ที่ใจนะครับ คิดมาก กังวลมาก ก็ทุกข์มาก ยังไม่ได้ทำบุญ รับบุญเลย แต่ก็เป็นทุกข์เสียแล้ว
เห็นมั้ยครับว่าคุณเป็นทุกข์แล้วทั้ง ๆ ที่คุณตั้งใจจะไปทำบุญน่าจะมีความสุข เพราะคุณไม่สบายใจคิดมาก ทั้งที่คุณมีเจตนาที่ดีในการทำบุญ เพียงแต่กังวลว่า ถ้าเอาเงินไปแลก กับส่วนที่เราเคยเก็บไว้ แล้วนำมาใช้ จะบาปมัย หรือ ของที่จะไปซื้อกับเงินที่มีอยู่ มีมูลค่าไม่เท่ากัน ทำไงดี ตกลงมันเป็นเรื่องของ เหรียญกับแบงค์ เป็นเรื่องของ เงินที่เหลือจะเอาไปทำบุญอย่างอื่นได้หรือไม่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเคยสอนไว้ว่า เพียงแค่เราคิดดี แค่เราคิดว่าพรุ่งนี้เราจะไปใส่บาตรตอนเช้า เที่ยงจะไปถวายเพล แค่คิดก็ได้บุญแล้ว นี่ยังไม่ได้ไปนะครับ ใจก็อิ่มบุญมากมาย
สิ่งที่คุณตั้งใจทำบุญสังฆทาน เก็บเล็กผสมน้อย เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะฉนั้นบุญสำเร็จด้วยใจครับ เงินเป็นเพียงวัตถุเท่านั้น กรณีเช่นคุณไม่ถือว่าติดหนี้สงฆ์หรอกครับ เราตั้งใจจะเอาเงินไปทำบุญสังฆทาน จะแลกไปแลกมา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ จะไปติดหนี้สงฆ์ได้อย่างไร บุญนะครับ ไม่มีกำไรหรือขาดทุน มีแต่จะได้บุญหรือบาป มีแต่จะสุขใจหรือทุกข์ใจเท่านั้นเอง ผมขออนุโมทนาบุญที่คุณจะทำด้วยนะครับ สาธุ

 

เห็นด้วยกับคุณ อุ่นจังครับ บางทีผมก็งงนะ "ติดหนี้สงฆ์ อะไรๆก็หนี้สงฆ์ " ผมไปเป็นหนี้ตั้งแต่เมื่อไร(วะ) ทำบุญอย่าไปคิดมากเลยครับ แต่ถ้ามีใครมาบอกว่าผมติดหนี้สงฆ์ผมไม่ทำ(ผมถือว่าผู้บอกบุญมีเจตนาที่ไม่ดี) และผมก็ไม่ผิด

 

ตอบว่า ได้ จะทำมากกว่าที่ตั้งใจไว้ก็ยิ่งดี

แต่ถ้าไม่ไ่ด้ใช้เงินที่เก็บสะสม กำลังปิติจะไม่เท่ากัน เราจะอิ่มใจมากตอนหยอด รอบข้างจะอนุโมทนาด้วย

พอเรานึกถึงตอนที่เราอดทนเก็บเงินมาทุกๆวัน มันจะเอิบอิ่มขึ้นมา นึกถึงบุญนี้ทีไรจะได้เต็มเปี่ยมเลยล่ะ

 

อืม....น่ารักดีครับ
อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

ที่ถามมานั้นเป็นเงินส่วนทำบุญนะครับ จะทำเท่าไรก็ไม่เป็นไรหรอกครับ แล้วแต่สะดวกนะ(จะเป็นเหรียญหรือแบงค์ ก็ไม่เป็นไรครับ แลกได้ )
ส่วนเรื่องติดหนี้สงฆ์ หมายถึง เราไปหยิบของที่อยู่ในบริเวณวัดนะครับ
ส่วนเรื่องทำสังฆทานนั้น ถ้าไม่สะดวกซื้อหรือหาของที่ต้องการไม่เจอ ก็เอาตังค์ที่เตรียมไว้ไปใส่ตู้บำรุงค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า ที่ทางวัดท่านเตรียมไว้ก็ได้นะครับ เพราะท่านได้ใช้กันทั้งวัดเลยนะครับ(เวลาทำก็อธิฐานว่า ผมนาย....ขอถวายตังค์จำนวนนี้เป็นสังฆทานเพื่อบำรุงค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า)
สังฆทาน แปลว่า ให้ทานกับพระตั้งแต่ 4 รูปขึ้น(พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้แบบนี้ครับ)ไปนะครับ
​

 

1. แลกได้ค่ะ เพราะจำนวนเงินเหมือนเดิม
2. พี่คิดว่าไม่ควรเก็บไว้ใช้เองนะคะ เพราะเราได้ตั้งใจไว้ว่าจะทำสังฆทาน ไม่จำเป็นต้องซื้อของถวายก็ได้ อาจใส่ซองถวายพร้อมของสังฆทาน หรือเก็บรวบรวมไว้ซื้อของสังฆทานคราวหน้าก็ได้ค่ะ
3. การติดหนี้สงฆ์ คือ การใช้ของสงฆ์ หรือการเอาของสงฆ์ โดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม เช่น การใช้ห้องน้ำในวัด , เดินติดทรายในวัดออกมา.. ทางวัดมักจะตั้งตู้บริจาคสำหรับชำระหนี้สงฆ์ค่ะ หรือถ้าไม่มี ก็อธิษฐานขอชำระหนี้สงฆ์ แล้วก็ใส่ตู้บริจาคก็ได้ค่ะ (ไม่ต้องทำมากมาย ที่สำคัญอยู่ที่การตั้งจิต)
ไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ
อนุโมทนาบุญค่ะ

 

สาธุครับ ขอบคุณทุกคนมากเลยนะ สบายใจขึ้นเยอะ

หยอดกระปุก ผมเขียนติดว่าสังฆทาน (เพิ่มกำลังของใจ จะได้วางใจถูก)

ผมเข้าใจว่าตอนหยอดกระปุกก็เหมือนเราไปหยอดตู้ที่วัด หลวงพ่อบอกได้บุญ

ทุกครั้งที่หยอดเลย สมมติหยอดได้ 330 แต่ไปทำแค่300 กลัวจะเหมือนกับว่า

ไปขโมยเงินจากตู้มา 30 บาทหนะครับ ^^