ความคิด ทางออกเดินของปัญญา ? ใครไม่คิดเลยผมไม่อยากเชื่อ !!

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เสขะ บุคคล, 8 ตุลาคม 2011.

  1. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    บางคนว่าความคิดเป็นทุกข์
    บางคนว่าความคิดเป็นเหตุแห่งความทุกข์
    บางคนว่าความคิดเป็นสุข
    บางคนว่าความคิดดับเหตุแห่งความทุกข์

    คิดฟุ้งซ่านกับคิดในสมาธิ เป็นอย่างไร ปักใจเลยรึ !
    บริหารความคิดกันอย่างไรไม่ให้ติดกับความคิดที่ล่วงผ่านไปแล้วกัน ?


    ชวนพูดคุยเบาๆ คลายเครียดน้ำท่วมครับ :'(



    [​IMG]
     
  2. ศรรักปักอก

    ศรรักปักอก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +627
    คิดมากไม่ผิดหากตามคิดนั้นทัน..คิดมากไม่ทุกข์หากรู้ว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นธรรมชาติ
     
  3. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    การภาวนานั้นทำให้หยุดคิด หันมาสนใจในคำภาวนาแทน เพื่อไม่ให้จิตปรุงแต่ง

    หากทำจนเป็นความเคยชิน จิตจะไม่นึกคิด แต่จะรับรู้แทน และ การที่จะทำได้ต้องใช้เวลา

    การปฎิบัติจึงจำเป็น ที่จะต้องเอาชีวิตเข้าแลก เพราะต้องปฎิบัติจนกลายเป็นความเคยชิน

    ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเวลานาน กว่าจะรู้ เข้าใจ ในธรรมนั้น

    ซึ่งผู้ที่ไม่เคยได้สัมผัส อยากที่จะบอกกล่าวให้เข้าใจได้โดยง่ายครับ
     
  4. tOR_automotive

    tOR_automotive เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    582
    ค่าพลัง:
    +184
    พี่น้องครับ โรงลิเกไปทางใด เขาไกลลาศอยู่อีกไกลไหม จะได้ไปเรียนวิชากับพระฤาษี
     
  5. Amoxcycol

    Amoxcycol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +65
    ข้ามเขา ไป แต่อย่าเหยียบเขานะ จะเจอศาลอันเล็กๆ เตี้ย อยู่ดูดีๆ ล่ะ
     
  6. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    อยู่กับปัจจุบันสิครับ
     
  7. ออมศีล

    ออมศีล สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +2
    ขออนุญาติแบ่งปัน (ตามความคิดและความรู้ส่วนตัว)เอาเป็นภาษาง่ายๆ
    บางคนว่าความคิดเป็นทุกข์
    บางคนว่าความคิดเป็นเหตุแห่งความทุกข์
    ถ้าคิดแบบฟุ้งซ่าน คิดไปเองคิดไปก่อน คิดมากไปต่างๆนาๆในสิ่งที่ยังไม่เกิด คิดแทนคนอื่น เห็นอะไรก็คิดไปหมด ซึ่งเป็นกันแทบทั้งนั้นเป็นปรกติของคนเรา คิดเอาไว้ก่อนโดยไม่รู้ตัว คิดตลอดเวลา นั่งอยู่เฉยๆก็คิดไปเรื่อย มันก็จะทำให้เราเกิดทุกข์ และความคิดก็เป็นเหตุแห่งความทุกข์ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้คิดอะไรเลย
    บางคนว่าความคิดเป็นสุข
    บางคนว่าความคิดดับเหตุแห่งความทุกข์
    ถ้าคิดแบบมีสติ รู้เท่าทันตามสภาพความเป็นจริง โดยไม่ปรุงแต่งมันเพิ่ม และยอมรับในทุกสิ่งว่าเป็นธรรมชาติ ทำอะไรได้ แล้วไม่เดือนร้อนใครเลยก็ทำไป แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ และปล่อยให้มันผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรคงสภาพอยู่ได้ตลอด เฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงของมัน ก็แค่รู้ว่ามันเกิดขึ้น และเมื่อสิ่งนั้นเปลี่ยนไป หมดสภาพไป สิ่งใหม่ก็จะเข้ามา ที่เค้าเรียกกัน ว่า เกิดดับ
    ในชีวิตคนเราทุกสิ่ง เกิดแล้วดับ ตลอดเวลา รวมทั้งความคิดด้วย ถ้าเราคิดแบบรู้ตามความจริงที่เกิดขึ้นจริง ความคิดก็จะเป็นความคิดดับเหตุแห่งความทุกข์


    คิดฟุ้งซ่านกับคิดในสมาธิ เป็นอย่างไร ปักใจเลยรึ !
    บริหารความคิดกันอย่างไรไม่ให้ติดกับความคิดที่ล่วงผ่านไปแล้วกัน ?
    วิธีการของเรา เราจะบอกตัวเองเสมอ ว่าถ้าเมื่อไรเราคิดฟุ้ง คิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง คิดปรุงแต่ง เราจะเรียกสติ ก็คือให้หยุดคิดเรื่องนั้นทันที มาอยู่กับเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่ว่าสักพักมันก็คิดอีก ตอนนี้ก็พยายามฝึกอยู่เหมือนกัน ก็รู้สึกว่าเรียกสติกลับมาได้ถี่ขึ้นกว่าเดิม ต้องฝึกเหมือนฝึกรบ ซ้อมรบ กับข้าศึก(กิเลส อุปาทาน) ข้าศึกมันชอบมาตอนเราเผลอ ถ้าฝึกบ่อยๆ เราก็จะได้รับมือมันทัน
     
  8. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +572
    -การภาวนานั้นทำให้หยุดคิด หันมาสนใจในคำภาวนาแทน เพื่อไม่ให้จิตปรุงแต่ง การทำสมาธิจะทำให้หยุดคิด แต่การภาวนานั้นทำให้รู้จริงหรือรู้แจ้ง การภาวนานั้นก็เป็นความคิด แต่เป็นความคิดที่มี มหาสติ+มหาปัญญา กำกับในความคิด
     
  9. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ผมว่า ทุกอย่างมันล่วงไปแล้วทั้งนั้น ทั้งการกระทำทางกายที่ล่วงผ่าน ทางวาจาที่ล่วงผ่าน ความคิดที่ล่วงผ่าน.............. คราวนี้ คำว่า ติดกับ ของ จขกท ผมยกให้ เป็น กิเลส ตัณหา ราคะ กำหนัด อุปกิเลสต้องเอาพวกนี้ออกครับ:cool:
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ที่พูดน่าจะเป็นความคิดที่เกิดจากจิต
     
  11. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ..ต้องคิด..แต่คิดอยู่ภายในกายเท่านั้น..
    ทำไมต้องภายในกาย ..ก็เพื่อให้จิตมีกำลัง..กำลังอย่างยิ่ง..เมื่อจิตมีกำลัง จะดูจิตหรือพิจราณาธรรมบทใด เมื่อใด ก็น่าจะง่ายแล้ว ต้องเป็นไปตามลำดับธรรม เห็นด้วยกับพี่เสขะครับ
    ต่อไปก็..แยกขันธ์5..ตัดอุปทาน ..ละสักกายะทิฏฐิ ได้ไม่ยาก..ตามตำราและลำดับธรรมที่ควรฝึกก่อน-หลัง
    อย่างไรก็ตามเมตตาด้วย..ยังก่อน..รอก่อน.. ยังก่อน..พี่เสขะ..รอน้องด้วยคนครับ
    ผมยังสับสน..ไมหายเลยนี่ ตำรากับปฏิเวธ ครับ
    ..
     
  12. ชัยปภัทร์

    ชัยปภัทร์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +3
    เวลาที่เราไม่คิด ก็คือเวลาที่เรารู้แล้ว
     
  13. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    รับคำแนะนำพี่ๆไปพิจารณาต่อไปนะครับ ได้หลายแง่คิดเลยครับ
    ขอคุยเรื่องเกี่ยวกับความคิดต่อนะครับ

    ถ้าคิดจบ ลงใจ เรื่องเดิมๆ เรื่องเดิม เจออีกครั้ง กระทบอีกกี่ทีก็ไม่ฟุ้ง เป็นความเข้าใจในความจริง ยอมรับกันทันทีเลย ใช่แบบนี้ไม๊ครับ ?

    ถ้าคิดไม่จบ ไม่ลงใจ ไม่เข้าใจยอมรับในความจริง เรื่องเดิม เรื่องเดิมๆ เมื่อถูกกระทบก็เกิดขึ้นมาเป็นสัญญา เป็นอารมณ์ เป็นความคิดฟุ้งๆ อีกแบบนี้รึป่าว ?



    -ใครเคยคิดจบเป็นเรื่องๆบ้างไม๊ครับ และ ที่คิดแล้วไม่จบ มีสาเหตุไม๊ครับ เพราะอะไร ?
    ขอคำแนะนำในเรื่องกระบวนการออกเดินของความคิดเพิ่มด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 ตุลาคม 2011
  14. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    จิตมีธรรมชาติ รู้ อารมณ์(อารัมณะ)............... สติ สัมปชัญญะระลึกรู้ว่า ทุกขณะเรารู้อะไรอยู่ ใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร....รู้แล้วก็ถือว่า เป็นแค่สภาพธรรม มีสติสัมปชัญญะ ละอภิชฌาและโทมนัส:cool:
     
  15. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021

    พี่ paetrix รู้อย่างเดียวได้ตลอดเลยเหรอครับเนี่ย จิตตั้งมั่นมากขนาดนี้ แสดงว่าคิดใคร่ครวญ จนลงใจยอมรับ ไม่ว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร.... เกิดขึ้นก็ไม่ยึดเหนี่ยวเกาะเกี่ยวเลย ไม่ยินดียินร้ายเลย สอนวิธีการด้วยครับ


    นี่น่าจะใช่ปฏิเวธเลยนะครับ พี่สับสนมาเร็วมาให้พี่ paetrix แนะนำพร้อมกันกับผมเลย :cool:
     
  16. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ใครบ้างที่ไม่คิด คิดเป็นเรื่องปกติครับ แต่หลงคิดนั้นไม่ปกติ


    ดับที่ต้นเหตุครับ คิดเกิดจากสังขารปรุงแต่ง

    เห็นเป็นเรื่องราวเกิดจากโลภะ สักกายทิฏฐิ เห็นตัวเรา เรื่องเรา ของเรา

    เห็นเป็นของเขา ของเรา คนสัตว์ บุคคล เกิดจากสัญญา

    แล้วก็จะคิดไปเรื่อยๆ คิดอดีต คิดอนาคตมีอารมณ์ร่วมกับคิดนั้นเสมอ

    ติดข้องค้างคาใจเสมอ ตัดสินอารมณ์ไม่ได้ นี่ก็ วิจิกิจฉา

    ทั้งที่เหตุเกิดจาก ผัสสะ เวทนา สัญญา ไล่ไปอุปทาน

    รู้ได้อย่างไร ตอบว่า รู้ลงลักษณะที่คิด เห็นเป็นรูปเกิด นามเกิดก็ได้ ขณะนี้ธรรมปรากฏอยู่

    คิดมีจริง แต่สิ่งที่คิดไม่ใช่ของจริง
     
  17. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เมื่อเห็นถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมา ในสิ่งที่เคยเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ

    ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในสิ่งที่เป็นไป จึงไม่เห็นประโยชน์ต่อความทุกข์ที่จะเกิดขึ้น

    จะเห็นสาเหตุ ว่าหากเราไม่กระทำในสิ่งที่นำความเสื่อมมาให้เรา เราก็ไม่เป็นทุกข์

    ซึ่งสิ่งที่คิดเห็นถึงเหตุ-ผล ย่อมจบลงไป ด้วยการเพ่งมองที่ประโยชน์ ต่อตนเอง และ ผู้อื่น

    ซึ่งหากมองประโยชน์โดยส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตน ย่อมก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่ใหญ่หลวง

    จะนำความเป็นสุขมาสู่ตนเอง และ ผู้อื่น จงนำมาเป็นแง่ความคิด
     
  18. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    โอ้ว!!! ยัง ปฎิบัติอยู่ครับ.... เจริญสติสัมปชัญญะ หรือ สติปัฎฐานสี่ ก็เป็นองค์หนึ่งในมรรค คือ สัมมาสติ นะครับ.........เราศึกษามรรค เราก็ ขับเคลื่อนไปตามมรรค นะครับ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ....:cool:
     
  19. ซน

    ซน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +91
    ไม่คิดเลย ก้อสิ้นคิดไง

    ไม่คิดเลยก้อสิ้นคิดไง

    แต่คงต้องแยกว่า คิดเป็น กุศล หรือ อุศล หรือ อัพยากฤต คือ กลางๆ ไม่ใช่กุศลและอุศล ไง ท่าน

     
  20. Pukhaotong Brrpta

    Pukhaotong Brrpta สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +1
    :cool: คือบางคนไปจำของครูบาอาจารย์มา แต่ไม่ได้เทียบเคียงกับพระพุทธดำรัส

    :cool: บอกว่าความคิดมันหยุดไม่ได้ ความคิดปรุงแต่ง คือ สังขาร มันไม่เที่ยงย่อมแปรเปลี่ยนไป เขาก็จะหยุดความคิดให้ได้

    :cool: บอกว่าคุณหยุดความคิดอย่างหนึ่ง แต่ไปคิดอีกอย่างหนึ่งก็ไม่ยอมเข้าใจ จะยืนยันนั่งยันที่คำสอนของครูบาอาจารย์ของตนเองให้ได้ว่าหยุดความคิดนึกได้

    แปลกแต่จริง!

    ____________________
    เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙
     

แชร์หน้านี้

Loading...